ดึกๆ คืนนั้นหน้าบ้านของออมสิน
"แกไปได้แล้วเดี๋ยวฉันหาวิธีเข้าบ้านเอง"
"เอาดีๆ นะอย่าให้ถูกจับได้ล่ะ"
"เออน่าแกไปเถอะ" ทั้งสองนั่งรถออกไปกับเมญ่าตอนกลับไม่ได้กลับพร้อมกัน ออมสินและไอเดียเลยต้องเรียกแท็กซี่มาส่ง หลังจากแท็กซี่ขับออกจากซอยบ้านไปแล้ว ออมสินเลยลองไปเปิดประตูบานเล็กดูว่ามีคนมาล็อกหรือยัง
งานหินอีกแล้วใช่ไหมเรา ..พอเปิดไม่ได้ก็รู้แล้วว่าไม่คนรถก็แม่บ้านมาเห็นว่าประตูไม่ได้ล็อก
ออมสินเลยเดินเลาะกำแพงดูว่าเธอพอจะปีนเข้าตรงไหนได้บ้าง ตั้งแต่แอบเที่ยวกลางคืนมาครั้งนี้ครั้งแรกที่ต้องปีนกำแพงเข้าบ้าน หวังว่าคงไม่มีใครเดินผ่านมาเห็นนะ ไม่งั้นคงคิดว่าเราเป็นขโมยแน่เลย
เดินมาอีกหน่อยก็เห็นช่องทางพอที่จะปีนได้ คนตัวเล็กเลยก้าวขาเหยียบขึ้นตรงที่เป็นรอยต่อ
"กรี๊ดอึบ! ซี๊ดดดโอ๊ยยเจ็บ" เมื่อกี้ไม่มีใครได้ยินเสียงเราใช่ไหม ..ตอนปีนขึ้นพอไหวเพราะเธอเป็นคนตัวเล็กน้ำหนักไม่เยอะ แต่ตอนจะกระโดดลงนี่สิถึงกับร่วงเลย
เช้าวันต่อมา.. และวันนี้ก็เป็นวันแรกที่ต้องเข้าเรียน รู้ว่าจะเจออะไรแบบนี้ไม่ชวนเพื่อนหนีเที่ยวดีกว่า
ก๊อกๆ "คุณหนูคะคุณท่านให้มาตามลงไปทานข้าวค่ะ วันนี้คุณผู้ชายจะไปส่งที่มหาวิทยาลัยค่ะ"
"รู้แล้ว" ชีวิตเธอข้ามผ่านมาอีกขั้นหนึ่งแล้ว หวังว่าจบจากที่มหาวิทยาลัยนี้พ่อคงไม่ส่งไปเรียนต่อต่างประเทศอีกนะ เหนื่อยกับการเรียนมากเลย
ที่พ่อของเธอเข้มงวดกับการเรียน เพราะคิดว่าลูกสาวคนโตคงไม่สืบทอดกิจการของครอบครัว ความหวังเดียวที่มีอยู่คงต้องฝากไว้กับลูกสาวคนเล็กแล้ว
"เมื่อคืนนี้แกนอนเต็มที่ไหมทำไมหน้าโทรมๆ" ลงมาถึงข้างล่างแม่ก็ทักก่อนเลย
"หน้าโทรมเหรอคะ" ตายแล้ววันนี้เข้าเรียนวันแรกด้วย "แม่ก็เห็นว่าออมสินนอนตั้งแต่หัววันแล้ว เอาอะไรมาโทรมล่ะคะ"
"คุยอะไรกันอยู่รีบมาทานข้าวสิ พ่อจะไปส่งเราที่มหาวิทยาลัยเอง"
"ถ้าคุณพ่อรีบก็ไปบริษัทก่อนได้เลยนะคะ"
"พ่อมีเรื่องจะไปคุยกับท่านเจ้าคุณด้วย" ท่านเจ้าคุณที่พ่อเธอพูดถึงก็คืออธิการบดีของมหาวิทยาลัย
"พ่อมีอะไรจะไปคุยกับท่านเหรอคะ"
"เรื่องของผู้ใหญ่"
"ไม่เอานะพ่อ ออมสินอยากเรียนที่นั่นโดยที่ไม่ต้องใช้เส้นสาย"
"ที่พ่อทำแบบนั้นเพราะเป็นห่วงเรื่องการเรียนของเรา"
"ออมสินสัญญาค่ะว่าจะตั้งใจเรียน ไม่ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวัง แต่พ่ออย่าไปคุยกับพวกผู้ใหญ่เลยนะคะ" ตอนเรียนมัธยมเธอก็ทำตัวลำบากมาครั้งหนึ่งแล้ว เพราะพ่อกับแม่นี่แหละ ..อิจฉาพี่สาวดีไหมเนี่ยที่มีอิสระทุกอย่าง ความกดดันเลยมาลงที่เธอคนเดียว
"ก็ได้พ่อจะคอยดูความประพฤติและผลการเรียนของเรา ถ้าทำไม่ดีก็อย่ามาห้ามพ่อ"
"ค่ะ"
[มหาวิทยาลัยเจ้าคุณศักดินา]
"ออมสินทางนี้" ไอเดียเห็นออมสินเดินมาก็กวักมือเรียก
"พวกเธอทำไมมาเช้าจังเลย"
"เช้าที่ไหนล่ะตอนนี้สายมากแล้ว แล้วนี่รถที่บ้านไม่ได้มาส่งเธอเหรอ"
"เปล่าหรอกฉันนั่งแท็กซี่มา" ที่นั่งแท็กซี่มาเพราะเธออยากใช้ชีวิตปกติเหมือนคนอื่นดูบ้าง
"ถ้าเธอไม่ชอบชีวิตคุณหนูเอามาให้ฉันก็ได้นะ"
"อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยเซ็ง"
"มาแล้วเหรอจ๊ะออมสิน เตรียมทุบกระปุกได้แล้วนะ"
"หมายความว่ายังไง" ออมสินมองหน้าไอเดียที่คุยกันอยู่เมื่อครู่ แล้วก็หันไปมองหน้าการ์ตูน ก่อนจะหันไปมองคนที่พูด..นั่นก็คือเมญ่า
"ก็ยัยเมญ่าน่ะสิท่าจะชนะเธอแล้วล่ะ"
"เมื่อคืนนี้เธอยังเจอเขาอีกเหรอ?"
"เธอก็รู้ว่าฉันชอบเอาชนะ ถ้ายังไม่ชนะฉันก็ไม่ยอมถอย"
"ฉันยังไม่เห็นเลยว่าเธอชนะยังไง"
"เธอเห็นนี่ไหม" เมญ่ายกโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดขึ้นมาให้กับคู่แข่งได้เห็น
"คืออะไร?"
"จะคืออะไรล่ะ ก็เสี่ยคนนั้นซื้อให้น่ะสิ" ไอเดียกระซิบบอกเพื่อนเพราะได้ยินการ์ตูนโทรมารายงานตั้งแต่เช้ามืดเลย
"เขาซื้อโทรศัพท์ให้เธอเหรอ??" ออมสินอดคิดไม่ได้ขนาดเธอไม่ได้รับอะไรก็เกือบจะเสร็จมันไปแล้ว แต่เพื่อนของเธอได้โทรศัพท์ราคาเกือบแสนเนี่ยนะ คิดดีไม่ได้เลย ทำไมต้องทุ่มเทอยากเอาชนะเราขนาดนั้นด้วย "แต่ถึงยังไงฉันก็ยังไม่เชื่อว่าโทรศัพท์เครื่องนี้เขาเป็นคนซื้อให้ เธออาจจะเป็นคนซื้อมาเองก็ได้"
"มัวคุยอะไรกันอยู่ พวกเราเพิ่งเข้าเรียนวันแรกไม่ใช่เหรอ วันนี้มีรับน้องรีบไปสิ"
ได้ยินเสียงอาจารย์ที่เดินผ่านมาพวกเธอก็รีบวิ่งไปทางหอประชุม เพราะมีนัดรับน้องที่นั่น
"ที่นี่เขารับน้องกันโหดไหมวะ"
"มหาลัยดังขนาดนี้คงไม่หรอกมั้ง"
"เมื่อครู่ใครมาช้ากว่าเพื่อน" เพิ่งพูดกันจบรุ่นพี่ก็ตะโกนออกมาเสียงดังเลย
"กลุ่มนั้นครับ/ค่ะ" เพื่อนที่มาก่อนต่างก็ชี้ไปทางกลุ่มของออมสิน
"เชิญด้านหน้าเลยครับ"
"ตายแล้วเราจะเจออะไรอีกเนี่ย"
เวลาเดียวกันนั้นที่ห้องผู้บริหารของมหาวิทยาลัย..
"ดูอะไรอยู่"
"คุณปู่.."
"เราสนใจการรับน้องตั้งแต่เมื่อไร" พอเดินเข้ามาใกล้เจ้าคุณก็เห็นว่าหลานชายกำลังเปิดกล้องวงจรปิดของหอประชุมผ่านหน้าจอ Notebook
"แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหน""อยู่บ้านของผมครับ""แสดงว่า?" นรสิงห์หันมองไปดูเพื่อน เพราะทั้งสองอยู่บ้านหลังเดียวกัน"ใช่อยู่บ้านเดียวกันกับกูนี่แหละ"อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้ น้องสาวของเขาอยู่ใกล้จมูกเขานี่เองเหรอ "ฉันอยากจะขอพบเธอหน่อยได้ไหม""ได้สิ.. แต่ว่าเธอจะเครียดมากไม่ได้นะ""ทำไม"เจ้าวายุเลยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอ เพราะเรื่องนี้เขายังไม่ทันได้เล่า"ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้นในพื้นที่ของมึงได้" พอรับรู้ว่าน้องสาวได้รับอันตรายจากการมาเที่ยวที่นี่นรสิงห์เลยหันไปต่อว่าให้เจ้าของสถานที่"เรื่องนั้นมันเหตุสุดวิสัยจริงๆ แต่กูก็จัดการเรียบร้อยแล้ว""เอาเป็นว่าพรุ่งนี้เรานัดกันอีกที" เจ้าวายุรีบพูดตัดบท เพราะยังไม่รู้จักนิสัยของนรสิงห์ดี"ไม่เป็นไรหรอกพรุ่งนี้วันหยุดไม่ได้ไปเรียนไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวฉันจะไปหาเธอที่นั่น" นรสิงห์หมายถึงจะไปหาไอเดียที่บ้านของเจ้าวายุหลังจากที่พูดคุยกันรู้เรื่องแล้ว เจ้าวายุเลยกลับมาหาไอเดียที่บ้าน พอกลับมาเห็นว่าเธอนอนหลับเขาเลยไม่ได้ปลุก คิดว่าพรุ่งนี้ค่อยเล่าให้ฟังแล้วกันวันต่อมาที่คฤหาสน์ศักดินา.."เราเป็นเพื่อนของตาเวย์เหรอ" เห็นรถหรูวิ่งเข้ามาจอดเลย
"มึงถามทำไม""มึงช่วยนัดเพื่อนคนนี้ของมึงให้กูหน่อยได้ไหม""ได้สิ ว่าแต่มึงบอกกูมาก่อนว่ามันเรื่องอะไร""เรื่องของไอเดีย""ทำไม? มันเกี่ยวอะไรกับไอเดียด้วย""กูไม่รู้จะเริ่มเล่ายังไง""มึงก็เริ่มจากเรื่องที่มึงถามกูนี่ไงมึงถามเพื่ออะไร""กูกำลังสืบหาครอบครัวของไอเดียอยู่""ไอเดียก็มีแม่อยู่ไม่ใช่เหรอ?" เรื่องนี้เจ้าเวหารู้มาจากออมสินอีกที ออมสินพูดให้ฟังอยู่บ่อยๆ ว่าครอบครัวของไอเดียเป็นยังไง"ไม่ใช่แม่แท้ๆ ของเธอหรอก""อะไรนะ? กูงงไปหมดแล้ว เธออยู่กับแม่แต่มีพ่อเลี้ยงไม่ใช่เหรอ""ทั้งสองคนไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆ ของไอเดีย""มึงรู้ได้ยังไง""กูตรวจดีเอ็นเอมาแล้ว""แล้วมึงก็คิดว่าไอเดียเป็นญาติของไอ้สิงห์เหรอ?""เพราะเรื่องนี้แหละกูถึงอยากจะคุยกับเพื่อนมึงหน่อย""ได้สิ มึงจะให้กูนัดวันไหน""เอาที่ทางนั้นสะดวก" เจ้าวายุรู้ว่าทางนั้นมีกิจการมากมายอาจจะไม่ค่อยมีเวลาว่าง"อืม ถ้างั้นกูไปดูคลับก่อนนะ""คุณยังไม่ออกไปหรือคะ" ออมสินว่าจะลงมาเล่นกับไอเดียข้างล่าง พอลงมาก็เห็นว่าสามียังไม่ออกจากบ้าน เพราะเขาบอกไว้ว่าจะเข้าไปดูคลับหน่อย"กำลังจะไปแล้วคุณลงมาทำไม""ผัวไม่อยู่บ้านลงมาทำไมก็เรื่องของฉันสิ
"คุณรีบพูดมาเถอะค่ะ" ตั้งแต่เขาบอกว่ากำลังให้คนสืบเรื่องครอบครัวเธอ ไอเดียก็รอแบบใจจดใจจ่อ ถึงแม้เธอจะไม่ได้ถามความคืบหน้า แต่เธอก็รออยู่ว่าเมื่อไรเขาจะแจ้งเรื่องนี้"แม่ของคุณเกี่ยวข้องกับครอบครัวผู้มีอิทธิพลครอบครัวหนึ่ง""ครอบครัวผู้มีอิทธิพล? ยังไงคะ""ผมไม่แน่ใจว่าทำไมแม่คุณถึงระหกระเหินออกมาจากบ้าน" เป็นเรื่องที่สืบไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องในครอบครัว แค่เขารู้ที่มาที่ไปของแม่เธอ ส่วนพ่อของเธอยังไม่รู้ที่มาที่ไปแน่ชัด"คุณจะบอกว่า แม่แท้ๆ ของฉันถูกไล่ออกจากบ้านเหรอ?" ถ้ามันเป็นแบบนั้นเธอก็ไม่อยากจะรู้เรื่องแล้ว พวกเขาถึงขนาดไล่แม่เธอออกจากบ้าน คงไม่ต้องการเด็กที่เกิดจากแม่ของเธอหรอก"เรื่องนี้ผมยังไม่แน่ชัดเพราะมันเป็นเรื่องในครอบครัว คงสืบลำบาก""พวกเขาเป็นครอบครัวไหนคะ""ดำรงฤทธิ์""ดำรงฤทธิ์ ทำไมนามสกุลนี้มันคุ้นๆ""บริษัทในเครือของดำรงฤทธิ์มีทั่วประเทศ""คุณอย่าบอกนะคะ ว่าแม่ฉันเป็นญาติกับคนพวกนั้น?""เรื่องนี้ผมก็ให้คำตอบคุณยังไม่ได้ เพียงแค่ชื่อของแม่คุณ เคยปรากฏอยู่ในใบทะเบียนบ้าน""เคยปรากฏ?" หมายความว่าแม่ของเธอถูกคัดชื่อออกงั้นเหรอ? แม่เธอทำผิดอะไรนักหนาทำไมพวกเขาถึงทำก
"ฉันว่าจะมาถามเรื่องพ่อค่ะ""ท่านมาแล้วเหรอ""คุณให้พ่อมาทำงานที่นี่เหรอคะ""ใช่ ท่านจะได้อยู่ใกล้ลูกสาวไง""ขอบคุณมากนะคะ""ขอบคุณทำไมล่ะนั่นก็พ่อตาผมนะ""ฉันรักคุณนะคะ""หือ.. เดี๋ยวนะ" เขายังไม่ได้ตั้งตัวเลย"คุณไม่อยากให้ฉันบอกรักเหรอ""ไม่ใช่แบบนั้นคุณจะไม่ให้ผมได้ตั้งตัวหน่อยหรือ""นึกว่าอะไรเสียอีก" เขากำลังจะลุกขึ้นแต่ไอเดียเดินเข้าไปแล้วดันร่างของเขาให้นั่งลงก่อนที่เธอจะวางสะโพกลงกับตัก มือเรียวโอบรัดต้นคอแกร่งไว้ก่อนที่จะแนบริมฝีปากลง "อืม" ทีแรกคิดว่าจะจุ๊บแก้มแต่อีกฝ่ายดันหันหน้ามารับริมฝีปากของเธอก่อน"น่ารักจัง" ชายหนุ่มขยับริมฝีปากออกมาเลยชมก่อนที่จะเปลี่ยนจากจุ๊บเป็นจูบ..ไอเดียปล่อยให้เขาจูบจนพอใจ ใครจะเข้ามาเห็นก็ช่างปะไรนี่ห้องสามีของเธอ"พอแล้วเหรอคะ" เห็นอีกฝ่ายถอนจูบออก"เดี๋ยวคุณก็เข้าห้องเรียนสายหรอก""ถ้างั้นไอเดียกลับห้องก่อนนะคะ""เดี๋ยวก่อนสิผมจะไปส่ง" ชายหนุ่มหยิบเอาโทรศัพท์แล้วเดินตามเธอออกมา จนมาถึงอาคารเรียนไอเดียก็เห็นว่าตอนนี้อาคารเรียนกำลังก่อสร้างอะไรไม่รู้"เขาทำอะไรกันคะ""อาทิตย์หน้าก็คงใช้งานได้แล้ว""แล้วมันคืออะไรล่ะคะ?" หญิงสาวหันไปมองดูสิ่งก
"เมื่อกี้นี้ลูกเขยว่าอะไรนะ""ก็ตามที่ผมพูดนั่นแหละครับ ผมจะให้เงินเท่าที่คุณแม่ต้องการ และผมจะหาที่อยู่ใหม่ให้คุณแม่ด้วย""แน่ใจนะว่าให้เท่าที่แม่ต้องการ""คุณแม่บอกมาได้เลยครับว่าต้องการเท่าไร"" 10 ล้านบาท""แม่!""ตกลงครับ""คุณ..""ถือว่าเงินนี้ผมให้ท่านสำหรับที่ท่านเลี้ยงดูคุณมา""เลี้ยงดูหมายความว่ายังไง" นางได้ยินคำพูดนี้เลยถาม"ฉันรู้ความจริงแล้วว่าคุณไม่ใช่แม่แท้ๆ ของฉัน""ไอเดีย.." นางดูตกใจที่ลูกสาวรู้ความจริงแต่ก็ปรับสีหน้าได้ไวมาก "ไม่ใช่แม่แท้ๆ แต่ฉันก็เลี้ยงดูเธอมา""เพราะแบบนี้ไงครับผมถึงจะตอบแทนบุญคุณที่คุณเลี้ยงดูคนรักของผมมา""ดี! อย่าลืมล่ะเงินสด 10 ล้านและที่อยู่ใหม่""อะไรนะ!" ชัยนาทเดินกลับมาได้ยินคำพูดนี้ของภรรยาพอดี "มันจะมากไปแล้วนะ""มากยังไง กว่าฉันจะเลี้ยงมันมาโตได้ขนาดนี้""เธอแน่ใจนะว่าเธอเป็นคนเลี้ยง""แกเป็นผัวฉัน ก็เท่ากับฉันเลี้ยงเหมือนกันแหละ""มันไม่มากหรอกครับผมให้ได้ และคุณแม่สัญญาว่าจะเซ็นใบหย่าให้คุณพ่อ ถ้าพ่ออยากจะหย่าก็หย่าได้เลยนะครับ""ไปหย่ากันวันนี้เลย" ประโยคนี้แม่เป็นคนพูด เพราะไม่เคยพิศวาสผู้ชายคนนี้เลย มีสิ่งเดียวที่ยังอยู่ก็คือเงิน
"คุณเล่าเรื่องพวกนั้นให้ฉันฟังได้ไหมคะ" เธอขยับกายเข้าไปใกล้ แล้วก็แนบใบหน้าลงกับแผ่นอกของเขาที่นั่งพิงหมอนอยู่บนเตียงนอน"เรื่องนี้คุณตาขอจัดการเอง" ท่านอยากให้เจ้าวายุมีเวลาดูแลเมียกับลูกให้มาก และอีกอย่างที่ท่านจัดการเรื่องนี้เองเพราะไม่อยากให้พวกนั้นลอยนวล ถึงแม้ว่าจะรู้จักกันตั้งแต่สร้างบ้านหลังนี้มา แต่ท่านก็ไม่คิดจะปล่อยไป"แล้วอีกสองคนล่ะคะ" เป็นอีกเรื่องที่ไอเดียสงสัย เพราะไม่เห็นทั้งสามคนมาเรียน"เจอข้อหาไม่ต่างกัน เพราะถือว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด""หรือคะ..""คุณไม่ต้องคิดมากนะ ใครทำอะไรก็ได้แบบนั้น""ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันกับออมสินไปทำอะไรให้พวกนั้นไม่ชอบนักหนา ตั้งแต่เข้าเรียนแล้ว""ต่อไปนี้ไม่มีใครมาทำอะไรคุณได้แล้วนะ""แล้วเรื่องเรียนล่ะคะ ฉันยังคงจะเรียนได้อีกไหม" เธอกลัวว่าถ้าท้องโตมากกว่านี้จะถูกสั่งห้าม เดี๋ยวก็เสียชื่อมหาวิทยาลัย"เรื่องนั้นมันแล้วแต่คุณ ถ้าคุณอยากจะเรียนก็เรียนไป""ฉันเรียนได้จริงเหรอคะ""เรียนได้สิ แต่เวลาเดินคุณต้องระวังๆ หน่อย""ฉันสัญญาว่าจะระวังค่ะ คุณตาไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ" คำถามนี้ออกจากปากของไอเดีย เจ้าวายุมองหน้าเธอจนอีกฝ่ายสงสัยว่าเขามองทำไม "