Home / รักโบราณ / เงาจันทราลิขิตบัลลังก์ / ตอนที่ 8  เงาอดีตในบันทึกโบราณ

Share

ตอนที่ 8  เงาอดีตในบันทึกโบราณ

last update Last Updated: 2025-06-01 19:30:34


ตอนที่ 8: เงาอดีตในบันทึกโบราณ


ทางลับที่ หลี่มู่ไป๋ เลือกที่จะพุ่งเข้ามาเพื่อหลบหนีจากกลุ่มคนชุดดำนั้นนำพาเขาดิ่งลึกลงไปสู่ใต้ดิน อากาศภายในเย็นชื้นจนรู้สึกได้ถึงกระดูก และมีกลิ่นอับของดินและหินผาปะปนกับกลิ่นสาบของกาลเวลา เสียงฝีเท้าของกลุ่มคนชุดดำที่ติดตามมาเริ่มห่างออกไป บ่งบอกว่าพวกมันน่าจะชะลอความเร็วลงเมื่อเผชิญกับความมืดมิดและเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยนี้ หลี่มู่ไป๋ใช้ความมืดมิดเป็นเกราะกำบัง และความรู้ด้านภูมิศาสตร์ที่อาจารย์ผู้เป็นอาจารย์เคยสอนเพื่อนำทาง เขาสัมผัสผนังหินที่เย็นเฉียบด้วยปลายนิ้ว พยายามจับทิศทางและลักษณะของทางเดิน

อุโมงค์นั้นทอดตัวยาวและคดเคี้ยวราวกับลำไส้ของสัตว์ร้ายใต้พิภพ บางช่วงเป็นทางเดินแคบๆ ที่ต้องเบียดตัวผ่านไปอย่างระมัดระวังจนรู้สึกได้ถึงความอึดอัด บางช่วงก็เปิดกว้างออกเป็นห้องโถงขนาดเล็กที่มืดมิดและเงียบงันจนได้ยินแม้แต่เสียงลมหายใจของตนเอง หลี่มู่ไป๋เคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังทุกย่างก้าว แม้จะมั่นใจว่าคนชุดดำยังตามมาไม่ทัน แต่เขาก็ไม่อาจประมาทได้แม้แต่น้อย

เขาเดินทางลึกเข้าไปในอุโมงค์นั้นราวครึ่งชั่วยาม แสงสว่างจากภายนับค่อยๆ จางหายไปจนมืดสนิท หลี่มู่ไป๋ต้องอาศัยเพียงสัมผัส เสียง และกลิ่นในการนำทาง ในความมืดมิดนี้ ประสาทสัมผัสอื่นของเขาก็ยิ่งเฉียบคมขึ้น เขาสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยจากพื้นดินที่บ่งบอกว่ามีน้ำไหลอยู่ใต้พิภพ และกลิ่นของสนิมเหล็กที่ลอยมาตามลม

ในที่สุด ทางลับก็สิ้นสุดลงที่ห้องโถงใต้ดินขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง แสงสลัวๆ จากช่องแสงเล็กๆ เหนือเพดานซึ่งซ่อนอยู่บนซากปรักหักพังของสำนักโบราณส่องลงมาต้องใจกลางห้อง ทำให้พอมองเห็นสภาพภายในได้บ้าง ห้องโถงแห่งนี้ดูเหมือนจะเป็นห้องสมุดลับ หรือห้องเก็บเอกสารสำคัญของสำนักโบราณ ผนังทั้งสี่ด้านเต็มไปด้วยชั้นวางหนังสือที่ทำจากไม้เนื้อแข็งเก่าแก่ขนาดใหญ่ แต่ส่วนใหญ่ผุพังไปตามกาลเวลา เหลือเพียงซากปรักหักพังและกองเศษกระดาษที่กระจัดกระจายเกลื่อนพื้น กลิ่นอับชื้นและฝุ่นผงคละคลุ้งในอากาศ ราวกับเวลาหยุดนิ่งมานับร้อยปี

หลี่มู่ไป๋เดินเข้าไปในห้องโถงอย่างช้าๆ ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความระมัดระวัง แม้จะไม่มีสัญญาณของอันตรายในทันที แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่แฝงอยู่ในอากาศ พลังงานที่บ่งบอกถึงอดีตอันยิ่งใหญ่ที่ถูกกลืนกินด้วยกาลเวลา เขาเดินสำรวจชั้นวางหนังสือที่เหลืออยู่ บางเล่มถูกปลวกกัดกินจนพรุนเป็นรู บางเล่มถูกความชื้นกัดกร่อนจนตัวอักษรจางหายไปจนอ่านไม่ออก เหลือแต่ร่องรอยของหมึกโบราณ แต่เขาก็ไม่ย่อท้อ พยายามค้นหาอะไรบางอย่างที่อาจจะหลงเหลืออยู่ท่ามกลางความพินาศ

การค้นพบบันทึกโบราณ: ความลับที่ถูกซ่อน

สายตาของหลี่มู่ไป๋เหลือบไปเห็นหีบไม้ขนาดเล็กที่วางอยู่มุมห้อง หีบนั้นดูเก่าแก่และผุพังจนแทบแยกไม่ออกว่าเป็นรูปทรงอะไร แต่เมื่อลองเปิดออก เขาก็พบว่าภายในมีม้วนกระดาษโบราณหลายม้วนถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีกว่าสิ่งอื่นๆ ราวกับถูกห่อหุ้มด้วยพลังบางอย่างทำให้มันคงสภาพอยู่ได้นานนับร้อยปี มันถูกบรรจุอยู่ในถุงผ้าไหมที่ซีดจาง แต่ยังคงกันความชื้นได้ดี ม้วนกระดาษเหล่านั้นมีสีเหลืองซีด แสดงถึงกาลเวลาที่ผ่านไปอย่างยาวนาน

หลี่มู่ไป๋หยิบม้วนกระดาษเหล่านั้นขึ้นมาด้วยความระมัดระวังราวกับกลัวว่ามันจะสลายไปในอากาศ เขากางม้วนกระดาษที่ดูเก่าแก่ที่สุดออก ตัวอักษรโบราณที่สลักอยู่ในนั้นช่างลึกซึ้งและยากที่จะทำความเข้าใจสำหรับคนทั่วไป แต่ด้วยความรู้ภาษาโบราณที่อาจารย์เคยสอนมาตั้งแต่เยาว์วัย หลี่มู่ไป๋ก็พอจะตีความได้บ้าง บันทึกเหล่านี้เป็นของ เจ้าสำนักคนสุดท้ายของสำนักโบราณแห่งนี้ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อันรุกร้าวและยิ่งใหญ่ของสำนัก ภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาเคยแบกรับ และคำทำนายบางอย่างที่กล่าวถึง "คัมภีร์เทพมาร"

สิ่งที่หลี่มู่ไป๋ค้นพบ ทำให้เขาต้องตกตะลึงจนแทบหยุดหายใจ! บันทึกไม่ได้กล่าวถึงคัมภีร์เทพมารในแง่ของวิทยายุทธอย่างที่ร่ำลือกันทั่วไปเลยแม้แต่น้อย ไม่มีแม้แต่เพลงกระบี่หรือเคล็ดวิชาลึกลับใดๆ ที่กล่าวถึงพลังมหาศาลดังที่ชาวบ้านร่ำลือ

"คัมภีร์เทพมาร...มิใช่คัมภีร์วิชา แต่มันคือ กุญแจสู่พลังที่แท้จริงของแผ่นดิน...ถูกซ่อนอยู่ใน แผนที่ลับ...ที่สืบทอดมาจากราชวงศ์แรกเริ่ม..." หลี่มู่ไป๋อ่านข้อความบางส่วนในบันทึกอย่างตั้งใจ ทุกตัวอักษรที่ปรากฏตรงหน้าทำให้หัวใจของเขาเต้นรัวราวกับกลองศึก ความจริงที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าจินตนาการกำลังเผยตัวต่อเขา

ความจริงที่เริ่มเผย: ตราผนึกมังกร

บันทึกโบราณนั้นบรรยายว่า "คัมภีร์เทพมาร" แท้จริงแล้วคือรหัสลับ หรือแผนที่ ที่นำไปสู่สถานที่ซ่อนของ "ตราผนึกมังกร" ซึ่งเป็นตราผนึกโบราณที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์แรกเริ่มของแคว้นเหลียง ตราผนึกนี้ไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของอำนาจ แต่กล่าวกันว่าผู้ใดครอบครองตราผนึกนี้ จะสามารถ ควบคุมพลังแห่งแผ่นดิน ได้ และมีสิทธิ์อันชอบธรรมในการปกครองอาณาจักร ซึ่งจะได้รับความชอบธรรมจากสวรรค์และธรณี

เจ้าสำนักโบราณนี้ได้รับมอบหมายให้ปกป้องความลับของตราผนึกมังกรมาหลายชั่วอายุคน และคัมภีร์เทพมารก็คือแผนที่ที่นำไปสู่ที่ซ่อนของตราผนึกนั้น พวกเขาใช้ชื่อที่น่ากลัวว่า "เทพมาร" เพื่อปกป้องความลับไม่ให้คนภายนอกเข้ามายุ่งเกี่ยว และปล่อยข่าวลือเรื่องพลังยุทธ์ที่ไร้ขีดจำกัดเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากความจริงอันยิ่งใหญ่ที่ซ่อนอยู่

บันทึกยังกล่าวถึงการล่มสลายของสำนักโบราณว่าเกิดจากการโจมตีของ กลุ่มอำนาจมืดกลุ่มหนึ่ง ที่ต้องการเข้าครอบครองคัมภีร์เทพมารและตราผนึกมังกรเพื่อวัตถุประสงค์ในการยึดครองอำนาจ เจ้าสำนักคนสุดท้ายพยายามปกป้องคัมภีร์และตราผนึกไว้จนวินาทีสุดท้าย ก่อนที่จะตัดสินใจซ่อนมันไว้ในที่ที่ยากจะค้นพบ และทิ้งบันทึกนี้ไว้เพื่อเป็นเบาะแสสุดท้ายสำหรับผู้ที่คู่ควรจะมาพบเจอ และจะนำความยุติธรรมกลับคืนมา

"ตราผนึกมังกร...พลังแห่งแผ่นดิน...นั่นหมายถึงอำนาจสูงสุดของราชบัลลังก์!" หลี่มู่ไป๋พึมพำ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึงและไม่เชื่อสายตา นี่เป็นความจริงที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เขาจะจินตนาการไว้ในตอนแรก ปริศนาที่เขาตามหามาตลอดสิบปีเริ่มคลี่คลายลงต่อหน้าเขาอย่างช้าๆ แต่มั่นคง

การเชื่อมโยงกับองค์ชายสาม: แผนการอันชั่วร้าย

ทันใดนั้น ภาพของ องค์ชายสาม ก็ผุดขึ้นมาในความคิดของหลี่มู่ไป๋อย่างชัดเจน เขานึกถึงข่าวลือต่างๆ ที่เคยได้ยินเกี่ยวกับองค์ชายสามที่พยายามรวบรวมอำนาจและอิทธิพลมืดในยุทธภพ การที่กลุ่มคนชุดดำที่มีตราสัญลักษณ์ของสำนักมังกรทมิฬ (ซึ่งเชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับองค์ชายสาม) มาปรากฏตัวที่หุบเขาหมอกทมิฬ และพยายามขัดขวางเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย ยิ่งตอกย้ำให้หลี่มู่ไป๋มั่นใจว่า องค์ชายสาม คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังแผนการอันชั่วร้ายทั้งหมด และกำลังตามหาคัมภีร์เทพมารนี้อยู่เช่นกัน โดยมีเป้าหมายที่แท้จริงคือ "ตราผนึกมังกร" เพื่อยึดครองอำนาจสูงสุดของราชบัลลังก์อย่างไม่ชอบธรรม

"พวกเขาไม่ได้ต้องการพลังยุทธ์ แต่ต้องการตราผนึกมังกร...เพื่อยึดครองบัลลังก์!"

หลี่มู่ไป๋เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว เหตุการณ์การล่มสลายของตระกูลหลี่เมื่อสิบปีก่อน การใส่ร้ายบิดาของเขาด้วยข้อหากบฏ และการพยายามกวาดล้างตระกูลหลี่ให้สิ้นซาก แท้จริงแล้ว อาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนการอันยิ่งใหญ่และชั่วร้ายขององค์ชายสาม ที่ต้องการกำจัดผู้ที่อาจขัดขวางเส้นทางสู่การครอบครองตราผนึกมังกรและบัลลังก์ ผู้ซึ่งเป็นตระกูลผู้พิทักษ์ความลับนี้มาหลายชั่วอายุคน และตระกูลหลี่ก็เป็นหนึ่งในนั้น

ความแค้นที่เคยถูกฝังลึกในใจหลี่มู่ไป๋ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง แต่คราวนี้มันไม่ได้เป็นเพียงความแค้นส่วนตัวจากการสูญเสียครอบครัว แต่เป็นความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นถึงภัยคุกคามที่กำลังเกิดขึ้นกับแคว้นเหลียงทั้งหมด หากองค์ชายสามได้ครอบครองตราผนึกมังกร แคว้นเหลียงจะต้องตกอยู่ในเงื้อมมือของความมืดมิดอย่างแน่นอน

"หากองค์ชายสามได้ครอบครองตราผนึกมังกร แคว้นเหลียงจะต้องตกอยู่ในเงื้อมมือของความมืดมิดอย่างแน่นอน" หลี่มู่ไป๋กำมือแน่นจนข้อขาวโพลน แววตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เขาตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าเขาจะต้องหยุดยั้งแผนการนี้ให้ได้ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งใดก็ตาม

เขาตรวจสอบบันทึกต่อไปอย่างละเอียด ในม้วนสุดท้าย เขาก็พบบันทึกอีกส่วนหนึ่งที่กล่าวถึง "สถานที่ซ่อนของตราผนึกมังกร" ซึ่งไม่ได้อยู่ในหุบเขาหมอกทมิฬแห่งนี้ แต่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์โบราณที่ถูกลืมเลือนไปแล้ว และบันทึกนั้นก็มีชิ้นส่วนของแผนที่ลึกลับอยู่ด้วย เป็นแผนที่ที่ดูเหมือนจะเชื่อมโยงกับดวงดาวและกลุ่มดาวโบราณ บ่งบอกว่าที่ซ่อนนั้นไม่ได้อยู่ที่ใดที่หนึ่งที่หาพบได้ง่าย

ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าที่หนักแน่นก็ดังขึ้นมาจากทางเข้าห้องโถง หลี่มู่ไป๋เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว กลุ่มคนชุดดำที่เขาเพิ่งหนีมาได้ตามมาทันแล้ว! ผู้นำชุดดำก้าวเข้ามาในห้องโถง ใบหน้าภายใต้ผ้าคลุมยังคงมืดมิด แต่แววตาที่จ้องมองมายังหลี่มู่ไป๋นั้นเต็มไปด้วยความอาฆาตและโลภโมโทสัน

"แกเข้ามาในที่ที่ไม่ควรเข้ามา" ผู้นำชุดดำกล่าวเสียงแหบพร่า "ส่งสิ่งที่แกค้นพบออกมาซะ! อย่าได้คิดจะเก็บมันไว้คนเดียว!" มันเห็นม้วนบันทึกอยู่ในมือของหลี่มู่ไป๋ และรู้ทันทีว่าเขาได้ค้นพบความลับบางอย่างที่พวกมันตามหามานาน

หลี่มู่ไป๋เก็บม้วนบันทึกที่สำคัญที่สุดไว้ในอกเสื้ออย่างรวดเร็ว ส่วนม้วนอื่นๆ ที่ไม่สำคัญ เขาโยนลงไปในกองเศษกระดาษที่ผุพัง พยายามทำให้พวกมันสับสนและเสียเวลาในการค้นหา

"หึ! คิดจะหลอกพวกข้าหรือไง! เจ้าเด็กน้อย!" ผู้นำชุดดำตะคอกใส่ ก่อนจะสั่งลูกน้องที่ติดตามมา "จัดการมัน! แย่งชิงทุกสิ่งที่มันถืออยู่มาให้หมด! หากมันขัดขืน...สังหารได้เลย!"

การต่อสู้ครั้งใหม่ปะทุขึ้นในห้องโถงใต้ดินที่เต็มไปด้วยฝุ่นและซากปรักหักพังอย่างดุเดือด หลี่มู่ไป๋ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูจำนวนมากที่ดูเหมือนจะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ เพราะพวกมันสามารถนำกำลังเสริมเข้ามาจากอุโมงค์ได้ พวกมันมีฝีมือดี และคราวนี้ดูเหมือนจะลงมืออย่างเด็ดขาดกว่าเดิม ไม่ได้แค่ต้องการจับตัว แต่ต้องการกำจัดเขาให้ตาย เพื่อไม่ให้ความลับรั่วไหลออกไป

หลี่มู่ไป๋ใช้เพลงกระบี่ที่พลิกแพลงและวิชาตัวเบาอย่างเต็มที่ เขาสะบัดกระบี่ไปมา สร้างเกราะป้องกันจากคมดาบที่พุ่งเข้ามาพร้อมกับโจมตีสวนกลับอย่างรวดเร็วและแม่นยำ เขาเตะตัดขา ปัดป้องการโจมตี และตอบโต้ด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ เขายังคงไม่คิดที่จะฆ่าใครตาย แต่ก็ทำให้ศัตรูบาดเจ็บจนไม่อาจติดตามเขาได้

"ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่จะสู้ได้นาน" หลี่มู่ไป๋คิดในใจ เขาสังเกตเห็นรอยร้าวขนาดใหญ่บนผนังด้านหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนจะเป็นทางเชื่อมต่อไปยังส่วนอื่นของสำนักโบราณที่ยังไม่ถูกสำรวจ หรือเป็นเส้นทางหลบหนีที่ถูกซ่อนไว้มานาน

เขาตัดสินใจในพริบตาเดียว!

หลี่มู่ไป๋เร่งเพลงกระบี่ให้รวดเร็วและรุนแรงขึ้นกว่าเดิม สร้างแรงกดดันให้กับกลุ่มคนชุดดำ เพื่อเปิดช่องว่าง ก่อนที่เขาจะพุ่งตัวเข้าหารอยร้าวบนผนัง และใช้พลังลมปราณผลักก้อนหินขนาดใหญ่ที่ปิดกั้นรอยร้าวออกไปอย่างรุนแรง ก้อนหินขนาดมหึมากลิ้งกระแทกพื้นดินดังสนั่น ทำให้ฝุ่นควันฟุ้งกระจายไปทั่วห้องโถง

"หนีไปไหนไม่พ้นหรอก! แกจะต้องตายที่นี่!" ผู้นำชุดดำตะโกนไล่ตามด้วยความเดือดดาล แต่ก้อนหินที่หลี่มู่ไป๋ผลักออกไปนั้นใหญ่เกินกว่าที่พวกมันจะตามเข้าไปได้ในทันที ทำให้พวกมันต้องเสียเวลาในการทำลายสิ่งกีดขวางนั้นและเคลียร์ทาง

หลี่มู่ไป๋พุ่งตัวเข้าไปในรอยร้าวที่มืดมิด ทิ้งให้เสียงโวยวายของกลุ่มคนชุดดำดังแว่วอยู่ด้านหลัง เขาไม่รู้ว่าเส้นทางข้างหน้าจะนำพาเขาไปที่ใด แต่เขารู้ว่าเขาจะต้องรีบออกจากหุบเขาแห่งนี้ และกลับไปหาทางสืบหา "ตราผนึกมังกร" ที่ซ่อนเร้นอยู่ เพื่อเปิดโปงแผนการอันชั่วร้ายขององค์ชายสาม และล้างมลทินให้ตระกูลหลี่ให้จงได้! เส้นทางแห่งความจริงและอันตรายกำลังรอเขาอยู่เบื้องหน้า

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เงาจันทราลิขิตบัลลังก์   ตอนที่  65 บทสรุปแห่งรักและการเริ่มต้นใหม่ ตอนจบ

    ตอนที่ 65บทสรุปแห่งรักและการเริ่มต้นใหม่หลังจากที่หลี่เทียนอี้และไป๋ซูเจินได้คลี่คลายปริศนาในอดีตของหลี่มู่ไป๋และมู่หรงชิง และได้รับรู้ถึงความจริงเกี่ยวกับพรรคเงาอสูรแล้ว พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะใช้เวลาช่วงหนึ่งอยู่ในหมู่บ้านเมฆาเงียบสงบ เพื่อฟื้นฟูจิตใจและวางแผนสำหรับอนาคตแม้ว่าตระกูลไป๋จะยิ่งใหญ่และร่ำรวย แต่ไป๋ซูเจินก็ไม่ได้ปรารถนางานแต่งงานที่หรูหราอลังการ สิ่งที่นางต้องการคือความเรียบง่ายและอบอุ่น และหลี่เทียนอี้ก็เห็นด้วยกับนางอย่างเต็มที่ด้วยความเห็นชอบจากประมุขไป๋ที่เดินทางมาถึงหมู่บ้านเมฆาเงียบสงบในภายหลัง และการจัดเตรียมงานของมู่หรงชิง งานแต่งงานเล็กๆ ของหลี่เทียนอี้และไป๋ซูเจินจึงถูกจัดขึ้นอย่างอบอุ่นและเป็นกันเองในหมู่บ้านเมฆาเงียบสงบแขกในงานมีเพียงคนสนิทและชาวบ้านที่รักใคร่ หลี่ฟงและเฒ่าจันทร์เองก็เดินทางมาร่วมงานด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความสุข เสียงหัวเราะ และการอวยพรจากใจจริงของทุกคนไป๋ซูเจินในชุดเจ้าสาวสีขาวสะอาดตา งดงามราวกับเทพธิดา นางเดินเข้ามาในลานบ้านที่ถูกประดับประดาอย่างเรียบง่ายแต่สวยงาม เคียงข้างหลี่เทียนอี้ในชุดเสื้อผ้าธรรมดาแต่ดูสง

  • เงาจันทราลิขิตบัลลังก์   ตอนที่ 64 การกลับบ้าน

    ตอนที่ 64การกลับบ้านในเมืองเหมันต์ หลี่เทียนอี้รู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องกลับไปที่หมู่บ้านเมฆาเงียบสงบอีกครั้ง เพื่อแบ่งปันเรื่องราวทั้งหมดให้พ่อแม่ฟัง และที่สำคัญที่สุด คือการพาไป๋ซูเจินผู้เป็นที่รักกลับไปแนะนำให้พวกท่านได้รู้จัก การเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยความคาดหวังและความอบอุ่นในหัวใจของทั้งสองคนหลี่เทียนอี้และไป๋ซูเจินออกเดินทางจากเมืองเหมันต์ มุ่งหน้าสู่หมู่บ้านเมฆาเงียบสงบ การเดินทางครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน ๆ ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและอันตราย บัดนี้มันคือการเดินทางกลับบ้าน สู่ความสงบสุขและอ้อมกอดของครอบครัว แม้จะมีเรื่องราวหนักอึ้งในอดีตที่รอการคลี่คลาย แต่การได้อยู่เคียงข้างไป๋ซูเจินทำให้หลี่เทียนอี้รู้สึกเข้มแข็งและพร้อมเผชิญหน้ากับทุกสิ่งระหว่างทาง หลี่เทียนอี้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับหมู่บ้านเมฆาเงียบสงบให้ไป๋ซูเจินฟังอย่างละเอียด เล่าถึงชีวิตที่เรียบง่าย การฝึกฝนวรยุทธ์ภายใต้การดูแลของบิดา และความรักความอบอุ่นที่มารดามอบให้ ไป๋ซูเจินตั้งใจฟังทุกถ้อยคำ นางรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้พบกับหลี่มู่ไป๋และมู่หรงชิง ผู้เป็นต้นแบบของคุณธรรมและความสามารถที่หล่อหลอมให้หลี่เทียนอี้เป็นบ

  • เงาจันทราลิขิตบัลลังก์   ตอนที่  63 ร่องรอยของอดีต

    ตอนที่ 63ร่องรอยของอดีตหลังจากใช้เวลาหลายเดือนในการช่วยเหลือผู้คนและสร้างชื่อเสียงที่ดีงามในยุทธภพในฐานะ "คู่รักจอมยุทธ์ผู้ทรงคุณธรรม" หลี่เทียนอี้และไป๋ซูเจินก็ได้เดินทางมาถึงเมืองใหญ่อีกแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า เมืองเหมันต์ ซึ่งเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์และเป็นศูนย์กลางการค้าที่คึกคัก แม้ว่าชีวิตของพวกเขาจะเต็มไปด้วยความสุขจากการได้ทำสิ่งดีๆ และความรักที่มั่นคงต่อกัน แต่โชคชะตาก็มักจะนำพาสิ่งที่ไม่คาดฝันมาให้เสมอ และในครั้งนี้ หลี่เทียนอี้กำลังจะได้เผชิญหน้ากับ ร่องรอยบางอย่างจากอดีตของพ่อแม่ ที่เขาไม่เคยล่วงรู้มาก่อนเมื่อก้าวเข้าสู่เมืองเหมันต์ หลี่เทียนอี้รู้สึกถึงความคุ้นเคยแปลกๆ ราวกับว่าเขาเคยมาที่นี่มาก่อน ทั้งที่ในความทรงจำของเขาไม่เคยมีภาพเมืองนี้อยู่เลย กลิ่นอายของปราณที่แข็งแกร่งและแฝงด้วยความเยือกเย็นบางอย่างที่อบอวลอยู่ในอากาศ ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย“ท่านหลี่เทียนอี้ ดูเหมือนเมืองนี้จะมีความพิเศษบางอย่างนะเจ้าคะ” ไป๋ซูเจินสังเกตเห็นท่าทีของเขา นางมีความละเอียดอ่อนและรับรู้ถึงพลังปราณบางอย่างได้ดีเช่นกัน“ข้าก็รู้สึกเช่นนั้นขอรับไป๋ซูเจิน” หลี่เทียนอี้ตอ

  • เงาจันทราลิขิตบัลลังก์   ตอนที่  62 บทบาทใหม่ในยุทธภพ

    ตอนที่ 62บทบาทใหม่ในยุทธภพหลังจากความรักได้รับการยอมรับจากประมุขไป๋และคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ใต้แสงจันทร์ ณ เมืองจินหลิง ชีวิตบทใหม่ของหลี่เทียนอี้และไป๋ซูเจินก็ได้เริ่มต้นขึ้น พวกเขาไม่ได้จมปลักอยู่กับความสุขส่วนตัวเพียงอย่างเดียว หากแต่เลือกที่จะก้าวเดินบนเส้นทางแห่งคุณธรรมร่วมกัน นำวิชาความรู้และจิตใจที่เปี่ยมด้วยเมตตาออกไปช่วยเหลือผู้คนในยุทธภพที่กว้างใหญ่ไพศาล สร้างบทบาทใหม่ในฐานะ คู่รักจอมยุทธ์ผู้ทรงคุณธรรมหลี่เทียนอี้และไป๋ซูเจินไม่ได้รีบร้อนที่จะสร้างชื่อเสียงอันโด่งดัง หรือก่อตั้งสำนักใหญ่โตดุจสำนักอื่น ๆ ในยุทธภพ พวกเขาเริ่มต้นจากการช่วยเหลือผู้คนในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พบเจอระหว่างการเดินทาง ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาถนัดและเชื่อมั่นในคุณค่าของมันพวกเขาออกเดินทางจากเมืองจินหลิง มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านและเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ห่างไกลความเจริญและมักถูกละเลยจากสำนักใหญ่ ๆ เหล่านั้นครั้งหนึ่ง พวกเขาได้เดินทางไปถึงหมู่บ้านชายแดนแห่งหนึ่ง ซึ่งกำลังประสบปัญหาจากภัยแล้งอย่างหนัก ผู้คนอดอยากและเจ็บป่วยล้มตายจำนวนมาก“ท่านหลี่เทียนอี้ ชาวบ้านเหล่านี้เดือดร้อนหนักมากเจ้าค่ะ” ไป๋ซูเจินกล่าวด

  • เงาจันทราลิขิตบัลลังก์   ตอนที่ 61 การยอมรับและเส้นทางที่เลือก

    ตอนที่ 61การยอมรับและเส้นทางที่เลือกหลังเหตุการณ์วุ่นวายในเมืองจินหลิง ที่หลี่เทียนอี้และไป๋ซูเจินร่วมมือกันปกป้องเมืองจากเงื้อมมือของสำนักเงาดำ ความกล้าหาญและคุณธรรมของทั้งคู่เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาคนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อประมุขไป๋ผู้เป็นบิดาของไป๋ซูเจิน การกระทำของพวกเขาในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตผู้คนจำนวนมาก แต่ยังเป็นการเปิดประตูสู่การยอมรับความรักของทั้งคู่ ที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคมาอย่างยาวนานหลังจากความสงบกลับคืนสู่เมืองจินหลิง ประมุขไป๋ได้เรียกหลี่เทียนอี้และไป๋ซูเจินมาพบเป็นการส่วนตัวในห้องโถงใหญ่ของจวน ใบหน้าของเขาไม่ได้แสดงความโกรธเคืองหรือความไม่พอใจเหมือนเช่นเคย หากแต่เต็มไปด้วยความนับถือและความสำนึกผิด“ท่านหลี่เทียนอี้” ประมุขไป๋เริ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าครั้งก่อนมาก “ในวันนี้ ข้าได้เห็นกับตาแล้วว่าท่านเป็นบุรุษเช่นไร”เขาถอนหายใจช้าๆ “ข้าเคยผิดพลาดที่มองคนแต่เพียงเปลือกนอก และดูถูกท่านด้วยฐานะอันต่ำต้อย” ประมุขไป๋เดินเข้าไปหาหลี่เทียนอี้ แล้ว โค้งคำนับเล็กน้อย “ข้าขออภัยท่านด้วยใจจริง ที่เคยดูหมิ่นท่านและทำให้ท่านกับบุตรสาวของข้าต้องเจ็บปวด”หลี่เที

  • เงาจันทราลิขิตบัลลังก์   ตอนที่ 60  บทพิสูจน์แห่งรัก

    ตอนที่ 60 บทพิสูจน์แห่งรักการกลับมาพบกันอีกครั้งที่เมืองจินหลิง ท่ามกลางสถานการณ์การบุกโจมตีของโจรป่า ทำให้หลี่เทียนอี้และไป๋ซูเจินได้ยืนยันความรู้สึกในใจของกันและกัน แม้จะไม่มีคำพูดใดเอ่ยออกมาอย่างชัดเจน แต่สายตาที่สื่อถึงกันก็เพียงพอแล้วที่จะบอกว่าความรักของพวกเขายังคงมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่โลกภายนอกที่กว้างใหญ่ไม่ได้มีเพียงความรักที่สวยงาม การเผชิญหน้าครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของบททดสอบครั้งใหญ่ ที่พวกเขาจะต้องพิสูจน์ความรักของตนเองและสิ่งที่ยึดมั่นร่วมกันหลังจากเหตุการณ์โจรป่าบุกโจมตี ประมุขไป๋ก็จำต้องยอมรับฝีมือและคุณธรรมของหลี่เทียนอี้ที่ปรากฏให้เห็นในวันนี้ แต่เขาก็ยังคงไม่ยอมรับหลี่เทียนอี้ในฐานะบุตรเขยของตระกูลไป๋ และยังคงยืนกรานที่จะให้ไป๋ซูเจินแต่งงานกับคุณชายหลินอยู่ดีหลี่เทียนอี้และไป๋ซูเจินจึงตัดสินใจที่จะพูดคุยกันอย่างเปิดอก ณ สถานที่ลับแห่งหนึ่งในเมืองจินหลิง“ท่านหลี่เทียนอี้” ไป๋ซูเจินกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ท่านพ่อไม่ยอมรับท่าน…และท่านก็ยังคงต้องแต่งงานกับคุณชายหลิน”“ข้าจะไม่ยอมให้เรื่องนั้นเกิดขึ้นเด็ดขาดขอรับ” หลี่เทียนอี้กล่าวด้วยความมุ่งมั่น “ข้าจะพิ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status