Share

งานแต่งงาน

Author: zuey
last update Last Updated: 2025-08-05 12:05:20

“ข้ารู้ว่าพวกเจ้าสองคนเคยเป็นคู่รักในวัยเยาว์ แต่อย่าได้คิดถึงเขาอีกเพราะวันนี้ข้าคือสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของเจ้า”

โจวหานอี้ที่กำลังเมามาย ชี้นิ้วไปยังหญิงสาวที่กำลังจ้องมองเขาด้วยดวงตาแข็งกร้าว จนกระทั่งบัดนี้นางก็ยังมิยินยอมพร้อมใจแต่งให้กับเขา และเรื่องนั้นชายหนุ่มรู้แก่ใจดีแต่แล้วอย่างไรเล่า ในเมื่อเวลานี้ตนคือผู้เดียวที่จะได้ครอบครองนาง

ร่างสูงกระชากหญิงสาวตรงหน้าเข้าหาตน นางพยายามขัดขืนการกระทำอันหยาบช้าของชายหนุ่ม แต่แรงอันน้อยนิดของสตรีเช่นนางมีหรือจะสู้แรงของบุรุษฉกรรจ์เช่นเขาได้

ชุดเจ้าสาวสีแดงสดถูกฉีกกระชากออกจากร่างอรชรอย่างไม่ไยดี หญิงสาวกรีดร้องขอความช่วยเหลือแต่ด้านนอกกลับยังคงนิ่งเฉย เพราะหลังจากที่นางก้าวเข้ามาในตระกูลโจว สาวใช้ที่ติดตามเป็นสินเดิมของพานเยว่หลานก็ถูกขายออกไปทั้งหมด นั่นเป็นแผนของเฉิงหรงกุ้ยเฟยที่สั่งให้โจวฮูหยินผู้เป็นมารดาจัดการ

เมื่อสำเร็จตามความต้องการของตน ชายหนุ่มก็ออกจากห้องไปโดยไม่สนว่าเจ้าสาวที่พึ่งแต่งเข้ามาจะรู้สึกอย่างไร

สามวันผ่านไป

ความทุกข์ระทมทั้งกายและใจทำให้พานเยว่หลานล้มป่วย นางไม่สามารถเดินทางกลับไปยังบ้านเดิมของตนได้ เมื่อสาวใช้ของตระกูลพานถูกส่งมาสอบถามก็ได้ความว่า เพราะพานเยว่หลานเหน็ดเหนื่อยจากงานแต่งจึงทำให้นางล้มป่วย

คำตอบที่ได้รับทำให้มารดาของหญิงสาวไม่พอใจ นางจึงต้องมาเยือนตระกูลโจวด้วยตนเอง เมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวของบุตรสาวนางก็รู้สึกปวดใจนัก ทว่าเพราะคำขู่ของเฉิงหรงกุ้ยเฟยที่จะทำให้บิดาของนางที่อยู่ชายแดนเกิดอุบัติเหตุ ทำให้นางมิสามารถเอ่ยปากกับมารดาให้นางรู้สึกไม่สบายใจได้

“ฮูหยินน้อยเจ้าคะ ฮูหยินใหญ่สั่งให้ท่านไปพบที่เรือนเจ้าค่ะ”

สาวใช้จากเรือนของฮูหยินใหญ่โจวสะบัดเสียงอย่างเย่อหยิ่ง เมื่อต้องมาตามหญิงสาวไปพบกับนายของตน

“อืม ข้ารู้แล้ว”

พานเยว่หลานที่แต่งเข้าตระกูลโจวได้หนึ่งเดือน บัดนี้ไม่ต่างจากคนอื่น ถ้าไม่มีบ้านเดิมของมารดานางอาจถูกกระทำไม่ต่างจากสาวใช้ในเรือน เพราะทุกคนที่นี่ไม่มีใครรับใช้นางอย่างจริงใจเลยสักคน

วันดีคืนดีนางก็ถูกเรียกเข้าไปในวังให้คุกเข่าอยู่หน้าตำหนักกวานจีของเฉิงหรงกุ้ยเฟย ไม่มีผู้ใดสามารถช่วยเหลือนางได้หญิงสาวทำได้เพียงต้องอดทนเท่านั้น เพื่อบิดาที่อยู่ชายแดนของนาง

“มาแล้วหรือ เจ้าคงจะรู้จักคุณหนูจ้าวกระมัง นางและหานเอ๋อรู้จักกันมานาน วันนี้มีโอกาสจึงได้มาร่วมแสดงความยินดีกับการแต่งงานของพวกเจ้า”

หญิงสาวมองแม่สามีที่ปกติมักจะทำหน้าตึงใส่ตนราวกับไม่พอใจอยู่ตลอดเวลา ทว่าเมื่อสตรีผู้นี้มาเยือนตระกูลโจวกลับแสดงสีหน้าที่แตกต่างให้เห็น หมายความว่าสตรีนามจ้าวหรูอี้ผู้นี้มีความสำคัญอยู่ไม่น้อย หรือไม่ก็เพียงแค่นางไม่ยอมรับสะใภ้พระราชทานเช่นตนก็เท่านั้น

“สวัสดีคุณหนูพาน ข้าคือหรูอี้เป็นสหายในวัยเด็กของพี่หานอี้ เราเคยได้พบกันตามงานเลี้ยงน้ำชาอยู่หลายครั้ง ท่านคงจะจำข้าได้กระมัง”

ร่างบางยกยิ้มเล็กน้อย กิริยาที่แสดงล้วนแต่เฉยเมยคล้ายกับมิได้ล่วงรู้ถึงความนัยแฝงที่จ้าวหรูอี้เอ่ยกับนาง

“ข้าว่าคุณหนูจ้าวเรียกข้าว่าฮูหยินน้อยโจวน่าจะดีกว่านะ อย่างไรข้าก็แต่งเข้าตระกูลโจวตามพระราชโองการของฝ่าบาทแล้ว หากมีผู้ใดมาได้ยินเข้าคงจะคิดว่าเจ้าไม่ยอมรับสมรสพระราชทานในครั้งนี้ ไม่แน่อาจสะเทือนไปถึงตระกูลจ้าวกั๋วกงที่เลี้ยงดูเจ้ามา”

หญิงสาวเอ่ยเพียงเรียบๆ มิได้ใส่ใจว่าหญิงสาวตรงหน้าจะแสดงสีหน้าอย่างไร แต่เป็นอีกฝ่ายที่เริ่มแสดงท่าทีร้อนรนออกมา

“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ข้าเพียงแต่ยังไม่คุ้นชินกับสถานะที่เปลี่ยนไปของเจ้าเท่านั้น อย่างไรข้าก็มาเยี่ยมท่านป้าบ่อยครั้งเป็นครั้งแรกที่ได้พบกันที่นี่ ยินดีกับการแต่งงานด้วย”

ร่างบางยกน้ำชาขึ้นจิบพลางเหลือบมองไปยังหญิงสาวใบหน้างดงามที่แต่งแต้มด้วยเครื่องประทินโฉมอย่างวิจิตร ถ้าหากนางมีใจให้กับโจวหานอี้บ้างเล็กน้อย อาจมีอาการหึงหวงอยู่บ้าง เมื่อได้เห็นสตรีอื่นแสดงกิริยาราวกับตนเองคือเจ้าของสามีนาง

“คำว่ายินดีน่าจะเหมาะกับสามีของข้ามากกว่ากระมัง สำหรับตัวข้าที่มิได้เป็นผู้ขอพระราชโองการนั้น...”

หญิงสาวหยุดไปเล็กน้อย นางเบื่อเต็มทนที่ต้องมานั่งมองพวกนางเสแสร้งเล่นละครตบตาให้นางดูว่าพวกเขารักใคร่ปรองดองกันเพียงใด มันน่าสะอิดสะเอียน

“เอาเป็นว่าท่านแม่ต้องการให้ข้ามาทักทายคุณหนูจ้าวเท่านั้นกระมัง ในเมื่อคนก็ได้พบแล้ว ทักทายก็ทักทายแล้ว เช่นนั้นข้าต้องตัวก่อน”

หญิงสาวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนยอบกายทำความเคารพให้กับฮูหยินใหญ่โจว จากนั้นเดินออกจากห้องไปอย่างไม่สนใจว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังจะมีสีหน้าอย่างไร

“เจ้า!! ช่างเป็นคนนิสัยแย่จริงๆ ไม่รู้ว่าตระกูลพานสั่งสอนนางมาอย่างไรกันแน่”

สตรีวัยกลางคนที่ประโคมเครื่องประดับทองเต็มหัวและแต่งกายด้วยชุดเสื้อผ้าหรูหราราวกับกำลังจะเตรียมตัวไปงานเลี้ยง ชี้นิ้วอันสั่นเทาไปยังร่างบางที่เดินออกจากห้องอย่างไม่สนใจตน

“ท่านป้าอย่าได้อารมณ์เสียเลยนะเจ้าคะ อย่างไรนางก็เป็นคนที่ฝ่าบาทพระราชทานสมรสให้ตระกูลโจว หากนางจะเย่อหยิ่งก็สมควร อีกอย่างนางคงจะไม่ชอบใจนักที่ได้เห็นข้าที่เป็นสหายวัยเด็กของพี่หานอี้มาที่นี่ ข้า..เข้าใจนางเจ้าค่ะ”

จ้าวหรูอี้แสร้งแสดงสีหน้าเศร้าสร้อยต่อหน้าฮูหยินใหญ่โจว ราวกับว่าตนเองได้รับความอยุติธรรมเสียหนักหนา

สตรีทั้งสองคนที่กำลังสนทนาภายในห้อง มิได้ล่วงรู้เลยว่าทั้งหมดเป็นแผนการของเฉิงหรงกุ้ยเฟยและโจวอี้หรานผู้เป็นบิดา ที่ต้องการรวบรวมอำนาจและกำจัดคนที่มาขัดขวางเส้นทางของตน

“นางจะคิดอย่างไรก็เรื่องของนาง มิใช่เรื่องที่เจ้าต้องคิดมาก อย่างไรในสายตาของข้า เจ้าก็ยังเป็นคนสำคัญที่สุดสำหรับจวนตระกูลโจวของเรา”

หญิงสาวที่เคยแสดงสีหน้าเศร้าสร้อยบัดนี้กลับมาแช่มชื่นอีกครั้ง เมื่อได้ฟังวาจาหวานหูของฮูหยินใหญ่ตระกูลโจว

“ขอบคุณท่านป้าที่เข้าใจข้าเจ้าค่ะ อย่างไรวันหน้าข้าก็คงมาที่นี่บ่อยๆ ไม่ได้แล้วเพราะพี่หานอี้แต่งงานกับคุณหนูพานผู้นั้น หากมีผู้อื่นเห็นว่าข้ายังมาที่นี่อาจมีข่าวลือที่ไม่ดีออกไป”

“ใครจะพูดเช่นไรหาต้องใส่ใจ มีเพียงข้าที่รู้ดีที่สุดว่าหานเอ๋อนั้นมีใจให้กับใคร”

ฮูหยินใหญ่โจวตบหลังมือหญิงสาวแผ่วเบาเพื่อเป็นการปลอบโยน ภายในหัวของนางบัดนี้กำลังนึกถึงอำนาจที่ตระกูลโจวจะได้รับถ้าได้เกี่ยวดอกกับตระกูลจ้าว

ทว่าเฉิงหรงกุ้ยเฟยไม่เคยต้องการให้พี่ชายแต่งงานกับจ้าวหรูอี้สักนิด เพราะตระกูลจ้าวกั๋วกงนั่นมิใช่ผู้ที่จะถูกชักจูงหรือควบคุมได้ง่าย

อย่างไรจ้าวไทเฮาก็เป็นคนตระกูลจ้าว ถ้าหากตนกระทำสิ่งใดให้นางรู้สึกว่าเป็นการคุกคาม ตัวนางที่อยู่ในวังหลังเป็นอันต้องลำบากแน่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   ริ่มกักตุนเสบียง

    ณ เรือนตระกูลหลี่“กลับมาแล้วหรือเจ้าพวกตัวซวย หายหัวไปทั้งคืนยังกล้ากลับมาที่นี่อีกนะ”เสียงแหลมสากของแม่เฒ่าหม่าดังขึ้นด้านหลัง ในระหว่างที่สองพี่น้องกำลังย่องกลับไปยังห้องเก็บฟืน“ท่านย่า”หญิงชรามีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย ที่เด็กสาวหันมาพูดกับตนด้วยสีหน้าเย็นชา ทั้งที่ในยามปกติมักจะแสดงท่าทีขลาดกลัวเป็นครั้งแรกที่ได้พบหญิงชราหลังจากย้อนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง หลี่อันหนิงกำหมัดแน่นเพื่อระงับอารมณ์โกรธแค้นที่ปะทุขึ้นภายในใจทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของตนเป็นเพราะหญิงชราผู้นี้ วันหน้านางจะต้องตอบแทนอย่างสาสมให้สมกับที่ครอบครัวของตนได้รับมาหลี่อันหนิงสบถสาบานในใจ“ท่าย่ามีอะไรจะใช้ข้าหรือ”เด็กสาวถามเสียงห้วน ไร้ท่าทีขลาดกลัวดั่งเช่นวันวาน“วันนี้พวกแกสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้ทานอาหาร ต้องทำงานที่เหลือจากเมื่อวานให้เสร็จทั้งหมด จากนั้นก็ขึ้นเขาไปเก็บผักป่ามาซะ”หลี่อันหนิงบิดปากเล็กน้อย ห้ามทานอาหารหรือ อาหารที่แม้แต่หมูยังไม่อยากทานใครมันจะกลืนลงท้องได้ เด็กน้อยทั้งสองไม่ตอบโต้ กลับทำตามที่หญิงชราสั่งอย่างว่าง่าย ซึ่งต่างจากท่าทีเฉยชาที่แสดงออกหลี่เจียนเจียนเดินผ่านสองพี่น้องที่กำล

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   ความลับที่ได้รู้โดยบังเอิญ

    กลางดึก ในระหว่างที่พี่น้องกำลังหลับสนิท เสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังก้องสะท้านขึ้นที่ด้านนอกถ้ำ หลี่อันหนิงและหลี่ซางเป่าสะดุ้งรู้สึกตัวขึ้นพร้อมกันเด็กสาวมิได้เล่าเรื่องที่ตนได้ยินเจ้าก้อนขนสีดำพูดคุยกันให้น้องสาวฟัง ไม่คิดว่าแม่ของมันจะกลับมาในคืนนี้ ในระหว่างที่หลี่อันหนิงกำลังคิดหาทางหนี เสียงร้องครางด้วยความเจ็บปวดของเจ้าสัตว์ร้ายด้านนอกดังขึ้นแผ่วเบาในหัวของนางได้ยินเสียงของมันรำพึงถึงลูกน้อยทั้งสอง เด็กสาวมองไปยังฝั่งตรงข้ามของบ่อน้ำร้อน ก่อนตัดสินใจเดินออกไปดูในความมืดสลัวราง หลี่ซางเป่าจับแขนเสื้อของพี่สาวเอาไว้มั่น“พี่ใหญ่ไปไหนหรือ”“ซางเป่ารอพี่อยู่ที่นี่ได้หรือไม่ ไม่นานพี่จะกลับมา”เด็กน้อยส่ายหน้าปฏิเสธแสดงท่าทีหวาดกลัว นางเห็นน้องน้อยแสดงท่าทางเช่นนั้นออกมา ก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ“ได้ๆ เช่นนั้นก็ไปด้วยกันเถิด”หญิงสาวจับมือของน้องสาวเดินออกมาทางปากถ้ำ ที่ยังคงได้ยินเสียงร้องครางของสัตว์บาดเจ็บชัดเจน เมื่อไปถึงบริเวณปากถ้ำที่นั่นมีคบเพลิงมากมายถูกจุดโดยมนุษย์ดวงตาดำสนิทของเจ้าสัตว์ร้ายจ้องมองมายังนางและน้องสาวที่ซ่อนตัวอยู่ เจ้าก้อนขนทั้งสองที่ไม่รู้ว่าตามมาตั้งแ

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   ความสามารถของหลี่ซางเป่า

    หลี่อันหนิงพยักหน้าพลางลูบผมของเด็กน้อยซางเป่าอย่างภูมิใจ ตอนนี้ตนเองเป็นเพียงเด็กเท่านั้นไม่อาจทำตามใจตนดั่งเช่นผู้ใหญ่ได้ หากต้องการปกป้องน้องทั้งสองนางจำต้องมีอำนาจในมือและแล้วหลี่อันหนิงก็หวนกลับไปนึกถึงใบหน้าอันหล่อเหลาที่แสนเย็นชาของท่านขุนนางหนุ่ม เพียงเท่านั้นในหัวใจของนางก็รู้สึกอบอุ่นอย่างแปลกประหลาด“พี่ใหญ่ข้ารู้ว่าที่ใดที่เราสามารถใช้นอนได้”เด็กสาวมองหน้าน้องน้อยของตนด้วยสีหน้าสนใจ หลี่ซางเป่าเดินลิ่วนำหน้าไปเหมือนกับคุ้นเคยเส้นทางบนภูเขา หลี่อันหนิงผู้เป็นพี่สาวรีบวิ่งตามจนกระทั่งทั้งสองไปถึงผาหินที่มีต้นไม้และเถาวัลย์ขึ้นรกชัฏแห่งหนึ่ง“เป่าเอ๋อเราใช้ที่นี่นอนไม่ได้หรอกนะ มันรกเกินไปอีกอย่างอาจมีงูพิษออกมาก็ได้ รู้หรือไม่ว่ามันอันตราย”หลี่ซางเป่าเกาหัวตนเองเบาๆ นางแสดงสีหน้ามั่นใจก่อนจะหันไปดึงแขนเสื้อของพี่สาว“ได้เรานอนที่นี่ได้ นางบอกว่าคืนนี้ให้เรานอนที่นี่”นางหรือ...ใครกัน หลี่อันหนิงมองใบหน้าที่เล็กกว่าฝ่ามือของน้องสาวอย่างงุนงง สายตาสำรวจมองไปรอบๆ ไม่เห็นมีที่ใดเลยที่จะสามารถใช้นอนได้ แล้วเหตุใดซางเป่าถึงพูดเช่นนั้นออกมา“ใครเป็นคนบอกน้องหรือ เป่าเอ๋อ”“ท่านแ

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   ค้นพบถ้ำลับ

    แม่เฒ่าจวงจีบปากจีบคือเอ่ย พลางหันไปถามความเห็นของเหล่าจีนมุงที่ตอนนี้เริ่มมากขึ้นทุกทีหลี่เจียนเจียนผู้ที่ถูกตามใจมาตั้งแต่ยังเล็ก คิดไม่ถึงว่าจะถูกหญิงชราตรงหน้าตอกกลับเช่นนี้ นางกำหมัดกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจ ก่อนตวาดแหวออกไปอีกครั้ง“เจ้า!! ยายเฒ่า เจ้าพูดจาเหลวไหลอันใด ข้าบอกให้ส่งนางเด็กสารเลวสองคนนั้นออกมา”ใบหน้าของหลี่เจียนเจียนเริ่มแดงก่ำด้วยความโกรธ นางไม่รู้วิธีจัดการกับคนอย่างหญิงชราผู้นี้ เพราะที่ผ่านมาเป็นนางที่เป็นผู้กระทำมาตลอด“เจ้าหมายความว่าอย่างไร เรือนหลังนี้มีเพียงข้าและหลานชายอาศัยอยู่ หากจะพูดว่ามีเด็กสารเลวที่นี่ก็มีแต่เจ้าคนเดียว”แม่เฒ่าจวงลอยหน้าลอยตาเอ่ย โดยไม่สนใจในใบหน้าที่เริ่มเขียวคล้ำดำมืดของหลี่เจียนเจียน“กรี๊ด!!! ยายเฒ่าจวง กล้าว่าข้าสารเลวหรือ”หญิงสาวพุ่งเข้าใส่แม่เฒ่าจวงแต่ถูกจวงอี้ซิงเอาตัวขวางเอาไว้ เขาและนางอายุสิบเจ็ดเท่ากันทว่าเด็กหนุ่มกลับสูงใหญ่และแข็งแรงมากกว่า อาจเพราะเขาทำงานหนักมาตั้งแต่ยังเล็กหลี่เจียนเจียนไม่สนใจว่าคนที่ขวางทางตนจะเป็นใคร นางใช้เล็บข่วนเด็กหนุ่มตรงหน้าเพื่อระบายโทสะของตน แต่สิ่งที่หลี่เจียนเจียนทำไม่สามารถสร้างความ

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   หลี่เจียนเจียนอาละวาด

    “อันหนิง!! อันหนิงลูกแม่ ลูกต้องช่วยน้องชายของเจ้านะ อย่าปล่อยให้เขาต้องเดินทางผิดเช่นในอดีต บัดนี้มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่สามารถนำทางให้เขากลับมาเดินในเส้นทางที่ถูกต้องได้”ในความมืดมิดอันเวิ้งว้าง เด็กสาวได้ยินเสียงคุ้นเคยของผู้เป็นมารดาดังแว่วอยู่ไกลๆ นางมองสถานที่ที่ไม่คุ้นตานี้ด้วยสีหน้าสงสัย แม้รอบกายจะมืดทะมึนแต่กลับมิได้ให้บรรยากาศที่น่าหวาดกลัวหลังจากเงี่ยหูฟังว่าเสียงของมารดามาจากที่ใด นางจึงตัดสินใจเดินตามเสียงนั้น กระทั่งได้เห็นภาพเหตุการณ์ของชายหนุ่มรูปงามในชุดขาว ราวกับเทพสงครามกำลังเข่นฆ่าสังหารผู้อื่นด้วยใบหน้าเฉยชาเด็กสาวตกใจกับภาพตรงหน้าจนถอยกรูดไปด้านหลัง ทว่าภายในใจกลับคิดว่าดวงตาของคนผู้นี้ช่างดูคุ้นเคยยิ่งนักเมื่อหลี่อันหนิงมองเพ่งมองให้ชัดๆ นางเห็นไฝเม็ดเล็กที่อยู่ใต้ดวงตาขวาของเขาแล้วภาพของเด็กชายตัวน้อยที่ถือตำราในมือก็ผุดขึ้นมาในหัวของนาง บ้านหลี่มีเพียงเด็กสองคนที่เกิดมาพร้อมกัน และพวกเขามีไฝน้ำตาอยู่คนละฝั่งหลี่ซางเป่ามีไฝเม็ดเล็กใต้ดวงตาข้างซ้าย เช่นนั้นเขาก็คือหลี่อี้เจ๋อ น้องชายคนรองของนาง ทว่าภาพตรงหน้ามันคืออันใด เหตุใดเขาถึงได้กลายเป็นคนโหดเหี้ยมอำ

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   เหตุใดข้าได้ยินเสียงของนาง

    “อวัยวะภายในของนางและกระดูกหลายส่วนถูกทำลายจนสิ้น ต่อให้ช่วยได้ในตอนนี้นางก็คงอยู่ไม่พ้นเดือน ทำได้เพียงใช้สมุนไพรยื้อชีวิตไปเรื่อยๆ เท่านั้น อีกอย่างเราอยู่ในภารกิจที่เร่งด่วน จำเป็นต้องปล่อยนางไป เฮ่อ!! ช่างน่าเวทนานัก นางยังเด็กอยู่เลยกลับต้องมาพบกับชะตากรรมอันเลวร้ายเช่นนี้”ชายหนุ่มรูปงามที่แต่งกายด้วยชุดสีดำทั้งตัว เส้นผมสีดำสนิทถูกรวบสูงและสวมกวานหยก เขาประคองร่างบางขึ้นอย่างทะนุถนอม แม้ร่างกายของนางจะเปรอะเปื้อนไปด้วยดินโคลน แต่ถึงกระนั้นเขากลับกอดนางเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างไม่นึกรังเกียจชายหนุ่มยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดเลือดที่ใบหน้าของหลี่อันหนิงอย่างแผ่วเบา นางไม่เคยได้รับการปฏิบัติเช่นนี้มาก่อนตั้งแต่ที่มารดาจากไป หญิงสาวส่งยิ้มให้กับบุรุษตรงหน้าเพื่อเป็นการขอบคุณ จากนั้นเขาจึงก้มลงกระซิบที่ข้างหูของนาง“ข้าคือขุนนางที่ฮ่องเต้ส่งมา เด็กน้อยเจ้ามีคำขออื่นใดหรือไม่”หลี่อันหนิงได้ยินคำถามนั้นก็รู้แล้วว่าอีกไม่ช้าชีวิตของตนก็คงจะถูกพรากไป แต่ก็ยังดี อย่างน้อยนางสามารถเลือกที่จะตายด้วยน้ำมือของใครได้เด็กสาวใช้แรงเฮือกสุดท้ายกระซิบเอ่ยตอบกลับไป“รบกวนช่วย!!...ฆ่า!!ข้า อย่าให้ข้าต้อ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status