共有

บทที่ 4

作者: dexnarak
last update 最終更新日: 2025-07-08 21:07:02

ถึงวันที่ทั้งคู่ต้องไปถ่ายพรีเวดดิ้ง เพราะงานแต่งใกล้เข้ามาทุกทีงานทุกอย่างเลยดูเร่งรีบไปหมดจนฉัตรนลินทร์เองมีเวลาพักผ่อนน้อยมาก เพราะเธอต้องขับรถไปกลับกรุงเทพกับบ้านเกิดสัปดห์ละหลาย ๆ รอบ ร่างกายเลยอ่อนเพลีย เช้านี้เธอเลยรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว

“ฉัตรไหวมั้ยลูก” ผู้เป็นแม่ถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเขามาเห็นลูกสาวกำลังนอนซม

“ไหวค่ะแม่”

“เลื่อนไปก่อนดีมั้ย”

“ไม่เป็นไรค่ะ ถ่ายให้มันเสร็จ ๆ ไป หนูจะได้กลับไปทำงานอีก”

“ให้พี่ขับรถไปส่งนะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ วันหยุดทั้งทีให้พี่พักเถอะ หนูขับไหว”

ฉัตรนลินทร์เธอมีพี่ชายหนึ่งคน ทั้งคู่ห่างกันสามปี ซึ่งตอนนี้พี่ชายของเธอก็แต่งงานมีครอบครัวแล้ว แถมยังมีเจ้าตัวน้อยวัยสามขวบหนึ่งคน

ปี๊น!

เสียงแตรรถที่ดังอยู่หลายครั้งทำให้คนในบ้านแปลกใจว่าใครกันนะทำไมถึงไม่มีมารยาทแบบนี้ แต่กลับมีคนหนึ่งที่รู้ดีว่าคนที่ทำพฤติกรรมแย่ ๆ นี้เป็นใคร

“หนูออกไปดูเองค่ะ”

พูดจบฉัตรนลินทร์ก็ลุกแล้วเดินออกไป และก็ไม่ผิดหวังกับความคิดของตัวเอง เพราะเขาใช่คนที่เธอคิดจริง ๆ

“คุณมีธุระอะไรคะ”

“วันนี้มีถ่ายพรีเวดดิ้งเธอลืมไปแล้วหรือยังไง”

“ไม่ลืมค่ะ”

“เห็นเธอยังไม่แต่งตัว”

“ฉันไม่รีบนี่คะ”

“ไปอาบน้ำแต่งตัวฉันจะรอ” เขาพูดพลางดับเครื่องยนต์

“รอทำไมคะ”

“ก็รอไปพร้อมกันไง”

มาแนวนี้อีกแล้ว ฉัตรนลินทร์รู้สึกเสียวสันหลังยังไงไม่รู้ สองครั้งที่ถูกทิ้งไว้กลางทางบอกตรง ๆ เธอเข็ด

“ฉันบอกคุณแล้วไงว่าฉันจะขับรถไปเอง”

“บอกตอนไหน” เขาทำเป็นจำไม่ได้

“คุณอย่ามาทำไขสือ”

“ไหน ๆ ฉันก็มาแล้ว ไปเถอะ” เขาพูดแกมอ้อนวอนจนฉัตรนลินทร์เองก็แปลกใจ

“คุณไปก่อนเถอะ” เธอยังใจแข็ง “คุณจะทำอะไร”

“แขกมาไม่เห็นเชิญเข้าบ้าน เธอมันไม่ได้เรื่องเลย”

“เดี๋ยว ๆ คุณ คุณไม่ได้ยินที่ฉันบอกหรือไง”

ศิวิฒน์ไม่สนใจ เขาเดินผ่านฉัตรนลินทร์แล้วเข้าไปในบ้าน

“สวัสดีครับ”

“สวัสดีค่ะ มารับยัยฉัตรเหรอคะ

“ใช่ครับ พอดีผมเห็นว่าเมื่อคืนฉัตรเขาเพิ่งขับรถมาจากกรุงเทพ เลยคิดว่าคงจะเหนื่อย วันนี้เลยอยากให้นั่งรถสบาย ๆ หน่อยครับ”

ฉัตรนลินทร์ที่เดินตามเข้ามา เธอทันได้ฟังคำพูดเลี่ยน ๆ นั้นพอดี เธอไม่อยากจะหักหน้าเขาเหมือนที่เขาทำกับเธออยู่หลายครั้ง เพราะเธอไม่ได้มีนิสัยแบบนั้น เธอจึงทำได้แค่มองบน

“รีบไปอาบน้ำแต่งตัวสิลูก อย่าปล่อยให้คุณไตรรอนาน”

“อย่าเรียกคุณเลยครับ เรียกไตรเฉย ๆ ก็พอครับ”

“ได้ค่ะ”

ความสุภาพนี้ดูจะผิดหูผิดตาของฉัตรนลินทร์จนเธองงไปหมด ผู้ชายคนนี้กินอะไรผิดมาหรือเปล่าทำไมถึงได้ผิดเพี้ยงไปได้ถึงขนาดนี้ ดูเปลี่ยนไปราวเป็นคนละคน

“ยังยืนอยู่อีกอย่าให้พี่เขารอนาน”

“เอ่อ...ค่ะ” ฉัตร์นลินทร์รีบหมุนตัวเดินเข้าห้องไปทันที โดยที่เธอไม่ทันได้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้น

ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงฉัตรนลินทร์ก็เดินออกมาจากห้อง ปกติเธอไม่ใช่คนอาบน้ำแต่งตัวนานแบบนี้ เธอเพียงแค่อยากแกล้งคนที่อยู่ด้านนอกก็เท่านั้น เพราะเธอมั่นใจว่าที่เขามาวันนี้ไม่ได้มาดีแน่นอน

ทันทีที่หันไปเห็นศิวัฒน์ก็ลุกจากโซฟา เขารอเธอมาพักใหญ่ คุยเรื่อยเปื่อยกับแม่ของฉัตรนลินทร์จนไม่รู้จะคุยเรื่องอะไรแล้ว กว่าเธอจะออกมาได้

“คิดว่าจะออกมาสวยกว่านี้ซะอีก”

เขาก้มลงไปกระซิบเมื่อเธอมาหยุดยืนอยู่ใกล้ ๆ เขา

“อาจจะสวยกว่านี้ถ้าคนที่มารอไม่ใช่คุณ”

เขาไม่สนใจคำพูดของเธอเหมือนที่เธอไม่สนใจคำพูดของเขานั่นแหละ

“ผมไปก่อนนะครับคุณแม่” ศิวัฒน์ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้แม่ของฉัตรนลินทร์อย่างนอบน้อม

“ขับรถดี ๆ นะลูก”

“ครับ”

“ฉัตรเอายาไปหรือยังลูก” แม่ของเธอพูดขึ้นขณะที่เธอหมุนตัวเดินตามศิวัฒน์ไป

“เอาแล้วค่ะ”

พวกเขามาถึงตามสถานที่นัดหมายในเวลาต่อมาหลังจากก่อนหน้านี้ได้แวะไปแต่งหน้าทำผมที่ร้านเรียบร้อยแล้ว แม้จะเป็นงานแต่งตามใจของศศิณี แต่ก็ไม่ทั้งหมดไปซะทีเดียว เพราะเธอเปิดโอกาสให้ทั้งคู่เลือกสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งเอง แม้จะใช้เวลานานในการตัดสินใจก็เถอะ เพราะไม่ลงรอยกันจึงไม่ยอมรับความเห็นของกันและกัน แต่สุดท้ายฉัตรนลินทร์ก็ต้องยอมศิวัฒน์เพื่อตัดปัญหา เธอไม่อยากมาเสียเวลากับเรื่องนี้

“ทำไมถึงเป็นที่นี่คะ”

“ฉันว่ามันก็สวยดี ที่สำคัญสะดวกไม่ต้องขับรถไปไกล” เขาตอบโดยไม่หันมามองเธอ

นั่นสิตอนแรกฉัตรลินทร์ก็แปลกใจอยู่ว่าทำไมอยู่ ๆ ทางร้านถึงโทรมาเปลี่ยนเวลาจาก 6 โมงเช้าเป็น 9 โมง เพราะถ้าไปทะเลเธอจะต้องออกเช้ากว่านี้

“คุณโอเคใช่มั้ย”

“อืม”

เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นที่ ๆ ฉัตรลินทร์เสนอตั้งแต่แรก แต่ศิวัฒน์ไม่เห็นด้วย และปฏิเสธทุกอย่างไม่ว่าเธอจะเสนออะไร เขาเลือกที่จะไปถ่ายที่ทะเล แต่ฉัตรลนิทร์ไม่ชอบ เธอชอบที่มีต้นหญ้าใบไม้เขียวขจีดูแล้วสบายตา นั่นก็คือสวนสาธรณะที่ที่เป็นแลนมาร์คของบ้านเกิดเธอนั่นเอง

“เจ้าบ่าวเจ้าสาวมาถึงแล้วค่ะ” ช่างแต่งหน้าบอกช่างถ่ายรูปที่กำลังเซตสถานที่อยู่

“งั้นเชิญทั้งคู่มายืนตรงนี้นะครับ”

ทั้งสองเดินไปหยุดอยู่ตรงตำแหน่งที่ช่างถ่ายรูปบอก

“เจ้าบ่าวโอบไหล่เจ้าสาวหน่อยครับ”

ทั้งคู่มองหน้ากัน

“เร็วครับแดดกำลังสวยเลย” ช่างถ่ายรูปก็เดินเข้าไปจัดท่าให้ทั้งคู่เสร็จสรรพ เป็นท่าที่ทั้งคู่หันหน้าเข้าหากันศิวัฒน์กำลังกอดเอวฉัตรนลินทร์ ส่วนฉัตรนลินทร์ก็เอามือวางไว้ตรงอกของศิวัฒน์

“ยิ้มให้กันหน่อยครับ...นั่นแหละครับ...เจ้าบ่าวขยับหน้าเข้าไปหน่อยครับ”

สิ้นคำสั่งของช่างถ่ายรูปฉัตรนลินทร์ก็ต้องตาโตเมื่อศิวัฒน์ขยับหน้าเข้ามาใกล้เธอจนจมูกของเขาแตะกับจมูกของเธอ

“ใกล้เกินไปแล้วนะคะ” ฉัตรนลินทร์พูดเบา ๆ

“เดี๋ยวช่างก็บอกให้ใกล้อีก ใกล้อีก ฉันก็ทำก่อนเลยไม่ต้องรอให้เขาสั่ง เสียเวลา”

“คุณก็ขยับหน้าออกไปอีกหน่อยสิ”

“หึ...” เขายิ้มมุมปาก เมื่อเห็นว่าว่าที่เจ้าสาวของเขากำลังหน้าแดง

“ยิ้มอะไร” เธอถลึงตาใส่เขา แต่แล้วก็ต้องรีบหลุบตาต่ำลงเมื่อเขาก็จ้องมองเธออยู่เช่นกัน

ความหล่อของคนตรงหน้าปั่นป่วนหัวใจเธอมากในตอนนี้ ปกติแค่เห็นกัน แต่ไม่เคยเข้าใกล้กันมากเท่านี้มาก่อน และไม่คิดด้วยว่าคนตรงหน้าจะมีเสน่ห์มากเท่านี้ หากตัดเรื่องปากไม่ดีออกไปเขาคงเป็นผู้ชายเพอร์เฟ็กคนหนึ่งในสายตาของเธอ

“เจ้าสาวมองหน้าเจ้าบ่าวหน่อยครับ”

หา!

ฉัตรนลินทร์หันไปมองช่างถ่ายรูปด้วยสายตาเว้าวอน

“ไม่ต้องเขินครับ ภาพจะได้ออกมาสวย ๆ นะครับ เป็นความทรงจำที่ดีเลยครับ”

เธอไม่รู้จะพูดยังไง เพราะพวกเขาไม่รู้ว่างานแต่งที่กำลังเกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากคู่บ่าวสาวที่รักกัน เธอไม่ได้ถูกรักจนขอแต่งงาน แต่เธอโดนจับแต่งงานเพื่อให้อีกคู่หมดรักกันต่างหาก

ฉัตรนลินทร์หันไปมองสบตาของศิวัฒน์อีกครั้ง คราวนี้ทั้งสองเหมือนคนที่ต้องมนต์สะกด ไม่มีใครละสายตาจากใครเพราะต่างก็มองลึกเข้าไปในดวงตาของกันและกัน จนเกิดรอยยิ้มบาง ๆ ขึ้นบนใบหน้าของคนทั้งสอง

“นั่นแหละครับ สวยมากครับ...เจ้าบ่าวขยับหน้าเข้าไปอีกนิดครับ...ดีครับ...เจ้าสาวเอามือคล้องคอเจ้าบ่าวครับ...ดีครับ”

และแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

“เอ่อ...” ช่างภาพได้แต่อ้าปากค้าง แต่เพราะความเป็นมืออาชีพ เขาก็ยังกดชัตเตอร์รัว ๆ

“อื้อ...” ตาคู่กลมเบิกโพรงด้วยความตกใจ เมื่อเธอโดนศิวัฒน์ประกบจูบลงไปบนกลีบปากสีแดงสดของเธอโดยที่เธอเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัว

“คุณไตรใจเย็นก่อนค่ะ” ฟาร่ารีบร้องห้าม

นั่นแหละศิวัฒน์ถึงจะมีสติ เขาดันตัวเธอออกห่างจากตัวก่อนจะเช็ดปากของตัวเอง นึกสับสนตัวเองว่ากำลังทำอะไรลงไป ส่วนฉัตรนลินทร์เธอรีบหันหลังให้ศิวัฒน์ทันที

“มาค่ะคุณฉัตร ดูสิลิปเลอะหมดแล้วเดี๋ยวฟาร่าเช็ดให้นะคะ”

ฟาร่าจูงมือฉัตรนลินทร์ไปนั่งตรงที่พัก ก่อนจะบรรจงเช็ดรอยลิปให้เธอ เพียงไม่นานศิวัฒน์ก็ตามไปนั่งลงข้าง ๆ เพื่อให้ช่างจัดการรอยลิปบนหน้าให้เขา

ฉัตรนลินทร์ปรายตามองนิดหนึ่งก่อนที่เธอจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อเรียกสติของตัวเองออกมา เธออยากโวยวายกับเขา แต่เพราะไม่มีใครรู้ว่าเธอกับเขาไม่ใช่คนรักกัน ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่นิ่ง

แต่กลับมีหนึ่งคนที่รู้เรื่องราวนี้ดี ฉากจูบเมื่อครู่ทำเธอแอบบฟินไม่น้อย และเธอก็ทันได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายพอดี จึงส่งภาพนี้ไปให้ศศิณี เพราะเธอได้รับทิปพิเศษจากศศิณีให้ดูแลฉัตรนลินทร์เป็นอย่างดีตั้งแต่การตัดชุดไปจนถึงถ่ายพรีเวดดิ้ง ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในร้านวันนั้นก็ไม่รอดพ้นจากศศิณีแน่นอน...

กว่าการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งจะผ่านไปได้ ก็เล่นเอาช่างภาพเหงื่อตก เพราะหลังเหตุการณ์นั้นฉัตรนลินทร์ก็ระวังตัวมากขึ้น จนดูไม่เป็นธรรมชาติ จนฟาร่าต้องแอบไปกระซิบบอกช่างถ่ายรูปว่าทั้งคู่เพิ่งคบกันไม่นาน เพราะแม่ของฝ่ายชายหาลูกสะใภ้เอง ทำให้เจ้าสาวเขินมากกว่าคู่บ่าวสาวทั่วไป

“ขึ้นรถสิ” ศิวัฒน์เปิดกระจกเรียนคนที่ยังยืนอยู่

ที่ฉัตรนลินทร์ไม่ยอมขึ้นรถ เพราะเธอรู้ดีว่าศิวัฒน์ก็คงใช้มุกเดิม แล้วทิ้งเธอไว้ที่ไหนสักแห่งสู้เธอไม่ขึ้นไปเลยตั้งแต่แรกดีกว่า

"ไม่ดีกว่าค่ะ”

“ฝนจะตกแล้ว ไม่สบายอยู่ไม่กลัวโดนฝนหรือไง”

“คุณรู้ได้ไง”

“ขึ้นมาเถอะไม่ต้องถาม”

ตอนเช้าที่ออกมาเขาได้ยินแม่ของฉัตรนลินทร์ถามเรื่องยา แล้วตอนที่ยืนถ่ายรูปด้วยกันตัวของฉัตรนลินทร์ก็ยังอุ่น ๆ อีก เขาเลยคิดว่าเธอคงจะไม่สบาย แผนของเขาจึงต้องพับเก็บไว้ก่อน

เมื่อเงยหน้าขึ้นไปเห็นท้องฟ้ามืดครึ้มเหมือนว่าฝนกำลังจะตก ฉัตรนลินทร์จึงตัดสินใจขึ้นรถ เธอไม่อยากตากฝนเพราะพรุ่งนี้เธอต้องขับรถกลับกรุงเทพไปทำงานต่ออีก

เธอนั่งรถไปด้วยใจระทึก ลุ้นอยู่ตลอดว่าเขาจะจอดตรงไหน และในที่สุดเขาก็ขับมาส่งเธอจนถึงบ้าน

“ขอบคุณค่ะ” เธอกล่าวขอบคุณก่อนลงจากรถไป

ศิวัฒน์มองตามจนเธอเข้าบ้านไปในบ้าน อยู่ ๆ ภาพเหตุการณ์วันนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัว เขาเอามือแตะปากตัวเองเบา ๆ แต่แล้วก็ต้องสะบัดหน้าไปมาสองสามครั้งเพื่อขับไล่ความคิด แล้วขับรถออกไป

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • เจ้าสาว(ไม่)ผ่านรัก   บทที่ 71

    “พวกมึงก็หยุดแกล้งมันได้แล้ว” หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มเอ่ยขึ้น เพราะก่อนที่ศิวัฒน์จะเดินเข้ามาในงานพวกเขาก็วางแผนกันว่าจะแกล้งศิวัฒน์ เพราะอยากรู้ว่าเขาหวงเมียแค่ไหน“แค่อยากลองใจมัน อยากรู้ว่าความหวงเมียของมันอยู่เลเวลไหน”“สรุปมันเวลไหนวะ”ตอนนี้ศิวัฒน์รู้สึกเหมือนถูกลากมารุมยังไงยังงั้น“หมาลูกอ่อนเ

  • เจ้าสาว(ไม่)ผ่านรัก   บทที่ 70

    ณ.บริษัท ภายในห้องทำงานของผู้บริหารมีชายหนุ่มสองคนกำลังนั่งจิบกาแฟและพูดคุยกัน เนื่องจากขณะที่ศิวัฒน์นั่งทำงานอยู่ได้มีสายเข้าจากเพื่อนสนิทว่าจะแวะเข้ามาเยี่ยมเยียน เขาเลยแจ้งให้เลขาเตรียมของว่างเพื่อรับแขกไว้“ไอ้ไตร”“หือ” ศิวัฒน์ขานรับในลำคอ“มึงไปงานแต่งไอ้วินมั้ยวะ”“อาจจะ” เขาตอบอย่างไม่แน่ใจน

  • เจ้าสาว(ไม่)ผ่านรัก   บทที่ 69

    “ฉัตรเคยห้ามพี่เหรอคะ” เธอหมายถึงเวลาเพื่อนชวนไปสังสรรค์ ศิวัฒน์มักจะบอกเธอเสมอ เธออนุญาตแต่เขากลับไม่เคยไปสักครั้ง“พี่เองต่างหากที่ไม่อยากไป เพราะเกรงใจฉัตร กลัวว่าไปแล้วฉัตรจะคิดมาก เพราะพี่น่ะประวัติไม่ค่อยดีเท่าไหร่”“เช่นอะไรบ้างคะ”“พอกินเหล้าแล้วพี่ทำฉัตรลุกไม่ไหวทุกที” นั่นหมายถึงงานเลี้ยงส

  • เจ้าสาว(ไม่)ผ่านรัก   บทที่ 68

    ปิดเทอมใหญ่ของฉัตรนลินทร์ เธอบอกศิวัฒน์ว่าขอพาลูกกลับไปเยี่ยมพ่อกับแม่ที่บ้าน โดยตกลงกันว่าศิวัฒน์จะตามไปหลังจากที่เคลียร์งานที่บริษัทเสร็จเรียบร้อยแต่แล้วคืนก่อนที่ฉัตรนลินทร์จะกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ศิวัฒน์ก็ยังไม่กลับบ้าน เธอแปลกใจจึงลองโทรหา แต่ก็ไม่มีคนรับสาย จนผ่านไปเกือบสี่ทุ่มด้วยความร้อนใจ

  • เจ้าสาว(ไม่)ผ่านรัก   บทที่ 67

    ทันทีที่ประตูเปิดออกศิวัฒน์ก็จับให้ฉัตรนลินทร์หันมาเผชิญหน้ากับเขา แล้วเขาก็บดเบียดริมฝีปากลงไปบนกลีบปากสีสวยทันที แม้จะตกใจแต่ฉัตรนลินทร์ก็ไม่ได้รู้สึกกลัว เหมือนกับว่าเธอรู้สึกคุ้นเคยกับสัมผัสนี้ไปแล้ว แม้จะต่อต้านสุดท้ายร่างกายของเธอก็ต้องพ่ายแพ้ให้เขาอยู่ดี สู้ทำตามหัวใจของตัวเองไปเลยดีกว่าศิวั

  • เจ้าสาว(ไม่)ผ่านรัก   บทที่ 66

    “มึงไม่ต้องแสดงความคิดเห็น”“ทำไม รับความจริงไม่ได้” เขาทำหน้าเยาะเย้ย “เป็นกูกูก็ไม่รักผู้ชายเหี้ย ๆ แบบมึง แต่งงานกันเสร็จกลับไปเข้าหอกับผู้หญิงคนอื่น พอย้ายเข้าบ้านกลับพาผู้หญิงคนอื่นมาอยู่ในบ้านด้วย นี่กูยังแปลกใจเลยนะว่าน้องฉัตรทนได้ยังไง ก็ตามที่กูว่าแหละน้องมันไม่ได้คิดอะไรกับมึง เลยไม่รู้สึก

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status