Home / โรแมนติก / เขยอีสาน จาติรัช / บทที่ 4 ฉลองได้งานใหม่

Share

บทที่ 4 ฉลองได้งานใหม่

Author: plernwalee
last update Last Updated: 2025-11-15 21:18:06

“จาลูก เกรงใจคุณวิชาหน่อยสิคะ” คุณย่าเสียงอ่อนยิ้มแห้งมองแขกที่มาหาอย่างเกรงใจ เมื่อสิ่งที่ท่านคุยกับแขกก่อนหน้าไม่เป็นไปหลังจากที่เจ้าตัวมาถึง

“แล้วทำแบบนี้คุณย่าเกรงใจผมหรือยังครับ ถึงจะให้ผมเกรงใจคนอื่น”

“แต่หลานคุณวิชาเขาเหมาะกับพี่จานะคะลูก การศึกษาก็ดี มารยาทดี ฐานะ ตระกูลดีครบ สมัยนี้ผู้หญิงดี ๆ ครบขนาดนี้หาแทบไม่ได้แล้วนะคะ ลูกลองให้โอกาสน้องลองมาทำงานใกล้ชิดกันดูก่อนนะคะ” คุณย่ายังไม่วายเชียร์หลานสาวคนรู้จักให้หลานชาย ซึ่งคนฟังก็ได้แต่ถอนหายใจกับความวุ่นวายที่มองเห็นลาง ๆ นี้

“ครบขนาดนั้นวันนี้เขาไม่ได้มาสัมภาษณ์หรอกครับ วันนี้คนมาสัมภาษณ์ 3 คนจบ ป.ตรี ในไทยทั้งหมด” ชายหนุ่มสวนขึ้นทำเอาคุณวิชาหน้าเจื่อนไปทันทีเพราะเมื่อครู่เพิ่งบอกกับคุณหญิงว่าส่งหลานสาวไปเรียนเมืองนอกเพิ่งกลับมาแต่ไม่ได้บอกว่าไปเรียนแค่ภาษาเท่านั้น

 “คุณหญิงครับผมว่าผมขอตัวก่อนดีกว่าครับ แล้วเรื่องนัดทานข้าวของเราคง...”

“นัดทานข้าวกับคุณย่าได้แต่อย่านัดผม อย่าเทียบเชิญหรือเมลมารบกวนเลขาผม ผมไม่อยากเสียมารยาทกับผู้ใหญ่บ่อย ๆ สวัสดีครับ” ชายหนุ่มสวนขึ้นด้วยภาษาไทยที่คิดว่าสุภาพที่สุดแล้วกับผู้ใหญ่ แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงยกมือไหว้แขกของคุณย่าแกน ๆ อีกครั้ง

“จากัวร์ลูก ทำไมลูกพูดกับแขกของย่าแบบนั้นคะ” คุณย่าดุหลานชายเสียงขุ่นเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ไว้หน้าท่านต่อหน้าแขกที่มาเอาซะเลย

“ภาษาไทยผมยังไม่สุภาพหรือครับ ผมคิดนานมากเลยนะกว่าจะได้คำยาวขนาดนั้น แล้วถ้าเรื่องนี้ถึงหูอาโรมหรือคุณพ่อจะเป็นยังไงคุณย่าคงรู้นะครับ” ว่าพลางหยิบแว่นตาออกจากกระเป๋าเสื้อมาสวมทำท่าจะเดินออกจากบ้าน

“แล้วพี่จะไปไหนลูก ไม่อยู่ทานข้าวเที่ยงกับย่าก่อนหรือไง” คุณย่าร้องตามหลานชายลั่นบ้าน

“ไปเอายาที่โรงพยาบาลมาให้ไงครับวันหลังนัดหมอก็ไปโรงพยาบาลนะไม่ใช่มาเล่นอะไรไร้สาระให้เสียเวลากันหมดแบบนี้ เมื่อเช้าผมเพิ่งกลับจากตุรกีคืนนี้ผมต้องไปดูงานแทนคุณพ่อที่จีน ไม่คิดจะให้ผมได้พักได้นอนหน่อยหรือไง ทีหลังถ้าจะเรียกผมทานข้าวเที่ยง ผมมาถึงตั้งนานก็บอกแม่บ้านของคุณย่าหาน้ำมาให้ผมแดกด้วยครับ” ชายหนุ่มร่ายยาวจนคุณย่าสะดุ้งในประโยคท้าย ถึงเวลาในไทยไม่กี่ชั่วโมงของตัวเองแล้วเดินออกไปที่โรงจอดรถเรียกหากุญแจมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ของตัวเองขับออกจากบ้านคุณย่าไปแบบเซ็ง ๆ “เรียกกลับมาใช้งานของจริงเลยอากูเนี่ย แล้วพากันบ่นว่ากูไม่เข้าบ้าน ทำยังกับกูว่างมากมั้ง ฟันก็ปวด ข้าวเช้าก็ยังไม่ได้แดกจะชวนกินข้าวเที่ยง ว่างหาแม่พันธุ์ให้กูซะเหลือเกินนะย่าเนี่ย ทำไมไม่หาเวลานอนให้นอนบ้างวะ แม่ง!” รองประธานหนุ่มบ่นอย่างหัวเสียในขณะที่ขับรถออกไปโรงพยาบาล

...........//..........

Madmee part

หอพักบ้านร่มเย็น

หญิงสาวรีบวิ่งขึ้นตึกอย่างดีใจกับข่าวดีข่าวใหญ่ของตัวเอง รีบเปิดประตูเข้าห้องดึงแขนเพื่อนที่กำลังหลับอยู่ให้ลุกขึ้นนั่งอย่างตื่นเต้น

“ตื่น... หยาดพิรุณตื่น!” ว่าพลางจับเพื่อนเขย่าจนหัวสั่นหัวคลอน

“โอ๊ย! อะไรของมึงเนี่ย กูเพิ่งเตรียมของเสร็จเพิ่งได้นอนเมื่อกี๊เองนะ” น้ำฝนโวยวายกับการรบกวนการนอนของเพื่อนสาว ซึ่งถ้าเป็นวันปกติพวกเธอจะตื่นมาพร้อมกันไปตลาดซื้อผลไม้กับวัตถุดิบมาช่วยกันจัดเตรียมเพื่อที่จะนำไปปั่นขายที่ตลาดเย็นเสร็จแล้วถึงจะพากันกินข้าวและนอนพักเอาแรงอีกรอบ ก่อนจะออกไปตั้งร้านช่วงบ่าย แต่วันนี้เธอต้องทำคนเดียวซึ่งกว่าจะเสร็จก็เลยเที่ยงไปแล้ว

“วันนี้ไม่ขายค่ะ กูจะเลี้ยงบุฟเฟต์ที่ห้างด้วยนะ” หญิงสาวบอกกับเพื่อนพลางชูคูปองที่เธอได้รับจากสะพานลอยตอนกลับให้เพื่อนดู

“หมายความว่าไง” คนง่วงหงายหลังลงนอนอีกรอบ

“ก็ฉลองงานใหม่กูไง กูได้งานแล้วนะ วันนี้เราต้องไปซื้อชุดทำงานกันค่ะเพื่อน กูขอตังค์อ้าย(พี่ชาย)หม่อนมาแล้วด้วย ให้มาตั้งห้าพันเลยนะมึง” หญิงสาวบอกเพื่อนอย่างร่าเริง ซึ่งได้ผลคนง่วงเมื่อครู่ตาสว่างขึ้นมาทันทีกับคำว่าเพื่อนได้งาน บุฟเฟต์ และเพื่อนขอตังค์อ้ายได้ ซึ่งอ้ายหม่อนที่ว่านั้นคือพี่ชายคนรองของมัดหมี่ขึ้นชื่อเรื่องความงกสุดกว่าจะขอค่าขนมเพิ่มได้แต่ละครั้งต้องหาเหตุผลแทบจะต้องเขียนรายงานค่าใช้จ่ายแสดง ไม่เหมือนอ้ายหมอก พี่ชายคนโตของเธอที่ไม่ว่าน้องเอ่ยเมื่อไหร่จะรีบโอนมาให้ทันทีเพราะรู้ว่าน้องไม่มีงานและอยู่กับเพื่อน

“จริงดิ!” “จริงเว้ย หัวหน้าฝ่ายบุคคลโทรมาบอกให้เริ่มงานพรุ่งนี้เลย กูถามมาแล้วด้วยว่าใส่คัทชูได้ ใส่กางเกงได้แค่ให้สุภาพเจ้านายที่นี่เน้นสะดวก หัวสมัยใหม่ไม่จุกจิก ชุดเดิม ๆ ที่เราฝึกงานยังอยู่กูใช้ได้หมดเลยเว้ย แต่พรุ่งนี้ทำงานวันแรกไงเลยขอตังค์อ้ายหม่อนซื้อเสื้อใหม่ใส่เอาฤกษ์เอาชัยซะหน่อย ว่าจะขออ้ายหมอกซื้อรองเท้าด้วยแต่เดี๋ยวไปถึงห้างก่อนค่อยโทร ถ้าอ้ายออกเวรแล้วเผื่ออ้ายจะมาเลี้ยงด้วย” หญิงสาวร่ายยาวตอบเพื่อนแล้วยิ้มใส่หน้าจนตาหยี ตอนฝึกงานพวกเธอฝึกที่บริษัทของคนต่างชาติเขาไม่ให้ใส่ชุดนักศึกษาฝึกต้องใส่ชุดทำงานเหมือนพนักงานออฟฟิศทั่วไปเลยมีชุดทำงานหลายชุดและมันก็ยังไม่เก่าจนใส่ไม่ได้ ซึ่งก็ถือเป็นความประหยัดไปได้อีกมาก

“ของกูก็เยอะเราไซส์เดียวกัน คืนนี้ขนออกมาดูว่าตัวไหนยังใช้ได้เผื่อต้องแก้ต้องซ่อม” น้ำฝนสนับสนุนเพื่อนเต็มที่ ชุดที่พวกเธอซื้อตอนนั้นราคาค่อนข้างแพงถึงจะซื้อช่วงที่ลดราคาแต่ก็เป็นแบรนด์ดังที่คนทำงานใส่กัน ถ้าจะขายมือสองก็เสียดายเพราะใส่ไม่กี่ครั้งเลยเก็บไว้หาโอกาสใส่ 

“โอเคเลย ไปเร็วลุก! กว่ามึงจะอาบน้ำจะแต่งหน้าเสร็จหิวตายพอดี” สาวสวยรีบดึงแขนเพื่อนให้ลุกขึ้นอีกรอบ น้ำฝนจำต้องลุกขึ้นคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำตามคำสั่ง ส่วนเจ้ามือในวันนี้รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดตัวใหญ่สบาย ๆ กับกางเกงขาสั้นเอวยืดโชว์เรียวขาที่ชายเสื้อปิดจนมิด ผมที่สระไดร์อย่างดีเมื่อตอนเช้าถูกรวบด้วยยางรัดผมสีดำเส้นเล็กแล้วม้วนมวยไว้หลวม ๆ หนีบด้วยกิ๊บหนีบผมอันใหญ่ ล้างเครื่องสำอางออกจนหมดแล้วทาแค่ครีมกันแดดแป้งฝุ่นและลิปมันเท่านั้น ซึ่งตอนนี้หน้าของเธอขาวใสไม่ต่างจากเด็กมัธยมเท่าใดนัก ยิ่งเธอเป็นคนตัวเล็กสูงเพียง 152 เลยทำให้ดูเป็นเด็กเข้าไปใหญ่ทั้งที่อายุเกิน 23 ไปหลายเดือนแล้ว

2 สาวพากันขึ้นรถ 2 แถวไปลงที่ห้างดังที่ค่อนข้างไกลจากหอพักพอสมควร แต่ห้างนี้ก็เป็นห้างเดียวในย่านที่สะดวกมีทุกอย่างรวมทั้งร้านบุฟเฟต์ที่พวกเธอต้องการมากินด้วย (เรื่องอื่นเป็นรองเรื่องบุฟเฟต์นี่คือเรื่องหลัก ส่วนเสื้อผ้าซื้อตลาดเย็นก็ได้)

“กินก่อนหรือเดินก่อนดี” หญิงสาวเดินจูงมือเพื่อนเดินเข้าห้างหันไปปรึกษายิ้ม ๆ

“เดินก่อนสิ เหนื่อยค่อยกินจะได้คุ้ม ๆ”

“ความคิดดี งั้นขึ้นชั้น 3 กันวันก่อนเห็นในเพจลดราคาอยู่หลายร้านไม่รู้หมดเขตหรือยัง” ว่าจบกอดคอเพื่อนเดินขึ้นบันไดเลื่อน ชี้ชวนกันดูนั่นนี่อย่างสนุกสนานเพราะนาน ๆ จะมีเวลาออกมาเที่ยวเล่นแบบนี้ซักครั้ง ถึงน้ำฝนจะมีร้านขายน้ำปั่นเป็นของตัวองและขายค่อนข้างดี แต่มัดหมี่ยังต้องขอเงินพี่ชายใช้ประกอบกับความขี้เกียจเหมือน ๆ กัน พวกเธอเลยมาไม่ค่อยมาบ่อยนัก ของกินของใช้จะซื้อที่ตลาดที่พวกเธอขายของตอนเย็นเท่านั้น

“ฝน...ต่อไปกูทำงานใครจะช่วยมึงตั้งร้านล่ะ กว่ากูจะเลิกงานถ้าไม่มีโอก็ 5 โมงเย็นเลยนะ แต่ฝึกงานคงยังไม่มีโอหรอก” หญิงสาวถามเพื่อนอย่างวิตก ตลอดปีกว่าที่ผ่านมาถึงมัดหมี่จะบอกพ่อกับแม่ว่าเธออยู่กับแฟนใหม่แต่พี่ชายทั้ง 2 ที่รับราชการอยู่ในกรุงเทพของเธอรู้มาตลอดว่าน้องสาวยังโสดพักอยู่กับเพื่อนและว่างงาน เลยพากันส่งค่าใช้จ่ายรายเดือนให้น้องสาวไม่ขาด เธอเลยไม่ได้รบกวนพ่อแม่ให้พวกท่านสงสัย ทุกวันเธอจะช่วยเพื่อนตั้งร้านและขายน้ำปั่นที่ตลาดเย็นจนปิดตลาด แต่ไม่รับค่าแรงหรือค่าจ้าง เพราะบอกว่าตัวเองมาเกาะเพื่อนกิน น้ำฝนเลยไม่ให้เธอจ่ายค่าห้องและรับหน้าที่จ่ายค่ากับข้าวเองทั้งหมด โดยที่พี่ชายคนโตของมัดหมี่เสนอจ่ายค่าน้ำค่าไฟให้เพราะไม่อยากให้น้องเบียดเบียนเพื่อนมากเกินไป 

“ก็บอกอ้ายมึงมาช่วยกูสิคะ” น้ำฝนพูดพลางหัวเราะชอบใจแต่ไม่ได้จริงจังกับคำพูดของตัวเองนักแต่เพื่อนกลับคิดจริงจังดังว่า

“เออ...จริงด้วย กูบอกอ้ายหมอกมาช่วยมึงดีกว่า...

อยากบอกพี่จาของคุณย่าว่า น้ำใช้คำว่าดื่มค่ะพี่ ไม่ใช่แดก ใครสอนภาษาไทยพี่มาแบบนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เขยอีสาน จาติรัช   บทที่ 25 ขอดื่มนิดเดียว

    “เพิ่งรู้นะคะว่าคุณจาทานอาหารอีสานรสจัดพวกนี้ได้” หญิงสาวว่าขึ้นพลางมองชายหนุ่มที่กำลังเอร็ดอร่อยกับอาหารอีสานรสจัดที่บางอย่างเธอกับเพื่อนก็ไม่สามารถทานได้แต่ดูง่ายมากสำหรับจาติรัช *นักเรียนนอกนี่มันนอกตรงไหนวะ นอกเทศบาลละมั้งกูว่าซดปลาร้าคล่องมากพ่อ...* หญิงสาวแอบคิดในใจ“คุณยายผม (หมายถึงแม่ยายคุณอา) เป็นคนอีสาน ผมไปหาบ่อย ๆ” คนพูดสั้นเริ่มพูดยาวขึ้น“ทำงานที่เดียวกับน้องสาวผมหรือครับ” หมอกพยายามผูกมิตรพลางแอบมองหน้าน้องสาวแล้วชำเลืองคนนั่งข้าง ๆ อย่างมีเลศนัย“ครับ ที่เดียวกัน”“ผมทำงานอยู่อีกฝั่งนาน ๆ ถึงจะมีเวลามาหาน้อง ๆ” รองสารวัตรหนุ่มพูดยิ้ม ๆ“บ้านคุณย่าผมก็อยู่อีกฝั่งเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยได้ไปเท่าไหร่” ว่าพลางรับแก้วน้ำที่หญิงสาวรินส่งให้มาดื่มจนหมดแก้ว“แล้วนี่คุณจาพักอยู่ไกลมั้ยครับ ผมว่าเราปล่อยสาว ๆ ขายของเราไปดื่มกันต่อดีกว่ามั้ย” คำชวนของพี่ชายที่ชวนรองประธานไปดื่มทำเอาน้องสาวถลึงตาใส่ทันที แต่ที่หมอกชวนดื่มเพราะสังเกตการณ์พูดแบบสั้น ๆ ถามคำตอ

  • เขยอีสาน จาติรัช   บทที่ 24 กินข้าวด้วยกันมื้อแรก

    ตลาดเย็นเป็นสุขในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผู้คนพลุกพล่านตั้งแต่ตลาดเริ่มตั้ง เพราะวันนี้นอกจากจะมีตลาดนัดแล้วยังมีมีดนตรีสดของนักเรียนนักศึกษาให้รับฟังกันฟรี ๆ ในสัปดาห์ต้นเดือนแบบนี้ ทำให้ตลาดมีความครึกครื้นขึ้นมาก 2 สาวเพื่อนรักรีบช่วยกันจัดร้านเสร็จตั้งแต่ก่อนบ่ายให้พร้อมขายก่อนจะพากันนั่งทานมื้อเที่ยงพร้อมกับมองลูกค้าเผื่อมาซื้อน้ำไปด้วย“เออ...หมี่ บิ๊กไบก์โรงทอคันนั้นไม่เห็นหลายวันแล้วนะ แม่บ้านบอกว่าเหมือนเขาไม่กลับมาเลย เข้าไปแอร์ไม่ฉ่ำ” น้ำฝนว่าพลางตักข้าวเข้าปาก“ไปต่างประเทศมั้งออฟฟิศก็ไม่เห็นตั้งแต่วันอังคารที่แล้วแล้วนี่” หญิงสาวตอบพลางตักกับข้าวใส่จานตัวเองไปด้วย“มึงรู้จักเขาแล้วดิ ใครวะ” น้ำฝนถามขึ้นไม่จริงจังนัก“ก็... เชี้ย!” หญิงสาวกำลังจะตอบแต่ต้องเปลี่ยนเป็นอุทานอย่างตกใจ เมื่อคนที่พวกเธอกำลังพูดถึงมายืนอยู่หน้าร้าน ถึงเขาจะใส่หน้ากากอนามัยปิดหน้ากับหมวกแก๊ป แต่ผิวขาวใสที่พ้นเสื้อยืดกับรูปร่างสูงโปร่งนั้นเธอจำได้ดี และเพิ่งนึกได้ว่าผู้ชายคนนี้คือลูกค้าประจำน้ำเปล่าของร้านเธอก่อนหน้าจะ

  • เขยอีสาน จาติรัช   บทที่ 23 น้องสอนพี่

    Jaguar partหลังจากที่คุณย่ามาที่โรงทอ ตลอดทั้งสัปดาห์รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ที่เคยจอดอยู่ในที่จอดส่วนบุคคลหายไป มีรถของริชชี่เข้ามาจอดแทนที่โดยที่เธอจะเข้ามาเช้ากว่าปกติแต่ก็หลังจากที่ออฟฟิศเข้ามางานแล้วแทบทุกวัน ซึ่งทำให้ทั้งออฟฟิศต่างมั่นใจกับข่าวลือที่ว่าริชชี่คือว่าที่คู่หมั้นตัวจริงของรองประธานจาติรัช เพราะวันนั้นเธอออกไปทานข้าวพร้อมกับครอบครัวคุณย่า คุณพ่อและคุณอาของชายหนุ่มชายหนุ่มนั่งถอนหายใจอยู่บนห้างส่องสัตว์ในขณะที่น้องชายกำลังนอนอ่านการ์ตูนในแท็ปเล็ตของพี่ชายอย่างสบายใจ“ไหนมึงบอกว่าหยุด 3 วันไงเจ” เสียงทุ้มเอ่ยถามน้องชายที่นอนยกขาขึ้นไขว่ห้างหนุนกระเป๋าของตัวเองอยู่ *แล้วดูแม่งอ่าน นี่มันเป็นหมอหรือเป็นคนไข้กันแน่วะ...* ชายหนุ่มคิดในใจมองน้องชายที่ยังไม่รู้จักโตของตัวเองขำ ๆ“ลาต่อไง ทำงานวันจันทร์” น้องชายตอบแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับการมานอนป่าเข้าคืนที่ 3 ของคนทั้งคู่ที่ตรงนี้ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก และจาติรัชก็มาหลายรอบเพราะชอบเป็นการส่วนตัวจนสนิทกับเจ้าหน้าที่อุทยานและพรานนำทางเป็นอย่างดี“กูมีงานต้องทำนะเ

  • เขยอีสาน จาติรัช   บทที่ 22 บอสมาทุกวัน

    ‘ผมหยุด 3 วัน พาผมเข้าป่าหน่อยนะเฮียนะ ให้ไปไหนก็ไปทั้งนั้นแหละยกเว้นค่ายมวยพ่อใหญ่อัฐ ผมไม่อยากเข้าออฟฟิศ’ น้องชายรีบอ้อนทันที เขาเป็นหมอเพิ่งกลับมาจากเรียนต่อปริญญาโทเข้ามาทำงานได้ไม่ถึง 3 เดือนและนาน ๆ จะมีวันหยุดยาวซักครั้ง แต่คุณพ่ออยากให้เข้าไปเรียนรู้งานในบริษัท เลยเกิดอาการงอแงอยากพัก จึงมาอ้อนให้พี่ชายพาหนีเข้าป่า“อยากเข้าป่า?” พี่ชายถามน้องชายขำ ๆ แล้วหันหลังเดินลงบันไดเพื่อกลับไปที่รถอีกครั้ง‘อือ...บอกทางมาสิครับผมติดไฟแดงอยู่เนี่ยจะให้เลี้ยวซ้ายหรือขวา’“เฮ้อ... กลับบ้านกูเลยเดี๋ยวกูกลับไปเอาเสื้อผ้าที่บ้าน ไปเอารถใหญ่ออก” ว่าจบกดวางสายสวมหมวกกันน็อกอีกรอบเพื่อจะกลับบ้านพลางมองสาวตัวเล็กที่เธอเปลี่ยนชุดเป็นกางเกงขาสามส่วนกับเสื้อยืดคอกลมตัวใหญ่เดินลงมาจากบนตึก“หมี่!” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกในขณะที่ขายาวก้าวคร่อมมอเตอร์ไซค์สตาร์ทเครื่องเสียงดังกระหึ่ม“คะ?” ขานรับพลางเดินเข้าไปหา *เรียกคล่องจนจะหลอนแล้วนะคะบอส...เอ้อ*“ขึ้นมาสิเดี๋ยวไปส่ง” ชายหนุ่มว่

  • เขยอีสาน จาติรัช   บทที่ 21 ชวนเธอกลับบ้าน

    “อย่าบอกใครว่าผมอยู่ในห้องนี้และอย่าบอกใครว่าผมเป็นใคร”“ทำไม?”“การเป็นผมมันไม่สนุก” ชายหนุ่มว่าพลางถอนหายใจ“ถ้าจะอธิบายยาว ๆ พูดภาษาที่ท่านรองถนัดหมี่ก็พอฟังได้นะคะ แต่ขอแบบช้า ๆ หน่อย” หญิงสาวว่ายิ้ม ๆ ซึ่งจากน้ำเสียงเธอก็พอเข้าใจถึงสิ่งชายหนุ่มบอกและพอจะเดาออกว่าอะไรเกิดขึ้นกับเขาจากเหตุการณ์วันนี้“คุณย่าผมท่านอยากให้ผมแต่งงานเลยพยายามหาคู่มาให้ ซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ที่ผมไม่เคยเห็นหน้า คนพวกนั้นเอาลูกหลานมาเสนอท่านเพราะหวังหุ้นของที่นี่และริชชี่ก็ไม่ใช่ว่าที่คู่หมั้นผมหรอกนะ” เมื่อรู้ว่าหญิงสาวฟังออกคำพูดก็ยืดยาวจนแทบฟังไม่ทันขึ้นมาทันที“เข้าใจแล้วค่ะ เรื่องที่ท่านรองอยู่ที่นี่หมี่จะไม่บอกใครค่ะ” ว่าจบทำท่าจะเดินออกจากห้องอีกรอบ“หมี่” “คะ?”“ผมชื่อจากัวร์ คนที่นี่เรียกผมว่าบอส แต่ถ้าเจอข้างนอกเรียกผมว่าจา” คำสั่งของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวขมวดคิ้วคิดตามทันทีแล้วต้องตาโตเมื่อนึกอะไรออกมาได้“จากัวร์? คุณคือคนที่เดิ

  • เขยอีสาน จาติรัช   บทที่ 20 เจอกันครั้งแรกอย่างเป็นทางการ

    “เมื่อไหร่พี่จาจะกลับมา” คำถามเศร้า ๆ ทำเอาหลานชายที่นั่งฟังอยู่ในห้องอยากออกมากอดคุณย่าของเขาใจแทบขาด แต่ก็ต้องทำใจแข็งเพราะถ้าออกมาตอนนี้คนที่นี่ต้องรู้ว่าเขาอยู่ที่ไทยและจะวุ่นวายไม่จบสิ้น“คุณแม่ลืมหรือครับว่าจามันมีบริษัทของตัวเองต้องดูแล ตอนนี้โรมก็มาทำงานได้มันก็ต้องไปดูแลบริษัทมันสิครับ มันแค่มาช่วยเราเฉย ๆ นะ” คุณสรัญพูดกับคุณแม่ยิ้ม ๆ พลางยกข้อมือดูนาฬิกา “ตอนนี้ 11 โมงกว่าแล้วเดี๋ยวเราออกไปทานข้าวกันเลยดีกว่า ผมจะพาคุณแม่ไปหาหมอเองนะครับ”“ก็ได้ งั้นหนูริชชี่ไปทานข้าวกับคุณย่านะคะลูก” ตอบรับลูกชายแล้วหันไปมาชวนคนที่อยากได้เป็นหลานสะใภ้ยิ้ม ๆ“แต่ว่าตอนนี้ยังไม่เที่ยงเลยนะคะคุณย่า ริชว่า...”“ไม่เป็นไรหรอกหนู ยังไงวันนี้หนูก็มาสายอยู่แล้วนี่ ตอนนี้หนูก็ยังไม่เริ่มทำงานเลย ฉันจะถือว่าเธอลางานช่วงเช้าก็แล้วกัน เอาเป็นว่าไปกินข้าวด้วยกันหมดนี่แหละ ไปชาติลุก” ท่านประธานตัดบทเพราะไม่อยากขัดใจคุณแม่ หันไปชวนเลขาหลานชายและเลยไปเรียกสาวสวยตัวเล็กที่นั่งหน้าประตูไปด้วย “หนูก็ด้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status