Share

ออกจากตระกูลหลี่

Author: zuey
last update Last Updated: 2025-08-09 14:35:12

“เช่นนั้นไม่ให้อาเล็กมานอนห้องเก็บฟืนกับพวกข้าเล่า นางเองก็เป็นสตรีเช่นกัน หรือว่าบ้านอาสะใภ้รองให้บุตรสาวนอนห้องเก็บฟืนแล้วปล่อยให้ท่านใช้ชีวิตไม่ต่างจากพวกข้า”

“นั่น..จะเป็นไปได้อย่างบิดามารดาของข้ารักและถนอมข้าราวกับไข่มุกในมือ จะยอมให้ลำบากได้อย่างไร”

เด็กสาวหัวเราะกับคำพูดที่ย้อนแย่งของสตรีตรงหน้า

“ออ เป็นเช่นนั้นเอง หมายความว่าที่พวกข้าสองคนถูกกระทำเช่นนี้ ไม่เกี่ยวกับที่เป็นสตรี แต่จริงๆ แล้ว...เพราะไม่มีใครรักนี่เอง”

ช่างเป็นคำพูดที่เสียดแทงใจหลี่เจี๋ยยิ่งนัก เขาที่เป็นบิดามักจะเมินเฉยเมื่อบุตรสาวถูกผู้อื่นรังแก นอกจากไม่ทำสิ่งใดแล้วยังเอาแต่มองดูพวกเขาใช้ชีวิตราวกับขอทาน ช่างไม่สมกับที่เป็นบิดานัก

“เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว เรื่องนี้ก็ให้แล้วกันไปเถอะต่อไปอย่าได้เอ่ยถึงมันอีก อาเฟิงเจ้าเองก็ควบคุมเมียของเจ้าให้ดี อย่าให้นางมาวุ่นวายกับบ้านใหญ่อีก”

“ขอรับท่านพ่อ”

ผู้เฒ่าหลี่ที่ฟังมานานเมื่อได้เห็นใบหน้าคับข้องใจของหลานชาย ก็ได้แต่คิดในใจว่าแย่แล้ว ถ้าหากเด็กนั่นเห็นพี่สาวถูกคนรังแก่ต่อหน้าต่อตาจะต้องไม่ยอมรามือแน่ ตนจะทำอย่างไรดี

“เจ๋อเอ๋อหลานไปคุยกับปู่ดีหรือไม่ อย่างไรเรื่องทุกอย่างก็จบลงแล้ว จากนี้คงไม่มีใครมายุ่งวุ่นวายกับพวกนางสองคนอีก”

ชายชราเอ่ยเสียงอ่อนพยายามตะล่อมหลานชายตัวน้อย ทว่าหลีอันหนิงหรือจะยอมให้เป็นเช่นนั้น

“ท่านปู่พูดผิดแล้ว ในเมื่ออาสะใภ้พูดขึ้นมาเช่นนี้ก็ดี ข้าเองก็ทนมานานอย่างไรวันนี้ก็ทำให้กระจ่างเถอะ ตัวข้าและน้องสาวต้องการออกจากตระกูลหลี่ ท่านคิดเห็นอย่างไร”

หลี่อันหนิงยกยิ้มอย่างพอใจเมื่อได้ยินความคิดของผู้เฒ่าหลี่ คิดว่าถึงเวลาที่ต้องจัดการเรื่องทุกอย่างให้เสร็จสิ้น

ก่อนจะถึงปีหน้านางต้องพาหลี่ซางเป่าออกไปจากที่นี่ให้ได้ก่อน จากนั้นค่อยวางแผนให้หลี่อี้เจ๋อตามออกมา

“พี่ใหญ่!!”

เด็กสาวส่ายหน้าปฏิเสธ ไม่ต้องการให้น้องชายพูดแทรก

“ข้าต้องการคำตอบเจ้าค่ะ ในเมื่อเราพี่น้องไม่เป็นที่ต้องการของพวกท่าน ก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป ใช่หรือไม่”

“ไม่ได้! พวกเจ้าห้ามไปไหนเด็ดขาด ข้าที่เป็นบิดาขอคัดค้าน”

หลี่เจี๋ยดวงตาไหววูบเมื่อบุตรสาวเอ่ยตัดขาดจากตระกูล จะดีเลวอย่างไรเขาก็เป็นบิดา ปล่อยไปเช่นนี้ได้หรือ

หลี่อันหนิงยิ้มเย็น เมื่อได้ฟังคำพูดคัดค้านของผู้ที่ไม่เคยทำหน้าที่บิดาเลยอย่างหลี่เจี๋ย

“ท่านหรือคัดค้าน นอกจากทำให้เราสามคนเกิดมาท่านเคยทำหน้าที่พ่อตั้งแต่เมื่อใด”

หลี่เจี๋ยตกใจไม่น้อยที่บุตรสาวเอ่ยวาจาในหัวของตน ราวกับนางล่วงรู้ความคิดของเขา

“นายท่านหลี่ ข้าขอบังอาจถามสักคำได้หรือไม่”

เด็กสาวหยุดเล็กน้อยเพื่อมองไปยังบิดาผู้ให้กำเนิดให้เต็มตา

“ตั้งแต่ซางเป่าเกิดมาท่านเคยอุ้มนางหรือไม่ หรือว่าท่านเคยป้อนข้าวนาง ท่านปล่อยให้เราสองพี่น้องอยู่อย่างหิวโหยโดยที่เอาแต่นิ่งเฉยไม่เคยหยิบยื่นสิ่งใด ทั้งๆ ที่ท่านสามารถทำได้”

“ท่านอุ้มชูบุตรที่เกิดจากภรรยาคนใหม่อย่างเต็มใจ ทว่าบุตรที่เกิดจากอดีตภรรยาอย่างพวกเราท่านกลับละเลย ทำเช่นนี้ได้หรือ”

เด็กสาวเอ่ยจี้จุดปมที่อยู่ในใจของหลี่เจี๋ยอย่างแม่นยำ เพราะมันคือความรู้สึกผิดที่ติดค้างอยู่ในใจและเขามิอาจเอ่ยกับผู้ใดได้ เป็นเขาที่ผิดตั้งแต่ต้นที่ เป็นเขาที่นอกใจพานเยว่หลานจนทำให้เรื่องราวทุกอย่างบานปลายมาถึงจุกนี้

“เจ้า!! อย่างไรข้าก็ขอปฏิเสธ”

“นายทานหลี่ ช่วงเวลาการทำหน้าที่ของบิดามันล่วงเลยมาเนิ่นนานแล้ว และจะไม่หวนกลับมาอีก”

วาจาตัดขาดของบุตรสาวมันทิ่มแทงลงไปในส่วนลึกของจิตใจที่เขาปิดกั้นมานาน ทว่าหลี่เจี๋ยก็ไม่คิดว่าเด็กสาวตรงหน้าจะเด็ดขาดถึงเพียงนี้

คำพูดสุดท้ายของเด็กสาวกระแทกเข้ากลางใจเขาอีกครั้ง ไม่มีวาจาใดที่หลี่เจี๋ยสามารถยกขึ้นมาเอยโต้แย้งได้เลย

หลี่อันหนิงมองไปยังชายที่เคยเรียกตนเองว่าบิดาอย่างดูแคลน

“อีกอย่าง ข้ามิได้ถามความเห็นของท่าน ข้าถามท่านผู้เฒ่าหลี่ต่างหาก”

นางไม่ได้ให้ค่าความคิดเห็นของเขา เพราะที่ผ่านมาคนผู้นี้ก็มิได้มีความคิดเป็นของตนเองอยู่แล้ว ต่อให้เขาคัดค้านเพียงใดขอเพียงผู้เฒ่าหลี่พยักหน้า คนเช่นเขาจะทำอะไรได้

เขามันก็เป็นเพียงเจ้าคนไร้ความสามารถผู้หนึ่งเท่านั้น

“ข้าเห็นด้วยขอรับ ท่านปู่ปล่อยพวกนางไปเถิด ต่อให้พวกนางอยู่ที่นี่อย่างไรก็ไม่ได้ช่วยอะไรตระกูลหลี่ ถ้าท่านให้พวกนางออกจากบ้านหลี่ข้าจะยอมทำตามที่ท่านต้องการอย่างไม่มีข้อแม้”

“อี้เจ๋อ! เจ้า!”

เด็กชายส่งยิ้มเศร้าสร้อยมายังพี่สาว

หลี่อันหนิงไม่คิดว่าน้องชายของตนจะเห็นด้วยกับการกระทำในวันนี้ นางวางแผนจะพาเขาออกมาจากตระกูลหลี่อยู่แล้ว ทว่าในเมื่อหลี่อี้เจ๋อใช้ตนเองเป็นประกันเพื่อให้นางจากไป เช่นนี้คงไม่ง่ายที่จะพาเขาออกจากมาในอนาคต

คราแรกผู้เฒ่าหลี่ยังคงลังเลที่จะรับปาก เพราะต้องมีหลี่อันหนิงและหลี่ซางเป่าอยู่ในตระกูลหลี่ หลี่อี้เจ๋อถึงจะทำตามที่ตนสั่ง แต่ในเมื่อเขาเอาตนเองเป็นประกันเช่นนี้ทุกอย่างก็ง่ายขึ้น

เด็กสองคนที่ไร้ประโยชน์ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ เช่นนั้นก็ปล่อยให้พวกนางไป อย่างไรเรื่องนี้ก็ส่งแต่ผลดีต่อตระกูลหลี่เพราะในอนาคตไม่จำเป็นต้องเลี้ยงดูปากท้องของพวกนางเพิ่มด้วย

หลี่อันหนิงยิ้มหยันในความคิดของตาเฒ่าโลภมากอย่างหลี่เจียงกั๋ว เมื่อใดกันที่ตนและน้องสาวพึ่งพาตระกูลหลี่ ที่ผ่านมาถ้าไม่ทำงานมีหรือจะได้รับเศษอาหารจากพวกเขา

“ได้เช่นนั้นเราก็มาเขียนหนังสือตัดขาด จากนี้ไปเจ้าสองคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบ้านหลี่อีก ต่อให้วันหน้าพวกเรารุ่งโรจน์ก็ไม่มีส่วนของพวกเจ้าพี่น้อง”

นี่เป็นวาจาที่หลี่อันหนิงเฝ้ารอมานาน ในที่สุดนางก็สามารถช่วยน้องสาวได้แล้ว

“เป่าเอ๋อไปตามท่านหัวหน้าหมู่บ้านและท่านย่าจวงมา”

หลี่ซางเป่าไม่รอช้าวิ่งหายไปจากสายตาในทันที และเพียงไม่นานทั้งหัวหน้าหมู่บ้านและแม่เฒ่าจวงก็มาถึงเรือนตระกูลหลี่ ยังมีชาวบ้านอีกหลายคนที่ว่างงานไม่มีอะไรทำตามมาดูเรื่องสนุกด้วย

“เกิดอะไรขึ้นที่นี่หรือ เหตุใดถึงให้เป่าเอ๋อไปตามข้า”

แม่เฒ่าจวงผู้เป็นกังวลเกี่ยวกับเด็กน้อยทั้งสอง เอ่ยถามด้วยสีหน้าห่วงใย

“ท่านย่าจวงเจ้าคะ วันนี้ข้าและเป่าเอ๋อจะออกจากตระกูลหลี่ จึงให้นางไปเชิญท่านและท่านหัวหน้าหมู่บ้านมาช่วยเป็นพยาน”

“เจ้าพูดจริงหรือ ตอนนี้เนี่ยนะ แล้วเจ้าจะไปอยู่ที่ใด”

จวงต้าหลางผู้เป็นหัวหน้าหมู่บ้านโพล่งขึ้นด้วยสีหน้าเป็นกังวล เพราะตอนนี้คือฤดูเหมันต์มีหิมะตกลงมาอย่างหนัก พวกนางสองพี่น้องจะอยู่กันเองได้อย่างไร

“ไม่เป็นไรให้นางพักอยู่ที่เรือนของข้าไปก่อน จนกว่านางจะสามารถหาที่อยู่ของตนเองได้”

เป็นแม่เฒ่าจวงเอ่ยตัดบทเพราะไม่ต้องการให้หลานชายญาติห่างๆ ของตนขัดขวาง หัวหน้าหมู่บ้านเมื่อเห็นว่าคนที่ช่วยหนุนหลังคือท่านย่าจวงจึงได้คลายความกังวลลง

“ย่อมได้ เช่นนั้นท่านต้องการเขียนเงื่อนไขใดบ้าง”

ผู้เฒ่าหลี่วางกระดาษสามแผ่นลงบนโต๊ะด้านหน้าหัวหน้าหมู่บ้านทว่าหลี่อี้เจ๋อก้าวเข้ามาขวางเอาไว้

“ให้ข้าเป็นผู้เขียนเถิดขอรับ”

หลังจากเด็กน้องร่างหนังสือตัดขาดออกมาสองแผ่น เขายังใส่ข้อความบางอย่างลงไปด้วย เมื่อพ่อเฒ่าหลี่อ่านดูก็พยักหน้าอย่างพอใจ เพราะคิดว่าข้อความเหล่านั้น ทำให้ฝ่ายตนได้เปรียบ

ทว่าความจริงแล้วทุกสิ่งที่เขาเขียนออกมาเป็นประโยชน์ต่อพี่สาวและน้องสาวฝาแฝดของตนทั้งหมด

“ต้องทำเพียงนี้เชียวหรือ อย่างไรก็สายเลือดเดียวกัน”

หัวหน้าหมู่บ้านจวงเมื่อได้อ่านข้อความที่หลี่อี้เจ๋อร่างถึงกับตกใจจนทำสีหน้าไม่ถูก แม้แต่แซ่ก็ห้ามใช้ มารดาอย่างพานเยว่หลานที่ตายจากไปหลายปีก็ถูกตัดขาด ต่อจากนี้หลี่อี้เจ๋อมิใช่ลูกของนางแต่เป็นบุตรที่เกิดจากหลี่เจี๋ยและจางเหยาฮวา

เมื่อหลี่อันหนิงได้อ่านหนังสือตัดขาดที่น้องชายเป็นผู้ร่าง นางก็พยักหน้าให้กับเขา หมดจดมาก นั่นคือสิ่งที่นางคิด

ทุกสิ่งอย่างเกี่ยวกับพานเยว่หลานและบุตรของนางที่เคยปรากฏอยู่ที่ตระกูลหลี่ จะต้องถูกลบหายไป นั่นคือสิ่งที่เด็กชายต้องการ

“ในเมื่อเห็นพ้องทั้งสองฝ่าย เช่นนั้นก็ลงชื่อเถิด หนังสือนี้ข้าจะเก็บเอาไว้หนึ่งฉบับเพื่อนำไปจัดการที่ที่ว่าการหลังจากหิมะหยุดตก”

ทั้งสามฝ่ายต่างลงลายมือชื่อ หลี่อันหนิงเก็บเอาไว้กับตัวหนึ่งฉบับ จากนั้นนางจึงพาน้องสาวตามแม่เฒ่าจวงไปโดยที่ไม่ขอรับสิ่งใดจากบ้านหลี่เลยแม้แต่ข้าวสารสักเมล็ด

ข่าวลือการตัดขาดของตระกูลหลี่และหลานสาวทั้งสองถูกพูดถึงอยู่หลายวัน เพราะหิมะตกทำให้ต้องหมกตัวอยู่แต่ในเรือนจึงไม่มีอะไรให้ทำนอกจากพูดนินทาเรื่องของผู้อื่น

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   สงครามของเหล่าสตรี

    จวงอิงไม่สนใจท่าทางเกรี้ยวกราดของคู่ปรับเก่า นางแลบลิ้นให้สวีไช่ไช่ก่อนจะเดินกลับไปทำงานของตน เมื่อถูกกระทำเช่นนั้นคนอย่างสวีไช่ไช่ไหนเลยจะยอมขาดทุน หญิงสาวรีบเดินสาวเท้าตามไปก่อนจะดึงหัวไหล่ของนางให้หันกลับมา“จวงอิง เจ้ามาพูดกับข้าให้รู้เรื่องนะ”สวีไช่ไช่เท้าเอวตวาดแหวใส่จวงอิง คนที่ทำงานอยู่ไม่ไกลต่างเงยหน้าขึ้นมองการโต้เถียงของหญิงสาวทั้งสอง“พูดอันใด ข้าแค่เพียงดื่มน้ำเท่านั้น”“แต่นั่นเป็นน้ำที่ข้าให้พี่อี้ซิง มิใช่ของเจ้า”“ให้ใครดื่มก็เหมือนกัน ทุกอย่างที่นี่เป็นของย่าจวง หรือกระบอกน้ำนั่นเจ้าเอามาจากเรือนของเจ้า”“ข้า!..”“เช่นนั้นก็จบเรื่อง กลับไปทำงานของเจ้าเถอะ เลิกอู้ได้แล้ว”จวงอิงยักไหล่ก่อนจะเดินหันหลังให้สวีไช่ไช่หญิงสาวที่กำลังโมโหไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี จึงได้เผลอลงมือผลักจวงอิงเพื่อระบายอารมณ์ ทว่าด้านหน้าของจวงอิงมีคราดที่วางหงายเอาไว้ หญิงสาวไม่ทันระวังตัวจึงไถลไปด้านหน้า เมื่อเห็นว่าตนเองกำลังจะล้มลง จวงอิงทำได้เพียงหลับตารอรับหายนะที่กำลังบังเกิด“กรี๊ด!!”ร่างสูงของจวงอี้ซิงก้าวเพียงไม่กี่ก้าวก็เข้าถึงตัวของจวงอิง แขนแข็งแรงคว้าเอวบางเอาไว้ได้ทัน แต่ทั้งสองก

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   ร่วมใจกันขุดมันเทศ

    หลังจากชายหนุ่มกลับออกมา จวงอิงบุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนของหัวหน้าหมู่บ้านก็รีบพุ่งออกมาจากห้อง นางมองด้านหลังอันแข็งแรงของชายหนุ่มพลางแสดงสีหน้าเขินอายหัวหน้าหมู่บ้านจวงเมื่อเห็นบุตรสาวของตนมองตามเจ้าหนุ่มอี้ซิงไป จึงถามนางด้วยความอยากรู้อยากเห็น“เจ้ามองตามเขาทำไม หรือว่ามีธุระกับเจ้าหนุ่มบ้านย่าจวง”จวงอิงสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงของบิดา“ข้า..ไม่มีธุระอันใด เพียงแต่...ท่านพ่อให้ข้าไปทำงานในไร่ย่าจวงได้หรือไม่”จวงต้าหลางมองบุตรสาวด้วยสีหน้าคลางแคลง ที่ผ่านมาตนไม่เคยให้นางต้องทำงานหนักในไร่สักครั้ง เพียงให้อยู่เฝ้าเรือนทำงานของสตรี เหตุใดวันนี้ถึงได้อยากทำงานหนักขึ้นมา“เจ้าหรือทำงานในไร่ จะทำไหวหรือ ต้องตากแดดทั้งวันขุดมันมิใช่งานเบาๆ”จวงอิงเห็นบิดาเอ่ยเช่นนั้นนางก็กระทืบเท้าอย่างขัดใจ เหตุใดจะทำไม่ได้ นางเองก็โตแล้วทำงานเล็กน้อยจะเป็นไรไป“ข้าไม่กลัว กลัวอันใดกันข้าเป็นลูกท่านพ่อไหนเลยจะกลัวความลำบาก”“ก็ตามใจ อยากไปก็เตรียมตัวให้ดี”จวงต้าหลางเห็นบุตรสาวแสดงท่าทีกระตือรือร้นแต่ก็มิได้สนใจ เพียงคิดว่านางคงจะอยากออกไปเที่ยวเล่นหรือพูดคุยกับเด็กสาวในวัยเดียวกันเท่านั้น ทว่ามิได้

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   เขายังคงไม่ลืมนาง

    หลังจากบุตรสาวทั้งสองตัดขาดจากตน หลี่เจี๋ยก็มีท่าทีเซื่องซึมอยู่หลายวัน เขาไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้ต้องมาตัดขาดจากบุตรของตนที่เกิดจากพานเยว่หลานต่อให้เขามีสตรีอื่นแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่เคยรักนาง พานเยว่หลานสตรีผู้งดงามและแสนอ่อนโยน คราแรกเมื่อได้พบสบตาหัวใจของเขาเต้นกระหน่ำไม่ยอมหยุด แม้แต่จางเหยาฮวาก็ไม่เคยทำให้เขารู้สึกได้เช่นนี้เลยมันเกิดขึ้นได้อย่างไร ตั้งแต่เมื่อใดที่เขาละเลยนางและปันใจให้สตรีอื่น คราแรกคิดเพียงเล่นๆ เท่านั้น มิได้จริงจังเพราะจางเหยาฮวาเองก็มีสามีทว่าเมื่อได้ลิ้มรสกลิ่นใหม่ เขากลับลืมเลือนสตรีที่ตนเคยรักปักใจ เขาทำเช่นนั้นกับนางได้อย่างไร เหตุใดนางถึงไม่เคยตำหนิเขาเลยทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่ซื่อสัตย์ ทำไมกันคำถามมากมายพรั่งพรูออกมาในหัวของหลี่เจี๋ย ทว่าสตรีผู้นั้นตายจากไปนานแล้ว จึงไม่มีผู้ใดสามารถตอบคำถามที่ติดค้างอยู่ในใจของเขาได้“พานเยว่หลาน ตอนนี้เจ้าคงกำลังเย้ยหยันข้าอยู่ใช่หรือไม่ เพราะหลังจากที่เจ้าจากไปก็ไม่มีวันใดเลยที่ข้าสามารถลืมเจ้าได้”หลี่เจี๋ยพึมพำออกมาด้วยสีหน้าเหม่อลอยจางเหยาฮวาที่อยู่ด้านหลังได้ยินเต็มสองหูว่าสามีของตนมิอาจปล่อยวางจ

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   ออกจากตระกูลหลี่

    “เช่นนั้นไม่ให้อาเล็กมานอนห้องเก็บฟืนกับพวกข้าเล่า นางเองก็เป็นสตรีเช่นกัน หรือว่าบ้านอาสะใภ้รองให้บุตรสาวนอนห้องเก็บฟืนแล้วปล่อยให้ท่านใช้ชีวิตไม่ต่างจากพวกข้า”“นั่น..จะเป็นไปได้อย่างบิดามารดาของข้ารักและถนอมข้าราวกับไข่มุกในมือ จะยอมให้ลำบากได้อย่างไร”เด็กสาวหัวเราะกับคำพูดที่ย้อนแย่งของสตรีตรงหน้า“ออ เป็นเช่นนั้นเอง หมายความว่าที่พวกข้าสองคนถูกกระทำเช่นนี้ ไม่เกี่ยวกับที่เป็นสตรี แต่จริงๆ แล้ว...เพราะไม่มีใครรักนี่เอง”ช่างเป็นคำพูดที่เสียดแทงใจหลี่เจี๋ยยิ่งนัก เขาที่เป็นบิดามักจะเมินเฉยเมื่อบุตรสาวถูกผู้อื่นรังแก นอกจากไม่ทำสิ่งใดแล้วยังเอาแต่มองดูพวกเขาใช้ชีวิตราวกับขอทาน ช่างไม่สมกับที่เป็นบิดานัก“เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว เรื่องนี้ก็ให้แล้วกันไปเถอะต่อไปอย่าได้เอ่ยถึงมันอีก อาเฟิงเจ้าเองก็ควบคุมเมียของเจ้าให้ดี อย่าให้นางมาวุ่นวายกับบ้านใหญ่อีก”“ขอรับท่านพ่อ”ผู้เฒ่าหลี่ที่ฟังมานานเมื่อได้เห็นใบหน้าคับข้องใจของหลานชาย ก็ได้แต่คิดในใจว่าแย่แล้ว ถ้าหากเด็กนั่นเห็นพี่สาวถูกคนรังแก่ต่อหน้าต่อตาจะต้องไม่ยอมรามือแน่ ตนจะทำอย่างไรดี“เจ๋อเอ๋อหลานไปคุยกับปู่ดีหรือไม่ อย่างไรเรื่องทุกอ

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   สั่งสอนหนี่ม่านม่าน

    สามพี่น้องพูดคุยปลอบประโลมกันและกันอยู่นานกว่าหลี่อี้เจ๋อจะสงบลง“อี้เจ๋อ พี่มีเรื่องต้องพูดกับเจ้า แต่ที่นี่คงไม่เหมาะนักและพี่คิดว่าน้องเองก็คงมีเรื่องมากมายต้องการพูดกับเราเช่นกัน ใช่หรือไม่”หลี่อันหนิงได้ยินเสียงความคิดอันน่ารังเกียจของใครบางคนที่แอบซ่อนอยู่ไม่ไกล หากจะเอ่ยความลับขึ้นมาตอนนี้คงจะไม่ดีนัก นางดึงมือน้องชายให้ตามตนเองไปยังห้องเก็บฟืน“หลายปีมานี้ ลำบากพวกท่านแล้ว”เมื่อเข้ามาภายในห้องเก็บฟืนสถานที่ที่หลี่อันหนิงและหลี่ซางเป่าใช้พักอาศัย ความรู้สึกผิดก็บังเกิดขึ้นในใจของหลี่อี้เจ๋อ“ไม่เป็นไร เราสองคนไม่ได้นอนที่นี่ทุกวัน เอาเถอะไว้พี่จะเล่าให้ฟังหลังจากนี้ก็แล้วกัน”เด็กชายมองพี่สาวที่มีท่าทีลับลมคมในด้วยสีหน้าสงสัย หลี่อันหนิงหยิบกระดาษและพู่กันที่แอบซ่อนเอาไว้ออกมา ก่อนเขียนบรรยายสิ่งที่จะเกิดขึ้นในหนึ่งปีข้างหน้าเมื่อหลี่อี้เจ๋ออ่านมัน เขาก็แสดงสีหน้าตกตะลึงอย่างที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน“สิ่งนี้มิอาจแพร่งพราย อ่านเสร็จแล้วต้องทำลายทิ้งเท่านั้น”“เรื่องนี้...ท่านรู้ได้อย่างไร”หลี่อี้เจ๋อยังมีท่าทีเคลือบแคลงกับข้อความที่อยู่บนกระดาษ หลี่อันหนิงไม่คิดว่าน้องชายจะเชื

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   ความในใจของหลี่อี้เจ๋อ

    “ว่าอย่างไรน้องรอง เจ้ากลับมาแล้วอย่างนั้นหรือ”หลี่อันหนิงเอ่ยทักทายน้องชายคนรองของตนอย่างเป็นธรรมชาติซึ่งเป็นอะไรที่ผิดวิสัยของนางนัก หลี่อี้เจ๋อที่พึ่งคลายจากอาการตกตะลึงพยักหน้าตอบรับคำทักทายของนาง“ขอรับ ข้ากลับมาแล้วพี่ใหญ่ ข้าดีใจที่พวกท่านยังสบายดี”นางรู้สึกว่าคำพูดของน้องชายมีความนัยบางอย่างแอบแฝง ทว่าคงซักไซ้ตอนนี้มิได้เพราะมีคนบ้านหลี่คอยจับตามองอยู่“เจ้ากลับมาครานี้ต้องอยู่ที่นี่อีกกี่วัน”“นานขอรับ ช่วงนี้หิมะเริ่มตกหนัก ต้องรอจนกว่าเหมันต์จะผ่านไป ข้าถึงกลับไปที่สำนักศึกษาได้อีกครั้ง”หญิงสาวสนทนากับน้องชายราวกับมิได้เห็นคนบ้านหลี่อยู่ในสายตา ผู้เฒ่าหลี่ผู้เป็นปู่รู้สึกไม่พอใจนักที่นางเข้ามาขวางระหว่างตนและหลี่อี้เจ๋อ แต่ในเมื่อรักบ้านก็ย่อมต้องรักอีกาบนหลังคาด้วย ดังนั้นต่อให้คับข้องใจเพียงใดชายชราก็ทำได้เพียงต้องเก็บเอาไว้ภายใน“หนิงเอ๋อ เป่าเอ๋อ พวกเจ้าสองคนมาก็ดีแล้ว วันนี้บ้านเรามีเรื่องน่ายินดีเช่นนั้นก็มาร่วมฉลองด้วยกันดีหรือไม่”หลี่อันหนิงยิ้มเย็นเมื่อได้ยินเสียงสบถด่าทอตนเองจากผู้เฒ่าหลี่ในหัว ทว่าคำพูดจริงๆ ที่ออกจากปากกลับต่างกันราวฟ้ากับเหว ตาแก่ผู้นี้ช่าง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status