ที่มาของ…
กลิ่นคาวของเลือด… กลิ่นคาวของเลือดคือสิ่งที่ปลุกให้ฉันตื่น.. ฉันได้กลิ่นมันทุกครั้งพร้อมกับความทรงจำบางช่วงที่หายไป มีเพียงเสียงผู้หญิงอยู่ในหัว.. เสียงที่ เหมือนกับเสียงของฉัน พร่ำบอกว่าฉัน… ควรให้เธอออกมา หัวใจที่เต้นครึกโครมไม่มีวี่เเววจะหยุด มันเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆเมื่อดวงตาเบิกออก ร่างกายที่เต็มไปด้วยเลือด เสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยและศพผู้ชายปริศนารอบๆตัว ไม่สิ.. พวกเขาแค่บาดเจ็บ สาหัส ยิ่งไปกว่านั้น ในมือของฉัน.. คือเศษไม้ที่แหลมพอจะฆ่าคนได้ เป็นแบบนี้อีกแล้ว! “อึ่ก!” หญิงสาวรีบตั้งสติ เธอไม่อาจเข้าใจเหตุการณ์แบบนี้เวลาเกิดขึ้นกับตัวเอง ความทรงจำก่อนหน้าของเธอจะหายไปเสมอ เลือดที่เปื้อนตามตัวไม่อาจให้คำตอบเธอได้ว่าในช่วงเวลาที่เธอจำอะไรไม่ได้นั้น มันเกิดอะไรขึ้น ร่างบาง ผมสีน้ำตาลสว่างพาตัวเองวิ่งหนีจากที่เกิดเหตุ มันไม่มีทางกลบหรือล้างกลิ่นเลือดที่ตัวได้ และไม่มีทางที่เธอจะกลับถึงบ้านได้โดยไม่มีคนสงสัย โลมาพาตัวเองไปหลบอยู่ในซอกหลืบของตึกร้างข้างๆที่ปิดตัวลง นั่งกอดเข้าและร้องไห้ เธอสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น และหวาดกลัวผู้คน.. โดยเฉพาะ ผู้ชาย ครืด ครืด~ “อึ่ก! ฉันไม่ได้ทำนะ ฉันไม่ได้เป็นคนทำพวกนั้นนะ.. ฮึ่ก” จะตายหรือเปล่านะ ฉันพูดกับสายที่โทรหาฉัน มันคือพี่เซบัส พี่ชายของฉัน.. “ฉันไม่ได้ทำนะ ทุกคน อึ่ก!” โลมากดปิดเครื่องเมื่อไม่กล้ารับสายจากอีกฝ่าย นั่งกอดตัวเองในความมืดอย่างไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง ก่อนที่ร้องเท้าผ้าใบจะมาหยุดอยู่ตรงหน้า สาวน้อยที่นั่งหลบมุมในหลืบซอกค่อยๆเงยหน้าแกมความหวาดกลัว ก่อนที่จะแทบร้องไห้ออกมา เมื่อเห็นใบหน้าของเจ้าของรองเท้าผ้าใบสีขาว “ฮึ่ก! พี่หมอ!” “…..” “ละ โลมาไม่ได้ทำนะ! โลมาไม่ได้ทำ!” “…..” “พี่ต้องเชื่อนะ! ฮึ่ก!” หมอรอนในชุดออกกำลังกายที่ดันผ่านมาแถวนี้พอดี ค่อยๆนั่งยองๆต่อหน้าหญิงสาว น้องสาวของเซบัสเพื่อนรักของเขา เขาใช้มือจับคางน้อยๆของเธอ สายตาคมกริบสำรวจร่างกายที่เต็มไปด้วยเลือดและเสื้อผ้าขาดหลุดลุ่ย “..เกิดอะไรขึ้น” “ฮึ่ก โลมาจำไม่ได้.. ภาพสุดท้ายคือคนคนนั้น มันกำลังจะข่มขืนโลมา แต่โลมาไม่ได้ฆ่านะ! โลมาจำได้แค่นั้น แล้วก็จำอะไรไม่ได้อีก.. แต่ว่า เศษไม้นี่.. มันเหมือนกับไม้ที่ปักที่ผู้ชายคนนั้นเลย!” ในขณะที่โลมากำลังกระวนกระวาย สับสนและมึนงง.. “ลุกขึ้น” “อึ่ก!” “ลุกขึ้นแล้วไปกับฉัน” “พี่จะไม่พาโลมาส่งตำรวจใช่ไหม โลมาไม่ได้ฆ่าพวกนั้นจริงๆนะ พี่ต้องเชื่อนะ! พี่รอน!” โลมาตื่นตระหนก เธอแทบจะกราบเท้ารอนซะด้วยซ้ำไป แต่คนเป็นหมอกลับแน่นิ่ง เขาประคองร่างที่เปื้อนเลือดทั้งตัวของโลมาถอดเสื้อยืดเพียงตัวเดียวที่มี สวมมันให้กับน้องสาวของเพื่อน “..ไอ้บัสรู้หรือยัง” “พี่เซบัสโทรมาค่ะ แต่ว่าโลมาไม่ได้รับ” “โทรกลับไป แล้วบอกว่าอยู่กับฉัน” พี่หมอยื่นโทรศัพท์มือถือของเขาให้ฉัน ก่อนจะหันซ้ายขวาราวกับดูต้นทางเพื่อความแน่ใจ รอนพาโลมาออกจากที่เกิดเหตุ เขาเสียสละเสื้อตัวเดียวให้กับเธอ ร่างกายเปลือยเสื้อผ้ากำยำเกินกว่าจะเป็นร่างกายของหมอ ผิวขาวสะอาดแยงตา ไรผมสีดำ และข้อมือที่เต็มไปด้วยเส้นเลือด “พี่รอน โลมาไม่ได้ทำนะ=[” “…ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”3ปีผ่านไป.. เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก วันนี้ฉันมาทำบุญให้แม่ ให้เปียและ.. ให้พ่อ ฉันยุติความรู้สึกแย่ๆทุกอย่างหลังจากความฝันในวันนั้น แม้ฉันจะไม่เคยฝันถึงพ่อสักครั้งก็ตามตลอดเวลาสามปีที่ผ่านมา พี่รอนเองก็เห็นด้วยกับการที่ฉันเลือกทำแบบนี้“โลมาเอาน้ำไปกรวดนะ”“เดี๋ยวพี่กับลูกรอตรงนี้แล้วกัน”“อื้ม” ฉันเดินหาต้นไม้ใหญ่ตามความเชื่อ กรวดน้ำลงดินขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับ แม่ พ่อ และเปียแบบที่เคย เมื่อก่อนเคยทำยังไง ตอนนี้ฉันก็ยังคงทำแบบนั้น วันนี้เป็นวันเกิดของยิปโซ เจ้าตัวเล็กสุดแสบประจำบ้าน“แม่ขาาา~” เสียงหวานร้องเรียกหลังจากน้ำหยดสุดท้ายถูกหยาดลงพื้น โลมาลุกขึ้นยืนพร้อมกับหันหลังไปหายิปโซแต่เพียงแวบเดียวเท่านั้นที่เธอหันกลับมา เด็กน้อยที่ใบหน้ามีแต่รอยยิ้ม ชุดเจ้าหญิงสีชมพู ถักผมเปียสองข้าง ทำเอาโลมาสตั้น ทั้งที่เธอเป็นคนถักเปียให้กับมือแท้ๆ ทำไมตอนนี้ถึงรู้สึกแบบนี้นะ.. โลมาเธอยืนแข็งทื่อทันทีที่เห็นยิปโซวิ่งเข้าปะทะร่างและสวมกอดเธอ แขนและขาของฉันเหมือนมีคนตรึงเอาไว้ ไม่มีแรงขยับ ฉันมั่นใจว่าฉันนิ่งไปเกือบนาทีที่ไม่ได้กอดยิปโซตอบ พอสติกลับคืนมา.. มือบางๆก็วางที่หัวเล็กๆของเจ้าตัวเ
หากย้อนกลับไป..เฮือก! โลมาสะดุ้งตื่นกลางดึก หัวใจเต้นรัวเหงื่อที่ชุ่มไปทั้งกาย ฉันหันมองพี่รอนที่นอนอยู่ข้างๆ ฉันอยากจะสะกิดบอกว่าฉันฝันร้าย.. มันก็ไม่เชิงร้ายหรอก แต่ว่า..ฉันฝันถึงเปีย…โลมานั่งกลืนน้ำลาย เปียกำลังจะบอกอะไร..ย้อนไปในความฝัน..ทุ่งหญ้าที่เหมือนกับสนามเด็กเล่นที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ทำให้ฉันค่อยๆเดินสำรวจ เด็กสาวที่มองจากด้านหลังก็รู้ว่าถักเปียสองข้างกำลังนั่งเล่นดอกไม้นั่น.. ดอกไม้ดอกเล็กๆ.. กับชุดที่สวมอยู่ มันทำให้ฉันกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้ ทั้งที่ผ่านมานานขนาดนี้.. แต่เธอยังไม่เปลี่ยนไปเลย.. “..เปีย เปียใช่ไหม?” เด็กสาวผมเปียหันกลับมาหาเธอ เธอยิ้มให้โลมาทันทีก่อนจะรีบลุกแล้วจูงมือเธอไปนั่งเล่นกับเธอ สีหน้าและรอยยิ้มมันมีแต่จะทำให้โลมาอยากจะร้องไห้ เปียในตอนนี้จะรู้ตัวไหม.. ว่าตายไปแล้ว“เปีย”“รู้น่า แต่จะเศร้าทำไมละ บางทีแบบนี้มันก็ไม่ได้แย่นะ” เปียพูดขึ้นมาทั้งที่ใบหน้าที่กำลังดูเหมือนมีความสุขด้วยซ้ำ แม้จะไม่ได้มองหน้าโลมา“ถ้าให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่อสิ แบบนั้นน่าจะหนักเอาการณ์เลยละ”“..มันจบแล้วเปีย ไอ้ชั่วนั่นมันเข้าคุกแล้ว ศาลตัดสินไม่ให้ประกันตัวไปตลอดชีวิตเลย
ครึ่งชั่วโมง มันจะทำสำเร็จไหมวะ.. รอนถอนหายใจ เขากลัวว่าทุกอย่างมันจะล่มนะสิ โลมาที่เดินออกมาจากห้องน้ำ ยืนเช็ดมือกับผ้าเงียบๆอยู่ที่มุมห้อง“ดูกังวลจังนะ รู้ไหมว่าโลมามันคิดอะไรอยู่?” ประโยคที่ว่าทำให้รอนหันกลับไปหาคนตัวน้อย สังเกตท่าทางและพฤติกรรม“สวัสดีนะหมอ ขอออกตัวก่อนว่า โลมาไม่ได้รู้สึกไม่ปลอดภัยกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ฉันก็แค่อยากจะออกมาสูดอากาศข้างนอกก็แค่นั้น แล้วก็.. มีเรื่องอยากบอก”“เอวา? จะบอกอะไร?”“ก็..” เอวาโยนผ้าเช็ดมือลงถังผ้า เดินประคองท้องน้อยๆผ่านหน้ารอนไปนั่งที่ปลายเตียง “รู้ไหมว่าโลมามันคิดอะไร?” นิ้วเรียวชี้ที่ขมับสมอง รอยยิ้มแบบแข็งๆยิ้มให้กับคนเป็นหมอ“….”“เอาเป็นว่า สิ่งที่หมอต้องทำก็คือบอกฉันมาให้หมดว่าตอนนี้กำลังจะคิดทำอะไร?”“ถ้าฉันบอกเธอ โลมาก็รู้”“อ๋าา~ เซอร์ไพส์” เอวาพงกหัวเล็กน้อย ก่อนจะแค่นยิ้มที่มุมปาก “อะไรนะที่จะเซอร์ไพส์คนท้องได้แบบตรึงจิตตรึงใจ”“….”“ไอ้การลากทุกคนมาครบองค์แบบนี้.. เรื่องต้องใหญ่มากใช่ไหมละ” และเพราะรอนอ่านทางออก เอวาน่าจะรู้แล้วว่าเขากำลังอยากจะทำอะไร“ก็ถ้ารู้แล้วช่วยอยู่เงียบๆได้ไหม?”“ข้อแลกเปลี่ยน”“..จะเอาอะไร?”“อะไ
น่าแปลก.. ที่เลยเวลางานมานานขนาดนี้แล้วแท้ๆแต่พี่รอนก็ยังไม่กลับมาสักที ฉันไม่เคยใจร้อนขนาดนี้มาก่อน แค่เพียงพี่เขาผิดเวลา.. ฉันก็อยากจะพังบ้านให้เละไปทั้งหลัง“..ป้าชุคะ นี่ผ่านมากี่ชั่วโมงแล้วคะ”“..เอ่อ สี่ชั่วโมงแล้วค่ะ แต่ว่าปกติหมอไม่เคยกลับบ้านเลสขนาดนี้นะ อาจจะติดคนไข้อยู่ก็ได้ค่ะ”“รักษาอะไรกันตั้งสี่ชั่วโมง รักษาคนป่วยทั้งหมู่บ้านหรือไง” โลมาหงุดหงิด คำพูดคำจาแทบไม่ต้องใช้การพิจารณาก่อนจะปริปากพูดสักนิด แม่บ้านคนสำคัญนั่งมองโลมา ขาของเธอเริ่มอยู่ไม่ยิ่ง ชะเง้อชะโงกหน้าสลับกับมองเวลาที่นาฬิกาติดผนัง“ป้าชุคะ”“ขาาา”“หงุดหงิด”“ป้ารู้ค่ะ”“อารมณ์ไม่ดี”“อันนี้ป้าก็รู้ค่ะ”“โลมาอยากจะพังบ้าน!”“โอยยยย ใจเย็นๆนะหนูโลมาาาา หมอไปหัวทิ่มหัวตำอยู่ที่ไหนกันนะเนี่ยนานขนาดนี้”“ใช่ไหมละ!” ป้าชุก็แค่เออออตามอารมณ์คนท้องให้เธอพอใจเย็นลงมาบ้าง จะไปขัดเขาในเวลานี้เดี๋ยวก่อนที่บ้านจะพัง คนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องตรงนี้จะตายคาโซฟาซะก่อนโลมายังไม่ยอมหยุดอารมณ์ที่แสนหงุดหงิดจนเธอเดินไปยืนมองที่ประตู“สวนบ้านเราควรมีดอกไม้ดอกเล็กๆที่สุด!”“ใช่ค่าา ใช่ๆเลย บ้านจะได้ร่มเย็น” แม่บ้านรีบเออออก่อนจะ
“..ไอ้บัส”“รายนั้นจะทำแผนแตกไหมเนี่ย ปากยิ่งเปราะๆอยู่ด้วย”“..ฉันว่าไม่ มันยังไม่รู้”“ก็เพราะว่ายังไม่รู้นี่แหละถึงน่ากังวล โลมาไม่ใช่คนซื่อบื้อขนาดนั้น แถมไอ้คนพี่ก็.. นอนหลับอยู่ตรงนั้นด้วย” รอนถอนหายใจเมื่อยืนมองดูกล้องวงจรจากกลางบ้านติ๊งค์~ เสียงไลน์ดังขึ้นทำให้คนเป็นหมออ่านมัน ข้อความจากป้าชุทำให้เขานิ่งไป“..อะไรเหรอ?”“ป้าชุบอกว่าโลมาเอาแต่พูดถึงดอกไม้ดอกเล็กๆ”“….”“ดอกอะไรก็ได้ที่เป็นดอกเล็กๆ กินข้าวไป พูดถึงดอกไม้ไป” รอนอ่านข้อความในมือถือต่อไปจนจบแชทของป้าชุ“นางเริ่มแพ้ท้องละมั้งเนี่ย”“….”“คนรู้จักฉันนะ แพ้ท้องยังไงรู้ไหม? นางอยากกินดินเลยนะ นางบอกว่ากลิ่นมันหอม อย่างโลมานี่.. อาการแบบนี้ก็น่าจะใช่”“..แล้วฉันควรทำไง?”“ก็เอาใจเมียสิคะ เวลาแบบนี้นะ เมียอยากได้อะไรพี่ต้องให้เธอให้หมด”“….”“ต่อให้จะเป็นดาวเป็นเดือนก็ตาม”“..โลมาไม่น่าจะต้องการอะไรขนาดนั้น”“ก็ถ้านั่งกินข้าวแล้วเพ้อถึงดอกไม้ดอกเล็กเล้กกกได้ขนาดนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้กับคนท้องรู้ไว้เลย”“พูดอย่างกับคนเคยท้อง”“มันก็คง.. อารมณ์แปรปรวนเหมือนตอนเป็นเมนส์ละน่า” ออยยืนกอดอกในขณะที่รอนก็ยืนขมวดคิ้วแล้วกัดปาก“จ
#RON PARTโรงพยาบาล“แกๆ แกว่าช่วงหลังนี่หมอรอนดูยิ้มเยอะขึ้นม้ะ?”“อยู่แล้วแหละ ยิ้มทีจะพาใจฉันละลายยย นี่ก็แทบจะยอมตั้งท้องให้เลยนะเนี่ยยย~” พยาบาลฝึกหัด เกาะประตูห้องตรวจของรอน แอบสอดแอบส่องดูวิธีการรักษาบ้างแหละ ตักตวงใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาบางแหละ“แกว่า หมอรอนจะมีแฟนหรือยังนะ>““หมอรอนมีเมียแล้วจ่ะ แล้วเมียก็ท้องอยู่ด้วย”“อึ่ก!” คนที่เข้ามาแทนกกลางระหว่างบทสนทนาเห็นทีจะเป็นใครไม่ได้นอกจากออย เธอยืนยิ้มมองหน้าพยาบาลสาวฝึกหัดสามคน และหันองศาหน้ายิ้มรับทุกคนไปอีกในท่ายืนกอดแฟ้มเคส“งานพวกเธอเหรอ ที่ทำอยู่?”“เปล่า เปล่าค่ะ!”“งั้นเชิญ”“โวกเหวกอะไรกัน?” รอนที่เดินออกมาจากห้องตรวจพอดี ดูดกาแฟดำในแก้วแล้วมองหน้าออยที่หอบแฟ้มเอกสารอีกสองฉบับ เหล่าพยาบาลฝึกหัดรีบวิ่งไปก่อนที่เขาจะออกมา“ยังไม่หมด?”“สองเคสสุดท้ายแล้วละ ..พักหลังเนื้อหอมจัดเลยนะ เด็กพวกนั้นวันๆไม่ทำอะไร เอาแต่นั่งตั้งคำถามว่าหมอมีเมียมีแฟนแล้วหรือยัง”“..แล้วเธอตอบไปว่าไง?”“ก็บอกว่ามีเมียมีลูกแล้วสิ” ผมขำเบาๆ ก่อนจะอนุญาตให้ออยเข้าไปในห้องตรวจ เธอวางแฟ้มของเคสที่น่าจะ น่าจะเป็นสองเคสสุดท้ายของวันนี้ “สองเคสสุดท้ายขอ
“เอวาออกมาถี่จังนะคะ”“เธอไม่ได้ออกมาทำร้ายใคร”“….”“เหมือนออกมา แค่บอกความต้องการ.. เอวาไม่เห็นด้วยกับเรื่องของเปีย.. คงอยากจะให้อาจารย์ได้ตายจริงๆ”“เฮ้อ~”“แต่ฉันก็เข้าใจเอวานะ” พี่รอนพูดก่อนจะตีไฟเลี้ยว แล้วเลี้ยวรถเข้าประตูรั้วบ้าน ฉันที่นั่งมองรองเท้าของพี่รอนที่ฉันสวมอยู่เลยต้องหันกลับไปมอง“ก็มันเป็นมุมมองของคนที่ต้องคอยออกมาจัดการความกลัวให้เราอยู่ตลอดไง”“..โลมารู้ค่ะ ว่าถ้าไม่มีเอวา โลมาคงไม่ได้มีชีวิตมานั่งอยู่ตรงนี้ มันหลายครั้งหลายครามากๆที่ชีวิตโลมาต้องประสบพบเจอกับ.. ผู้ชายใจร้ายพวกนั้น พวกนั้นชอบมองว่าโลมาอ่อนแอ ทุกอย่างเริ่มต้นจากการแกล้ง.. และเเกล้งแรงขึ้นเรื่อยๆ เพียงปลายนิ้วที่ผู้ชายพวกฉันแตะต้อง โลมาจะภาพตัดไปเสมอ แล้วก็จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับสภาพของคนพวกนั้นที่เต็มไปด้วยบาดแผล และความเจ็บ”“….”“กลัวแทบตายตอนนั้น กลัวว่าจะพลั้งมือทำคนพวกนั้นตาย ทุกครั้งโลมาจำอะไรไม่ได้เลย แต่มันจะมีเพียงความรู้สึกเดียว และเป็นความรู้สึกนั้นมาตลอด.. คือโลมาคิดว่าสิ่งพวกนั้น โลมาเป็นคนทำจริงๆ แต่แค่ไม่อยากจะยอมรับก็แค่นั้นเอง พี่เข้าใจไหม แบบ.. ฉันต้องผิดปกติอะไรสักอย่าง”“เข้าใจครั
หลังจากเรื่องราวที่เกิดขึ้น เรื่องของเปียถูกเก็บเป็นความลับตามคำขอของโลมา ด้วยความเห็นที่ว่า.. เปีย ไม่ชอบอะไรที่ทำให้ทุกคนมองเธอไม่ดี แม้ว่าลึกๆในใจ เอวาอยากจะออกมาอีกสักครั้ง แล้วจัดการไอ้พ่อเลี้ยงเวรจะไลให้ตายไปอย่างช้าๆและทรมาน อยากจะเห็นกับตา สีหน้าของมันตอนที่กำลังจะตายแม้ว่าทุกคนในที่นี้.. ก็อยากให้โลมาเลือกพูดเรื่องเปียออกไป เพราะอย่างน้อยๆ ก็น่าจะทวงคืนความยุติธรรมให้กับเปียได้บ้าง“..อย่าออกมานะเอวา” เพราะโลมาพูดออกเสียง ทำให้ทุกคนที่ยืนเคียงข้างได้ยินและมองหน้ากัน“..มึงเอาพระมาดิ๊” แม้เซบัสจะพูดติดตลก“กูไม่ใช่ผี==^” เอวาออกมาจริงๆ สถานการณ์ตอนนี้อาจจะกดดันอยู่พอสมควร เอวาออกมาและตอกกลับเซบัสด้วยน้ำเสียงที่ไม่ต้องเสียเวลาสังเกตให้เหนื่อยเปล่า เอวายืนกอดอก เธอบู้ปากล้อเลียนตามคำพูดของศาลที่ตัดสินให้อาจารย์ฐานัฐจำคุกตลอดชีวิตแบบไม่ให้ประกันตัว สายตาก็มองไปที่ภรรยาของอาจารย์ที่กำลังร้องไห้เจียนขาดใจ ไม่ได้มีความเห็นใจแกมอยู่ในนั้นและไม่พอใจกับสิ่งที่โลมาเลือก.. เห็นใจทำไมคนตาย.. เห็นใจคนที่อยู่นี่! ถึงจะถูก.. เอวาคิดแบบนั้นฝั่งโลมามีพยานและหลักฐานมากพอที่จะเอาผิดฐานัฐ และ
เตียงนอนเหมือนจะนุ่มกว่าที่เคย ฉันมองหน้าพี่รอนไม่ละ ตั้งแต่ขึ้นห้องมา พี่เขาพาฉันมานอน ห่มผ้าให้ปรับแอร์แล้วก็กำลังก้มหน้าลงมาหากันแบบต่ำมากๆ..มือบางดันอก“พี่ต้องเอาเบาๆนะ” แต่รอนหยุดชะงัก เขาแค่นเสียงขำในลำคอ ใช้มือบีบจมูกโด่งของโลมา“..เงี่ยuหรือเรา?”“เปล่าซะหน่อย ก็เห็นก้มลงมาต่ำ” แก้มแดงเป็นพวงตำแย หลบหลีกสายตาคนเป็นหมออย่างชัดเจน ฉันเข้าใจว่าจะโดนอีกแน่ๆ ก็ต้องหน้าแตกรอบสอง เพราะสิ่งที่พี่รอนทำ เขาก็แค่จะก้มลงมาเพื่อกอมแก้มกันก็เท่านั้น.. ไอ้เราก็ไปจำมาจากไหนนะที่เอะอะอะไรก็จะโดนปล้ำอย่างเดียว.. “นอนได้แล้ว”“..แต่โลมาไม่ง่วงไง”“แล้วต้องทำยังไง?”“..ก็ ไม่รู้สิ ก็ไม่เคยนอนไวขนาดนี้แล้วก็ไม่เคย” รอนยกมือห้ามทำให้ฉันหยุดพูด“เดี๋ยวมา” คนเป็นหมอเดินออกจากห้องไป ประตูที่ปิดสนิทเปิดอีกครั้งเมื่อหมอรอนกลับมา“แค่ลงไปบอกพวกที่เหลือ ว่าฉันจะอยู่กลับเมีย”“…”“ไซหัวกลับไปสักที”“โธ่ จะเย็นชากับเพื่อนให้ได้อะไร”“นี่..” หมอรอนหยุดนิ่งแล้วแค่นถาม “สรุปว่ากลัวผู้ชายหรือชอบให้ผู้ชายอยู่รอบๆตัวกันแน่?”“เอ้า! โลมาก็ต้องกลัวผู้ชายสิ แต่ว่า แต่ว่า…” คนตัวน้อยอมยิ้ม ลุกขึ้นเดินเข่าด้วยท่าท