แชร์

บทที่ 7

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
หลังจากที่ฉินเย่ว์เจียวออกไปข้างนอก ฉินเย่ว์โหรวก็ยกอาหารที่เฉินฝานกินไปได้ครึ่งหนึ่งออกไปขึ้นโต๊ะ

“นายท่าน ข้าน้อยอุ่นข้าวแล้ว ท่านทานเถอะเจ้าค่ะ!”

พูดจบก็วางอาหารแล้วหมุนตัวจะออกไป

หลังออกจากห้องหลัก ฉินเย่ว์โหรวเรียกฉินเย่ว์เจียวให้ไปกินข้าวเย็น

สองพี่น้องไม่ได้เข้าไปกินอาหารในห้องหลัก พวกนางเดินเข้าไปในครัว หนึ่งคนถือหนึ่งชามกินอาหาร

เฉินฝานนั่งลง มองชามข้าวใบเล็กตรงหน้าเขาแล้วยิ้มอย่างจนใจ ชามข้าวนี้ของเขา กินแล้วช่างเต็มไปด้วยความพลิกผันเหลือแสนเสียจริง กินตั้งแต่เที่ยงถึงเย็นก็ยังกินไม่หมดเลย

ในขณะที่ยิ้มอย่างขมขื่น เฉินฝานก็เงยหน้าขึ้น อีกฟากหนึ่งของห้องครัว สีหน้าอันเจ็บปวดของสองพี่น้องฉินที่กลืนอาหารอย่างขมขื่นก็ตกอยู่ในสายตาของเขา

เมื่อคิดว่าสิ่งที่อยู่ในชามของพวกนางไม่ใช่ข้าวขัดสีแต่คือผักป่า เขาก็กินไม่ลง

เดิมทีเขาต้องการเรียกพวกนางมากินข้าวด้วยกัน แต่เมื่อมองดูชามข้าวขนาดเล็กบนโต๊ะแล้ว คิดอีกที ฉินเย่ว์โหรวคงกลัวว่าเขาจะ...

“ตึง!”

เฉินฝานกระแทกตะเกียบลงบนโต๊ะ

เป็นดังคาด ฉินเย่ว์โหรวที่อยู่อีกฟากของห้องครัวตกใจจนผุดลุกขึ้นยืน ฉินเย่ว์เจียวก็ยืนขึ้นตาม นางดึงฉินเย่ว์โหรวไว้ข้างหลังเพื่อปกป้อง

“ข้าวน้อยแค่นี้ยังไม่พอติดร่องฟันเลย เมื่อครู่มีเรื่องวิวาทไปก็หิวแล้ว ทำมาให้ข้าอีกสองชาม”

เขาไม่ใช่เจ้าของร่างเดิมและไม่สามารถกินข้าวคนเดียวได้

เมื่อข้าวเสร็จแล้ว เขาย่อมหาวิธีให้พวกนางกินได้เอง

จากความตระหนักถึงฉินเย่ว์โหรวในความทรงจำ ถ้าเขาตะโกนแบบนี้ นางก็จะดำเนินการให้ทันทีอย่างแน่นอน แต่ในขณะนี้ นางกลับลังเลที่จะขยับตัว

เฉินฝานขมวดคิ้วและตะโกนต่อไปว่า “ละล้าละลังอยู่ทำไม”

หลังจากนั้นไม่นาน ฉินเย่ว์โหรวก็ค่อย ๆ เดินมาที่ห้องหลัก ก้มหน้าลงจับมุมเสื้อผ้าไม่กล้ามองเฉินฝาน “นายท่าน ในบ้านไม่มี ไม่มีข้าว...”

คำพูดสุดท้ายที่ฉินเย่ว์โหรวพูดนั้นสั่นคลอนมากจนเฉินฝานฟังได้ไม่ชัดเจน

เจ้าของร่างเดิมต้องกินข้าวขัดสี ถ้าไม่มีข้าวขัดสีกินก็จะถูกทุบตีอีก

“ข้าจะไปล่าสัตว์เดี๋ยวนี้!” จู่ ๆ ฉินเย่ว์เจียวก็เดินเข้ามาพร้อมคันธนูและด้ามธนูบนหลังของนาง “นายท่าน…”

ทันใดนั้นฉินเย่ว์เจียวที่ดุดันและดื้อรั้นก็คุกเข่าลงตรงหน้าเฉินฝาน

“นี่! เจ้าทำอะไรน่ะ ลุกขึ้นมา!” เฉินฝานกระโดดขึ้นอย่างร้อนรน

เด็กดีของข้า!

พี่น้องสองคนนี้คุกเข่าลงไม่ขยับเลย มันช่างบั่นทอนชีวิตเขาจริง ๆ !

ฉินเย่ว์เจียวไม่เพียงแค่ไม่ลุกขึ้นเท่านั้น นางยังก้มหัวให้เฉินฝานแล้วพูด “ขอร้องนายท่านอย่าทุบตีน้องสี่อีกเลย คราวนี้ข้าน้อยจะต้องล่าสัตว์และแลกข้าวมาได้อย่างแน่นอน”

พูดเช่นนั้นก็ลุกขึ้นและเดินออกไป

“พี่สาม!” ฉินเย่ว์โหรวดึงฉินเย่ว์เจียวไว้ “ฟ้ามืดแล้ว พรุ่งนี้ค่อยไปเถิด!”

สัตว์ป่าจะปรากฏตัวในเวลากลางคืน มันอันตรายเกินไปสำหรับฉินเย่ว์เจียวที่จะไปที่นั่นในเวลานี้

นายท่านจะทุบตีก็ทุบตีเถิด นางไม่กลัว ชีวิตพี่สามสำคัญกว่า

“พรุ่งนี้ก็ไม่ทันแล้ว!” แม้ในเวลานี้ฉินเย่ว์เจียวจะตกอยู่ในอันตรายได้ แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ดีเช่นกัน

ร่างกายของฉินเย่ว์โหรวจะถูกทุบตีไม่ได้อีก ก่อนออกจากบ้าน พี่ใหญ่และพี่รองขอให้นางดูแลน้อง ๆให้ดี

น้องห้าก็...

นางไม่สามารถปล่อยให้น้องสี่เดินตามเส้นทางของน้องห้าได้อีก

ครั้นเห็นสองพี่น้องสกุลฉินทำท่าทีเหมือนกำลังจะตาย เฉินฝานก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

“ข้าว่าพวกเจ้าไม่สนใจความเป็นอยู่ของข้าเลยใช่หรือไม่ ข้าเป็นนายท่านของพวกเจ้า ในบ้านไม่มีข้าวแล้ว เรื่องหาเงินก็ให้ข้าคิดวิธีเอาเถอะ ให้ผู้ชายจัดการเอง”

"..."

ฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวมองเฉินฝานอย่างงุนงง ทั้งสองคนต่างมองกันและกัน

เฉินฝานที่มักจะบ่นว่าวันวันพวกนางหาเงินได้น้อยลง ทำให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้นไม่ได้ ทั้งทุบตีทั้งด่าทอพวกนาง แล้วพูดว่า...จะออกไปหาเงินเอง!

เรื่องเงินไว้ค่อยคุยกันทีหลัง สิ่งสำคัญตอนนี้คือต้องอิ่มท้องก่อน

เฉินฝานเดินออกจากห้องหลัก วางแผนจะไปห้องครัวเพื่อดูว่าในบ้านยังมีอะไรอย่างอื่นที่กินได้หรือไม่

เมื่อเข้าไปในครัว เฉินฝานก็สะดุ้งตัวเล็กน้อย

ภาพนี้แตกต่างจากห้องหลักที่เขาอยู่ตอนนี้อย่างสิ้นเชิง ในนี้เก็บกวาดอย่างสะอาดและเป็นระเบียบ แม้ว่าจะดูโทรม แต่ก็รู้สึกอบอุ่นและสบายตา

กระป๋องเก่าวางอยู่บนขอบหน้าต่าง ด้านในยังใส่กิ่งก้านที่ตัดแต่งแล้ว

จะเห็นได้ว่าเจ้าของครัวคนนี้เป็นคนอ่อนโยนขันแข็ง และยังงดงามชวนฝันเล็กน้อย

คนงามอ่อนโยนคนนั้น ไม่ต้องคิดก็รู้ได้ทันทีว่าคือ..

เฉินฝานหันกลับไปมองฉินเย่ว์โหรวซึ่งยืนอยู่ที่ประตูห้องครัวซึ่งมองเขากลับทั้งที่ตัวสั่นเทา

“เย่ว์โหรว สถานที่แห่งนี้เป็นเจ้าที่จัดเก็บสินะ มันสบายตามาก ดูเหมือนว่าเจ้าจะทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจได้ ภายหน้าเจ้าก็จัดเก็บห้องหลักในแบบเดียวกันด้วยสิ”

“หา?” ฉินเย่ว์โหรวมองเฉินฝานอย่างชะงักงัน

ก่อนหน้านี้เฉินฝานไม่เคยเข้าไปในครัวเลย และในห้องหลัก ยามที่เขาเห็นพี่น้องในระหว่างวันก็รำคาญ จึงไม่ให้พวกนางเข้าไป ไม่ต้องพูดถึงให้นางเข้าไปเก็บกวาด

แล้วเขายังบอกว่านางดูสบายตาน่ะหรือ

เมื่อก่อนคำพูดที่เขาชอบพูดมากที่สุดคือ: ไสหัวไป เห็นเจ้าเหมือนผีเช่นนี้แล้วน่ารำคาญ!

เฉินฝานเพิกเฉยต่อความประหลาดใจและความสับสนของฉินเย่ว์โหรว เขาหันกลับแล้วเดินไปยังเตา ในนั้นมีชามบิ่นสองใบเต็มไปด้วยอาหารที่เขาไม่รู้จัก

มันเป็นสิ่งที่พี่น้องฉินเพิ่งกิน

อาหารในชามเป็นสีเขียว เฉินฝานเดาว่าเป็นผักป่า

เฉินฝานคีบออกมาเล็กน้อยแล้วใส่เข้าไปในปาก

“แหวะ!” ทันทีที่ผักป่าเข้าปาก เฉินฝานก็อดไม่ได้ที่จะพ่นพวกมันออกมา

นี่มันอาหารอะไรกัน ทั้งขมทั้งคาว

“พวกเจ้ากินลงได้ยังไง”

“ท่าน...” ฉินเย่ว์เจียวลังเลอยู่พักหนึ่ง ชี้ไปที่หัวของตน “ท่านตกลงไปในหุบเขา ยังไม่หายดีใช่หรือไม่ เรากินแบบนี้ทุกวัน”

“กินทุกวัน? ไม่สิ!” เฉินฝานส่ายหัว “จะกินมันทุกวันได้อย่างไร”

เฉินฝานเดินไปที่ถังข้าวซึ่งวางตรงหัวมุม เปิดออกแล้วรู้สึกหนาวสั่นในใจอย่างฉับพลัน

ด้านในก็เป็นอย่างที่ฉินเย่ว์โหรวพูดเมื่อครู่ มันว่างเปล่า

ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว การออกไปหาข้าวปลาอาหารก็ไม่สะดวกแล้ว แต่มโนธรรมสำนึกของเขาทนไม่ได้ที่จะเห็นพี่น้องฉินกินผักป่าต่อไป

จะทำอย่างไรดี?

เฉินฝานมองผักป่าในชาม จากนั้นจึงมองอาหารบนโต๊ะเล็ก ๆ ในห้องหลัก

มีวิธีแล้ว!

เฉินฝานนำข้าวและเนื้อจากห้องหลักมายังห้องครัว

“เย่ว์โหรว ช่วยข้าจุดไฟหน่อย”

“ทำตะลึงอันใด มาจุดไฟสิ!”

เฉินฝานขึ้นเสียงเรียกฉินเย่ว์โหรวที่กำลังมึนงง

“เจ้าค่ะ” ฉินเย่ว์โหรววิ่งเหยาะ ๆ เข้ามา ก้นที่เพิ่งติดอยู่กับเก้าอี้ตัวเล็กเมื่อครู่ก็ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง นางมองเฉินฝานแล้วพูดอย่างระมัดระวัง “นายท่าน กับข้าวเย็นอีกแล้วหรือเจ้าคะ ให้ข้าน้อยทำเถอะ”

แม้ว่าฉินเย่ว์โหรวจะมีท่าทีระมัดระวัง ทว่าทุกคำพูดของนางก็เผยให้เห็นถึงความสงสัย

ท่านจะทำได้หรือ?

อย่าเปลืองทั้งฟืนและอาหารเลยเจ้าค่ะ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
tom Promphibal
ชื่นชอบๆๆๆๆๆๆ
goodnovel comment avatar
Chainiwat
สนุกๆสนุกสนุก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status