ทิฟฟานี่ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกหลังจากที่เธอกลับออกมาจากคฤหาสน์เวสต์ เธอตระหนักว่ามันเป็นสถานการณ์แบบ “มีผู้ชนะก็ต้องมีผู้แพ้” จริง ๆ แล้วเธอได้บรรลุเป้าหมายแรกที่ยิ่งใหญ่ของเธอ แต่แจ็คสันนั้นกำลังตกอยู่ในหายนะ เมื่อเธอนึกถึงการสนทนาล่าสุดที่เธอคุยกับเขาหลังงานนั้นเธอก็รู้สึกได้ถึงความห่างเหินจากเขาที่ทำใหเธอกระวนกระวายและสิ้นหวังอย่างที่สุด ที่บริษัท ไบร์ท จำกัด บริษัทของตระกูลเวสต์แจ็คสันกำลังโกรธใส่นักออกแบบแฟชั่นคนหนึ่งในห้องทำงานของเขา “บอกมาสิ คุณไปเอาแบบนั้นมาจากไหน? คุณไม่รู้เลยเหรอว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากคุณลอกงานคนอื่น?”คนที่ลอกงานทิฟฟานี่เป็นผู้ชายที่มีลักษณะอ่อนโยนและดูมีวิชาการ เขายังสวมแว่นสายตาคู่หนึ่งและดูไม่เหมือนผู้ร้ายเลย ชายคนนั้นจัดระเบียบแว่นตัวเองและพูดอย่างไม่รู้สึกอะไรว่า “ผมไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร ผมไม่เคยลอกงานใคร” แจ็คสันปัดที่ใส่เครื่องเขียนของเขาลงพื้นด้วยความโกรธ “เบคเค็ต ฮัชแมน! คุณยังกล้าเถียงผมอีกเหรอ? ผมสารภาพต่อที่สาธารณะไปแล้ว นี่คุณรู้บ้างไหมว่าคุณกำลังจะเจอกับอะไร? คุณจะไม่มีวันได้ทำงานในวงการนี้อีกและคุณยังดึงบริษัทให้ตกต่ำไปกับคุณด้วย
เพื่อนออนไลน์เหรอ? แจ็คสันเริ่มสงสัยและโกรธ “เพื่อนออนไลน์ของคุณคือใคร? คุณต่างหากที่กำลังขุดหลุมฝั่งศพตัวเอง คุณเชื่อจริง ๆ เหรอว่าการลอกงานคนอื่นนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องและควรทำแล้ว? การขโมยความตั้งใจของคนอื่นและอ้างว่ามันเป็นของตัวเองแบบนี้เหรอ? ถ้าคุณชนะ ทิฟฟานี่จะต้องเสียอาชีพ มันโอเคสำหรับคุณจริง ๆ เหรอ? คุณมันน่าขายหน้าสิ้นดี!”เบคเค็ตรู้สึกไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด “ผู้ชายทุกคนต่างต้องช่วยตัวเอง ผมไม่ใช่ความอับอาย”แจ็คสันไม่ต้องการที่จะเสียเวลากับคนที่ไร้ยางอายแบบนี้อีกต่อไป “ก็ได้ มันไม่สำคัญหรอกถ้าคุณจะไม่อยากเปิดเผยตัวตนเพื่อนออนไลน์ของคุณ ผมสืบเองได้ อีกเรื่องหนึ่ง ผมจะส่งทนายความของผมไปคุยกับคุณเกี่ยวกับความสูญเสียและผลกระทบของบริษัทที่เกิดจากการลอกเลียนแบบของคุณ”สีหน้าของเบคเค็ตเปลี่ยนไปอย่างมาก “คุณ…”แจ็คสันโบกมืออย่างเหยียดหยัน “คุณไปได้แล้ว คุณถูกไล่ออก คุณได้ลงนามในสัญญากับบริษัทและคุณได้ละเมิดข้อกำหนดในสัญญานั้น คุณควรชดใช้ค่าเสียหายที่คุณก่อไว้ กลับบ้านไปรอรับหมายเรียกของคุณซะ”เบคเค็ตเข่าอ่อน เขาเชื่อว่าแจ็คสันจะเข้าข้างเขา แม้ว่าเขาจะถูกเปิดโปง เขาไม่ได้คาดคิด
ทิฟฟานี่พยักหน้า “ฉันเกรงว่าไอ้แสงจันทร์สีขาวของเธอนั่นเป็นพนักงานในบริษัทของแจ็คสัน เขาชื่อเบคเค็ต ฮัชแมน นั่นชี้แจงได้ว่าทำไมเขาถึงใช้ชื่อ ‘ฮัช’ เป็นชื่ออนไลน์ของเขา เขาน่าสงสัยมาก ฉันว่าเธอไม่ควรติดต่อเขาอีกจะดีกว่า”ธัญญ่าช็อคอย่างเห็นได้ชัด “ฮัช” เปรียบเสมือนแสงจันทร์สีขาวของเธอตลอด เธอไม่นึกมาก่อนว่าความซื่อของเธอจะสร้างปัญหาเช่นนี้ “หนูขอโทษ... พี่ทิฟฟานี่… หนูขอโทษจริง ๆ หนูไม่คิดมาก่อนว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ ทั้งหมดเป็นความผิดของหนูเอง…”ทิฟฟานี่ถอนหายใจ “พวกเราต่างเรียนรู้จากความผิดพลาด คราวหน้าก็จำไว้ด้วยว่าอย่าเอาภาพสเก็ตช์ของตัวเองหรือของฉันให้ใครดู เธอนี่ซื่อบื่อจริง ๆ เธอก็รู้ว่าเขาเป็นนักออกแบบแฟชั่นและเขาก็อยู่ในวงการเดียวกับเรา แต่เธอก็ยังเอาภาพสเก็ตช์นั้นให้เขาดูระหว่างที่มีการแข่งขันอยู่ดี เธอควรจะระแวงคนนี้ไม่ใช่เหรอ? โดยเฉพาะภาพสเก็ตช์ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท เธอห้ามเอาภาพเหล่านั้นให้คนอื่นดูเด็ดขาด หากบริษัทเราประสบความสูญเสียแต่อย่างใด พวกเขาจะเล่นงานเธอแน่” ธัญญ่าน้ำตาคลอเบ้า “หนูเข้าใจ… หนูไม่ได้แค่ทำร้ายพี่ แต่หนูเกือบจะทำร้ายริคกี้ด้วย หนูควรจะเ
ธัญญ่าประทับใจในความเอื้อเฟื้อของเอริก เธอพยักหน้าและชวนทิฟฟานี่ไปรับประทานอาหารกลางวันด้วยกันโทรศัพท์ของเธอดังขึ้นระหว่างที่รับประทานอาหารกลางวัน มันเป็นข้อความแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันบนโซเชียลมีเดีย เธอเคยตั้งตารอเสียงแจ้งเตือนนั้นเพราะนั่นหมายความว่า “ฮัช” ได้ส่งข้อความถึงเธอ แต่ตอนนี้เธอใจเย็นกับเรื่องนี้มาก เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาและตรวจสอบดูข้อความนั้น เธอตกใจเมื่อเห็นว่ามันเป็นคำขอเป็นเพื่อนจากฮัช เธอเหลือบมองทิฟฟานี่อย่างรู้สึกผิดผู้ซึ่งนั่งตรงข้ามโต๊ะจากเธอ จากนั้นเธอก็ยอมรับคำขอเป็นเพื่อนนั้นอย่างระมัดระวังเธอไม่ได้ส่งข้อความถึงฮัชก่อนเพราะเธอต้องการที่จะรอดูว่าเหตุใดฮัชจึงส่งคำขอเป็นเพื่อนถึงเธอทั้ง ๆ ที่เขาเป็นคนที่บล็อกเธอตั้งแต่แรกไม่นานหลังจากนั้น ฮัชก็ส่งข้อความถึงเธอ: 'ผมขอโทษ ผมไม่ควรจะหมกมุ่นขนาดนั้นและทำเรื่องแบบนั้นลงไป ตอนนี้ผมเสียใจจริง ๆ ผมไม่ควรใช้ความไว้วางใจของคุณที่มีต่อผมเพื่อแสวงหากำไร ผมออกจากงานแล้ว ผมจะไม่ก้าวเข้าสู่วงการนี้อีก ผมถูกบริษัทฟ้องเรียกค่าเสียหายจำนวนมากด้วย ก่อนหน้านี้ผมแย่จริง ๆ ผมจึงบล็อกหมายเลขของคุณไป ตอนนี้พอผมนึกถึงมันแล้ว ผมรู้
หลังจากที่ธัญญ่าแต่งหน้าแต่งตัวเสร็จ เบคเค็ตก็โทรมาอย่างที่ได้สัญญาเอาไว้ “ผมมาถึงแล้ว ผมอยู่ที่ล็อบบี้ คุณลงมาสิ”เสียงของเบคเค็ตไพเราะมาก พวกเขาได้คุยกันผ่านข้อความเท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาโทรคุยกัน หัวใจของธัญญ่าเต้นแรงขึ้น “โอเค ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”เธอเห็นรถของเบคเค็ตที่ล็อบบี้ข้างนอก มันไม่ใช่รถหรูอะไร แต่มันดูสะอาดและใหม่ รถนั้นเป็นรถทะเบียนเมืองหลวง เธอขึ้นรถไปและกลิ่นบนรถก็ลอยมาเตะจมูกเธอ เธอชอบมัน มันทำให้เธอประทับใจเขาเพิ่มขึ้น เบคเค็ตตรงกับที่เธอคิดไว้ไม่มีผิด เขาเป็นคนอ่อนโยนและประณีต เขาดูเรียบร้อยและสะอาดสะอ้านมาก บนรถของเขาไม่มีฝุ่นแม้แต่นิดเดียว เธอรู้สึกผิด “ขอโทษที่ต้องรบกวน” เบคเค็ตยิ้มพลางหันข้างมาช่วยเธอคาดเข็มขัดนิรภัย ธัญญ่ารู้สึกได้ว่าหัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นอีกเมื่อพวกเขาใกล้ชิดกัน “ระ-เราจะไปทานข้าวที่ไหนกันเหรอ?” เธอพูดตะกุกตะกักเพื่อสงบหัวใจที่เต้นรัวของเธอ เบคเค็ตกลับไปนั่งตัวตรง “อะไรก็ได้ แล้วแต่คุณเลย”สำหรับธัญญ่า เขาดูเหมือนสุภาพบุรุษมาก เขาเจ๋งและหล่อเหลา ความประทับใจที่ดีของเธอที่มีต่อเขายิ่งทยานขึ้นไปอีก “ฉันกินอะไรก็ได้ คุณ… กำลังมี
หลังจากที่ชื่นชมทิวทัศน์เสร็จแล้วเขาก็ดึงโทรศัพธ์ของธัญญ่าออกมาเพื่อหาเบอร์ทิฟฟานี่ หลังจากนั้นเขาก็ส่งข้อความหาเธอ: ‘ถ้าคุณอยากได้ธัญญ่ากลับไปแบบตัวเป็น ๆ ก็ไปสารภาพกับสื่อซะว่าคุณเป็นคนลอกงานผม ผมต้องการเห็นคำตอบในข่าวพรุ่งนี้’ทิฟฟานี่ลุกขึ้นยืนเมื่อเธอได้รับข้อความนั้น อเลฮานโดรจ้องเธออย่างเฉยเมย “มีอะไรเหรอ?”ทิฟฟานี่หน้าซีดนิดหน่อย “ฉันไม่รู้จะอธิบายยังไง… ฉันเกรงว่าฉันจะต้องไปก่อน ไว้ฉันจะเลี้ยงข้าวคุณคราวหน้านะ โทษที!”อเลฮานโดรขมวดคิ้ว “คุณสามารถบอกผมได้นะ ผมจะช่วยคุณอย่างเต็มที่”ทิฟฟานี่ส่ายหัว “ไม่เป็นไร ฉันไม่อยากรบกวนคุณ ไว้ค่อยคุยกันนะ ฉันต้องไปก่อน!”เธอรีบวิ่งออกจากร้านอาหารเร็วดั่งสายฟ้า อเลฮานโดรจ้องเจตต์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ตาเขม็ง เจตต์เข้าใจเขาและปฏิบัติตามทันที “คุณเลนครับ ให้ผมไปส่งคุณนะครับ!” ทิฟฟานี่ไม่ปฏิเสธข้อเสนอนั้น เธอไม่ได้ขับรถมาและการรอแท็กซี่ก็จะเสียเวลา ให้เจตต์ไปส่งจะสะดวกสบายกว่ามาก เธอรู้ดีว่าใครเป็นคนส่งข้อความนั้น เบคเค็ตเคยเป็นพนักงานของแจ็คสันและแจ็คสันน่าจะเป็นคนเดียวที่จะสามารถช่วยเธอได้ในตอนนี้ เธอไม่ต้องการที่จะให้คนนอกอย่างอเลฮานโดรช่
หลังจากที่วางสาย ทิฟฟานี่ที่ตื่นตระหนกก็เริ่มเดินวนเป็นวงกลมเพราะการรอได้ทรมานเธอเธอไม่รู้ว่าเธอรอไปนานแค่ไหนแล้ว แต่อนิจจา รถของแจ็คสันก็ปรากฏตัวขึ้นในสายตาของเธอ เมื่อเขาขับมาใกล้ขึ้นเธอก็รีบเดินเข้าไปหาเขา “ขึ้นมา”ทิฟฟานี่เปิดประตูและขึ้นไปนั่งบนเบาะข้างคนขับอย่างเร่งรีบและถามเซ้าซี้ “คุณติดต่อเบคเค็ตได้ไหม? ฉันไม่มีเบอร์เขาและธัญก็ไม่รับสายและ โอ้พระเจ้า ฉันกลัว!” แจ็คสันนวดหน้าผากของตนเพื่อบรรเทาอาการปวกหัว “ก่อนอื่น คาดเข็มขัดก่อน ผมจะโทรหาไอ้เบคเค็ตนั้นเดี๋ยวนี้แหละ”มือของทิฟฟานี่สั่นเมื่อเธอพยายามบังคับมือตัวเองให้คาดเข็มขัด ธัญญ่าเป็นเด็กกำพร้าผู้โดดเดี่ยวและไม่มีญาติที่ยังมีชีวิตอยู่เหลือเลย หากเกิดอะไรขึ้นกับธัญญ่า ทิฟฟานี่จะต้องรู้สึกผิดไปจนตาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการเหตุการณ์ครั้งนี้มุ่งเป้าไปที่ตัวทิฟฟานี่เองในกรณีที่แย่ที่สุด เธอจะต้องทำตามข้อเรียกร้องของเขา เธอจะต้องยอมรับว่าเธอลอกงานของเบคเค็ตแจ็คสันเห็นได้จากอาการตัวสั่นของเธอว่าเธอกลัวแค่ไหน เขาจึงช่วยเธอคาดเข็มขัด “ใจเย็น ๆ ก่อนทิฟฟานี่ ให้ผมหาตำแหน่งที่ชัดเจนของเบคเค็ตก่อนนะ ธัญญ่าต้องอยู่กับเขาแน่นอน
”คุณไม่ได้เชื่อจริง ๆ ใช่ไหมว่าการอยู่ที่บ้านของผมจะอันตรายกว่าการโดนลักพาตัว?” แจ็คสันเหน็บ “ฟังนะ ผมแค่ไม่ต้องการให้อะไรเกิดขึ้นกับคุณก่อนที่เราจะแก้ไขปัญหาของธัญญ่าได้ เข้าใจไหม? เพราะสิ่งสุดท้ายที่ผมต้องการคือปัญหาที่ทับซ้อนกัน หากคุณกังวลว่าผมจะทำอะไรคุณขนาดนั้น ก็ได้ ผมจะไปส่งคุณที่บ้านผมแล้วผมจะไปนอนที่ออฟฟิศ”ข้อยินยอมที่ชัดเจนของเขาทำให้ทิฟฟานี่ยากที่จะปฏิเสธข้อเสนอของเขาได้ ส่วนใหญ่เป็นเพราะที่จริงแล้วเธอกลัวที่จะกลับบ้าน ถ้าเบคเค็ตเห็นว่าเขาสามารถทำอะไรกับธัญญ่าได้อย่างไม่มีปัญหา เขาก็จะสามารถซุ่มโจมตีทิฟฟานี่ในคอนโดมิเนียมของเธอได้เช่นกันและถ้าเขาจับเธอได้… แม้ว่าเธอจะออกมาจากเงื้อมมือของเขาทั้งเป็นได้ แต่เธอก็คงจะต้องเย็บแผลมากมายแน่นอน“อะ-เอ่อ ถ้าคุณยืนยัน… งั้นขอโทษที่ต้องรบกวนด้วย” ทิฟฟานี่ยอมอ่อนข้อแจ็คสันไม่ตอบอะไร ทิฟฟานี่ไม่เคยพูดกับเขาอย่างเป็นทางการมาก่อน ดังนั้นตอนนี้เขาจึงปรับตัวเข้ากับมันได้ยากรถหยุดก่อนถึงทางเข้าของไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่า เมื่อจำรถของแจ็คสันได้ รปภ.จึงยกตัวกั้นขึ้นทันทีแจ็คสันเลื่อนกระจกลงและมองไปที่ชายคนนั้น “โย่ นี่คือแฟนของผม จำ