บรรยากาศรอบตัวกลับคืนสู่ความเงียบสงบ เหลือเพียงแค่พีทและอันนานั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารของพวกเขา
แสงไฟสีอุ่นจากโคมระย้าสาดส่องลงมา เพิ่มบรรยากาศโรแมนติกโดยไม่ตั้งใจ
บนโต๊ะมีเมนูอาหารสุดพิเศษที่ พีท เป็นคนเลือกสั่ง ทุกจานถูกจัดวางอย่างประณีต กลิ่นหอมของอาหารลอยคลุ้งไปทั่ว แต่เจ้าของร่างสูงที่เอนหลังพิงพนักเก้าอี้กลับไม่ได้ให้ความสนใจกับมื้ออาหารตรงหน้าเลย
สายตาของเขาจับจ้องไปที่หญิงสาวตรงข้าม ที่กำลังใช้ส้อมจิ้มอาหารในจานของเธออย่างเงียบ ๆ ท่าทางเหมือนตั้งใจจะโฟกัสกับมื้อนี้
แต่ชายหนุ่มรู้ดีว่าเธอเองก็รับรู้ถึงสายตาของเขา
“นี่…” เขาเอ่ย และมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้ม ดวงตาคมวาววับราวกับมีเรื่องในใจที่เขากำลังชั่งใจว่าจะพูดออกมาดีหรือไม่...
“แลกเบอร์กันไว้หน่อยสิ” พีท พูดหน้าตาย พลางหมุนส้อมในมืออย่างไม่ใส่ใจ
“เผื่อมีอะไรต้องคุยกันเรื่องโครงการวิจัย จะได้สะดวก”
อันนา มองเขาด้วยสายตาอ่านไม่ออก ก่อนจะยอมพยักหน้าเล็กน้อย
“ก็ได้ จะได้สะดวก”
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดหมายเลขของตัวเองแล้วเลื่อนหน้าจอไปให้ พีท บันทึกหมายเลขลงเครื่องของเขา ส่วนพีท ก็ทำแบบเดียวกัน เอ่ยบอกตัวเลขด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับเป็นแค่เรื่องธุรกิจทั่วไป
หลังจากที่ทั้งคู่แลกเบอร์กันเสร็จ อันนา ก็เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า แล้วตั้งใจจะหันกลับไปสนใจอาหารในจานต่อ แต่กลับรู้สึกได้ถึงสายตาของ พีท ที่ยังมองเธออยู่
พีท ยักไหล่เล็กน้อย
“ต่อไปนี้ เธอไม่มีข้ออ้างแล้วนะ ถ้าฉันจะโทรหาหรือส่งข้อความไป” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ แต่กลับแฝงอะไรบางอย่างที่ทำให้ อันนา รู้สึกแปลก ๆ
เธอจ้องเขานิ่ง ๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเบือนหน้าหนี ยกแก้วน้ำขึ้นจิบกลบเกลื่อนความรู้สึก
“ก็แค่เรื่องโครงการวิจัย ไม่เห็นจะมีปัญหาเลย” เธอตอบเรียบ ๆ
พีท หัวเราะในลำคอเบา ๆ มองท่าทางของเธอที่พยายามทำเป็นไม่สนใจแล้วก็ยิ่งนึกสนุกขึ้นมา
“ใช่… แค่เรื่องโครงการวิจัย” เขาทวนคำของเธอ แต่สายตากลับบอกว่าเขาไม่ได้หมายความแค่เรื่องนั้นแน่ ๆ
เขาเหลือบมองไวน์แดงในแก้วที่พนักงานรินไว้ให้ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ลองดื่มดูไหม?”
อันนา เงยหน้าขึ้น มองเขาอย่างลังเลก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ “ไม่ล่ะ ฉันไม่เคยดื่มไวน์เลย”
พีท ยกคิ้วขึ้น “จริงดิ? ไม่เคยเลยเหรอ?”
“อื้ม...” หญิงสาวพยักหน้าตอบ “ฉันไม่ชอบรสชาติของแอลกอฮอล์”
พีท เหลือบมอง อันนา เห็นเธอยังมองเขาอย่างลังเลกับคำชวนให้ดื่มไวน์ เขายิ้มขำ ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นเสยผมลวก ๆ
“งั้นไม่เป็นไร ฉันดื่มแทนเธอละกัน…”
น้ำเสียงของเขาฟังดูผ่อนคลาย แต่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์เล็กน้อย
พีท ยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ ปล่อยให้รสฝาดละมุนของไวน์แดงไหลผ่านลำคออย่างเนิบช้า ความอุ่นวาบแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายราวกับเปลวไฟอ่อน ๆ
ไม่นานนัก แอลกอฮอล์ก็เริ่มซึมเข้าสู่กระแสเลือด ปลุกเร้าให้เลือดลมสูบฉีดมากขึ้น ใบหน้าของเขาขึ้นสีระเรื่อจางๆ อย่างห้ามไม่ได้
ดวงตาเป็นประกายแฝงแววเจ้าเล่ห์ อารมณ์ของเขาคึกคักขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับพลังแห่งความมั่นใจของชายหนุ่มกำลังถูกปลุกให้ตื่นตัว
แสงไฟจากโคมระย้าสะท้อนกับผิวของเขา ยิ่งขับให้ใบหน้าหล่อเหลานั้นดูดีขึ้นไปอีก เส้นผมที่ตกลงมาปรกหน้าผากเพียงเล็กน้อยช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับเขาโดยไม่ต้องพยายามใด ๆ
พีท ดื่มไวน์ไปค่อนขวด แอลกอฮอล์เริ่มทำงาน มุมปากยกยิ้มเล็กน้อยขณะจ้องมอง หญิงสาวตรงหน้าที่กำลังก้มหน้าก้มตาทานอาหารของเธออย่างตั้งใจ ราวกับพยายามเร่งให้มื้อค่ำนี้จบลงโดยเร็ว
แต่สำหรับเขา—ภาพนั้นกลับยิ่งทำให้เธอดูน่าหลงใหลกว่าเดิม
ดวงตาคมเข้มที่เจือแอลกอฮอล์จ้องมองเธอเงียบ ๆ ลมหายใจของเขาลึกขึ้นเล็กน้อย รู้สึกถึงความร้อนที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นในกาย
อารมณ์ของชายหนุ่มที่ถูกกระตุ้นด้วยฤทธิ์ของไวน์ ทำให้ทุกการกระทำของเธอดูเย้ายวนไปหมด แม้กระทั่งการใช้ส้อมจิ้มเนื้อเข้าปาก หรือการที่ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยปอยผมที่ตกลงมาข้างแก้ม
เธอรู้ตัวหรือเปล่านะ... ว่าสายตาของเขากำลังกลืนกินเธออยู่เงียบ ๆ
พีท ยกแก้วไวน์ขึ้นจิบอีกครั้ง ปล่อยให้รสขมฝาดละมุนไหลผ่านลำคอ ขณะที่ความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัว
คืนนี้มันจะจบลงเพียงแค่มื้อค่ำจริง ๆ หรือ? สิ่งที่ กวิน พูด กำลังกัดกินเขาเอง เขานึกถึง คำของ กวิน ที่พูด ก่อนหน้านี้ “รีบไปส่ง หรือรีบไปทำอะไรกันแน่” เขาครุ่นคิด…
บรรยากาศเงียบไปครู่หนึ่ง อันนา เหลือบดูนาฬิกาข้อมือ เห็นว่าใกล้จะสี่ทุ่มแล้ว เธอถอนหายใจเบา ๆ แล้วหันไปบอกเขา
“นายช่วยไปส่งฉันที่หอพักได้ไหม? มันดึกมากแล้ว”
พีท กระตุกยิ้มมุมปาก
“โอเค เดี๋ยวฉันไปส่ง”
เขายกมือเรียกพนักงานเพื่อแจ้งเช็กบิล พนักงานชายในชุดสูทสุภาพเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงคุ้นเคย
“ให้ลงบัญชีคุณพีทเหมือนเดิมใช่ไหมครับ? ”
พีท ยิ้มบาง ๆ พร้อมพยักหน้าเล็กน้อย
“ใช่ ลงบัญชีเหมือนเดิม” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ราวกับเป็นเรื่องปกติ
อันนา มองเขาอย่างแปลกใจเล็กน้อย เธอเดาได้ว่าพีทน่าจะเป็นลูกค้าประจำของที่นี่ และอาจมีสถานะพิเศษจนสามารถเปิดบัญชีไว้ได้โดยไม่ต้องจ่ายทันที แต่เธอไม่ได้ถามอะไรออกมา แค่จดจำรายละเอียดนี้ไว้เงียบ ๆ
หลังจากจัดการค่าใช้จ่ายเสร็จ พีท หันกลับมาหาเธอ พร้อมกับเอ่ยด้วยรอยยิ้มอบอุ่น “ไปกันเถอะ ฉันไปส่งเธอเอง”
พนักงานในภัตตาคาร ต่างแอบชำเหลืองมอง พีทและหญิงสาว ด้วยความแปลกใจ แต่ไม่มีใครกล้าถามพูดหรือถามอะไรออกมาตรง ๆ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็น ชายหนุ่ม พาหญิงสาวมานั่งทานข้าวด้วยกันตามลำพัง
โดยปกติแล้ว พวกเขามักจะชินกับการที่เห็น พีท จะมารับประทานอาหารกับครอบครัว ทุกคนในภัตตาคารก็จะรู้กันดีว่าต้องให้การต้อนรับอย่างดีที่สุด เพราะครอบครัวของเขาเป็นลูกค้าคนสำคัญที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษเสมอ
ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาจะพาผู้หญิงมานั่งร่วมโต๊ะอาหารในบรรยากาศสบาย ๆ สองต่อสองเช่นนี้
แต่ครั้งนี้ต่างออกไป พนักงานแอบมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามพีทด้วยความสงสัย เธอเป็นใครกันแน่? ทำไมถึงได้รับ ‘สิทธิพิเศษ’ ที่ไม่มีหญิงสาวคนไหนเคยได้รับ?
พีท ลอบปรายตามองพนักงานที่กำลังสนใจเรื่องของเขามากกว่าปกติ ก่อนจะหรี่ตาลงเล็กน้อย
“มีอะไรสงสัยกันหรือเปล่า?” เสียงทุ้มของเขาเอ่ยถามขึ้นเบา ๆ แต่แฝงไปด้วยอำนาจ ทำให้พนักงานที่แอบชำเลืองมองรีบหลบสายตาแล้วกลับไปทำงานของตัวเองอย่างรวดเร็ว
อันนา สังเกตท่าทางนั้นก็อดเลิกคิ้วไม่ได้ “นายดุขนาดนั้นเลย?”
พีท ยิ้มมุมปาก
“เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ฉันพามาที่นี่ พวกเขาเลยสงสัย”
อันนา ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะกระพริบตา ดวงตากลมโตของเธอฉายแววไม่แน่ใจว่าควรรู้สึกอย่างไรกับคำพูดนั้น
พีท มองเธอเงียบ ๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ฉันก็แค่…อยากให้เธอรู้ว่าฉันไม่ได้พาใครมากินข้าวด้วยง่าย ๆ”
คำพูดนั้นทำให้หญิงสาวใจเต้นแรงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
พีท ยิ้มบาง ๆ ขณะมองเธอ แววตาเป็นประกายซ่อนความนัยบางอย่างที่อันนาไม่แน่ใจว่าเธอควรจะอ่านมันออกหรือไม่…
เมื่อทั้งคู่เดินออกมาด้านนอกภัตตาคาร…..
อากาศข้างนอกเย็นกว่าที่คิด ลมกลางคืนพัดผ่านจนเธอเผลอกอดแขนตัวเองเบา ๆ
พีท หันมาเห็น อันนา กอดแขนตัวเองเพราะอากาศเย็น เขาหัวเราะเบา ๆ
"หนาวเหรอ?" เขาถาม น้ำเสียงแฝงความเอ็นดู
เธอ ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะรีบส่ายหน้า "ไม่เป็นไร ฉันทนได้"
ชายหนุ่มถอดเสื้อช็อปวิศวะที่ใส่อยู่ออก แล้ววางมันลงบนไหล่เธออย่างแผ่วเบา
"ใส่ไว้เถอะ เดี๋ยวไม่สบาย" พีท ยืนยัน พร้อมขยับเสื้อให้เข้าที่ก่อนจะเดินนำไปที่ลานจอดรถ
เธอสวมใส่เสื้อช็อปวิศวะของเขา กลิ่นกายชายหนุ่มปนกลิ่นเหงื่อของเขา ยังคงติดอยู่ที่เสื้อ
หญิงสาวรู้สึกเหมือนตัวเองถูกกอดรัดโดยอ้อมแขนอันแข็งแกร่งของเขาโดยไม่รู้ตัว
อันนา ได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างของเขา ก่อนจะเผลออมยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว เธอไม่คิดว่าผู้ชายที่ดูกวนๆ สบาย ๆ ไม่แคร์อะไรอย่าง พีท จะมีมุมอ่อนโยนแบบนี้ด้วย
เมื่อเดินมาถึงรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ของเขา พีท หยิบหมวกกันน็อกแล้วยื่นให้เธอ
อันนา รับมาสวมอย่างเก้ ๆ กัง ๆ เธอไม่ค่อยได้นั่งมอเตอร์ไซค์บ่อยนัก ยิ่งเป็นคันใหญ่แบบนี้ยิ่งรู้สึกประหม่า
"เกาะฉันไว้ดี ๆ นะ" พีทพูดยิ้ม ๆ ก่อนจะขึ้นคร่อมรถและสตาร์ตเครื่อง
อันนาค่อย ๆ ขึ้นนั่งซ้อนหลัง เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยื่นมือไปจับที่ชายเสื้อเขาเบา ๆ
พีท รู้สึกได้ก็เลยหัวเราะออกมาเบา ๆ
“แบบนี้ไม่ไหวหรอก จับให้แน่นกว่านี้สิ เดี๋ยวเธอตกลงไปนะ” พีทบอกเสียงกลั้วหัวเราะ ก่อนจะคว้ามือของอันนาและดึงมากอดรอบเอวเขาไว้แน่นขึ้น
อันนา ตกใจ ดวงตากลมโตเบิกขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นว่ามอเตอร์ไซค์เริ่มเคลื่อนตัวไปข้างหน้า เธอก็ไม่มีทางเลือกนอกจากยอมทำตาม
แรงสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์สะท้านผ่านมือเธอ แต่สิ่งที่ทำให้เธอหวั่นไหวจริง ๆ กลับเป็นสัมผัสจากแผ่นหลังและเอวที่แน่นด้วยกล้ามเนื้อของชายหนุ่มผ่านเสื้อเชิ้ตตัวบางของเขา
ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวขึ้นมาทันที เธอพยายามกอดไว้หลวม ๆ แต่สัมผัสของเสื้อเชิ้ตตัวบางที่เขาสวมอยู่ทำให้เธอรับรู้ถึงไออุ่นจากร่างกายเขาได้ชัดเจนขึ้นกว่าเดิม หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นจนแทบกลบเสียงเครื่องยนต์
“แบบนี้แหละดี” พีท พูดเสียงทุ้มต่ำปนขบขัน “ฉันไม่อยากให้เธอเป็นเจ้าหญิงนิทรากลางถนนนะ”
อันนา เม้มปากแน่น รู้สึกเหมือนเขากำลังล้อเธออยู่ แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากซุกตัวเงียบ ๆ อยู่ข้างหลังเขา ลมเย็นพัดผ่านใบหน้าของเธอ แต่กลับไม่อาจดับความร้อนที่กำลังแผ่ซ่านอยู่ในอกได้เลย...
พีท ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะบิดคันเร่งพารถออกไป ทิ้งเสียงเครื่องยนต์แทรกผ่านความเงียบของค่ำคืน…
ถนนยามค่ำคืนโล่งและเงียบสงบ มีเพียงแสงไฟจากข้างทางและเสียงเครื่องยนต์ที่ดังก้องอยู่รอบตัว พีท ขับด้วยความเร็วปานกลาง ไม่ได้เร่งรีบ แต่ก็ไม่ได้ช้าเกินไป
ชายหนุ่มขับรถอย่างมั่นคง แต่เหมือนเขาจะรับรู้ถึงแรงกอดของเธอที่แน่นขึ้นเล็กน้อย เขาไม่พูดอะไร และแอบยิ้มเพียงเล็กน้อย
เมื่อมอเตอร์ไซค์จอดที่ไฟแดง พีท เอียงหน้ามาหาเธอเล็กน้อยก่อนพูดขึ้นด้วยเสียงที่ปะปนกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
"เธอกำลังใช้ฉันเป็นหมอนกอดอยู่รึเปล่า?"
อันนาสะดุ้ง รีบผละออกเล็กน้อย ใบหน้าร้อนผ่าว "เปล่าสักหน่อย!"
พีท หัวเราะเบา ๆ
"ถ้าเปล่าก็โอเค" เขาตอบก่อนจะขับต่อไปเมื่อไฟเขียวขึ้น
หญิงสาวไม่กล้าปฏิเสธความจริงว่า...เธอชอบสัมผัสนี้ ชอบความรู้สึกเวลาที่ได้อยู่ใกล้เขาแบบนี้มากกว่าที่คิด
ความใกล้ชิดระหว่างเธอกับ พีท ในตอนนี้ ทำให้เธอรู้สึกถึงจังหวะหัวใจของตัวเองที่เต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเร็วของมอเตอร์ไซค์ หรือเพราะความรู้สึกแปลก ๆ ที่ก่อตัวขึ้นในใจเธอกันแน่
ไม่นานนัก รถก็จอดลงหน้าหอพักของ อันนา เธอค่อย ๆ คลายมือออกจากเสื้อของเขา หัวใจยังคงเต้นแรงจากประสบการณ์เมื่อครู่
พีท หันมามองเธอ “ถึงแล้ว”
อันนา รีบถอดหมวกกันน็อกและเสื้อช็อปวิศวะที่เขาให้สวมใส่ออก แล้วยื่นคืนให้เขา “ขอบใจนะ ที่มาส่ง”
พีท รับเสื้อและหมวกกันน็อกมา ก่อนจะโน้มตัวเข้าใกล้เธอเล็กน้อย “ครั้งหน้าจะให้มาส่งอีกไหม?”
อันนา ชะงัก หัวใจเต้นผิดจังหวะ “ฉันยังไม่ได้บอกว่าจะมีครั้งหน้านะ”
พีท หัวเราะ “แต่ฉันว่าน่าจะมี”
เธอเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะรีบหมุนตัวเดินเข้าไปในหอพัก โดยไม่หันกลับมามองเขาอีก
พีท ยิ้มบาง ๆ มองตามแผ่นหลังของเธอจนกระทั่งเธอเดินเข้าไปในตึก คืนนี้…เป็นคืนที่พิเศษกว่าทุกคืนที่เขาเคยสัมผัส...และเขายังไม่ได้ขับรถมอเตอร์ไซด์ออกไปไหน
อันนา เดินกลับมาที่ห้องพักของเธอ โดยที่ไม่ได้หันไปมองชายหนุ่มที่มาส่งเลย และเธอเองลืมนึกไปว่าเธอยังไม่ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซด์ของของเขาขับออกไปจากหอพักเธอ
เธอไม่รู้เลยว่า ชายหนุ่ม ยังไม่กลับไปเขายังคงนั่งคร่อมมอเตอร์ไซด์อยู่ในมุมที่มืดเล็กน้อย แต่ยังเป็นจุดที่มองเห็นการกระทำของ อันนา ได้อย่างชัดเจน
ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ร่างบางที่เดินไขกุญแจเข้าห้องพักของตัวเอง มองเห็นทุกการเคลื่อนไหวของเธอ