/ รักโบราณ / เชลยแค้นแม่ทัพทมิฬ / บทที่ 7 ผู้เดียวที่รังแกนางได้คือข้า

공유

บทที่ 7 ผู้เดียวที่รังแกนางได้คือข้า

last update 최신 업데이트: 2025-04-20 10:06:49

บทที่ 7 ผู้เดียวที่รังแกนางได้คือข้า

“ข้ามากกว่าที่ต้องเป็นผู้ที่ถามเกิดอะไรขึ้น” สายตาของเขาเหลือบไปมองร่างกายและใบหน้าของจางอวิ๋นหลิงนัยน์ตาเริ่มเข็งกราวกัดฟันกรามเอ่ยถามสาวใช้ที่กล้าใช้มือสกปรกทำร้ายนาง

“เอ่อ.. นางเชลยผู้นี้ไม่ตั้งใจทำงานเจ้าค่ะ ข้าเพียงแค่สอนงานให้นางเท่านั้นนางเคยเป็นคุณหนูสตรีผู้สูงส่งคงไม่เก่งเรื่องงานเช่นนี้ แต่ผู้ใดจะคิดว่านางจะกล้าโต้เถียงและไม่ยอมทำตามที่ข้าสอนเจ้าค่ะ ดูผ้าพวกนี้สิเจ้าคะนางบอกว่านางจัดการเสร็จแล้วแต่ยังมีเศษดินหลงเหลืออยู่ ข้าจึงให้นางซักใหม่แต่ใครจะคิดว่านางจะโมโหจนถึงขั้นลงไม้ลงมือกับข้าเจ้าค่ะ”

“เป็นเช่นนั้นหรือ? หลวนฮวานจัดการจับตัวนางและจับมือของนางวางลงบนท่อนไม้นี้” หลวนฮวานพยักหน้าเดินมาด้านหลังของอวิ๋นหลิง ไป๋หนิงซินรีบพูดขึ้นมากลัวว่าท่านแม่ทัพจะลงโทษผิดคน

“ท่านแม่ทัพมิใช่อย่างที่นางเอ่ยออกมานะเจ้าคะ นางโกหก”

“ไป๋หนิงซินข้ามิได้ขอความเห็นเจ้าและไม่ได้ให้เจ้าเอ่ยอันใดหุบปากไปเสีย” ไป๋หนิงซินจ้องมองอวิ๋นหลิงใบหน้าเริ่มเศร้าหมองที่ตนช่วยอันใดนางมิได้เลย แต่ทว่าอวิ๋นหลิงกลับไม่รู้สึกหวาดกลัวเลย จ้องมองประสานตากับไท่หยางอย่างแน่วแน่

ครานั้นทุกอย่างกลับแปรแปลี่ยนเมื่อหลวนฮวานเดินผ่านอวิ๋นหลิงไปจับตัวของสาวใช้ที่เป็นหัวโจกก้มลงแนบพื้นจับมือของนางผายออก ยามนั้นนางเริ่มตื่นตระหนกทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างพากันงงงวย ไท่หยางไม่เอ่ยให้มากความจับกระชากดาบออกจากเอวของหลวนฮวานฟันลงที่มือของนางอย่างโหดเหี้ยม เสียงกรี๊ดร้องของนางโหยหวนไปทั่วทั้งจวน

“กรี๊ดดดด!” 

“อีกสองนางนี้จัดการใช้ไม้ทุบมือของนางให้กระดูกแตกสลายละเอียดเป็นผุยผง ไม่ต้องให้ยาแก้ปวดแก่นางพวกนี้และพวกเจ้าทุกคนในจวนนี้จงจำไว้ให้ดีสตรีนางนี้มีเพียงข้าเท่านั้นที่จะสั่งสอนและลงโทษนางได้เพียงผู้เดียว ผู้อื่นอย่าแม้แต่จะคิดครั้งนี้ถือว่าข้ายังเมตตาไม่ใช้ดาบฟันคอของเจ้า ไป๋หนิงซินพาตัวอวิ๋นหลิงกลับห้องพัก” ไป๋หนิงซินสะใจจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่นางเตือนไปแล้วแต่คนพวกนี้กลับไม่เชื่อฟังโดนอย่างนี้สมควรแล้วจริง ๆ นางยอบตัวลงเพื่อน้อมรับคำสั่งและพยุงตัวของอวิ๋นหลิงกลับห้อง

อวิ๋นหลิงปลายสายตามองชายที่ไร้ความเมตตาผู้นี้และไม่เข้าใจเขาสักนิด เขาต้องการทำเช่นนี้ทำไมกันนางต่างหากที่เป็นเชลยและเขาต้องลงโทษนางสิมิใช่สาวใช้ในจวนแต่เขาเลือกปกป้องนางและลงโทษสาวใช้พวกนี้มิใช่ว่าใจของเขายังมีเยื่อใยต่อนางอยู่หรือ? แต่กระนั้นนางก็มิได้ดีใจและโล่งใจกลับทุกข์ใจยิ่งกว่าเดิมเสมือนว่าการหนีจากเขามันยิ่งไกลมากกว่าเดิม

มาถึงห้องไป๋หนิงซินจ้องมองบาดแผลมุมปากของอวิ๋นหลิงมีเลือดไหลซึมออกมา ค่อย ๆ ใช้ผ้าเช็ดเลือดออกอย่างเบามือ

“เจ้านี่นะยอมให้พวกนั้นลงมือกับเจ้าได้ยังไงกันหากข้าไม่ไปเจ้าคงถูกกระทำมากกว่านี้ ดูสิใบหน้าของเจ้าเกิดบาดแผลเลย ไหนขอดูมือของเจ้าหน่อย”

“เจ้าเองก็เจ็บเช่นกันและยังเจ็บมากกว่าข้าอีกด้วยทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะเจ็บตัวเลย ขอบคุณนะไป๋หนิงซินขอบคุณจริง ๆ ที่ดีกับข้าเช่นนี้”

“เฮ้อ! ครั้งนี้เราไม่ได้รับบาดเจ็บหนักเพราะท่านแม่ทัพมาช่วยเอาไว้ทัน ต่อจากนี้เจ้าต้องรู้จักสู้สิมีมือมีเท้าเช่นกันนะ” ไป๋หนิงซินถอนหายใจเฮือกใหญ่จ้องมองมือของอวิ๋นหลิงพลางสงสารจับใจ

อีกฝั่งของเรือน

แม่ทัพไท่หยางยืนจ้องมองสาวใช้ถูกลงโทษจนพึงพอใจ จิตใจเริ่มเย็นลงเมื่อครู่เขาแทบจะฆ่าคนพวกนี้ทิ้งเสียที่กล้าแตะต้องร่างกายของอวิ๋นหลิงให้เกิดริ้วรอย ต่อจากนี้คงไม่มีผู้ใดกล้าทำอันใดนางอีก หากจะมีก็มีเพียงแต่เขาเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์กระทำกลั่นแกล้งทำให้นางเจ็บปวดจนเลือดกระอักในอก

2 วันต่อมา

ตั้งแต่เกิดเรื่องหลังจวนไท่หยางให้อวิ๋นหลิงไปทำงานในครัวกับไป๋หนิงซินแทนจะได้อยู่ในสายตาของนางตลอดเวลา บ่าวไพรในจวนตั้งแต่เห็นการลงโทษที่กล้าแตะต้องเชลยศึกนางนี้ไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากพูดเดินผ่านกันอย่างรวดเร็วและไม่กล้าแม่แต่จะสบตาของนางด้วยซ้ำเพราะความกลัวตาย ทำให้บรรยากาศในครัวอึกครึมมีเพียงไป๋หนิงซินที่ยังคงพูดคุยและสอนงานนางในครัวทุกอย่าง และตั้งแต่วันนั้นอวิ๋นหลิงก็ไม่ได้เห็นหน้าของไท่หยางอีกเลย เขาคงจะปล่อยให้นางเป็นสาวใช้ก้นครัวเช่นนี้ทว่าความสบายใจของนางมีเพียงครู่เดียว เสียงหลวนฮวานทหารมือขวาของไท่หยางก็มาเรียกนางถึงครัว

“จางอวิ๋นหลิงท่านแม่ทัพให้ข้ามาพาตัวเจ้าไปพบ”

“เจ้าค่ะ” อวิ๋นหลิงน้อบมรับคำสั่งเดินตามหลังหลวนฮวานไปทันที

ศาลารับลมในจวนไท่หยางกำลังนั่งดื่มด่ำน้ำชากับสหายรักนั่นคือองค์ชายสามที่นำหนังสือคำสั่งจากฝ่าบาทมามอบให้แก่แม่ทัพไท่หยาง และเขาก็รู้ถึงความสัมพันธ์ของทั้งสอง

“เจ้าทำเช่นนี้คิดดีแล้วอย่างนั้นหรือ? เจ้าต้องการเห็นนางเป็นอย่างที่เจ้าต้องการแล้วจิตใจของเจ้ารู้สึกสะใจดีใจหรือไม่เมื่อเห็นนางเจ็บปวด หยุดเถิดในตอนนี้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไปสายตาของเจ้านะเพียงแค่ข้ามองก็เห็นได้ชัดว่าเจ้าเองก็เจ็บปวดไม่น้อย”

“เฮอะ! เจ้าเป็นเพียงสหายของข้ามิได้รู้ใจข้าทุกอย่างหรอก ข้านะไม่รู้สึกเสียใจเลยแม้แต่น้อยและไม่เห็นใจนางต่อให้นางเจ็บปวดเจียนตายรอยยิ้มบนใบหน้าของข้ายังคงยิ้มเยาะ เพราะตอนนี้ข้าไม่ได้รู้สึกอะไรกับนางแล้ว ไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยวเดียวที่ข้าเคยมีก็ขาดสะบั้นตั้งแต่ที่ข้ารู้ว่านางเป็นบุตรสาวของจางชิงหลงเจ้าแคว้นหนานไฮ้ศัตรูที่ย่ำยีกระทำชั่วช้าต่อท่านแม่ของข้า ข้าจะทำให้นางเจ็บปวดยิ่งกว่าที่ท่านแม่ของข้าได้พบเจอ” องค์ชายสามเหลียงอวี้จ้องมองสหายพลางส่ายหน้าไปมาก่อนจะพูดเพื่อย้ำเตือนสติเขาอีกครา

“หากเจ้ามั่นใจเช่นนั้น วันหนึ่งเจ้าอย่าได้รู้สึกเจ็บปวดกับการกระทำที่เจ้าทำลงไปล่ะ เพราะเมื่อครานั้นทุกสิ่งอย่างและเวลามิอาจหวนคืนกลับมาได้อีกครา”

“ฮึ! ไม่มีทาง นางมิใช่คนรักของข้าอีกต่อไปนางคือเชลยที่รอวันประหารเท่านั้น” ไท่หยางยกจอกน้ำชากระดกเข้าปากรวดเดียวจนหมด ผู้อื่นจะรู้ดีไปกว่าเขาได้อย่างไรกันไม่มีวันที่เขาจะหวนรู้สึกเสียใจที่ได้ทำกับนาง 

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • เชลยแค้นแม่ทัพทมิฬ   บทที่ 28 ปล่อยวาง(ตอนจบ)

    บทที่ 28 ปล่อยวางอวิ๋นหลิงเงยหน้าขึ้นมองไปด้านอื่นน้ำตาไหลรินไม่ต่างกัน ความเจ็บปวดที่นางพบเจอล้วนแต่เป็นเขาที่เป็นคนทำมัน ความปวดร้าวเรื่องราวที่ผ่านมาจะให้นางให้อภัยได้อย่างไร เขายังคงกอดขานางแน่น อวิ๋นหลิงไตร่ตรองเป็นอย่างดีก่อนจะเอ่ยมาทำลายความเงียบภายในห้อง“แต่มีทางหนึ่งที่ท่านสามารถทำให้ข้าให้อภัยท่านได้ ” ไท่หยางเงยหน้าขึ้นจ้องมองนาง รีบลุกขึ้นไม่ว่านางจะให้เขาทำอะไรข้ายอมทั้งนั้นหากมันจะทำให้นางให้อภัยเขาได้ และเขาจะได้ไถ่โทษกับตระกูลของนาง“ไม่ว่าเจ้าจะให้ข้าทำอะไร ข้าทำให้เจ้าได้ทั้งนั้นหากเจ้ายอมให้อภัยข้าในสิ่งที่ผ่านมา”“ปล่อย.. ปล่อยข้าไปอย่าได้รั้งกันไว้อีกเลย เพียงเท่านี้เราทั้งสองก็เจ็บปวดมามากพอแล้ว ข้าไม่อาจทนเห็นใบหน้าของท่านได้อีกความเกลียดความแค้นมันมากมายเหลือเกิน เพียงเห็นใบหน้าของท่าน ข้าก็อดที่จะคิดถึงเรื่องราวที่ท่านเคยทำไว้ไม่ได้ ได้โปรดปล่อยข้าไปเสีย ข้าจะอภัยให้ทุกสิ่งทุกอย่างเราหมดวาสนาต่อกันเพียงเท่านี้เถิด ข้าเหน็ดเหนื่อยไม่อยากจะพบเจอเรื่องเช่นนี้อีกต่อไป ...” ไท่หยางหมดเรี่ยวแรงปล่อยมือออกจากกายของนาง ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมที่ตนเองก่อขึ้นมา“ข้ารู้ว

  • เชลยแค้นแม่ทัพทมิฬ   บทที่27 ความจริงที่แสนเจ็บปวด

    บทที่27 ความจริงที่แสนเจ็บปวดครั้นสองเท้าย่างกรายออกมาด้านนอกบัดนี้กองกำลังของเขาถูกล้อมไปด้วยทหารของแคว้นหยางอันจนหมดสิ้น โดยมีแม่ทัพหลิวไท่หยางยืนรอเขาอยู่ด้านหน้าจวน“เจ้าช้ากว่าข้าไปหนึ่งก้าว ยอมแพ้แต่โดยดีเพราะตอนนี้แคว้นของเจ้าถูกคนของข้าล้อมรอบไว้หมดแล้ว” ไท่หยางป่าวประกาศน้ำเสียงเข้มขรึมน่าเกรงขาม อีกฝ่ายกลับหัวเราะออกมาอย่างขบขัน นี่เขาพลาดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน“ฮ่า ฮ่า เจ้าคิดว่าเพียงแค่นี้ข้าจะยอมแพ้หรือ แคว้นฉู่ของข้า ยอมตายแต่ไม่ยอมลดศักดิ์ศรีเด็ดขาด พวกเราลุกขึ้นสู้เพื่อแคว้นของเรา” ชางถิงพูดปลุกใจของเหล่าทหารชั่วพริบตาเดียวกองทัพทหารของแคว้นฉู่ได้วิ่งกรู่ออกมาอีกจำนวนมาก เริ่มปะทะสู้กันอย่างดุเดือด ยามนี้แคว้นฉู่นองเลือดจนกลิ่นคละคลุ้งผู้คนเริ่มล้มตายจากการต่อสู้ และแล้วเขาก็ตกอยู่ใต้ดาบของหลิวไท่หยาง กายเต็มไปด้วยเลือดของศัตรูอาบใบหน้า ถือดาบจ่อที่คอของชางถิง“ฮ่า ฮ่า ในที่สุดเจ้าก็ชนะข้า เอาสิบั่นคอข้าไปเลยเจ้าจะได้นำชัยชนะกลับไป เอ๊ะเดี๋ยวสิ! ข้าจะบอกแก่เจ้าก่อนแล้วกัน ข้าได้ยินมาว่าจับตัวบุตรสาวของจางชิงหลงแคว้นหนานไฮ้ไปเพื่อแก้แค้นนางใช่หรือไม่ อีกอย่างเจ้าเองก็ลงมื

  • เชลยแค้นแม่ทัพทมิฬ   บทที่ 26 รับไว้เพียงไมตรีมิอาจจะรับความรักของท่านได้

    บทที่ 26 รับไว้เพียงไมตรีมิอาจจะรับความรักของท่านได้ฝั่งด้านอวิ๋นหลิงตั้งแต่หลังจากกลับมาจากวันนั้น นางไม่ได้พบเจอหน้าไท่หยางอีกเลย ได้ยินผ่านจากไป๋หนิงซินว่าเขาปลอดภัยดีนางเองก็สบายใจทำงานเหมือนอย่างเคย แม้จะอยู่ห้องใกล้ ๆ กันกับเขาแต่ทว่านางไม่เคยคิดจะก้าวเข้าไปหาเขาเลยด้วยซ้ำ“เจ้าคิดอะไรอยู่หรือ ? ” ไป๋หนิงซินยื่นหมั่นโถวให้นางพลางย่อนกายนั่งลงข้าง ๆ ช่วงนี้เหมือนหิมะจะหยุดตกแล้วทว่ายังมีความเยือกเย็นหลงเหลืออยู่ในอากาศ หมั่นโถวร้อน ๆ พอทำให้คลายหนาวได้บ้าง“ขอบใจนะ ข้าเพียงแค่คิดว่าหากข้าไม่กลับมาเจ้าจะเป็นอย่างไร คิดถึงข้าบ้างหรือไม่?”“ถามมาได้ขนาดเจ้าหายไปเพียงหนึ่งคืนข้าแทบนอนไม่หลับ กระวนกระวายไปหมดไม่เห็นหรือไงว่าข้าดีใจแค่ไหนที่เจ้ากลับมา ” ไป๋หนิงซินเอ่ยพลางกินหมั่นโถวเข้าปากคำใหญ่“นั่นสินะ ... ถ้าตอนนั้นข้าเลือกที่จะทิ้งไท่หยางและหนีไปตอนนี้ชีวิตของข้าจะเป็นอย่างไรนะ”“อย่าบอกนะว่าเจ้ามีโอกาสหนียามที่ท่านแม่ทัพได้รับบาดเจ็บนะ”“อื้ม ...แม่ทัพของเจ้าบอกให้ข้าหนีไปยามมีโอกาสแต่ไม่รู้ทำไมข้าถึงไม่หนีกันนะ อาจจะเป็นเพราะว่าข้าเกรงว่าเจ้าจะร่ำไห้เพราะเป็นห่วงข้านะสิ ฮึ ฮึ”

  • เชลยแค้นแม่ทัพทมิฬ   บทที่ 25 แม่ทัพถูกโจมตี

    บทที่ 25 แม่ทัพถูกโจมตีจวนแม่ทัพหลิวไท่หยางไป๋หนิงซินเฝ้ามองไปที่ประตูจิตใจกระวนกระวายเป็นห่วงอวิ๋นหลิง นี่ก็ยามซวี (19.00) แล้วทั้งสองคนยังไม่กลับเข้าจวนอีกทั้งหิมะก็ตกแรงมากกว่าเดิม นางมิอาจจะเก็บความเป็นห่วงเอาไว้ได้รีบย่างกรายไปหาหลวนฮวานที่ยืนอยู่หน้าห้องของแม่ทัพไท่หยาง“หลวนฮวานทำไมท่านถึงใจเย็นได้ ไม่ร้อนใจเลยหรือ?เมื่อไหร่ท่านแม่ทัพจะพาอวิ๋นหลิงกลับจวน ข้าชักเป็นห่วงจริง ๆ หวังว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับท่านแม่ทัพหรอกใช่มั้ย”“เจ้าอย่าเป็นกังวลไปเลย ท่านแม่ทัพมีฝีมืออีกไม่นานก็คงกลับมา” แม้ปากจะเอ่ยเช่นนั้นแต่ใจของหลวนฮวานก็เป็นห่วงท่านแม่ทัพเช่นเดียวกัน ทว่ายามนั้นมีทหารใบหน้าแตกตื่นวิ่งเข้ามาแจ้งให้หลวนฮวานได้รับรู้“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”“เรื่องอะไรกันทำไมเจ้าถึงได้รีบร้อนวิ่งมาถึงเพียงนี้”“ข้าออกไปดื่มสุราที่โรงเตี๊ยมมาเมื่อครู่ได้ยินเรื่องของท่านแม่ทัพ มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่อยู่ใกล้ ๆ หุบเขามาพูดคุยกันเรื่องของแม่ทัพไท่หยางเขาขึ้นไปเก็บสมุนไพรและเห็นว่าท่านแม่ทัพกำลังถูกคนของแคว้นฉู่ไล่ล่า คนของพวกนั้นมากันมาเหลือเกินไม่รู้ว่าป่านนี้ท่านแม่ทัพจะเป็น

  • เชลยแค้นแม่ทัพทมิฬ   บทที่ 24 หนีไปสิตอนที่เจ้ามีโอกาส

    บทที่ 24 หนีไปสิตอนที่เจ้ามีโอกาสสีหน้าของเขาเริ่มซีดเซียวขาวเผือกไร้เลือดฝาด นางพยุงเขาเข้ามาด้านในพร้อมจับเขานั่งลงพิงผนังหิน กลิ่นเลือดคละคลุ้งเต็มอากาศยังคงไหลไม่หยุด อวิ๋นหลิงจ้องมองฝ่ายตรงข้ามพร้อมครุ่นคิดหากนางจะใช้โอกาสนี้ในการหลบหนีคงไม่ยากเพราะเขาคงไม่มีเรี่ยวแรงจะตามนางได้ทันแน่ ๆ นางต้องการหลุดพ้นจากเขาจึงช่างใจคิดครู่ใหญ่ และเหมือนว่าไท่หยางจะรู้ถึงความคิดของนาง“เจ้าคงคิดอยากจะทิ้งข้าไว้และหนีข้าไปสินะ เอาสิยามนี้เป็นเวลาที่เจ้าจะได้หลุดพ้นจากเนื้อมือของข้าแล้ว โอกาสที่เจ้าจะหนีจากข้ามาถึงแล้วปล่อยให้ข้ารอความตายอยู่ที่นี่โดยมิต้องใส่ใจข้า แต่ถ้าหากว่าข้ารอดไปได้ข้าจะตามหาเจ้าต่อให้ต้องพลิกแผ่นดินทั่วใต้หล้าข้าก็จะตามหาเจ้าให้เจอ เมื่อนั้นอย่าหวังว่าจะหนีข้าไปได้เพราะข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปอีก” น้ำเสียงแหบพร่าคล้ายคนกำลังหมดแรงเอ่ยออกมาโดยใช้กำลังทั้งหมด อวิ๋นหลิงเริ่มลังเล หากนางจะหนีเขาไปนางจะไม่มีทางให้เขาหานางได้พบเลย นางหันไปมองหน้าถ้ำก่อนจะหันกลับมามองไท่หยางอีกครา ถอนหายใจเฮือกใหญ่ลุกขึ้นยืนและวิ่งออกไปจากถ้ำทันที ปล่อยให้เขาอยู่ในถ้ำรอความตายและทนความเจ็บปวดที่กำ

  • เชลยแค้นแม่ทัพทมิฬ   บทที่ 23 จำไม่ได้

    บทที่ 23 จำไม่ได้‘คำพูดของนางทำให้จิตใจของข้าสั่นคลอนได้ถึงเพียงนี้เลยหรือ ?’ “เฮ้อ ! เจ้าคิดว่าเจ้าพบเจอเพียงเท่านี้แล้วข้าจะหายโกรธแค้นหรืออย่างไรกัน เพียงเท่านี้ยังน้อยไปกับที่ท่านแม่ข้าพบเจอ เลิกทำสายตาสีหน้าเบื่อโลกเสียข้าบอกแล้วอย่างไรว่าข้าไม่มีทางให้เจ้าตายจากข้าไปง่าย ๆ ที่ข้าพาเจ้ามาที่นี่เพราะอยากตอกย้ำความเจ็บปวดเจ้าเท่านั้น เจ้าจำที่นี่ไม่ได้เลยหรือ” อวิ๋นหลิงหมดสิ้นความหวังที่เขาจะผลักนางลงเหว เขาก็ยังคงเป็นเช่นนี้เสมอเป็นชายที่ไร้ใจอำมหิตไม่ยอมปล่อยให้นางได้ทำตามความปรารถนานางกวาดสายตามองไปด้านหน้า เทือกเขาสูงชันแม้ท้องฟ้าจะไร้แสงอาทิตย์แต่นางยังคงมองเห็นทิวทัศน์ด้านล่างได้อย่างชัดเจน แต่ทว่าความทรงจำของอวิ๋นหลิงกลับจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าที่นี่มีความหมายต่อนางอย่างไร แล้วทำไมนางต้องเจ็บปวดด้วยเล่า“ข้าไม่เห็นอันใดแม้แต่น้อยเห็นแต่หุบเขา ท่านต้องการสิ่งใดกับข้ากันแน่ หากไม่ต้องการผลักข้าตกเหวแล้วสิ่งใดกันในที่นี่จะทำให้ข้าเจ็บปวด ” น้ำเสียงนิ่งเรียบตอบกลับอย่างไร้ความรู้สึก ทำให้อีกฝ่ายโมโหขึ้นทันตา เพราะสถานที่นี้คือที่ที่เขาเคยพานางเมื่อยามที่รักกันปานจะกลืนกินก่อนที

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status