LOGINเมลดาหลังจากที่ออกมาจากคอนโดของเจ้าจันทร์ก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังบริษัทของภาคิน เธอเดินเข้าไปด้านในและกดลิฟต์ไปยังชั้นที่สามสิบห้า ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกก็เข้าไปหาประธานหนุ่มทันทีไม่จำเป็นต้องให้เลขารายงาน
“วันนี้มาเร็วจังนะ คิดถึงหรือไง” ชายหนุ่มพูดจบพลางตบขาให้มานั่ง หญิงสาวเดินมานั่งบนตักอย่างว่าง่าย สองมือของชายหนุ่มบีบไปที่ต้นขาและลูบมันไปมาพร้อมกับสายตาที่บ่งบอกความต้องการ “คิดถึงไงคะเลยรีบมาหา พี่ภาคินไม่ดีใจหรือคะเนี่ย” “ดีใจสิ แค่เธอมาหาก็ดีใจแล้ว อยากกินอะไรหรือเปล่าสั่งได้เลย” “ยังไม่หิวเลยค่ะ อยากกินพี่ภาคินแทนจะได้ไหม” สายตาหวานเชื่อมออดอ้อนภาคินและซบหน้าไปบนอกแกร่ง “หึ! แล้วรออะไรอยู่ล่ะ พี่พร้อมตลอดเวลา” ทันทีที่ได้รับอนุญาตก็ไถตัวลงไปนั่งข้างล่างตรงกลางหว่างขาทันที สองมือเอื้อมไปปลดเข็มขัดและรูดซิปลงพลางควักท่อนเนื้อสีชมพูอ่อนที่ตอนนี้กำลังจะตื่นขึ้นมา “มองแบบนี้ระวังขาจะหุบไม่ได้นะคะคนดี” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อแกมอารมณ์ดี ที่ได้แกล้งจนทำให้เด็กสาวคนนี้อ่อนระทวยกับคำหวานของเขา “ปากหวานจังเลยนะคะพี่ภาคิน แต่ทำตรงนี้จะดีหรือคะ เข้าไปทำในห้องนอนได้ไหมคะเมลกลัวคนเปิดมาเจอ” สายตาคมแข็งกร้าวขึ้นมาทันทีที่ได้ยินและเปลี่ยนกลับเป็นแววตาที่อ่อนโยนจนอีกคนไม่ทันสังเกตเห็น ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ไม่มีใครเข้ามาหรอก สบายใจได้” เมลดาใช้ปากของเธอปลุกมังกรตัวน้อยให้ตื่นเต็มที่ เธอเกร็งปากห่อลิ้นและกลืนกินน้ำหวานที่มังกรพ่นออกมาไม่หยุด ทั้งดูดทั้งเลียอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่รู้ไปอดอยากมาจากไหน แผล็บ! แผล็บ! แผล็บ! ลิ้นเล็กละเลงตั้งแต่หัวไปยังโคน ปากก็ใช้ลิ้นเลียไม่หยุดส่วนมือก็สาวมังกรขึ้นลง ทำให้คนโดนกระทำส่งเสียงครางกระเส่าออกมา “ลิ้นดีฉิบหาย อมลึก ๆ เลย อูยยย สอนไม่กี่ครั้งทำได้ดีขนาดนี้เลย เก่งจังเลยค่ะเมล” ยิ่งได้รับคำชมจากผู้ชายที่เป็นเจ้าของแท่งเนื้อใหญ่ ทำให้เธอกระตือรือร้นมากขึ้น จนภาคินทนไม่ไหวต้องจับกดหัวและโยกเอวตามไม่หยุด อ่อก! อ่อก! อ่อก! “อ่าาส์ ซี้ดด สุดยอด เร็วอีก จะแตกแล้วเมล น้ำจะออกแล้ว” ใบหน้าสวยแดงจัดที่ภาคินเอ่ยถ้อยคำหยาบโลนออกมา ไม่กี่อึดใจร่างบางก็สำลักน้ำขาวขุ่นที่ภาคินปล่อยจนปากเล็กแทบจะรับไม่ไหว พออารมณ์ถูกปลดปล่อยออกจนหมด ภาคินก็เก็บท่อนเนื้อเข้ากางเกงเหมือนเดิมและจับหญิงสาวยืนขึ้น ก่อนจะดันตัวให้ไปทางห้องน้ำ เมลดาเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างปาก แต่สายตาทอดมองไปยังประตูที่ปิดตายเอาไว้ มันคือห้องนอนของภาคินและข้างในคงมีที่ของผู้หญิงคนนั้น เธอคงไม่มีสิทธิ์ในตัวภาคิน ไม่ได้อยากเป็นเพียงคู่นอน แต่อยากเป็นตัวจริง และก็ไม่อยากเลิกกับพี่เจ้าจันทร์และอีกอย่างที่เป็นปัญหา วันหนึ่งเขาสองคนก็ต้องรู้ เธอจำเป็นต้องเลือกใครสักคนเพื่อตัดปัญหา จะได้ไม่ลำบากใจในภายหลัง “พี่ภาคินคะ เมลมีคำถามค่ะ” “อื้มม คำถามอะไรครับถ้าตอบได้จะตอบ” ภาคินที่กำลังเล่นกับสองเต้าอวบอิ่มพลางตอบคำถามไปด้วย “ระหว่างเราสองคนจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ใช่ไหมคะ ถ้าวันหนึ่งพี่ได้เจอคนที่จะแต่งงานด้วย สถานะคู่นอนต้องจบใช่ไหมคะ” “ใช่” ภาคินตอบโดยไม่คิดอะไร “เมลขออยู่กับพี่ภาคินไปนาน ๆ ได้ไหมคะ” “ได้สิ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่พี่รู้ว่าคุยกับคนอื่นอยู่ด้วย เรื่องของเราคือจบพี่ไม่คิดจะสานต่อ ในเมื่อเลี้ยงแล้วไม่เชื่องก็ไม่คิดเลี้ยงต่อ” “เมลขอโทษค่ะ แค่ถามเฉย ๆ เองนี่คะ ไม่เห็นจะต้องโกรธเลย” เธอแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อนออกมา “ลุกเถอะ เมลกลับไปก่อนพี่จะทำงาน” “แต่ว่า..” ภาคินเงยหน้าขึ้นมองด้วยสีหน้าไม่พอใจ ทำให้เมลดาต้องคว้ากระเป๋าและเดินออกจากห้องไป ทันทีที่เมลดาออกไป ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นเดินเข้าห้องนอนทันที เขาหยิบกรอบรูปของเด็กสาวคนหนึ่งขึ้นมา และมอบจุมพิตให้กับหญิงสาวในกรอบรูปนั้น “พี่คิดถึงหนูจังเลย อยู่ใกล้แต่ช่างห่างไกลเหลือเกิน” เขาหยิบไวน์องุ่นในตู้แช่ออกมาก่อนจะเทใส่แก้ว และดื่มมันไปพร้อมกับปลดกางเกงออก และชักรูดแก่นกายอย่างรุนแรงตามอารมณ์ที่ลุกโชน “อ๊าา..เด็กดี เด็กดีของพี่ พี่ต้องการหนู ต้องการหนูเหลือเกิน” ภาคินปลดเปลื้องความสุขด้วยนิ้วมือทั้งห้า สมองก็จินตนาการถึงบุคคลในกรอบรูป ก่อนจะพ่นน้ำสีขาวใส่ใบหน้านั้น เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว ทุกครั้งที่ต้องการเขาทำได้แค่ปลดปล่อยความต้องการของตนเองต่อหน้าเด็กสาวที่อยู่ในรูปถ่าย เขาก็สามารถเสร็จสมได้โดยง่าย แทบไม่ต้องใช้แรงกระตุ้นอะไรเลย แต่ในชีวิตจริง เขาเป็นแค่คนอื่น… มีสถานะแค่พี่ชาย พี่ชายที่แสนดีเท่านั้น… ทางด้านของเจ้าจันทร์ก็ได้รับรายงานทุกอย่าง ตามที่ต้องการ สายตาเหม่อมองไปเบื้องหน้าอย่างคนใจลอย ดวงหน้าหวานหมองหม่นมองตึกสูงและสายฝนที่ตกลงมาไม่ขาดสาย สองมือผลักประตูออกไป และลงไปนั่งกับพื้นให้น้ำฝนชำระล้างความเจ็บปวดให้หมดไปจากใจ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่คนรักของเธอมีข้ออ้างมากมายไม่มีเวลาว่างมาเจอ ตั้งแต่ตอนไหนกันที่เธอผิดพลาดไปจนทำให้อีกคนเหงาจนหาทางออกไประบายกับคนอื่นแบบนี้ และดันเป็นคนใกล้ตัวซะด้วยสิ… ทั้งที่รู้แล้วว่ารู้จักกันแต่กลับไม่ระวังตัวเอง เธอเลือกแล้วสินะเมลดา เลือกที่จะตัดกันออกไป เลือกที่จะทิ้งฉันไว้ข้างหลัง มือบางล้วงเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหยิบโทรศัพท์มือถือสุดน่ารักที่ครั้งหนึ่งเธอได้รับมันเป็นของขวัญจากผู้ชายคนหนึ่ง ก่อนจะพิมพ์ข้อความลงไป เจ้าจันทร์ : มาหาเจ้าหน่อย เจ้าไม่สบายเมื่ออยู่กันสองคนภาคินที่มีสีหน้าเรียบนิ่งไร้ความรู้สึกก็เดินเข้ามายืนตรงหน้าของหญิงสาวที่ก้มหน้าลง เธอก้าวถอยหลังเพราะตั้งรับกับสถานการณ์ตรงหน้าไม่ทัน ร่างเล็กตัวสั่นเหมือนลูกนกที่พลัดออกจากรังชายหนุ่มใช้สองแขนคร่อมเหนือร่างเพื่อกันไม่ให้เจ้าตัวหนีไปไหน ก่อนจะโน้มหน้าลงไปกระซิบด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจ “เห็นพี่โง่เป็นควายขนาดนั้นเลยใช่ไหมถึงปั่นหัวกันแบบนี้ เจ้าจันทร์คนดีบอกให้พี่ชื่นใจหน่อยสิ”เจ้าจันทร์ที่รู้ว่าภาคินกำลังโกรธจึงเงยหน้าขึ้นมามองพร้อมหยดน้ำตาที่ไหลไม่ขาดสาย “เจ้าขอโทษพี่คิน ฮือ..ขอโทษ แต่เจ้าไม่ผิด พี่เป็นชู้กับแฟนเจ้าจริงนี่ เจ้าเจ็บ เจ้าอยากแก้แค้นบ้างเจ้าผิดตรงไหน”ภาคินได้ฟังสิ่งที่อีกคนพูดออกมาก็โมโหจนขบฟันกรามแน่น เขาก้าวถอยหลังและเดินไปปิดประห้องน้ำก่อนจะดันร่างของหญิงสาวจนติดผนังห้องน้ำ“พะ พี่คิน” เจ้าจันทร์ดิ้นสุดแรงเกิดเพราะรู้ว่าตัวเองจะไม่รอด“เก่งมากเลยนะ เก่งเหลือเกินทำร้ายหัวใจพี่ได้ตลอดเวลา ที่ผ่านมาพี่ยังอดทนกับเธอไม่พอหรือไง จะเหยียบพี่ให้จมดินเลยใช่ไหม”“ไม่ใช่แบบนั้น เจ้าไม่ได้คิดแบบนั้น” เธอส่ายหน้าปฏ
เจ้าจันทร์ขับรถมาจอดหน้าร้านเพื่อซื้ออาหารเป็นมื้อเที่ยงให้ชายหนุ่ม เธอเลือกข้าวหน้าเป็ดและเค้กสามชิ้นเป็นของหวานและน้ำผลไม้ล้างปาก หลังจากที่ซื้อเสร็จก็ขับรถไปบริษัทของภาคินทันที สองเท้าก้าวเข้ามาบริษัทที่คุ้นเคย ทักทายพนักงานไปตลอดทางด้วยรอยยิ้มแจ่มใสก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟต์พออยู่ในลิฟต์รอยยิ้มหวานก็หายไปทันทีกลับถูกแทนที่ด้วยใบหน้าที่เฉยเมยและว่างเปล่า จนกระทั่งประตูลิฟต์เปิดออก เธอก็ก้าวออกไปทันทีและทักทายเลขาหน้าห้องด้วยความคุ้นเคยพร้อมของฝากเป็นเค้กหนึ่งชิ้น มือเล็กเปิดประตูเข้าไปกลับเห็นฉากที่ทั้งสองคนกำลังเกี่ยวรัดกันและรีบผละตัวออกจากกันเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามา “ขอโทษที่ขัดจังหวะค่ะพอดีเอาข้าวเที่ยงมาให้ แต่คงไม่ต้องกินแล้วเนอะดูท่าจะอิ่มแล้ว” พูดจบก็หันหลังเดินหนีทันทีทำให้ภาคินรีบวิ่งมาคว้าข้อมือไว้“เจ้ามันไม่มีอะไรครับ เจ้ากินข้าวกับพี่ก่อนนะครับคนดี”“แต่พี่คินมีแขกนี่คะเจ้าไม่อยากรบกวน”“ไม่รบกวนเลยครับ ไม่เลย” เมลดาที่มองเห็นภาพที่ทั้งสองคนง้องอนกัน ก็รู้ทันทีว่าเจ้าจันทร์ต้องการจะทำอะไร เธอได้แต่เก็บความไม่พอใจเอาไว้ภายในไม่ให้มันแส
แสงอาทิตย์วันใหม่ที่สาดส่องลงมาทำให้ภาคินต้องยกมือบังหน้า ก่อนจะลุกไปปิดผ้าม่านทำให้ห้องทึบอีกครั้งก้มลงมองดูนาฬิกาข้อมือบ่งบอกว่าตอนนี้เจ็ดโมงเช้าแล้ว เขารีบเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการตนเองและเร่งฝีเท้าไปยังห้องครัวเพื่อเตรียมตัวทำอาหารเช้าให้อีกคน แต่ไม่นึกว่าจะได้เห็นน้องสาวเพื่อนที่เขาเอ็นดูอยู่ในส่วนลึกจะมาจับตะหลิวทำครัวแบบนี้ ร่างบางที่หยิบจับนู่นนี่ด้วยความคล่องแคล่วทำให้ภาคินมีความสุขที่ได้แอบมองอยู่ตรงนี้ “อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่คิน” เจ้าจันทร์ที่หันมาเจอภาคินก็ทักทายด้วยรอยยิ้มสดใส “อรุณสวัสดิ์ครับเจ้า” ภาคินตอบรับรอยยิ้มของเจ้าจันทร์ด้วยคำทักทายเช่นกัน สองเท้าก้าวมาข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกทีตอนอยู่ตรงหน้าเจ้าจันทร์ที่ห่างกันแค่คืบ ซึ่งไม่แตกต่างจากหญิงสาวที่เฝ้ามองการกระทำของภาคินด้วยใจที่ว้าวุ่นจนแทบจะห้ามตัวเองไม่อยู่ “หิวหรือยังเอ่ย เจ้าทำอาหารแบบง่าย ๆ นะคะกินก่อนไปทำงาน ของพี่คินเป็นไส้กรอกขนมปังไข่ดาวและกาแฟสูตรเดิม ส่วนของเจ้าเป็นข้าวผัด” “ต่อไปเจ้าทำแบบที่เจ้าชอบก็ได้ พี่กินอะไรก็ได้ไม่ได้เรื่องมากเท่าไหร่”
ภาคินรีบขับรถกลับมายังคอนโดทันทีที่ได้เห็นข้อความจากน้องสาวของเพื่อนว่าจะมากินข้าวด้วย ทำให้เขายกเลิกนัดกับเด็กในสังกัด จะมีใครสำคัญไปกว่าเด็กคนนี้อีกล่ะ และเป็นคนเดียวที่เขายอมทำทุกอย่างโดยไม่มีข้อแม้ ภาคินรีบขึ้นห้องและเก็บของในห้องทันที อะไรที่ไม่เข้าที่เข้าทางก็รีบเคลียร์พื้นที่ทุกอย่างให้มันเรียบร้อย หลังจากเช็กสภาพห้องเสร็จก็รีบลงไปรอที่ลานจอดรถทันที ครั้นพอเห็นรถยนต์สีดำแค่มองก็รู้แล้วว่าเจ้าของรถเป็นใคร ทันทีที่รถจอดนิ่งเขาก็พุ่งเข้าหารถคันนั้นทันที “อุ๊ย! ตกใจหมดเลยพี่คิน ทำไมเหงื่อออกเยอะขนาดนี้ วิ่งมาใช่ไหมคะเนี่ย คิกคิก” เจ้าจันทร์ทักทายชายหนุ่มที่วิ่งเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว อดไม่ได้ที่จะยื่นปลายนิ้วไปเช็ดเหงื่อออกให้อย่างใส่ใจ ทันทีที่ปลายนิ้วของหญิงสาวสัมผัสบริเวณหางคิ้ว ภาคินก็ตัวแข็งทื่อจนทำตัวไม่ถูก ใบหน้าขึ้นริ้วสีแดงจนลามไปถึงใบหู “หยอกพี่เล่นอีกแล้วเห็นใจคนแก่บ้างเถอะ หัวใจจะวายเอาได้นะ” “ขำขำนะคะ ซื้อกับข้าวมาหลายอย่างเลย มีขนมหวานของชอบพี่คินด้วย” “ขอบคุณครับ นึกถ
ภาคินกำลังอ่านรายงานที่เลขาสรุปมาให้ก็ขมวดคิ้วไม่หยุด ได้แต่ทนอ่านรายงานต่อไป สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่าไม่สามารถร่วมงานกับบริษัทที่ทำงานห่วยแตกแบบนี้ได้เลย “ยกเลิกซะ และจ่ายค่าเสียเวลาไป” “รับทราบค่ะ บอสคะทางคุณแม่ของคุณเมลดาเชิญบอสไปทานข้าวที่บ้านค่ะ” “ไม่ไป วุ่นวายซะจริง” “เดี๋ยวดิฉันจะรีบจัดการให้เลยค่ะ บอสหายห่วงได้เลยค่ะ” ภาคินที่ตรวจเอกสารเสร็จก็ส่งให้เลขาทันที จนเลขาเดินออกจากห้องไป เขาก็เคาะนิ้วกับโต๊ะเป็นจังหวะอย่างคนใช้ความคิด “ล้ำเส้นซะจริง คิดว่าลูกสาวเป็นคู่นอนฉันและจะทำอะไรตามอำเภอใจได้หรือไง น่าเบื่อ” ครืดดด ครืดดด ภาคินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูและก็จ้องมองข้อความนั้น นานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่ได้คุยกัน เจ้าจันทร์ : มาหาเจ้าหน่อย เจ้าไม่สบาย เจ้าไม่สบาย เจ้านี่นะป่วย?! ภาคินมองไปด้านหลังก็เห็นหยาดฝนโปรยปราย เขาหยิบกุญแจรถและพุ่งตัวออกไปทันที ชายหนุ่มขับรถแวะตลาดใกล้คอนโดของเจ้าจันทร์ นานมากแล้วที่ไม่ได้ทำอะไรแบบนี้ เขาเดินสำรวจของที่จะซื้อและไม่ลืมของหวานที่คนป่วยชอบรวมทั้งยากับแผ่นแปะลดไข้ ก่อนจะติดผลไม้กลับไปด้วย ไม่กี่อึดใจรถก็เข้ามาจอดใต้คอนโด สองเท้ารี
เมลดาหลังจากที่ออกมาจากคอนโดของเจ้าจันทร์ก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังบริษัทของภาคิน เธอเดินเข้าไปด้านในและกดลิฟต์ไปยังชั้นที่สามสิบห้า ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกก็เข้าไปหาประธานหนุ่มทันทีไม่จำเป็นต้องให้เลขารายงาน “วันนี้มาเร็วจังนะ คิดถึงหรือไง” ชายหนุ่มพูดจบพลางตบขาให้มานั่ง หญิงสาวเดินมานั่งบนตักอย่างว่าง่าย สองมือของชายหนุ่มบีบไปที่ต้นขาและลูบมันไปมาพร้อมกับสายตาที่บ่งบอกความต้องการ “คิดถึงไงคะเลยรีบมาหา พี่ภาคินไม่ดีใจหรือคะเนี่ย” “ดีใจสิ แค่เธอมาหาก็ดีใจแล้ว อยากกินอะไรหรือเปล่าสั่งได้เลย” “ยังไม่หิวเลยค่ะ อยากกินพี่ภาคินแทนจะได้ไหม” สายตาหวานเชื่อมออดอ้อนภาคินและซบหน้าไปบนอกแกร่ง “หึ! แล้วรออะไรอยู่ล่ะ พี่พร้อมตลอดเวลา” ทันทีที่ได้รับอนุญาตก็ไถตัวลงไปนั่งข้างล่างตรงกลางหว่างขาทันที สองมือเอื้อมไปปลดเข็มขัดและรูดซิปลงพลางควักท่อนเนื้อสีชมพูอ่อนที่ตอนนี้กำลังจะตื่นขึ้นมา “มองแบบนี้ระวังขาจะหุบไม่ได้นะคะคนดี” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อแกมอารมณ์ดี ที่ได้แกล้งจนทำให้เด็กสาวคนนี้อ่อนระทวยกับคำหวานของเขา “ปากหวานจังเลยนะคะพี่ภาคิน แต่ทำตรงนี้จะดีหรือคะ เข้าไปทำในห้องนอนไ







