ชีวิตของทั้งสองคู่ดำเนินไปอย่างมีความสุข ความรัก ความเข้าใจ และความผูกพันที่แน่นแฟ้น ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน พวกเขาก็ยังคงเป็นคู่รักที่ดีที่สุดของกันและกัน และเป็นเพื่อนสนิทที่คอยอยู่เคียงข้างเสมอ ชีวิตของพวกเขาสมบูรณ์แบบด้วยความรักที่แท้จริง
หลายปีได้หมุนผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ความรัก ความเข้าใจ และความผูกพันของอลิสาและคีรินทร์ รวมถึงมิ้นท์และปกรณ์ ไม่ได้เลือนหายไปตามกาลเวลา ตรงกันข้าม กลับยิ่งทวีความแน่นแฟ้นและงดงามราวกับไวน์ชั้นเลิศที่บ่มนานวัน ชีวิตของพวกเขาทั้งสองคู่เป็นบทสรุปของความสุขที่แท้จริง ซึ่งเกิดจากรากฐานของความรักที่มั่นคงและมิตรภาพที่ยั่งยืน
อลิสาและคีรินทร์ยังคงเป็นคู่ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ พวกเขาทั้งคู่ต่างประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิต น้องธารา ลูกชายของพวกเขา เติบโตขึ้นมาเป็นเด็กที่มีคุณภาพและเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ซึ่งเป็นผลมาจากการเลี้ยงดูด้วยความเอาใจใส่และคุณธรรมที่พ่อแม่ปลูกฝังให้
ในขณะที่มิ้นท์และปกรณ์เองก็ใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุขและราบรื่น พวกเขาเป็นกำลังใจให้กันและกันเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว ความเข้าใจซึ่งกันและกันคือหัวใจสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขายังคงสดใสและมีชีวิตชีวา
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความรักและความผูกพันที่ยั่งยืน ทั้งสองคู่มักจะหาเวลาไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนด้วยกันในโอกาสพิเศษ ร้านอาหารโปรดที่เคยเป็นพยานรักของพวกเขาในวันวาน ก็ยังคงเป็นสถานที่ที่พวกเขาเลือกมาเติมเต็มความสุขร่วมกันเสมอ
ในค่ำคืนหนึ่งที่บรรยากาศอบอวลไปด้วยแสงเทียนและเสียงดนตรีบรรเลงเบาๆ อลิสาในชุดเดรสยาวดูงดงามอ่อนหวาน ขณะที่คีรินทร์ในชุดสูทก็ดูภูมิฐานและหล่อเหลาบาดใจ พวกเขานั่งอยู่ตรงข้ามกัน ดวงตาของทั้งคู่สบกันอย่างอ่อนโยน เต็มไปด้วยความรักที่ไม่มีวันจางหาย
“ลิซครับ” คีรินทร์ยื่นมือไปกุมมืออลิสาไว้แน่น แล้วจูบที่หลังมือเธออย่างอ่อนโยน “พี่ดีใจนะที่เราได้มาถึงจุดนี้ด้วยกัน”
อลิสายิ้ม เธอบีบมือคีรินทร์ตอบเบาๆ “ลิซก็ดีใจเหมือนกันค่ะพี่คี ขอบคุณนะคะที่อยู่เคียงข้างลิซมาตลอด”
ไม่ไกลกันนัก มิ้นท์และปกรณ์ก็นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ ปกรณ์มองไปที่มิ้นท์ที่กำลังหัวเราะกับเรื่องเล่าตลกๆ ของเขา เขายื่นมือไปลูบแก้มเธอเบาๆ แล้วก้มลงหอมแก้มเธออย่างรักใคร่
“มิ้นท์ครับ พี่รักมิ้นท์นะ” ปกรณ์กระซิบเบาๆ
มิ้นท์หันมายิ้มให้ปกรณ์อย่างเขินๆ “มิ้นท์ก็รักพี่ปกรณ์ค่ะ”
การแสดงออกถึงความรักยังคงมีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการกอด การจูบ หรือการจับมือ ซึ่งเป็นการยืนยันความรักที่เบ่งบานตลอดไป โมเมนต์เล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้ชีวิตของพวกเขาสมบูรณ์แบบและเต็มไปด้วยความสุขที่ยั่งยืน
นอกจากความสุขในชีวิตคู่แล้ว มิตรภาพระหว่างอลิสา, คีรินทร์, มิ้นท์และปกรณ์ก็ยังคงแข็งแกร่งไม่เสื่อมคลาย พวกเขาทั้งสี่คนยังคงเป็นเพื่อนสนิทที่คอยอยู่เคียงข้างกันเสมอ ไม่ว่าจะมีเรื่องทุกข์หรือสุข
บ่อยครั้งที่พวกเขาทั้งสี่จะนัดพบปะสังสรรค์กันที่บ้าน หรือไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกัน การได้แบ่งปันเรื่องราวชีวิต การให้คำปรึกษา และการเป็นกำลังใจให้กันและกัน คือสิ่งที่ทำให้มิตรภาพของพวกเขามีค่ามากยิ่งขึ้น
วันหนึ่ง พวกเขาทั้งสี่คนมานั่งดื่มกาแฟกันที่คาเฟ่โปรด อลิสาเล่าถึงโครงการใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในบริษัทของเธอ มิ้นท์และปกรณ์รับฟังอย่างตั้งใจ และให้คำแนะนำอย่างกระตือรือร้น
“ลิซคะ มิ้นท์เชื่อว่าลิซต้องทำได้แน่นอนค่ะ” มิ้นท์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยกำลังใจ
คีรินทร์ยิ้ม เขาเอื้อมมือไปกุมมืออลิสาใต้โต๊ะ “พี่ก็เชื่อมั่นในตัวลิซเสมอครับ”
ปกรณ์ตบไหล่คีรินทร์เบาๆ “พวกเราทุกคนจะคอยเป็นกำลังใจให้เสมอ”
ความรักและความผูกพันที่แน่นแฟ้นของพวกเขาทั้งสองคู่ และมิตรภาพที่ยั่งยืนระหว่างกัน เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรอบข้างเสมอ พวกเขาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความสุขที่แท้จริงคือการได้อยู่เคียงข้างคนที่รัก และมีเพื่อนที่ดีคอยสนับสนุนในทุกช่วงของชีวิต
เรื่องราวของอลิสา คีรินทร์ มิ้นท์และปกรณ์ คือบทสรุปของความสุขที่สมบูรณ์แบบ มันเป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความรัก ความเข้าใจ ความผูกพัน และความพยายามที่จะสร้างสิ่งดีๆ ให้กับชีวิตและสังคม
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน พวกเขาก็ยังคงเป็นคู่รักที่ดีที่สุดของกันและกัน เป็นเพื่อนสนิทที่คอยอยู่เคียงข้างเสมอ และเป็นแบบอย่างของความรักที่เบ่งบานตลอดกาล
เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าในยามค่ำคืน แสงดาวนับล้านดวงก็ส่องประกายระยิบระยับอยู่บนฟากฟ้า เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุดของพวกเขา ความรักที่ยังคงงดงามและส่องสว่างนำทางชีวิตให้ดำเนินไปอย่างมีความสุขตลอดไป
ตอนพิเศษ งานวิวาห์ของธาราและอิงดาวเสียงดนตรีไทยบรรเลงอย่างไพเราะเสนาะหู กลิ่นหอมของดอกมะลิและดอกกล้วยไม้ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณเรือนไทยโบราณที่ถูกประดับประดาอย่างงดงามด้วยผ้าไหมสีทองและดอกไม้นานาพันธุ์ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมากระทบกับเครื่องประดับทองคำที่เจ้าสาวสวมใส่ ส่องประกายเป็นประกายระยิบระยับวันนี้เป็นวันสำคัญ วันที่หัวใจสองดวงจะผูกพันกันชั่วนิรันดร์ วันวิวาห์ของธาราและอิงดาวหลังจากที่ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อกัน เรื่องราวความรักของพวกเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความกังวลของครอบครัว ความไม่เข้าใจของคนรอบข้าง และแรงกดดันจากขนบธรรมเนียมประเพณีคีรินทร์และอลิสาพ่อแม่ของธารา รู้สึกประหลาดใจและกังวลใจอย่างมากเมื่อลูกชายสารภาพว่าเขารักอิงดาวเกินกว่าคำว่าน้องสาว“ธาราลูก ลูกแน่ใจหรือ” อลิสาถามด้วยน้ำเสียงกังวลใจในวันนั้น “อิงดาวเป็นลูกพี่ลูกน้องของเรานะลูก”คีรินทร์เองก็เสริม “เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนนะลูก มันอาจจะทำให้เกิดเรื่องไม่สบายใจกับครอบครัวเราได้”ทางด้านมิ้นท์และปกรณ์ พ่อแม่ของอิงดาว ก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก โดยเฉพาะมิ้นท์ที่เป็น
ตอนที่ 131 ธาราสารภาพรักอิงดาว (ตอนจบ)สายลมยามค่ำคืนในกรุงเทพฯ พัดเอื่อยๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบของธารา แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงสลัวๆ ส่องกระทบกับใบหน้าของธาราและอิงดาวที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามกัน บรรยากาศเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่ได้ยินหลังจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจเริ่มคลี่คลาย และอิงดาวได้ยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ไปแล้ว ความใกล้ชิดระหว่างธาราและอิงดาวก็เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น สัญญาณจากใจที่ทั้งคู่ส่งออกมาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่กำแพงที่มองไม่เห็นของความเป็นลูกพี่ลูกน้องก็ยังคงกั้นขวางอยู่วันนี้หลังจากที่พวกเขาเพิ่งกลับจากการทานอาหารค่ำด้วยกัน ธารารู้สึกว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะพูดความในใจออกไป เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถเก็บงำความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้าธาราสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เขามี“อิงดาวครับ พี่มีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับอิงดาว” ธารากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังจนอิงดาวรู้สึกได้อิงดาวหันมามองธารา ใบหน้าข
ตอนที่ 130 สัญญาณจากใจหลังจากอิงดาวยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ก็ยังคงใช้เวลาอยู่กับธารามากขึ้น พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น ความรู้สึกระหว่างธาราและอิงดาวเริ่มเปลี่ยนไปอย่างละเอียดอ่อน มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นการมองตาที่ยาวนานกว่าปกติ การสัมผัสกันโดยบังเอิญที่ทำให้ใจเต้นแรง หรือบทสนทนาที่ลึกซึ้งเกินกว่าความเป็นพี่น้อง ธารายังคงไม่กล้าสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงออกไป แต่อิงดาวเองก็เริ่มรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง บทสรุปของตอนนี้จะทิ้งท้ายไว้ให้ผู้อ่านลุ้นว่าความสัมพันธ์ของธาราและอิงดาวจะก้าวไปในทิศทางใดต่อไปในอนาคตสายลมยามเย็นพัดโชยอ่อนเข้ามาในระเบียงคอนโดมิเนียมของธารา แสงไฟจากตึกสูงระยิบระยับราวกับดวงดาวบนผืนฟ้า อิงดาวนั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้หวายตัวโปรดของธารา ส่วนธารากำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ หลังจากการทำงานร่วมกันอย่างหนักหน่วงเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ทางธุรกิจของ ‘มั่งคั่งแลนด์’ บรรยากาศเงียบสงบและผ่อนคลาย
ตอนที่ 129 ความรักที่ต้องเลือกอิงดาวเริ่มทบทวนความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอตระหนักว่าพฤกษ์อาจไม่ใช่คนที่เธอต้องการจริงๆ ในยามยาก และความรู้สึกที่เธอมีต่อพฤกษ์อาจเป็นเพียงความประทับใจชั่วคราว เธอตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ ทำให้ธารารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้ เพราะยังคงสับสนกับกำแพงของความเป็นพี่น้องที่คอยกั้นขวางพวกเขาอยู่ค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก เสียงฟ้าคำรามก้องสะท้อนความรู้สึกภายในใจของอิงดาวที่กำลังปั่นป่วน เธอทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวโปรดในห้องนั่งเล่นของเธอ ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด มือถือวางคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ เธอไม่ได้แตะต้องมันเลยตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะเธอกำลังจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเองวิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาได้กลายเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับชีวิตของอิงดาว และรวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพฤกษ์ด้วย ในช่วงที่เธอต้องเผชิญกับความยากลำบากที่สุด พฤกษ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดหวังเธอจำได้ว่าเธอเคยรู้สึกประทับใจในตัวพฤกษ์มากแค่ไหน เขาเป็นคนฉลาด มีเสน่ห์ มีความมั่นใจ และดูเหมือนจะเข้าใจเธอในหลายๆ เรื่อง แต่เมื่อวิก
ตอนที่ 128 เมื่ออิงดาวต้องการที่พึ่งจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจ อิงดาวรู้สึกท้อแท้และเปราะบางมาก เธอเริ่มรู้สึกว่าพฤกษ์ไม่ได้ให้กำลังใจเธอเท่าที่ควร หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังเผชิญหน้า อิงดาวหันมาพึ่งพาธารามากขึ้นเธอระบายความในใจและความกังวลให้กับธาราฟัง ธารารับฟังด้วยความเข้าใจและให้กำลังใจน้องสาวอย่างเต็มที่ เขากอดอิงดาวแน่นเพื่อปลอบประโลม เมื่ออิงดาวได้อยู่ในอ้อมกอดของธารา เธอกลับรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ธาราเองก็รู้สึกเจ็บปวดที่เห็นอิงดาวเสียใจ แต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเธอเสียงฝนพรำนอกหน้าต่างห้องทำงานของอิงดาวในค่ำคืนที่เงียบสงัด สะท้อนกับหยาดน้ำตาที่คลออยู่เต็มดวงตาของเธอ รายงานตัวเลขผลประกอบการที่แสดงถึงการขาดทุนอย่างต่อเนื่องวางแผ่บนโต๊ะ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกท้อแท้และเปราะบางในใจของเธอ วิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้อิงดาวรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของความสิ้นหวังเธอพยายามที่จะเข้มแข็ง พยายามที่จะยิ้มและให้กำลังใจทีมงาน แต่ลึกๆ แล้ว เธอกำลังรู้สึกโดดเดี่ยวและเหนื่อยล้าเกินกว่าจะรับไหว เธอพยายามโทรหาพฤกษ์
ตอนที่ 127 โอกาสที่ใกล้ชิดเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ธุรกิจของอิงดาวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ธาราในฐานะพี่ชายและผู้บริหารที่มีประสบการณ์ตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลืออิงดาวอย่างเต็มที่ พวกเขาต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหา วิกฤตการณ์นี้กลายเป็นโอกาสที่ทำให้ธาราและอิงดาวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และได้เห็นความสามารถและความมุ่งมั่นของกันและกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ธารารู้สึกดีใจที่ได้อยู่เคียงข้างอิงดาวในยามยาก แต่ก็เจ็บปวดที่ต้องเห็นอิงดาวเสียใจจากปัญหาที่เกิดขึ้นเช้าวันหนึ่ง ท้องฟ้ากรุงเทพฯ ดูจะมืดครึ้มกว่าปกติ คล้ายกับเมฆหมอกที่ปกคลุมบรรยากาศในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่ ข่าวใหญ่พาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวธุรกิจ: “เศรษฐกิจโลกชะลอตัวหนัก ส่งผลกระทบตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์” “ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจ”มาตรการที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม และแน่นอนว่า ‘มั่งคั่งแลนด์’ ของอิงดาวก็ได้รับผลกระทบอย่างจัง โครงการที่กำลังพัฒนาหลายแห่