ณ ร้านฮวด เฮง ไฮรีไซเคิล888
“เฮียจ๋า เฮียเฮงคนหล่ออยู่ไหมจ๊ะ”
เสียงร้องเรียกดังมาตั้งแต่ประตูทางเข้า เป็นการส่งสัญญาณชั้นดีให้เจ้าของชื่อ ที่กำลังนั่งกดเครื่องคิดเลขยิกๆ ได้มีเวลาเผ่นหนี
ร่างสูงหนึ่งร้อยแปดสิบหกเจ้าของชื่อเฮง ลุกพรวดพราดขึ้นจากโต๊ะอย่าไม่รีรอ เท้าใหญ่ก้าวยาวๆ เพื่อพาตัวเองไปยังหลังร้าน
“เฮีย!!” กำลังจะถึงประตูหลังร้านแล้วเชียว แต่คุณพระคุณเจ้าก็ไม่เป็นใจ ทำให้เจ้าของเสียงแหลมแสบแก้วหูมาเห็นเข้าเสียก่อน
“เฮียจะไปไหน” รู้อยู่หรอกว่าคนที่ยืนหันหลังให้ กำลังจะหนีตัวเอง
ร่างบอบบางความสูงหนึ่งร้อยหกสิบห้า ใบหน้าสะสวยไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ เดินมาหยุดยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงาน
“จะไปเข้าห้องน้ำ” เอ่ยตอบโดยไม่คิดจะหันกลับไปมองคนด้านหลังเลยสักนิด จากนั้นจึงเอื้อมมือไปดึงประตูเปิดออก
“รีบมานะ พริ้งรอตรงนี้” แม้จะอยู่ไกลแต่พริ้งพลอยก็ยังหูดี ได้ยินเสียงผ่อนลมหายใจหนักๆ ของคนที่เดินผ่านประตูหลังร้านออกไป
“อ้าว! หนูพริ้ง มาแต่เช้าเลยลูก” พริ้งพฃอยหันไปยิ้มให้ลุงฮวด บิดาของเฮง พร้อมกับยกมือไหว้ทักทาย
“พริ้งแวะเอาโจ๊กหมู น้ำเต้าหู้แล้วก็ปาท่องโก๋มาฝาก พอดีไปตลาดเช้ามาค่ะ อ๋อ! มีโอเลี้ยงแล้วก็กาแฟโบราณของลุงฮวดกับเฮียด้วยนะคะ” ข้าวของทั้งหมดที่ว่ามาถูกวางลงบนโต๊ะทำงานตรงหน้า
“ขอบใจมากลูก แต่ไม่ต้องซื้อมาให้บ่อยก็ได้ ลุงเกรงใจ”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ พริ้งเต็มใจ”
“แล้วนี่ได้เจออาเฮงหรือยังล่ะ เมื่อกี้ยังนั่งคิดเงินอยู่ตรงนี้นี่น่า”
“เจอแล้วค่ะ เฮียหนีพริ้งไปเข้าห้องน้ำ แต่อีกเดี๋ยวคงออกมามั้งคะ” ฮวดพยักหน้ารับ
รู้ดีว่าลูกชายตัวเองพยายามหนีหนูพริ้ง เห็นบอกว่ารำคาญที่หนูพริ้งชอบแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
ก็ใครล่ะ... ใครบอกให้มันไปยุ่งกับเขาก่อน เสือกกินไม่เลือกหน้า เจ้าชู้ไม่ดูหน้าดูหลัง สุดท้ายปัญหาวุ่นวายก็ตามมา
แต่หากถามว่าตนรังเกียจหนูพริ้งไหม ตอบได้เลยว่าไม่ หนูพริ้งอีเป็นคนขยันทำมาหากิน ไม่เกี่ยงงาน ไม่นอนตื่นสาย คนขยันแบบนี้ตนชอบนัก ติดก็ตรงไอ้ลูกชายนี่แหละ ที่มันไม่ชอบ
“นั่นไงคะมาพอดี”
“งั้นคุยกันไปก่อนนะ ลุงขอตัว” พริ้งพลอยพยักหน้ารับน้อยๆ ด้วยรอยยิ้ม
“เฮีย พริ้งซื้อโจ๊กร้านที่เฮียชอบมาให้ มีกาแฟโบราณร้านป้าใจด้วยนะ กินกับปาท่องโก๋ร้อนๆ”
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ต้องซื้ออะไรมาให้” ร่างสูงเดินกลับมานั่งที่เก้าอี้ทำงานตามเดิม เปิดลิ้นชักหยิบเงินสองร้อยบาทยื่นให้หญิงสาว
“พี่ไม่อยากกินของใครฟรีๆ”
“ของใครที่ไหนกัน ของเมียตัวเองชัดๆ” พูดเบาๆ ให้ได้ยินกันแค่สองคน
และคำว่าเมียที่พริ้งพลอยเอ่ยมา ก็เรียกความไม่พอใจแกมเบื่อหน่ายพาดผ่านบนใบหน้าของเฮงทันใด
“เรื่องของเรามันจบมาตั้งนานแล้วพริ้ง เมื่อไหร่จะเข้าใจสักที”
“จบแค่เฮียคนเดียวน่ะสิไม่ว่า สำหรับพริ้งมันเพิ่งเริ่มต่างหาก เฮียคือคนที่เดินเข้ามาหาพริ้งเองนะ แล้วอยู่ดีๆ จะเดินกลับออกไปง่ายๆ อย่างนั้นเหรอ มันไม่ง่ายเกินไปหน่อยหรือไง คิดจะฟันแล้วทิ้งเหมือนคนอื่นที่ผ่านมาเหรอ บอกเลยนะว่าไม่มีทาง”
“แล้วจะให้พี่ทำยังไงวะ ก็พี่ไม่ได้ระ...”
“หุบปากเดี๋ยวนี้นะเฮีย” เสียงแหลมร้องสั่ง ก่อนประโยคชวนเจ็บใจจะหลุดออกมา กับคำว่า เขาไม่รักเธอ
แล้วก่อนหน้านั้นหมาที่ไหนมันตามจีบเธอเกือบปี ซื้อนั่นซื้อนี่ไปให้ พูดคะพูดขา เฮียอย่างนั้น เฮียอย่างนี้ พาเธอขี่มอไซต์รอบตลาด เพื่อไปหาอะไรทานตอนเย็น จับมือเธอเดินตลาดนัดจนเมื่อยขา
เมื่อเธอหลงรักและคิดว่าเขาจะจริงจัง เพราะเห็นแก่การกระทำเสมอต้นเสมอปลาย ตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา จึงยอมเป็นของเขา เพราะคำว่ารักที่เขาพูดกรอกหูทุกเมื่อเชื่อวัน
แต่เมื่อได้เธอสมใจปรารถนาจนอิ่มหนำ ก็คิดจะเขี่ยเธอทิ้งเหมือนขยะ จากเฮียก็กลายมาเป็นพี่ มันน่าตีให้หัวแตกสักที แล้วเธอจะยอมให้เขาไปเสวยสุขกับผู้หญิงคนอื่นง่ายๆ ได้ยังไง
ใครจะมองว่าเธอบ้า หน้าด้านวิ่งตามผู้ชายเธอไม่สนใจหรอก เพราะผู้ชายคนนี้คือของเธอ คิดจะฟันแล้วทิ้งเหมือนผู้หญิงที่ผ่าน มาอย่างนั้นเหรอ ฝันไปเถอะ...
ไอ้ผัวเฮงซวย
“น้องแพรวไม่วิ่งค่ะเดี๋ยวล้ม”“น้องแพรวคะ ม้าบอกว่าไม่ให้วิ่งยังไงล่ะคะ”“วิ่งเลยครับลูก วิ่งมาหาป๊าเร็ว ป๊ารอตรงนี้”นั่งคือประโยคของสองสามีภรรยาที่ดังขึ้นไล่เลี่ยกัน เพื่อบอกลูกสาวที่กำลังวิ่งเล่นในสวนของดอกทานตะวันนับสิบไร่ เหลืองอร่ามสวยงามในช่วงเช้า ที่พระอาทิตย์ทอแสงแดดอ่อนๆ ยังไม่แรงกล้าจนร้อนระอุแพรวพลอยในวัยสองขวบกว่า ถูกพามาเที่ยวที่ไร่ทานตะวัน ไม่ใช่ความต้องการของหนูน้อย แต่เหมือนจะเป็นความต้องการของผู้เป็นพ่อมากกว่า ที่อยากพาครอบครัวมาที่นี่ และนี่ก็นับว่าเป็นครั้งแรกในการเที่ยวต่างจังหวัดของครอบครัว“เฮียก็ชอบตามใจลูกตลอด” อดไม่ได้ที่จะดุให้สามี ที่ชอบตามใจลูกสาว ส่วนเธอก็คือนางร้ายในสายตาลูกสาวไปแล้ว ที่ชอบขัดใจอยู่เสมอ“เฮียไม่ได้ตามใจครับ เฮียก็แค่อยากให้ลูกได้วิ่งเล่นเฉยๆ เฮียรักพริ้งนะ”พริ้งพลอยจะด่าก็ด่าไม่ได้ เพราะเฮงรู้จุดอ่อนชอบบอกรักเธอเป็นการปิดท้าย ทำให้ประโยคที่เตรียมจะต่อว่ากลืนหายไปในลำคอ“ตลอดเลยนะ”“ก็เฮียรักพริ้งจริงๆ นี่น่า”“ปาค่า” เสียงเล็กของลูกน้อย พร้อมกับมือเล็กๆ ที่จับชายเสื้อผู้เป็นพ่อและดึงเบาๆ ทำให้เฮงต้องย่อตัวลงนั่งให้อยู่ในระดับเดียวกันกั
การมีภรรยาสวยนี่มันก็ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไปสินะ ยิ่งเป็นคนสวยอัธยาศัยดียิ่งไม่ดีเข้าไปใหญ่ เพราะพวกผู้ชายหน้าหม้อจ้องจะมาอ้อล้ออยู่บ่อยๆแม้จะรู้อยู่เต็มอก เห็นอยู่เต็มตา ว่าผัวเขานั่งอยู่ตรงนี้ ก็ยังไม่วายจะพูดกับภรรยาเขาเสียงอ่อนเสียงหวาน ตาหวานเยิ้มมันน่าเดินไปควักลูกตาออกซะจริงๆ“พริ้งจ๋า ลูกคิดถึงแล้วครับ” เฮงร้องตะโกนไปขัดจังหวะ เมื่อการสนทนาระหว่างภรรยาคนสวย กับเสี่ยไร้อ้อยอย่างเสี่ยบำรุงกำลังออกรสออกชาติพริ้งพลอยหันมาถลึงตาใส่เฮง ด้วยรู้ดีว่าเฮงหึงตัวเองมากแค่ไหน เห็นเธอคุยกับเสี่ยบำรุงหรือลูกค้าผู้ชายนานๆ ก็ออกอาการหึงหวงจนขึ้นหน้า เข้ามาขัดจังหวะแบบนี้ทุกที“ถ้าอย่างั้นเสี่ยกลับก่อนนะ วันหน้าจะพาคนงานมาอุดหนุนใหม่”“ได้เลยค่ะเสี่ย พริ้งยินดีต้อนรับเสมอค่ะ”“งั้นเสี่ยไปล่ะ”“จ้า” พริ้งพลอยยิ้มให้ลูกค้าเจ้าประจำ ที่เดินออกจากร้านไป จวบจนเสี่ยบำรุงขึ้นรถ จึงได้หุบยิ้มและหันมามองหน้าสามี ที่นั่งหน้าบึ้งไม่สบอารมณ์อยู่ที่โต๊ะ“จะยิ้มอะไรนักหนา” ใบหน้าหล่อเหลาบูดบึ้งแสนงอน พริ้งพลอยเห็นแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า“ก็เสี่ยเขาเป็นลูกค้านี่คะ ก็ต้องยิ้มให้ลูกค้าสิ”“แต่เสี่ยนั่นไม่ได้อยากเป
อยากโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขนแบบนี้ตลอดไป อยากตื่นมาแล้วเห็นหน้าเธอเป็นคนแรก อยากทำหน้าที่สามีและพ่อที่ดีให้ทั้งเธอและลูกสาว นั่นคือสิ่งที่เฮงปรารถนามากที่สุดในชีวิตเพราะกว่าจะมีวันนี้ได้ ชายหนุ่มก็ต้องเรียนรู้อะไรหลายอย่าง จากหลายเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามา จนเกือบทำให้เขาต้องเสียภรรยาและลูกสาวที่น่ารักไปสุดท้ายเฮงก็ยังอยากขอบคุณพริ้งพลอยอยู่ทุกวัน ที่มอบโอกาสครั้งสำคัญและยิ่งใหญ่นี้ให้ ขอบคุณที่เธอยอมให้เขารักเธออีกครั้ง“ปะปา ปะปา” เสียงเล็กเอ่ยเรียกผู้เป็นพ่อ ร่างจ้ำม่ำของหนูน้อยวัยขวบเศษคลานเข้ามาหาผู้เป็นพ่อที่นั่งเล่นอยู่บนโซฟาเฮงยิ้มให้ลูกสาวสุดที่รัก ขยับตัวลงนั่งที่พื้นด้านล่าง ยื่นมือไปด้านหน้า พร้อมรับลูกสาวที่กำลังคลานเข้ามาหา“ว่าไงครับคนเก่งของปะป๊า มาครับมาหาป๊าเร็ว” หนูน้อยได้ยินเสียงที่คุ้นเคยตั้งแต่อยู่ในท้อง ก็ยิ่งรีบคลานเข้ามาใกล้ สุดท้ายก็พาร่างจ้ำม่ำเข้ามาสู่อ้อมกอดของผู้เป็นพ่อได้สำเร็จ และยังได้รางวัลเป็นหอมฟอดใหญ่ทั้งแก้มซ้ายและขวา“แก้มลูกสาวป๊าหอมที่สุดเลยค่ะ หอมๆๆ” เฮงฟัดจมูกลงบนแก้มนิ่มนั้นอีกครั้งอย่างมันเขี้ยว หนูน้อยก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจเสียงหัวเราะและประ
ให้โอกาสยังไม่ทันไร ไอ้ผัวเฮงซวยก็ทำตัวมีพิรุธให้เห็นซะแล้ว ท่าทางลับๆ ล่อๆ มีลับลมคมใน เหมือนมีอะไรปิดปังไม่อยากให้รู้ ยิ่งทำให้พริ้งพลอยอยากรู้มากขึ้นจากเดิมจากที่ต้องมารับกลับไปส่งที่บ้านหลังจากเก็บร้านเสร็จ ก็บอกให้พริ้งพลอยกลับบ้านเองไปก่อน เป็นแบบนี้มาสามวันแล้วไหนจะเวลากลางคืนที่อยู่ด้วยกันที่บ้าน หลังจากพาลูกสาวเข้านอน เฮงก็ชอบมานั่งดูโทรศัพท์ที่โซฟาด้านนอก เมื่อเห็นเธอเดินเข้าไปหา ก็ทำตัวมีพิรุธน่าสงสัย ครั้นถามว่าทำอะไรก็บอกว่าไม่มี แบบนี้ยิ่งน่าสงสัยเข้าไปใหญ่“นี่อย่าบอกนะ ว่ามึงตัดสินใจผิดอีกแล้วอีพริ้ง เห้อ!”“บ่นอะไรพี่พริ้ง” จอยเอ่ยถาม เมื่อได้ยินพริ้งพลอยพึมพำอะไรออกมาสักอย่าง ในระหว่างที่ช่วยกันเก็บร้าน“ก็เฮยน่ะสิจอย พี่ว่าเฮียดูมีพิรุธยังไงก็ไม่รู้”“ยังไงพี่”“ก็ชอบทำตัวลับๆ ล่อๆ ดูแต่โทรศัพท์พอเห็นพี่ก็รีบวาง หรือว่าเฮียจะแอบคุยกับผู้หญิงคนไหนอีก”“ไม่หรอกมั้งพี่พริ้ง กว่าพี่เฮงจะทำให้พี่ใจอ่อนได้ ใช้เวลาเกือบปี นี่เพิ่งจะกลับไปคืนดีกันได้แค่เดือนกว่า จะหาผู้หญิงคนใหม่คุยแล้วอย่างนั้นเหรอ ไม่ใช่มั้ง”“แล้วทำไมเฮียถึงทำตัวมีพิรุธล่ะ”“คำถามนี้ พี่พริ้งก็ต้องเป็น
“ลูกหลับแล้วเหรอคะ” เฮงเดินเข้ามานั่งลงข้างแม่ของลูกส่งยิ้มบางให้“ใช่ เหนื่อยไหม” คำนี้ต้องเป็นพริ้งพลอยหรือเปล่าที่เอ่ยถามเฮง แต่เฮงกลับเป็นฝ่ายถามเธอทุกวันว่าเธอเหนื่อยไหมทั้งที่เขาทำงานหนักมากกว่าเธอมากนัก ไหนจะงานที่ร้านรับซื้อของเก่า งานที่ร้านก๋วยเตี๋ยว และยังต้องมาช่วยเธอเลี้ยงลูกอีก กว่าจะได้นอนพักก็ดึกดื่น ยังต้องตื่นแต่เช้าไปซื้อของให้เธอที่ตลาด“พี่” เฮงเลิกคิ้วขึ้นมองหน้าคนที่เรียกตัวเอง ก็เห็นถึงแววตาประหม่าที่มองมายังเขา“พี่เหนื่อยไหม” เพียงแค่คำถามง่ายๆ แต่ทำให้เฮงน้ำตารื้นขอบตาขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ไหนจะก้อนแข็งๆ ที่วิ่งมาจุกที่ลำคออีก จึงได้แต่ส่ายหน้าแทนคำตอบ“พี่จะร้องไห้เหรอ” เพราะเห็นน้ำตาคลอเบ้าและนัยน์ตาแดงก่ำของเฮงทันทีที่สิ้นเสียงถาม น้ำตาของลูกผู้ชายก็ไหลลงมาอย่างกลั้นไม่ไหว ดึงพริ้งพลอยเข้ามากอดเอาไว้ไม่อยากให้หญิงสาวเห็นน้ำตาของตัวเอง รีบใช้มือเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าแต่พริ้งพลอยก็ผละตัวออกห่าง มองหน้าที่เปื้อนด้วยน้ำตาของเฮงด้วยความไม่เข้าใจ ว่าเขาร้องไห้ด้วยเรื่องอะไร“พี่ร้องไห้ทำไม” เฮงรีบใช้หลังมือปาดน้ำตาออกลวกๆ ส่งยิ้มให้คนตรงหน้า“เฮียแค่...เฮีย
“ไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่ามึงจะใจแข็งได้มากขนาดนี้ ใจแข็งตั้งแต่ลูกอยู่ในท้อง จนตอนนี้ลูกออกมาลืมตาดูโลก ก็ยังไม่ใจอ่อนให้พ่อของลูกอีก”ไข่ลากเก้าอี้มานั่งข้างเพื่อนสาว ที่นั่งพับผ้าอ้อมที่โซฟาภายในบ้าน ส่วนลูกน้อยก็ถูกคุณพ่อของแกพาเข้านอนในห้องพริ้งพลอยคลอดลูกสาว ร่างกายแข็งแรงจ้ำม่ำ ด้วยน้ำหนักสามโลกว่าออกมาได้เดือนเศษแล้วและคนที่มาคอยช่วยเลี้ยงคงหนีไม่พ้นพ่อของลูก ที่หยิบจับงานทุกอย่างแทนเธอไม่ว่าจะเป็นงานบ้าน อาหารการกิน รวมไปถึงซักเสื้อผ้าลูกน้อยรวมทั้งของเธอ อาบน้ำ พาเข้านอน เฮงทำเป็นหมดทุกอย่างซึ่งพริ้งพลอยเองก็ยังแปลกใจ และเพิ่งมารู้ความจริงจากไฮ ว่าเฮงไปเข้าคอร์สเรียนสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ก่อนที่เธอจะคลอด“ก็ไม่ได้ใจแข็งอะไรนะ”“ไม่ได้ใจแข็ง แต่ก็ไม่ยอมกลับไปคืนดีกับพ่อของลูกเนี่ยนะ”“และที่ให้มาวุ่นวาย เดินเข้าเดินออกภายในบ้านได้แบบนี้ ไม่เรียกว่าใจอ่อนอีกเหรอ”“ก็แค่ทำหน้าที่พ่อไง แกกูรู้ว่าพี่เฮงเขาอยากทำหน้าที่ผัวด้วย”“ผัวที่ดีคือผัวใหม่” ไข่เบะปากใส่เพื่อนรักไปหนึ่งที“ไม่ใช่ผัวเก่าคนโปรดเหรอ ถึงได้ไม่เปิดใจให้ใครสักที”“ตอนนั้นท้องโย่ขนาดนั้น ใครจะมาสนใจ”“ตอนนี้ก็