“แฮ่ม!”
เสียงกระแอมที่ดังมาจากด้านหลังทำให้เธอตกใจและแปลกใจไม่น้อย เธอหันไปมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
‘เขาน่ะเอง’
“สบายดีเหรอแก้ว” หมอมินทร์ถามเธอด้วยน้ำเสียงเรียบนุ่มแต่แฝงความตื่นเต้นเล็ก ๆ นี่เป็นครั้งแรกในรอบเกือบสองเดือนที่กลับมาเจอกัน เขายอมทักทายเธอแล้วอย่างนั้นหรือ เขายอมรับว่าเคยรู้จักกับเธอแล้วอย่างนั้นสินะ “นั่งด้วยคนนะ”
เขาหย่อนก้นนั่งลงตรงข้ามกับเธอ พร้อมกาแฟร้อนแก้วใหญ่ โดยไม่รอให้เธออนุญาต
“ก็ดีค่ะ” เธอตอบเหมือนขอไปที ก่อนจะหันกลับไปมองต้นแก้วอีกครั้ง แต่ภาพกลีบดอกแก้วที่ปลิวว่อนท่ามกลางสายฝนก็ไม่อาจกลบเกลื่อนภาพที่ติดอยู่ในหัวของเธอได้ ภาพในอดีตที่ย้อนกลับมา ภาพสีหน้าของผู้ชายคนนี้ที่ทำให้เธอเจ็บปวดรวดร้าว
“ดีใจด้วยนะ ได้มาทำงานที่นี่อย่างที่ฝันไว้”
เขาจำได้ด้วยเหรอว่าเธออยากทำงานที่นี่...ใช่แล้ว เธอเคยบอกเขาอย่างนั้น...
“ตอนแรกฉันก็แปลกใจนะคะที่เห็นคุณที่นี่ คิดว่าทำงานที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยซะอีก แต่ตอนนี้ไม่แปลกใจแล้วค่ะ” เธอยกกาแฟขึ้นจิบ เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้หัวใจที่เย็นชืด “เพราะหมอนิวราสินะคะ”
เขายิ้มไม่เต็มปาก เพราะรู้ดีว่าการเลือกของเขามีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง หากเขาแต่งงานกับหมอนิวรา อนาคตของเขาคือผอ.โรงพยาบาลอย่างแน่นอน
“แล้วแก้วล่ะ คบกับใคร...”
“ฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”
“แก้ว!”
เธอไม่อยากตอบคำถามของเขาแล้ว จึงเลือกจะเดินจากมาเสียดีกว่า จากมาก่อนที่เธอจะควบคุมอารมณ์ไม่ไหวแล้วด่าทอเขาอย่างสาดเสียเทเสีย เธอไม่อยากถูกมองว่าเป็นคนคิดแค้นไม่ยอมลืมอดีต
“จะถามเราว่าคบกับใครงั้นเหรอ?”
การพยายามเข้มแข็งมันไม่ได้ผล เธอห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาไม่ได้ น้ำตาที่เกิดจากความน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตา น้ำตาที่เกิดจากความคับแค้นอัดแน่นในอก เธอไม่อยากอ่อนแอแบบนี้เลย แต่ใจกลับไม่ไหว
“คนอย่างฉันจะคบกับใครได้” เธอตีตราตัวเองมาตั้งแต่นั้น ตั้งแต่ที่เขาพิพากษาเธอไว้ด้วยคำว่าสัตว์ประหลาด เธอจองจำตัวเองไว้ในห้องขังที่เธอสร้างขึ้นมา ห้องขังที่เปรียบเสมือนเกราะกำบังอันตรายจากภายนอก “คุณเองก็รู้นี่ ทำไมต้องถาม หรืออยากจะเยาะเย้ยกันอย่างนั้นเหรอ!”
แทนที่จะใช้ลิฟต์เพื่อขึ้นชั้นแปด เธอเลือกใช้บันไดหนีไฟเพราะไม่อยากเจอหน้าใครในขณะที่น้ำตามันเปื้อนหน้าแบบนี้ แต่สวรรค์กลับไม่เป็นใจให้เธอเสียเลย ราวกับจะลงโทษความอ่อนแอของเธออย่างนั้นล่ะ
“อะ...” ภาพที่เธอเห็นตรงหน้าทำให้สองเท้าของเธอหยุดชะงัก ดวงตาคลอน้ำเบิกมองด้วยความตกใจ ไม่อยากเชื่อว่าเธอจะได้เห็นฉากอีโรติกในโรงพยาบาล ฉากรักอันดูดดื่มระหว่างชายหนุ่มหญิงสาวที่กำลังยืนจูบกันอย่างรุนแรงเร่าร้อนตรงทางลงบันไดชั้นสอง ก่อนที่ฝ่ายชายจะเป็นฝ่ายสลัดตัวออกอย่างไม่ใยดีราวกับหมดอารมณ์ หรือไม่ก็เบื่อหน่าย
“พอได้แล้ว!” น้ำเสียงเยือกเย็นพอกับใบหน้าหล่อเหลาแสนเย็นชา...
“ทำไมล่ะคะคุณวิน เฟิร์นไม่ดีตรงไหน” ดาราสาวชื่อดังโวยวาย น้ำตาไหลพรากราวกับสั่งได้ เธอสมกับเป็นมืออาชีพเสียจริง “หรือว่าคุณวินเบื่อเฟิร์นแล้ว”
“ใช่! เบื่อ !!!! เบื่อสุด ๆ!!!”
ดาราสาวสะอึกสะอื้นเหมือนจะขาดใจ ทุบตีแผ่นอกของคนตัวสูงจริตเดียวกับนางเอกในละคร
“ฮืออออ ฮือออ ทำไมทำกับเฟิร์นอย่างนี้ ทำไมต้องหลอกให้เฟิร์นรักคุณด้วย”
ชายหนุ่มถอนใจพรึด “ผมบอกคุณแล้วไง ว่าผมเกลียดผู้หญิงอย่างคุณ ผู้หญิงที่...ขี้โกหก!”
“แต่เฟิร์นรักคุณนะคะ” เจ้าหล่อนเว้าวอน...พวกเขากำลังถ่ายละครกันอยู่รึไง?
“ผมไม่ต้องการ! ไปซะไป!” เขาพูดกัดฟัน ราวกับจะรั้งอารมณ์ไม่ไหว หากเธอยังตอแยไม่เลิก ยังพูดภาษาคนไม่รู้เรื่อง เขาอาจจะลงโทษเธออย่างสาสมก็ได้ “แล้วก็อย่ามาให้ผมเห็นหน้าอีก! อ้อ แล้วก็เลิกปั่นกระแสซะที ต่อไปอย่าเอ่ยชื่อผมอีก!”
“ไม่นะคุณวิน ฮือ อย่าทิ้งเฟิร์นนะคะ เฟิร์นขอโทษที่เฟิร์นโกหก เฟิร์นทำไปเพราะรักคุณจริงๆ” ดาราสาวพยายามจะสวมกอดชายหนุ่มไว้แต่เขากลับสลัดตัวออกแล้วผลักเธอลงไปนั่งกองกับพื้นอย่างไม่ใยดี จากนั้นเขาก็หันหลังให้เธอ ตั้งใจจะเดินลงมาชั้นล่าง แต่กลับต้องชะงัก เพราะมีหญิงสาวอีกคนยืนอยู่ต่อหน้า
“มันอาจเริ่มจาก...” ความสงสาร...ไม่ใช่หรอก มันไม่ใช่ความสงสารเลย แต่มันเป็นความรู้สึกอยากปกป้องผู้หญิงคนนี้ต่างหาก “เริ่มจากตอนนั้น ตอนที่เธอนอนอยู่บนเตียง ใกล้กับร่างของแม่ผม ผมเช็ดน้ำตาให้เธอ เด็กผู้หญิงที่ผมเคยรู้สึกอิจฉามาตลอด ผมบอกไม่ถูกหรอกว่าทำไม แต่ผมสัมผัสถึงหัวใจที่อบอุ่นของเธอได้ ผมรู้สึกดีเวลาอยู่กับเธอ เธอมีอะไรหลายอย่างที่เหมือนแม่ของผม”ปวีณาพอจะเข้าใจ “ถ้าคุณต้องการเธอจริงๆ คุณก็ควรแสดงความจริงใจกับเธอ ทำให้เธอรู้ว่าคุณรักเธอมากแค่ไหน ฉันจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งที่สอง หรือจะเรียกว่าครั้งสุดท้ายก็ได้ ลองจีบเธออีกครั้ง”เขายิ้มดีใจ “ขอบคุณครับ ผมจะทำให้ดีที่สุด คุณรอดูได้เลย ผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็น”“ถ้ามันต้องใช้เวลานานล่ะ”“นานแค่ไหนผมก็จะสู้ครับ ถ้าปลายทางของผมคือเธอ ผมไม่มีวันถอย”บทส่งท้ายเป้าหมายของเขา...คือเธอส่วนเป้าหมายของเธอ...คือไปให้ไกลจากเขาเขาจะทำยังไงให้เธอใจอ่อน และยอมเชื่อใจเขาอีกสักครั้ง มันอาจเป็นเรื่องง่ายหากผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ปาลิดา ซึ่งเป็นผู้หญิงที่ใจแข็งยิ่งกว่าหินเขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะใจเธอ ทั้งที่เขาก็สามารถเลือกใครก็ได้ เขาหล่อ รวย มี
“คุณวิน! พอได้แล้ว”“ไม่ต้องอายหรอกน่า คนรักกันมันน่าอายตรงไหน ผมรักปาลิดาครับทุกคน รักมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆเลย”ปาลิดาอายจนแทบจะมุดแผ่นดินหนี แอบบิดแขนเขาเพื่อลงโทษความบ้าของเขา แต่เขากลับยิ้มกวนใส่เธอซะงั้น ทุกคนที่มองเหตุการณ์พากันยิ้มและปรบมือให้ท่านประธานสุดเท่กันใหญ่ โดยเฉพาะน้ำพราวกับสุกัญญาที่พากันน้ำตาไหลด้วยความดีใจ หมอมินทร์แอบยิ้มด้วยความพอใจ เขาตัดสินใจถูกที่ทำแบบนี้ เพราะนอกจากจะแก้ข่าวให้ปาลิดาได้แล้ว ชัชวินยังยอมเปิดเผยความรู้สึกต่อหน้าทุกคน ที่สำคัญกว่านั้น หมอนิวราคงยอมปล่อยเขาซะทีภูมินทร์ยกนิ้วให้ชัชวิน แล้วหันหลังเดินจากไปอย่างอารมณ์ดี ส่วนหมอนิวราทั้งรู้สึกอายและเสียหน้า จึงรีบเดินหนีไปอีกทาง “เราแต่งงานกันเมื่อไหร่ เชิญทุกคนด้วยนะ”ปาลิดาทำหน้าแทบไม่ถูก ตอนนี้เธอไม่กล้าสู้หน้าใครเลย โดยเฉพาะแม่บุญธรรมและเพื่อนทั้งสองคน “ทำแบบนี้ทำไม”“ก็อยากประกาศให้ทุกคนรู้”เธอเม้มปากแน่น อยากจะด่า “แต่เรา...”“หรืออยากให้ผมพูดมากกว่านี้ เอามั้ย”“คุณ!”ชัชวินเห็นปวีณาเดินออกไป เขาผละจากปาลิดาแล้วเดินตามปวีณาไปทันทีสุกัญญากับน้ำพราวรีบเดินมาหาเธอด้วยท่าทางราวกับมุ่งร้าย ขณะทุกค
“เออ ฉันก็ได้ยินมา แต่ไม่เห็นหลักฐานเลย พยาบาลคนนั้นเป็นใครก็ยังไม่รู้”ปาลิดาแอบหน้าซีด ดูเหมือนข่าวลือจะเลอะเทอะไปกันใหญ่ “ถ้าเรื่องนี้เป็นความจริง ฉันว่าพยาบาลคนนั้นน่าจะโดนไล่ออกไปแล้วล่ะ”“จริงด้วย” สุกัญญาสนับสนุน แต่น้ำพราวกลับมองปาลิดาอย่างสงสัย“ยัยแก้ว!”ปาลิดาตกใจสะดุ้ง “อะไร”“เมื่อหลายวันก่อน ท่านประธานมาถามหาแกที่เคาน์เตอร์ ถามคำถามแปลก ๆด้วย”“ถามอะไรวะ” สุกัญญาสนใจขึ้นมาเลย“ถามว่า...เธอมีแฟนแล้วอย่างนั้นเหรอ?”สุกัญญาหน้าเหวอ “ทำไม...ประธาน...ถึงอยากรู้ ว่ายัยแก้ว...มีแฟน หรือ ไม่มีแฟน”น้ำพราวจ้องหน้าเผือดสีของปาลิดาอย่างคาดคั้น หลังจากสงสัยมาสักระยะแล้ว วันนี้เธอต้องเค้นความจริงออกจากปากเพื่อนให้ได้“บางข่าวลือ บอกว่าพยาบาลที่ป้ายรถเมย์ คือพยาบาลที่สวยที่สุดในแผนกเด็ก”สุกัญญาหันมองปาลิดา ที่กลายเป็นผู้ต้องหาไปเรียบร้อยแล้ว “มีอะไรจะบอกเพื่อนมั้ย”ปาลิดาสะอึก รีบไกวมือปฏิเสธ“จะให้โอกาสอีกครั้ง พูดมาให้หมด”“จะให้พูดอะไรล่ะ มันไม่ได้...” เธอไม่อยากโกหกเพื่อนเลย แต่เธอยังไม่พร้อมจะเล่าให้ใครฟังตอนนี้ เธออยากให้ใจมันแข็งแรงขึ้นก่อน “ข่าวลือก็ข่าวลือ พวกแกก็รู้ว่ามันผ่
เมื่อจัดการกับเพื่อนเรียบร้อยแล้ว ชัชวินก็รีบตามปาลิดาไปที่ป้ายรถเมล์หน้าโรงพยาบาล เขาฝ่าผู้คนเข้าไปจนถึงตัวเธอ แล้วคว้ามืเล็กไว้แน่น“คุณ”“จะคุยตรงนี้ หรือไปกับผม”“อะไรของคุณอีกเนี่ย ปล่อยฉัน”“โอเค คุยตรงนี้ใช่มั้ย”เธอหน้าเสีย เพราะไม่ใช่แค่คนทั่วไปที่ยืนอยู่เต็มป้ายรถเมล์ แต่ยังมีบุคลากรในโรงพยาบาลอีกหลายคนที่กำลังมองมาที่เธอและเขาอย่างสงสัย“คิดจะทำอะไรของคุณ” เธอกระซิบถาม“ทำในสิ่งที่คุณไม่กล้าคิดเลยล่ะ”ท่าทางจริงจังของเขาทำให้เธอแอบกลัว “เอาไว้ค่อยคุยกัน ที่นี่ไม่เหมาะ คุณกลับไปซะเถอะ”“ผมไม่กลับ” เขากระดกคิ้วกวน ๆ “จนกว่าเราจะได้คุยกัน”“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ”“แต่ผมมี”“งั้นก็เชิญพูดไปคนเดียว” เธอแกะมือเขาออกแล้วหันหลังจะเดินหนี“ผมรักคุณ”ปาลิดาชะงักงัน ขณะคนทั้งป้ายรถเมล์พากันหันมองเขากับเธอเป็นตาเดียว ก่อนจะเริ่มซุบซิบเม้าท์มอยด์เหมือนผึ้งแตกรัง ปาลิดาตั้งสติได้ คว้าข้อมือของเขาแล้วลากออกไปด้วยกันจนไกลพอ“เป็นบ้าอะไรของคุณเนี่ย!”“ใช่ ผมเป็นบ้า บ้าก็เพราะคุณไง”“คุณวิน!”“ผมรักคุณได้ยินมั้ย” เขามองเธอด้วยสายตาจริงจัง “ผมรักคุณยูมิ”“พอเถอะ ฉันฟังคุณมาจนเบื่อแล้ว อย่าเ
“โอเค ๆ” ชัชวินพยายามใจเย็น ควบคุมสติ “เธอลางาน เพราะมีธุระกับแฟน แต่เธอมีแฟนแล้วเหรอ?”“ก็คิดว่าใช่นะคะ” น้ำพราวตอบพลางมองสีหน้าร้อนใจของท่านประธานด้วยความสงสัย“ธุระอะไร? คุณพอจะรู้มั้ย?”“ไม่แน่ใจค่ะ” แต่เขาต้องถามลงลึกรายละเอียดขนาดนั้นเลยเหรอ เขาจำเป็นต้องรู้? “อ้อ นึกออกแล้วค่ะ เห็นว่าจะไปบางแสนหรือพัทยานี่แหละค่ะ”“พัทยา! บ้าไปแล้ว!”“อะไรนะคะท่าน!”เขากัดฟันกรอด รีบเดินออกมาแล้วกดเบอร์โทรศัพท์ของก้องภพทันที“ไอ้ก้อง ไอ้ก้อง รับโทรศัพท์สิวะ!” เขารอด้วยใจลุ้นระทึก พอปลายสายรับโทรศัพท์เท่านั้นแหละ เขาก็ใส่ทันทีแบบไม่มียั้ง “มึงอยู่ไหน มึงคิดจะทำอะไร มึงหยุดคิดเลยนะ ไม่งั้น กูไม่ปล่อยมึงไว้แน่”ก้องภพถึงกับงง “เออไอ้วิน อะไรของแกวะ มาเป็นชุดเลย”“ตอนนี้มึงอยู่ไหน! มึงอยู่ไหน!”ก้องภพชะงัก ที่โดนตะคอกใส่รัว ๆ เขาไปทำอะไรผิดมารึเปล่า? “อะไรวะ เสียงดังโวยวาย ฉันก็อยู่ที่โรงพยาบาลแกนี่แหละ พอดีฉันนัดกับคุณแก้วเอาไว้น่ะ กำลังจะไปบางแสนด้วยกัน”“ไปบางแสน!”ชัชวินอ้าปากหวอ เขาก้าวเข้าลิฟต์แล้วกดเลขชั้นลานจอดรถทันที เขาไม่มีวันยอมให้ก้องภพพาปาลิดาไปทะเลอย่างแน่นอน ไม่มีวัน!เมื่อถึงลานจอ
“นี่ผมต้องสอนคน....อย่างเจ้านายเหรอ?”“ก็ผมไม่เคยจีบใคร ไม่เคยชอบใครก่อนเลย ผมต้องเริ่มยังไง ต้องทำไง”“ไม่เห็นยากเลยครับ โผล่ไปหาเธอบ่อย ๆ สิครับ แล้วก็ชวนเธอไปเดต ผมว่าโปรไฟล์อย่างเจ้านาย ไม่มีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธลงหรอก”“แล้วถ้าเธอไม่เชื่อผมล่ะ เธออาจคิดว่าผมไปหลอกเธอก็ได้” ซึ่งมีโอกาสสูงมาก ที่เธอจะระวังตัวเองไม่ให้โดนหลอกซ้ำสอง เขาไม่น่าเลย ไม่น่าคิดทำอะไรโง่เง่าปัญญาอ่อนแบบนั้นเลย “ถ้าเธอเกลียดล่ะ”“เป็นไปไม่ได้หรอกครับ เจ้านายช่วยจัดการพ่อเลี้ยงของเธอ แถมยังช่วยดูแลแม่ของเธอที่กำลังป่วยหนักไว้ด้วย ไม่มีเหตุผลที่เธอจะเกลียดเจ้านายเลย”มีสิ...มีเยอะเลยแหละ“แต่เธอไม่รู้นี่ ผมกลัวเธอจะไม่ให้อภัยผม ผมเคยทำเลวกับเธอไว้มาก เธออาจไม่เชื่อใจผมอีกแล้ว”“งั้นเจ้านายจะยอมเสียเธอไปเหรอ”“ไม่” เขาตอบทันควัน“งั้นไม่ต้องกลัวอะไรเลยครับ ไปหาเธอ ไปแสดงความจริงใจให้เธอเห็น ทำให้เธอมองมาที่เจ้านายคนเดียว ทำให้เธอรู้ว่าเจ้านายรักเธอมากแค่ไหน”ใช่แล้ว...ทำให้เธอเห็นสิว่าเขารักเธอมากแค่ไหน ทำให้เธอรู้สิว่าที่ผ่านมานั้นมันคือเรื่องจริง เขารักเธอมาตลอด เขารักผู้หญิงที่ชื่อปาลิดา แม้ปากจะพูดว่าไม่ แต