เข้าสู่ระบบธาดาอัดลำรักเข้าไปในช่องทางรักที่คับแคบไม่ยั้ง ไม่สนใจกับน้ำตาและอาการเจ็บปวดของเธอ ชลาลัยขบริมฝีปากเพื่อกลั้นเสียง เลือดซึมออกมาเป็นทาง เมื่อต้องขบมันซ้ำ ๆ เพราะเจ็บปวดจนทนไม่ไหว
“ปล่อย ปล่อยฉัน...” ร้องออกมาได้เพียงแค่นั้น ก่อนสติจะดับสูญ เพราะความเจ็บปวดที่ผู้ชายป่าเถื่อนคนนี้ยัดเยียดให้เธอ
มือหนาตบลงที่ใบหน้าขาวซีด เรียกคนสลบให้รู้สึกตัว
“อย่าสำออย ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้!” ธาดาถอนตัวตนออกจากช่องทางรัก เมื่อเธอยังไม่ได้สติ กระชากแขนเรียวแต่หญิงสาวยังนอนนิ่งอยู่ที่เดิม
“อย่าเพิ่งตายนะชลาลัย คุณยังต้องเจออะไรอีกเยอะ” เขาตั้งใจล่อให้ทินกรมาที่นี่ แต่เมื่อคนที่มาเป็นเธอ ก็รับกรรมแทนคนรักไปก็แล้วกัน รักกันมากไม่ใช่เหรอ
ธาดามองคนที่นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น เหยียดยิ้มด้วยความสะใจ ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับล็อคกุญแจขังเธอเอาไว้
“เฝ้าเอาไว้ให้ดี ให้อาหารวันละมื้อ จำไว้นะถ้าไม่มีคำสั่งจากฉัน ห้ามเปิดประตูเด็ดขาด!” สั่งเด็กรับใช้ ก่อนจะเดินออกไปจากบ้าน โดยไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนแอบมองอยู่ที่หลังต้นไม้ใหญ่
“คุณดินขังใครไว้ในนั้น!” กันตาถามด้วยน้ำเสียงห้วนจัด ไม่พอใจที่ธาดาพาผู้หญิงเข้ามาในบ้าน
“ไม่รู้ครับ คุณดินไม่ได้บอก” เสกตอบไปตามตรง แต่กลับทำให้กันตาเดือดจัด
“เปิดประตู ฉันจะเข้าไปดูหน้ามัน!” กันตาสั่ง
“เปิดไม่ได้ครับ พ่อเลี้ยงสั่งไว้” เสกตอบพร้อมกับทำท่าจะเดินหนี
“กล้าลองดีกับฉันเหรอ ลืมแล้วหรือไงว่าฉันเป็นใคร!” คำพูดของกันตาทำให้เสกอึดอัด เด็กหนุ่มมองหน้าคนที่ออกคำสั่ง พร้อมกับส่ายหัวไปมา กันตาเป็นพนักงานบัญชีของไร่ เธอเป็นลูกสาวของคนมีอิทธิพล และอยากเป็นเมียเจ้าของไร่ จึงออกคำสั่งไปทั่ว
“ถ้าไม่มีคำสั่งพ่อเลี้ยง ผมเปิดไม่ได้จริง ๆ ครับ” พูดจบก็เดินจากไป
“โง่!” กันตาก่นด่าเด็กหนุ่ม เธอต้องรู้ให้ได้ว่าคนที่อยู่ในนั้นเป็นใคร คนงานที่เห็นต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ผู้หญิงที่มาหาพ่อเลี้ยงสวยและรวยมาก
ธาดามองไปยังรูปถ่ายบานใหญ่ที่แขวนอยู่บนฝาผนัง ผู้หญิงที่อยู่ในรูปยิ้มให้เขาด้วยความดีใจ ดวงตาของเธอสดใสแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน วิญญาณของฟ้ารินคงรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นชลาลัยจะต้องเจ็บปวด และตายทั้งเป็นอย่างที่ฟ้ารินเคยเป็น
“พี่แก้แค้นให้ฟ้าแล้วนะ ผู้หญิงคนนั้นจะต้องเจ็บปวดมากกว่าฟ้า ร้อยเท่าพันเท่า” ธาดาสัญญากับตัวเอง ต่อให้ชลาลัยตายไปต่อหน้า เขาก็จะไม่มีวันสงสารเธอ ทินกรเป็นคนทำให้ฟ้ารินเสียใจก็จริง แต่ถ้าชลาลัยไม่เข้ามาแทรก ฟ้ารินกับลูกคงไม่ต้องพบจุดจบที่แสนเศร้า เหล้าในมือถูกสาดลงคอแก้วต่อแก้ว มุมปากหยักยกยิ้ม ภาพที่ชลาลัยร้องขอชีวิตทำให้เขาสะใจเป็นที่สุด
“ให้ป้ายกอาหารเย็นไปให้เธอไหมคะ” บัวผันถามเพราะเป็นห่วงคนที่อยู่ในบ้านรักน้ำ เพราะตอนนี้เลยเวลาอาหารเย็นมานานแล้ว
“ไม่ต้อง! ให้แค่ข้าวเช้าวันละมื้อก็พอ” ธาดาสั่ง คำสั่งของเขาทำให้บัวผันงุนงง นางจำได้ว่าผู้หญิงคนนั้นมาดี ๆ แล้วทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ อยู่ ๆ คุณดินก็ขังเธอไว้
“ป้ายกอาหารไปไว้หน้าบ้าน ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของไอ้เสก” เพราะรู้ว่าคนตรงหน้ามีนิสัยขี้สงสาร ธาดาจึงให้บัวผันเห็นชลาลัยไม่ได้ ไม่อย่างนั้นแผนของเขาคงพัง บัวผันอยู่ที่นี่มานาน ดูแลเขากับน้องมาตั้งแต่เด็ก จึงผูกพันไม่ต่างจากญาติคนหนึ่ง ถ้าบัวผันพูดเขาก็ไม่กล้าขัด
บัวผันออกไปแล้ว ธาดาจึงหันมาสนใจกับเหล้าตรงหน้าต่อ จุดบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ มองควันสีขาวนวลที่ค่อย ๆ จางหายไปในอากาศ ด้วยความสะใจ ชลาลัยทำให้น้องเขาเจ็บ เจอแค่นี้ยังน้อยไป
โครม
ความเย็นของน้ำที่มากระทบใบหน้า ทำให้ชลาลัยรู้สึกตัว ร่างบางขยับอย่างอ่อนล้า ก่อนจะสำลักเมื่อมีน้ำอีกถังใหญ่สาดลงมาบนใบหน้า
“แค่ก ๆ ๆ ” ห่อตัวลงแล้วไอออกมาจนตัวโยน เมื่อน้ำเข้าทั้งปากและจมูก
“ลุกขึ้น! ได้เวลาทำงานแล้ว” เสียงเหี้ยมที่ได้ยิน ทำให้หญิงสาวขยับตัวหนีไปจนชิดมุมห้อง
“คุณธาดา...” เรียกชื่อชายหนุ่มเมื่อตั้งสติได้ ตากลมโตอ่อนแสงจ้องคนตรงหน้าเขม็ง นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน เธอมาเพื่อเซ็นสัญญาเรื่องการขนส่ง แต่ถูกธาดาข่มเหงอย่างโหดเหี้ยม และกักขังเอาไว้
“ใช่ผมเอง” ธาดาตอบรับพร้อมกับยักไหล่ ไม่สนใจกับสายตา ที่มองมาอย่างเกลียดชังนั่นเลยสักนิด เสนอหน้ามาแทนคนรัก ก็รับกรรมแทนไปก็แล้วกัน
“ทำแบบนี้ทำไม ฉันไปทำอะไรให้คุณ!” ตะโกนถามเพราะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เธอไปทำอะไรให้ เขาถึงมาทำร้ายเธอ
“ผู้หญิงอย่างคุณแค่นี้ยังน้อยไป ผมจะให้คนงานในไร่ วนเวียนขึ้นมาข่มขืนคุณที่ละคน จะได้สนองความร่านของคุณไง”
“สารเลว!”
“ถ้าอย่างผมเลว อย่างคุณเรียกว่าอะไร! ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเขามีเมียอยู่แล้ว ยังจะหน้าด้านแย่งผัวเขาไปอีก จิตใจของคุณทำด้วยอะไรห๊ะ!” ธาดาตลาดลั่น พร้อมกับย่างสามขุมเข้าหา ชลาลัยถอยหนีจนแผ่นหลังติดผนังห้อง
“พูดเรื่องอะไรของคุณ ฉันแย่งผัวใคร ถ้าคุณหมายถึงฟ้าริน ฉันจะบอกอะไรให้นะ เผื่อคุณจะตาสว่างขึ้น โอ๊ย!” พูดไม่ทันจบประโยค ก็ต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อถูกมือแกร่งจับที่ใบหน้าแล้วบีบลงมาที่คางอย่างแรง
“ใครใช้ให้คุณเรียกชื่อฟ้าริน!” พูดพร้อมกับบีบมือลงบนคางหญิงสาว
“ปล่อยนะ! ฉันเจ็บ!”
“คนเลว ๆ อย่างคุณ แค่นี้ยังน้อยไป อย่าเอ่ยชื่อฟ้ารินให้ผมได้ยินอีก ไม่อย่างนั้นผมจะฆ่าคุณ”
“คุณก็ดีแต่เข้าข้างน้องคุณ น้องคุณต่างหากที่แย่งคนรักฉัน ฉันกับทินกรเป็นแฟนกัน น้องคุณนั่นแหละที่แทรกเข้ามา”
เพียะ
ธาดาสะบัดหลังมือลงบนใบหน้าหญิงสาว เมื่อเธอขัดคำสั่งและท้าทายเขา ชลาลัยจะพูดอะไรก็ได้ ฟ้ารินตายไปแล้ว คนตายย่อมไม่มีโอกาสแก้ตัวให้ตัวเอง
“ไอ้หน้าตัวเมีย ทำร้ายผู้หญิง! ไอ้ผู้ชายสารเลว” ชลาลัยด่ากราดเมื่อไม่อาจฝืนเอาไว้ได้ สิ่งที่ธาดาทำกับเธอเลวร้ายที่สุด เขาไม่ฟังและไม่ให้โอกาสเธออธิบายเลยสักนิด
ฝนที่ตกลงมาอย่างไม่มีสาเหตุ ทำให้ชลาลัยตกใจกลัว เธอไม่รู้ว่าด้านนอกมีคนอยู่หรือไม่ เพราะทุกครั้งที่มืดลงเธอจะปิดประตูห้องนอน ขังตัวเองเอาไว้ ตะเกียงดับเพราะลมที่พัดแรง ยิ่งทำให้เธอกลัวมากขึ้นไปอีก หญิงสาวนอนกอดตัวเองในความมืด ผ้าห่มที่บัวผันเอามาให้ช่วยเธอได้มาก เพราะหนาวจนจับขั้วหัวใจ น้ำตาพากันไหลลงมาอีก เมื่อคิดถึงคำพูดของคุณหมอ เธอต้องกินอาหารให้ครบห้าหมู่ และดื่มนมมาก ๆ เจ้าตัวเล็กในท้องจะได้แข็งแรง หมอจะรู้ไหมว่าสิ่งที่เธอได้กินในแต่ละวันคืออะไร ข้าวเปล่ากับผักต้มและน้ำปลา บางวันมีไข่ต้มมาด้วย แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ต่อให้เขาจัดอาหารดี ๆ มาให้ เธอก็กินไม่ลง ฟ้ารินบอกอะไรกับพี่ชายของเธอ ธาดาถึงได้เกลียดชังเธอขนาดนี้ ถ้าเธอออกไปจากที่นี่ได้เมื่อไร เธอจะไม่มีวันย้อนกลับมา ธาดาจะไม่ได้เห็นหน้าลูก เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ น้ำตาก็ไหลออกมาอีก ธาดาคงไม่อยากเห็นหน้าลูก เพราะเขาไม่ต้องการลูกต้องแต่แรกแล้ว ลูกคือเครื่องมือแก้แค้นของเขา เธอจะไม่มีวันให้ใครมาทำร้ายลูกของเธอ จะพาเขาไปหาที่อยู่ใหม่ แล้วใช้ชีวิตกันสองคน แค่คิดก็มีความสุขแล้ว ไม่ว่าธาดาหรือทินกร ก็ไม่มีใครได้แตะต้องลูกของเธอ
บัวผันมาหาหญิงสาวตอนบ่าย หญิงสูงวัยกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เมื่อเห็นสภาพของเธอ “คุณน้ำขา ลุกขึ้นมากินอะไรสักหน่อยนะคะ ป้าเอาข้าวมาให้” ที่ผ่านมาชลาลัยได้กินแต่ข้าวกับผักต้ม ร่างกายถึงได้ผ่ายผอม พักหลัง ๆ คนเฝ้าประตูบอกว่าเธอไม่แตะอาหารเลย จึงทำให้ผอมลงไปอีก “ฉันไม่หิวค่ะป้า” “ไม่หิวก็ต้องฝืนนะคะ เห็นแก่นายน้อยนะคะ คุณน้ำไม่ใช่ตัวคนเดียวอีกแล้ว จะทำอะไรก็นึกถึงลูกบ้างนะคะ” บัวผันเกลี้ยกล่อม น้ำตาไหลอาบแก้ม เพราะสงสารคนที่อยู่ในท้อง นายน้อยไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ทำไมต้องมารับกรรมที่พ่อแม่ทำไว้ “ดื่มนมสักนิดนะคะ ป้าเอานมมาให้ด้วย” ชลาลัยน้ำตารื้นหัวตา คงแค่มื้อนี้มื้อเดียว พรุ่งนี้กับข้าวของเธอ คงมีแค่ข้าวกับผักต้มตามเดิม “ป้าวางนมไว้ตรงนั้นนะคะ ดึก ๆ ฉันจะลุกมากิน” บอกให้คนแก่สบายใจ แต่เธอไม่คิดจะดื่มมัน “ผ้าห่มค่ะ กลางคืนอากาศหนาว ห่มอีกชั้นนะคะจะได้อุ่นขึ้น” “ขอบคุณนะคะป้า ฉันจะไม่ลืมบุญคุณของป้าเลย” พูดจบชลาลัยก็หลับตาลง เป็นอันจบบทสนทนา บัวผันมองโซ่ที่ขาสลับกับใบหน้าที่ซีดเผือดของหญิงสาว ต้องโ
หลังจากตรวจเสร็จ คุณหมอหนุ่มก็เข้ามารายงานอาการของคนป่วยให้เจ้าของไร่ทราบ ธาดาตกใจจนพูดไม่ออก เมื่อรู้ว่าชลาลัยตั้งท้อง เร็วเกินไปหรือเปล่า ชลาลัยมาอยู่ที่นี่ยังไม่ถึงเดือน เธอท้องแล้วเหรอ ตั้งแต่วันนั้น เขาก็ไม่ได้ไปหาเธออีก คนของเขารายงานว่าเธอไม่ยอมกินอาหาร ร่างกายซูบผอมจนล้มป่วย แล้วยังมาท้องอีก แบบนี้ร่างกายเธอจะรับไหวเหรอ “มึงจะบอกกูได้หรือยังว่าเธอท้องกับใคร อย่าบอกนะว่าท้องกับมึง” พชรถามเมื่อเพื่อนไม่ตอบจึงสรุปเอาเอง ธาดาไม่ปฏิเสธ ยิ่งทำให้คุณหมองงหนักขึ้นไปอีก เกิดอะไรขึ้น ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แล้วทำไมถึงอยู่ในสภาพนั้น หน้าตาผิวพรรณบ่งบอกให้รู้ว่าเธอไม่ใช่คนแถวนี้ “ไม่ปฏิเสธ แสดงว่าจริง เกิดอะไรขึ้น ทำไมมึงให้เธออยู่อย่างนั้น ไหนจะโซ่ที่ขาอีก มึงรู้ไหมว่ามันบาดขาเธอจนเป็นแผลลึก เล่ามาเลยนะ เล่ามาให้หมด ไม่อย่างนั้นกูจะแจ้งความให้ตำรวจมาจับมึง” พชรขู่ ธาดายกมือกุมขมับ พร้อมกับถอนหายใจออกมา “ไว้กูจะเล่าให้ฟังทีหลัง มึงว่าอาการเธอเป็นยังไงนะ” หมอหนุ่มกลอกตา เมื่อเพื่อนไม่ยอมปริปาก ดีที่ยังเป็นห่วงเธอบาง “คนท้องนะมึง ถ้าไม่กินข้า
ธาดาวางหญิงสาวลงบนแคร่ไม้ไผ่ โดยมีบัวผันช่วยเหลืออยู่ไม่ห่าง “ทำไมต้องทำรุนแรงด้วยคะ” บัวผันถาม พร้อมกับใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดไปบนเนื้อตัวของหญิงสาว หญิงสูงวัยหัวใจกระตุก เมื่อเห็นแผลเป็นทางยาวที่เท้าและตามตัวของเธอ “ป้าก็เห็นว่าเธอคิดหนี” ธาดาตอบพร้อมกับถอนหายใจออกมา ไม่พอใจที่ถูกคนที่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็กตำหนิ “แล้วคุณดินทำอะไรคะ เธอถึงคิดหนี” “ป้าไม่รู้อะไรอย่าพูดดีกว่า” “ค่ะ ป้าจะไม่พูด จะไม่ยุ่งกับคุณดินอีก แต่ป้าขอนะคะ อย่าทำร้ายเธออีกเลย แค่นี้เธอก็เจ็บเจียนตายแล้วค่ะ” บัวผันตัดบท นางไม่รู้ปัญหาของสองคนนี้ นางก็จะไม่ยุ่งอีก ธาดาเป็นคนมีเหตุผล แต่สิ่งที่เขาทำกับชลาลัยมันมากเกินไป จนนางทนไม่ไหว “ขอโทษครับป้า” ธาดาขอโทษที่เผลอใช้คำพูดไม่ดีกับบัวผัน “ไม่เป็นไรค่ะป้าไม่โกรธ คุณดินเป็นคนมีเหตุผล ป้าเชื่อว่าที่คุณดินทำ คุณดินต้องคิดมาแล้วถึงทำ” บัวผันประชดให้คนหนุ่ม ธาดากลอกตาไปมา ตกลงป้าบัวผันเป็นคนของใครกันแน่ ทำไมไปอยู่ข้างชลาลัย “ออกไปสิคะป้าจะเช็ดตัวให้คุณน้ำ” บัวผันไล่เจ้านาย ที่ยังยืน
ชลาลัยมองเห็นไฟทางบนถนน ภูเขาที่อยู่อีกฟากถนนตั้งตระงาน ทอดเงาทะมึนมาบดบังแสงไฟ มองแล้วคล้ายกับเงาของผู้ชายร่างสูงใหญ่ ยืนจังก้าขวางอยู่ตรงนั้น ชลาลัยหอบหายใจถี่ ๆ รู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ จังหวะที่วิ่งมาถึงบริเวณทุ่งโล่ง สายลมพัดมากระทบผิวกาย รู้สึกเย็นยะเยือกจนจับขั้วหัวใจ ขนอ่อนพากันเรียงตัว ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ เมื่อเห็นรถยนต์จอดอยู่ริมถนน “นั่นครับรถ” เสกหันมาบอก ชลาลัยยิ้มตอบ ใบหน้าหญิงสาวเต็มไปด้วยความหวัง อีกนิดเดียวเท่านั้น อีกห้าสิบเมตรเธอก็จะถึงรถ หลังจากนั้นเธอก็จะหลุดพ้นเสกที่วิ่งนำหน้าหยุดชะงัก แล้ววิ่งออกไปอีกทาง ชลาลัยตกใจกับการกระทำของเด็กหนุ่ม ไม่ทันได้คิดนาน แสงไฟฉายและสปอร์ตไลท์ก็สว่างขึ้น แสงไฟดวงใหญ่จับอยู่ที่ตัวเสก ไม่ว่าเสกจะวิ่งไปทางไหนไฟก็ส่องตามไป ไฟฉายอีกดวงถูกส่องมาที่หน้าเธอ ชลาลัยทำอะไรไม่ถูก ล้มทั้งยืนเมื่อเห็นว่าคนที่ส่องไฟมาที่หน้าเธอเป็นใคร “จับไอ้เสกไว้!” สิ้นคำสั่งชายฉกรรจ์กลุ่มใหญ่ก็วิ่งตามเสกไป ชลาลัยถอยหนี ใช้มือปัดป้องตัวเอง เมื่อฝ่ามือใหญ่คว้าลงมาที่ต้นแขน “คิดว่าหนีผมพ้นเหรอ! ร้ายมากนะ มิน่าเมื
ชลาลัยมองข้าวในถาด ก่อนจะนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงนอน อยู่ ๆ ก็ไม่อยากกินอาหาร ความรู้สึกตื่นเต้นดีใจที่จะได้ออกไปจากที่นี่หายไปจนหมดสิ้น หลังจากนัดเวลากับเสก หญิงสาวก็ทิ้งตัวลงบนเตียงนอน เวลาแค่ไม่กี่วันที่อยู่ด้วยกัน ทำไมเธอถึงรู้สึกกับธาดามากมายขนาดนี้ คงเพราะเขาเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ พยายามบอกตัวเองว่าไม่ได้รู้สึกกับสิ่งที่เขาทำ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับว่าเธอกำลังหลอกตัวเอง ถ้าธาดารู้ว่าเธอไม่ได้เป็นคนทำให้ฟ้ารินเสียชีวิต เขาจะรู้สึกอย่างไรกับเธอ ความเกลียดชังที่เขามีต่อเธอจะเบาบางลงบ้างไหม “ลาก่อนนะคุณธาดา หวังว่าเราคงไม่ต้องมาเจอกันอีก” บอกลาเขาในใจ จากกันครั้งนี้คงไม่ได้เจอกันอีก เป็นอีกวันที่ธาดาไม่มีสมาธิทำงาน ชายหนุ่มพาตัวเองออกมาท้ายไร่ ดูผลผลิตที่กำลังจะได้เก็บเกี่ยวในอีกไม่นาน ทำตัวให้ยุ่งที่สุด จะได้ไม่ต้องคิดถึงเธอ รอให้เธอตั้งท้องเขาจะพาเธอไปส่งที่บ้าน ถึงเวลานั้นคงไม่ต้องมาเจอกันอีก ปีนี้ลำไยราคาดีกว่าทุกปี เพราะช่วงที่ราคาตกต่ำ เกษตรกรพากันตัดต้นทิ้ง เขาบอกให้ทุกคนอดทน และทำแบบที่เขาทำ แต่ชาวบ้านก็ทนไม่ไหว ที่ลำไยของชาวบ้านขายไม่ได้ราคา เพราะผลผลิตไม่ได้มาตร







