ร้านอาหารที่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย..
"พี่ยังจำได้อยู่อีกเหรอคะว่าน้องชอบอะไร" เชอรี่ยิ้มหน้าบานเลยตอนเห็นเจ้าเวหาสั่งอาหารมาให้
"ทานข้าวด้วยกันทีไรเราก็ชอบสั่งของพวกนี้ไม่ใช่เหรอ"
"รักพี่เวย์จังเลยค่ะ"
ผ่านไปไม่นานอาหารก็ถูกยกมาบริการ
"เชอรี่อยากจะถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ"
"ถามอะไร"
"พี่รู้จักกับผู้หญิงคนนั้นนานหรือยังคะ" เชอรี่เริ่มเข้าเรื่องที่อยากจะคุยวันนี้
"ผู้หญิงคนไหน"
"คนที่อยู่คลับของพี่คืนนั้นไงคะ" ชายหนุ่มที่กำลังจะตักข้าวใส่ปากหยุดเล็กน้อย "ถามทำไม"
"พี่ไม่สงสัยอะไรเลยเหรอคะ"
ถ้าพูดเรื่องสงสัยเขาสงสัยเต็มไปหมดเลย เพราะเธอทำอะไรก็น่าสงสัยไปหมด "เราอยากพูดอะไรก็พูดมาสิ"
"เชอรี่จะไม่อ้อมค้อมแล้วนะคะ ผู้หญิงคนนั้น.."
เย็นวันนั้นหลังเลิกเรียน..
"ไทเป"
ไทเปที่กำลังเก็บของจะกลับบ้านหันไปมอง
"เมื่อวานขอบใจมากนะที่ไปส่งเพื่อนเรา วันนี้ฝากเพื่อนกลับด้วยอีกได้ไหม"
"ได้สิ" ตอบแค่นี้ไทเปก็หันไปเก็บของต่อ
"ออมสินไม่ต้องหรอกเดี๋ยวพวกเรากลับกันเอง" ไอเดียว่าจะห้ามตั้งแต่ตอนเรียกไทเปแล้วแต่ห้ามไม่ทัน
"ไหนๆ ก็กลับทางเดียวกันแค่แวะส่งนิดเดียวเอง"
"เกรงใจเขา เธออย่าทำแบบนี้อีกนะ"
"ก็ฉันไม่อยากให้พวกเธอไปยืนเบียดบนรถเมล์นี่ กว่ารถจะถึงบ้านจอดอีกตั้งหลายป้าย"
"ตามมาที่รถนะ" ไทเปหยิบเอาของแล้วก็เดินออกไป
"วันนี้เขาเป็นอะไรไม่ค่อยพูดค่อยจาเลย" ออมสินมองตามหลัง
"เขาคงไม่พอใจล่ะสิ เธออย่าทำแบบนี้อีกนะ" ไอเดียเลยชวนการ์ตูนเดินตามไป ถึงยังไงออมสินก็ขอให้แล้ว
บ้านของออมสิน..
"กล่องอะไรคะแม่" กลับมาถึงบ้านก็เห็นกล่องขนาดกลางวางอยู่โต๊ะรับแขก
"ชุดของหนูไง"
"ชุดอะไรคะ"
เกตุแก้วผู้เป็นแม่เลยเดินไปเปิดกล่องนั้นออก เพราะทางร้านบรรจุมาให้อย่างสวยงาม
"อย่าบอกนะว่าแม่จะให้ออมสินใส่ชุดนี้ไปทานข้าวกับพ่อพรุ่งนี้"
"ใช่แล้วจ้ะ ทางร้านเพิ่งนำมาส่ง"
"ชุดที่ซื้อมายังไม่ได้ใส่ก็มีอีกตั้งหลายชุดทำไมแม่ต้องสั่งใหม่ด้วยล่ะคะ"
"หนูเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อ"
"แม่ลืมลูกสาวอีกคนของพ่อแล้วหรือคะ"
"เขายังไม่นับญาติกับเราเลยแล้วเราจะไปนับญาติกับเขาทำไมล่ะ"
"ก็ได้ค่ะงั้นออมสินเอาชุดนี้ขึ้นบ้านเลยนะคะ"
ขึ้นมาถึงออมสินก็มองดูชุดนั้น พ่อจะไปทานข้าวกับใครกันแน่
เช้าวันต่อมา..
"ตื่นหรือยังคะลูก"
"ยังไม่ตื่นค่ะ" หญิงสาวงัวเงียตอบแม่ที่กำลังเปิดผ้าม่านห้องเธออยู่
"แม่จะชวนลูกไปร้านเสริมสวย"
"ไปทำไมคะแม่"
"ดูผมกับเล็บหนูสิไม่ดูแลเลย"
"แม่คะ.."
"ลุกได้แล้ว"
ออกจากร้านเสริมสวยแม่ก็ยังพาเธอไปช้อปปิ้งอีกอยู่ดี บางทีก็อึดอัดอยากจะใช้เวลาวันหยุดกับเพื่อนๆ บ้าง เธอก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่อยากไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน แต่เวลาจะไปเที่ยวทีไรก็ต้องแอบ ถ้าชีวิตมีอิสระกว่านี้ก็คงจะดี กว่าจะเรียนจบมหาวิทยาลัยอีกตั้ง 4 ปี แถมยังต้องเรียนต่อด้านบริหารเพิ่มอีกไม่รู้กี่ปี ถึงตอนนั้นอายุของเธอคงหมดวัยไปแล้ว
ค่ำๆ ของคืนนั้นที่โรงแรม..
"ออมสินขอไปเข้าห้องน้ำครู่หนึ่งก่อนนะคะพ่อ"
"แล้วรีบมาล่ะ"
"ค่ะ"
ออมสินออกจากห้องน้ำก็เดินตรงมาที่โต๊ะเดิม แต่พอเข้ามาใกล้เธอก็มองไปเห็นชายย่างเข้าวัยชรานั่งอยู่โต๊ะเดียวกับพ่อ
"นั่น?" เธอจำท่านได้ในทันทีเลยเพราะรูปภาพของท่านก็มีติดอยู่ที่บอร์ดของทางมหาวิทยาลัย ..พ่อนะพ่อก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องฝากท่าน
ออมสินรู้สึกว่าพ่อกับแม่เข้ามาวุ่นวายกับชีวิตของเธอมากเกินไปแล้ว ลองไม่ตามใจพวกท่านดู เหมือนพี่สาวพ่อยังปล่อยเลย
"ทำไมลูกคนนี้ไปเข้าห้องน้ำนานจัง"
"ตามประสาผู้หญิง"
"ต้องขอโทษท่านด้วยนะครับ ลูกสาวคนนี้น่าตีจริงๆ เลย"
[Nreṣ̄wr Club]
ทีแรกว่าจะนั่งแท็กซี่กลับแล้วแต่ผ่านทางนี้พอดี เธอเลยนึกได้ว่าต้องเข้าไปเอาของที่ลืมไว้ในห้องเขา ภาวนาอย่าให้เขาเห็นเสื้อที่วางไว้ตรงนั้นเลย ถ้าเห็นก็อย่าให้เขาสนใจ เพราะในนั้นมีอาวุธป้องกันตัวของเธออยู่
ลงจากแท็กซี่ออมสินก็เดินอ้อมไปด้านหลัง
"เดี๋ยวก่อน นั่นทางเข้าพนักงาน"
ออมสินตกใจมากที่มีคนเห็น เธอเลยค่อยๆ หันกลับไปมอง
"พี่จำออมสินได้ไหมคะ"
"คุณออมสิน?" คนที่เห็นออมสินก็คือภาณุผู้ดูแลที่นี่แทนนเรศวรพี่เขยของเธอ
"ออมสินขอเข้าทางนี้ได้ไหมคะ"
"ทำไมคุณต้องแอบเข้าอีกแล้วล่ะครับ" แต่ก่อนก็ภาณุนี่แหละได้รับหน้าที่จัดการเรื่องเข้าให้กับออมสิน แต่ตอนนี้เห็นว่าอายุเธอเข้าได้แล้ว
"คุณอย่าบอกใครนะคะ"
"ครับ"
ออมสินเดินเข้ามาก็ย่องไปเปิดประตูห้องนั้นทันที
โชคดีนะที่เจ้าของห้องไม่มา ..เปิดเข้ามาเธอก็มองไปรอบๆ ยิ่งตรงที่เขายืนอยู่คืนนั้นเธอมองก่อนเลย "แล้วเสื้อเราล่ะ" มองดูโต๊ะตรงที่วางเสื้อก็ไม่เห็น
"เจ้านายไม่ได้ไปทานข้าวกับท่านเหรอครับ"
"กำลังจะไปนี่ไงเดี๋ยวกูเข้าไปเอาของในห้องก่อน"
"ถ้างั้นผมไปเอารถมารอนะครับ"
"อืม"
ออมสินได้ยินเสียงจะออกมาก็คงไม่ทันแล้ว เธอเลยปิดประตูที่เปิดแง้มไว้ก่อนจะเข้าไปหาที่หลบ
แอดดด..
พอประตูเปิดเข้ามาเขาก็สัมผัสได้ว่าในห้องนี้มีคนอยู่ เพราะมีกลิ่นน้ำหอม
ชายหนุ่มเลยแกล้งเดินไปหยิบของที่โต๊ะทำงาน
ห้องนี้เขาไม่ค่อยชอบเปิดไฟสว่างมาก เขาจะเปิดทิ้งไว้แค่ไฟสลัวเธอเลยแอบอยู่มุมห้องได้
หญิงสาวมองไปภาวนาให้เขารีบหยิบของแล้วรีบออกไปจากห้องทีเถอะ
แกร็กๆ ที่จริงเขาไม่ได้ตั้งใจมาหยิบไอ้นี่หรอก แต่พอรู้ว่าในห้องนี้มีคนอื่นเขาเลยเปิดลิ้นชักแล้วหยิบเอาปืนออกมา ก่อนจะเตรียมไกปืน
"ออกมา!"
หญิงสาวที่หลบมุมอยู่เริ่มกลัวจนตัวสั่น เธอกลัวตั้งแต่เห็นสิ่งที่เขาหยิบออกมาแล้ว
"นับ 1-3 ถ้ายังไม่ออกมารู้นะว่าอะไรจะเกิดขึ้น"
เขายังไม่แน่ใจว่าคนที่แอบอยู่ในห้องอยู่มุมไหน แต่ก็พอเดาได้
" 1..2.."
"กรี๊ด" 1 และ 2 เขานับเร็วมาก และคาดว่า 3 คงจะมาติดๆ เธอเลยรีบออกมาจากมุมนั้น
"เธอ?" ได้กลิ่นน้ำหอมก็จริงแต่เขา ไม่คิดว่าจะเป็นกลิ่นน้ำหอมของเธอ เพราะทุกครั้งที่ได้ใกล้ชิดเธอไม่ได้ฉีดน้ำหอมกลิ่นนี้
ที่เธอฉีดน้ำหอมกลิ่นใหม่เพราะแม่เลือกให้
"คือฉันเข้ามาเอาของค่ะ"
"ของอะไร"
"วันนั้นฉันลืมเสื้อแจ็คเก็ตไว้ในนี้"
"ห้อยอยู่ตรงนั้น" เขาชี้บอกก่อนจะออกจากห้องไป
เขาเป็นอะไร? เหมือนไม่ใช่เขาเลย เธอยังคิดอยู่เลยว่าเขาคงจะพูดแทะโลมและหาเรื่องแต๊ะอั๋งเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้แปลก
ออมสินเดินไปหยิบเสื้อตัวเอง เธอไม่ลืมดูกระเป๋าว่าของป้องกันตัวเธอยังอยู่ในนั้นไหม และมันก็ยังคงอยู่ในนั้นเหมือนเดิม
ครืนน ครืนนน จังหวะที่กำลังจะออกมาจากห้องก็มีโทรศัพท์เข้ามา
>>{"ลูกอยู่ไหน"}
{"ออมสินออกมาเอาของกับเพื่อนค่ะ"}
>>{"กลับมา"}
{แต่พ่อคะ ตอนนี้ออมสิน"}
>>{"พ่อบอกให้กลับมา"} คนเป็นพ่อตัดสายไปแต่ก่อนจะตัดสายน้ำเสียงของท่านดูโกรธมาก
พ่อนะพ่อไม่ยอมฟังอะไรเลย นี่เราคงต้องกลับไปโรงแรมหาพ่ออีกแล้วใช่ไหมเนี่ย
"แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหน""อยู่บ้านของผมครับ""แสดงว่า?" นรสิงห์หันมองไปดูเพื่อน เพราะทั้งสองอยู่บ้านหลังเดียวกัน"ใช่อยู่บ้านเดียวกันกับกูนี่แหละ"อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้ น้องสาวของเขาอยู่ใกล้จมูกเขานี่เองเหรอ "ฉันอยากจะขอพบเธอหน่อยได้ไหม""ได้สิ.. แต่ว่าเธอจะเครียดมากไม่ได้นะ""ทำไม"เจ้าวายุเลยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอ เพราะเรื่องนี้เขายังไม่ทันได้เล่า"ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้นในพื้นที่ของมึงได้" พอรับรู้ว่าน้องสาวได้รับอันตรายจากการมาเที่ยวที่นี่นรสิงห์เลยหันไปต่อว่าให้เจ้าของสถานที่"เรื่องนั้นมันเหตุสุดวิสัยจริงๆ แต่กูก็จัดการเรียบร้อยแล้ว""เอาเป็นว่าพรุ่งนี้เรานัดกันอีกที" เจ้าวายุรีบพูดตัดบท เพราะยังไม่รู้จักนิสัยของนรสิงห์ดี"ไม่เป็นไรหรอกพรุ่งนี้วันหยุดไม่ได้ไปเรียนไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวฉันจะไปหาเธอที่นั่น" นรสิงห์หมายถึงจะไปหาไอเดียที่บ้านของเจ้าวายุหลังจากที่พูดคุยกันรู้เรื่องแล้ว เจ้าวายุเลยกลับมาหาไอเดียที่บ้าน พอกลับมาเห็นว่าเธอนอนหลับเขาเลยไม่ได้ปลุก คิดว่าพรุ่งนี้ค่อยเล่าให้ฟังแล้วกันวันต่อมาที่คฤหาสน์ศักดินา.."เราเป็นเพื่อนของตาเวย์เหรอ" เห็นรถหรูวิ่งเข้ามาจอดเลย
"มึงถามทำไม""มึงช่วยนัดเพื่อนคนนี้ของมึงให้กูหน่อยได้ไหม""ได้สิ ว่าแต่มึงบอกกูมาก่อนว่ามันเรื่องอะไร""เรื่องของไอเดีย""ทำไม? มันเกี่ยวอะไรกับไอเดียด้วย""กูไม่รู้จะเริ่มเล่ายังไง""มึงก็เริ่มจากเรื่องที่มึงถามกูนี่ไงมึงถามเพื่ออะไร""กูกำลังสืบหาครอบครัวของไอเดียอยู่""ไอเดียก็มีแม่อยู่ไม่ใช่เหรอ?" เรื่องนี้เจ้าเวหารู้มาจากออมสินอีกที ออมสินพูดให้ฟังอยู่บ่อยๆ ว่าครอบครัวของไอเดียเป็นยังไง"ไม่ใช่แม่แท้ๆ ของเธอหรอก""อะไรนะ? กูงงไปหมดแล้ว เธออยู่กับแม่แต่มีพ่อเลี้ยงไม่ใช่เหรอ""ทั้งสองคนไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆ ของไอเดีย""มึงรู้ได้ยังไง""กูตรวจดีเอ็นเอมาแล้ว""แล้วมึงก็คิดว่าไอเดียเป็นญาติของไอ้สิงห์เหรอ?""เพราะเรื่องนี้แหละกูถึงอยากจะคุยกับเพื่อนมึงหน่อย""ได้สิ มึงจะให้กูนัดวันไหน""เอาที่ทางนั้นสะดวก" เจ้าวายุรู้ว่าทางนั้นมีกิจการมากมายอาจจะไม่ค่อยมีเวลาว่าง"อืม ถ้างั้นกูไปดูคลับก่อนนะ""คุณยังไม่ออกไปหรือคะ" ออมสินว่าจะลงมาเล่นกับไอเดียข้างล่าง พอลงมาก็เห็นว่าสามียังไม่ออกจากบ้าน เพราะเขาบอกไว้ว่าจะเข้าไปดูคลับหน่อย"กำลังจะไปแล้วคุณลงมาทำไม""ผัวไม่อยู่บ้านลงมาทำไมก็เรื่องของฉันสิ
"คุณรีบพูดมาเถอะค่ะ" ตั้งแต่เขาบอกว่ากำลังให้คนสืบเรื่องครอบครัวเธอ ไอเดียก็รอแบบใจจดใจจ่อ ถึงแม้เธอจะไม่ได้ถามความคืบหน้า แต่เธอก็รออยู่ว่าเมื่อไรเขาจะแจ้งเรื่องนี้"แม่ของคุณเกี่ยวข้องกับครอบครัวผู้มีอิทธิพลครอบครัวหนึ่ง""ครอบครัวผู้มีอิทธิพล? ยังไงคะ""ผมไม่แน่ใจว่าทำไมแม่คุณถึงระหกระเหินออกมาจากบ้าน" เป็นเรื่องที่สืบไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องในครอบครัว แค่เขารู้ที่มาที่ไปของแม่เธอ ส่วนพ่อของเธอยังไม่รู้ที่มาที่ไปแน่ชัด"คุณจะบอกว่า แม่แท้ๆ ของฉันถูกไล่ออกจากบ้านเหรอ?" ถ้ามันเป็นแบบนั้นเธอก็ไม่อยากจะรู้เรื่องแล้ว พวกเขาถึงขนาดไล่แม่เธอออกจากบ้าน คงไม่ต้องการเด็กที่เกิดจากแม่ของเธอหรอก"เรื่องนี้ผมยังไม่แน่ชัดเพราะมันเป็นเรื่องในครอบครัว คงสืบลำบาก""พวกเขาเป็นครอบครัวไหนคะ""ดำรงฤทธิ์""ดำรงฤทธิ์ ทำไมนามสกุลนี้มันคุ้นๆ""บริษัทในเครือของดำรงฤทธิ์มีทั่วประเทศ""คุณอย่าบอกนะคะ ว่าแม่ฉันเป็นญาติกับคนพวกนั้น?""เรื่องนี้ผมก็ให้คำตอบคุณยังไม่ได้ เพียงแค่ชื่อของแม่คุณ เคยปรากฏอยู่ในใบทะเบียนบ้าน""เคยปรากฏ?" หมายความว่าแม่ของเธอถูกคัดชื่อออกงั้นเหรอ? แม่เธอทำผิดอะไรนักหนาทำไมพวกเขาถึงทำก
"ฉันว่าจะมาถามเรื่องพ่อค่ะ""ท่านมาแล้วเหรอ""คุณให้พ่อมาทำงานที่นี่เหรอคะ""ใช่ ท่านจะได้อยู่ใกล้ลูกสาวไง""ขอบคุณมากนะคะ""ขอบคุณทำไมล่ะนั่นก็พ่อตาผมนะ""ฉันรักคุณนะคะ""หือ.. เดี๋ยวนะ" เขายังไม่ได้ตั้งตัวเลย"คุณไม่อยากให้ฉันบอกรักเหรอ""ไม่ใช่แบบนั้นคุณจะไม่ให้ผมได้ตั้งตัวหน่อยหรือ""นึกว่าอะไรเสียอีก" เขากำลังจะลุกขึ้นแต่ไอเดียเดินเข้าไปแล้วดันร่างของเขาให้นั่งลงก่อนที่เธอจะวางสะโพกลงกับตัก มือเรียวโอบรัดต้นคอแกร่งไว้ก่อนที่จะแนบริมฝีปากลง "อืม" ทีแรกคิดว่าจะจุ๊บแก้มแต่อีกฝ่ายดันหันหน้ามารับริมฝีปากของเธอก่อน"น่ารักจัง" ชายหนุ่มขยับริมฝีปากออกมาเลยชมก่อนที่จะเปลี่ยนจากจุ๊บเป็นจูบ..ไอเดียปล่อยให้เขาจูบจนพอใจ ใครจะเข้ามาเห็นก็ช่างปะไรนี่ห้องสามีของเธอ"พอแล้วเหรอคะ" เห็นอีกฝ่ายถอนจูบออก"เดี๋ยวคุณก็เข้าห้องเรียนสายหรอก""ถ้างั้นไอเดียกลับห้องก่อนนะคะ""เดี๋ยวก่อนสิผมจะไปส่ง" ชายหนุ่มหยิบเอาโทรศัพท์แล้วเดินตามเธอออกมา จนมาถึงอาคารเรียนไอเดียก็เห็นว่าตอนนี้อาคารเรียนกำลังก่อสร้างอะไรไม่รู้"เขาทำอะไรกันคะ""อาทิตย์หน้าก็คงใช้งานได้แล้ว""แล้วมันคืออะไรล่ะคะ?" หญิงสาวหันไปมองดูสิ่งก
"เมื่อกี้นี้ลูกเขยว่าอะไรนะ""ก็ตามที่ผมพูดนั่นแหละครับ ผมจะให้เงินเท่าที่คุณแม่ต้องการ และผมจะหาที่อยู่ใหม่ให้คุณแม่ด้วย""แน่ใจนะว่าให้เท่าที่แม่ต้องการ""คุณแม่บอกมาได้เลยครับว่าต้องการเท่าไร"" 10 ล้านบาท""แม่!""ตกลงครับ""คุณ..""ถือว่าเงินนี้ผมให้ท่านสำหรับที่ท่านเลี้ยงดูคุณมา""เลี้ยงดูหมายความว่ายังไง" นางได้ยินคำพูดนี้เลยถาม"ฉันรู้ความจริงแล้วว่าคุณไม่ใช่แม่แท้ๆ ของฉัน""ไอเดีย.." นางดูตกใจที่ลูกสาวรู้ความจริงแต่ก็ปรับสีหน้าได้ไวมาก "ไม่ใช่แม่แท้ๆ แต่ฉันก็เลี้ยงดูเธอมา""เพราะแบบนี้ไงครับผมถึงจะตอบแทนบุญคุณที่คุณเลี้ยงดูคนรักของผมมา""ดี! อย่าลืมล่ะเงินสด 10 ล้านและที่อยู่ใหม่""อะไรนะ!" ชัยนาทเดินกลับมาได้ยินคำพูดนี้ของภรรยาพอดี "มันจะมากไปแล้วนะ""มากยังไง กว่าฉันจะเลี้ยงมันมาโตได้ขนาดนี้""เธอแน่ใจนะว่าเธอเป็นคนเลี้ยง""แกเป็นผัวฉัน ก็เท่ากับฉันเลี้ยงเหมือนกันแหละ""มันไม่มากหรอกครับผมให้ได้ และคุณแม่สัญญาว่าจะเซ็นใบหย่าให้คุณพ่อ ถ้าพ่ออยากจะหย่าก็หย่าได้เลยนะครับ""ไปหย่ากันวันนี้เลย" ประโยคนี้แม่เป็นคนพูด เพราะไม่เคยพิศวาสผู้ชายคนนี้เลย มีสิ่งเดียวที่ยังอยู่ก็คือเงิน
"คุณเล่าเรื่องพวกนั้นให้ฉันฟังได้ไหมคะ" เธอขยับกายเข้าไปใกล้ แล้วก็แนบใบหน้าลงกับแผ่นอกของเขาที่นั่งพิงหมอนอยู่บนเตียงนอน"เรื่องนี้คุณตาขอจัดการเอง" ท่านอยากให้เจ้าวายุมีเวลาดูแลเมียกับลูกให้มาก และอีกอย่างที่ท่านจัดการเรื่องนี้เองเพราะไม่อยากให้พวกนั้นลอยนวล ถึงแม้ว่าจะรู้จักกันตั้งแต่สร้างบ้านหลังนี้มา แต่ท่านก็ไม่คิดจะปล่อยไป"แล้วอีกสองคนล่ะคะ" เป็นอีกเรื่องที่ไอเดียสงสัย เพราะไม่เห็นทั้งสามคนมาเรียน"เจอข้อหาไม่ต่างกัน เพราะถือว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด""หรือคะ..""คุณไม่ต้องคิดมากนะ ใครทำอะไรก็ได้แบบนั้น""ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันกับออมสินไปทำอะไรให้พวกนั้นไม่ชอบนักหนา ตั้งแต่เข้าเรียนแล้ว""ต่อไปนี้ไม่มีใครมาทำอะไรคุณได้แล้วนะ""แล้วเรื่องเรียนล่ะคะ ฉันยังคงจะเรียนได้อีกไหม" เธอกลัวว่าถ้าท้องโตมากกว่านี้จะถูกสั่งห้าม เดี๋ยวก็เสียชื่อมหาวิทยาลัย"เรื่องนั้นมันแล้วแต่คุณ ถ้าคุณอยากจะเรียนก็เรียนไป""ฉันเรียนได้จริงเหรอคะ""เรียนได้สิ แต่เวลาเดินคุณต้องระวังๆ หน่อย""ฉันสัญญาว่าจะระวังค่ะ คุณตาไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ" คำถามนี้ออกจากปากของไอเดีย เจ้าวายุมองหน้าเธอจนอีกฝ่ายสงสัยว่าเขามองทำไม "