วันจันทร์
บริษัท JRV LOGISTICS
แพรวามาทำงานตามปกติ พนักงานหลายคนมองผ่านเธอราวกับอากาศธาตุเช่นเดิม ช่างแตกต่างจากเมื่อวันเสาร์ตอนเธอไปเดินห้างเหลือเกิน แต่เธอก็ไม่ได้สนใจ เพราะข้อดีของการเป็นยัยเฉิ่มคือไม่โดนถูกจับจ้องเพ่งเล็ง และนำเธอไปเป็นหัวข้อนินทาว่าร้ายลับหลัง
เธอลุกไปชงกาแฟให้ประธานหนุ่มเช่นเดียวกับทุกวัน ยืนกลั้นใจอยู่หน้าห้องทำงานอยู่นาน แอบกังวลเล็กน้อยกลัวเขาจะจำได้ ว่าเลขาจืดชืดจะเป็นคนเดียวกับสาวสวยสุดเปรี้ยวที่เขาเดินชนวันก่อน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"เชิญ"
ร่างเล็กก้มหน้างุด หอบเอกสารในวงแขน มืออีกข้างถือถ้วยกาแฟร้อนๆ เหลือบมองใบหน้าด้านข้างของเจ้านายไปด้วย ขณะที่เขาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง สีหน้าหล่อเหลายังคงเรียบนิ่งทำใจดวงน้อยเริ่มสงบลง
"กาแฟค่ะ"
"อืม"
เขาตอบรับเรียบๆ หมุนเก้าอี้กลับมาประจำที่ เมื่อแน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่มีเรื่องจะพูด เธอจึงแจ้งตารางงานวันนี้ให้เขาฟัง
โอนิกซ์หลับตาลงช้าๆ ราวกับไม่สนใจ ปล่อยให้เสียงหวานให้พูดต่อไปโดยไม่ขัด
"วันนี้ช่วงเช้าประธานมีแค่เซ็นเอกสาร อาหารกลางวันวาเตรียมเป็นเซ็ตซูชิหน้ารวมให้ ส่วนในช่วงบ่าย บ่าย 2 โมง บริษัท BBK Rubber ขอเข้าพบเพื่อพูดคุยและเซ็นสัญญา วันนี้เป็นคุณปกรณ์ ลูกชายเจ้าของบริษัทมาเป็นตัวแทนคุณพ่อ บ่าย 3 โมงครึ่ง..."
ใบหน้าหล่อขมวดคิ้วเข้าหากัน เมื่อกลิ่นกาแฟผสานกลิ่นอายหอมๆ ของเธอลอยเข้าปะทะกับปลายจมูก ความคับข้องใจที่พยายามหาคำตอบมาหลายวันก็ถูกเฉลยในที่สุด
หมับ!
"อ๊ะ!"
ใจสาวร่วงลงไปกองกับพื้น เมื่อจู่ๆ ร่างสูงก็ดึงแขนเธอให้เข้าใกล้ เธอใช้ฝ่ามือยันกับโต๊ะด้วยความตกใจ ชะงักนิ่งค้าง หัวสมองขาวโพลนทำอะไรไม่ถูก
ภาพตอนนี้เหมือนเธอกำลังโน้มตัวเข้าหาประธานที่นั่งอยู่ โอนิกซ์ยื่นใบหน้าเข้าใกล้ ตรงเข้าหาซอกคอขาว ความใกล้ชิดทำให้สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนจ่อรดต้นคอเธออยู่ แพรวาหลับตาปี๋ใจเต้นระรัว รู้สึกร้อนวูบวาบปั่นป่วนไปหมด
โอนิกซ์ต้องการเพียงดึงเธอมาใกล้ๆ เพื่อพิสูจน์ว่ากลิ่นที่ติดอยู่ในใจเขา ใช่กลิ่นเดียวกับน้ำหอมของเลขาสาวหรือไม่ เขาครุ่นคิดถึงความรู้สึกคุ้นเคยแปลกๆ มาหลายวัน และเมื่อหาคำตอบได้แล้ว เขาก็สบายใจหมดความสนใจใดๆต่อ
"หึ" ร่างสูงแค่นหัวเราะขบขันเบาๆ ในลำคอ เมื่อเห็นเลขาสาวหลับตายืนตัวสั่นระริก ใบหน้าเธออยู่ห่างไปเพียงคืบ
ในที่สุดเขาก็ปล่อยแขนเธอเป็นอิสระ แต่เหมือนแพรวาจะยังช็อกอยู่จึงไม่ได้ขยับตัวหนี
"อะไรของเธอ"
น้ำเสียงเรียบเฉยดึงสติเธอกลับมาอีกครั้ง แพรวาหน้าแดงก่ำทำอะไรไม่ถูก เมื่อใบหน้าหล่อร้ายอยู่ใกล้กันมาก รีบกระเด้งตัวถอยห่าง ยกมือรวบเสื้อคลุมเข้าหากัน ราวกับอีกฝ่ายเป็นผู้ร้ายนักข่มขืน
"ปะ...ปะ...ประธานนั่นแหละ...จะ...จะทำอะไรวาคะ!"
เธอมองเขาด้วยสายตาไม่วางใจ
"แค่รู้สึกว่ากลิ่นน้ำหอมเธอมันคุ้นๆ เลยลองดมดูว่าใช่ไหม"
"นะ...น้ำหอม! ละ...แล้วดึงไปดมแบบนี้ได้เหรอคะ" เสียงหวานตะกุกตะกัก แอบขุ่นเคืองเล็กน้อยที่ถูกชายหนุ่มถึงเนื้อถึงตัวเช่นนี้
"ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอสักหน่อย"
"..."
เธอก้มหน้าซ่อนความอายที่ฉายชัดบนพวงแก้ม
"ต่อสิ"
"อะ...อะไรคะ" ใบหน้าแดงซ่านแตกตื่น เมื่อจู่ๆ เขาก็เปลี่ยนเรื่องพูดจนเธอตามไม่ทัน
"ตารางงาน ว่าต่อสิ ถึงบ่าย 3 โมงครึ่ง"
แพรวาสูดหายใจเข้าออกหลายครั้งเพื่อรวบรวมสติที่แตกกระจาย พยายามอธิบายต่อให้จบ ท่าทางเงอะงะเก้อเขินของเธอสร้างความขบขันในใจให้ร่างสูงเป็นอย่างดี เริ่มรู้สึกตัวเองโรคจิตที่อารมณ์ดีเวลาได้เห็นเลขาจอมเฉิ่มเสียอาการ
เมื่อได้ออกจากห้องประธาน ร่างเล็กแทบทรุดลงกับพื้น ต้องอาศัยแผ่นหลังพิงประตูเอาไว้ อกซ้ายทำงานอย่างหนักกับเรื่องที่เพิ่งเผชิญ นับวันยิ่งทำงานกับโอนิกซ์นานก็ยิ่งมีเรื่องให้หัวใจเธอสูบฉีดมากขึ้น หวังว่าก่อนสิ้นปีเธอจะไม่หัวใจวายไปก่อน
เธอทิ้งตัวลงบนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน เหลือบมองกระจกเล็กบนโต๊ะก็ตาโต
"โอ๊ย นี่ฉันหน้าแดงด้วยเรื่องอะไรเนี่ย"
มือเล็กลูบแก้มร้อนของตัวเองถูไปมา ปลอบใจตัวเองว่าคงกังวลจะถูกโอนิกซ์จับได้ เมื่อหลับตาลงตั้งใจจะรวบรวมสติ กลับคิดถึงลมหายใจร้อนๆ ของประธานเสียได้ จนเธอต้องลุกไปล้างหน้าล้างตาเรียกสติตัวเองให้พร้อมทำงานแทน
ช่วงบ่ายหลังจากที่แพรวาจัดเตรียมห้องรับรอง และของว่างสำหรับแขกเรียบร้อย เธอก็ลงไปยืนรอรับลูกค้าที่เดินทางมาคุยงานยังบริษัทด้านล่างอาคาร รถยุโรปราคาแพงจอดสนิทบริเวณประตูทางเข้า ก่อนบุคคลในรถจะก้าวลงมา
"สวัสดีค่ะ คุณปกรณ์ ดิฉันแพรวาเลขาของคุณโอนิกซ์ค่ะ"
หญิงสาวเดินเข้าไปหา ส่งยิ้มทักทายตามมารยาท
ชายหนุ่มลูกชายเจ้าของบริษัทคู่ค้าเหลือบมองการแต่งตัวของเลขาสาวก็ต้องเบ้หน้า ตอนได้ยินเสียงเขาคาดคิดว่าเธอจะเป็นหญิงสาวแสนสวย จึงเป็นฝ่ายเดินทางมาเซ็นสัญญาด้วยตัวเอง แต่สิ่งที่เจอตรงหน้าทำเขาต้องผิดหวัง เมื่อแพรวาไร้เสน่ห์จืดชืดเสียไม่อยากจะมอง ไม่รู้ว่าโอนิกซ์คิดอย่างไรถึงได้เลือกผู้หญิงเช่นนี้มาเป็นเลขา
ปกรณ์หน้าบึ้งลงอย่างเห็นได้ชัด พยักหน้ารับและก้าวเข้าอาคารสำนักงานทันที ทำให้แพรวาเพิ่งสังเกตเห็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยอีกคนที่ด้านหลังส่งยิ้มเยาะเย้ยมาทางเธอ
"สวัสดีค่ะ ฉันเอมอร เลขาคุณปกรณ์ค่ะ"
"ค่ะ เชิญด้านในเลยค่ะ"
แพรวาต้อนรับอย่างเสียไม่ได้ มองข้ามสายตาดูถูกเวลาหญิงสาวเหลือบมองเธอเป็นระยะ
ร่างเล็กนำทั้งหมดขึ้นลิฟต์หรูมายังห้องรับรอง ก่อนจะออกไปแจ้งประธานว่าลูกค้าเดินทางมาถึงแล้ว
เนื้อหาที่พูดคุยไม่ได้มีสาระสำคัญเท่าไร แต่อีกฝ่ายแจ้งว่าอยากมาดูการทำงานภายในบริษัทก่อนจะต่อสัญญา แพรวาจึงเตรียมเอกสารภาพรวมในองค์กร ขั้นตอนการจัดส่งสินค้า เพื่อนำเสนอให้ลูกค้าเห็นว่าบริษัทมีความพร้อมแค่ไหน
แต่ด้วยสิ่งที่ปกรณ์สนใจไม่ใช่ความพร้อมบริษัทตามที่แจ้ง จึงแทบไม่ได้ฟังเธอพูดแต่อย่างใด แถมยังมีท่าทีเบื่อหน่ายจนโอนิกซ์สามารถรับรู้ได้
เมื่อแพรวาพูดจบทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ
"อันนี้เป็นตัวสัญญาใหม่ค่ะ ถ้ามีข้อสงสัยอะไรซักถามแพรวาได้เลยนะคะ"
ร่างเล็กยืนอยู่หัวโต๊ะ เลื่อนแฟ้มเอกสารไปตรงหน้าลูกค้า อีกฝ่ายทำเพียงแค่เปิดผ่านๆ อย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะเลื่อนมันให้เลขาดูต่อ ซึ่งเธอก็ทำแบบเดียวกัน ราวกับไม่ได้อ่านข้อมูลใดๆ ในนั้น
"ทำไมสัญญาค่าขนส่งรอบนี้ถึงแพงกว่าปีที่แล้ว" ปกรณ์ถามขึ้นด้วยท่าทีเบื่อหน่าย รีบตรงเข้าประเด็นทันที
"ถ้าได้อ่านสัญญาก็น่าจะทราบดีนะครับ รายละเอียดแจ้งเอาไว้ในนั้นหมดแล้ว"
คำพูดตรงไปตรงมาของโอนิกซ์ทำลูกค้าหนุ่มหน้าเสีย จนเลขาสาวสวยข้างกายต้องรีบกุมมือรั้งเขาไว้ก่อน
แพรวาแอบเห็น ตลอดเวลาที่เธอนำเสนอลูกค้า เอมอรมักส่งสายตาเชื้อเชิญหาโอนิกซ์เป็นระยะ ความหล่อเหลาและร่ำรวยของประธานหนุ่ม เป็นแรงกระตุ้นให้สาวน้อยใหญ่พร้อมใจกระโดดเข้าหา เพียงแต่เจ้านายเธอไม่เคยชายตามองผู้หญิงคนไหนเลย
"ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเป็นไปตามค่าเงินเฟ้อของเศรษฐกิจ น้ำมันแพง ค่าแรงปรับตัว จึงมีการปรับขึ้นราคาเล็กน้อยค่ะ" แพรวาพยายามอธิบายอย่างใจเย็น
"อืมๆ" ลูกค้าหนุ่มพยักหน้าตัดบท ราวกับขี้เกียจจะฟัง เหลือบมองมาที่แพรวาอีกครั้ง ก่อนจะพูดสิ่งที่อยู่ในใจ "งั้นผมขอพูดถึงจุดที่อยากให้คุณโอนิกซ์ปรับปรุงแก้ไขหน่อยแล้วกัน"
"ครับ เชิญว่ามาได้เลย"
"ผมแนะนำว่าคุณโอนิกซ์ควรเลือกเลขาสาวๆ สวยๆ แต่งตัวดี ถ้าเซ็กซี่ด้วยจะดีมากเลย อย่างน้อยมันก็เป็นภาพลักษณ์ของตัวประธานเอง ยิ่งต้องไปพบลูกค้า เลขาน่ารักๆ จะยิ่งช่วยให้การเจรจาราบรื่นขึ้นนะครับ ผมไม่ได้อยากจะว่าคุณแพรวาหรอกนะครับ แต่การแต่งตัวคุณมันแย่จริงๆ ถ้าหน้าตาไม่ดีก็หัดเสริมเติมแต่งเสียให้เป็นผู้เป็นคนเสียหน่อย บอกตามตรงเห็นหน้าครั้งแรกผมยังแอบผวา"
"..."
โอนิกซ์นิ่งเงียบ ส่วนแพรวาหน้าชาไปแล้วที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็น
"ดูอย่างเอมอรเลขาผมสิ" หญิงสาวส่งยิ้มเอียงอายให้ประธานหนุ่ม ขณะเจ้านายแนะนำตัวเธอ "ขาว สวย หมวย อึ๋ม เอาใจเก่ง เอาแบบนี้ดีกว่า วันนี้ให้เธอไปดูแลคุณโอนิกซ์สักคืน แล้วคุณโอนิกซ์ลองพิจารณาสัญญานี่ใหม่อีกที"
"..."
ร่างสูงของประธานหนุ่มเงียบกริบ มีเพียงสายตาใต้กรอบแว่นเท่านั้นที่เริ่มเย็นเฉียบ แม้จะเห็นเพียงเสี้ยวหน้า แต่แพรวาก็รับรู้ได้ถึงแรงกดดันมหาศาลภายในห้องรับรอง
"ผมคัดเลือกพนักงานที่ความสามารถครับ อีกอย่างบริษัทผมทำเกี่ยวกับโลจิสติกส์การขนส่ง ไม่ใช่ซ่องหรืออ่างอบนวดที่ต้องใช้ผู้หญิงสวยเอาใจเก่งมาหลอกล้อลูกค้า หากคุณปกรณ์ไม่พอใจสัญญาก็แค่ไม่ต้องเซ็น แต่คุณไม่มีสิทธิ์มาวิพากษ์วิจารณ์รูปลักษณ์คนของผม!"
นัยน์ตาสีเข้มเป็นประกายวาวโรจน์ จ้องกลับคู่ค้าอย่างไม่เกรงกลัว เขาไม่แคร์ที่จะพลาดสัญญากับบริษัทที่มีผู้บริหารทัศนคติแย่ๆ แบบนี้
ปกรณ์หน้าเสียเมื่อถูกร่างสูงตอกกลับ โทสะในใจแล่นพล่านแต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้
"หึ ได้ ถ้าคุณพูดถึงขนาดนี้ สัญญาใหม่ก็ถือเป็นโมฆะ อย่ามาอ้อนวอนให้ผมต่อสัญญาทีหลังก็แล้วกัน"
ชายหนุ่มลุกขึ้นกระทืบเท้าเสียงดังระบายอารมณ์ เอมอรอ้าปากค้าง ทำอะไรไม่ถูก รีบลุกตามเจ้านายไป แอบหันมองความหล่อเหลาของโอนิกซ์อีกครั้งด้วยความเสียดาย
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ แพรวาไม่กล้าหายใจแรงด้วยซ้ำ กลัวมันจะไปจุดอารมณ์ให้ประธานหนุ่มระเบิดขึ้นมา
"เฮ้อออ~"
โอนิกซ์ระบายลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ คว้าซองบุหรี่ในเสื้อสูทขึ้นมาจุดสูบดับอารมณ์หงุดหงิด
"เอ่อ...ประธานไม่ควรสูบบุหรี่ในห้องนี้นะคะ" เธอเตือนเสียงเบา ลอบมองปฏิกิริยาอีกฝ่ายไปด้วย
"ช่างมัน นี่บริษัทฉัน"
"งั้นแพรไปหาที่เขี่ยบุหรี่มาให้นะคะ"
"..."
แพรลอบเดินตัวลีบออกไป แต่เสียงทุ้มของโอนิกซ์ก็รั้งเอาไว้ก่อน
"เดี๋ยว!"
"คะ?"
เธอหันหลังกลับมา คิดว่าอีกฝ่ายจะสั่งงานอะไรเธอต่อ
"คำพูดเมื่อกี้..."
"..."
"...ไม่ต้องเก็บมาใส่ใจล่ะ"
หัวใจดวงน้อยเต้นแรง รับรู้ได้ถึงความห่วงใยในคำพูดเขา รอยยิ้มจางๆ ปรากฏบนใบหน้าหวาน การที่ชายหนุ่มออกตัวปกป้อง ยอมเสียลูกค้า สร้างความประทับใจให้เธอไม่น้อย ความอบอุ่นไหลพล่านทั่วร่าง
"ขอบคุณค่ะ"
สายตาทั้งคู่ประสานกันเสี้ยววิ ก็เพียงพอที่ทำให้อกซ้ายเธอทำงานอย่างหนักแล้ว ร่างเล็กรีบหลบตาและเดินออกไปหยิบของให้เจ้านาย โดยมีสายตาร้อนๆ มองตามแผ่นหลังไป
โอนิกซ์พ่นควันขาวลอยคลุ้งเต็มห้อง เมื่อได้อยู่ตามลำพังจึงเริ่มครุ่นคิดถึงปฏิกิริยาของตนเอง จริงอยู่เขาไม่ได้มองคนจากภายนอก แต่อารมณ์เดือดดาลตอนฟังปกรณ์พูดจาดูถูกแพรวามันก็ไม่ใช่นิสัยเขาเช่นกัน
ร่างสูงกุมขมับด้วยความสับสน รู้สึกช่วงนี้ในหัวจะมีเรื่องไร้สาระเยอะเกินไปแล้ว อยากได้หนังสือดีๆ สักเล่ม มาดึงความสนใจของเขาออกไปจากตัวเลขาสาวสักที
เพนต์เฮ้าส์โอนิกซ์โอนิกซ์ส่งยิ้มพลางยื่นนิ้วมือไปหาลูกน้อยในอ้อมแขน ซึ่งอัศวินก็หัวเราะร่าพยายามยื่นมือมาคว้ากำนิ้วบิดาเอาไว้ เขาพยายามบีบๆ คลายๆ อยู่หลายครั้ง และมักจะส่งเสียงโต้ตอบบ้างเวลาผู้เป็นพ่อพูดคุยด้วยแม้จะยังไม่รู้ความก็ตามไม่แปลกใจเลยทำไมเพื่อนเขาถึงอยากพาลูกชายตัวเล็กของตนกลับบ้านไปด้วย อัศวินเลี้ยงง่ายและอารมณ์ดี บางครั้งเขาก็มักจะเพลินกับการหยอกล้อกับลูกจนลืมเวลาไป"เล่นพอยังคะตัวเล็ก หม่ามี๊พาไปอาบน้ำดีกว่า""คิก คิก คิก"อัศวินหัวเราะคิกคักขณะดวงตากลมโตบ้องแบ๊วมองมารดาและยิ้มจนตาหยี"กวนปะป๊านานแล้วนะคะ ไปกัน"โอนิกซ์ส่งยิ้มอ่อนโยนให้ภรรยา ประคองทารกให้หญิงสาวรับไปอุ้มต่อ สายตาอบอุ่นสื่อความหมายสบมองกัน แม้ไม่มีคำพูดใดๆ ออกมา แต่ทั้งคู่ก็มีความสุขมากในทุกช่วงเวลาแพรวาอุ้มอัศวินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ ส่วนโอนิกซ์ก็หยิบโน้ตบุ๊กมานั่งเคลียร์งานที่คั่งค้างต่ออีกนิดหน่อยมุมปากหยักยกยิ้มเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะดังแววออกมาจากห้องน้ำ จนอดใจไม่ไหวต้องวางโน้ตบุ๊กบนตักลงแล้วเดินไปดูสองแม่ลูกแทนแพรวานำอ่างอาบน้ำสำหรับเด็กมาตั้งไว้บนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน
3 เดือนต่อมาบริษัท JRV LOGISTICSประธานหนุ่มเจ้าของบริษัทโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ ก้มอ่านเอกสารร่างสัญญาฉบับใหม่ มือขวาควงปากกา มือซ้ายก็ประคองร่างของลูกชายตัวเล็กโยกกล่อมให้หลับภายในห้องทำงานเต็มไปด้วยอุปกรณ์เลี้ยงเด็ก ทั้งเปลที่นอน และคอกกั้นบุนวมอย่างดี พร้อมตุ๊กตาของเล่นขนาดต่างๆ จนไม่เหลือคราบห้องของประธานบริษัทแม้แต่น้อยแพรวาเปิดประตูเข้ามา หลังจากคลอดลูกน้อยรูปร่างเธอก็กลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว แทบจะดูไม่ออกว่าเคยผ่านการตั้งครรภ์มาก่อนใบหน้าสวยดูเปล่งประกายความงามชัดเจน ผิวขาวเนียนตัดกับเส้นผมสีดำสนิทยาวจรดแผ่นหลัง เธอสวมชุดเสื้อสูทสีครีมคู่กับกระโปรงเอวสูงสีเดียวกัน ราศีภรรยาประธานบริษัทจับทุกระเบียบนิ้วมุมปากที่ทาทับด้วยลิปสติกสีนู้ดยกยิ้มขึ้น จรดฝีเท้าเงียบเชียบไม่ให้รบกวนการนอนหลับของลูกน้อยโอนิกซ์เงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร สายตาใต้กรอบแว่นดูอ่อนโยนเมื่อมองผู้มาใหม่ วางปากกาในมือลง"นี่เอกสารประชุมอาทิตย์หน้าค่ะ""เหนื่อยไหมครับ""นิกซ์ต่างหาก วินดื้อไหมเอ่ย""เล่นเสร็จ เพิ่งหลับไปเมื่อกี้"สายตาอ่อนโยนมองใบหน้าหลับใหลของลูกชายที่ถอดแบบมาจากเขาแทบจะพิมพ์เดียวกัน ยก
2 เดือนต่อมาโรงพยาบาลแพรวานั่งๆ นอนๆ อยู่แต่บนเตียงคนไข้ โอนิกซ์ย้ายเธอมาที่โรงพยาบาลได้สองวันแล้วเพื่อรอวันคลอด ตอนนี้แพรวายังไม่ค่อยรู้สึกตื่นเต้นเท่าไร ต่างจากคนเป็นสามีที่ดูตื่นตัวพร้อมทุกสถานการณ์ เขาจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับทารกแรกเกิดไว้พร้อมสรรพ รวมถึงจัดการออกแบบตกแต่งห้องนอนรับแขกเก่าที่แพรวาเคยนอนเป็นห้องเด็กอ่อน แม้ลูกยังต้องนอนห้องเดียวกับพวกเขาอีกหลายปีก็ตามท้องเธอโตเสียแทบเดินไม่ไหว จะลุกจะนั่งต้องมีโอนิกซ์คอยช่วยพยุงวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ห้องพักของเธอครึกครื้น"พี่วาเอาแอปเปิลไหม คลีปอกให้" คลีโอและลีโอหอบกระเช้าผลไม้มาเยี่ยมว่าที่คุณแม่ตั้งแต่เช้า"ได้จ้ะ ขอบคุณนะ""ค่า เดี๋ยวคลีไปล้างก่อน"คลีโอเดินไปยังส่วนครัวของห้องพักซึ่งไม่ต่างจากโรงแรมดีๆ มีอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวกครบครัน แถมยังมีแยกโซนสำหรับคนไข้และญาติเวลามาเยี่ยมไว้ด้วย ห้องรับแขกก็กว้างขวาง แบ่งเป็นสัดส่วนจึงไม่รบกวนการพักผ่อนของคนไข้"ปอกเป็นเหรอไง เอามีดมานี่ พี่ทำเอง" ลีโอที่แทบทนดูไม่ไหว ดึงมีดคมออกจากมือแฟนสาว และดันตัวเธอไปข้างๆ ก่อนจะจัดการแอปเปิลสีแดงด้วยตัวเองชายหนุ่มจัดการป
ย่านใจกลางเมืองเหล่ามาเฟียสี่คน ยืนหน้าเครียดมองประตูร้านขนมหวานด้วยความไม่แน่ใจ ก่อนจะหันกลับมามองเพื่อนที่เป็นคนเสนอความคิด"เอาจริงดิ พาพวกกูมาคุยงานในร้านขนมเนี่ยนะ" ลีออนเอ่ยขึ้นมาอย่างอดไม่ได้"แล้วยังไง""ดูหน้าแต่ละคนก่อน แล้วค่อยถามว่ายังไง""มึงก็รู้กูห่างเมียนานไม่ได้ มันปวดหัวอยากจะอ้วก ถ้าอยากคุยงานก็คุยที่นี่" โอนิกซ์ตอบกลับเสียงเรียบ ก่อนจะจูงมือภรรยาสาวที่ท้องโตเข้าไปในร้านเป็นคนแรก"แน่ใจเหรอวะ" ลีออนหันมาขอความเห็นจากเพื่อนที่เหลือ ซึ่งวิคเตอร์ก็ทำได้เพียงถอนหายใจ ส่วนไคโรและลีโอก็ส่ายหน้าไม่ได้ตอบคำถาม และพาแฟนตัวเองเข้าไปในร้านด้วยเช่นกัน"เชี่ย พวกกูสองคนมาทำห่าอะไรเนี่ย นึกว่านัดเดทคู่""กูยอมให้มึงควงได้วันหนึ่ง แต่ถ้าเริ่มลวนลามกูเมื่อไร กูถีบมึงแน่""ถุย! กูเนี่ยนะ จะลวนลามมึง พูดจาน่าถูกกระสุนฝังหัวจริงๆ""หึ"วิคเตอร์ทำเพียงแค่แค่นหัวเราะ และเดินตามคนอื่นเข้าไปในร้าน สุดท้ายเพื่อนผู้เรื่องมากก็หมดข้อโต้แย้ง ยืนกระฟัดกระเฟียดอยู่ครู่หนึ่งก็ยอมตามเข้ามาโอนิกซ์แยกโต๊ะระหว่างกลุ่มสาวๆ ในนั่งริมหน้าต่างร้าน ส่วนกลุ่มเขาแยกมาอีกโต๊ะก่อ
คฤหาสน์ตระกูลโอนิกซ์แพรวาคลี่ยิ้มละลายใจ ขณะผลักร่างสูงของผู้เป็นสามีลงบนเตียงกว้างในห้องนอนของเขา โอนิกซ์หอบหายใจเข้าออกหนักหน่วงด้วยความตื่นเต้น เฝ้ามองหญิงสาวค่อยๆ คลานขึ้นมาคร่อมร่างด้วยท่าทางยั่วเย้าชวนคลั่งคอเสื้อเว้าลงมา จนสามารถมองเห็นเนื้อนุ่มคู่สวยใต้ชุดเดรสน้ำเงิน ความกระสันทำช่วงล่างปวดหนึบ ดุนดันเป้ากางเกงขึ้นเป็นลำคนตัวเล็กยกยิ้มอย่างคนมีอำนาจเหนือกว่า มือน้อยลูบไล้ลำกายแข็งขืนผ่านกางเกง เฝ้ามองคนข้างใต้พยายามบดเบียดช่วงล่างเข้าหามือเธอ"จะให้รางวัลอะไรนิกซ์ครับ" เขาถามเสียงกระเส่า ความรู้สึกตื่นตัววูบหวิวทรมานเหมือนตนกำลังโดนทำโทษมากกว่า"รอดูสิคะ ใจร้อนจัง""อ่า เมียขี้ยั่วจัง"มือซุกซนเริ่มทำการปลดตะขอกางเกงพร้อมดึงมันลง โอนิกซ์ก็ยกสะโพกช่วยให้เธอจัดการกับกางเกงเกะกะโดยง่าย ท่อนเอ็นร้อนแข็งแทบชี้หน้า แต่ก็ยังมี บ็อกเซอร์อีกตัวปกปิดเอาไว้แพรวานั่งคุกเข่าอยู่กลางหว่างขา ใช้มือสัมผัสความใหญ่โตผ่านเนื้อผ้าอย่างยั่วยวนใจเย็น แต่คนที่นอนหอบหายใจกลับจะเป็นฝ่ายทนไม่ไหวเสียเอง รูดชั้นในลง โยนทิ้งออกไปในที่สุดท่อนเอ็นใหญ่ขนาดเท่าข้อมือหญิงสาวปรากฏสู่สาย
หลังมื้ออาหารจบลง งานประมูลสินค้าเพื่อร่วมบริจาคเงินให้แก่เด็กด้อยโอกาสจึงเริ่มขึ้น แขกที่มาร่วมงานทยอยเดินไปยังโซนหน้าเวทีโอนิกซ์โอบเอวภรรยาคนสวยไว้ตลอดทาง ระมัดระวังทุกย่างก้าวจนเธอนั่งลงข้างไปรยาเรียบร้อย เขาจึงนั่งขนาบข้าง ไม่นานไฟในห้องจัดเลี้ยงก็ถูกหรี่ลง พร้อมเสียงพิธีกรดำเนินงานดังขึ้น"สวัสดีครับ ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งานประมูลเพื่อการกุศลครั้งที่ 4 รายได้จากการประมูลทั้งหมด หลักหักค่าใช้จ่ายแล้วจะนำไปช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสยังพื้นที่ห่างไกล ของที่นำมาร่วมประมูลในวันนี้มีมูลค่ารวมกันเกือบ 50 ล้านบาทเลยทีเดียว ขอให้ทุกท่านสนุกไปกับงานในครั้งนี้นะครับ"แขกที่มาร่วมงานต่างปรบมือเสียงดัง ตื่นเต้นที่จะได้ชมของล้ำค่ามากมาย และยังได้โอกาสอวดบารมีและเงินในบัญชีให้คนอื่นรับรู้ด้วย"ของชิ้นแรก เปิดกันมาด้วยแจกันเครื่องลายครามจากราชวงศ์ชิง ของประเทศจีนโบราณ พร้อมใบรับประกัน ขอเปิดการประมูลที่ หนึ่งล้านบาทครับ"เมื่อพิธีกรให้สัญญา ผู้ร่วมงานก็ชูป้ายขานราคากันอย่างสนุกสนาน แพรวาตกใจกับราคาที่สูงลิ่วของของแต่ละอย่าง ความคิดที่อยากจะร่วมงานเพื่อช่วยเหลือเด็กน้อยต้องถูกหยุดไว้ชั่วคร