ไร่เธียรวัฒน์🍊
เช้าวันนี้ธาวินขับรถไปรับหญิงสาวเองถึงที่ ที่หญิงสาวพักอยู่ นั่นก็คือรีสอร์ทติดกับไร่เธียรวัฒน์นั้นเอง ตามคำสั่งของเธียรวัฒน์ ตั้งแต่เช้าตรู่
ศิริพัชชาลงจากรถเมื่อรถจอดที่หน้าบ้านของหนุ่มเจ้าของไร่ กลับต้องทำหน้าแปลกใจ เมื่อพบกับหญิงสาวที่มีอายุรุ่นราวคราวแม่ ยืนรออยู่ที่หน้าบ้านของหนุ่มเจ้าของไร่อย่างเธียร
“เอ่อ...”
“ป้ารัตน์ เป็นแม่ของพี่เธียรครับ” ธาวินจึงเป็นฝ่ายเอ่ยบอกแทน
“สวัสดีคะ” หญิงสาวเอ่ยทักทาย พร้อมกับยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม พร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ บนใยหน้าที่มีเครื่องสำอางเพียงเล็กน้อยแต่งเติมอยู่
“สวัสดีจ๊ะ แม่หนูสวยเหมือนดาราในละครที่พึ่งโฆษณาไปเลย” ดารัตน์ไหว้ตอบรับ และเอ่ยชมขึ้นมาทันที ที่เจอหน้าหญิงสาวชัด ๆ เป็นครั้งแรก แถมยังแซวเธอออกไปอีก เพราะเมื่อคืนพึ่งจะเห็นคนที่หน้าตาละม้ายคล้ายกับหญิงสาวผู้นี้มาก ซึ่งเป็นนักแสดงน้องใหม่ ที่ละครกำลังจะออกอากาศเร็ว ๆ นี้
“เอ่อ...”
“ผมว่าน่าจะใช่น่ะป้ารัตน์....” ธาวินเสริมขึ้นมาบ้าง เพราะเห็นผ่าน ๆ มาเหมือนกัน ในตอนค่ำที่โรงอาหาร ตอนพวกคนงานเปิดทีวีดู และเขาก็มั่นใจเลยว่าเธอคือนักแสดงแน่นอน เพราะชื่อบนจอที่โผล่ขึ้นมานั่นเอง “ศิริพัชชา” ถึงจะรู้เพียงแค่ว่าเธอนั้นชื่อพัชชา
“ค่ะ พัชชาพึ่งเล่นละครเรื่องแรก และครั้งแรกในชีวิตด้วย ที่พึ่งจะถ่ายจบไปเมื่อไม่นานมานี้เองค่ะ ที่ไร่อคิราห์....” หญิงสาวจึงยอมบอกความจริงออกไป
ที่จริงเธอก็ไม่ได้อยากปิดบังใครหรอก ถ้ามีคนถาม เธอก็พร้อมตอบ แต่ไม่มีใครถามเธอเลยต้องปล่อยตามเลยมา เพราะเธอก็เป็นแค่นักแสดงสมทบที่ไม่ได้มีบทบาทดีเด่นอะไร พอจะทำให้คนสนใจ และรู้จักเธอ เพราะถือว่ายังใหม่กับวงการนี้มาก
“นั่นไงผมว่าแล้ว...ดูในทีวีตอนนี้สิป้ารัตน์” ธาวินยิ้มออกมาทันที เมื่อสิ่งที่คิดไว้นั้นคือเรื่องจริง และตอนนี้ทีวีที่บ้านของลูกชายกำลังเปิดอยู่ ก็ฉายโฆษณาในสิ่งที่พวกเขากำลังพูดถึงอยู่พอดี เลยเป็นสิ่งยืนยันในคำพูดของศิริพัชชาอีกที
“ว้าว...จริง ๆ แล้วหนูสวยมากเลย เป็นนางเอกได้สบายได้เลยน่ะป้าว่า” ดารัตน์ตาลุกวาวเป็นประกายขึ้นมาทันที เมื่อหันไปมองตามที่ธาวินพูด และเอ่ยชมหญิงสาวขึ้นมาทันที ในทีวีว่าเธอน่ารักมากแล้ว ตัวจริงเธอโคตรน่ารักมากเลย เธอชักจะหลงเสน่ห์แม่สาวน้อยคนนี้เข้าแล้วสิ
“คุยอะไรกันเสียงดังไปถึงข้างบน...” เป็นเสียงของเจ้าบ้านที่กำลังเดินลงมาจากชั้นบน และหยุดอยู่ตรงนั้น หันไปมองทีวีตาไม่กระพริบเลย เมื่อเห็นว่าคนในทีวีนั้นคือใคร
“เป็นไงล่ะตาเธียร ในทีวีว่าน้องสวยแล้ว ตัวจริงยิ่งสวยมากกว่าเป็นไหน ๆ เลย” ดารัตน์เอ่ยขึ้นเมื่อ เห็นว่าลูกชายมองคนในทีวีนิ่ง ไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักคำ
“ก็...งั้น ๆ แหล่ะ” เสียงนิ่งเรียบหันมาตอบผู้เป็นแม่ และชำเรืองมองหญิงสาว ผู้ที่กำลังฉายอยู่บนจอในตอนนี้ อย่างรู้สึกสับสน
ใบหน้าปรับเปลี่ยนพยายามกักเก็บอารมณ์คุกรุ่นที่กำลังเกิดอยู่ในตอนนี้ สายตาคมจ้องมองไปที่ใบหน้าของหญิงสาว ด้วยอารมณ์เกินยากจะคาดเดา คนที่แม่ต้องการให้เขาจีบเธอในตอนนี้ เธอคือผู้หญิงที่อยู่ในกฎข้อห้ามของเขา
เธอคือผู้หญิงที่เขาไม่อยากจะยุ่ง หรือเกี่ยวพันธ์ด้วยทั้งทางกายและทางใจ เพราะเขาไม่ชอบคนในวงการนี้อยู่แล้ว ถึงเธอจะมีทัศนคติที่เหมือนกันกับเขาก็ตาม แต่เมื่อเขามีอคติกับคนอาชีพนี้อยู่แล้ว เขาจะไม่ยอมเข้าไปยุ่งเกี่ยวเป็นอันขาด ถึงแม้พวกเธอเหล่านั้นจะถวายตัวให้เขาฟรี ๆ ก็ตาม
เธียรวัฒน์ขบกรามแน่น และพยายามควบคุมอารมณ์ของเขาในตอนนี้เอาไว้ ไม่ให้คนทั้งสามในที่นี้รับรู้
“พี่เธียรจะรับไปไหน...” ธาวินถามขึ้นมาทันที เมื่อเธียรวัฒน์เดินผ่านหน้าทุกคนออกไปโดยไม่กล่าวทักทายใครเลย แม้แต่ผู้เป็นแม่ และหญิงสาวที่วันนี้ตั้งใจแต่งเรียบร้อยสวยมากกว่าทุกวัน
“ทำงาน” เสียงเข้มตอบพร้อมกับสาวเท้าเดินออกไป
“ตาเธียร! แล้วไหนบอกจะพาน้องไปชมโรงงานพี่รดาเขาละ” ดารัตน์ถามไล่หลังลูกขึ้นมาทันที
“ใครเป็นคนไปรับมา ก็ดูแลเองสิ” เสียงทุ้มนิ่งตอบ แต่ไม่ได้หันกลับมามองคนทั้งสาม และมุ่งหน้าเดินออกไปทางสำนักงานทันที
“ตาเธียร!”
“ช่างเขาเถอะคะ คุณป้า เดี๋ยววันนี้พัชชากลับเลยก็ได้คะ” ศิริพััชชาจึงเป็นฝ่ายเอ่ยห้าม เมื่อสังเกตอาการของชายหนุ่มแล้ว สาเหตุน่าจะมาจากเธอ
แต่เขาจะโกรธเธอในฐานะอะไร เธอทำอะไรผิดนั้นเหรอ เธอก็มาตามที่ธาวินไปรับมา แถมเธอก็ยังไม่ได้พูดอะไรด้วยตั้งแต่มาถึง หรือเขาจะโกรธที่เธอเข้ามาในบ้านของเขา โดยที่เขายังไม่อนุญาต...แต่ก็ช่างเถอะ เขาจะโกรธหรือไม่โกรธเธอ ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรอยู่แล้ว เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย
“ป้าว่า...” ดารัตน์ ไม่รู้จะหาคำพูดไหนมารั้งเธอเอาไว้
“พัชชาลานะคะ สวัสดีค่ะ” หญิงสาวเอ่ยลา พร้อมกับยกไหว้ผู้อาวุโสตรงหน้า และเตรียมตัวเดินออกจากบ้านหลังนี้ไปทันที
“เดี๋ยวจ๊ะหนูพัชชา”
“ผมไปส่งนะครับ” ธาวินเอ่ยขึ้น และหมุนตัวหันหลังเดินตามหญิงสาวไปทันที
“ไอ้วิน...มึงไม่ต้อง” เสียงเข้มสั่งขึ้นมา เมื่อเขาเดินกลับมาที่บ้าน และปรายตามองหญิงสาวเพียงเล็กน้อยที่เดินสวนกัน
“แต่พี่เธียรครับ ผมเป็นคนไปรับมาน่ะ”
“อยากกลับ ก็ให้กลับเองสิ” เธียรวัฒน์พูดเสียงดัง เพื่อให้หญิงสาวที่เดินออกไปแล้วนั้นได้ยิน
ดารัตน์ และธาวินหันมามองหน้าเธียรวัฒน์ทันที อย่างไม่เข้าใจ ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อวานก็พูดอย่างดิบดี จนให้ธาวินไปรับมาเอง แต่พอมาตอนนี้กลับเปลี่ยนไปเป็นอีกคน ที่ไม่แคร์ความรู้สึกคนอื่น
“วินไปส่งป้าที่บ้านรดาที...” ดารัตน์ ส่ายหน้าให้กับลูกชาย แล้วเอ่ยสั่งธาวิน พร้อมกับเชิดหน้าใส่ลูกชายและออกจากบ้านหลังนี้ไปในทันที
เมื่อผู้เป็นแม่และน้องสนิทที่โตมาด้วยกันอย่างธาวิน ที่เป็นให้เขาได้ทุกอย่างออกจากบ้านไปแล้ว เขาจึงรีบคว้ากุญแจรถ และรีบสาวเท้าออกจากบ้านไปอย่างเร่งรีบทันที
“เช๊อะ!!!...นึกว่าจะแน่” ดารัตน์ และธาวินที่แอบหลบอยู่ยังไม่ได้ไปไหนไกล กลับรู้สึกขำในความกลัวเสียฟอร์มของเธียรวัฒน์
“เป็นแบบนี้ ชีวิตนี้พี่เธียรจะมีเมียไหมป้ารัตน์ ยังไม่ได้เป็นอะไรกับเขาเลย แต่กลับงอนเขา”
“สมน้ำหน้ามัน...งอนเองก็หายเอง แถมยังต้องไปง้อเขาอีก...” ดารัตน์ ได้แต่ขำปนเอ็นดูในความหยิ่งในศักดิ์ศรีลูกชายตัวเอง
แค่เราที่เคียงข้างกันก็สุขใจแล้ว(จบ) สามเดือนต่อมา“เป็นยังไงบ้างครับ...” เธียรวัฒน์ถามหญิงสาวผู้เป็นภรรยาขึ้น เมื่อเธอเดินออกมาจากห้องน้ำ พร้อมกับที่ตรวจการตั้งครรภ์ ด้วยใบหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนักเท่าไหร่“ยังไม่ได้ตรวจเลยคะ” เธอเอ่ยตอบ พร้อมกับชูที่ตรวจครรภ์ในมือที่ถืออยู่ให้เขาดู เพราะเธอก็ยังไม่ได้แกะออกจากกล่องเลยด้วยซ้ำ“ทำไมละครับ” เขาได้แต่เลิกคิ้วถาม อย่างแปลกใจ“ประจำเดือนมาก่อนคะ เลยไม่ได้ตรวจ” หญิงสาวเอ่ยตอบด้วยใบหน้าที่ยิ้มเจื่อน ๆ ส่งไปให้เขา“เฮ้อ!” เธียรวัฒน์ถอนหายใจออกมาอย่างยาวเหยียด อย่างหมดหวังทันที ก่อนที่จะเข้าไปประคองหญิงสาว แล้วพาเธอเดินออกมานั่งที่โซฟาแทน“พี่เธียร ถ้าพัชมีลูกให้พี่อีกไม่ได้ละคะ พี่...” เธอพูดขึ้นมาอย่างตัดเพ้อ เมื่อนั่งลงข้าง ๆ ที่โซฟากันกับเขา“พูดอะไรออกมาครับ วิธีแบบธรรมชาติไม่ท้อง ไม่ใช่ว่าเราจะไม่มีวิธีอื่นนะ เราค่อยไปพึ่งหมอเอาก็ได้นี้ครับ สมัยนี้หมอเก่งจะตาย น้องพัชไม่ต้องไปกดดันตัวเองหรอก” เธียรวัฒน์พูดขัดขึ้นมาเสียก่อน ที่เธอจะตัดเพ้อยาวไปมากกว่านี้เขาดึงเธอเข้ามากอดแนบอกแกร่ง ก่อนที่จะลูบศีรษะของเธอเพื่อปลอบประโลม แล้วเอ่ยขึ้นมาปลอบ
ไม่คาดหวัง ก็ไม่ผิดหวังหนึ่งเดือนต่อมากรุงเทพมหานครวันนี้เธียรวัฒน์และศิริพัชชาเดินทางมาร่วมงานแต่งของสิทธิวัฒน์กับมัทนา ที่จัดถูกขึ้นภายในโรงแรมชุดสุดหรู และภายในงาน ก็ยังมีสื่อมวลชน และนักข่าวมากหน้าหลายตาจากหลายสำนัก เข้ามาร่วมในงานนี้อีกด้วยแถมเธอก็ยังเป็นอีกบุคคลหนึ่ง ที่ถูกสื่อจับตามองจากสื่อมวลชนทั้งหลาย แต่เธอก็ขอปฏิเสธ และไม่ขอให้การสัมภาษณ์ใด ๆ เพราะเธอเองก็ยังไม่ค่อยคุ้นชินในการออกสื่อ และตอบคำถามของนักข่าวด้วย เธอทำได้เพียงแค่โพสต์ภาพของเธอและเธียรวัฒน์ลงบนโซเชียลมีเดียของเธอและเขาเพียงเท่านั้นซึ่งงานแต่งของเธอกับเธียรวัฒน์ก็ได้ฤกษ์เป็นอีกหนึ่งปีข้างหน้า เพราะปีนี้เธอขอให้พี่ชายได้จัดงานวิวาห์ไปก่อน เพราะเธอก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรมาก แต่ว่าที่เจ้าบ่าวของเธอนี่สิ ใจร้อนอยากจัดงานในเร็ววัน แถมขยันปั๊มลูกอีก แต่เธอก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะตั้งครรภ์ได้อีกครั้งเลย“พัชชา ไม่กลับไปค้างที่บ้านพ่อกับแม่หรือลูก” สุพัชชาถามลูกสาวขึ้นมา เมื่อพิธีการต่าง ๆ เสร็จสิ้นลงแล้ว และทุกคนรวมถึงแขกเหรื่อก็ทยอยกันกลับออกไปแล้วเป็นบางส่วน“คืนนี้ผมขออนุญาตคุณแม่พาน้องพัช ไปค้างที่คอนโดแทนละกันครับ
เซอร์ไพรส์วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการทำงาน และจะเป็นวันสุดท้ายที่ศิริพัชชาจะทำงานในวงการนี้อีกแล้วด้วย เพราะต่อจากนี้ จะไม่มีศิริพัชชาอยู่ในวงการบันเทิงแล้ว“พี่วัฒน์ พี่มัท มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่คะ แล้วมาได้ยังไง” ศิริพัชชายิงคำถามขึ้นมาทันที เมื่อเธอพึ่งจะลงมาจากชั้นบน และเห็นพี่ชายกับผู้จัดการส่วนตัวสาวของเธอ นั่งอยู่กับเธียรวัฒน์แล้ววันนี้เธอก็มีคิวถ่ายในช่วงบ่าย และตอนเย็นก็มีปาร์ตี้เลี้ยงฉลองปิดกล้องต่อเลย เธอจึงนอนตื่นสาย แถมเมื่อคืนก็แทบจะไม่ได้นอน เพราะเธียรวัฒน์สอนบทรักให้เธอกว่าจะจบก็เกือบเช้าแล้ว“พี่นั่งเครื่องมาสิครับยัยน้อง” สิทธิวัฒน์เอ่ยตอบน้องสาวสายตากวาดมองสำรวจดูน้องสาวเขาตอนนี้ สภาพจิตใจคงจะดีขึ้นมากแล้ว ดูจากหน้าตาที่ดูสดใสแถมร่างกายเธอเหมือนจะดูมีน้ำมีนวลขึ้นมากว่าเก่า“แล้วนายจะขับรถกลับไหวเหรอไอ้วัฒน์...คุณมัทก็กำลังท้องอยู่ด้วย ระยาทางก็ไม่ใช่ใกล้ ๆ” เธียรวัฒน์ถามขึ้นมา เพราะตอนกลับสิทธิวัฒน์ต้องขับรถกลับเอง ก็เขาเป็นคนเอารถเพื่อนมาเอง“ไหวสิ เหนื่อยก็แค่แวะพัก อยากพามัทไปเที่ยวบ้าง อุตส่าห์เคลียร์งานมาได้ ก็พาเมียมาฮันนีมูนเสียเลย” สิทธิวัฒน์เอ่ยตอบออกไปแบบ
ความพยายามสองร่างที่เปลือยเปล่า ยังคงคลอเคลียกันอยู่บนเตียงกว้าง ทามกลางแสงสลัวจากโคมไฟหัวเตียงที่สาดส่องแสงสว่างเพียงเท่านั้น“พะ พัชก็อึดอัดคะพี่เธียร พัชขอทำเองได้ไหม” หญิงสาวเอ่ยขอเขาขึ้นมา ด้วยสายตาที่มองเขาอย่างอ้อนวอนช่างน่าสงสาร“น้องพัช” เสียงทุ้มพร่าเอ่ยเรียกขึ้นมา พร้อมกับส่งสายตาพินิจมองเธอ เพราะแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ที่ได้ยินคำพูดหื่นห่ามออกมาจากปากของเธอเธอเป็นเด็กนักเรียนนอก ที่ไปอาศัยอยู่ต่างประเทศอยู่ 5-6 ปี และสิ่งหนึ่งที่เธอไม่เคยลืมวัฒนธรรมไทยคือ วาจากริยาอ่อนน้อมถ่อมตน คำหยาบเธอแทบจะไม่เคยหลุดออกมาจากปากให้ใครได้ยิน แม่แต่คำพูดหื่นห้ามเมื่อครู่ ที่ร้องขอคนตัวโต ที่ขึ้นชื่อว่าสามี เธียรวัฒน์ก็พึ่งจะเคยได้ยินเป็นครั้งแรกเมื่อได้ยินคำเอ่ยขอจากปากของเธอ คนตัวโตที่คร่อมร่างบางอยู่ในขณะนี้ ก็จับพลิกตัวของเธอขึ้นมาอยู่ด้านบนร่างตัวของเขาแทนทันที โดยที่ร่างกายยังคงสอดอยู่เป็นหนึ่งเดียวกันไม่ยอมหลุด“ทำเลยครับเมียจ๋า เอาพี่ให้เสร็จไปเลย” เสียงทุ้มพร่าเอ่ยบอกทันที โดยสายตาที่มองดูเธออย่างเจ้าเล่ห์ เพราะอยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะทำเช่นไรต่อ เธอจะกล้าทำอย่างที่เอ่ยขอหรือไม่ แล
ภารกิจปั๊มลูกทางด้านของพระเอกหนุ่มอย่างชนาวิชญฺ์เอง เมื่อถ่ายเสร็จแล้ว ก็เดินออกมานั่งลงที่ประจำของตัวเอง โดยที่มีผู้จัดการส่วนตัวสาวของเขานั่งอยู่แล้ว“สามีพัชชาเขาเป็นใครกันหรือพี่ปลา” ชนาวิชญ์เอ่ยถามผู้จัดการส่วนตัวของเขาขึ้น เมื่ออยู่กันตามลำพังเพียงสองคน“เห็นว่าเป็นเจ้าของไร่ใกล้ ๆ นี่แหละ ไร่ส้มเธียรวัฒน์ และยังเป็นเพื่อนกับคุณสิทธิวัฒน์ด้วยนะ” ปาณิศา ผู้จัดการส่วนตัวของพระเอกหนุ่มเอ่ยบอกมาไปตามตรง เท่าที่เธอทราบมา เพราะเธอเองก็ไม่ได้รู้อะไรมากไปกว่านี้เลยวัน ๆ เธอยุ่งอยู่แต่กับพระเอกหนุ่มอย่างชนาวิชญ์เกือบทุก 24 ชั่วโมง เธอไม่มีเวลาไปรับรู้เรื่องของคนอื่นหรอกนับตั้งแต่วันที่เธอได้รับหน้าที่ให้ดูแลชนาวิชญ์ เธอก็แทบจะไม่มีสังคมกับเพื่อนฝูงเลย เพราะงานที่เพิ่มขึ้น แถมเธอยังต้องคอยตามควบคุมพฤติกรรมของพระเอกหนุ่มคนนี้อีก“เฮ้อ...” พระเอกหนุ่มได้แต่ถอนหายใจยาว อย่างแก้เซ็ง“ตัดใจเสียเถอะวิชญ์ พัชชาเขามีเจ้าของแล้วนะ ส่วนนายก็ตั้งใจทำงานของนายไป ฉันเชื่อนะว่าสักวันนายจะเจอคนที่เหมาะสมกับนาย คนที่ใช่ เมื่อถึงเวลาก็จะมาหาเราเองแหละ” ปาณิศาได้แต่เอ่ยบอกให้พระเอกหนุ่มตัดใจจากนางเอกสาว
ตามเฝ้าเมื่อวันเวลาเดินทางมาถึงหนึ่งเดือนเต็มแล้ว ที่ศิริพัชชามาพักฟื้นสภาพจิตใจอยู่ที่ไร่แห่งนี้ ในฐานะภรรยาของเจ้าของไร่และวันนี้ศิริพัชชาก็ต้องกลับไปถ่ายละครต่อ กับคิวของเธอให้จบ โดยเป็นสถานที่ที่ต่างจังหวัดพอดี ซึ่งสถานที่ก็อยู่ใกล้ ๆ กันกับไร่เขาอีกด้วย“ถ้าพี่เบื่อ พี่ก็กลับไร่ไปก่อนก็ได้นะคะพี่เธียร แล้วพี่ค่อยมารับพัชตอนเย็นทีเดียวเลย” ศิริพัชชาเอ่ยบอก เมื่อเธียรวัฒน์ที่ตอนนี้นั่งหน้านิ่งไม่สบอารมณ์อยู่วันนี้เขาไม่ได้แค่มาส่งเธอที่กองเพียงอย่างเดียว แต่เขายังมานั่งเฝ้าเธออีกด้วย ไม่ยอมออกห่างเธอเลย จนกระทั่งจะถึงเวลาที่เธอต้องไปเข้าฉากแล้ว“ไม่กลับครับ พี่จะนั่งให้กำลังใจเมียอยู่ที่นี่แหละ” เขาปิดจอโทรศัพท์ลง แล้วหันมาเอ่ยปฏิเสธเธอออกไป เพราะเขาจะรอจนกว่าเธอจะทำงานเสร็จ แล้วค่อยกลับพร้อมกันการมาถ่ายละครต่อในครั้งนี้ มัทนาไม่ได้เดินทางมาดูแลเธอด้วย เพราะหญิงสาวกำลังตั้งครรภ์อยู่ สามีอย่างสิทธิวัฒน์จึงไม่อนุญาตให้มา แต่จะพาเธอมาในวันเลี้ยงปิดกล้องทีเดียวเลย“แต่สัญญานะคะ ว่าจะไม่โมโหโกรธตอนพัชกำลังทำงาน” ศิริพัชชาเอ่ยถามเขาขึ้นมาเพราะฉากที่ยังถ่ายไม่เสร็จก็จะเป็นฉากจบของพระ