 INICIAR SESIÓN
INICIAR SESIÓN“นะ...นายรู้จักเสี่ยดำใช่ไหม?” ฉันพยายามปรับเสียงไม่ให้สั่นกลัว พลางมองหน้าเขาเป็นระยะ ๆ และเมื่อเห็นว่าเขาพยักหน้าตอบกลับมาฉันจึงเล่าต่อ
“คือฉันเป็นหนี้เสี่ยดำอยู่ เสี่ยแกเลยยื่นข้อเสนอบางอย่างให้เพื่อล้างหนี้...” ฉันเงียบลงเมื่อต้องสารภาพความเห็นแก่ตัวต่อหน้าเขา แต่ดูเหมือนเขาจะรู้นะเพราะเขากลับสวนขึ้นมา
“มันเลยให้มึงมาที่นี่?” เหมือนกับมีอะไรมาตบหน้าฉัน มันรู้สึกชามากจนไม่กล้ามองหน้าเขา ได้แต่ก้มหน้าพยักตอบไป
ส่วนเขาเมื่อรับรู้ถึงคำตอบก็เกิดสบถเล็กน้อยถึงลูกชายของเสี่ย
“กล้ามากนะไอ้กราฟ!” เขากำหมัดแน่นคล้ายกับคนกำลังโมโหมาก แต่หน้าเขาก็ยังคงนิ่งดังเดิม เขาทำได้ไงทั้งที่โมโหแต่ก็ยังทำหน้าราวกับว่าไม่ได้รู้สึกอะไรอย่างที่พูดเลย
เขาคงคล้าย ๆ ฉันสินะ แบบหน้านิ่งทุกสถานการณ์ แต่ของเขามันแบบไม่แสดงสีหน้ามากกว่า ส่วนของฉันคือหน้านิ่งซะส่วนใหญ่ ฉันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว
เพราะต้องการไม่ให้คนอื่นมองว่าฉันอ่อนแอ... อีกอย่างเขารู้ได้ไงว่าคนที่สั่งจริง ๆ คือลูกชายของเสี่ยดำ
“เท่าไหร่?” ฉันทำหน้าไม่เข้าใจเพราะอยู่ดี ๆ เขาก็ถามบ้างอย่างออกมา ที่มันไม่ได้ต่อจากสนทนาเมื่อกี้เลย หรือว่าเขากำลังคิดลามกกับฉัน!
“หมายความว่าไง ฉันไม่ได้ขายนะ!” พอพูดจบเขาก็เกาหัวอย่างแรงด้วยความโมโห พลางมองฉันด้วยสายตาเรียบนิ่งแล้วค่อย ๆ พูดออกมาด้วยเสียงโมโห เล่นเอาฉันหน้าเสีย
“ยัยโง่! กูหมายถึงมึงเป็นหนี้มันเท่าไหร่ มึงนี่มันลามกฉิบหายผู้หญิงอะไรวะ” อร้าย ยัยบุญเผลอเอ๊ยปล่อยไก่ไปอีกแล้ว
ฉันรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด และพยายามซ่อนความรู้สึกหน้าอับอายเอาไว้ภายใต้ใบหน้านิ่งที่กำลังพยายามปั้นอยู่ ถึงแม้รอบนี้จะปั้นยากเย็นแสนเข็นก็เถอะ เพราะด้านความอายแบบอยากมุดดินหนีมันมีมากกว่านะสิ
“ประมาณห้าแสน” ฉันพูดเสียงแผ่วเบา เวลาพูดถึงตัวเงินทีไรก็รู้สึกแย่ลงทุกที ทำไมพ่อแม่ฉันถึงได้ทิ้งหนี้ไว้เยอะขนาดนี้ก็ไม่รู้
ฉันทำงานใช้ตั้งแต่ที่ออกจากโรงเรียนจนถึงตอนนี้ก็มีเงินพอจ่ายแค่ดอกไปวัน ๆ ฉันยังคิดอยู่ทุกวันว่าคงจ่ายเงินดอกให้กับไอ้เสี่ยขี้โกงนั้นไปตลอดชีวิตแน่ ๆ
แต่พอเสี่ยมันมาเสนอทางเลือกที่น่าสนใจอย่างให้มาพังรถฉันก็ไม่รีรอสิ เฮ้อ แล้วมาโดนจับได้อีก ดับฝันฉันสุด ๆ เลย T^T
“ถ้ากูจ้างมึงล้านหนึ่งเพื่อไปสืบบางอย่างจากไอ้กราฟ มึงสนใจไหมล่ะ” จากที่เคยทำหน้านิ่งไม่ไหวติงก็เปลี่ยนมาเป็นมองเขาตาโตด้วยความตกใจ ทันทีที่ได้ยินยอดเงินที่เขาเสนอมา
มันเยอะมากฉันลองใช้สมองประมวลผลคิด ถ้าได้มาหนึ่งล้านชีวิตฉันเปลี่ยนเลยนะ
ใครจะมองว่าฉันหน้าเงินก็ช่าง แต่ฉันไม่สนใจหรอก เพราะชีวิตที่ผ่านมาฉันก็แย่พอแล้ว
“ไอ้สนมันก็สนอยู่นะ แต่ฉันไม่รู้จักคนชื่อกราฟนะสิ แล้วฉันก็ไม่เคยเจอเสี่ยดำตัวเป็น ๆ ด้วย นายจะให้ฉันไปสืบยังไงล่ะ” ฉันพูดตามความจริงออกไป คนที่ชื่อกราฟฉันก็ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวหรือเห็นหน้าด้วย เคยได้ยินแต่ชื่อแค่นั้น
ส่วนไอ้เสี่ยฉันก็ไม่เคยเจอมันเลย ได้แต่จ่ายหนี้ผ่านพี่ผู้หญิงไม่ก็ไอ้เมฆที่ทุกคนเจอก่อนหน้านี้นั่นแหละ
แล้วแบบนี้ฉันจะเข้าไปสืบยังไงละ มีหวังโดนจับได้แน่ถ้าขืนอยู่ดี ๆ ก็โผล่พรวดเข้าไปอะ
“เรื่องนั้นมึงไม่ต้องถามมาก เอาเป็นว่าจะทำหรือไม่ทำ ตอบมาแค่นี้พอ” เขาจุดบุหรี่ขึ้นสูบพลางนั่งรอคำตอบจากฉันอย่างใจเย็น คล้ายกับว่าเขาจะรู้งั้นแหละว่าฉันจะตอบออกไปอย่างไร
ส่วนฉันก็ได้แต่นั่งนิ่งเงียบและพยายามใช้ความคิดแบบสองมุม ทั้งมุมเสี่ยงและมุมที่คิดว่าโอกาสได้เงินมาแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่ว่าใครจะมาเสนอก็ได้ ถ้าฉันปฏิเสธก็เท่ากับว่าไม่มีโอกาสอีกแล้ว
แต่ไหงทำไมฉันคิดแต่แง่มุมเดียวเนี่ย โอ๊ย!
“ฉันจะทำ!” คำตอบของฉันดูเหมือนจะเป็นที่น่าพอใจเขาน่าดู เพราะหลังจากที่ฉันให้คำตอบไปเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วเขาก็ยกยิ้มร้าย ก่อนจะทิ้งแท่งบุหรี่ที่โดนไฟลามจนใกล้จะหมดแท่งลงกับที่เขี่ยบุหรี่บนโต๊ะตรงหน้าฉัน
“อันดับแรก นี่คือสิ่งที่มึงต้องไปสืบ” เขาวางมือถือตัวเองไว้บนโต๊ะจากนั้นปลายนิ้วของเขาก็ดันเจ้ามือถือสุดหรูราคาแพงหูฉีกมาตรงหน้าของฉัน
โดยหน้าจอในมือถือขึ้นแสดงผลเป็นรูปหญิงสาววัยรุ่นหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง เธอมีใบหน้าที่คล้ายกับคนญี่ปุ่นเหมือนเขาเลย แถมลุกของเธอที่ฉันเห็นในรูปก็ดูแรง ๆ และมีลายสักคล้ายกับเขาอีกเช่นกัน
เพราะเธอใส่สายเดี่ยวเลยทำให้ฉันเห็นได้ไงล่ะ ฉันว่าต้องเป็นแฟนเขาแน่ ๆ ว่าแต่เขาจะให้ฉันดูรูปแฟนตัวเองทำไมกัน แล้วสืบ? คืออะไร สืบอะไรจากแฟนเขาเนี่ย
เหมือนว่าฉันแสดงสีหน้ามากไปมั้ง เขาจึงอธิบายต่อเมื่อเห็นว่าฉันมองรูปอย่างไม่เข้าใจ
“คนในรูปชื่อว่า ไอกะ เธอหายตัวไปเมื่อหลายเดือนก่อนตั้งแต่ที่ได้เจอกับไอ้กราฟ กูอยากให้มึงไปตามเธอกลับมา” เขาพูดเสียงเรียบเหมือนมันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว มีแต่ฉันสินะที่กำลังเป็นกังวล
นี่ฉันต้องเล่นละครทั้งสองฝ่ายแถมยังเสี่ยงหนักมาก เพราะถ้าผู้หญิงคนนี้ยังหายไปได้ แล้วฉันล่ะจะเป็นไง T^T ไม่ทำแล้วได้ไหม
“มึงคงมีความรับผิดชอบมากพอที่จะไม่ปฏิเสธนะ ในเมื่อมึงรับปากแล้วว่าจะทำ” เหมือนโดนตบหน้าฉากใหญ่ เขาพูดดักทางฉันไว้
ส่วนฉันที่กำลังจะอ้าปากบอกปฏิเสธเขาก็ถึงกับต้องหุบปากเงียบดังเดิม เฮ้อ เอาวะ เป็นไงเป็นกัน
ว่าแต่เขาไปทำอีท่าไหนแฟนตัวเองถึงได้หนีไปอยู่กับคนอื่นละเนี่ย เห็นแล้วก็ปวดหัว นี่ล่ะนะฉันถึงไม่อยากมีแฟน
“รู้แล้วน่า” หลังจากพูดจบเขาก็เลื่อนรูปในมือถือจนมันแสดงเป็นรูปผู้ชายที่หน้าตาจัดว่าดีพอ ๆ กับเขาเลย แถมคนนี้ยังมีผิวเข้มหน้าตาคม ดูก็รู้เลยว่าเป็นคนไทยแท้ ๆ แต่หน้าแอบคล้ายใครสักคนนะ คิดไม่ออกแฮะ จนเขาพูดบอกออกมานั่นแหละว่าคนนี้คือใครฉันถึงได้ร้อง อ๋อ ออกมา
“ส่วนนี่ไอ้กราฟ จำหน้ามันไว้ให้ดี เพราะมันคือคนที่มึงจะต้องไปสืบหลังจากนี้”
เทนชิ Talk
ผมนั่งมองยัยใบ้ ไม่สิตอนนี้เธอไม่ใบ้ละ งั้นเป็นยัยหน้าเงินแทนละกัน ก็พอผมเสนอเงินไปหนึ่งล้านเธอก็ดูสนใจไม่น้อยนะ ผู้หญิงก็แบบนี้ แค่มีเงินพวกเธอก็ตาลุกวาวแล้ว
ส่วนไอ้กราฟมันกล้าดีมากที่ส่งคนเพื่อมาเล่นสกปรกกับรถของผม แต่น่าเสียดายที่มันส่งมือสมัครเล่นอย่างยัยนี่มา เพราะงั้นผมต้องใช้ประโยชน์จากยัยนี่ให้คุ้ม
ดูจากหน้าตาและรูปร่างของเธอแล้วมันก็ตรงสเปกไอ้กราฟพอตัวอยู่ ไม่ยากหรอกถ้าผมจะส่งเธอไปหามัน ผมคิดไว้แล้วล่ะว่าจะส่งเธอไปหามันยังไง หึ!

สองเดือนผ่านไป... “ปวดหลังชะมัด” นานะเดินมาหย่อนตัวนั่งลงข้าง ๆ ฉันพลางใช้มือกดไปที่หลังของตัวเองไปด้วย ตอนนี้ฉันกำลังนั่งแกะถั่วกินอยู่พลางดูรายการญี่ปุ่นไปด้วยฉันพอจะฟังออกบ้างแล้วเพราะเทนชิส่งไปเรียนนั่นแหละ ต้องขอบคุณเขาเป็นอย่างสูงเลย“เป็นไรอะนานะ” ฉันใช้มือแกะถั่วไปพลางถามเธอไป“ประจำเดือนมานะสิ เบื่อชะมัดเลยที่ต้องมาปวดหลังเนี่ย” ฉันพยักหน้าตอบไป มันแล้วแต่คนสินะ บางคนก็ปวดท้อง บางคนก็ปวดหลัง“แล้วเวลาบุญประจำเดือนมาปวดหลังหรือปวดท้องอะ” ฉันนั่งนึกสักพักว่าตัวเองปวดหลังหรือปวดท้อง เพราะประจำเดือนฉันไม่ได้มาสักพักแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่เดี๋ยวก็คงมาเองแหละ“จำไม่ได้อะ”“หมายความว่าไง?” นานะเลิกสนใจทีวีตรงหน้าแล้วหันมาจ้องฉันแทน อะไรของเธอหว่า“ก็ประจำเดือนฉันยังไม่มาเลยอะ”“ฮะ! ไม่มาตั้งแต่ตอนไหน??” ทำไมนานะต้องเสียงดังด้วยเนี่ยฉันตกอกตกใจหมด เกือบจะทำถ้วยใส่ถั่วหล่นแล้ว“อืม...ก็ประมาณน่าจะตั้งแต่ที่กลับมาญี่ปุ่นอะ” ฉันทำท่านึก ๆ จำได้ราง ๆ ว่าน่าจะตั้งแต่ที่กลับมาญี่ปุ่นนั่นแหละที่ประจำเดือนฉันหายไปเลย“แสดงว่าประจำเดือนไม่มาเกือบสองเดือนแล้วนะสิ!!!” นานะย
“ทำอะไรเนี่ย” ทำดีได้ไม่นานเขาก็เริ่มจะออกลายละ ดูสิมาแกะกระดุมฉันเฉยเลย “เอ้า ก็เช็ดตัวก็ต้องเช็ดให้ทั่ว ๆ สิ” ดูสายตาเจ้าเล่ห์ของเขาสิ คิดว่าฉันเชื่อหรือไง “เอามาเดี๋ยวบุญทำเอง” ฉันแบมือออกไปหมายจะขอผ้าเปียกจากเขา แต่คนตรงหน้ากลับนั่งนิ่งแทน “ไม่ได้ เฮียจะให้คนไม่สบายทำเองได้ไง อย่ามาเล่นตัวน่าเฮียเห็นมาหมดละนะ โอ๊ย!” ฉันจัดการตีเขาไปแรง ๆ เมื่อคนตรงหน้าพูดไม่เข้าหู ถึงแม้ตรงนี้เราจะอยู่กันแค่สองคนก็เถอะ “ดูพูดจาเข้า” เขาเงียบไปพร้อมกับเก็บของที่อยู่ในมือออกไปหมด ฉันเริ่มรู้สึกไม่ดีแล้วละสิ “กล้าตีเฮียแบบนี้คิดดีแล้วใช่ไหม หืม?” น้ำเสียงเขาไม่ได้ดูน่ากลัวเลยสักนิด แต่กลับกลายเป็นน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ซะมากกว่า ดูแววตาเขาสิ ไหนจะมุมปากที่ยกขึ้นนั่นอีก เขาเริ่มขยับเข้ามาหาฉันใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ ท่าไม่ดีแล้วสิ “หาววว ง่วงจัง งั้นบุญนอนต่อแป๊บนะ” “คิดจะหนีความผิดเหรอ” “เห้ยยย เฮียทำไรเนี่ย!” ฉันกำลังจะเอนตัวลงนอนก็ต้องตกใจเมื่อเทนชิดันมาอุ้มฉันให้มานั่งตักเขาแทน “ทำโทษเด็กนิสั
ตอนพิเศษ ๓ NC+++สนามบิน ณ ประเทศไทยบุญ Talk “บุญไม่สบายหรือเปล่า?” เสียงพี่ลินาเอ่ยถามฉันขณะที่กำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ ตอนนี้ฉันอยู่ในสนามบินรอเวลาเพื่อจะกลับญี่ปุ่น พี่ลินาและคนอื่น ๆ จึงมานั่งรอเป็นเพื่อนฉันเพราะเหล่าหนุ่ม ๆ ยังคงต้องคุยงานกันอยู่อีกห้องหนึ่งพอดี ขนาดจะกลับอยู่แล้วเทนชิก็คงยังทำงานไม่เลิก เห็นว่ามีโปรเจกต์อะไรสักอย่างกับพวกพี่ดีไวน์ด้วย “นั้นสิ ตัวก็ร้อน ๆ นะ” สร้อยเอามือขึ้นมาอังที่หน้าผากของฉันพลางพยักหน้าเห็นด้วยกับพี่ลินา “งั้นเดี๋ยวเทียนไปซื้อยาให้นะ” ฉันกำลังจะปฏิเสธแต่ก็ไม่ทัน เมื่ออีกฝ่ายพูดจบก็ลุกขึ้นเดินไปอย่างไวเลย เกรงใจจัง ฉันพอรู้ตัวตั้งแต่เช้าแล้วล่ะว่าตัวเองน่าจะไม่สบาย ฉันรู้สึกมึนหัวแล้วก็ปวดหัวทันทีที่ตื่นเลยเมื่อคืนฉันต้องดื่มเยอะไปแน่ ๆ แล้วไหนจะ...เรื่องที่เทนชิทำกับฉันอีก ฉันจำได้หมดและก็รู้สึกอายมาก เพราะฉันดันเป็นฝ่ายรุกเขาซะเองนี่สิ โอ๊ยอยากจะกรี๊ดมาก -,.-“บุญโอเคไหมเนี่ย ทำไมหน้าแดงมากขนาดนั้น” สร้อยพูดด้วยเสียงตกใจที่อยู่ดี ๆ หน้าฉันก็แดงขึ้นมา ไม่ใช่เพราะอาการปวดหัวกำเริบหรอก แต่เพราะฉันดันไปคิดถึงเ
ผมประคองเธอให้เดินไปล้างหน้าล้างตา ล้างคราบต่าง ๆ ออกอย่างไม่รังเกียจ ส่วนเธอได้แต่มองการกระทำของผมด้วยสายตาปรือ ๆ จะหลับแหล่ไม่หลับแหล่“ปะ กลับ” ผมฉุดแขนของเธอหมายจะให้เดินตามผมไปที่รถ แต่ก็ต้องหยุดชะงักซะก่อนเมื่อคนข้างหลังผมเกร็งตัวไว้ ผมมองเธออย่างต้องการคำตอบ อะไรของเธอวะ“บุญจะพาเฮียไปไหน” เธอลากผมเข้ามาในสุดของห้องน้ำ มันเป็นมุมมืดที่ลับตาคนนิดหน่อย ผมก็ไม่อยากเข้าข้างตัวเองหรอกนะ บางทีเธออาจจะพาผมมาทำมิดีมิร้ายเปล่าวะเธอผลักผมเข้าไปในห้องน้ำข้าง ๆ (แม้! ทีงี้อ่อนแอจังนะอิพี่!!!) พร้อมกับลงกลอนประตูเรียบร้อยโดยที่ผมไม่ขัดขืนเลยแม้แต่น้อย ^o^“จะทำไร?” ถามไปงั้นแหละ ทั้งทีรู้อยู่แล้ว เมียผมนี่แม่งเวลาเมาแล้วเร่าร้อนจริง ๆ รู้งี้ผมมอมยัยนี่บ่อย ๆ ดีกว่า“อยากทำลูก” เธอค่อย ๆ ดันให้ผมนั่งลงที่ชักโครกข้างหลัง ตามด้วยเธอที่เดินเข้ามานั่งบนตักของผมพร้อมกับทำสายตายั่ว ๆ ส่งมาให้ผม อยากได้ลูกผมก็จัดให้“อือ” ผมใช้มือดันหัวเธอให้ก้มลงมาประกบปากลงบนริมฝีปากของผม จากการจูบที่แสนหวานก็ค่อย ๆ เร่าร้อนขึ้นตามระดับอารมณ์ที่กำลังพุ่งสูงปรี๊ด“อะ อ๊า แน่น” เธอครางเสียงกระเส่าเมื่อผมดันนิ้วของ
ตอนพิเศษ ๒ NC+++ผับหรูย่านใจกลางเมืองเทนชิ Talk “ฝีมือมึงตกแล้วเหรอวะไอ้เทนชิ” เสียงเยาะเย้ยของไอ้เคียร์เอ่ยขึ้น ผมมองมันด้วยสายตาโมโหนิดหน่อย ไอ้นี่ได้ทีขยี้ผมใหญ่ ก่อนหน้านี้พวกมันก็มาเชียร์ผมแข่งไง เลยมาเยาะเย้ยผมได้แต่ก็อาจจะจริงอย่างที่ไอ้เคียร์พูดก็ได้ เพราะผมมีเวลาให้ซ้อมไม่เท่าไหร่เองหลังจากที่วางมือไปหลายปี แล้วตอนนี้ก็มีเด็กรุ่นใหม่เก่ง ๆ เยอะมาก มันเลยทำให้ผมได้ที่สองมาครองแทน โดยที่หนึ่งเป็นเด็กวัยรุ่นที่ผมคาดว่าน่าจะเป็นม้ามืดเลย ถือว่าเก่งจนผมยอมรับเลยล่ะหลังจากที่การแข่งขันจบลงพวกผมก็พากันมาสังสรรค์ที่ผับของตัวเอง โดยตอนนี้มีไอ้พวกสามตัวนี้เป็นคนคอยดูแลอยู่ เพราะผมอยู่แต่ที่ญี่ปุ่นยังไงล่ะ“เย้! บุญแพ้แล้วกินเลย เพียว ๆ ด้วย ห้ามผสม!” เสียงน้องสร้อยดังขึ้นเรียกความสนใจให้ผมและเพื่อน ๆ ไม่น้อย ดูเหมือนพวกเธอจะเล่นเกมอะไรสักอย่างกันอยู่นะพวกผมกับพวกน้องสร้อยเรานั่งกันคนละโต๊ะแต่ไม่ได้ห่างกันมากเท่าไหร่ สงสัยคงจะเล่นอะไรแผลง ๆ กันอยู่แน่ ๆ ยิ่งมีน้องสร้อยเมียของไอ้เคียร์ยิ่งแล้วใหญ่เลย รายนั้นชอบพาเมียผมทำอะไรแปลก ๆ อยู่เรื่อย เหมือนอย่างตอนนี้เนี่ยยัยใบ้
น้องสาวของฉัน ส่งผลให้ฉันถึงกับยืนไม่ไหว ไหนจะมือที่บีบหน้าอกฉัน ไหนจะมืออีกข้างที่เขากำลังเล่นกับน้องสาวฉันอยู่ ทุกสัมผัสของเขามันกำลังจะทำให้ฉันเป็นบ้าแล้ว“พะ...พอก่อน เดี๋ยวมีคนมาเห็น” ก็เขาเล่นมาทำแบบนี้ข้างนอก ถ้าเกิดมีใครมาเห็นฉันได้ซวยถูกหาว่ามาเล่นหนังสดกลางป่าแน่ ๆ“สัญญาจะรีบทำ”ปัก! “โอ๊ย!” ยังไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจเขาก็ดันเจ้าลูกชายตัวอวบเข้ามาซะแล้ว มันทั้งจุกทั้งเจ็บ เขาแช่มันไว้อย่างนั้น ส่วนฉันก็ได้แต่กัดริมฝีปากตัวเองไม่ให้ส่งเสียงน่าอายออกไป ถ้าเกิดมีใครมาได้ยินต้องซวยมากแน่ ๆ “ถ้ารู้ว่าทำข้างนอกแล้วจะตอดหนักขนาดนี้ รอบหน้าเรามาจัดกันข้างนอกเหมือนอย่างวันนี้อีกดีไหม หืม” ฉันไม่สนใจคำพูดน่าอายของเขา เพราะตอนนี้เหมือนฉันกำลังจะหมดแรงเลย ฉันใช้แขนค้ำยันไปกับหลังคารถ หน้าก็ซุกลงไปบนหลังคา เพื่อข่มเสียงน่าอายของตัวเองที่กำลังจะเปล่งออกมาเมื่อเขาเริ่มขยับเอว “อ๊ะ อือ บะ...เบา จะกลั้นเสียงไม่อยู่แล้วเฮีย” เขาเล่นกระแทกกระทั้นเข้ามาแรงมากจนฉันได้ยินเสียงตรงนั้นกระทบกัน ฉันถึงกับต้องใช้มือยันกับขอบกระจกรถเพื่อให้ไม่ให้หน้าอกตัวเองชนเข้








