 LOGIN
LOGINบุญ Talk
ฉันกลับมาถึงบ้านตัวเองอย่างปลอดภัยแล้ว หลังจากที่ตกลงกันได้เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ฉันจึงขอตัวกลับมาเพราะมันดึกมาก และบวกกับฉันที่เจ็บปวดไปตามตัวจากการโดนทุ่มลงพื้นอย่างแรงแล้วไหนจะอาการโคตรง่วงอีกแถมพรุ่งนี้มีทำงานเช้าด้วยสิวันนี้เจอเรื่องหนักจริง ๆ แฮะ
ว่าจบแล้วก็หยิบมือถือขึ้นมาจากโต๊ะข้างหัวเตียง พลางนอนพิมพ์บางอย่างเพื่อรายงานอีกฝ่ายผ่านพี่ผู้หญิงเหมือนเดิม แน่นอนว่าฉันรายงานไปว่าทำงานสำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ไม่ต้องงงกันหรอก ก็นายนั่นสั่งให้ฉันรายงานไปเลยว่าทำสำเร็จ นอกนั้นเขาจะจัดการเอง แล้วก็นัดให้ฉันไปเจอเขาอีกรอบคืออีกสองสามอาทิตย์หน้ามั้ง เห็นว่าวันนั้นมีการแข่งรถครั้งใหญ่เลยล่ะ
ถามว่าปฏิเสธได้ไหม บอกเลยว่าไม่ได้ T^T ก็เขาขู่ว่าจะไม่ให้เงินฉันนี่นาเลยต้องจำใจไป แถมยังเป็นงานที่มีไอ้เสี่ยดำเป็นเจ้าภาพอีกด้วย ฉันกลัวว่าตัวเองจะเผลอไปแสดงพิรุธอะไรเข้านะสิ
ฉันเลยต้องเออออไปแทน
ติ๊ง!
ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่หลังจากที่ฉันส่งข้อความไปบอกทางฝั่งนู้น พี่เขาก็ตอบกลับมาโดยบอกให้ฉันเข้าไปพบเสี่ยในวันพรุ่งนี้ เพื่อตกลงเรื่องเคลียร์หนี้ทั้งหมดอีกรอบ
พร้อมกับแชร์โลเคชันสถานที่มาด้วย ฉันอ่านเสร็จก็กดปิดหน้าจอมือถือแล้ววางไว้ดังเดิม พร้อมกับขยับเปลือกตาให้ปิดลง ทั้งเหนื่อยทั้งปวดหัว ชีวิตฉันนี่มันยุ่งยากมากเลยเนอะ เฮ้อ
วันนี้ขอไม่อาบน้ำแล้วกันไม่ไหวจริง ๆ
บ้านตระกูลธีระเดช
“มาหาใคร” ชายฉกรรจ์ร่างใหญ่หน้าตาน่ากลัวเอ่ยทักฉัน เมื่อเห็นว่าตอนนี้ฉันกำลังทำท่าทางด้อม ๆ มอง ๆ อยู่แถวนอกรั้วบ้าน
หลังจากที่เลิกงานฉันก็ตรงดิ่งมาตามสถานที่นัด แต่ใครจะไปคิดละว่าเสี่ยจะให้มาที่บ้านของมันเลย
ฉันก็เลยยืนชั่งใจก่อนไงว่าจะเข้าไปคนเดียวดีไหม หรือจะหาใครมาเป็นเพื่อนดี แต่พอคิดไปคิดมาก็ลืมไปเลยว่าตัวเองไม่มีเพื่อนฝูงใด ๆ แถมยังชินกับการอยู่คนเดียวด้วย เฮ้อ...ไร้เพื่อนที่แท้ทรู
“ฉันมาหาเสี่ยดำ” มันใช้สายตาดุดันนั้นมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า พร้อมกับกด ว.ที่เหน็บอยู่บนไหล่ใหญ่ ๆ นั้น พลางพูดอะไรบางอย่างที่เป็นรหัส แต่ฉันแปลกไม่ออกแฮะ ช่างเถอะ
ว่าแต่บ้านของไอ้เสี่ยนี่มันใหญ่มาก คงหมดเงินไปไม่น้อยแน่นอน ส่วนเงินที่ได้มาคงได้มาจากการกดขี่ข่มเหงคนอื่นสินะ ทำไมคนเลว ๆ แบบมันถึงได้มีชีวิตที่ดีต่างจากคนที่ถูกมันกระทำเลยล่ะ โลกช่างไม่ยุติธรรมจริง ๆ
ดูเหมือนว่าทางด้านในจะอนุญาตแล้วมั้ง เพราะหลังจากที่ไอ้หน้าโหดคุยเสร็จเขาก็เดินนำทางฉันมายังภายในตัวบ้าน ระหว่างทางฉันก็เห็นว่าบ้านนี้มีรถสปอร์ตเยอะมากเลย คงของลูกชายเขานั่นแหละเพราะลักษณะของรถก็คล้ายกับรถที่ฉันเห็นจากสนามแข่งรถเมื่อคืนเลย
นึกไปนึกมาฉันก็ลืมไปเลยแฮะว่านายญี่ปุ่นนั้นชื่ออะไร เอาไว้ตอนไปเจออีกรอบค่อยไปถามแล้วกัน ตอนนี้ฉันต้องโฟกัสที่ตัวเองก่อน ถ้าเกิดเผลอหลุดทำตัวน่าสงสัยขึ้นมาฉันจะซวยไม่น้อยเลย
“...” อยู่ดี ๆ ไอ้หน้าโหดที่กำลังจะก้าวขาเข้าไปในตัวบ้านก็เกิดหยุดชะงักแล้วโค้งก้มหัวแทน หยุดก็ไม่บอก ฉันเกือบจะชนอยู่แล้ว แต่ฉันมองไม่เห็นอ่ะว่าเขาก้มหัวให้ใคร เพราะประตูมันบังอยู่
แต่ใช้เวลาไม่นานหรอกฉันก็ได้รู้ทันทีว่าเขาก้มหัวให้ใคร เมื่อคนนั้นเดินออกมาจากตัวบ้าน เขาคือกราฟยังไงล่ะ หน้านี่นะเหมือนกับที่นายญี่ปุ่นคนนั้นเอารูปให้ฉันดูเลย แต่ตัวจริงหล่อกว่าอีก -,.- เลิกคิดเลิกคิด!
ฉันรีบเบนสายตาไปทางอื่นแทนเมื่อเผลอจ้องเขานานไป จนคนที่โดนจ้องหันมาสบตากับฉัน
“ใคร” กราฟเขาหันไปถามไอ้หน้าโหดที่กำลังก้มหัวอยู่ ฉันว่าเขาน่าจะคอเคล็ดละมั้งนั่นก้มไม่เงยเลยจ้า
ส่วนกราฟเสียงเขาทุ้มใหญ่แต่อาจจะมีติดเย็นชานิดหน่อย ดูจากการแต่งตัวแล้วเหมือนเขาจะออกไปแข่งรถเลย
ก็ดูการแต่งตัวสิ ชุดที่เขาใส่มันคล้ายกับชุดกีฬาอะไรสักอย่าง ที่ดูเป็นผ้าหนาแขนยาวขายาว ดูแล้วท่าทางคงจะร้อนไม่น้อย เพราะจากที่เห็นมันดูหนามากเลยอะ
“แขกของเสี่ยครับคุณกราฟ” เขามองฉันด้วยสายตาที่แปลก ฉันไม่รู้ว่าเขามองฉันแบบนี้มันมีความหมายว่าไง แต่ฉันไม่อยากสนใจเลยเลือกที่จะหลบสายตาไป
พอเขาได้คำตอบก็ไม่พูดอะไรต่อ แต่หมุนตัวเดินไปตรงลานจอดรถตรงหน้าบ้านแทน ฉันละความสนใจก่อนจะเดินตามไอ้หน้าโหดนี่ต่อจนมาถึงภายในบ้านที่มีขนาดกว้างใหญ่มาก
แถมการตกแต่งภายในยังสวยซะจนฉันคิดอิจฉาอยากมีบ้านแบบนี้บ้าง คงมีความสุขไม่น้อยเลย แต่ต้องซื้อด้วยเงินที่สะอาดนะ ไม่ใช่เงินที่สกปรกแบบของไอ้เสี่ยสารเลวนี่
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป...
หลังจากที่ใช้เวลาในการตกลงเรื่องของสัญญาต่าง ๆ ได้ไม่นาน ตอนนี้ฉันก็มายืนรอรถอยู่แถว ๆ ถนนใหญ่แล้ว
โดยเป็นการตกลงกันระหว่างฉันกับเสี่ย คือเขาจะรอดูผลงานก่อนว่าจะสำเร็จตามแบบที่ฉันเคยรายงานไปหรือเปล่า และเขาก็ให้ฉันเซ็นเอกสารต่าง ๆ ด้วย ถ้าเกิดสำเร็จหนี้ระหว่างฉันกับไอ้เสี่ยก็จะถือเป็นโมฆะทันที
โดยมีทนายของเสี่ยเป็นคนจัดการให้และยังเป็นพยานในการเซ็นสัญญาของเราด้วย แน่นอนว่าฉันอ่านสัญญาอย่างละเอียดไปหลายรอบมาก ก่อนจะตัดสินใจเซ็นเมื่อเห็นว่าในสัญญาไม่ได้มีอะไรผิดแปลก
ปริ๊น ปริ๊น!
ฉันสะดุ้งตัวหลุดจากห้วงความคิดตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปมองว่าใครกันมาบีบแตรเสียงดังแถวนี้
แต่พอหันกลับไปก็เห็นเป็นรถเก๋งหรูกำลังจอดอยู่ด้านหลังฉัน ฉันมองไม่เห็นหรอกว่าเป็นใครก็เพราะกระจกมันมืดอะ ใครจะไปมองเห็น คงเป็นรถที่มาจอดรอใครแถวนี้ละมั้งอย่าไปสนใจดีกว่า
“ยัยใบ้มึงจะยืนอีกนานไหม ขึ้นมาดิวะ!” ฉันที่กำลังจะหันกลับมามองรถประจำทางต่อก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย มันคือเสียงของซาตานอย่างไอ้คนหน้าญี่ปุ่นยังไงล่ะ
เขามาทำอะไรแถวนี้เนี่ยย!!
“นายมาอยู่แถวนี้ได้ไงอะ” ฉันสูดลมหายใจไล่ความเป็นกังวลออกไปก่อนจะหมุนตัวเดินไปหาเขา พร้อมกับถามคำถามแบบคนปกติที่เขาไว้ใช้ถามกัน พลางมองรอบ ๆ ว่ามีคนของไอ้เสี่ยดำอยู่หรือเปล่า ไม่งั้นถ้าพวกมันได้มาเห็นชอตนี้ฉันต้องถูกจับได้แน่ ๆ
“ขึ้นรถไว ๆ เดี๋ยวพวกมันก็เห็นหรอกยัยบ้า!” ฉันพยักหน้าพร้อมกับรีบเดินไปเปิดประตูรถอย่างไม่รีรอ เพราะป้ายรถประจำทางที่ฉันมารอมันอยู่ใกล้กับบ้านที่ฉันเพิ่งจะออกมายังไงล่ะ
พอเข้ามาถึงในตัวรถกลิ่นหอมของภายในรถก็แล่นเข้ามาตีจมูกของฉัน รถเขาหอมจัง แถมมองดูดี ๆ แล้วยังเป็นระเบียบมากกว่าบ้านของเขาอีก
เขาเป็นประเภทรักรถมากกว่าบ้านหรือไง =_= ส่วนเขาก็ปิดประตูดังเดิม เพราะก่อนหน้านี้เขาลงจากรถเพื่อมาตะโกนเรียกฉันยังไงล่ะ
จากนั้นเขาก็ขับรถออกไปจากตรงนี้ด้วยความเร็วที่แบบว่า...

สองเดือนผ่านไป... “ปวดหลังชะมัด” นานะเดินมาหย่อนตัวนั่งลงข้าง ๆ ฉันพลางใช้มือกดไปที่หลังของตัวเองไปด้วย ตอนนี้ฉันกำลังนั่งแกะถั่วกินอยู่พลางดูรายการญี่ปุ่นไปด้วยฉันพอจะฟังออกบ้างแล้วเพราะเทนชิส่งไปเรียนนั่นแหละ ต้องขอบคุณเขาเป็นอย่างสูงเลย“เป็นไรอะนานะ” ฉันใช้มือแกะถั่วไปพลางถามเธอไป“ประจำเดือนมานะสิ เบื่อชะมัดเลยที่ต้องมาปวดหลังเนี่ย” ฉันพยักหน้าตอบไป มันแล้วแต่คนสินะ บางคนก็ปวดท้อง บางคนก็ปวดหลัง“แล้วเวลาบุญประจำเดือนมาปวดหลังหรือปวดท้องอะ” ฉันนั่งนึกสักพักว่าตัวเองปวดหลังหรือปวดท้อง เพราะประจำเดือนฉันไม่ได้มาสักพักแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่เดี๋ยวก็คงมาเองแหละ“จำไม่ได้อะ”“หมายความว่าไง?” นานะเลิกสนใจทีวีตรงหน้าแล้วหันมาจ้องฉันแทน อะไรของเธอหว่า“ก็ประจำเดือนฉันยังไม่มาเลยอะ”“ฮะ! ไม่มาตั้งแต่ตอนไหน??” ทำไมนานะต้องเสียงดังด้วยเนี่ยฉันตกอกตกใจหมด เกือบจะทำถ้วยใส่ถั่วหล่นแล้ว“อืม...ก็ประมาณน่าจะตั้งแต่ที่กลับมาญี่ปุ่นอะ” ฉันทำท่านึก ๆ จำได้ราง ๆ ว่าน่าจะตั้งแต่ที่กลับมาญี่ปุ่นนั่นแหละที่ประจำเดือนฉันหายไปเลย“แสดงว่าประจำเดือนไม่มาเกือบสองเดือนแล้วนะสิ!!!” นานะย
“ทำอะไรเนี่ย” ทำดีได้ไม่นานเขาก็เริ่มจะออกลายละ ดูสิมาแกะกระดุมฉันเฉยเลย “เอ้า ก็เช็ดตัวก็ต้องเช็ดให้ทั่ว ๆ สิ” ดูสายตาเจ้าเล่ห์ของเขาสิ คิดว่าฉันเชื่อหรือไง “เอามาเดี๋ยวบุญทำเอง” ฉันแบมือออกไปหมายจะขอผ้าเปียกจากเขา แต่คนตรงหน้ากลับนั่งนิ่งแทน “ไม่ได้ เฮียจะให้คนไม่สบายทำเองได้ไง อย่ามาเล่นตัวน่าเฮียเห็นมาหมดละนะ โอ๊ย!” ฉันจัดการตีเขาไปแรง ๆ เมื่อคนตรงหน้าพูดไม่เข้าหู ถึงแม้ตรงนี้เราจะอยู่กันแค่สองคนก็เถอะ “ดูพูดจาเข้า” เขาเงียบไปพร้อมกับเก็บของที่อยู่ในมือออกไปหมด ฉันเริ่มรู้สึกไม่ดีแล้วละสิ “กล้าตีเฮียแบบนี้คิดดีแล้วใช่ไหม หืม?” น้ำเสียงเขาไม่ได้ดูน่ากลัวเลยสักนิด แต่กลับกลายเป็นน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ซะมากกว่า ดูแววตาเขาสิ ไหนจะมุมปากที่ยกขึ้นนั่นอีก เขาเริ่มขยับเข้ามาหาฉันใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ ท่าไม่ดีแล้วสิ “หาววว ง่วงจัง งั้นบุญนอนต่อแป๊บนะ” “คิดจะหนีความผิดเหรอ” “เห้ยยย เฮียทำไรเนี่ย!” ฉันกำลังจะเอนตัวลงนอนก็ต้องตกใจเมื่อเทนชิดันมาอุ้มฉันให้มานั่งตักเขาแทน “ทำโทษเด็กนิสั
ตอนพิเศษ ๓ NC+++สนามบิน ณ ประเทศไทยบุญ Talk “บุญไม่สบายหรือเปล่า?” เสียงพี่ลินาเอ่ยถามฉันขณะที่กำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ ตอนนี้ฉันอยู่ในสนามบินรอเวลาเพื่อจะกลับญี่ปุ่น พี่ลินาและคนอื่น ๆ จึงมานั่งรอเป็นเพื่อนฉันเพราะเหล่าหนุ่ม ๆ ยังคงต้องคุยงานกันอยู่อีกห้องหนึ่งพอดี ขนาดจะกลับอยู่แล้วเทนชิก็คงยังทำงานไม่เลิก เห็นว่ามีโปรเจกต์อะไรสักอย่างกับพวกพี่ดีไวน์ด้วย “นั้นสิ ตัวก็ร้อน ๆ นะ” สร้อยเอามือขึ้นมาอังที่หน้าผากของฉันพลางพยักหน้าเห็นด้วยกับพี่ลินา “งั้นเดี๋ยวเทียนไปซื้อยาให้นะ” ฉันกำลังจะปฏิเสธแต่ก็ไม่ทัน เมื่ออีกฝ่ายพูดจบก็ลุกขึ้นเดินไปอย่างไวเลย เกรงใจจัง ฉันพอรู้ตัวตั้งแต่เช้าแล้วล่ะว่าตัวเองน่าจะไม่สบาย ฉันรู้สึกมึนหัวแล้วก็ปวดหัวทันทีที่ตื่นเลยเมื่อคืนฉันต้องดื่มเยอะไปแน่ ๆ แล้วไหนจะ...เรื่องที่เทนชิทำกับฉันอีก ฉันจำได้หมดและก็รู้สึกอายมาก เพราะฉันดันเป็นฝ่ายรุกเขาซะเองนี่สิ โอ๊ยอยากจะกรี๊ดมาก -,.-“บุญโอเคไหมเนี่ย ทำไมหน้าแดงมากขนาดนั้น” สร้อยพูดด้วยเสียงตกใจที่อยู่ดี ๆ หน้าฉันก็แดงขึ้นมา ไม่ใช่เพราะอาการปวดหัวกำเริบหรอก แต่เพราะฉันดันไปคิดถึงเ
ผมประคองเธอให้เดินไปล้างหน้าล้างตา ล้างคราบต่าง ๆ ออกอย่างไม่รังเกียจ ส่วนเธอได้แต่มองการกระทำของผมด้วยสายตาปรือ ๆ จะหลับแหล่ไม่หลับแหล่“ปะ กลับ” ผมฉุดแขนของเธอหมายจะให้เดินตามผมไปที่รถ แต่ก็ต้องหยุดชะงักซะก่อนเมื่อคนข้างหลังผมเกร็งตัวไว้ ผมมองเธออย่างต้องการคำตอบ อะไรของเธอวะ“บุญจะพาเฮียไปไหน” เธอลากผมเข้ามาในสุดของห้องน้ำ มันเป็นมุมมืดที่ลับตาคนนิดหน่อย ผมก็ไม่อยากเข้าข้างตัวเองหรอกนะ บางทีเธออาจจะพาผมมาทำมิดีมิร้ายเปล่าวะเธอผลักผมเข้าไปในห้องน้ำข้าง ๆ (แม้! ทีงี้อ่อนแอจังนะอิพี่!!!) พร้อมกับลงกลอนประตูเรียบร้อยโดยที่ผมไม่ขัดขืนเลยแม้แต่น้อย ^o^“จะทำไร?” ถามไปงั้นแหละ ทั้งทีรู้อยู่แล้ว เมียผมนี่แม่งเวลาเมาแล้วเร่าร้อนจริง ๆ รู้งี้ผมมอมยัยนี่บ่อย ๆ ดีกว่า“อยากทำลูก” เธอค่อย ๆ ดันให้ผมนั่งลงที่ชักโครกข้างหลัง ตามด้วยเธอที่เดินเข้ามานั่งบนตักของผมพร้อมกับทำสายตายั่ว ๆ ส่งมาให้ผม อยากได้ลูกผมก็จัดให้“อือ” ผมใช้มือดันหัวเธอให้ก้มลงมาประกบปากลงบนริมฝีปากของผม จากการจูบที่แสนหวานก็ค่อย ๆ เร่าร้อนขึ้นตามระดับอารมณ์ที่กำลังพุ่งสูงปรี๊ด“อะ อ๊า แน่น” เธอครางเสียงกระเส่าเมื่อผมดันนิ้วของ
ตอนพิเศษ ๒ NC+++ผับหรูย่านใจกลางเมืองเทนชิ Talk “ฝีมือมึงตกแล้วเหรอวะไอ้เทนชิ” เสียงเยาะเย้ยของไอ้เคียร์เอ่ยขึ้น ผมมองมันด้วยสายตาโมโหนิดหน่อย ไอ้นี่ได้ทีขยี้ผมใหญ่ ก่อนหน้านี้พวกมันก็มาเชียร์ผมแข่งไง เลยมาเยาะเย้ยผมได้แต่ก็อาจจะจริงอย่างที่ไอ้เคียร์พูดก็ได้ เพราะผมมีเวลาให้ซ้อมไม่เท่าไหร่เองหลังจากที่วางมือไปหลายปี แล้วตอนนี้ก็มีเด็กรุ่นใหม่เก่ง ๆ เยอะมาก มันเลยทำให้ผมได้ที่สองมาครองแทน โดยที่หนึ่งเป็นเด็กวัยรุ่นที่ผมคาดว่าน่าจะเป็นม้ามืดเลย ถือว่าเก่งจนผมยอมรับเลยล่ะหลังจากที่การแข่งขันจบลงพวกผมก็พากันมาสังสรรค์ที่ผับของตัวเอง โดยตอนนี้มีไอ้พวกสามตัวนี้เป็นคนคอยดูแลอยู่ เพราะผมอยู่แต่ที่ญี่ปุ่นยังไงล่ะ“เย้! บุญแพ้แล้วกินเลย เพียว ๆ ด้วย ห้ามผสม!” เสียงน้องสร้อยดังขึ้นเรียกความสนใจให้ผมและเพื่อน ๆ ไม่น้อย ดูเหมือนพวกเธอจะเล่นเกมอะไรสักอย่างกันอยู่นะพวกผมกับพวกน้องสร้อยเรานั่งกันคนละโต๊ะแต่ไม่ได้ห่างกันมากเท่าไหร่ สงสัยคงจะเล่นอะไรแผลง ๆ กันอยู่แน่ ๆ ยิ่งมีน้องสร้อยเมียของไอ้เคียร์ยิ่งแล้วใหญ่เลย รายนั้นชอบพาเมียผมทำอะไรแปลก ๆ อยู่เรื่อย เหมือนอย่างตอนนี้เนี่ยยัยใบ้
น้องสาวของฉัน ส่งผลให้ฉันถึงกับยืนไม่ไหว ไหนจะมือที่บีบหน้าอกฉัน ไหนจะมืออีกข้างที่เขากำลังเล่นกับน้องสาวฉันอยู่ ทุกสัมผัสของเขามันกำลังจะทำให้ฉันเป็นบ้าแล้ว“พะ...พอก่อน เดี๋ยวมีคนมาเห็น” ก็เขาเล่นมาทำแบบนี้ข้างนอก ถ้าเกิดมีใครมาเห็นฉันได้ซวยถูกหาว่ามาเล่นหนังสดกลางป่าแน่ ๆ“สัญญาจะรีบทำ”ปัก! “โอ๊ย!” ยังไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจเขาก็ดันเจ้าลูกชายตัวอวบเข้ามาซะแล้ว มันทั้งจุกทั้งเจ็บ เขาแช่มันไว้อย่างนั้น ส่วนฉันก็ได้แต่กัดริมฝีปากตัวเองไม่ให้ส่งเสียงน่าอายออกไป ถ้าเกิดมีใครมาได้ยินต้องซวยมากแน่ ๆ “ถ้ารู้ว่าทำข้างนอกแล้วจะตอดหนักขนาดนี้ รอบหน้าเรามาจัดกันข้างนอกเหมือนอย่างวันนี้อีกดีไหม หืม” ฉันไม่สนใจคำพูดน่าอายของเขา เพราะตอนนี้เหมือนฉันกำลังจะหมดแรงเลย ฉันใช้แขนค้ำยันไปกับหลังคารถ หน้าก็ซุกลงไปบนหลังคา เพื่อข่มเสียงน่าอายของตัวเองที่กำลังจะเปล่งออกมาเมื่อเขาเริ่มขยับเอว “อ๊ะ อือ บะ...เบา จะกลั้นเสียงไม่อยู่แล้วเฮีย” เขาเล่นกระแทกกระทั้นเข้ามาแรงมากจนฉันได้ยินเสียงตรงนั้นกระทบกัน ฉันถึงกับต้องใช้มือยันกับขอบกระจกรถเพื่อให้ไม่ให้หน้าอกตัวเองชนเข้








