ระยะนี้จวนอ๋องค่อนข้างสงบเงียบยิ่งนัก ไม่มีเรื่องให้น่าปวดหัวเลย ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นกับเสิ่นหลี นางกำนัลที่เหลืออยู่ต่างไม่กล้าทำตัวเหิมเกริมตามใจชอบอีก และยิ่งไม่กล้าหาเรื่องจินฝู ทุกคนต่างนอบน้อมต่อนางมาก แม้กระทั่งพ่อบ้านตู้ยังทำราวกับนางเป็นเจ้านายอีกคน แต่จินฝูคร้านจะใส่ใจเท่าใดนัก อำนาจพวกนี้เป็นเพียงสิ่งจอมปลอม นางไม่ได้ต้องการ นางเพียงอยากมีชีวิตที่สงบราบรื่นและคิดว่าสักวันจะกลับไปยังโลกที่นางจากมาได้
ระยะนี้กู้เหยียนฉีตื่นแต่เช้าไปประชุมที่วังหลวงและกลับมาค่ำมืดทุกวัน นางจึงไม่ได้มีงานใดให้ทำมากนัก นอกจากเลี้ยงเจ้าแมวเจ้าไก่แล้ว ก็มีเพียงงานเล็กๆน้อยๆให้ทำฆ่าเวลาอยู่บ้าง วันเวลาเช่นนี้สำหรับนางนับว่าดีมาก ตรงกับความใฝ่ฝันในชีวิตของนางพอดี นั่นก็คือ กิน นอน และก็กิน
หลังจากพาเจ้าสัตว์เลี้ยงสองตัวไปเดินแล้ว จินฝูจึงมานั่งเล่นที่ชิงช้าใต้ต้นไม้ใหญ่ หลายวันก่อนนางทำชิงช้าเองกับมือเพื่อเอาไว้นั่งเล่นยามเบื่อ
เพราะความว่างงานทำให้จินฝูมีเวลาทำหน้าไม้เอาไว้เล่นอันหนึ่ง นางคิดว่าจะเอาไว้ยิงนกยิงหินเล่นยามเบื่อ ตั้งแต่เด็กนางก็ชอบทำของพวกนี้ เสียดายที่ในยุคปัจจุบันไม่ค่อยนิยมใช้แล้ว ทุกคนเอาแต่ก้มหน้าดูมือถือ แต่เมื่อมาอยู่ที่นับว่ามันเป็นของเล่นแก้เบื่อได้ดี หน้าไม้ที่นางทำออกมา สามารถยิงได้ทีเดียวสองครั้งและยังมีความเร็วมากด้วย
นางเหม่อมองไปบนฟากฟ้า พลางคิดว่าบางคราวันหนึ่งนางอาจจะได้ใช้มันยิงปากใครสักคนก็เป็นได้
จินฝูคิดอันใดไปเรื่อยเปื่อย ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าอีกเดี๋ยวกู้เหยียนฉีคงจะกลับมาแล้ว นางจึงเดินกลับมาเรือนใหญ่พร้อมเจ้าแมวและเจ้าไก่ หลังจากพาพวกมันไปพักแล้ว นางก็ไปเตรียมชาและของวางไว้รอต้อนรับเขา รออยู่ไม่นานนักกู้เหยียนฉีก็กลับมา จินฝูจึงรีบเข้าไปปรนนิบัติเขาเหมือนที่เคยทำ
กู้เหยียนฉีกินของว่างไปเพียงเล็กน้อย ก่อนจะมอบให้กับนาง จินฝูตาลุกวาวรีบรับขนมมากินทันที นางอารมณ์ดีมาก กู้เหยียนฉีลอบยกยิ้มมุมปาก สตรีนางนี้กินได้ทั้งวันจริงๆ นางไม่รู้สึกปวดท้องบ้างหรือ?
"เตรียมน้ำร้อนให้ข้า ข้าจะแช่ตัวผ่อนคลายเสียหน่อย"
จินฝูเอ่ยตอบรับทั้งที่ในปากยังเคี้ยวขนมตุ้ยๆ นางปัดเศษขนมในมือออก แล้วจึงสั่งให้นางกำนัลคนอื่นๆช่วยยกน้ำร้อนเข้ามา แล้วจัดการเตรียมน้ำให้เขา หลายวันก่อนนางถูกเขาด่าเสียจนหูชาเพราะผสมน้ำร้อนจัดจนเกินไป ให้ตายเถอะ! นางไม่เคยทำเรื่องพวกนี้นี่ ในยุคของนางมีเครื่องทำน้ำอุ่นสะดวกสบายจะตาย นางไม่ใช่ปรอทเสียหน่อยที่จะสามารถวัดอุณภูมิความร้อนได้อย่างแม่นยำน่ะ!
หลังจากเตรียมน้ำให้เขาเรียบร้อยแล้ว นางก็เตรียมตัวเดินออกไป เพราะกู้เหยียนฉีไม่ชอบให้ผู้ใดอยู่ปรนนิบัติ แต่อยู่ๆวันนี้ชายหนุ่มกลับบอกให้นางอยู่ก่อน เพื่อช่วยถูหลังให้เขา จินฝูสะดุ้งในใจพลางโบกไม้โบกมือไปมาเป็นเชิงปฏิเสธ
"ท่านอ๋อง ไม่ดีกระมังเพคะ ถูหลังอันใดกัน หม่อมฉันทำไม่เป็นหรอกเพคะ อีกอย่างชายหญิงไม่ควรชิดใกล้ ไม่อย่างนั้นไฟมันอาจจะสปาร์คเอาได้เพคะ!”
กู้เหยียนฉีปรายตามองจินฝูคราหนึ่ง คำพูดประหลาดๆของนางแม้เขาจะฟังไม่เข้าใจแต่ก็เริ่มชินชาเสียแล้ว
"ตอนเจ้ากอดขาข้าร้องไห้ขี้มูกโป่งไม่เห็นจะยกเรื่องชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดขึ้นมาอ้างเลยเล่า?”
จินฝูสะอึกไปทันที ไม่คิดว่าเขาจะยอกย้อนนางจนหมดหนทางแก้ต่างได้เช่นนี้ หญิงสาวลอบจิ๊ปาก ร้อยวันพันปีก็อาบเองได้ไม่ใช่หรือ เหตุใดวันนี้จึงอยากให้นางช่วยถูหลังให้เล่า หรือเขาคิดจะทำไม่ดีไม่ร้ายนาง ยิ่งคิดจินฝูก็ยิ่งตื่นตระหนก นางอยากจะหาทางบ่ายเบี่ยง แต่เมื่อหันไปเห็นสายตาที่เหมือนจะฆ่าคนได้ของเขาแล้ว นางจึงไม่กล้าอ้าปากปฏิเสธอีกหญิงสาวขยับเข้าไปใกล้เขาและคุกเข่าลงแล้วจึงค่อยๆใช้มือน้อยๆของตนถูหลังให้เขาอย่างช้าๆ สัมผัสเนียนนุ่มที่่ฝ่ามือทำเอานางตกใจมาก ไม่คิดเลยว่าผิวของชายแท้จะนุ่มและเนียนละเอียดถึงเพียงนี้ ผิวเขาดีกว่าผิวของนางเสียอีกให้ตายเถอะ
จินฝูพลันเหม่อลอยไปชั่วขณะ นางถึงขนาดคิดฝันว่ายามนี้ตนเองกำลังลูบไล้เนื้อหมูสันในที่แสนนุ่ม หญิงสาวค่อยๆใช้มือนวดคลึงไปตามเนื้อหมูสันในอย่างไม่รีบไม่ร้อย เมื่อนำมาย่างมันก็จะค่อยๆส่งกลิ่นหอม เอาเข้าปากแล้วละลายในปาก ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกหิวขึ้นมา
กู้เหยียนฉีพลันขมวดคิ้วมุ่น รู้สึกว่าแรงมือของจินฝูเหมือนจะไม่ปกติ อีกทั้งดูเหมือนจะเริ่มซุกซนมากขึ้น ยามนี้นางกำลังลูบไล้มาที่หน้าท้องของเขา ชายหนุ่มรีบคว้าจับข้อมือนางและหันมามองทันที ก่อนจะพบว่าจินฝูในยามนี้ดวงตาเหม่อลอย ที่มุมปากมีน้ำลายไหลเยิ้มออกมา
“จินฝู!"
จินฝูสะดุ้งลนลานรีบผละมือออกทันที ก่อนจะหันซ้ายหันขวาอย่างรีบร้อน
"หมูสันในเล่า ท่านอ๋อง เห็นเนื้อหมูสันในของหม่อมฉันหรือไม่เพคะ!"
กู้เหยียนฉีรู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างหนัก เขาเอ่ยถามนางอย่างจนใจ
"ข้าให้เจ้ามาปรนนิบัติข้า แต่เจ้ากลับเหม่อลอย แล้วยังถามหาเนื้อหมูสันใน เจ้าหมายความว่าอย่างไร เจ้าเห็นข้าเป็นเนื้อหมูสันในหรือ?"
จินฝูเมื่อตั้งสติได้ก็ยกมือขึ้นตบหน้าผากตนเองดังฉาด ให้ตายเถอะ นางคิดว่าเขาเป็นเนื้อหมูสันในจริงๆ นี่นางหิวอีกหรือ!
นางยิ้มแหยแล้วรีบเอ่ยประจบเขาทันที
"ขออภัยเพคะ หม่อมฉันเพียงมีเรื่องคิดนิดหน่อยจึงเหม่อลอยไปชั่วขณะ"
"คิดถึงแต่เรื่องกินสินะ!"
สู่รู้!
แม้ในใจจะลอบก่นด่าเขา แต่ต่อหน้านางกลับทำตัวว่าง่ายยิ่ง กู้เหยียนฉีหมดอารมณ์จะแช่น้ำในอ่างแล้ว จึงลุกขึ้นยืน เป็นจังหวะเดียวกับที่จินฝูซึ่งนั่งคุกเข่าหันหน้ามาพอดี ทำให้ใบหน้าของนางอยู่ตรงกับหว่างขาของเขาอย่างพอเหมาะพอเจาะ
อยู่ๆในหัวของนางก็ปรากฏภาพที่ตนเองกำลังคลานเข้าไปหาเขา จากนั้นก็ยื่นมือไปถอดกางเกงเขาออก และใช้ปากช่วยทำให้เขาสุขสม
ไอหยา!คิดอะไรกันวะเนี่ย
หญิงสาวรีบส่ายหน้าตั้งสติ นางเริ่มจะกลัวตนเองขึ้นมาเสียแล้ว
ในจังหวะที่คนทั้งสองกำลังจ้องกันไปมา ประตูห้องอาบน้ำก็ถูกเปิดออก พ่อบ้านตู้เดินเข้ามาพลางยิ้มระรื่น
"ท่านอ๋อง ทรงอาบน้ำ.."
จินฝูตกใจมาก นางกลัวว่าพ่อบ้านตู้เข้ามาเห็นแล้วจะคิดไปไกล จึงเตรียมจะลุกขึ้น แต่เพราะนั่งนานเกินไปขาจึงอ่อนแรงเสียดื้อๆ ทำให้นางถลาเข้าไปหากู้เหยียนฉี สัญชาตญาณการระวังตนเองทำงานทันที นางรีบยื่นสองมือไปคว้าเอวเขาเอาไว้แน่น ทำให้ใบหน้างามซุกเข้าไปในหว่างขาของเขาทันที
พ่อบ้านตู้ที่เห็นภาพตรงหน้าก็ยกมือขึ้นปิดปากตน ก่อนจะลนลานวิ่งออกไปอีกทั้งยังไม่ลืมปิดประตูห้องให้อย่างรู้งาน
กู้เหยียนฉีหลับตาลงช้าๆ พยายามข่มกลั้นโทสะ จินฝูเองก็รีบผละออกจากหว่างขาของเขา นางลนลานหันรีหันขวาง แล้วเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงแปลกแปร่ง
"พื้นมันลื่นเพคะ หม่อมฉันไม้ตั้งใจ หม่อมฉันไม่ได้แอบดมกลิ่นตรงนั้นเลยนะเพคะ ให้ตายเถอะ ตายแน่!"
เอ่ยจบนางก็รีบวิ่งหนีออกจากห้องไปทันที ทิ้งให้กู้เหยียนฉียืนเหม่อลอยอยู่ในอ่างน้ำเพียงลำพัง เมื่อเขาตั้งสติได้จึงรีบก้มหน้าลงมามองที่หว่างขาของตนทันที
ดูเหมือนว่ายามนี้น้องฉีฉีน้อยได้ตื่นขึ้นมาแล้ว
บัดซบ นางปลุกน้องฉีฉีน้อยให้ตื่นจากนิทราได้อย่างนั้นหรือ!
นานมากแล้วที่น้องฉีฉีน้อยไม่ได้ตื่นขึ้นมาดูโลกอันแสนกว้างใหญ่นี้
กู้เหยียนฉีทอดถอนใจ เห็นทีเขาคงต้องทำให้น้องฉีฉีน้อยหลับเช่นเดิม แล้วค่อยไปเอาความกับสตรีหน้าโง่นางนั้น
เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาจึงถอดกางเกงออก และใช้มือสาวขับพิษของน้องฉีฉีน้อยออกมา ในจังหวะที่เขากำลังจะถึงจุดสุดยอดนั้น จินฝูก็วิ่งพรวดพราดเข้ามาในห้องอีกครั้งหนึ่ง
"ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันไม่สบายใจจึงอยากกลับมาคุกเข่าขอรับโทษเพคะ พระองค์ โอ้โห ว้าว อเมซิ่ง!"
กู้เหยียนฉีหันขวับมามองนางทันที ชายหนุ่มหน้าซีดเผือด ส่วนจินฝูก็มองเขาด้วยแววตาตกตะลึง อยู่ๆจมูกนางก็มีเลือดกำเดาไหลออกมาก่อนที่หญิงสาวจะหงายท้องหมดสติไปทันที
กู้เหยียนฉีรู้สึกสิ้นหวังมาก เขาไม่เคยรู้สึกหมดอาลัยตายอยากเช่นนี้มาก่อนในชีวิต น้องฉีฉีตอนนี้หดเข้าไปในกระบอกเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
จินฝูเจ้าช่างดีนัก ปลุกน้องฉีฉีตื่นได้ และยังทำให้มันหดกลับไปที่เดิมได้อีกด้วย จะเก่งกาจเกินไปแล้ว!
ระยะนี้จวนอ๋องค่อนข้างสงบเงียบยิ่งนัก ไม่มีเรื่องให้น่าปวดหัวเลย ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นกับเสิ่นหลี นางกำนัลที่เหลืออยู่ต่างไม่กล้าทำตัวเหิมเกริมตามใจชอบอีก และยิ่งไม่กล้าหาเรื่องจินฝู ทุกคนต่างนอบน้อมต่อนางมาก แม้กระทั่งพ่อบ้านตู้ยังทำราวกับนางเป็นเจ้านายอีกคน แต่จินฝูคร้านจะใส่ใจเท่าใดนัก อำนาจพวกนี้เป็นเพียงสิ่งจอมปลอม นางไม่ได้ต้องการ นางเพียงอยากมีชีวิตที่สงบราบรื่นและคิดว่าสักวันจะกลับไปยังโลกที่นางจากมาได้ระยะนี้กู้เหยียนฉีตื่นแต่เช้าไปประชุมที่วังหลวงและกลับมาค่ำมืดทุกวัน นางจึงไม่ได้มีงานใดให้ทำมากนัก นอกจากเลี้ยงเจ้าแมวเจ้าไก่แล้ว ก็มีเพียงงานเล็กๆน้อยๆให้ทำฆ่าเวลาอยู่บ้าง วันเวลาเช่นนี้สำหรับนางนับว่าดีมาก ตรงกับความใฝ่ฝันในชีวิตของนางพอดี นั่นก็คือ กิน นอน และก็กินหลังจากพาเจ้าสัตว์เลี้ยงสองตัวไปเดินแล้ว จินฝูจึงมานั่งเล่นที่ชิงช้าใต้ต้นไม้ใหญ่ หลายวันก่อนนางทำชิงช้าเองกับมือเพื่อเอาไว้นั่งเล่นยามเบื่อเพราะความว่างงานทำให้จินฝูมีเวลาทำหน้าไม้เอาไว้เล่นอันหนึ่ง นางคิดว่าจะเอาไว้ยิงนกยิงหินเล่นยามเบื่อ ตั้งแต่เด็กนางก็ชอบทำของพวกนี้ เสียดายที่ในยุคปัจจุบันไม่ค่อยนิยมใช้แล้ว
ท้ายที่สุดเขาก็ปล่อยนางไปโดยไม่ได้ลงโทษอันใด จะให้เขาหาเหตุผลใดมาลงโทษนางกัเล่า วาจาของนางแม้จะดูไร้แก่นสารแต่ก็มีเหตุผลแฝงอยู่ อีกอย่างเขาก็เห็นเองกับตาว่านางกำนัลนามว่าเสิ่นหลีผู้นั้นเป็นคนหาเรื่องนางก่อน จินฝูภายนอกดูเหมือนคนไม่เอาไหน แต่นางกลับมีหัวคิดที่ดีไม่น้อยเลย หากนางไม่โลภมากเช่นปากว่าจริง เขาก็ไม่ได้คิดจะไล่นางไปไหน เลี้ยงนางกำนัลตละกละเอาไว้สักคนย่อมไม่เปลืองเงินทองเท่าใดนักหรอกชายหนุ่มทอดถอนใจเล็กน้อย วันนี้ตอนเข้าร่วมประชุมยามเช้าที่วังหลวง มีเรื่องให้ต้องขบคิดมากมาย ยามนี้ขุนนางในราชสำนักกำลังร่วมกันกดดันฝ่าบาทให้ทรงแต่งตั้งองค์รัชทายาท แต่ก็มีขุนนางอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับการแต่งตั้งองค์รัชทายาท เนื่องจากกู้ม่อหลียังทำตัวเสเพลไม่น่าเชื่อถือ อีกทั้งยังบ้าอำนาจ มีนางกำนัลไม่น้อยที่ถูกเขาย่ำยี เมื่อได้เด็ดดมบุปผาจนพอใจแล้วก็ถีบหัวส่งพวกนางอย่างไม่ไยดี คนบ้ากามเช่นนี้หากได้ขึ้นครองราชย์บ้านเมืองย่อมร้อนเป็นไฟแน่นอน อายุของกู้ม่อหลีปีนี้ก็ยี่สิบปีเข้าไปแล้ว แต่ยังไม่เป็นโล้เป็นพาย ต่างจากเขาที่ปีนี้อายุยี่สิบสามแล้วแต่กลับมีความสามารถโดดเด่นตั้งแต่อายุสิบห้าปีแม้ข
หลังจากกินมื้อเช้าอิ่มแล้ว กู้เหยียนฉีก็เข้าวังหลวงไปร่วมประชุมยามเช้ากับเหล่าขุนนางในราชสำนัก เขาเป็นแม่ทัพใหญ่ อีกทั้งยังมีความสามารถทั้งบุ๋นและบู๊ และยังเป็นที่ไว้วางพระทัยของเสด็จลุง เสด็จพ่อและเสด็จแม่ของเขาตายจากไปนานแล้ว ตำแหน่งชินอ๋องนี้เขาได้รับสืบทอดจากบิดา นับว่ามีสถานะสูงส่งไม่น้อยเลย ด้านจินฝูก็ยกถาดอาหารออกมาจากห้องโถงใหญ่ นางสังเกตอาการตนเองอย่างระแวะระวัง พบว่าผ่านมาครึ่งชั่วยามแล้วยังไม่นอนชัก เช่นนั้นก็คือรอดแล้ว! แต่ถึงจะตายนางก็ไม่เสียดายเพราะท้องของนางอิ่มหนำแล้วไม่ต้องไปทนหิวในปรโลกอีก"ไอหยา ท่านอ๋องเสวยได้เยอะเลยหรือนี่ นางกำนัลจิน เจ้าทำได้ดีมาก!"พ่อบ้านตู้ที่เห็นว่าอาหารที่นำเข้าไปพร่องลงไปเกือบหมดก็ยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดี จินฝูทำได้เพียงยิ้มกลบเกลื่อน เขากินเก่งอันใดกัน นางนี้แหละกินของเขาจนหมด!เมื่อกู้เหยียนฉีไปแล้ว จินฝูผู้ไม่มีอะไรทำจึงอุ้มเจ้าแมวส้มและเจ้าไก่ทองมานั่งเล่นที่ระเบียงหน้าเรือนใหญ่ ระยะนี้พวกมันไม่ตีกันแล้ว อีกทั้งยังดูเหมือนจะแย่งกันอยู่ใกล้นางอีกด้วย จินฝูเองก็ไม่รังเกียจกลับชอบพวกมันสองตัวมากเสียด้วยซ้ำ บางคราการอยู่กับสัตว์เลี้ยงและธรรม
จินฝูมาถึงได้ไม่นานกู้เหยียนฉีก็ออกมาจากห้องนอนพอดี หญิงสาวลอบพรูลมหายใจออกมา โชคดีที่นางมาทันไม่อย่างนั้นอาจจะโดนทำโทษที่มาสายอีกหนึ่งกระทง กู้เหยียนฉีปรายตามองเหล่าสตรีตรงหน้าคราหนึ่ง อย่างไรก็ต้องเลือกพวกนางให้มารับใช้ในเรือนใหญ่อยู่ดี หากเขาไม่ทำเช่นนี้ เจี่ยงฮองเฮาย่อมไม่ยอมรามือไม่สู้ตามน้ำนางไปก่อนก็ไม่นับว่าเสียหายอันใดด้านฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์ที่เห็นว่าจินฝูมาทันเวลา ก็ดีใจมาก พวกนางเป็นห่วงจินฝูแทบตายเกรงว่านางจะถูกทำโทษซ้ำสอง"จินฝู ตาเจ้า?"ฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์ชี้ไม้ชี้มือมาที่ดวงตาของนาง จินฝูบอกเพียงว่าระหว่างที่เดินมาที่นี่นางเกิดหกล้มตากระแทกพื้นและไม่ได้เอ่ยอันใดต่ออีก ยามนี้ดวงตาของนางคงช้ำเลือดได้ที่แล้ว ดีมาก เป็นไปตามแผน ใครอยากข้าปรนนิบัติเขาก็ทำไปเถอะ นางยอมต่อยตาตนเองจนบอดก็จะไม่ยอมตกเป็นทาสรักของเขากู้เหยียนฉีมองสำรวจสตรีทุกคนในห้องโถงอย่างละเอียด วันนี้พวกนางตั้งใจผลัดแป้งแต่งหน้ากันอย่างตั้งใจ กลิ่นเครื่องประทินโฉมลอยมาแตะจมูกจนเขารู้สึกฉุน ชายหนุ่มเดินมาหาเหล่านางกำนัลที่ยืนอยู่พลางมองสำรวจพวกนางไปทีละคน เหล่านางกำนัลที่ถูกเขาจ้องมองก็เขินอายจนตัวม้วน บา
"ดูจินฝูสิ ตั้งแต่เช้าข้าเห็นนางวิ่งไม่หยุดเลย เดี๋ยวไก่จิกแมว เดี๋ยวแมวไล่ตีไก่ ตัวนางเองยังพลอยโดนแมวกับไก่ไล่ตีไปด้วย"ฉินเซียงเอ่ยไปพลางมองดูจินฝูที่วิ่งไล่แมวไล่ไก่อยู่ในสวนด้วยสายตาเห็นใจ ซ่งเอ๋อร์เองก็พยักหน้าเห็นด้วย"ได้ยินนางกำนัลคนอื่นบอกว่า ท่านอ๋องทรงไม่ถือสานางจึงทำโทษให้นางมาเลี้ยงไก่เลี้ยงแมว แต่ถ้าหากนางปราบพยศเจ้าสองตัวนั่นไม่ได้ นางอาจจะไร้หนทางรอด""เวรกรรมแท้ๆ"ฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์หันมาสบตากันคราหนึ่งพลางถอนหายใจออกมา ก่อนจะเดินตรงไปที่โรงครัวเพื่อจะไปเอาขนมอร่อยๆมาให้จินฝูกินเพิ่มพลังในการวิ่งไล่เจ้าแมวเจ้าไก่สองตัวนั่นยามนี้จินฝูกำลังนั่งหอบอยู่ที่ใต้ต้นไม้ มือหนึ่งอุ้มแมวไว้ อีกมือก็กอดไก่ ปากก็ด่าไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ยังคิดจะสู้กันไม่หยุด นางไม่คิดเลยว่าการเลี้ยงเจ้าสองตัวนี่จะยุ่งยากถึงเพียงนี้ ยามนี้นางเข้าใจแล้วว่าเหตุพ่อบ้านตู้จึงส่งสายตาเช่นนั้นมาให้นาง"ให้ตายเถอะ พวกเจ้าเลิกตีกันเสียที ข้าเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว!"จินฝูปรารถออกมาอย่างเหนื่อยใจเดิมทีนางคิดว่าจับพวกมันแยกกันเช่นนี้ได้ผลนัก แต่เพียงไม่นานเจ้าแมวก็ขู่เจ้าไก่ เจ้าไก่ก็จ้องพุ่งเข้าใส่
จินฝูที่เห็นว่าตนเองรอดเงื้อมมือมารมาได้แล้ว จึงรีบกลับมาที่เรือนพักของตนตามที่พ่อบ้านตู้บอก เพราะพวกนางไม่ได้มีฐานะสูงส่งอันใด เรียกได้ว่าต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยการดูสีหน้าผู้คนจึงไม่อาจเรียกร้องสิ่งใดได้ จินฝูเองไม่คิดหวังความโปรดปราณจากท่านอ๋องเช่นกัน แม้แต่ไก่ตัวเดียวเขายังเกือบจะฆ่านางตาย คนเช่นนี้จ้างนางด้วยทองนางยังไม่อยากจะไปรับใช้เขาเลย"จินฝู ข้าคิดว่าเจ้าจะไม่รอดกลับมาเสียแล้ว""นั่นสิ พวกเราสองคนตกใจแทบตายเจ้านี่ก็ช่างใจกล้านัก อยู่ๆ ไปจับข้าวของในจวนอ๋องส่งเดช เอาความกล้ามาจากที่ใดกัน"จินฝูเพียงยิ้มออกมาเล็กน้อย สตรีน้อยสองนางนี้มีชื่อว่าฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์เป็นสหายสนิทของเจ้าของร่างเดิม เมื่อนางเข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้วพบว่าฉินเซียงและซ่องเอ๋อร์นิสัยดี นางจึงคบหาพวกนางได้อย่างสนิทใจ ฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์เป็นหญิงสาวที่มาจากครอบครัวชาวนาเหมือนกันกับนาง ตอนที่นางมาเกิดใหม่ในร่างนี้ก็ได้สองคนนี้ช่วยในหลายๆ เรื่องนับว่าโชคดีที่พวกนางทั้งสามคนได้พักอยู่ห้องเดียวกัน"ข้าหิว จึงตาลายไปหน่อย"จินฝูเอ่ยตอบโดยไปเพื่อให้จบเรื่องจบราว ยามนี้ก็ดึกมากแล้ว พวกนางไม่อยากสนทนากันให้มากความเพร