“ผู้หญิงแพศยา!” ผู้หญิงที่เป็นต้นเหตุให้มารดาของเขากระโดดตึกตาย ผู้หญิงที่กุมความลับของบิดาเขาไว้มากมาย ผู้หญิงที่ร้ายกว่าที่ใครรู้
“เป็นลูกบุญธรรมยัยนั่นใช่มั้ย!!” เขายิ้มร้าย หายใจฟึดฟัดราวกับกระทิงคลั่ง ขยำเอกสารในมือจนกลมดิกแล้วขว้างไปอย่างแรง “ทำแม่ไม่ได้ งั้นก็ทำลูกแล้วกัน ถึงแม้จะเป็นแค่ลูกบุญธรรม แต่เธอก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย ปาลิดา!!”
ชัชวินไม่รอช้า ตัดสินใจโทรศัพท์ลงไปที่วอร์ดของแผนกเด็กทันที
“ขอคุยกับพยาบาลชื่อปาลิดาครับ บอกเธอว่า ผมเป็นคนที่เธอ...กำลังคิดถึงอยู่”
“โรคจิตรึเปล่าคะ” น้ำพราวถามอย่างมีอารมณ์ “ถ้าโรคจิตฉันขอวาง...”
“ผมเป็นเพื่อนครับ เพื่อนสมัย...เอ่อ...สมัยมหาวิทยาลัย”
“อ้อ งั้นรอสักครู่นะคะ”
เขาพยายามใจเย็นแล้วรอรับสาย พอได้ยินเสียงเธอเท่านั้นแหละ หัวใจเขาเต้นรัวขึ้นมาเลย เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ที่อะดรีนาลีนหลั่ง เลือดลมสูบฉีดไปทั้งตัว แค่เพียงได้ยินเสียงของศัตรู
“สวัสดีค่ะ ฉันปาลิดา...”
“ขึ้นมาหาผมที่ห้องวีไอพี” เขาออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ผมให้เวลาคุณสามสิบนาที ถ้าคุณยังไม่โผล่มา...ผมจะเล่นงาน...แม่บุญธรรมของคุณ!”
พูดจบก็วางสายฉับ...คนรับได้แต่อึ้ง
“อะไรกันเนี่ย???”
เขาให้เวลาเธอครึ่งชั่วโมง...
“ข่มขู่เก่งชะมัด...จะเล่นงานแม่บุญธรรมอย่างนั้นเหรอ? เขารู้ได้ไง?”
เขาหาจุดอ่อนของเธอเจอแล้วสินะ
“คนเลว!”
ปาลิดาก้าวเข้าไปในลิฟต์ เธอควรจะกดเลขชั้นสิบสามเพื่อตรงไปหาเขาทันที แต่เธอกลับทำตรงกันข้าม เธอท้าทายเขาด้วยการกดเลขชั้นหนึ่งของตึก เพื่อจะไปซื้อกาแฟดื่มอย่างสบายใจแทน
“สืบเรื่องฉันสินะ...” ระหว่างรอกาแฟที่หน้าเคาน์เตอร์ เธออดหันไปมองโต๊ะประจำของเขาไม่ได้
“พยายามหาจุดอ่อนของฉัน เพื่อจะเล่นงานฉัน...คนไม่ดี ทำไมต้องทำตัวแบบนี้นะ”
เมื่อเธอได้กาแฟแล้ว เธอหันหลังจะออกจากคาเฟ่ แต่เธอดันเจอหมอมินทร์กับหมอนิวราที่เดินสวนเข้ามาในร้านเสียก่อน เธอไม่ได้ทักทายทั้งคู่ เพราะไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว แต่หมอมินทร์แอบส่งสายตาให้เธอ สายตากังวลเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจ
เธอเดินจากมาเงียบ ๆ ตรงมายังลิฟต์ ตั้งใจจะกลับขึ้นไปทำงานที่วอร์ด และไปเยี่ยมเด็กหญิงข้าวฟ่างที่ห้องพักฟื้นเหมือนที่ทำอยู่ทุกวัน
แต่เมื่อก้าวเข้าลิฟต์ หมอมินทร์ที่เดินตามมาก็เข้ามายืนด้วย เขารีบกดปิดลิฟต์ก่อนที่ใครจะเข้ามาเพิ่ม
เธอถอนหายใจอย่างระอา เพราะรู้ดีว่าหมอมินทร์กำลังจะพูดเรื่องอะไร
“เขาทำอะไรคุณรึเปล่า?”
“ทำไมคุณหมออยากรู้เรื่องดิฉันนักคะ”
“ก็เพราะ...ผม...ไม่อยากให้คุณมาเสียใจภายหลัง อยู่ให้ไกลเขาดีกว่า...ผมเป็นห่วง”
“อย่าห่วงเลยค่ะ ฉันดูแลตัวเองได้”
“เขาไม่ได้ทำอะไรคุณแน่ใช่มั้ย”
เธอนิ่งไปนิด “ก็ไม่ได้ทำอะไรนี่คะ เขาแค่ให้ฉันไปดูแลเรื่อง...ร่างกายของเขานิด ๆ หน่อย ๆ”
“ร่างกาย?”
“เรื่องส่วนตัวน่ะค่ะ” จากที่ต้องกดเลขชั้นแปด เธอกลับกดเลขชั้นสิบสามแทน
“คุณจะขึ้นไปที่ชั้นสิบสามอีกทำไม!” หมอมินทร์ถามอย่างเกรี้ยวกราดไม่สมกับเป็นเขาเลย
“เจ้านายอยากพบน่ะค่ะ”
เขาเริ่มหน้าเครียด “เมื่อวันก่อน ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่เหรอ เขาไม่ได้...”
“แล้วถ้าเขาทำอะไร มันเกี่ยวอะไรกับคุณหมอด้วยคะ มันเป็นเรื่องระหว่างฉันกับเขา ฉันโตแล้ว ที่สำคัญ เขาก็โตแล้วด้วย ไม่ใช่เด็ก ๆ ซะหน่อย”
หมอมินทร์หน้าชา รู้สึกเหมือนโดนตบหน้า “ผมขอเตือนนะ ด้วยความหวังดี อย่างคุณจะเป็นได้แค่ของเล่นของเขาเท่านั้น”
เธอถอนหายใจ “ฉันจะเป็นอะไรของเขามันก็เรื่องของฉัน คุณหมอกลับไปหาภรรยาที่คาเฟ่เถอะค่ะ”
“เขายังไม่รู้เรื่องนั้นของคุณใช่มั้ย” หมอมินทร์ยังดื้อไม่ยอมลดละ “เขาถึงได้เรียกไปอีก คนอย่างเขาถ้าลองได้เห็นของคุณ เขาคงไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก”
ถ้าเธอต่อยหน้าหมอ เธอจะผิดมั้ย หากลิฟต์ไม่ถึงชั้นสิบสามเสียก่อนล่ะก็...
“เหมือนที่คุณหมอเป็นใช่มั้ย ก็ดีเหมือนกัน ฉันรีบไปถลกกระโปรงให้เขาดูดีกว่า!”
“มันอาจเริ่มจาก...” ความสงสาร...ไม่ใช่หรอก มันไม่ใช่ความสงสารเลย แต่มันเป็นความรู้สึกอยากปกป้องผู้หญิงคนนี้ต่างหาก “เริ่มจากตอนนั้น ตอนที่เธอนอนอยู่บนเตียง ใกล้กับร่างของแม่ผม ผมเช็ดน้ำตาให้เธอ เด็กผู้หญิงที่ผมเคยรู้สึกอิจฉามาตลอด ผมบอกไม่ถูกหรอกว่าทำไม แต่ผมสัมผัสถึงหัวใจที่อบอุ่นของเธอได้ ผมรู้สึกดีเวลาอยู่กับเธอ เธอมีอะไรหลายอย่างที่เหมือนแม่ของผม”ปวีณาพอจะเข้าใจ “ถ้าคุณต้องการเธอจริงๆ คุณก็ควรแสดงความจริงใจกับเธอ ทำให้เธอรู้ว่าคุณรักเธอมากแค่ไหน ฉันจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งที่สอง หรือจะเรียกว่าครั้งสุดท้ายก็ได้ ลองจีบเธออีกครั้ง”เขายิ้มดีใจ “ขอบคุณครับ ผมจะทำให้ดีที่สุด คุณรอดูได้เลย ผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็น”“ถ้ามันต้องใช้เวลานานล่ะ”“นานแค่ไหนผมก็จะสู้ครับ ถ้าปลายทางของผมคือเธอ ผมไม่มีวันถอย”บทส่งท้ายเป้าหมายของเขา...คือเธอส่วนเป้าหมายของเธอ...คือไปให้ไกลจากเขาเขาจะทำยังไงให้เธอใจอ่อน และยอมเชื่อใจเขาอีกสักครั้ง มันอาจเป็นเรื่องง่ายหากผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ปาลิดา ซึ่งเป็นผู้หญิงที่ใจแข็งยิ่งกว่าหินเขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะใจเธอ ทั้งที่เขาก็สามารถเลือกใครก็ได้ เขาหล่อ รวย มี
“คุณวิน! พอได้แล้ว”“ไม่ต้องอายหรอกน่า คนรักกันมันน่าอายตรงไหน ผมรักปาลิดาครับทุกคน รักมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆเลย”ปาลิดาอายจนแทบจะมุดแผ่นดินหนี แอบบิดแขนเขาเพื่อลงโทษความบ้าของเขา แต่เขากลับยิ้มกวนใส่เธอซะงั้น ทุกคนที่มองเหตุการณ์พากันยิ้มและปรบมือให้ท่านประธานสุดเท่กันใหญ่ โดยเฉพาะน้ำพราวกับสุกัญญาที่พากันน้ำตาไหลด้วยความดีใจ หมอมินทร์แอบยิ้มด้วยความพอใจ เขาตัดสินใจถูกที่ทำแบบนี้ เพราะนอกจากจะแก้ข่าวให้ปาลิดาได้แล้ว ชัชวินยังยอมเปิดเผยความรู้สึกต่อหน้าทุกคน ที่สำคัญกว่านั้น หมอนิวราคงยอมปล่อยเขาซะทีภูมินทร์ยกนิ้วให้ชัชวิน แล้วหันหลังเดินจากไปอย่างอารมณ์ดี ส่วนหมอนิวราทั้งรู้สึกอายและเสียหน้า จึงรีบเดินหนีไปอีกทาง “เราแต่งงานกันเมื่อไหร่ เชิญทุกคนด้วยนะ”ปาลิดาทำหน้าแทบไม่ถูก ตอนนี้เธอไม่กล้าสู้หน้าใครเลย โดยเฉพาะแม่บุญธรรมและเพื่อนทั้งสองคน “ทำแบบนี้ทำไม”“ก็อยากประกาศให้ทุกคนรู้”เธอเม้มปากแน่น อยากจะด่า “แต่เรา...”“หรืออยากให้ผมพูดมากกว่านี้ เอามั้ย”“คุณ!”ชัชวินเห็นปวีณาเดินออกไป เขาผละจากปาลิดาแล้วเดินตามปวีณาไปทันทีสุกัญญากับน้ำพราวรีบเดินมาหาเธอด้วยท่าทางราวกับมุ่งร้าย ขณะทุกค
“เออ ฉันก็ได้ยินมา แต่ไม่เห็นหลักฐานเลย พยาบาลคนนั้นเป็นใครก็ยังไม่รู้”ปาลิดาแอบหน้าซีด ดูเหมือนข่าวลือจะเลอะเทอะไปกันใหญ่ “ถ้าเรื่องนี้เป็นความจริง ฉันว่าพยาบาลคนนั้นน่าจะโดนไล่ออกไปแล้วล่ะ”“จริงด้วย” สุกัญญาสนับสนุน แต่น้ำพราวกลับมองปาลิดาอย่างสงสัย“ยัยแก้ว!”ปาลิดาตกใจสะดุ้ง “อะไร”“เมื่อหลายวันก่อน ท่านประธานมาถามหาแกที่เคาน์เตอร์ ถามคำถามแปลก ๆด้วย”“ถามอะไรวะ” สุกัญญาสนใจขึ้นมาเลย“ถามว่า...เธอมีแฟนแล้วอย่างนั้นเหรอ?”สุกัญญาหน้าเหวอ “ทำไม...ประธาน...ถึงอยากรู้ ว่ายัยแก้ว...มีแฟน หรือ ไม่มีแฟน”น้ำพราวจ้องหน้าเผือดสีของปาลิดาอย่างคาดคั้น หลังจากสงสัยมาสักระยะแล้ว วันนี้เธอต้องเค้นความจริงออกจากปากเพื่อนให้ได้“บางข่าวลือ บอกว่าพยาบาลที่ป้ายรถเมย์ คือพยาบาลที่สวยที่สุดในแผนกเด็ก”สุกัญญาหันมองปาลิดา ที่กลายเป็นผู้ต้องหาไปเรียบร้อยแล้ว “มีอะไรจะบอกเพื่อนมั้ย”ปาลิดาสะอึก รีบไกวมือปฏิเสธ“จะให้โอกาสอีกครั้ง พูดมาให้หมด”“จะให้พูดอะไรล่ะ มันไม่ได้...” เธอไม่อยากโกหกเพื่อนเลย แต่เธอยังไม่พร้อมจะเล่าให้ใครฟังตอนนี้ เธออยากให้ใจมันแข็งแรงขึ้นก่อน “ข่าวลือก็ข่าวลือ พวกแกก็รู้ว่ามันผ่
เมื่อจัดการกับเพื่อนเรียบร้อยแล้ว ชัชวินก็รีบตามปาลิดาไปที่ป้ายรถเมล์หน้าโรงพยาบาล เขาฝ่าผู้คนเข้าไปจนถึงตัวเธอ แล้วคว้ามืเล็กไว้แน่น“คุณ”“จะคุยตรงนี้ หรือไปกับผม”“อะไรของคุณอีกเนี่ย ปล่อยฉัน”“โอเค คุยตรงนี้ใช่มั้ย”เธอหน้าเสีย เพราะไม่ใช่แค่คนทั่วไปที่ยืนอยู่เต็มป้ายรถเมล์ แต่ยังมีบุคลากรในโรงพยาบาลอีกหลายคนที่กำลังมองมาที่เธอและเขาอย่างสงสัย“คิดจะทำอะไรของคุณ” เธอกระซิบถาม“ทำในสิ่งที่คุณไม่กล้าคิดเลยล่ะ”ท่าทางจริงจังของเขาทำให้เธอแอบกลัว “เอาไว้ค่อยคุยกัน ที่นี่ไม่เหมาะ คุณกลับไปซะเถอะ”“ผมไม่กลับ” เขากระดกคิ้วกวน ๆ “จนกว่าเราจะได้คุยกัน”“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ”“แต่ผมมี”“งั้นก็เชิญพูดไปคนเดียว” เธอแกะมือเขาออกแล้วหันหลังจะเดินหนี“ผมรักคุณ”ปาลิดาชะงักงัน ขณะคนทั้งป้ายรถเมล์พากันหันมองเขากับเธอเป็นตาเดียว ก่อนจะเริ่มซุบซิบเม้าท์มอยด์เหมือนผึ้งแตกรัง ปาลิดาตั้งสติได้ คว้าข้อมือของเขาแล้วลากออกไปด้วยกันจนไกลพอ“เป็นบ้าอะไรของคุณเนี่ย!”“ใช่ ผมเป็นบ้า บ้าก็เพราะคุณไง”“คุณวิน!”“ผมรักคุณได้ยินมั้ย” เขามองเธอด้วยสายตาจริงจัง “ผมรักคุณยูมิ”“พอเถอะ ฉันฟังคุณมาจนเบื่อแล้ว อย่าเ
“โอเค ๆ” ชัชวินพยายามใจเย็น ควบคุมสติ “เธอลางาน เพราะมีธุระกับแฟน แต่เธอมีแฟนแล้วเหรอ?”“ก็คิดว่าใช่นะคะ” น้ำพราวตอบพลางมองสีหน้าร้อนใจของท่านประธานด้วยความสงสัย“ธุระอะไร? คุณพอจะรู้มั้ย?”“ไม่แน่ใจค่ะ” แต่เขาต้องถามลงลึกรายละเอียดขนาดนั้นเลยเหรอ เขาจำเป็นต้องรู้? “อ้อ นึกออกแล้วค่ะ เห็นว่าจะไปบางแสนหรือพัทยานี่แหละค่ะ”“พัทยา! บ้าไปแล้ว!”“อะไรนะคะท่าน!”เขากัดฟันกรอด รีบเดินออกมาแล้วกดเบอร์โทรศัพท์ของก้องภพทันที“ไอ้ก้อง ไอ้ก้อง รับโทรศัพท์สิวะ!” เขารอด้วยใจลุ้นระทึก พอปลายสายรับโทรศัพท์เท่านั้นแหละ เขาก็ใส่ทันทีแบบไม่มียั้ง “มึงอยู่ไหน มึงคิดจะทำอะไร มึงหยุดคิดเลยนะ ไม่งั้น กูไม่ปล่อยมึงไว้แน่”ก้องภพถึงกับงง “เออไอ้วิน อะไรของแกวะ มาเป็นชุดเลย”“ตอนนี้มึงอยู่ไหน! มึงอยู่ไหน!”ก้องภพชะงัก ที่โดนตะคอกใส่รัว ๆ เขาไปทำอะไรผิดมารึเปล่า? “อะไรวะ เสียงดังโวยวาย ฉันก็อยู่ที่โรงพยาบาลแกนี่แหละ พอดีฉันนัดกับคุณแก้วเอาไว้น่ะ กำลังจะไปบางแสนด้วยกัน”“ไปบางแสน!”ชัชวินอ้าปากหวอ เขาก้าวเข้าลิฟต์แล้วกดเลขชั้นลานจอดรถทันที เขาไม่มีวันยอมให้ก้องภพพาปาลิดาไปทะเลอย่างแน่นอน ไม่มีวัน!เมื่อถึงลานจอ
“นี่ผมต้องสอนคน....อย่างเจ้านายเหรอ?”“ก็ผมไม่เคยจีบใคร ไม่เคยชอบใครก่อนเลย ผมต้องเริ่มยังไง ต้องทำไง”“ไม่เห็นยากเลยครับ โผล่ไปหาเธอบ่อย ๆ สิครับ แล้วก็ชวนเธอไปเดต ผมว่าโปรไฟล์อย่างเจ้านาย ไม่มีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธลงหรอก”“แล้วถ้าเธอไม่เชื่อผมล่ะ เธออาจคิดว่าผมไปหลอกเธอก็ได้” ซึ่งมีโอกาสสูงมาก ที่เธอจะระวังตัวเองไม่ให้โดนหลอกซ้ำสอง เขาไม่น่าเลย ไม่น่าคิดทำอะไรโง่เง่าปัญญาอ่อนแบบนั้นเลย “ถ้าเธอเกลียดล่ะ”“เป็นไปไม่ได้หรอกครับ เจ้านายช่วยจัดการพ่อเลี้ยงของเธอ แถมยังช่วยดูแลแม่ของเธอที่กำลังป่วยหนักไว้ด้วย ไม่มีเหตุผลที่เธอจะเกลียดเจ้านายเลย”มีสิ...มีเยอะเลยแหละ“แต่เธอไม่รู้นี่ ผมกลัวเธอจะไม่ให้อภัยผม ผมเคยทำเลวกับเธอไว้มาก เธออาจไม่เชื่อใจผมอีกแล้ว”“งั้นเจ้านายจะยอมเสียเธอไปเหรอ”“ไม่” เขาตอบทันควัน“งั้นไม่ต้องกลัวอะไรเลยครับ ไปหาเธอ ไปแสดงความจริงใจให้เธอเห็น ทำให้เธอมองมาที่เจ้านายคนเดียว ทำให้เธอรู้ว่าเจ้านายรักเธอมากแค่ไหน”ใช่แล้ว...ทำให้เธอเห็นสิว่าเขารักเธอมากแค่ไหน ทำให้เธอรู้สิว่าที่ผ่านมานั้นมันคือเรื่องจริง เขารักเธอมาตลอด เขารักผู้หญิงที่ชื่อปาลิดา แม้ปากจะพูดว่าไม่ แต