พีรดลส่งข้อความหาคนรักทันทีที่กำลังจะออกเดินทางไปที่น้ำตก
Pp(มะนาว เราไปกับลูกแพรนะ เรากับลูกแพรสนิทกัน คุณป๋าจะได้ไม่สงสัย หากเราไปด้วยกันคุณป๋าอาจดูออก")
Mn("อืมเราเข้าใจ พีไปกับแพรเถอะ ว่าแต่คุณป๋าจะไม่ไปจับผิดแพรนะ นาวกลัวเพื่อนเดือดร้อน")
Pp("เรากับแพรบริสุทธิ์ใจ เฮฮากันได้ปกติ แต่กับนาวเราเป็นแฟนกัน พีก็อยากหวานชื่น")
Mn(" อืมO.K. นาวไม่คิดมากหรอก")
เมื่อส่งข้อความเสร็จพีรดลก็เดินมาหาแพรชมพูเพื่อบอกว่าให้แพรไปกับเขา ส่วนมะนาวไปกับทัศน์ดนัย เขารู้ดีว่าไอ้ทัศน์ไม่ได้อยากไปกับลูกปลาเพราะเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน ส่วนลูกปลาให้ไปกับคุณป๋า
"นาวไปกับไอ้ทัศนะ ลูกปลาแกก็ไปกับคุณป๋าแทน ส่วนแพรไปกับเรา ตกลงไหม"
ทุกคนมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้า แต่ภูริทัศน์เอ่ยขัดขึ้น
"หนูลูกแพรตัวเล็กนิดเดียวไปกับคุณป๋าดีกว่าค่ะ ทางไม่ค่อยดีนักพวกแกขับไม่คล่อง หนูลูกแพรตัวแค่นี้อาจถูกเหวี่ยงตกจากรถได้ พวกแกขับตามฉันมาดีก็แล้วกัน ไปกันได้แล้ว ลูกแพรมาค่ะไปกับคุณป๋านะคะ"
"ห๊ะ อะ เอ่อ ค่ะ ค่ะ"
แพรชมพูงงกับสีหน้าที่เปลี่ยนไปของพ่อเพื่อน เมื่อตอนที่มาถึงยังทำหน้าไม่พอใจเธออยู่เลย มาตอนนี้เขากับพูดจาดิบดี ตกลงคุณป๋าเป็นคนยังไงกันแน่ เพื่อนๆก้าวขึ้นรถกันหมดแล้ว สุดท้ายมะนาวก็ไปกับพีรดล ภูริทัศน์ไม่ได้สนใจบุตรชายกับเพื่อนสาวเลย เขาเห็นสีหน้าอิหลักอิเหลื่อของแพรชมพูก็คิดไปว่าสาวน้อยอยากจะไปกับลูกชายเขา แต่เพราะว่าเขาขัดขวาง
"หึ..ฉันจะกันเธอออกจากเจ้าพี ดูสิเธอจะทำยังไงยายตัวดี"
แพรชมพูก้าวขึ้นรถอย่างเก้ๆกังๆ จริงอย่างที่ภูริทัศน์พูดเธอตัวเล็ก ภูริทัศน์ไม่สนใจว่าบุตรชายจะหึงหรือไม่ เขาโอบเอวคนตัวเล็กยกให้ขึ้นมานั่งคร่อมบนรถก่อนจะก้าวขาขึ้นตาม ให้แพรชมพูอยู่ข้างหน้า มือเอื้อมไปจับข้างหน้าลักษณะตอนนี้เขาโอบเธอเอาไว้ทั้งตัว แพรชมพูหน้าแดง คุณป๋าทำหัวใจเธอเต้นแรง
"หนูตัวเล็ก เวลาคุณป๋าเลี้ยวอาจจะสะบัดหล่นไปได้ถ้านั่งหลัง นั่งหน้าคุณป๋าจะได้ระวังให้ค่ะ เอาล่ะไปกันได้แล้ว"
ทั้งหกคนออกเดินทางจากบ้านพักไปที่น้ำตกทันที เนื่องจากอยู่ไม่ไกลมากเพียงแค่สองกิโลเท่านั้น ลมที่พัดทำให้ผมของแพรชมพูบางส่วนปลิวไปทางด้านหลัง คนตัวโตสูดกลิ่นหอมจากเส้นผมและกลิ่นเนื้อสาวจากคนด้านหน้าอย่างเต็มที่ ยายตัวเล็กนี่หอมเป็นบ้า
มะนาวเองก็เกาะพีรดลแน่น ภูริทัศน์ไม่ได้ผิดสังเกตอะไร ใจเขาจดจ่ออยู่กับคนในอ้อมกอด ส่วนลูกปลารู้ดีว่าทัศน์ดนัยแกล้งกระชากรถหลายครั้งทำให้เธอต้องกอดเอวเขาเอาไว้เพราะกลัวตก ทำไมอารมณ์เสียอีกแล้ว คนบ้านี่เป็นใบโพล่าหรือไงนะ
ภูริทัศน์ขับห่างจากกลุ่มบุตรชายมาไกลพอควรจึงเอ่ยเสียงเข้มไม่มีความอ่อนหวานอีกต่อไป
"สร้อยข้อมือเธอสวยดีนะ"
"ห๊า..อะ เอ่อค่ะ"
"เท่าไหร่ล่ะ ปอกลอกเจ้าพีไปเท่าไหร่แล้ว"
แพรชมพูงงในคำถามของเขา หมายความว่าอย่างไรปอกลอกพีหรือ เธอไปทำอย่างนั้นตอนไหน นี่มันของขวัญแต่งงานที่พ่อซื้อให้แม่นะ ก่อนจะเอ่ยอย่างอวดดี
"แพรซื้อเองได้ทำไมต้องไปปอกลอกใครด้วย คุณป๋าไม่พอใจก็จอดเถอะค่ะ แพรไม่ไปแล้ว"
"อย่ามาอวดดี...เพราะเธอไอ้พีมันถึงต่อต้านไม่ยอมไปเรียนต่อ"
"จอดเถอะค่ะ แพรขอลงแพรจะบอกเพื่อนเองว่าแพรไม่ค่อยสบาย"
"มาจนถึงนี่คิดว่าเดินกลับมันง่ายหรือ เธอจะเดินกลับจริงๆก็ได้นะ อ้อเห็นคนงานเหล่านั้นไหมมันไม่ได้เที่ยวผู้หญิงมานานแล้ว เธออยากเป็นกะหรี่ของมันดูไหมล่ะ ไม่ต้องห่วงระดับหัวหน้าทั้งนั้นมันจ่ายดี เงินเดือนมันสูง ฉันไม่เอาเปรียบลูกน้องหรอก ไอ้พีมันจะได้รู้เช่นเห็นชาติผู้หญิงที่มันกำลังคบ"
แพรชมพูนิ่งไม่ตอบอีกเลย เธอเห็นคนเหล่านั้นมองมาที่เธอกับเขาตาเป็นมัน พวกนั้นคงคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงของเขา ได้ข่าวว่าพ่อพีเป็นเสือผู้หญิงเหมือนกัน ภูริทัศน์เห็นคนด้านหน้าเงียบไปแล้วก็เอ่ยต่อ
"เธอต้องการเท่าไหร่ ออกไปจากลูกชายฉัน แค่เธอพูดมาฉันจ่ายทันที"
"คุณป๋าคิดว่าลูกชายคุณป๋ามีค่าเท่าไหร่ล่ะคะ อยู่ที่คุณตีราคาลูกชายคุณต่างหาก ไม่ใช่แพรเป็นคนตีราคา"
ภูริทัศน์อึ้งไปทันที ให้เขาตีราคาถ้าถูกไปแปลว่าเจ้าพีมีไม่ค่าสักนิด ถ้าแพงไปเขาก็ไม่อยากจ่าย เด็กคนนี้หัวหมอนัก
"แปลว่าเธอไม่ต้องการที่จะเลิกกับเจ้าพีงั้นสิ"
"ค่ะ ทำไมแพรต้องเลิกกับพีเพียงเพราะคุณป๋าไม่ชอบหน้าแพร พียังไม่พูดอะไรเลย"
"ใช่ ทำไมฉันต้องเลิกกับพีเป็นเพื่อนกันไม่ใช่แฟนสักหน่อย คนอะไรประสาทหวงลูกชายขนาดนี้ไม่ขังไว้ที่บ้านไม่ต้องให้ออกไปหาสังคมล่ะ"
ภูริทัศน์เบรกกะทันหันทันที ทำเอาแพรชมพูคะมำไปข้างหน้า นี่พ่อเพื่อนเป็นโรคประสาทหรือไง เธอจึงจะลงจากรถ แต่เขาไวกว่ากดเอวเธอเอาไว้ พอดีกับที่ลูกชายและทัศน์ดนัยมาถึง ทั้งคู่ชะลอรถเอ่ยถามภูริทัศน์
"รถเป็นอะไรครับคุณป๋า ผมโทรหาคนงานมาเปลี่ยนไหมครับ"
"ไม่มีอะไรหรอก สะดุดก้อนหินน่ะ พวกแกไปก่อนเลย ข้างหน้าก็ถึงแล้ว เดี๋ยวฉันขอดูล้อรถหน่อย"
พีรด พยักหน้า แพรชมพูกำลังจะขอไปกับเพื่อนแต่เขากดเอวเธอแน่น ทั้งสองขับไปแล้วเหลือแค่เธอกับเขาสองคน แพรชมพูลงจากรถทันที เหลือระยะทาง500เมตรเธอเดินไปสมทบกับเพื่อนก็ได้ ทางไม่ลำบากแล้ว คนตัวเล็กก้าวเท้าเตรียมออกเดินก็ถูกกระชากกลับมาจนชนเข้ากับอกแกร่งของคนตัวโต ภูริทัศน์สูงมาก แพรชมพูอยู่แค่ราวนมของเขาเท่านั้น
"ห่างไม่ได้เลยหรือไง ถึงต้องรีบไปอ่อยเจ้าพี่มันให้ได้"
"คุณป๋า..แพรไม่รู้ว่าคุณป๋าเป็นอะไรหรือเป็นบ้าอะไร อยู่ๆมาให้แพรกับพีเลิกกันคุณป๋ามีสิทธิ์อะไร มิน่าพี่ถึงบอกว่าคุณป๋าเป็นคนไม่มีเหตุผล ที่พีไม่มีแม่เป็นเพราะเธอทนนิสัยเอาแต่ใจจับผิดคนอื่นแบบนี้ไม่ได้หรือเปล่า"
"เธอว่าอะไรนะ แม่เจ้าพีทนฉันไม่ได้หรือ เธอมันจะรู้อะไรถึงกล้าพูดแบบนี้"
"ใครจะไปรู้ ที่พีเล่าให้ฟังมันก็มาจากปากคุณป๋า เรื่องจริงเป็นยังไงมีแต่คุณป๋าที่รู้ ที่พีเกลียดแม่คงเป็นเพราะคนบางคนเสี้ยมให้เกลียดนั่นแหละ อื้ออออ"
ภูริทัศน์ก้มหน้าลงไปบดขยี้ริมฝีปากหนาของตนกับริมฝีปากอวบอิ่ม แพรชมพูดิ้นรนแต่สู้แรงเขาไม่ได้ ไม่นานเขาก็เปิดปากเธอสำเร็จ ภูริทัศน์จูบแพรชมพูดุเดือดจนกระทั่งเธอได้กลิ่นคาวเลือดจากปากตัวเอง เขาจูบเธอจนปากแตก คนตัวโตถอนจูบออกมาเอ่ยน้ำเสียงเยือกเย็น
"อย่ามาปากดีกับฉันอีก ฉันจะทำให้เธอเสียใจที่กล้ามาต่อกรกับฉัน"
เพียะ!!! แพรชมพูตบหน้าเขาก่อนจะใช้หลังมือปาดริมฝีปากราวกับว่าสัมผัสของเขามันน่าขยะแขยง ภูริทัศน์ตาลุกวาวมือที่จับข้อมือเล็กบีบแน่นขึ้น เสียงมือถือดังมา ลูกชายโทรมาถามว่ารถใช้ได้ไหม ให้เขากลับมารับหรือเปล่า ภูริทัศน์ตอบกลับไปว่าเรียบร้อยแล้วกำลังตามไป
แพรชมพูไม่ยอมก้าวขึ้นรถ เขากระชากข้อมือเธอก่อนจะรวบเอวบางให้ขึ้นมานั่งแล้วตามไปสมทบบุตรชาย ในเมื่อเสนอทางออกดีๆไม่ฟังอยากลองดีเขาก็จะให้รู้รสชาติคนที่กล้าลองดีกับเขา
ภูริทัศน์หอมหน้าผากเกลี้ยงเกลา เขาทำเช่นนี้ทุกวันหลังจากที่รับลูกกลับบ้านเพื่อแสดงความรักให้ลูกเห็น มีสาวๆบางคนแอบมาเข้าทางพระพายเพื่อติดต่อเขา แต่ยายหนูน้อยฉลาดมากรู้ดีว่าพวกเขาต้องการอะไร เธอจึงบอกกับคุณพ่อของเธอ"พระพายรักคุณแม่กับคุณพ่อที่สุด คุณพ่อต้องบอกรักคุณแม่ทุกวันนะคะ คนอื่นจะได้ไม่เข้าใจผิด""ได้ครับ นี่ลูกสาวพ่อ8ขวบแน่หรือคะ"ก่อนที่ภูริทัศน์จะยิ้มให้และเขาก็แสดงความรักเช่นนี้ทุกวัน ไม่ใช่เพราะลูกสาวสั่งให้ทำแต่เขาทำเพราะรักเธอจริงๆ ก่อนที่จะเอ่ย"อีกสองวันเราจัดงานเลี้ยงเล็กๆกันนะ พี่ราม เจ้าคิณ เจ้าทัศน์ หมอเกื้อจะมาเที่ยวที่ไร่ พาเด็กๆมาด้วย""ก็ดีคะ ไม่ได้ครึกครื้นมานานแล้ว อีกอย่างพี่ทัศน์ไปคุมงานที่หัวหินยายปลาบ่นว่าคิดถึงสามีอยู่ทุกวัน"แพรชมพูเก็บงานเข้าที่จากนั้นยายหนูน้อยก็เรียกพ่อกับแม่กลับเข้าบ้าน"คุณพ่อคุณแม่พวกเราเข้าบ้านกันเถอะ น้องภูมิกับน้องภรีมตื่นนานแล้ว พระพายคิดถึงน้อง แม่ขาเมื่อไหร่จะมีน้องอีกคะ"แพรชมพูยิ้มให้เธอ ภูริทัศน์มองหน้าเมีย คืนนี้ต้องจัดสักหน่อยแล้ว ไม่ได้ทำมาสองคืนแล้วงานเขายุ่งๆ จากนั้นสามพ่อแม่ลูกก็เขาบ้านใหญ่ คู่แฝดวิ่งมาหากางแขนให้พี่
เวรเปลเข็นคุณแม่คนสวยเข้ามา พระพายดีใจรีบวิ่งไปหาก่อนที่ภูริทัศน์จะคว้าตัวขึ้นมาอุ้ม ก่อนจะเอ่ยสั่งสอนบุตรสาวตัวน้อย"พระพายคนเก่งหนูต้องระวังจะไปชนรถเข็นค่ะ พระพายอย่าวิ่งแบบนี้ไม่ได้นะคะ หนูตัวเล็กพี่ๆเขามองไม่เห็น""ค่ะคุณพ่อ พี่ๆขาพระพายขอโทษนะคะ"ยายหนูน้อยยกมือไหว้ขอโทษที่ไปเกะกะการทำงานของพี่ๆ เวรเปลและพยาบาลยิ้มให้เธอก่อนจะบอกไม่เป็นไร แพรชมพูหน้าตาเริ่มดีขึ้นแต่ยังคงอ่อนเพลีย คุณนายพลอยเดินมาหาทันทีที่ลูกสะใภ้นอนบนเตียงคนไข้เรียบร้อยและเวรเปลกับพยาบาลออกไปแล้ว ก่อนจะถามไถ่"แม่แพร หนูเป็นอย่างไรบ้างลูก อยากกินอะไรไหมแม่จะให้ตาภูไปซื้อให้""แพรยังเพลียๆค่ะคุณแม่ ยังไม่อยากกินอะไรเลย""กินสักหน่อยเถอะ เดี๋ยวจะได้ให้นมลูก"แพรชมพูพยักหน้า ภูริทัศน์จึงไปซื้อของที่ภรรยาอยากกิน กระทั่งเริ่มค่ำทัศน์ดนัยกับลูกปลาและพีรดลกับมะนาวก็มาเยี่ยม คู่แฝดนอนอยู่ในเปลเด็ก ลูกปลามองดูเจ้าตัวน้อย ลูกชายมีส่วนเหมือนแพรชมพูบางส่วนลูกสาวเหมือนคุณป๋ามากและเหมือนพระพายราวกับแกะ ดุแล้วลูกสาวบ้านนี้รักคุณพ่อมากเลยเชียวก่อนจะแซวเพื่อนสาว"แพร..ลูกสาวหน้าเหมือนคุณป๋ากับยายหนูมา
หนึ่งเดือนต่อมาไร่ธารธาราก็มีงานแต่งอีกสามคู่ กระแตที่เริ่มท้องใหญ่แล้วรับแขกได้ไม่นานเพราะยืนไม่ไหว เมื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอเรียบร้อยหนุ่มๆก็มานั่งคุยกัน แพรชมพูแบกท้องที่ได้เกือบเจ็ดเดือนเดินมาหาสามีก่อนจะบอกว่าเธอขอตัวไปนอนก่อน ภูริทัศน์จึงขอตัวเขาประคองแพรชมพูเขาเรือน ผลอัลตราซาวน์ออกมาแล้ว แพรชมพูท้องคู่แฝดจริงๆแพรชมพูมาอยู่ที่บ้านไร่ได้สามเดือนแล้ว อาทิตย์หน้าคุณหมอนัดคลอดเธอจำเป็นต้องขึ้นกรุงเทพเพื่อมานอนรอคลอด ภูริทัศน์เองที่ตอนนี้โครงการทุกอย่างเริ่มเป็นรูปเป็นร่างเรียบร้อยแล้ว อนาคิณกับราเมศวร์เองก็มีข่าวดีภรรยาพวกเขาตั้งครรภ์แล้ว ไม่นานที่บ้านไร่ก็จะมีแต่เด็กๆวิ่งเล่นเต็มไปหมด แพรชมพูพับผ้าใส่ตะกร้าเตรียมไปโรงพยายาบาล พี่หมอจองห้องวีวีไอพีไว้ให้แล้ว แม่ตัวน้อยที่ลุงหมอมารับไปเที่ยวสวนสนุกกลับมาก็กระโดดโลดเต้นยกใหญ่ เพราะน้องกระวานลูกชายลุงหมอติดพี่สาวตัวน้อยมาก พระพายรีบมาอวดกับคุณแม่ตนสวยยกใหญ่ที่วันนี้เธอได้เลี้ยงน้องด้วย"คุณแม่ขา พระพายช่วยลุงหมอเลี้ยงน้องด้วยค่ะ พระพายทำตัวมีประโยชน์""คร้า...ลูกสาวแม่เก่งจังเลย""คุณแม่ทำอะไรคะ พระพายช่วยค่ะ"
แทนไทยมองตามสหายรุ่นพี่ที่โอบเอวเมียเด็กเดินไปที่บ้านพัก เฮ้อกระแตสวยขนาดนี้ไม่น่าเชื่อจะมาชอบตาเฒ่าอย่างพี่เดช เขาล่ะเขาเพิ่งจะ40เองนะทำไม่ไม่มีใครมามองเขาบ้างเลย แทนไทยรำพันกับตัวเองเบาๆ"เอิ๊ก กูม่ายหล่อตรงหนายวะ อืมม เอ่อ"สาวน้อยในชุดกางเกงเอี๊ยมลูกฟูกสีแดงเดินมานั่งข้างๆก่อนจะเอ่ย"น้าแทนก็หล่อแหละ แต่หล่อแบบดำน้ำอ่ะ"แทนไทยมองหน้าคนที่เพิ่งมาถึง จากนั้นเธอก็หยิบขวดไวน์มากระดก แทนไทยรีบคว้าเอามาก่อนจะเอ่ยเสียงดุ"หล่อดำน้ำหล่ออะไรของเอ็งนังหนอนบุ้ง แล้วนี่เป็นเด็กเป็นเล็กริอ่านดื่มหรือไง ดึกแล้วไปๆกลับบ้านได้แล้ว""ก้แบบว่าหล่อลึกไง ลึกเกินไปดำไม่เห็น อีกอย่างฉันชื่อผักบุ้ง หนอนบุ้งบ้านน้าสิ ที่สำคัญฉันไม่เด็กแล้วจะดูไหมล่ะ น่านะน้าแทนขอชิมไวน์สักหน่อย หวานดีนะน้าแทนนะ""เอ็งไม่กลัวพี่พร้อมพ่อเอ็งตีเอาหรือไง""น้าแทนจะพูดทำไม พ่อเมาแอ๋น้าก้านแบกกลับบ้านไปแล้ว มาๆให้หนูนั่งกินเป็นเพื่อนนะ ไม่กินเหล้ากินแคต่กับก็ได้"แทนไทยขี้เกียจห้าม เขานั่งดื่มโดยไม่สนใจ ผักบุ้งอยากลองชิมไวน์มานานแล้วแต่พ่อดุมาก ตอนนี้อยู่ตรงหน้าเป็นลังๆ พ่อเป็นคนคุมโรงบ่มแต่ไม่เคยเอาไปฝากสักขวด วันนี้โชคดีวุ
ภูริทัศน์พรลูกเมียกลับบ้านมาได้หนึ่งอาทิตย์แล้ว แพรชมพูที่ตอนนี้ชอบอากาศที่ต่างจังหวัดมาก บ้านไร่แห่งนี้ดีกว่าในเมืองที่มีแต่รถติด พระพายวิ่งเล่นตั้งแต่เช้า คุณพ่อสุดหล่อพาไปขี่ม้าก่อนจะกลับเข้ามาตอนสายเพื่อทานมื้อเช้า คุณย่าคอยดูแลไม่ห่างแพรชมพูกำลังออกแบบห้องพักของรีสอร์ตที่สามีจะทำการปรับปรุงเพื่อจะปรับราคาค่าห้องพักขึ้นอีก ภูริทัศน์เห็นภรรยานั่งเขียนงานอยู่ที่ชิงช้าก้เดินมาหาพร้อมกับนั่งลงข้างๆเธอ ชิงช้าตัวนี้แพรชมพูขอให้เขาสร้างให้ สามารถนอนกลางวันได้ มันยื่นลงไปในลำธารอากาศเย็นสบาย "แพร..ท้องเริ่มจะใหญ่แล้วนะ""นั่นน่ะสิคะ แพรก็แปลกใจเพิ่งจะสามเดือนกว่าเองทำไมถึงใหญ่จัง ตอนท้องพระพานขนาดใกล้คลอดท้องยังนิดเดียวเอง""อาจเป็นเพราะพระพายท้องแรกหรือเปล่า เอ หรือว่าจะแฝด""แฝดหรือคะ ถ้าได้ก็ดีว่าแต่คุณป๋าลองดูแบบที่แพรเพิ่งจะทำเสร็จหน่อยสิคะ ตอนแรกอยากทำสไตล์โมเดริน แต่ว่าฟิวบรรยากาศที่นี่เป็นธรรมชาติแพรเลยออกแบบให้เป็นสไตล์ชนบทบ้านทุ่ง แต่ออกแนวคันทรี่นิดๆ คุณป๋าชอบไหมคะ""อืม..ชอบค่ะ เอ้ อาทิตย์หน้าคุณป๋าจะจัดงานเลี้ยงเล็กๆต้อนรับแพรกับลูก ถือเป็นการจั
บ้านที่เพชรบูรณ์ตอนนี้บุญเติมนั่งคุกเข่าอยู่หน้าป้าแจ่มจันทร์เพื่อขอขมาเรื่องที่ตัวเองก่อเอาไว้ ป้าแจ่มจันทร์มองหน้าเขาถามหาสาเหตุ กระแตกับคมเดชก็มาถึงพอดี เพราะวันนี้นายกับคุณแพรจะกลับมาแล้ว"พ่อเติม..มาคุกเข่าให้ฉันทำไมลุกขึ้นๆ""ผมมาขอขมาพี่จันทร์น่ะครับ""ขอขมาอะไรกัน เจ้าจอมล่ะอยู่ไหน ยายกลับจากวัดมาตั้งนานยังไม่เห็นหน้าเลย"เจ้าจอมเดนมาถึงในห้องก่อนจะนั่งคุกเข่าลงข้างๆกับบุญเติม หญิงชรามองหลานสาวสลับกับบุญเติม กระแตที่เห็นเนื้อตัวเจ้าจอมมีรอยแดงเป็นจ้ำก็พอเดาออก ว่าแต่ไปทำอีท่าไหนกัน แต่เธอไม่พูดอะไรตั้งใจฟัง"พี่จันทร์ ผมจะมาสู่ขอเจ้าจอมไปเป็นเมีย คือเราสองคนได้เสียกันแล้ว ผมเลยอยากทำให้มันถูกต้อง""ห๊า..แกว่าอะไรนะ โอ๊ยอกอีแป้นจะแตก ไปไงมาไงกันพ่อเติ้ม ทำไมจับพลัดจับผลูกันได้เล่า""ยายจ๋าหนูผิดเอง หนูสมยอมเองอย่าโทษลุงเติมเลยนะ ยายจ๋าหนูกับลุงเติมรักกัน ยายให้หนูกับเขาแต่งงานกันนะคะ""หญิงชรามองหน้าหลานสาวด้วยสายตาผิดหวัง รักใคร่กันไม่ว่าแต่ชิงสุกก่อนห่ามแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน กระทั่งคมเดชเอ่ยขึ้น"เอาน่าพี่จันทร์ ไอ้พ่อตามันได้หลานสาวพี่จันทร์แล้ว แต่