LOGINเวลาต่อมา…“โอ้ยเนาะ ว่าสิมาโรแมนติกจักนอย โซ่กะตก ห่าแดกมึงหนิ” ฉันบ่นไปทำไป ประเด็นคือตอนนี้กำลังใส่โซ่รถจักรยานอยู่ ปั่นยังไม่ครึ่งทางเลย โซ่ตกซะแล้ว“เดี๋ยวพี่ใส่ให้ มือเปื้อนหมดแล้ว” พี่ปายที่ยืนขำอยู่ข้างหลังพูดขึ้น คงจะขำที่ฉันบ่นเป็นภาษาอีสาน เพราะนาน ๆ ทีจะพูดให้ได้ยิน “เฉิ่มเอ้ย”“พี่ใส่เป็นเหรอ” หันไปมองพี่ปายงง ๆ“ใส่เป็น” เขาพยักหน้ารับแล้วทิ้งตัวนั่งลงข้างฉัน “ไปจับจักรยาน เดี๋ยวพี่ใส่เอง”“โอเค” ตอบรับแค่นั้นก็ลุกขึ้นยืน ชะเง้อมองพี่ปายใส่โซ่จักรยานด้วยความชำนาญ และเพียงไม่นานก็ใส่เสร็จ จักรยานกลับมาปั่นได้เหมือนเดิม“โห ไม่น่าเชื่อว่าจะใส่ได้”“เรื่องแค่นี้” เขากระโดดขึ้นจักรยานแล้วหันมาหาฉันอีกครั้ง “กลับบ้านไปล้างมือก่อน ค่อยออกมาใหม่”แล้วเราสองคนก็กลับบ้านไปล้างไม้ล้างมือ ไม่นานก็ปั่นออกมาอีกเหมือนเดิม ฉันชี้บอกทางไปเรื่อย ๆ ด้วยความที่บ้านติดทุ่งนาบรรยากาศก็เลยดี ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านด้วย“เคยเลี้ยงควายไหมเฉิ่ม” พี่ปายถามขึ้นพร้อมกับชะลอความเร็วของการปั่นลง คงจะเห็นควายเดินผ่านหน้าไปก็เลยถาม“ไม่เคยเลี้ยง” ฉันส่ายหน้าพัลวัน ยกมือขึ้นกอดรอบเอวพี่ปายแน่น “เคยเลี้ยงแต
บ้านต่างจังหวัด“ยายยยย หนูกลับมาแล้ว” ฉันวิ่งไปหายายที่กำลังยืนด้อม ๆ มอง ๆ อยู่หน้าบ้าน สีหน้าและท่าทางแสดงความสงสัยออกมาชัดเจนเมื่อเห็นรถพี่ปาย ดีนะที่เขาเอารถออดี้ทรงเก๋งมา ถ้าเอาซูเปอร์คาร์ลูกรักมา ป่านนี้ยายฉันคงเอาสากกะเบือโยนใส่แล้ว ข้อหาเสียงดัง“ยายกะว่าแม่นผู้ได๋ขับรถมาหา อีตุ๋นของยายนี่เอง” ยายรับฉันเข้าไปกอดพร้อมกับพูดออกมา “แล้วมานำไผหั่น”“พี่ปายแฟนหนูเอง” ว่าแล้วก็กวักพี่ปายที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลให้เดินเข้ามาหายาย “นี่ยายหนู สวยไหม เจ็ดสิบแล้วยังไม่แก่เลย”“สวัสดีครับ” พี่ปายยกมือไหว้ยายไม่ได้สนใจต่อคำพูดไปเรื่อยของฉัน“ไหว้พระ ๆ” ยายรับไหว้ในขณะที่กำลังมองพี่ปายอย่างพิจารณา “แมนแฟนหลานยายอิหลิติสู คือมาหล่อปานดาราแท้ ว่าแมนมาริโอ้”“หล่อบ่ยาย หนูเลือกมาอย่างดีเลยเด้หนิ” ไม่ได้เลือกหรอก เพราะความอยากลองเรื่องสิบแปดบวกล้วน ๆ ก็เลยตกกระไดพลอยโจนคบกับพี่ปายมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ก็พูดหยอกยายไปอย่างนั้นเอง“หล่อ ๆ” ยายพยักหน้ารับ “ไป ๆ เข้าบ้าน”“พี่ปายไม่ต้องเกร็งนะ ยายหนูใจดีมาก ยายไม่โหด” ฉันผละตัวออกจากยายแล้วเดินเข้าไปหาพี่ปายที่ยืนนิ่ง ๆ เหมือนไม่ใช่พี่ปายที่ฉันรู้จัก
“เก็บแล้วออกไปข้างนอก ไอ้คินมันซื้อของกินมาเยอะ” ปายยอมลุกออกจากเมียตัวน้อยของตัวเอง ไม่ลืมที่จะดึงแขนเธอขึ้นตาม“พี่คินมาเหรอ?”“อือ อยู่ข้างนอก”“งั้นขอเก็บของแป๊บ เดี๋ยวตามออกไป” พอได้ยินคำว่า ‘ของกิน’ หูก็ผึ่งทันที ดวงตากลมโตวาววับเหมือนกำลังถูกใจกับอะไรสักอย่าง ตาคมมองเมียตัวเองอยู่อึดใจก็เดินออกไปหาเพื่อนที่อยู่ข้างนอก ไม่อยากอยู่นานเพราะกลัวอดใจไม่ไหว เห็นไข่ตุ๋นทีไร เขาของขึ้นทุกที“ที่จริงมึงไม่ต้องมาดูแลกูก็ได้นะ” คินละสายตาจากโทรศัพท์มามองเพื่อน “กูจะคิดว่าที่นี่คือห้องของกูเอง”“หน้าด้านฉิบหาย” ปายหยิบของกินขึ้นมาถือแล้วเดินเข้าไปในครัว จัดแจงอาหารใส่จานแล้วเอามาวางต่อหน้าคิน คนที่เล่นโทรศัพท์อยู่นั้นเงยหน้ามองทันที“เสิร์ฟกู?”“เปล่า” เจ้าของห้องส่ายหน้า “เอามาเสิร์ฟเมีย เดี๋ยวเมียออกมา”“หลงเมียฉิบหาย”“ไม่เถียง” เพราะเถียงไปก็ไม่มีประโยชน์ สิ่งที่คินพูดมันก็คือเรื่องจริง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าผู้ชายที่ตัวโตแบบเขาจะมาเสียรู้ให้ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ตัวเล็กมากจริง ๆ แถมยังเป็นเด็กอายุยี่สิบเท่านั้น ไม่ใช่ผู้หญิงจัดจ้าน แต่งตัวบ้าน ๆ แถมยังใส่แว่นตาหนาเตอะ แต่เขาก็หลงรักจริง ๆ
ช่วงปิดภาคเรียน“กลับไปเยี่ยมยายหรือย้ายบ้าน?” ปายมองเมียตัวน้อยที่กำลังเก็บเสื้อผ้าทั้งตู้ออกมาพับด้วยความสงสัย ตอนนี้ไข่ตุ๋นปิดภาคเรียนปีที่สองแล้ว ส่วนปายก็จบปีสี่เรียบร้อย แต่ก็ยังคิดอยู่ว่าจะต่อโทหรือเปล่า ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจ“ก็เยี่ยมยายไง”“ไม่ขนช่วยนะ เยอะขนาดนั้น” เพียงเท่านั้นหน้ากลม ๆ ก็บูดเบี้ยวทันที หน้าเริ่มงอง้ำเหมือนกำลังจะงอน “เอาไปแค่สิบชุดก็พอ”“เผื่อลงไร่ลงนาไง ก็ต้องเอาไปเยอะ ๆ สิ”“ตามใจ แต่พี่ไม่ขนช่วยนะ”“ขนช่วยหน่อย” ไข่ตุ๋นละมือจากการเก็บพับผ้า เดินเข้าไปหาปายที่นั่งมองเธอนิ่ง ๆ อยู่ปลายเตียง คนตัวเล็กทิ้งตัวนั่งลงบนตักแกร่งเหมือนที่ชอบทำ ซบหน้าลงที่อกกว้างอย่างออดอ้อน“ทำไมนับวันยิ่งอ้อนวะ” แม้ปากจะพูดแบบนั้นแต่ก็ยอมยกแขนโอบกอดเอวเล็กไว้ พูดได้เต็มปากเลยว่าตอนนี้เขาหลงเมียจนโงหัวไม่ขึ้นจริง ๆ แค่เห็นตากลม ๆ แก้มป่อง ๆ ก็อดใจไม่ไหวแล้ว รู้สึกเหมือนตกหลุมรักไอ้เฉิ่มของตัวเองทุกวันอยากขอบคุณทับทิมมากที่ทำแบบนั้นกับเขา เพราะถ้าเธอไม่ทำแบบนั้น ก็คงไม่ได้มารักกับไอ้เฉิ่มแบบนี้“ไม่ดีเหรอ หนูอ้อนเยอะ ๆ พี่ปายจะได้รักหนูเยอะ ๆ ไง”“แค่นี้ก็รักไม่รู้จะรักย
เวลาต่อมาสิบนาทีหรือสิบชั่วโมงก็ไม่รู้ ลืมตาขึ้นมาอีกทีก็มืดแล้ว บอกให้ปลุกก็ไม่ยอมปลุก แถมยังหนีไปสังสรรค์อีกนะ ทิ้งให้ฉันนอนน้ำลายยืดอยู่คนเดียว“เมียมึงหน้ายุ่งมาแล้วไอ้ปาย” พี่เดย์พยักพเยิดหน้ามาที่ฉันที่กำลังมุ่งตรงไปที่กลุ่มเหล้า ทุกสายตาจับจ้องมาทางนี้นิดหน่อยก็หันกลับไปโฟกัสแก้วเหล้าตัวเองเหมือนเดิม“โดนแน่มึง”“ทำไมไม่ใส่เสื้อแขนยาวมาด้วย อากาศมันเย็น” แต่พี่ปายก็ไม่ได้สนใจคำเพื่อนอยู่ดี เขาอ้าแขนออกรอรับร่างฉันให้นั่งลงที่ตักแกร่ง ซึ่งฉันก็ยอมทำตาม“ทำไมไม่ปลุกหนูล่ะ” ไม่ลืมที่จะว้ากใส่เขา“เห็นนอนเพลิน ไม่อยากปลุก” สองแขนกระชับอ้อมกอดแน่น เหมือนกำลังจะง้อทางอ้อมยังไงก็ไม่รู้“เฮียบอกมันแล้ว แต่มันบอกน้องใช้พลังงานเยอะ ต้องนอนพักผ่อน เฮียก็เลยไม่พูดอะไรต่อ” เฮียกปรากพูดออกมาด้วยสีหน้าเอือมระอาไม่ต่างจากคนอื่นที่มองพี่ปายแบบเหม็น ๆ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้ฉันหุบปากเงียบหรอก ประเด็นก็คือพี่ปายบอกคนอื่นว่า ‘ฉันใช้พลังงานเยอะ’ นี่สิ จะเกินไปไหม!!“มา ๆ เล่นเกมกันดีกว่า” พี่ได๋คงเห็นสีหน้าที่ไม่ค่อยดีของฉันก็พูดขึ้น เธอเอาขวดมาวางไว้กลางวงพร้อมกับเคลียร์อาหารออก “เกมง่าย ๆ ข
“พี่ปาย…” ฉันกดเล็บเท้าลงกับแผ่นหลังกว้างเมื่ออีกคนกำลังละเลงจุดอ่อนไหวของฉันด้วยลิ้น และเป็นการละเลงที่ยาวนานมาก ละเลงแบบไม่พักเลยเชื่อไหมว่าหลังจากที่พี่ปายบอกว่าจะพาฉันเข้าห้อง เขาก็ทำจริง ๆ และเมื่อเข้ามาแล้วก็จับฉันยัดใส่ห้องน้ำไม่พูดไม่จา อุ้มร่างเล็ก ๆ ของฉันให้นั่งบนชักโครก ส่วนเขาก็ทิ้งตัวนั่งลงบนพื้น ยกขาสองข้างวางบนไหล่กว้างแล้วก็ทำอย่างที่เห็นปรนเปรอกันด้วยลิ้น…“อ๊ะ” ความรู้สึกดีที่โคตรทรมานตีแล่นเข้ามาจนต้องเงยหน้าปล่อยเสียงร้องครวญครางออกมาไม่ขาดสาย ลมหายใจสะดุดครั้งแล้วครั้งเล่า เรียวขาสั่นจนไม่รู้จะสั่นยังไง ฉันไม่สามารถอธิบายความรู้สึกตอนนี้ได้ รู้แค่ว่ามันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก ๆ แต่ก็ทรมานมากเช่นกัน ทรมานมาก ๆ เลย“อื้อ…”“อยากได้กี่นิ้ว” เขาถอนปากออกแล้วถามกันเสียงพร่า สอดนิ้วเข้ามาในช่องคับแน่นแล้วแยงเข้าออกไปมา เหมือนกำลังจะเล่นกับน้ำรักที่มันกำลังไหลเยิ้มเพราะความใคร่ยังไงก็ไม่รู้“อยากได้ไอ้นั่น”“ยังไม่ให้ เอานิ้วก่อน” พูดแค่นั้นก็กดหน้าลงไปดูดดึงกับติ่งเกสรกลางร่าง จากตอนแรกที่สอดเข้ามาหนึ่งนิ้ว ตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นสองนิ้วแล้วเรียบร้อย แยงความนิ่มถูไถกับโพ



![My Engineerรักร้ายนายจอมโหด [ต้าร์พินอิน]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)



