พอกลับมาถึงห้องไลลาก็ถูกเพื่อนซักถามอยู่ยาวนานเหมือนกัน ซึ่งเธอก็ไม่สามารถบอกได้ ว่าเมื่อคืนเธอไปเจออะไรมาบ้าง เธอไม่อยากให้เพื่อนต้องเป็นห่วง และก็ไม่ได้อยากโกหกอะไรเลย แต่สถานการณ์ของเธอในตอนนี้มันยังไม่พร้อมจริงๆ
"เมื่อคืนรู้ไหมว่ากูพยายามส่งข้อความพยายามติดต่อหามึง ดีแค่ไหนแล้วที่กูไม่บุกไปที่บริษัทที่เอามึงไปส่งไว้"
"ก็ดีแล้วที่ไม่ไป"
"....."
"ที่บริษัทนั้นตกกลางคืนแล้วเวรยามมันแน่นหนา เดี๋ยวจะเป็นปัญหากันเปล่าๆ ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะ"
"อืมๆ รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงหมดแล้วมึงเนี่ย"
ไลลาทำตามที่เพื่อนของเธอบอก เธอรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะรู้สึกเหนียวตัวจนบอกไม่ถูก และตรงส่วนนั้นก็มีน้ำไหลเยิ้มออกมาจนเปื้อนกางเกงในไปหมดอีกด้วย
จากนั้นก็ขึ้นไปนอนบนเตียงและหลับปุ๋ยไป รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ตอนที่เพื่อนมาปลุก วันนี้เธอมีเรียนตอนบ่าย ปกติเธอไม่ได้มานอนหลับจนไม่รู้เวลาอย่างนี้เลย
เวลาผ่านไปจนกระทั่งเย็น
ก๊อกๆๆ ~
หญิงสาวเคาะประตูห้อง ถึงแม้จะเป็นห้องทำงานของเขา แต่เธอก็ไม่อยากเข้าไปเห็นภาพที่มันไม่ควรจะเห็น ถ้าหากเธอพรวดพราดเข้าไป แล้วเจอเขากำลังบรรเลงบทรักอยู่กับผู้หญิงคนอื่น มันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ เขาอาจจะไม่พอใจเธอได้
"เข้ามาสิ"
"วันนี้คุณเจย์จะให้หนูทำอะไรคะ?"
"ปกติเธอจะต้องคอยติดตามฉัน คอยอำนวยความสะดวกให้ฉัน ทั้งเสื้อผ้า ทั้งเรื่องการกิน เธอต้องตัวติดกับฉัน" หรือเรียกง่ายๆ ว่าเธอเป็นคนรับใช้ส่วนตัว แต่เธอทำแบบนั้นไม่ได้เนี่ยสิ เธอติดตามเขาไม่ได้ เธออยู่ตัวติดกับเขาไม่ได้
"ไม่เห็นมีใครบอกเลย แต่หนูต้องเรียน คงติดตามคุณเจย์ไม่ได้หรอกค่ะ" เธอบอกเหตุผล และถ้าต่อไปเขาจะไม่จ้างเธอเป็นพนักงานต่อเธอก็จะไม่มีปัญหา
"....."
"เอาอย่างนี้ไหมคะ เดี๋ยวพอเลิกเรียนทุกวันหนูจะไปที่คอนโดของคุณเจย์ จะเก็บเสื้อผ้าซักให้ แล้วจะเตรียมอาหารเย็นไว้ให้"
"ฉันไม่เอา วันนี้ไม่ต้องทำอะไร กลับไปเก็บเสื้อผ้า ฉันจะให้คนไปรอรับที่หอ"
"แต่ว่า..."
"หรือเธอจะให้ฉันบอกเรื่องของเรากับเพื่อนสนิทของเธอล่ะ?"
"คุณเจย์ขู่หนูเหรอคะ?"
"หน้าตาอย่างฉัน คิดว่าพูดเล่นอยู่หรือไง" ชายหนุ่มทำหน้าจริงจัง จากที่ปกติเขาก็เป็นคนหน้านิ่งและจริงจังอยู่แล้ว พอมาพูดแบบนี้ มันทำเอาเธอทำตัวไม่ถูกเลย
"....." คนตัวเล็กยืนนิ่ง เม้มปากเข้าหากันแน่น ก่อนจะก้มหน้าลง เธอไม่รู้จะพูดอะไร ไม่ค่อยชอบสถานการณ์แบบนี้เลยแฮะ ปกติเธอเป็นคนสู้คน และเถียงกลับถ้าหากมันไม่ถูกต้อง แต่ทำไมตอนนี้เธอกลับไม่กล้าแม้แต่จะเถียงหรืออ้าปากตอบโต้เลย
"กลับไปเก็บเสื้อผ้า ของใช้ที่จำเป็น เสื้อผ้าเก่าๆ ไม่ต้องเอามา เดี๋ยวฉันจะพาไปซื้อใหม่ รวมถึงเสื้อในเก่าๆ ของเธอด้วย"
"คะ คุณเจย์!" ไลลามีท่าทีเขินอายพร้อมกับรีบเอามือปิดหน้าอกของตัวเอง
"ฉันเห็นมาหมดแล้ว จะอายอะไรอีก"
"ทะ ทำไมต้องมาบูลลี่เสื้อในกันด้วยเล่า! มันไม่ได้เก่าสักหน่อย มันยังใส่ได้" เจ้าตัวรีบเถียง มันยังไม่ยานสักหน่อย ยางยืดมันยังอยู่ดี แค่สีมันตกตอนซักก็เท่านั้นเอง มันก็เลยดูเก่า
"สีซีดขนาดนั้นเนี่ยนะ"
"....." เธอได้แต่ยืนทำหน้าบูดบึ้ง ไม่ได้ตอบกลับอะไรเขา
"รีบกลับไปเก็บเสื้อผ้าได้แล้ว คนของฉันจะพาไปส่งที่คอนโด หลังจากนี้อีกสามชั่วโมง ฉันจะกลับไป ทุกอย่างต้องเสร็จเรียบร้อย"
"คุณเจย์ จะเลี้ยงหนูเหรอ?" ไลลาถามออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ เธอเองก็พอจะรู้เรื่องนี้มาบ้างอยู่เหมือนกัน ในรั้วมหาวิทยาลัย มีหลายอย่างที่เธอรับรู้ บางอย่างก็ทำให้เธอตกใจ แต่บางอย่างเธอก็ชิน
"หมายถึง?"
"ก็หมายถึง เลี้ยงหนูไว้เป็นเด็กเสี่ยไง อะไรประมาณนั้นแหละ"
"ก็แล้วแต่เธอจะคิด"
"คุณเจย์..."
"รีบกลับไปเก็บเสื้อผ้าซะสิ จะมัวถามซักไซ้อะไรอยู่ได้ คืนนี้ได้คุยกันทั้งคืนแน่นอน"
"......"
สุดท้ายไลลาก็ต้องกลับไปเก็บเสื้อผ้าที่หอพักของเธอ ถึงแม้จะถูกซักไซ้จากเพื่อนสนิทไม่น้อย แต่ก็ห้ามเธอไม่ได้ ถึงเขาจะดูไม่น่าไว้ใจ แต่เขาก็ไม่ได้ดูเลวร้ายอะไรขนาดนั้น อย่างน้อยเธอก็ไว้ใจเขาได้มากกว่าคนในครอบครัว
ไม่นานไลลาก็มาถึงที่คอนโดของเจย์เลอร์ ครั้งแรกที่เธอได้เห็นคอนโดใหญ่กว่าบ้านขนาดนี้ มันทั้งกว้างและใหญ่มากๆ
"ห้องทุกห้อง สามารถเลือกอยู่ได้ ส่วนคุณเจย์อยู่ข้างบน ห้องครัวอยู่ทางโน้น ที่นี่จะมีแม่บ้านมาทำงานบ้านทุกอาทิตย์" คนที่พาเธอมาส่ง แนะนำให้เธอได้รู้จักกับคอนโด ที่แสนกว้างใหญ่นี้
"อ้าว...มีแม่บ้านแล้ว ทำไมถึงให้หนูมาทำงานที่นี่ล่ะ?"
"แม่บ้านเขาทำงานบ้าน เขาไม่ได้ตัวติดกับคุณเจย์สักหน่อย"
"อ๋อ...."
"เอาเสื้อผ้าไปเก็บในห้อง แล้วก็ทำตามคำสั่งของคุณเจย์ อีกหนึ่งชั่วโมงเขาก็จะกลับมาแล้ว"
"พี่..."
"หืม?"
"ทำไม จู่ๆ คุณเจย์ถึงรับหนูเข้าทำงานล่ะ?"
"ไม่รู้สิ ปกติคุณเจย์ไม่ชอบของแปลก สงสัยถูกใจหมูแคระเข้าให้แล้ว"
"พี่อ่ะ!" เจ้านายกับลูกน้อง เหมือนกันเป๊ะเลย ชอบ bully หุ่นคนอื่น อย่าให้ถึงคราวบ้างเถอะ ตอนนี้ก็บูลลี่ได้อยู่นะ พ่อเสาไม้ยูคา คนอะไรตั้งตรงตระหง่านเชียว แถมตัวขาวอีกต่างหาก นี่ถ้าผมเขียวอีกสักหน่อย ใช่เลยล่ะ
"เท่าที่อยู่กับคุณเจย์มา ผู้หญิงส่วนใหญ่จะชอบตามใจ ชอบเอาใจ เพื่อให้คุณเจย์ถูกใจ แต่เราเป็นคนแรก ที่กล้าเถียง"
"เถียงเหรอ?" เธอทำหน้างง ไปเถียงอะไรตอนไหน ที่ผ่านมาก็ไม่ได้เถียงอะไรกับเขาเลย นอกซะจากขัดคอเขาอยู่บ้าง "แบบนั้นไม่เรียกเถียงนะคะ เรียกว่าอธิบาย"
"แบบนั้นก็ไม่มีใครกล้าไง"
"เจ้านายพี่น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอคะ?"
"มีอะไรที่เรายังไม่รู้อีกตั้งเยอะ แบบนี้ก็ดีอยู่แล้วแหละ แต่อย่าทำให้คุณเจย์โมโห"
"กลับบ้านตอนนี้ได้ไหมอ่ะ หนูไม่ทำแล้ว พี่พูดให้หนูกลัวนะเนี่ย หน้าตาเจ้านายของพี่ก็น่ากลัวอยู่แล้ว"
"เอาเสื้อผ้าไปเก็บ แล้วก็ทำงานของตัวเองต่อซะ พี่ต้องกลับแล้ว"
"พี่ทอล"
"หืม"
"ขอบคุณนะคะที่มาส่ง"
"อื้ม"
ตกดึกวันเดียวกัน หลังจากที่เจย์เลอร์พาลูกสาวเข้านอน เขาก็รู้สึกว่าวันนี้เหมือนได้ใช้ร่างกายไปทั้งชีวิตแล้วเลย มันเหนื่อยมากๆ กับการเลี้ยงเด็กครืด~ไลลา : ลูกนอนแล้วมาหาไลลาที่ห้องค่ะ ตอนแรกเหนื่อยนะ พอเห็นข้อความของไลลาที่ส่งเข้ามาเขาก็ตาสว่างทันทีเลย ก่อนจะรีบลุกขึ้นแล้วออกไป เพราะตอนนี้เจย์ลินก็นอนหลับไปแล้วแกร๊ก~"ไลลา..""มาแล้วเหรอคะ?""เธอจะให้ฉันทำอะไรเหรอ?""นี่ค่ะ"ไลลายื่นถุงบางอย่างให้กับเขา เป็นถุงที่เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าข้างในมันคืออะไร"คืออะไร?""เปิดดูสิคะเดี๋ยวก็รู้เอง"เจย์เลอร์หยิบของข้างในออกมาดูอย่างงงๆ แล้วก็ต้องตกใจเพราะของข้างในมันคือชุดชั้นในที่แบบ ตัวใหญ่หน่อย แถมมันสีแดงเรื่ออีกด้วย และที่สำคัญมันเป็นลายลูกไม้!"เธออย่าบอกนะว่า...""ใส่มันค่ะ""จะบ้าเหรอ นี่มันชุดผู้หญิงนะ!"ไม่เด็ดขาดให้ตายยังไงเขาก็จะไม่มีวันใส่ชุดนี้เด็ดขาด เขาปฏิเสธเธอด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น เป็นมาเฟียแต่ต้องมาใส่ชุดชั้นในลายลูกไม้สีแดงแบบนี้ รู้ถึงไหนอายถึงนั่นเลยนะ"ใส่มันค่ะ" ไลลาพูดข่ม น้ำเสียงและท่าทางของเธอก็จริงจังหนักแน่นไม่ต่างจากเขาเลยเพราะรู้ว่าถ้าพูดดีๆ เจย์เลอร์จะไม
@บ้านของเจย์เลอร์"เมียจ๋า เมียจ๋า ไลลาฉันขอโทษ""....." ไลลาได้แต่สาวเท้าก้าวเดิน พยายามเดินให้ออกห่างจากเจย์เลอร์ให้ได้มากที่สุด และไม่ให้เขาเดินตามได้ทัน"เมียจ๋า ผัวขอโทษ~" เจย์เลอร์ยังคงพูดเสียงหวาน พร้อมกับพยายามรีบเดินมาหาไลลา ขาสั้นๆ แค่นั้นเองทำไมถึงได้เดินเร็วนักนะก่อนหน้านี้ก็พูดแบบนี้แหละ ด้วยความที่ล้อเมียเรื่องขาสั้น ตัวเล็ก เตี้ย ก็คิดว่าเมียคงจะไม่โกรธอะไรหรอก เพราะก็แกล้งพูดแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่วันนี้เมียโกรธจริงจังมากๆ ไลลาหน้าบึ้งใส่ พร้อมกับเดินหนีไม่สนใจเสียงเรียกอีกเลย"ไลลาเดี๋ยว..."ปึก!!"โอ๊ย!!" เสียงร้องดังเพราะประตูหนีบแขน ใช่! ประตูหนีบแขนเขา หนีบแรงเลยด้วย เพราะเจย์เลอร์ดันเอาแขนเข้ามาขวางไว้ขณะที่ไลลานั้นกำลังจะปิดประตูเธอมองเขาตาแข็ง ในใจก็คิดว่า สมน้ำหน้า สมควรแล้วล่ะ คนอย่างเขามันต้องโดนซะบ้าง"เจ็บนะไลลา""หลีกไปค่ะ ไลลาจะเข้าห้อง""ก็เข้าไปสิ เดี๋ยวฉันปิดให้เอง"เจย์เลอร์ยังคงพยายามจะแทรกตัวเข้ามา แต่ไลลาเองก็ไม่ยอมเช่นกัน เอาล่ะคราวนี้ ต่างคนต่างไม่ยอมกันอะไรมันจะเกิดขึ้นทั้งที่เขาก็มีพละกำลังมากพอที่จะสามารถผลักประตูเข้าไปได้เลย แต่มั
โรงพยาบาลเอกชนHHกลางดึกสงัดไลลาปวดท้องกระทันหัน เจย์เลอร์เลยรีบพามาโรงพยาบาลทันที ตอนนี้ก็อยู่ในห้องคลอด ไลลากำลังรอเตรียมคลอดอยู่ เพราะถึงจะปวดท้องแล้วแต่ร่างกายก็ยังไม่พร้อมที่จะคลอดในทันที และเธอก็เลือกที่จะคลอดแบบธรรมชาติ เพราะไม่อยากเจ็บตัวอีก และอีกอย่างเธอก็เป็นคนที่กลัวแผลผ่าตัดมากๆ"อึก..โอ้ย!""ไลลา!""เจ็บจังเลยค่ะ" ว่ากันว่าคลอดลูกเนี่ยเจ็บทรมานมากเหมือนจะตายให้ได้ ตอนแรกก็คิดว่าคงไม่ได้เจ็บมากมายอะไรหรอก แต่ตอนนี้เชื่อแล้วล่ะว่ามันเจ็บมากจริงๆ"หมอครับ ยังคลอดไม่ได้อีกเหรอครับ ภรรยาผมจะทนไม่ไหวแล้วนะ?""คุณพ่อใจเย็นๆ ก่อนนะครับ การคลอดลูกแบบธรรมชาติ ต้องรอให้ปากมดลูกเปิดมากพอที่จะคลอดเด็กออกมาได้ก่อนครับ ตอนนี้หมอให้ยาเร่งไปแล้ว""....." ถึงอย่างนั้นเจย์เลอร์ก็ยังใจร้อนอยู่ดี ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงร้องโอดโอยของไลลา ใจของเขามันกระสับกระส่ายไปหมดเลย กลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไปมือของเธอเย็นเฉียบแถมสั่นเทา หน้าตาก็ซีดเผือกจนน่าสงสารคนรักเมียห่วงเมียแบบเขา จะไปทนได้ยังไง กับการที่เธอเป็นอยู่แบบนี้"ไม่เป็นอะไรนะไลลา ฉันอยู่ตรงนี้ เธอจะต้องไม่เป็นอะไร""ฮึกคุณเจย์ มันปวดมาก ฮือ..
สามเดือนต่อมาช่วงนี้เป็นช่วงที่เจย์เลอร์นั้นเพิ่งทุเลาจากอาการแพ้ท้อง ด้วยความที่แพ้ท้องและต้องรับศึกหนักอยู่หลายเดือน เขาเลยไม่ได้ออกไปทำงาน ไม่ได้ออกไปเจอใครเลยแม้กระทั่งเพื่อนๆตอนนี้ได้รู้เพศลูกแล้ว เขาได้ลูกผู้หญิง ใครต่อใครต่างแอบแซวว่า เพราะได้ลูกผู้หญิงหรือเปล่าเขาถึงได้แพ้ท้องหนักขนาดนี้ ความเชื่อของแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน บางคนก็ว่าถ้ามีอาการแพ้ท้องหนักๆ ก็เดาได้เลยว่าเป็นลูกผู้หญิง"ไลลา.." เจย์เลอร์เอ่ยเรียกคนบนเตียงด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ก่อนจะค่อยๆ คลานขึ้นไปบนเตียงเพื่อปลุกเธอ"อื้อ~""สายแล้วนะ ตื่นได้แล้ว""ง่วงอ่ะ นอนต่ออีกนิดได้มั้ย" ไลลาพูดอย่างงัวเงีย ตอนนี้เหมือนจะสลับหน้าที่กันแล้ว ตอนที่เธอท้องช่วงไตรมาสแรก เป็นเธอที่ต้องดูแลเจย์เลอร์เพราะเขาแพ้ท้องหนักมาก ตอนนี้กลายเป็นเขาที่ต้องดูแลเธอเองพฤติกรรมของไลลาเปลี่ยนไป หลังจากที่ท้องของเธอเริ่มโตขึ้น เธอนอนมากขึ้น บางครั้งก็กินเยอะมากด้วย กินเหมือนคนไม่รู้จักอิ่ม ซึ่งหมอเองก็บอกว่ามันเป็นเรื่องปกติ พฤติกรรมของเธอจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะคลอด"ไลลาตื่นเถอะ หมอบอกต้องกินข้าวตอนเช้านะ วันนี้มีกับข้าวที่เธอชอบเยอะเลย"
*****ต่อจากที่เจย์เลอร์ เริ่มมีอาการแพ้ท้อง เป็นช่วงที่เพิ่งจะได้ไปเจอกับ ลูกๆของโอนิกซ์และวานิลมา จากที่ยังบ่นๆกันอยู่เลย ว่าอยากมีลูก และก็ได้แพ้ท้องสมใจ ไลลาเองก็มีอาการเช่นกัน เหมือนว่าจะแพ้ท้องทั้งสองคนเลย แต่คนที่เป็นหนักกว่าก็คือเจย์เลอร์พอแพ้ท้องแล้วอารมณ์ขี้หงุดหงิดก็เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอีก และก็แน่นอนว่าคนที่รับศึกหนักไปมากที่สุดเลยก็คือลูกน้องของตัวเอง แหงล่ะ ใครจะกล้าไปหงุดหงิดใส่เมียล่ะ เดี๋ยวก็โดนบ้องหูกันพอดี...ตอนสายๆ ของวันหนึ่งฟึ่บ~"คุณเจย์""จ๋า ครับ""ตื่นได้แล้วค่ะ วันนี้เรามีนัดกับคุณหมอนะคะ""อืม...ไม่อยากตื่นเลย อยากนอนต่อ"ปกติต้องเป็นสามีหรือเปล่าที่ต้องมาปลุกภรรยาและเตรียมตัวไปหาหมอกัน แต่กลับเป็นเธอที่ต้องมาปลุกเขา และตื่นเช้ากว่าเขาวันนี้มีนัดกับคุณหมอเกี่ยวกับอาการไม่สบายที่เป็นอยู่ ถึงคนในบ้านจะสงสัยกันว่าท้องจริงๆ แต่ก็ยังไม่ได้ไปตรวจจนมีใบรับรองมายืนยัน ว่าเรื่องที่สงสัยกันนั้นเป็นความจริง"ไม่ได้ค่ะ เรานัดคุณหมอเก้าโมงนะคะ ตอนนี้แปดโมงแล้วค่ะ กว่าจะเตรียมตัวอีก""....." เจย์เลอร์ยังคงอิดออดเหมือนกับเด็กที่ไม่อยากตื่นตอนเช้าไปโรงเรียน แต่แล้วก็ต้
เวลาผ่านไปจากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จนตอนนี้ไลลากับเจย์เลอร์แต่งงานกันเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างมันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป เพราะทั้งสองยังคงทำเหมือนเดิมตอนก่อนที่จะแต่งงานไลลาได้ทำหน้าที่แม่บ้านอย่างเต็มตัว เพราะเธอไม่ได้ทำงานแล้ว บางครั้งก็ได้ไปร่วมงานกับเจย์เลอร์ เข้าสังคมอยู่บ่อยๆ เขาแค่อยากให้เธอได้เข้าสังคมเรียนรู้เพื่อเอาตัวรอด ประสบการณ์จะสอนให้เราเข้มแข็งเอง เพราะไลลาเป็นคนที่ไม่ชอบเข้าสังคม ไม่ชอบที่ที่มีคนเยอะๆ พลุกพล่าน เป็นไปได้เธอก็จะเลี่ยงมากกว่า แบบนี้เธอเลยไม่ค่อยทันโลกเท่าไหร่แต่พอมีเจย์เลอร์ ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปจริงๆ เขาทำให้เธอมีความสุข ทำให้เธอกล้า หลายๆ อย่างที่เขาทำให้มันดีจนสุดจะบรรยายจริงๆผู้ชายที่ต่อหน้าคนอื่นเข้มขรึม วางมาดนักธุรกิจ เจ้าพ่อมาเฟียแสนดุดัน แต่พอได้อยู่กับเธอที่สามารถเป็นตัวเองได้ ไม่ต่างอะไรจากแมวน้อยเลย เพราะเขาไว้ใจเธอ ไว้ใจมาก ถึงกล้าแสดงจุดอ่อนออกมาให้เห็นแบบนี้บ้านของทอลและเฟิร์น"แฝดอ้วง คิดถึงสุดเลย มาให้น้ากอดหน่อย"เด็กน้อยวัยขวบเศษพากันวิ่งเข้ามาหาด้วยความดีใจ เด็กแฝดลูกของทอลและเฟิร์น ตอนนี้ก็โตขึ้นเยอะแล้ว แต่ก็ยังทำให้เฟิร์น