แชร์

Chapter 8

ผู้เขียน: อัญญาณี
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-21 01:37:41

Chapter 8

แต่พอเขาเดินเข้ามาในห้องน้ำ ดัตถพงศ์ได้กลิ่นอาเจียนที่ติดเสื้อของตน เขาจึงถอดเสื้อออกรวมทั้งเสื้อกล้าม ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กที่อยู่ตรงชั้นมาชุบน้ำพอหมาด จากนั้นก็เดินกลับออกไป

“เฮ้ย! ฟ้า ทำอะไร” เขาอุทานเสียงดังลั่นเมื่อเห็นนิสารัตน์ที่เวลานี้ลุกขึ้นนั่ง และเธอก็กำลังจะถอดเสื้อของตัวเองออก ดัตถพงศ์รีบถลาไปยังร่างสาวทันที

“อย่าถอดฟ้า อย่าถอด” เขาร้องห้าม จับมือทั้งสองข้างของเธอไว้แน่น

“ปล่อยฟ้านะ ปล่อย ฟ้าจะถอดเสื้อ ฟ้าเหม็น ใครมาอ้วกใส่เสื้อฟ้าเนี่ย” คนที่ร้องโวยวายยังไม่รู้ตัวว่า คนที่อาเจียนนั้นก็คือตัวเธอ

“เดี๋ยวฉันเช็ดให้ อยู่เฉยๆ”

เขาดุใส่ เธอมีอาการสงบลงเมื่อได้เยินเสียงเข้มๆ ของใครคนหนึ่งที่น้ำเสียงคุ้นๆ หู แต่เนื่องจากความเมาทำให้เธอไม่มีสติพอที่จะนึกว่าเป็นเสียงของใคร อีกทั้งไม่ได้นึกเอะใจเลยสักนิดว่า ตัวเองอยู่ในที่ใด แล้วเหตุใดจึงมีเสียงผู้ชายอยู่ดังใกล้ตัว

ดัตถพงศ์ใช้โอกาสนี้เช็ดหน้าเช็ดตาให้นิสารัตน์ ลดมือต่ำลงมาเช็ดคราบอาเจียนตามเสื้อผ้าของเธออย่างไม่รังเกียจ เขาจะรังเกียจคนที่ตนเองรักได้อย่างไร ไม่ว่าเธอจะอยู่ในสภาพแบบไหนเขาก็ไม่มีวันรังเกียจ

ดัตถพงศ์เดินไปยังห้องน้ำอีกครั้ง ใช้มือขยี้ผ้าผืนเล็กในมือผ่านสายน้ำจากก๊อกน้ำ ให้คราบอาเจียนหลุดออกไป บิดน้ำพอหมาดแล้วเดินออกไปจากห้องน้ำเพื่อเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เธอ

“เฮ้ย!” เขาร้องอุทานเสียงดังกว่าเดิมกับภาพของนิสารัตน์ที่ตนเห็น ดวงตาของเขาเบิกกว้าง หัวใจเต้นแรง...เต้นแรงจนเขารู้สึกได้ว่ามันกำลังทะลุออกมาจากผิวเนื้อ ร่างกายบึกบึนแข็งดุจหิน เหงื่อผุดพลายเต็มใบหน้า และกำลังผุดขึ้นตามร่างกาย

ภาพที่เขาเห็นคือ ร่างกายท่อนบนของนิสารัตน์เปล่าเปลือย เธอคงถอดเสื้อผ้าที่มีแต่กลิ่นอาเจียนออก เพราะคิดว่าตอนนี้เธออยู่ในห้องส่วนตัวของตัวเอง ไม่มีอยู่ร่วมห้องด้วย อีกประการหนึ่งฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้สติของเธอหมดสิ้น

ดอกอุบลสองดอกเบ่งยานเต็มสองตา ช่างสวยและงดงามยิ่งกว่าสตรีคนใดที่เขาเคยเห็น ผิวกายขาวนวลชวนให้อยากสัมผัส เนียนละเอียดมีน้ำมีนวล จนเขาอยากจะใช้มือแตะต้องเพื่อพิสูจน์ว่า จะนุ่มมือมากแค่ไหน

เท้าใหญ่ก้าวเข้าไปหาร่างงามอย่างเชื่องช้า ดวงตาจับจ้องไปยังความสวยงามนิ่งงัน ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ เลือดลมในกายของเขายิ่งร้อนระอุ เสมือนกับว่าตนเองยืนอยู่ใกล้กองไฟลุกโชน เพียงแค่เฉียดผิวกายแทบมอดไหม้

“ร้อน ร้อนจังเลย ปิ่นเปิดแอร์ให้ฉันหน่อยสิ”

คนที่ยังไม่ได้สติร้องโวยวายว่าร้อน ทั้งที่เครื่องปรับอากาศภายในห้องก็ยังทำงานอย่างดีเยี่ยม อาจเป็นเพราะฤทธิ์ของสุราที่เธอดื่มไป ทำให้ร่างกายเกิดความร้อนก็เป็นได้

            มือสั่นเทาของดัตถพงศ์เลื่อนผ้าห่มมาปิดความสวยงามที่เขาอยากแตะต้อง แต่พยายามข่มอารมณ์ไว้เต็มที่ ไม่ทำตามใจปรารถนา แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ให้ความร่วมมือเท่าไหร่นัก สะบัดผ้าห่มให้พ้นกาย จนเขาต้องนำมือสั่นๆ ของตนมาปกปิดทรวงอกสาวตามเดิม แล้วกลั้นใจเช็ดตัวให้เธอต่อไป

            ในระหว่างที่ดัตถพงศ์กำลังใช้ความพยายามอย่างหนักในการเช็ดตัวให้สาวร่างกึ่งเปลือย นิสารัตน์ที่ได้รับความเย็นจากผ้าขนหนูผืนนิ่ม ส่งผลให้เปลือกตาบางขยับเปิด ดวงตาเธอหรี่ลงเล็กน้อยเมื่อกระทบกับแสงไฟภายในห้อง เธอรู้สึกเหมือนกับว่ามีใครบางคนใช้ผ้าขนหนูเช็ดลำคอของเธออยู่ หญิงสาวจึงหันหน้าไปทางเจ้าของมือ

            “พี่ทัช” ด้วยความเมาบวกกับความรัก ความคิดถึงที่มีต่อกรกวินทร์ ทำให้เธอมองเห็นใบหน้าของดัตถพงศ์เป็นอดีตคนรัก “พี่ทัชกลับมาหาฟ้าเหรอคะ”

            ผู้ฟังรู้สึกเจ็บจี๊ดตรงหัวใจกับคำพูดของนิสารัตน์ ในสายตาของเธอไม่เคยมีชายหนุ่มคนไหนนอกจากกรกวินทร์ รวมทั้งหัวใจของเธอด้วย แม้ในยามที่สติไม่สมบูรณ์จิตใจของเธอก็ยังคงมีแต่อดีตคนรัก เขาไม่อยากคิดเลยว่า ยามที่เธอมีสติครบถ้วน ความรักที่มีต่อกรกวินทร์จะมากมายเพียงใด เพียงแค่คิดความร้าวรานใจก็รุมเร้า

            “ฟ้า ฉันไม่ใช่...” เขาร้องค้าน แต่ทว่าเสียงค้านของเขาก็หยุดเพียงแค่นั้น เมื่อเสียงอันสั่นเครือของนิสารัตน์ดังขึ้น

            “พี่ทัชอย่าทิ้งฟ้าไปอีกนะคะ ฟ้ารักพี่ทัช”

นิสารัตน์ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน เธอโตมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จนเมื่ออายุได้ห้าขวบก็มีคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งที่มีฐานะมั่งคั่งมารับไปอุปการะ นิสารัตน์อยู่กับพ่อแม่บุญธรรมมาร่วมยี่สิบปี เธอก็ต้องสูญเสียทั้งคู่ไปด้วยอุบัติเหตุ พร้อมกันนี้ยังสูญเสียทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลของทั้งสองไปด้วย เนื่องจากญาติทางบิดาบุญธรรม บังคับให้เธอเซ็นยกมรดกทั้งหมดที่ได้รับให้กับพี่ชายบิดา ซึ่งนิสารัตน์ก็ยินยอมทำตามแต่โดยดี เพราะเธอคิดว่า ตนเองไม่ใช่ทายาทที่สมควรจะได้รับมรดก แค่ได้รับความเมตตาจากทั้งสองก็เป็นพระคุณล้นหัว

ความโดดเดี่ยวที่เธอได้รับมาร่วมสามปี จนกระทั่งมาพบเจอกับกรกวินทร์ ทำให้ความเหงาและความโดดเดี่ยวที่เธอได้รับพลันหายไป ระยะเวลาหนึ่งปีที่กรกวินทร์ขายขนมจีบให้หญิงสาว เขาให้ความรัก ความเอาใจใส่เธอไม่ขาด เสมอต้นเสมอปลาย พิสูจน์ให้เธอเห็นว่า เขารักเธอจากใจจริง และอีกหนึ่งปีต่อมานิสารัตน์จึงรับรักและตกลงเป็นคู่รักคู่ดังแห่งปี มิแปลกที่นิสารัตน์จะรักกรกวินทร์หมดใจ รักมากพอผิดหวังความเสียใจก็มากตามไปด้วย

“อย่าทิ้งฟ้านะคะพี่ทัช อยู่กับฟ้านะ”

นิสารัตน์พูดต่อดวงตาพร่าเลือนยังคงคิดว่า คนที่อยู่ตรงหน้าคือกรกวินทร์แล้วครั้งนี้เธอไม่พูดเปล่า จับมือใหญ่มาวางไว้แนบอก โดยไม่รู้ตัวว่า ร่างกายท่อนบนของไร้ซึ่งอาภรณ์ เจ้าของมือใหญ่ถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง ใจเต้นตึกตักๆ ถี่แรง ภายในร่างเกิดความร้อนชนิดที่ว่า อวัยวะแทบจะละลาย จะชักมือกลับก็กลัวเธอเสียใจ ครั้นจะวางมือของตนต่อไปเขาก็กลัวว่าจะทนไม่ได้

“ฟ้า ปล่อยพี่ก่อน พี่จะได้เช็ดตัวให้” เขาหาทางแก้และชักมือตนเองกลับช้าๆ

“ไม่ ถ้าฟ้าปล่อย พี่ทัชก็จะไปจากฟ้าอีก ฟ้าไม่ยอมปล่อยพี่ทัชเด็ดขาด”

เธอพูดตามความรู้สึกของตนเอง แล้วทำในสิ่งที่ดัตถพงศ์ไม่คาดคิดและไม่ทันได้ตั้งตัว มือเล็กเลื่อนมาคว้าต้นแขนของดัตถพงศ์กระตุกจนร่างใหญ่แนบสนิทกับร่างงดงามแขนเรียวเสลาโอบกอดเขาไว้แน่น ประหนึ่งว่าจะไม่ให้เขาห่างเธอไปไหน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เจ้าสาวมัจจุราช   Chapter 8

    Chapter 8แต่พอเขาเดินเข้ามาในห้องน้ำ ดัตถพงศ์ได้กลิ่นอาเจียนที่ติดเสื้อของตน เขาจึงถอดเสื้อออกรวมทั้งเสื้อกล้าม ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กที่อยู่ตรงชั้นมาชุบน้ำพอหมาด จากนั้นก็เดินกลับออกไป“เฮ้ย! ฟ้า ทำอะไร” เขาอุทานเสียงดังลั่นเมื่อเห็นนิสารัตน์ที่เวลานี้ลุกขึ้นนั่ง และเธอก็กำลังจะถอดเสื้อของตัวเองออก ดัตถพงศ์รีบถลาไปยังร่างสาวทันที“อย่าถอดฟ้า อย่าถอด” เขาร้องห้าม จับมือทั้งสองข้างของเธอไว้แน่น“ปล่อยฟ้านะ ปล่อย ฟ้าจะถอดเสื้อ ฟ้าเหม็น ใครมาอ้วกใส่เสื้อฟ้าเนี่ย” คนที่ร้องโวยวายยังไม่รู้ตัวว่า คนที่อาเจียนนั้นก็คือตัวเธอ“เดี๋ยวฉันเช็ดให้ อยู่เฉยๆ”เขาดุใส่ เธอมีอาการสงบลงเมื่อได้เยินเสียงเข้มๆ ของใครคนหนึ่งที่น้ำเสียงคุ้นๆ หู แต่เนื่องจากความเมาทำให้เธอไม่มีสติพอที่จะนึกว่าเป็นเสียงของใคร อีกทั้งไม่ได้นึกเอะใจเลยสักนิดว่า ตัวเองอยู่ในที่ใด แล้วเหตุใดจึงมีเสียงผู้ชายอยู่ดังใกล้ตัวดัตถพงศ์ใช้โอกาสนี้เช็ดหน้าเช็ดตาให้นิสารัตน์ ลดมือต่ำลงมาเช็ดคราบอาเจียนตามเสื้อผ้าของเธออย่างไม่รังเกียจ เขาจะรังเกียจคนที่ตนเองรักได้อย่างไร ไม่ว่าเธอจะอยู่ในสภาพแบบไหนเขาก็ไม่มีวันรังเกียจดัตถพงศ

  • เจ้าสาวมัจจุราช   Chapter 7

    Chapter 7เจ้าของรถสปอร์ตเหยียบเบรกรถเมื่อเดินทางมาถึงหน้าบ้านของนิสารัตน์ ไฟในบ้านของเธอมืดสนิท ไม่มีแม้แต่แสงไฟตรงริมรั้วบ้าน มือใหญ่เปิดประตูรถก่อนจะก้าวลงไป ก่อนจะเดินไปกดกริ่งหวังจะเรียกคนในบ้านให้มาเปิดประตู ทว่าเขากดไปหลายครั้งแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าใครจะออกมาสักคน เขาคงไม่รู้ว่าปิ่นกับปักสองพี่น้องคนรับใช้ประจำบ้านของนิสารัตน์ ลากลับบ้านกว่าจะกลับมาก็วันมะรืนนี้ ดัตถพงศ์จึงเดินกลับมาที่รถ เดินไปยังประตูฝั่งด้านข้างคนขับ“ฟ้า ฟ้า ตื่นสิ ฟ้า” เขาส่งเสียงเรียกดาราสาวที่ยังหลับสนิท กลิ่นแอลกอฮอล์หึ่งรถ“หลับเป็นตายเลย” เขาบ่นอุบเมื่อเห็นร่างเล็กไม่มีทีท่าว่าจะตื่น “กุญแจบ้านอยู่ไหนฟ้า ตื่นสิตื่น”ดัตถพงศ์ใช้ฝ่ามือตบใบหน้าของเธอเบาๆ เพื่อเรียกสติ แต่ดูเหมือนหว่านิสารัตน์จะไม่มีสติเอาเสียเลย เรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ เขาจึงถือวิสาสะคว้ากระเป๋าสะพายที่คล้องอยู่บนบ่าของเธอมารื้อค้นหากุญแจบ้าน ทว่าเขารื้อค้นจนทั่วก็ไม่เห็นกุญแจสักดอก“หรือว่าจะทำตกที่ผับ” ชายหนุ่มคิดในใจ และคาดว่าเป็นตามที่ตนคิด “เอาไงดีวะเนี่ย เข้าบ้านก็ไม่ได้ จะปล่อยให้นอนตากยุงอยู่หน้าบ้านก็ไม่ได้ จะทำยังไงดีวะ”ด

  • เจ้าสาวมัจจุราช   Chapter 6

    Chapter 6 “ฉันเองก็ไม่รู้อะไรมากหรอก รู้แค่ว่าผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายจัดการ”แท้จริงแล้วดัตถพงศ์รู้ดีทุกอย่าง เนื่องจากกรกวินทร์มานั่งปรับทุกข์ในเรื่องนี้กับตน แต่เขาก็เลือกตอบประหนึ่งว่าไม่รู้เรื่องรู้ราว“สมัยนี้ยังมีคลุมถุงชนอีกเหรอเนี่ย ไม่น่าเชื่อ” พิเชษฐ์เปรย“มันก็เหมือนกับเรือล่มในหนองทองจะไปไหนรึเปล่า การแต่งงานเพื่อธุรกิจมีเยอะแยะไป”ศราวุฒิไม่คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแปลก เพราะหลายคนที่เขารู้จักก็แต่งงานเพื่อธุรกิจอยู่หลายคู่ ต่อยอดความร่ำรวย เงินทองไม่รั่วไหล“เฮ้ยๆ ฟ้าลุกขึ้นแล้ววะ สงสัยจะกลับแล้ว แต่ว่าจะกลับยังไงเนี่ยเมาเป๋ซะขนาดนี้”พิเชษฐ์พูดขึ้นเมื่อเห็นว่า นิสารัตน์กำลังลุกขึ้นยืน แล้วกำลังเดินห่างโต๊ะ แต่ทว่าด้วยสภาพเมาจนประคองตัวเองไม่อยู่ ทำให้ร่างระหงเซไปเซมา จนต้องใช้มือจับโต๊ะเอาไว้กันล้ม จากสภาพที่เห็นเธอไม่น่าจะกลับเองได้“ฉันขอตัวก่อนก็แล้วกันนะ”ดัตถพงศ์เห็นสภาพของนิสารัตน์แล้วเกิดเป็นห่วงขึ้นมา หากปล่อยเธอ กลับบ้านเองมีหวังไม่ถึงที่แน่ อาจจะเกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง หรือไม่ก็โดนฉุดไปทำมิดีไม่ร้ายกับคนที่ไม่หวังดี“อะไรวะ มาไม่ถึงชั่วโมงก็จะกลับแล

  • เจ้าสาวมัจจุราช   Chapter 5

    Chapter 5ณ ผับเทอมินอล ผับเทอมินอลเป็นผับหรูระดับเฟิร์สคลาส ลูกค้าที่มาใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นสมาชิกที่ต้องเสียรายปีๆ สามหมื่นห้าพันบาทสำหรับสามชิกระดับโกล์ดคลาส ส่วนสมาชิกทั่วไปเสียรายปีๆ ละหนึ่งหมื่นบาทผับแห่งนี้แบ่งเป็นหลายส่วน จำแนกตามระดับของสมาชิก หากเป็นสมาชิกทั่วไปจะใช้บริการได้เพียงส่วนของผับ จะให้ความบันเทิงเสมือนผับทั่วๆ ไป สมาชิกระดับโกล์ดคลาสจะใช้บริการได้ทุกส่วน ส่วนที่สองจะเป็นห้องรับรองส่วนตัวขนาดห้องก็แตกต่างกันไป ห้องละห้าคนบ้าง สิบคนบ้าง ยี่สิบคนบ้างตามแต่สมาชิกคนนั้นๆ ส่วนที่สามคือวีไอพีที่มีความพรั่งพร้อมครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้องประชุมเล็กๆ ห้องปาร์ตี้ขนาดบรรจุคนได้ราวสามสิบคนและห้องนอนไว้พักผ่อน ในส่วนของผับค่ำคืนนี้คนค่อนข้างหนาตา อาจเป็นเพราะเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เจ้าของธุรกิจรวมทั้งสมาชิกทั่วไปต่างมาผ่อนคลายความตึงเครียดจากงานที่โหมหนักมาทั้งสัปดาห์ หรือจากชีวิตส่วนตัวที่รุมเร้า ต้องการพักให้หายเครียดหนึ่งในจำนวนคนเป็นร้อยที่มาใช้บริการคือดารานักแสดงชื่อดังของเมืองไทย เธอเลือกที่จะนั่งโต๊ะริมในสุดของผับ ใช้แอลกอฮอล์ดับความเสียใจ

  • เจ้าสาวมัจจุราช   Chapter 4

    Chapter 4งานเลี้ยงช่วงค่ำ ห้องแกรนบอลลูนของโรงแรมฟลุทาวน์ดูเล็กไปถนัดตา เมื่อจำนวนคนที่อยู่ในห้องเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แขกที่มาร่วมงานเลี้ยงฉลองมลคลสมรสในขณะนี้นับคร่าวๆ ทางสายตาก็ร่วมแปดร้อยคน และท่าว่าแขกจะไม่หยุดที่จำนวนนี้ นอกจากจะเป็นญาติสนิทจากทั้งสองฝ่าย แขกที่มาร่วมงานยังมีหลากหลายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง บุคคลที่มีชื่อเสียงทางสังคม นักธุรกิจหลายแขนง รวมทั้งเพื่อนฝูงของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวและที่ขาดไม่ได้เลยคือนักข่าวที่แชะบรรยากาศของงานแทบไม่ทัน ดัตถพงศ์นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงด้านเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านคือหนึ่งเพื่อนสนิทของกรกวินทร์ที่มาร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ ซึ่งเขาก็รู้ดีว่า เจ้าบ่าวไม่เต็มใจที่จะร่วมงานวิวาห์ แต่ที่ยอมเพราะขัดบิดาและคำขอร้องของมารดาไม่ได้ เขาเดินมาหาคู่บ่าวสาวที่ยืนอยู่ตรงซุ้มดอกไม้ที่จัดตกแต่งอย่างสวยงามในมือถือกล่องของขวัญที่ตั้งใจนำมาให้ทั้งคู่ “ดีใจด้วยนะทัช”ดัตถพงศ์แม้จะรู้ว่า เจ้าบ่าวไม่เต็มใจแต่งงาน ทว่าตามมารยาทเขาจำเป็นต้องพูดประโยคนี้“ขอบใจเพื่อน” กรกวินทร์รับน้ำใจจากเพื่อนสนิท “แต่ฉันไม่เห็นจะด

  • เจ้าสาวมัจจุราช   Chapter 3

    Chapter 3“พี่แพรวคะ แม่รักพี่แพรวนะคะ ไม่อย่างนั้นคงไม่ให้พี่แต่งงานกับพี่ทัชหรอกค่ะ แม่อยากให้พี่แพรวสบาย พี่แพรวเข้าใจแม่นะคะ”เดือนดาราที่ไม่รู้เหตุผลแท้จริงในงานวิวาห์ของพี่สาว จึงพูดปลุกปลอบให้แพรงพรรณรายไม่ต้องคิดมาก และคิดว่ามารดาไม่รัก แต่แท้จริงแล้ว แพรวพรรณรายรู้เหตุผลทุกอย่าง รู้ทุกเรื่องที่เดือนดาราไม่รู้ แม้กระทั่งเรื่องความลับของกรกวินทร์“ออกไปกันเถอะ พี่ไม่อยากถูกแม่ดุเรื่องที่ออกไปช้า”แพรวพรรณรายพูดตัดบท เธอไม่อาจเปิดเผยหรือแพร่งพรายความลับที่เธอรู้ให้ใครได้รับฟังได้ แท้แต่เดือนดารา สองพี่น้องจึงเดินออกจากห้องแต่งตัว เดินเข้าไปในงานสมรสที่จัดอย่างยิ่งใหญ่อลังการทุกคนที่อยู่ภายในห้องจัดเลี้ยงต่างมองมายังร่างของเจ้าสาวที่เดินเคียงคู่มากับหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่มีความงามไม่แพ้กัน ทุกสายตาต่างชื่นชมกับความสวยของแพรวพรรณราย แต่จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มองข้ามความสวยของเธอไป แม้ว่าเขาอดจะตะลึงกับความงดงามของเธอไม่ได้ แต่มันแค่เพียงชั่ววินาทีความงามขอแพรวพรรณรายโดดเด่นมาก ดวงหน้าหวานถูกแต่งแต้มพองาม ไม่มากเกินและไม่น้อยเกินไป อาจเป็นเพราะเธอเป็นคนสวยอยู่แล้วจึงไม่ต้องพึ่ง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status