Share

บทที่ 3

Author: พีชชี่
“ฉันให้เวลาคุณสามวัน กำจัดผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ”

อิซาเบลล่ากระชากมือออกจากมือของดันเต้ เจ้าสาวที่น่ารักและเกาะติดแจหายไปแล้ว

เห็นได้ชัดว่าเจ้าหญิงมาเฟียคนนี้ไม่ค่อยอดทนกับเรื่องชู้สาวของว่าทีสามีเท่าไหร่

เธอเดินกระทืบส้นสูงออกไป

ขณะที่เธอเดินผ่านฉัน กระเป๋าของเธอกระแทกเข้ากับมือที่บาดเจ็บของฉันอย่างแรง

ความเจ็บปวดแล่นผ่านร่าง ฉันกัดริมฝีปากเพื่อไม่ให้กรีดร้องออกมา

หลังเธอออกไป ดันเต้ปิดประตูห้องทำงานลง

เขาจ้องมาที่ฉัน ดวงตาของเขาปราศจากความอบอุ่นที่เคยมี

“อันโตนิโอบอกว่าเธออยากลาออกเหรอ? ฉันไม่อนุมัติ แต่หลังจากที่เกิดเรื่องวันนี้ ฉันจะให้เธอสองทางเลือก”

เขาเดินไปที่บาร์และเทวิสกี้ให้ตัวเอง เขาไม่ได้เทให้ฉันด้วย

“ทางเลือกแรก เธอจ่ายเงินให้กับครอบครัวรอสซี่หนึ่งพันเจ็ดร้อยห้าสิบล้านบาทเพื่อชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชื่อเสียงของพวกเขา”

ฉันจ้องมองเขา

“อะไรนะ?”

“เรื่องอื้อฉาวเมื่อคืนนี้ทำให้ชื่อเสียงของเราสองครอบครัวได้รับความเสียหาย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว “มีคนต้องรับผิดชอบ”

“ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ!”

“การที่เธออยู่ที่นั่นมันเป็นความผิดพลาด” เขาดื่มวิสกี้คำหนึ่ง “ทางเลือกที่สอง เธอจะขอโทษ ขอโทษต่อหน้าสาธารณะ ขอโทษต่ออิซาเบลล่า ขอโทษต่อแก๊งของฉัน เธอจะยอมรับว่าเธอยั่วยวนฉัน เธอจะสาบานว่าจะหายไป และฉันจะย้ายเธอไปยังคฤหาสน์ของฉันทางฝั่งตะวันตก เธอยังสามารถทำงานของเธอที่นั่นต่อไปได้”

ฉันรู้สึกเหมือนเลือดในตัวฉันเย็นเยียบ

ทำงาน?

เขาแค่อยากขังฉันไว้ตลอดไป

เขาต้องการให้ฉันขอโทษ... ให้บอกว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของฉัน...

“คุณบ้าไปแล้วเหรอ ดันเต้?” เสียงของฉันสั่น “คุณต้องการให้ฉันขอโทษ? ขอโทษเรื่องอะไร? เพราะว่าฉันรักคุณเหรอ? เป็นคุณต่างหากที่…”

“เลือกมาเถอะ เอลาร่า”

ดวงตาของเขาไหววูบไปชั่วขณะ แต่ก็กลับเย็นชาเหมือนเดิม

“แล้วถ้าฉันปฏิเสธล่ะ?”

เขาวางแก้วลงแล้วเดินมาหาฉัน

“งั้นเธอจะสูญเสียทุกอย่าง ถึงแม้เธอจะทิ้งฉันไป ฉันก็จะทำให้แน่ใจว่าเธอจะไม่มีทางหางานทำในประเทศนี้ได้อีก” เขาหยุดข้างหน้าฉัน “เธอก็รู้ว่าฉันทำได้”

ฉันจ้องมองเขา ผู้ชายคนที่ฉันเคยคิดว่าฉันรู้จัก

“ฉันจะเลือกทางเลือกที่สอง” ฉันพูดเสียงลอดไรฟัน “แต่นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย”

“ประชุมของแก๊งวันพรุ่งนี้ ตอนบ่ายสามโมง”

……

วันถัดมา ฉันยืนอยู่ในห้องประชุมของแก๊งคอสเตลโล

ชายราวสิบคนในชุดสูทราคาแพง ซึ่งเป็นแกนนำของแก๊งนั่งอยู่รอบโต๊ะยาว

อิซาเบลล่านั่งอยู่ทางขวามือของดันเต้ ใบหน้าของเธอปรากฎรอยยิ้มอย่างผู้ชนะ

“สุภาพบุรุษทุกท่าน” ดันเต้ลุกขึ้นยืน “เรามาอยู่ที่นี่ในวันนี้เพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดอันไม่พึงประสงค์”

ดวงตาของเขามองมาที่ฉัน “เอลาร่า เชิญ”

ฉันสูดหายใจลึกและยืนขึ้น

“ฉัน... ฉันอยากขอโทษสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น” เสียงของฉันแผ่วเบา “มันเป็นความผิดของฉันเอง ฉันไม่ควรอยู่ที่นั่น”

“ดังกว่านี้” อิซาเบลล่าสั่ง “ให้ทุกคนได้ยิน”

ฉันกำหมัดแน่น

“ฉันขอโทษสำหรับการกระทำของฉัน” ฉันเสียงดังขึ้น คำพูดขมขื่นเหมือนเถ้าถ่าน “ฉันเป็นคนเข้าหาคุณดันเต้เอง ฉันทำตัวไม่เหมาะสม มันเป็นความผิดพลาด และฉันก็ควบคุมตัวเองไม่ได้”

ภายในห้องนั้นเงียบกริบ

ชายชราบางคนสบตากัน บางคนส่ายหน้า บางคนยิ้มเยาะ

“ฉันสัญญา... ว่าฉันจะไม่ไปรบกวนกับพวกเขาอีก” ฉันบังคับให้คำพูดหลุดออกมา “ฉันจะจากไป และจะไม่กลับมา”

“ดี” ชายแก่ผมขาวคนหนึ่งพยักหน้า “เด็ก ๆ ทำผิดพลาด ย่อมไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก ตราบใดที่พวกเขาเรียนรู้ได้บทเรียน”

ฉันจำได้ว่าเมื่อสองปีก่อน ในห้องนี้เอง ดันเต้เคยแสดงภาพวาดเรอเนซองส์ที่ฉันบูรณะให้พวกเขาดู

“เอลาร่าเป็นอัจฉริยะ” เขาเคยพูดอย่างนั้น “เธอสามารถทำให้ศิลปะที่ตายไปแล้วกลับมามีชีวิตใหม่ได้”

ความภาคภูมิใจและการชื่นชมในดวงตาของเขาในตอนนั้น ในตอนนี้มันกลับเหมือนเรื่องตลกร้าย

“ยุติการประชุมได้” ดันเต้ประกาศ

ขณะที่ทุกคนออกไป อิซาเบลล่าเบียดผ่านฉันไป ไหล่ของเธอชนเข้ากับไหล่ของฉัน เธอโน้มตัวเข้ามา น้ำหอมของเธอทั้งฉุนกึกและชวนสำลัก “เด็กดี” เธอกระซิบ “ครั้งหน้า ร้องไห้หน่อยนะ มันจะทำให้การแสดงดูน่าเชื่อถือมากขึ้น”

ไม่นานหลังจากนั้น ก็เหลือแค่ดันเต้กับฉัน

“ยังเจ็บแผลอยู่หรือเปล่า?” เขาถาม พลางชี้ไปที่มือที่พันผ้าพันแผลของฉัน

ฉันจ้องมองเขา ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขายังมีหน้ามาถาม

“คุณแสร้งทำเป็นใส่ใจงั้นเหรอ?”

“หลังจากที่เธอทำโปรเจ็กต์เสร็จ ฉันจะให้เวลาเธอพักหนึ่งสัปดาห์ จากนั้นเธอเตรียมเก็บข้าวของย้ายไปที่คฤหาสน์ฝั่งตะวันตกซะ” เขาหลีกเลี่ยงคำถามของฉัน “ไปพักผ่อนหน่อย”

“ขอบคุณสำหรับความเมตตาค่ะ นายท่าน” ฉันพูดประชด “แล้วตอนนี้ฉันไปได้รึยัง?”

เขาพยักหน้า

ฉันหันหลังเพื่อจะจากไป แต่หยุดที่ประตู

“ดันเต้” ฉันพูด มองกลับไปที่เขา “คุณจำ ‘วีนัสหลับ’ ได้ไหม? ฉันใช้เวลาสามเดือนในการบูรณะมัน และคุณบอกว่ามันเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดที่คุณเคยเห็น”

สีหน้าของเขาเคร่งเครียดขึ้น

“ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว” เสียงหัวเราะขมขื่นหลุดออกจากปากฉัน “คุณไม่เคยรักฉันเลย คุณรักในสิ่งที่ฉันทำได้ ฉันซ่อมแซมของพัง ๆ ของคุณ ฉันทำให้พวกมันกลับจากความตาย”

ฉันมองตาเขา “ดันเต้ ที่ต่างไปก็คือภาพวาดไม่สามารถรักคุณตอบได้ และมันไม่สามารถสร้างปัญหาให้คุณได้”

ฉันไม่รอคำตอบจากเขา ฉันแค่เดินออกไป

ฉันกลับไปที่อะพาร์ตเมนต์ของฉัน และเริ่มเก็บของ

ฉันโยนทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับดันเต้ลงในถุงขยะ

หนังสือที่เขาเคยมอบให้ฉัน รูปถ่ายที่เราถ่ายด้วยกัน แม้แต่ไฟล์งานโปรเจ็คของฉัน

ฉันกำลังตัดขาดทุกความผูกพันกับอดีตของฉัน

วันถัดมา ฉันยืนอยู่ที่งานเปิดตัวโรงแรมใหม่ที่ได้รับการสนับสนุนจากคอสเตลโล กรุ๊ป

มันเป็นโปรเจ็กต์สุดท้ายของฉันก่อนออกจากนิวยอร์ก ฉันเป็นผู้รับผิดชอบการบูรณะและจัดแสดงงานศิลปะทั้งหมดของโรงแรม

“สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษทุกท่าน” เสียงพิธีกรดังขึ้น “ขอเชิญที่ปรึกษาด้านศิลปะประจำงานของเรา คุณเอลาร่า แวนซ์ ขึ้นมานำเสนอคอลเลกชันศิลปะของโรงแรมครับ”

ฉันสูดหายใจลึกแล้วเดินขึ้นเวที

นี่คือจุดสูงสุดของอาชีพฉัน และก็เป็นการอำลาของฉันด้วย

“ขอบคุณทุกท่านค่ะ” ฉันปรับไมโครโฟน “คืนนี้ เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะนำเสนอ…”

แต่จู่ ๆ ก็เกิดความเคลื่อนไหวในฝูงชน

แขกเริ่มซุบซิบกัน และมองฉันด้วยสายตาแปลก ๆ

ด้วยความสับสน ฉันหันกลับไปมองจอใหญ่ที่ด้านหลังฉัน

หัวใจของฉันหยุดเต้น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เงารักนายมาเฟีย   บทที่ 21

    มุมมองของเอลาร่าหกเดือนต่อมา ที่ปารีส ในวันแต่งงานของฉันฉันสวมชุดที่จูเลียนช่วยออกแบบ ผ้าลูกไม้เรียบ ๆ ประดับด้วยไข่มุกเม็ดเล็ก ๆ ราวกับน้ำค้างยามเช้าก่อนพิธีจะเริ่ม มีพัสดุปริศนาอีกกล่องมาถึงข้างในเป็นเครื่องประดับที่ออกแบบโดยอัลฟองส์ มูชา ปรมาจารย์ศิลปะด้านอาร์ตนูโว เป็นชุดอัญมณีอเล็กซานไดรต์ ซึ่งมีค่าประเมินไม่ได้อเล็กซานไดรต์เปลี่ยนสีเมื่ออยู่ใต้แสงที่ต่างกัน “มรกตในเวลากลางวัน ทับทิมในเวลากลางคืน” เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตคู่ที่ซับซ้อนและการคืนดีกันในที่สุดการ์ดใบเล็กมีข้อความเดียวที่เขียนด้วยลายมืออันเฉียบคมที่คุ้นเคยของเขา ‘แด่ผู้หญิงที่เธอควรจะเป็นมาตลอด’ฉันรู้ว่านี่คือการอำลาครั้งสุดท้ายของเขาฉันปิดกล่องและวางมันไว้อีกด้าน จากนั้นฉันก็สวมสร้อยคอรูปดอกทานตะวันเรียบง่ายที่จูเลียนแกะสลักให้ฉันสมบัติที่แท้จริงของฉัน ชนิดที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยความมืดมิดในการเปล่งประกายภายในโบสถ์ ฉันเดินลงจากทางเดินกลางโดยมีแม่ของฉันควงแขนมา มุ่งหน้าไปหาจูเลียนที่แท่นพิธีเมื่อบาทหลวงถามว่าฉันจะรับเขาเป็นสามีหรือไม่ ฉันมองเข้าไปในดวงตาของเขาที่เต็มไปด้วยความรัก และตอบด้วยความมั่นใจอ

  • เงารักนายมาเฟีย   บทที่ 20

    มุมมองของเอลาร่าสองเดือนต่อมา จูเลียนกับฉันอยู่ที่สนามบินเรากำลังจะย้ายไปปารีสเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยสมบูรณ์เมืองในออเรกอนสวยงาม แต่การปรากฏตัวของดันเต้เป็นเหมือนหยดหมึกที่เปื้อนมหาสมุทรทั้งหมดฉันต้องการการตัดขาดที่หมดจด ต้องการเริ่มต้นใหม่ที่แท้จริงดันเต้ไม่ปรากฏตัวอีกเลยหลังจากคืนนั้นแต่ “ของขวัญ” แห่งการไถ่บาปของเขาไม่เคยหยุดหย่อนภาพร่างงานออกแบบซึ่งฉันคิดว่าถูกทำลายไปนานแล้ว ได้รับการซ่อมแซมเอกสารสำหรับมูลนิธิศิลปะที่จัดตั้งขึ้นในนามของฉันแม้แต่โฉนดโรงแรมแกรนด์โคสตัลในชิคาโกของขวัญแต่ละชิ้นเป็นเหมือนโซ่ตรวนอีกเส้น ที่พยายามดึงฉันกลับไปสู่อดีตฉันส่งทุกอย่างคืนไป โดยไม่ได้เปิดดู พร้อมแนบข้อความเดียวไป【ฉันไม่ต้องการอะไรจากคุณ ความผิดของคุณคือภาระที่คุณต้องแบกรับเอง ปล่อยฉันไปตามลำพัง】ก่อนขึ้นเครื่อง จูเลียนไปตรวจสอบกระเป๋าเดินทางของเรา ฉันนั่งคนเดียวในพื้นที่รอจากระยะไกล ฉันเห็นเขาเขายืนอยู่อีกฝั่งหนึ่งของจุดตรวจรักษาความปลอดภัย สวมเสื้อโค้ทสีดำเรียบ ๆไม่มีบอดี้การ์ด เขาดูผอมลงมาก ดูอ่อนล้าเขาดูเหมือนรูปปั้นที่ถูกทิ้งไว้กลางสายฝน ดูสึกกร่อน ถูกลืม แ

  • เงารักนายมาเฟีย   บทที่ 19

    มุมมองของดันเต้เมืองชายฝั่งในรัฐออเรกอนเป็นเวลาสามวันที่ผมเป็นเหมือนผีในชีวิตใหม่ของเธอ เป็นนักแอบมองในเงามืด กระหายที่จะได้เห็นเธอเพียงสักแวบหนึ่งผมเห็นเธอ ผมของเธอสั้นและดูเฉียบคมขึ้น ตอนนี้เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบง่ายแสงอาทิตย์ยามบ่ายสาดส่องไปทั่วใบหน้าที่กำลังจดจ่อของเธอ เคลือบคลุมเธอด้วยรัศมีสีทองเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ดูประหม่าอยู่เสมอข้างกายผมแล้ว เธอเปล่งประกายผมเห็นผู้ชายใจดีคนหนึ่งมารับเธอจากที่ทำงานทุกเย็นเขาจะรับกระเป๋าเครื่องมือจากมือเธอ แล้วกอบกุมมือเธอไว้ในมือเขาเธอจะประสานนิ้วมือกับเขา ซึ่งเป็นไปอย่างธรรมชาติผมเห็นพวกเขาไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต เถียงกันเล่น ๆ เรื่องยี่ห้อนมทุกรอยยิ้มที่เธอมอบให้เขาคือมีดร้อน ๆ ที่บิดคว้านอยู่ในท้องของผมความหึงหวงเป็นดั่งเถาวัลย์พิษ รัดหัวใจผมจนแทบหายใจไม่ออกแต่ในขณะเดียวกัน ความรู้สึกพึงพอใจอันน่าสะพรึงกลัวก็ท่วมท้นเข้ามาเธอสบายดี เธอมีความสุข เธอมีชีวิตอยู่จนกระทั่งคืนที่มีหิมะตกคืนนั้นในวันเกิดของเธอผมมองดูเขาขอเธอแต่งงาน ผ่านหน้าต่างผมมองดูเขาจูบเธออย่างอ่อนโยนและผมมองดูเธอยกปลายเท้าขึ้นเพื่อรับจู

  • เงารักนายมาเฟีย   บทที่ 18

    มุมมองของดันเต้มือของผมคลายออกปืนลูกโม่ชุบทองที่กำลังจะตัดสินชะตากรรมของอิซาเบลล่าตกลงกระทบพื้นอิซาเบลล่ารีบคว้ามันไว้ราวกับเป็นสายใยสุดท้ายของชีวิตเธอคลานเข้ามากอดขาผม ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาและน้ำมูก “ดันเต้! ดันเต้ ฟังฉันนะ! ฉันรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน! ฉันรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน!”ผมค่อย ๆ ก้มลงมองผู้หญิงที่น่าสมเพชที่เท้าผม ดวงตาของผมเย็นชาจนกลายเป็นน้ำแข็ง“พูดอีกทีสิ”“ฉันรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน!” อิซาเบลล่าคิดว่าเธอเจอข้อต่อรองแล้ว เธอเงยหน้าขึ้นอย่างกระตือรือร้น “คนของฉันพบเธอก่อนคนของคุณอีก! ที่เมืองเล็ก ๆ ริมชายฝั่งในออเรกอน เธอเปลี่ยนชื่อเป็นเอเลน่า มอร์ริสัน และเปิดสตูดิโอออกแบบ! ดันเต้ ฉันรู้ทุกอย่าง!”มือที่มองไม่เห็นบีบรัดหัวใจของผม บีบจนมันแทบจะหยุดเต้นเธอไม่ได้แค่เจอเอลาร่าจากสีหน้าของเธอ มันมีอะไรมากกว่านั้นมาก“เธอ ทำ อะไร กับ หล่อน?” เสียงของผมคำรามต่ำ แต่ละคำราวกับเป็นก้อนหินหนัก ๆ ที่สัญญาว่าจะบดขยี้เธอดวงตาของอิซาเบลล่าเหลียวมองอย่างประหม่า เธอเห็นแววสังหารในสายตาของผมเธอไม่กล้าซ่อนอะไรอีกแล้ว เธอสารภาพทุกอย่าง “ฉัน... ฉันแค่ให้คนโพสต์ภาพเก่า ๆ และข่าวของเ

  • เงารักนายมาเฟีย   บทที่ 17

    มุมมองของดันเต้ผมใช้เวลาสองปีในการสานแหขนาดมหึมา เพื่อดักตระกูลรอสซี่ไว้ผมตัดเส้นทางธุรกิจของพวกเขา หนุนหลังศัตรูของพวกเขา และปล่อยให้พวกเขาตายอย่างช้า ๆ อย่างทรมานผมคิดว่าผมกำลังทำเพื่อศักดิ์ศรีของตัวเอง เพื่อชื่อเสียงของตระกูลคอสเตลโลจนกระทั่งลูก้าวางรายงานการสืบสวนที่มีอายุสองปีที่เต็มไปด้วยฝุ่นไว้ตรงหน้าผม“นายท่านครับ ตามผลการค้นพบล่าสุดของเรา... ภาพหลุดในงานพิธีที่โรงแรม และเกมรัสเซียนรูเล็ตต์... พวกมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”ผมเงยหน้าขึ้น แววตาเต็มไปด้วยความสับสนลูก้ากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เสียงของเขาเคร่งเครียด “ทุกอย่างเป็นฝีมือของอิซาเบลล่าครับ นายท่าน เธอติดสินบนทีมงานฝ่ายเทคนิคเพื่อประจานคุณแวนซ์ต่อสาธารณะ เธอยังสมคบคิดกับคุณวาเลนติเพื่อจัดฉากเกมนั้นขึ้นมา เธอปั่นหัวคุณ ใช้คุณเป็นอาวุธเพื่อทรมาน… และอาจถึงขั้นฆ่า… เอลาร่า”เพล้งแก้ววิสกี้ในมือผมแตกละเอียดเศษแก้วบาดลึกเข้าไปในฝ่ามือ เลือดผสมกับเหล้าหยดลงบนพรมราคาแพง แต่ผมไม่รู้สึกอะไรเลยจิตใจของผมว่างเปล่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมคิดว่าผมเป็นคนควบคุมทุกอย่าง แต่ผมเป็นเพียงเบี้ยในเกมฆาตกรรมของอิซาเบลล่าเท่านั้น

  • เงารักนายมาเฟีย   บทที่ 16

    มุมมองของดันเต้สองเดือนก่อน สายโทรศัพท์ภายในในห้องทำงานของผมดังขึ้น“นายท่านครับ” เสียงของลูก้าฟังดูลังเล “เราเจอใครบางคนในโรมครับ... ใครบางคนที่ควรจะตายไปแล้วเหมือนมีมือมาบีบรัดรอบหัวใจของผม มันบีบแน่น จนเลือดในกายของผมกลายเป็นน้ำแข็ง"ใคร?” ผมได้ยินเสียงของตัวเองที่อยู่ไกลออกไป ราวกับว่าเป็นเสียงของคนอื่น“อันโตนิโอ ริชชี่”สามวันต่อมา ในเซฟเฮาส์ที่ไม่มีหน้าต่างนอกนิวยอร์ก ผมได้พบกับอันโตนิโอการ์ดสองคนลากเขาเข้ามา เขาเป็นเพียงโครงกระดูกในเสื้อเชิ้ตหลวม ๆ... แต่ดวงตาของเขายังคงลุกโชนด้วยแววท้าทาย เขาดูเหมือนคนที่ยอมรับชะตากรรมวาระสุดท้ายของตัวเองแล้วผมโบกมือให้การ์ดออกไป เราอยู่กันตามลำพังในห้องคอนกรีตขนาดใหญ่ผมไม่พูดอะไร ผมแค่เดินวนรอบตัวเขา เหมือนนักล่าที่กำลังประเมินเหยื่อ อากาศหนักอึ้งพอที่จะระเบิดได้ปืนของผมวางอยู่บนโต๊ะ โลหะเย็น ๆ สะท้อนแสงสีขาวนวลจากหลอดไฟดวงเดียวที่อยู่เหนือศีรษะ“บนเครื่องบิน...” ในที่สุดผมก็พูด เสียงของผมแหบพร่า “เธอกลัวไหม?”อันโตนิโอเงยหน้าขึ้น แววตาประหลาดใจวูบหนึ่ง ก่อนถูกแทนที่ด้วยความเกลียดชังที่รุนแรงและบาดลึกอย่างรวดเร็ว“กลัวเหรอ?

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status