Share

บทที่ 607

Auteur: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
นางเป็นเฟย เขาเป็นขุนนาง

ผิดจรรยาบรรณ

เหออวี่ถงไม่เพียงแต่ไม่ลุกขึ้นเท่านั้น กลับคุกเข่าต่ำกว่าเดิม “คุณท่าน ครั้งนี้ต้องเอาชีวิตเข้าแลก อวี่ถงเป็นตัวแทนของทั้งครอบครัวตระกูลเหอ ขอบคุณที่คุณท่านช่วยชีวิต”

“เสียนเฟยพูดเกินไปแล้ว ฝ่าบาทเป็นคนช่วยชีวิตพวกเจ้า ไม่ใช่ข้าเสียหน่อย”

“คุณท่านถ่อมตัวแล้วล่ะ ไม่สนใจการขัดแข้งขัดขาของเสิ่นหมิงหยวน เสด็จมาหาข้าด้วยตัวเอง ไม่ใช่ความคิดของคุณท่านหรอกหรือ?”

“เอ่อ......”

เฉินฝานกลับไม่กล้าสบตากับเหออวี่ถงเล็กน้อย ดวงตาที่งดงามคู่นั้น ทอประกายแสงความเฉลียวฉลาด ราวกับรู้ซึ้งเข้าไปในใจคน หากมีคำพูดโกหกแม้แต่ประโยคเดียวนางก็ดูออก

“ตอนนั้นเป็นข้อเสนอแนะของข้าจริงๆ ทว่าแค่ให้ฝ่าบาทแสร้งทำเล็กน้อย ไม่คิดเลยว่านางจะให้ข้า...... ” เฉินฝานเกาหัววางตัวไม่ถูก “ข้าไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกิน เสียนเฟยเจ้า......”

“ฝ่าบาททำถูกแล้ว ได้โปรด......” เหออวี่ถงกัดริมฝีปากสีชาดเบา รวบรวมความกล้าครั้งใหญ่ จึงพูดต่อ “คุณท่านล่วงเกินต่อไปเถิด”

“อ่า นี่......” เฉินฝานยังคงรู้สึกลำบากใจที่จะลงมือ นอกจากจะผิดกฎเกณฑ์แล้ว และในใจก็ยังรู้สึกไม่ดีอีกด้วย

พ่อลูกตระกูลเหอ โดยเฉ
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 608

    “ทำ ทำได้ดีมาก!” เขาเลือดเดือดแทบจะเดือดพล่านออกมาแล้ว จะไม่ดีได้อย่างไร?“เช่นนั้นคุณท่าน ......ให้ข้าเถอะ” เหออวี่ถงกัดริมฝีปากอีกครั้ง อาจจะเป็นเพราะความเขินอาย ครั้งนี้ใช้แรงเยอะกว่าครั้งก่อนมากมายเฉินฝานยื่นมือไปวางบนริมฝีปากของเหออวี่ถง “เด็กโง่ ไม่ต้องกัดแล้ว ถ้ากัดริมฝีปากอีกเลือดจะไหลแล้ว”“อื้อ~”เหออวี่ถงฉวยโอกาสโน้มตัวลงไปในอ้อมอกเฉินฝาน “ต้องการข้า ได้หรือไม่? ทำตรงนี้ ให้เสี่ยวเถาเปลี่ยนพรมใหม่แล้วครั้งที่แล้วก็ที่พื้นหญ้าเหออวี่ถงมีความฝักใฝ่ทำเรื่องอย่างว่าบนพื้นเป็นพิเศษไปแล้ว......“ขอโทษด้วยนะ ให้เจ้ารอนานเลย”ตอนที่กลับพระตำหนักไท่เหอ เฉินฝานก็กล่าวขอโทษกับฉินเย่ว์เหมย ก่อนที่จะไปรับปากกับนางว่าจะเพียงครู่เดียว ไม่คิดเลยว่าจะอยู่นานขนาดนั้นอันที่จริงเป็นเพราะเหออวี่ถงเร่าร้อนเกินไปฉินเย่ว์เหมยพูดน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ข้าก็ไม่โกรธเสียหน่อย เจ้าให้ลูกกับนางคนหนึ่ง ก็เป็นเรื่องที่ถูกที่ควรแล้ว เสียนเฟยต้องการลูกอยู่เคียงข้าง พวกเรา......” ฉินเย่ว์เหมยเงียบไปครู่ใหญ่ จึงพูดต่อว่า “และต้องการเด็กคนนี้ ถ้ามีเขาพวกเราจึงได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเหออย่างแท้จริ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 609

    “ฝ่าบาท” ชุยต๋าหลุนโค้งตัวเล็กน้อย “ด่านทางเหนือเผชิญกับความหนาวเหน็บอย่างกะทันหัน กองทัพหมาป่าต้องการเสื้อผ้ากางเกงผ้าห่มผ้าฝ้ายจำนวนมากอย่างเร่งด่วน”“เผชิญกับความหนาวเหน็บอย่างกะทันหัน? เช่นนั้นต้องรีบส่งไปโดยเร็ว ขุนนางเสิ่นที่รัก เรื่องนี้เจ้าไปจัดการอย่างเร่งด่วนที่สุด” เปรียบเทียบกับก่อนหน้านี้ น้ำเสียงของฉินเย่ว์เหมยอ่อนลงไปมากแต่ละส่วนแต่กรมในราชสำนักอำนาจส่วนใหญ่ล้วนอยู่ในมือของเสิ่นหมิงหยวน ฉินเย่ว์เหมยทำได้เพียงสงบเสงี่ยมเจียมตัวตามอย่างที่แล้วมา เสิ่นหมิงหยวนจะต้องฉวยโอกาสทำให้ฉินเย่ว์เหมยลำบากใจเป็นแน่ วันนี้เขากลับไม่ทำ“รับทราบ ฝ่าบาท เรื่องนี้ข้าจะควบคุมด้วยตัวเองแน่นอน”ระหว่างที่พูด เสิ่นหมิงหยวนก็หันหน้าไปมองเลขาธิการกรมคลัง“หลินชาง ด่านทางเหนือหนาวอย่างฉับพลันเสื้อผ้ากางเกงผ้าห่มผ้าฝ้ายเป็นสิ่งรักษาชีวิตของพลทหารกองกำลังหมาป่า พลทหารป้องกันการรุกรานจากศัตรูภายนอก เป็นปัญหาความปลอดภัยอันยิ่งใหญ่ของอาณาประเทศ ข้าขอออกคำสั่งกับเจ้า ภายในสิบวันส่งเสื้อผ้ากางเกงผ้าห่มผ้าฝ้ายสองแสนชุดไปที่ด่านทางเหนือ”“สิบวัน ใต้เท้า......”ต้องทำเสื้อผ้ากางเกงผ้าห่มผ้าฝ้ายสอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 610

    “พูดจามั่วซั่วในราชสำนัก ทหาร เอาตัวเฉินฝานออกไปราชสำนัก กักบริเวณสิบวัน ลดเงินรายเดือนสามเดือน!”ฉินเย่ว์เหมยน้ำเสียงดุดัน สายตาที่มองเฉินฝานดุดันยิ่งกว่าน้ำเสียงเสียอีกนางตักเตือนเขาไปตั้งหลายรอบแล้ว ราชสำนักไม่ใช่ตลาดสด คำพูดทุกคำในราชสำนักล้วนต้องไตร่ตรองให้ดีจึงจะพูดออกมาได้เพราะมีโอกาสเป็นไปได้มากว่าเสียตำแหน่งขุนนาง ร้ายแรงก็อาจจะถูกตัดหัว เป็นภาระให้คนที่บ้าน เพียงเพราะมีหนึ่งตัวอักษรหรือหนึ่งคำที่ใช้ไม่ถูกต้องหงอิงรวดเร็วมาก ฉินเย่ว์เหมยเพิ่งจะพูดจบ นางก็มาอยู่ด้านหน้าเฉินฝาน ลากแขนเขาอย่างแรงเดินออกไปด้านนอก“นี่ ผู้บัญชาการหง อย่ารีบร้อนไป!”เสิ่นหมิงหยวนห้ามปรามหงอิง และหันไปพูดกับฉินเย่ว์เหมย “ฝ่าบาท หม่อมฉันคิดว่าที่เฉินฝานพูดนั้นถูกต้อง อากาศที่หนาวเหน็บสุดขีด อย่าแต่สิบวันเลย แค่หนึ่งชั่วยาม พวกเราล้วนสามารถสูญเสียกองทัพหมาป่าไปคนหนึ่งได้”“พลทหารกองทัพหมาป่า ปกป้องด่านทางเหนือ ขับไล่คนนอกด่าน ที่พวกเราสามาถปรึกษาหารือในราชสำนักได้อย่างปลอดภัยเช่นนี้ ล้วนมีผลสืบเนื่องมาจากการสละชีพปกป้องของพลทหารกองทัพหมาป่าทั้งหมด”“หากของง่ายๆอย่างเสื้อผ้ากางเกงผ้าห่มผ้าฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 611

    ยังคงไม่มีใครสนใจเฉินฝานสายตาของฉินเย่ว์เหมยมองไปที่หงอิง หงอิงพยักหน้า รีบเดินเข้าไปในตำหนัก ตอนที่นางออกมาอีกครั้ง ในมือกำลังยกกล่องเล็กขนาดใหญ่เปิดกล่อง ข้างในเต็มไปด้วยทองคำทอประกายแวววาวเฉินฝานพึมพำในใจทองคำเหล่านี้คงจะเป็นของล้ำค่าที่ฉินเย่ว์เหมยเก็บไว้ใต้เตียงมังกรกระมังครั้งก่อนตอนนางเอ่ยถึงเงินก้อนนี้กับเขา เป็นตอนที่เขาเพิ่งเข้าวังหลวง นางรู้สึกว่าตนไม่อาจเอาชนะเสิ่นหมิงหยวนได้ จึงให้เขานำเงินก้อนนี้ พาบรรดาน้องสาวของนางหลบหนีไปให้ไกลครั้งนี้...“ครั้งก่อนเพียงครู่หนึ่งก็ทำเงินได้ห้าล้านกว่าตำลึง แต่ท้องพระคลังไม่มีเงินเป็นทุนเดิม แดนเหนือกำลังมีสงคราม เมืองน้อยใหญ่ทั่วแคว้นกำลังเกิดภัยพิบัติ ทุกแห่งหนล้วนจำเป็นต้องใช้เงิน เงินที่ใช้ได้เกรงว่าจะไม่มากแล้ว”ในที่สุดฉินเย่ว์เหมยก็ยอมคุยกับเฉินฝานแล้ว แต่ว่า น้ำเสียงของนางไม่ค่อยดีเท่าใดนัก“แม้เงินไม่มากนัก แต่ทำเสื้อผ้าฝ้าย กางเกงผ้าฝ้ายและผ้าห่มสองแสนชุด ยังคงเพียงพอ” เฉินฝานกล่าว“เฮ้อ!” ฉินเย่ว์เหมยหงุดหงิดในความไม่ได้ดั่งใจของเฉินฝาน “เจ้าช่างหัวดื้อจริงๆ เจ็ดวัน เจ้าไม่มีทางทำเสื้อผ้ามากมายขนาดนั้นได้ ตอนน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 612

    เจ้าพาเฉินซือเจี๋ยรวมถึงคนในครอบครัวของเขา ออกเดินทางวันนี้ ส่งพวกเขาไปหาฉู่หยางหง ณ แคว้นฉู่อย่างปลอดภัย”ด้านการค้า เฉินฝานมากความคิด ฉู่หยางหงต้องปกป้องเฉินฝานแน่นอน“น้อมรับคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ!“จำเอาไว้! ต้องให้พวกเขาไปถึงอย่างปลอดภัย!”ฉินเย่ว์เหมยกำชับคำว่าปลอดภัยอีกครั้ง“ฝ่าบาท!” เสียงของเหอจื่อหลินดังก้อง น้ำเสียงหนักแน่น “ตราบใดที่เฉินซือเจี๋ยและครอบครัวยังมีชีวิต กระหม่อมก็จะยังมีชีวิตพ่ะย่ะค่ะ!”มองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เฉินฝานตื้นตันใจอย่างมาก ทว่าในทางเดียวกันก็ไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะ “พวกท่านกำลังทำสิ่งใด ต้าชิ่งเป็นแคว้นของข้า เป็นบ้านของข้า ข้าไม่มีทางไปจากที่นี่”เฉินฝานรู้ดีว่าพวกฉินเย่วืเหมยจะโต้แย้งเขาแน่นอน เขาจึงรีบพูดต่อ “พวกท่านโปรดวางใจ พวกเสิ่นหมิงหยวนไม่อาจสังหารกระหม่อมได้ เสื้อผ้าฝ้ายสองแสนตัว กระหม่อมทำได้พ่ะย่ะค่ะ”ขณะพูด เฉินฝานเตะหลี่ซานหนึ่งครั้ง “พวกเขาไม่รู้จักข้าดี ไม่เชื่อใจข้า เจ้าก็ไม่เชื่อใจข้าเช่นนั้นหรือ!”“น้องฝาน...” หลี่ซานลังเลเล็กน้อย “เจ้ามีวิธีจริงๆ หรือ?”“มี ภารกิจของเจ้าในตอนนี้ข้ารีบออกไปจากวังหลวง ซื้อฝ้ายและผ้ามาให้ข้า!”

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 613

    เฉินฝานทำเรื่องน่าอัศจรรย์มากมายในอำเภอผิงอัน เมื่อก่อนซูซิวฉีเคยบอกนางแต่ว่าสร้างเครื่องจักรสุดมหัศจรรย์ที่สามารถตัดเย็บเสื้อผ้าฝ้ายสองแสนตัวในเจ็ดวัน ของเช่นนี้ ฉินเย่ว์เหมยไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีจริง“สิ่งนั้นที่เรียกว่า เรียกว่า...เฮ้อ เมื่อฝ่าบาทเห็นก็จะทรงทราบพ่ะย่ะค่ะ”หลี่ซานพูดจบ ลากเหอจื่อหลินออกไปข้างนอก “เหอจื่อหลิน ไปเร็วเข้า ไปเปิดหูเปิดตากับข้าขอรับ”เหอจื่อหลินไม่ได้ขัดขืน ปล่อยให้หลี่ซานดึงตัวเขาครั้งก่อน ตอนอยู่อำเภอหลี หลี่ซานเคยดึงตัวเหอจื่อหลินไปดูเป็ดย่างที่เฉินฝานทำหลังจากหลี่ซานและเหอจื่อหลินไป หงอิงมองฉินเย่ว์เหมย “ฝ่าบาท ให้หม่อมฉัน...ไปรับคนนอกเมืองดีไหมเพคะ”เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว นางเองก็เริ่มเชื่อเฉินฝานแล้วตอนอยู่อำเภอหลี เฉินฝานก็ไม่น่าเชื่อถือเช่นนี้ แต่สุดท้าย ไม่เพียงพึ่งพาได้ ทั้งยังทำได้เยี่ยมยอดผู้ใดจะคาดคิด ไม่ต้องสูญเงินกับภัยพิบัติ ทั้งยังได้เงินจากภัยพิบัติครั้งนี้ ไม่แน่อาจจะเป็นเช่นนั้นก็ได้“เหตุใดแม้กระทั่งเจ้าก็ยัง...ช่างเถอะ” น้ำเสียงของฉินเย่ว์เหมยโอนอ่อนลงเล็กน้อย “เช่นนั้นเจ้ารีบไปเถอะ”“สุดท้าย หากเจ้าทำไม่สำเร็จ พาลให

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 614

    หลี่ซานมองจักรเย็บผ้าที่เฉินฝานเพิ่งประกอบเสร็จด้วยความระมัดระวัง “น้องฝาน เจ้าสิ่งนี้ หนึ่งชั่วยามตัดเย็บเสื้อผ้าได้หลายตัวจริงๆ หรือ?”เสื้อผ้าในยุคสมัยนี้ ล้วนอาศัยแรงงานของสตรีในการตัดเย็บทีละเส้นๆ เสื้อผ้าหนึ่งตัว โดยเฉพาะเสื้อผ้าฝ่าย อย่างน้อยต้องใช้เวลาห้าถึงหกวัน จึงจะตัดเย็บเสร็จ“นี่คือเวลาพิสูจน์ปาฏิหาริย์แล้ว”เฉินฝานฉีกม่านเล็กน้อย ใช้กรรไกรตัด หลังจากนั้นนั่งตรงหน้าจักรเย็บผ้า นำม่านสอดไว้ใต้จักรเย็บผ้า แล้วใช้เท้ากด“ติ๊ด ต๊าด ติ๊ด ต๊าด ติ๊ด ต๊าด...”เสียงจักรเย็บผ้าดังเป็นจังหวะเสียงที่ดังขึ้นกะทันหัน ทำให้ทุกคนตกใจ ทุกคนถอยหลังตามสัญชาตญาณ หงอิงถึงขั้นยืนป้องหน้าฉินเย่ว์เหมย“จิ๊ๆๆ จักร...เย็บผ้านี้ ต๊าดต๊าดนี้”เสียงจิปากของหลี่ซาน ดังก้องตำหนักไท่เหอจักรเย็บผ้าสามคำนี้ ไม่คุ้นปากเกินไป เขานึกไม่ออกจริงๆ จึงเรียกว่ารถต๊าดต๊าด “ความเร็วนี้ การเย็บของเข็มนี้ ทั้งตรงและถี่ รถต๊าดต๊าดสุดยอดมากจริงๆ”เสียงร้องด้วยความตกตะลึงของหลี่ซาน ดังขึ้นเรื่อยๆคนที่ก่อนหน้านี้ถอยหลัง ไม่อาจต้านทานความสงสัย พวกเขาล้อมวงเข้ามาฉินเย่ว์เหมยผลักหงอิงที่ยืนขวางหน้านาง และเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 615

    บุญคุณและความแค้นเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างฉินเย่ว์เหมยกับเฉินฝาน แน่นอนว่าพวกเหอจื่อหลินย่อมไม่มีทางรู้เหอจื่อหลินชี้ไปยังหมอนที่เฉินฝานกอดเอาไว้ “เฉินซือเจี๋ย กอด กอดนี้ของท่าน...”“หมอนกอด!” เฉินฝานพูด“อ่อ ใช่ หมอนกอดๆ ชื่อเรียกไม่สำคัญ” เหอจื่อหลินโบกมือ “สิ่งสำคัญคือข้าเพิ่งค้นพบว่าสิ่งที่ท่านทำ ใช้เวลาหนึ่งจิบน้ำชาเท่านั้น ความเร็วนี้ช่างน่าอัศจรรย์อย่างมาก!”“เฮ้อ! หากไม่เร็ว น้องฝานจะชมตัวเองเช่นนี้ได้อย่างไร การชื่นชมตนเองของน้องฝาน ไม่เคยสูญเปล่า”สีหน้าของหลี่ซานเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจรู้จักเฉินฝาน ทั้งยังกลายเป็นพี่น้องคนสนิทของกันและกัน คือวาสนาที่เขาหลี่ซานทำบุญสั่งสมมานับร้อยชาติ“เป็นความเร็วที่น่าอัศจรรย์จริงๆ ของสิ่งนี้ สตรีห้าสิบคนรวมกันยังไม่อาจเทียบได้”กลุ่มพ่อค้าแคว้นฉู่ก็ชมไม่หยุด“ห้าสิบคน? หึ!” หลี่ซานหัวเราะในลำคอด้วยความลำพองใจ เขาชูนิ้วโป้งและนิ้วชี้ขึ้น “เป็ดสิบ สตรีแปดสิบคนรวมกันยังไม่อาจเทียบได้ อีกทั้งต้องเป็นสตรีที่ทำงานรวดเร็ว คนทำงานช้าต้องประมาณหนึ่งร้อยคน”“น้องฝาน เจ้าช่างเก่งจริงๆ!” เหอจื่อหลินตบหัวไหล่เฉินฝาน “แม้จะมีเครื่องต๊าด ต๊าดนี้.

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status