แอเรียนหน้าแดงขึ้นทันที ทำไมเธอถึงสงสัยว่าเขากำลังอ้างถึงอย่างอื่น? นี่เขากำลังพูดเรื่องตลกทะลึ่งหรือเปล่า?เพื่อกำจัดบรรยากาศแปลก ๆ ให้หายไป เธอเปิดปากของเธอและกัด เธอกลืนอาหารลงไปด้วยความยากลำบาก “ฉันกัดอีกไม่ได้แล้ว เอาไปทิ้งได้ไหมคะ? ผลไม้จะทิ้งกลิ่นเอาไว้ที่นี่”ดวงตาของมาร์คจ้องมองไปที่ริมฝีปากที่สั่นเล็กน้อยของเธอ ทันใดนั้นเขาก็โน้มตัวลงไปจูบที่ริมฝีปากของเธอแอเรียนได้ยินเสียงวิ๊ง ๆ ในหัวของเธอดังนั้น เขาทำอะไรลงไป! พวกเขายังคงมีมีปัญหามากมายที่ยังไม่ได้แก้ไขมากมายระหว่างพวกเขา ไม่ว่าศัตรูเมื่อเห็นกันจะรู้สึกถูกทำให้รำคาญหรอกเหรอ? ทำไมเขาถึงจูบเธอ?“อืม... ไม่...” เธอพยายามขัดขืนเขา ทันทีที่เธอเปิดปากของเธอเขาก็ฉวยโอกาส เขากดร่างของเขาไว้กับเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี มีเพียงชั้นของผ้าห่มกั้นระหว่างร่างกายของพวกเขาเอาไว้ เธอขยับเขยื้อนไม่ได้แม้แต่นิ้วเดียวภายใต้ร่างของเขา แต่แน่นอนเขาไม่ได้ทิ้งน้ำหนักทั้งตัวลงที่เธอ เธอไม่ได้ตอบโต้ทั้งอดทนต่อการกระทำของเขา ความคิดของเธอค่อย ๆ ว่างเปล่าเนื่องจากขาดออกซิเจน ทันใดนั้นเจ้าข้าวปั้นก็โผล่ออกมาจากผ้าห่ม “เหมียว!!”มาร์คตัวแข็ง
แอเรียนยืนหลังตรงและถามห้วน ๆ ว่า “คุณหวังว่าจะได้รับอะไรจากการที่บอกเรื่องทั้งหมดนี้กับฉันเหรอ? คุณเองก็รู้จักมาร์คผ่านทางคุณพ่อของคุณทั้งคู่เท่านั้น ฉันไม่คิดว่ามันเป็นหน้าที่ของคุณที่จะพูดเรื่องนี้ การแต่งงานของเราไม่เกี่ยวกับคุณ คุณก้าวก่ายมากเกินไปแล้วนะคะคุณมอร์แรน”นีน่ายิ้มและเดินกลับไปยังห้องนอนของเธอโดยไม่พูดอะไรอีกแอเรียนผลักประตูและเข้าไปในห้องนอน มาร์คดูเหมือนว่าจะหลับสนิทไปแล้วเพราะภายในห้องเงียบสนิทเธอนอนลงอย่างเงียบ ๆ ด้วยจิตใจที่สับสนวุ่นวาย ทุกครั้งที่มีคนพูดถึงเรื่องเครื่องบินตก เธอจะรู้สึกหายใจไม่ออกจากแรงกดดันอย่างท่วมท้น มันกระตุ้นความปรารถนาของเธอที่ต้องการจะพบกับคุณสโลนโดยเร็วที่สุดเพื่อเธอจะได้เปิดเผยความจริงเช้าวันรุ่งขึ้น มาร์คพร้อมที่จะออกไปข้างนอกนีน่ารีบวิ่งออกมาจากห้องของเธออย่างรีบร้อน “มาร์ค! ฉันจะออกไปข้างนอกเหมือนกัน! ให้ฉันไปด้วย! ฉันขี้เกียจขับรถ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้นแอเรียนก็รีบกระโดดลงจากเตียงและเปิดประตูห้องให้เปิดออกเล็กน้อยเพื่อสังเกตสถานการณ์อย่างรอบคอบมาร์คไม่ได้ปฏิเสธ แต่ถามขึ้นว่า “คุณจะไปไหน? ผมจะดูว่าเราไปทางเดียวกันหรือไม่? ถ
ในตอนบ่ายมาร์คกลับมาพร้อมกับนีน่า ไม่เพียงเท่านั้นพวกเขายังกลับมาเร็วกว่าปกติอีกด้วย มันยังไม่ถึงเวลาที่มาร์คจะเลิกงาน มาร์คมักจะเข้มงวดในการทำงานเสมอ เขาจะไม่กลับบ้านเร็วนอกจากจะอยู่ภายใต้สถานการณ์พิเศษนีน่าถือข้าวของถุงใหญ่และถุงเล็ก มือของมาร์คก็เต็มไปด้วยเช่นกัน ทันทีที่นีน่าผ่านประตูเข้ามา เธอก็ตะโกนขอความช่วยเหลือ “แมรี่มาช่วยถือของพวกนี้ที!”แมรี่เดินออกมาจากห้องครัวช้า ๆ เมื่อเธอเห็นข้าวของเธอกล่าวว่า “ที่บ้านไม่ได้ขาดของเหล่านี้ ทำไมถึงซื้อมาเยอะแบบนี้?”นีน่ายิ้มให้เธอ “ฉันไม่ต้องการเอาเปรียบ! ฉันคงรู้สึกไม่ดีที่ทำแบบนั้นถ้าฉันอยู่ที่นี่นาน ๆ ของพวกนี้คือสิ่งที่มาร์คและฉันชื่นชอบ ดังนั้นใช้ของพวกนี้ในอาหารมื้อเย็นในคืนนี้”เมื่อเห็นว่ามาร์คไม่ได้พูดอะไร แมรี่จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเอาของทั้งหมดเข้าไปเก็บในครัวแม้จะได้ยินเสียงวุ่นวายที่ด้านล่าง แอเรียนก็ไม่ได้พยายามไปมีส่วนร่วม เธออ่านหนังสือของเธอบนเตียงต่อไป เมื่อเธอได้ยินเสียงมาร์คเดินขึ้นมาชั้นบน เธอเคลื่อนย้ายเจ้าข้าวปั้นที่อยู่ใต้ผ้าห่มไปที่พรม“วันนี้คุณรู้สึกดีขึ้นหรือยัง?” มาร์คถามทันทีที่เข้ามา“ดีขึ้นทีเ
มาร์คยิ้มจาง ๆ “เธอสุขภาพไม่ดี ไม่ต้องเป็นห่วงเธอและทานอาหารของคุณไปเถอะ”นีน่าตักอาหารใส่ชามของมาร์ค “นี่ ลองชิมดู คุณเคยชอบกินแบบนี้ ฉันขอให้เชฟทำให้คุณโดยเฉพาะ อีกเรื่องหนึ่ง ทำไมแอเรียนถึงสุขภาพไม่ดีล่ะ? เธอดูอ่อนแอ และฉันได้ยินว่าเธอเพิ่งออกจากโรพยาบาล เกิดอะไรขึ้น?”ความสับสนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของมาร์ค “เธอมีเลือดออกมาหลังจากการแท้งลูก มันเป็นความประมาทในส่วนของผม แต่โชคดีที่ตอนนี้เธอไม่เป็นอะไรแล้ว”นีน่าแลบลิ้นออกมา “ดูเหมือนว่าฉันถามอะไรที่ฉันไม่ควรถาม ฉันขอโทษ อีกอย่างหนึ่งถ้าฉันขอถามว่าคุณแต่งงานกับเธออย่างไร? ฉันได้ยินมาจากพ่อว่าเธอเป็นเด็กกำพร้าที่คุณรับมาในตอนนั้น เป็นความผิดของพ่อของเธอที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกที่คร่าชีวิตครอบครัวของคุณ ฉันอยากรู้อยากเห็นนิดหน่อย ทำไมคุณเลือกที่จะอยู่กับเธอ? ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนใจดีดังนั้นจึงไม่มีอะไรผิดที่พาเธอเข้ามา อย่างไรก็ตามจากสถานะทางสังคมของคุณ ฉันจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าคุณทั้งคู่มาอยู่ด้วยกันได้อย่างไร...”มาร์คกำมือแน่นและใบหน้าของเขาปราศจากความเป็นมิตรไปเล็กน้อย “กินข้าวไปเถอะ อาหารจะเย็นหมดแล้ว ช่วงนี้ผมยุ่งมากจึงไม่มีเว
เมื่อคิดว่านีน่าทำสิ่งนี้ให้กับมาร์ค แอเรียนอยากจะล้างจานทั้งหมดขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ได้เธอกัดเข้าไปคำแรก ดวงตาของเธอเบิกขึ้น มันเผ็ดนิด ๆเธอกัดเข้าไปคำที่สองและไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากหายใจแรง มันเผ็ดเกินไป! เธอสงสัยว่านีน่าคงติดอาหารรสชาติเผ็ดร้อน สิ่งนี้ทำให้คนกินจริง ๆ เหรอ? ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงแทบไม่แตะ!“แอริ ถ้าคุณว่างก็ไปเตรียมชาสักถ้วยให้นายท่าน...”เมื่อได้ยินว่าแมรี่กลับมา แอเรียนแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและแอบออกจากครัว “ได้ ได้ค่ะ หนูจะไปทำ!”เมื่อแอเรียนวิ่งไป แมรี่จึงเตือนเธอ “ช้าลงหน่อย! จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณล้มลง?”จะให้เธอช้าลงได้อย่างไร? ตอนนี้ลิ้นของเธอกำลังจะไหม้! เธอต้องการน้ำ!เมื่อเธอกลับไปที่ห้องของเธอ ความร้อนในปากของเธอค่อย ๆ ลดลง หลังจากที่เธอดื่มน้ำไปหนึ่งแก้วเต็มและนมอีกหนึ่งกล่องเมื่อหายดีแล้ว เธอจำได้ว่าเธอจะชงชาให้มาร์ค เธอรีบเตรียมชงชาดำสักถ้วยแล้วนำไปที่ห้องทำงาน ทันทีที่ผลักประตู เธอก็เห็นนีน่านั่งพิงเก้าอี้ของมาร์ค ความใกล้ชิดทำให้เธอมองด้วยความขุ่นเคือง“มาร์ค ฉันไม่อยากไปต่างประเทศอีกแล้ว บริษัทของคุณขาดพนักงานไหม? คุณพอจะพิจารณ
ก๊อก ก๊อก...ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นแอเรียนเปิดประตูออก พบว่ามีเพียงนีน่าที่ยิ้มให้เธอ เธอเข้าไปภายในห้องโดยที่ไม่รอคำอนุญาตจากแอเรียน“มาร์คยุ่งและฉันก็เบื่อ เพราะอย่างนั้นฉันจึงหวังว่าคุณจะไม่รังเกียจที่ฉันมาที่นี่เพื่อคุยกับคุณ!”แอเรียนสามารถบอกได้ไหมว่าเธอรังเกียจ?“ไม่ ฉันไม่รังเกียจ เชิญนั่งก่อน ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายดังนั้นฉันจึงนอนก่อน”นีน่าเฝ้าดูแอเรียนกลับไปที่เตียง จากนั้นก็หาเก้าอี้สำหรับนั่งลง “เกิดการแท้งลูกได้อย่างไร?”แอเรียนกำมือแน่นโดยไม่ได้ตั้งใจขณะที่เธอฝืนยิ้ม “เป็นอุบัติเหตุ”นีน่าเม้มริมฝีปากด้วยความเห็นใจ “อุบัติเหตุ? ยังไง...ไม่ระมัดระวัง มันคือชีวิต ตระกูลเทรมอนต์ขาดอะไรไป ยกเว้นการที่มาร์คจะมีลูกเมื่ออายุมาก น่าเสียดายอะไรแบบนี้ที่ต้องสูญเสียลูกไป”แอเรียนหมดความต้องการที่จะสนทนาต่อไป “ตอนนี้ฉันอยากพักผ่อน”นีน่าลุกขึ้นและเดินไปที่ประตู “พักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลตัวเอง ไม่เช่นนั้น มันจะเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับฉันถ้ามีแค่ฉันอยู่คนเดียว”เมื่อประตูปิดลง แอเรียนก็ขมวดคิ้ว ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าประโยคสุดท้ายของนีน่ามีความหมายบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้น
เธอหยิบกระเป๋าสตางค์ของเขาขึ้นมาและเปิดมันออก มีการ์ดหลายสิบใบอยู่ด้านใน เมื่อครั้งที่แล้วเธอจำได้ว่าเขาพูดถึงแบล็คการ์ด เธอมองลงไปที่ตัวหนังสือสีทองที่ประทับอยู่ทันใดนั้นเองเธอก็เหลือบไปเห็นรูปถ่ายในกระเป๋าสตางค์ มาร์คเก็บรูปของใครไว้ในกระเป๋าสตางค์และพกติดตัวไปด้วย?ก่อนที่เธอจะทันได้เห็นคนที่อยู่ในรูปนั้น จู่ ๆ มาร์คก็กระชากกระเป๋าสตางค์ออกไปและหยิบแบล็คการ์ดออกมาให้เธอ “ไปนอน”แอเรียนหยิบการ์ดขึ้นมาและถามขึ้น “คนในรูปคือใครเหรอคะ? รักแรกของคุณเหรอ? ฉันคิดว่าเป็นผู้หญิง... แต่ฉันมองไม่ชัด...” ภาพนี้ถ่ายจากระยะไกลจึงยากที่จะบอกว่าเป็นใครเว้นเสียแต่เธอจะมองใกล้ ๆเขามองเธออย่างขบขับและเลิกคิ้วของเขาขึ้น “ใช่ มันเป็นรักแรกของฉัน”แอเรียนหยุดพูดแต่แอบรู้สึกรำคาญเล็กน้อย รักแรกของเขาเป็นอิสระและสามารถรักใครก็ได้ที่เขาต้องการ ไม่เหมือนเธอ วิลเป็นคนเดียวที่เธอเคยชอบ แต่มาร์คก็ทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขาลงและทำให้เรื่องต้องลงเอยแบบนี้...เช้าวันต่อมา มาร์คและนีน่าไม่อยู่บ้าน แอเรียนได้รับข้อความจากทิฟฟานี่: ‘แอริ แม่ของฉันจัดการนัดบอดให้กับฉัน ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าเธอไปทำแบบนั้นทั้ง ๆ
“ขอโทษนะลุง... ฉันหมายถึง คุณน่าเกลียดเหมือนคางคก เอาความมั่นใจมากจากไหนอ่ะ? ย้อนกลับไปในวันนั้น ผู้ชายอย่างคุณไม่มีค่าพอที่จะช่วยฉันถือรองเท้าด้วยซ้ำ อย่าไปคิดว่าคุณสามารถทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการที่นี่เพียงเพราะคุณมีเงินเหม็น ๆ คุณคงจะใช้เวลาสองสามปีในการรวบรวมเงินให้เพียงพอต่อการจ่ายค่าบ้านใช่ไหม? ดี ฉันจะวางบิลตั้งแต่อาหารยังไม่มาเสิร์ฟ และคุณจะไม่ได้กินมันแม้แต่คำเดียว ไม่ต้องคิดจะกิน ทิ้งไป เห็นแก่มารยาทฉันจะไม่ตะโกนใส่คุณที่นี่ คุณช่วยหมุนตัวอ้วน ๆ ของคุณออกไปจากตรงนี้ได้ไหม?”ชายหัวโล้นลุกขึ้นยืนและจ้องมองเธอ “คุณพูดอะไรของคุณ? ทำไมคุณยังพูดแบบนั้นอยู่อีก? ฉันสามารถหาผู้หญิงแบบคุณได้อย่างง่ายดายที่ไนต์คลับที่ฉันไปเที่ยว อย่าคิดว่าคุณจะเป็นอย่างนั้น! ทำไมฉันถึงต้องพยายามและทำให้เงินในกระเป๋าหมดไป ในเมื่อฉันสามารถจ่าย 100 ดอลล่าร์ สำหรับแพ็คเก็จบริการแบบเต็มรูปแบบจากผู้หญิงลักษณะแบบคุณ”ทิฟฟานี่กลอกตามองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไปหาที่ไนต์คลับได้เลย เงิน 100 เหรียญอาจจะน้อยไปสำหรับคุณ ฉันขอแนะนำให้คุณไปเที่ยวสถานที่หรูหรากว่านี้ดู คุณคงไม่เคยลองของที่ราคาเป็นหมื่นเห