บทที่ 7
"กรี๊ด! ช่วยด้วยฮื่อๆ" เสียงกรี๊ดดังขึ้นสนั่นในขณะที่ผ้าแพรกับขุนเพลิงนั้นอยู่ในห้องซึ่งเสียงลมหายใจของผ้าแพรผายออกมาคงเป็นเล่ห์เหลี่ยมของนับดาวที่เรียกร้องความสนใจจากขุนเพลิง แต่ความห่วงใยที่สามีของเธอนั้นมีให้กับผู้หญิงหน้าด้านคงจะมากถึงกับลุกขึ้นจากเตียงอย่างไม่ลังเล "คุณจะไปไหน" ผ้าแพรจับแขนของสามีเอาไว้แต่ถูกสบัดออกขุนเพลิงไม่โต้ตอบกลับภรรยาใช้เพียงแต่สายตาที่ไม่พอใจมองขวางดั่งว่าห้ามยุ่งเรื่องของเขา ขุนเพลิงออกจากห้องตรงมาที่เสียงร้องนั่นคือห้องของนับดาว เมื่อเขาเข้ามาเสียงเอะอะโวยวายเสียงกระทบของการต่อสู้ดังลั่น "ใครส่งมึงมา" ผ้าแพรเดินตามออกมาเธอหยุดชะงักตรงหน้าห้องของนับดาวด้วยที่มีผู้ชายคนหนึ่งสภาพสะบักสะบอมเพราะว่าขุนเพลิงสามีของตนเองนั้นกระทำจนผู้ชายชุดดำนั้นยกมือไหว้ "ขุนเพลิงฮื่อๆ นับดาวกลัว" ไม่มีใครทนได้ที่เห็นผู้หญิงคนอื่นกอดแขนสามีตนเองหญิงสาวที่ไร้ยางอายทำท่าทีหวาดกลัวร้องไห้สะอื้นกอดแขนของขุนเพลิงทั้งยังใช้ใบหน้าซบลง "กลัวหรือว่าตอแหลกันแน่" เสียงของผ้าแพรที่ดังก้องทำให้ชายชุดดำนั้นหันกลับมามองทันทีมันยกมือชี้มาที่ผ้าแพร "คุณผู้หญิง คุณผู้หญิงเป็นคนจ้างผมให้มาข่มขืนผู้หญิงคนนี้ คุณผู้หญิงช่วยผมด้วยนะ ผมถูกจับได้ผมไม่อยากตาย" ขุนเพลิงมองหน้าผ้าแพรดั่งกับคนที่ตกใจมาก เมื่อชายชุดดำนั้นชี้ว่าเมียตัวเองเป็นคนจ้างให้มาข่มขืนนับดาวต่างจากผ้าแพรที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเธอทำหน้างง "ผ้าแพรเธอทำมากเกินไปหรือเปล่า" เสียงตะคอกของสามีตัวเองดังจนผ้าแพรสะดุ้งเขาไม่เอ่ยถามหาความจริงเลยสักนิด "ไม่จริง...ฉันไม่รู้จัก" "จะไม่จริงได้ยังไง คุณเป็นคนให้เงินผมแล้วบอกให้ผมเข้ามาในห้องนี้ ผมไม่อยากตายคุณผ้าแพร" ผู้ชายชุดดำเสแสร้งแกล้งเรียกชื่อของผ้าแพรอย่างเต็มปากยิ่งทำให้ขุนเพลิงนั้นเชื่อจนสนิทใจ เขาหันหน้าไปมองนับดาวที่ร้องไห้สะอื้นยิ่งทำให้เขาโกรธจนใบหน้าแดงก่ำ "เอาไอ้ชั่วนี้ไปสั่งสอน ส่วนเธอมานี่ผ้าแพร ฉันไม่เคยคิดเลยนะว่าเธอจะใจร้ายได้ขนาดนี้ ฉันคงดีกับเธอเกินไป" ไม่เพียงแต่ถ้อยคำที่โมโหตะคอกใส่หน้าของผ้าแพร มือหนานั้นจับแขนของเธอกระชากออกมาจนคนตัวเล็กพยุงตัวเองไม่อยู่ เขาจับเธอมัดไว้ที่ประตูรั้วหน้าบ้านในขณะที่ฝนกำลังจะตกในค่ำคืนที่มืดมีเพียงแต่แสงไฟที่ส่องสว่างการกระทำของเขาด้วยอารมณ์ที่โกรธเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นถูกทำร้ายแต่ไม่ถามภรรยาตัวเองเลยสักนิด ข้อมือทั้งสองข้างถูกมัดด้วยเชือกติดกับประตูรั้วไว้ดั่งกับหุ่นกางเขนที่ยืนอยู่หน้าบ้าน สายตาที่จ้องมองมามีแต่ความโกรธความเกลียดสายตาที่เคยอ่อนโยนต่อเมียกับลูกนั้นหายไปจนไม่หลงเหลืออยู่เลย "คุณทำแบบนี้กับฉันจริงๆ เหรอ" เสียงสะอื้นปนกับเสียงร้องไห้เอ่ยถามสามีตัวเองอีกครั้งก่อนที่เขาจะหันหลังและไม่โต้ตอบกลับคำถามนี้ "คุณเพลิง คุณจะทำแบบนี้จริงๆ เหรอ เมื่อก่อนคุณไม่ใช่แบบนี้ทำไมคุณไม่ถามฉันสักนิดความรักและความไว้ใจที่คุณเคยมีให้ฉันมันหายไปไหนหมด" ต่อให้เธอตะเบ็งเสียงจนสุดเสียงขุนเพลิงก็ไม่หันกลับมองเพราะความเย็นชากับความใจร้ายที่เขากำลังมอบให้เธอ ขุนเพลิงเดินกลับเข้ามาในบ้านเจอกับนับดาวที่กำลังร้องไห้ คนตัวเล็กพุ่งตัวโอบกอดแต่ขุนเพลิงนั้นไม่ได้กอดตอบ "เป็นอะไรมากไหมนับดาวไปหาหมอหรือเปล่า ผมขอโทษนะที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นซึ่งผมไม่รู้ว่าผ้าแพรจะเป็นคนแบบนี้" ขุนเพลิงจับไหล่ของนับดาวนั้นขยับออกประคองเธอนั่งลงที่โซฟาส่วนเขารักษาระยะห่างเพียงเล็กน้อยคือการขยับออก "ไม่เป็นไรค่ะ โชคดีที่คุณมาช่วยไว้ได้ทัน นับดาวไม่เคยคิดเลยนะคะว่าคุณผ้าแพรจะทำร้ายนับดาวได้ขนาดนี้เป็นเพศเดียวกันแท้ๆ เป็นผู้หญิงเหมือนกันทำไมถึงให้ผู้ชายคนอื่นมาข่มเหงรังแกนับดาว คุณผ้าแพรตั้งใจที่จะให้ผู้ชายคนนั้นข่มขืนนับดาวให้เหลวแหลก ขุนเพลิงคะ ฮึ๊ก คืนนี้นับดาวคงนอนหลับตาลงไม่ได้เต็มตาแน่ด้วยความหวาดระแวงและกลัว คุณช่วยไปนอนกับนับดาวนะคะ" มือน้อยอันนุ่มสัมผัสจับแขนของขุนเพลิงมองหน้าของขุนเพลิงด้วยน้ำตาที่เอ่อล้นเต็มดวงตาทั้งสองข้าง "เดี๋ยวให้แม่บ้านไปนอนเป็นเพื่อนนะนับดาว สถานะของเราทั้งสองคนในตอนนี้มันยังไม่ชัดเจน คุณกลับมาผมพร้อมที่จะดูแลคุณแต่ไม่ใช่การสวมเขาให้กับเมีย ต่อให้ผมกับผ้าแพรจะเลิกกันแล้วแต่ผมยังมีทะเบียนสมรสและยังไม่ได้หย่ากันที่สำคัญผมมีลูกขอให้คุณเข้าใจผมนะ" นับดาวดึงมือของตัวเองทั้งสองข้างออกจากแขนของขุนเพลิง เขาปฏิเสธจนทำให้เธอโกรธแต่ไม่กล้าที่จะโวยวายทำท่าทีใส่ซื่อและก้มหน้าลงดั่งกับสาวน้อยที่ไร้เดียงสา เมื่อนับดาวขึ้นไปนอนบนห้องเธอไล่แม่บ้านทุกคนออกมาด้านนอกและสั่งเอาไว้ว่าห้ามบอกกับขุนเพลิง "สิ่งที่ฉันต้องการ ถ้าฉันอยากได้ฉันต้องได้ ขุนเพลิงเป็นของฉันตั้งแต่แรก เธอเอาชีวิตของเธอเข้ามายุ่งแน่นอนว่าของทุกอย่างที่เป็นของเธอมันก็ต้องเป็นของฉัน ชีวิตฉันเคยสูญเสียคนที่ฉันรักให้กับเธอไปแล้ว วันนี้คนนี้ฉันไม่มีวันจะปล่อยไปอีกเด็ดขาด" สายตาคู่ร้ายจ้องมองไปที่สายฝนกำลังตกหนัก เธอยืนพูดกับตัวเองด้วยความโกรธที่มีต่อผ้าแพร ก๊อกๆ "คุณนับดาวคะคุณผู้ชายดื่มเหล้าค่ะ" นับดาวหันมองไปที่หน้าประตู เมื่อเธอได้ยินแบบนั้นจึงรีบเปิดประตูให้กับแม่บ้านที่มารายงานตนเองทันที "ดื่มอยู่ที่ไหน" ใบหน้าสวยฉีกยิ้มด้วยความพอใจ "ห้องนั่งเล่นค่ะ ดูเหมือนคุณผู้ชายจะเครียดมากดื่มเหล้ากระดกเพียวๆ อย่างเดียวเลย" นับดาวพอใจแม่บ้านที่มารายงานตัวเองเธอควักเงินให้กับแม่บ้านห้าพันบาท ยื่นใส่มือให้ก่อนที่จะเดินออกมาด้านนอกซึ่งแม่บ้านคนนั้นยิ้มอย่างพอใจ เธอคิดถูกที่เข้าข้างนับดาวและคอยรายงานเรื่องต่างๆ ในมือของนับดาวมีถุงยาบางอย่างสีขาวเป็นถุงซิปขนาดเล็กกะทัดรัดไม่ใหญ่มาก เธอก้มมองมือของตัวเองและเดินตรงไปที่ห้องนั่งเล่น "ทำไมคุณถึงยังไม่นอนนับดาวนี่มันดึกมากแล้วนะ" ดูเหมือนว่าขุนเพลิงโมโหนับดาวแต่ไม่ได้เอ่ยตะคอกเหมือนกับที่ตะคอกผ้าแพร เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่ม "นับดาวนอนไม่หลับหรอกค่ะ นับดาวจะออกไปอยู่ที่อื่นเพราะว่านับดาวไม่อยากให้คุณกับภรรยาของคุณต้องทะเลาะกันแบบนี้ นับดาวจะรอวันที่คุณหย่าแล้วนะคะ" "เราจะไม่พูดกันเรื่องนี้ ผมขอเคลียร์ปัญหาทุกอย่างเอง ผมไม่เคยลืมสัญญาของเราแต่ผมขอเวลาเชิญคุณออกไปก่อน" ขุนเพลิงพูดโดยที่ไม่มองหน้านับดาวแต่คนตัวเล็กที่ไม่ออกไปจากห้องเดินตรงเข้ามาใกล้ๆ ยังหยิบแก้วเหล้าขึ้นมา "คุณจะทำอะไรนับดาว" นับดาวจะกระดกแก้วในมือของตัวเองแต่ขุนเพลิงนั้นลุกขึ้นและดึงแก้วออกจากมือของนับดาว นับดาวนั่งลงที่โซฟาร้องไห้เหมือนกับคนที่เสียใจมาก เมื่อขุนเพลิงนั่งลงนับดาวจึงพุ่งตัวโอบกอดทันที "อย่าทำแบบนี้สินับดาว ผมบอกกับคุณไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าที่นี่คือ..." "เราไม่ได้กอดกันในสถานะชู้นี่คะ ขอเวลานับดาวสักหนึ่งนาทีนะ" ช่วงเวลานั้นเธอเอายาใส่แก้วเหล้าให้กับขุนเพลิงโดยที่ขุนเพลิงนั้นไม่รู้ตัว "นับดาวไปนอนก่อนนะคะ ขอโทษที่มารบกวนอย่าดื่มมากนะคะ" เมื่อนับดาวเดินออกมาจากห้องนั่งเล่น เธอมองตรงไปที่ประตูรั้วหน้าบ้าน ฝนที่ตกหนักกับผู้หญิงตัวเล็กๆที่ถูกมัดเอาไว้ "เธอจะได้เกลียดเขาให้มากๆ จนไม่สามารถกลับไปรักเขาได้อีก" ใบหน้าสวยแสดงความร้ายกาจกอดอกมองผ้าแพรที่ถูกมัดอยู่หน้าบ้าน "คุณนับดาวผมว่าคุณขึ้นไปนอนเถอะ คุณผู้ชายเดี๋ยวผมดูแลเอง" คนตัวเล็กสะดุ้งเมื่อลูกน้องคนสนิทของคุณเพลิงเดินตรงเข้ามาและพูดจากทางด้านหลัง "อย่ามาสอดให้มากเป็นแค่ลูกน้อง" เสียงถอนหายใจของนับดาวบ่งบอกถึงความไม่พอใจลูกน้องคนสนิทของขุนเพลิงมาก เธอสะบัดมือของตัวเองออกจากการกอดอกและเดินตรงขึ้นไปบนห้องอย่างไม่สนใจ "นายครับ นาย เป็นอะไรหรือเปล่า?" 📌 ฝากดดติดตามไรท์หน่อยนะค้าบบทที่ 15หน้าห้องฉุกเฉินหลังจากส่งตัวลูกสาวให้หมอดูอาการและทำการรักษาผ้าแพรและขุนเพลิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ผุดลุกผุดนั่งกะวนกะวายเดินวนกันไปมาอยู่แถวนั้นยิ่งผ้าแพรเธอร้องไห้ไม่ยอมหยุดสายตาของผู้เป็นแม่พยายามชะเง้อมองผ่านกระจกบานเล็กอยู่บนหน้าประตู"ฮึ๊ก อย่าเป็นอะไรนะลูกแม่เหลือลูกอยู่แค่คนเดียวแล้วนะ" ผ้าแพรร้องไห้กุมมือเข้าหากันและพูดเพียงคนเดียวว่าเหลือแค่พะพายสิ้นสุดคำพูดขุนเพลิงหันมองหน้าภรรยาแต่ก็หันกลับโดยไม่มีคำปลอบใจเมื่อหมอเปิดประตูออกมาใบหน้าของหมอที่ดูกังวลและเครียดใช้คำพูดติดขัดยังไม่บอกอาการของพะพาย"คุณหมอคะลูกสาวของฉันเป็นยังไงบ้าง" พยายามฝืนด้วยถ้อยคำพูดที่เอ่ยถามน้ำเสียงติดขัดทั้งยังน้ำตาที่ไหลเอ่อล้นบนแก้ม"เด็กอาการแย่ด้วยที่เสียเลือดมากเป็นเวลานานเกร็ดน้ำเกลือต่ำ ถ้าเกิดเราหาเลือดได้ทันเวลาก็จะไม่เป็นอะไรด้วยที่เลือดกำลังมาแต่ถ้าคุณพ่อกับคุณแม่ยินดีที่จะให้เลือดน้องก็ได้ครับทางเราจะได้ไม่ต้องรอ""ฉันค่ะ...ฉันเป็นแม่ของเขาฉันเป็นแม่ของพะพายเอาเลือดของฉันไปเลย" ผ้าแพรยื่นแขนตัวเองให้กับหมอด้วยความกระวนกระวายและหวาดกลัว เธอเอ่ยบอกกับหมอให้เอาเลือดของตัวเองแต่ถูกขุนเพ
บทที่ 14 พรึ่บ เรือนร่างบางนอนอยู่บนโซฟาในขณะที่กำลังละเมออยู่ๆ น้ำเย็นสาดเข้ามาที่หน้าจนเธอสะดุ้ง ผ้าแพรรีบดีดตนเองนั้นลุกขึ้นมองคนตรงหน้าผู้เป็นสามียืนถือแก้วน้ำอยู่"คุณทำอะไรของคุณ" ใบหน้าน้อยขมวดคิ้วเพ่งเล็งไปยังหน้าของสามีตนเอง เมื่อวานนี้ก่อนจะกลับบ้านดันเกิดปัญหาและเขาก็พาตัวของเธอมาที่นี่เพื่อมาเคลียร์งาน"ก็ฉันปลุกให้ตื่น" "นี่คือการปลุกของคุณเหรอ ขุนเพลิงคุณเปลี่ยนไปมากรู้ไหม" การกระทำเล็กๆ น้อยๆ ถึงแม้ว่าไม่เจ็บแต่เป็นการกระทำที่ย่ำยีหัวใจ การสาดน้ำใส่หน้าในขณะที่หลับมันดูทุเรศจนผ้าแพรนั้นโมโห"ถ้าไม่พอใจก็เซ็นใบหย่าให้กับฉันสิ" ครั้งที่ร้อยเพียงเวลาแค่ไม่กี่วันเขาพูดคำว่าหย่าจนนับไม่ถ้วนในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ท้าผ้าแพรไปหย่าแต่ยังมีเอกสารหย่าที่อยู่หน้าจอคอมนั้นตรงมาที่โซฟาแล้วโยนลงบนโต๊ะให้กับผ้าแพรด้วย"เซ็นซะใบหย่านี้" ปากกาในมือโยนลงมาทับกระดาษทั้งคำพูดในเชิงตะคอกให้รีบเซ็นใบหย่า ผ้าแพรที่มองกระดาษโกรธในการกระทำของขุนเพลิงจากกระดาษใบหย่านั้นชูขึ้นและฉีกต่อหน้าของขุนเพลิงทันที"ไม่ฉันยังไม่พร้อม ฆ่าฉันเลยสิเพราะยังไงฉันก็ไม่หย่า" ใบหน้าสวยที่เงยขึ้นเผชิญกับแววตาของขุน
บทที่ 13 ตัดมาทางด้านของนับดาวหลังจากที่เธอรู้ว่าขุนเพลิงออกไปข้างนอกเพราะว่าไปตามหาผ้าแพรภรรยาของเขา เธอโกรธมากเขวี้ยงข้าวของในห้องจนกระจายลงพื้นมีเพียงแต่แม่บ้านที่เธอเพิ่งรับเข้ามาทำงานพยายามห้ามแต่ก็ถูกตบหน้าด้วยความโมโห"ขุนเพลิง" เธอนั้นดั่งกับคนละคนที่อยู่กับขุนเพลิงอ่อนหวานและแสนดีนั้นหายไปทันที มือทั้งสองข้างที่กำหมัดเข้าหากันจนเนื้อตัวสั่นด้วยความโกรธในแววตาเเดงโดยที่เวลาผ่านไปนานขุนเพลิงยังไม่กลับเข้ามาในบ้าน"คุณนับดาวคะ รถของคุณผู้ชายกลับเข้ามาแล้ว" แม่บ้านคนสนิทของนับดาวรีบวิ่งมาที่หน้าต่างเห็นรถของขุนเพลิงกลับเข้ามาหน้าตาตื่นหันมองไปทางนับดาวและเอ่ยบอกทันที"รีบเก็บข้าวของให้เรียบร้อย" นับดาวเอ่ยสั่งให้กับแม่บ้านที่ตัวเองเพิ่งจะเขวี้ยงข้าวของนั้นเก็บของให้เรียบร้อยส่วนตัวเองรีบวิ่งลงมาจากห้องแม้ในตอนดึกมากเธอก็ยังไม่ยอมนอน นับดาวผิดหวังเมื่อลงมาถึงด้านล่างขุนเพลิงไม่ได้กลับมาที่บ้านทั้งยังผ้าแพรที่ไม่ได้กลับมาด้วยมีเพียงแต่ลูกน้องคนสนิทที่กลับมา"คุณผู้ชายทำไมถึงไม่กลับมา" ซูโจลูกน้องคนสนิทก้มหน้าลงและส่ายหน้าไปมา เขาไม่บอกอะไรกับนับดาวมีเพียงแต่การเดินหลีกทันทีนับ
บทที่ 12 "บอกให้ปล่อย...ฉันบอกให้ปล่อย กล้าดียังไงมาจับฉัน" ยิ่งผ้าแพรสะบัดมือของตัวเองมือที่จับเธอนั้นยิ่งบีบแน่น คนตัวเล็กถูกกระชากออกมาจากโต๊ะนั่งดื่ม"ช่วยด้วยใครก็ได้ช่วยด้วยไม่อื้อ" เตโชที่กล้ามากใช้ยานอนหลับใส่กับผ้าเช็ดหน้าปิดปากให้ผ้าแพรนั้นสลบก่อนที่เขาจะอุ้มเธอออกมาจากสถานบันเทิงแห่งนี้ไม่มีใครกล้าที่จะยุ่งกับเตโชสักคนปล่อยให้เขาอุ้มผู้หญิงออกไปต่อหน้าต่อตา"มันไม่สนใจเธอแล้วมาเป็นของฉันทุกอย่างก็จบ" เตโชรู้มาว่าเรื่องระหว่างผ้าแพรกับสามีของตัวเองกำลังจะหย่าจึงเข้าหาผ้าแพรอย่างไม่กลัว เขาพาผ้าแพรขับรถออกมาข้างนอกแต่รู้ตัวว่ามีรถประกบทางด้านหลังมาหลายคัน "ผัวเธอคงตามมาสินะ" ในวันนั้นเตโชถูกขุนเพลิงสามีของผ้าแพรนั้นต่อยจนล้มลงไปกับพื้นในวันนี้เขาต้องการเอาคืนเลยขับรถเลี้ยวเข้าซอยเล็กๆ ด้วยความเร็วเลี้ยวไปเลี้ยวมาจนรถคันหลังตามมาไม่ทัน เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพายของผ้าแพรดังขึ้นเรื่อยๆ ช่วงจังหวะที่เตโชนั้นตบไฟยกเลี้ยวเข้าโรงแรมเล็กๆ ในซอยพอดีหลังจากที่โรงแรมปิดผ้าม่านเตโชจึงหยิบกระเป๋านั้นมาดูโทรศัพท์เป็นเบอร์ของขุนเพลิงที่โทรมาหาภรรยาจริงๆเขากดรับสายอย่างไม่กลัว
บทที่ 11 ไม่เพียงแต่ตัวเองที่ไม่ปลอดภัยแต่ยังเป็นเด็กตัวเล็กผู้เป็นลูกถูกกระทำจากผู้หญิงหน้าด้านคนนั้นหลังจากที่ผ้าแพรรู้ว่าลูกสาวของเธอนั้นถูกหลอกให้ไปเอาของเล่นในน้ำก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากนับดาว "ต่อจากนี้ไปห้ามเข้าใกล้ผู้หญิงคนนั้นอีกนะลูก" ผ้าแพรพยายามคิดว่าจะทำยังไงจะให้ลูกสาวของตัวเองปลอดภัยไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนแต่ถ้าจะปล่อยให้อยู่ที่นี่อีกลูกของเธอต้องเป็นอันตรายแน่ๆ "ป๊า" ถ้าแพรไม่รู้ว่าประตูลูกบิดถูกเปิดเข้ามาตอนไหน เธอนั่งอยู่ที่ห้องของตัวเองกับลูกสาวเสียงลูกสาวจึงพูดขึ้นเอ่ยเรียกผู้เป็นพ่อของเขาผ้าแพรจึงหันมองไปที่หน้าประตูเห็นขุนเพลิงยืนอยู่ตรงนั้น เมื่อผ้าแพรกับลูกสาวรู้ตัวขุนเพลิงเดินเข้ามาด้านในก่อนที่จะปิดประตูห้องเขานั่งลงที่เตียงด้านข้างของลูกสาวลูบหัวของเด็กสาวเบาๆ ด้วยความอ่อนโยน"ทีหลังอย่าลงไปเก็บของเล่นในน้ำอีกนะลูก รู้ไหมว่ามันอันตรายแค่ไหนดีที่พี่ซูโจอยู่ไม่อย่างนั้นหนูจะต้องจมน้ำ ไม่มีใครช่วยหนูได้แม้แต่แม่ของหนูเองยังช่วยตัวเองไม่ได้เลย" คำพูดประชดของสามีเอ่ยว่าให้ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นสามีที่ห่วยแตก ผ้าแพรเธอได้เพียงแต่เงียบในครั้งนี้เธอเลือกที่จะเห
บทที่ 10 ผ้าแพรอาบน้ำแต่งตัวเตรียมที่จะพาลูกสาวนั้นไปเที่ยวข้างนอกพาไปโรงเรียนเด็กศูนย์ของประเทศโรงเรียนนานาชาติที่มีแต่ลูกคนรวยคนมีเงินเรียน "คุณผู้หญิงคะ...คุณผู้หญิงคุณหนูหายไปไหนไม่รู้ค่ะ" ผ้าแพรเธอเดินลงมาจากห้องยังไม่ทันก้าวขาไปไหนต้องหยุดชะงักด้วยที่พี่เลี้ยงทั้งสองคนวิ่งหน้าตาตื่นมองซ้ายและขวาตามหาพะพาย ในวินาทีที่เธอได้ยินแบบนั้นหัวใจแทบหยุดเต้นเหมือนฟ้าถล่มลงมาเพราะตั้งแต่พะพายเกิดมาไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลย"เป็นไปได้ยังไงไปตามหาให้เจอเดี๋ยวนี้" ผ้าแพรเอ่ยร้องส่งเสียงตามหาลูกสาวตามบ้านด้วยความเป็นเด็กเขาอาจจะซุกซนอยู่มุมไหนของบ้านสักที่ ทั้งในห้องทำงานของขุนเพลิงตามห้องนั่งเล่นก็ไม่มีเสียงตอบรับของพะพายเลย"นับดาว" เมื่อผ้าแพรเอ่ยชื่อของนับดาวเสียงร้องกรี๊ดดังมาจากสระน้ำกลางบ้านผ้าแพรจึงรีบหมุนตัวก้าวฝีเท้าวิ่งตรงไปที่เสียงร้องนั้น"คุณหนู" ผ้าแพรวิ่งมาที่สระน้ำเธอตกใจที่เห็นลูกตัวเองอยู่ในน้ำกำลังสำลักน้ำซูโจกระโดดลงไปช่วยเอาไว้ได้และรีบพาตัวของพะพายนั้นขึ้นมาด้านบน ผู้เป็นแม่หัวใจแทบแตกสลายเห็นลูกสาวตัวเล็กนั้นจมน้ำมือทั้งสองข้างโอบกอดลูกลูบหัวเบาๆ"เป็นอะไรหรือ