อิงดาวเริ่มทบทวนความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอตระหนักว่าพฤกษ์อาจไม่ใช่คนที่เธอต้องการจริงๆ ในยามยาก และความรู้สึกที่เธอมีต่อพฤกษ์อาจเป็นเพียงความประทับใจชั่วคราว เธอตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ ทำให้ธารารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้ เพราะยังคงสับสนกับกำแพงของความเป็นพี่น้องที่คอยกั้นขวางพวกเขาอยู่
ค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก เสียงฟ้าคำรามก้องสะท้อนความรู้สึกภายในใจของอิงดาวที่กำลังปั่นป่วน เธอทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวโปรดในห้องนั่งเล่นของเธอ ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด มือถือวางคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ เธอไม่ได้แตะต้องมันเลยตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะเธอกำลังจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเอง
วิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาได้กลายเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับชีวิตของอิงดาว และรวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพฤกษ์ด้วย ในช่วงที่เธอต้องเผชิญกับความยากลำบากที่สุด พฤกษ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดหวัง
เธอจำได้ว่าเธอเคยรู้สึกประทับใจในตัวพฤกษ์มากแค่ไหน เขาเป็นคนฉลาด มีเสน่ห์ มีความมั่นใจ และดูเหมือนจะเข้าใจเธอในหลายๆ เรื่อง แต่เมื่อวิกฤตมาเยือน ทุกอย่างกลับไม่เป็นเช่นนั้น
“คุณพฤกษ์คะ อิงดาวรู้สึกแย่มากเลยค่ะ อิงดาวไม่รู้จะผ่านเรื่องนี้ไปได้ยังไง” อิงดาวเคยระบายความในใจกับพฤกษ์เมื่อหลายวันก่อน
“คุณอิงดาวต้องเข้มแข็งไว้นะครับ ผมเชื่อว่าคุณทำได้” พฤกษ์ตอบด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูห่างเหิน “ทุกปัญหามีทางออกเสมอ คุณอย่าคิดมากนะครับ”
คำพูดเหล่านั้นของพฤกษ์ไม่ได้ช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย เธอกลับรู้สึกว่าเขาไม่เข้าใจในความกดดันที่เธอกำลังเผชิญ ไม่ได้เข้าใจในความเครียดที่เธอกำลังแบกรับอยู่ เธอรู้สึกว่าพฤกษ์ไม่ได้อยู่ตรงนั้นเพื่อรับฟังเธออย่างแท้จริง ไม่ได้เป็นไหล่ให้เธอได้ซบ และไม่ได้เป็นคนที่พร้อมจะลุยไปกับเธอในยามยากลำบากอย่างที่เธอต้องการ
ในทางตรงกันข้าม ธาราคือคนที่อยู่เคียงข้างเธอมาโดยตลอด เขาเข้ามาช่วยเธออย่างเต็มที่ ไม่ใช่แค่ให้กำลังใจด้วยคำพูด แต่ลงมือทำทุกอย่างเพื่อแก้ไขปัญหาด้วยกัน ธาราอดทน รับฟังเธออย่างเข้าใจ และพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเธอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เธอจำได้ว่าเมื่อคืนก่อนที่เธอร้องไห้ออกมาอย่างหมดสิ้น ธาราเป็นคนเดียวที่อยู่ตรงนั้น เขากอดเธอแน่น ปลอบประโลมเธอด้วยคำพูดที่อ่อนโยน และทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
“พี่ธาราอยู่ตรงนี้เสมอนะครับ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พี่จะอยู่เคียงข้างอิงดาวเสมอ” คำพูดของธารายังคงก้องอยู่ในหูของเธอ มันเป็นคำพูดที่จริงใจและเต็มไปด้วยความรักที่เธอสัมผัสได้
อิงดาวเริ่ม ทบทวนความสัมพันธ์กับพฤกษ์ อย่างจริงจัง เธอใช้เวลาคิดทบทวนถึงความรู้สึกที่เธอมีต่อพฤกษ์ และความรู้สึกที่เธอมีต่อธาราอย่างละเอียดถี่ถ้วน
เธอตระหนักว่า ความประทับใจ ที่เธอมีต่อพฤกษ์ในตอนแรกอาจเป็นเพียง ความประทับใจชั่วคราว ที่เกิดจากบุคลิกที่โดดเด่น ความฉลาด และเสน่ห์ของเขา แต่เมื่อเผชิญหน้ากับความจริงในชีวิต พฤกษ์กลับไม่ใช่คนที่เธอต้องการจริงๆ ในยามยากลำบาก
เขาเป็นเหมือนแสงไฟที่ส่องสว่างในยามที่ทุกอย่างสดใส แต่เมื่อพายุโหมกระหน่ำ แสงไฟนั้นกลับหรี่ลงและเลือนหายไป
ในทางกลับกัน ธาราคือแสงไฟที่ส่องนำทางเธอในยามมืดมิด เขาเป็นคนที่อยู่เคียงข้างเธอเสมอ ไม่ว่าเธอจะเจออะไร เขาเป็นทั้งที่พึ่งและกำลังใจ เป็นคนที่เธอสามารถไว้วางใจได้มากที่สุด
หลังจากใช้เวลาคิดทบทวนอยู่หลายวัน อิงดาวก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เธอรู้ว่าเธอไม่สามารถดำเนินความสัมพันธ์กับพฤกษ์ต่อไปได้อีกแล้ว เมื่อความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาไม่ได้เป็นอย่างที่เธอต้องการ และเมื่อเธอรู้ว่าเธอต้องการใครอยู่ข้างๆ เธอในยามที่เธออ่อนแอ
อิงดาวนัดพฤกษ์มาพบกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง บรรยากาศเงียบสงัดและดูอึมครึมกว่าปกติ
“คุณพฤกษ์คะ อิงดาวมีเรื่องสำคัญอยากจะคุยด้วยค่ะ” อิงดาวเปิดประเด็นด้วยน้ำเสียงจริงจัง ใบหน้าของเธอซีดเผือด แต่แววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
พฤกษ์มองหน้าอิงดาวอย่างงงงวย “มีอะไรหรือครับคุณอิงดาว ดูคุณจริงจังจังเลย”
“อิงดาวตัดสินใจแล้วค่ะว่าเราควรจะ ยุติความสัมพันธ์ ของเราไว้เพียงเท่านี้” อิงดาวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น แม้ในใจจะรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยที่ต้องพูดคำนี้ออกมา
พฤกษ์ถึงกับตกใจ “คุณอิงดาวหมายความว่ายังไงครับ”
“คุณพฤกษ์เป็นคนดีค่ะ และอิงดาวก็รู้สึกดีกับคุณ แต่ในยามที่อิงดาวต้องเผชิญกับปัญหาหนักๆ อิงดาวรู้สึกว่าเราไม่ได้เข้าใจกันเท่าที่ควรค่ะ” อิงดาวอธิบาย “อิงดาวต้องการคนที่สามารถอยู่เคียงข้างอิงดาวได้อย่างแท้จริง เข้าใจในสิ่งที่อิงดาวกำลังเผชิญ และพร้อมที่จะลุยไปกับอิงดาวในทุกสถานการณ์ค่ะ”
พฤกษ์เงียบไปครู่หนึ่ง เขารู้สึกผิดหวังและเสียใจ แต่ก็ยอมรับในการตัดสินใจของอิงดาวได้ “ผมเข้าใจแล้วครับคุณอิงดาว ผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคาดหวังไว้”
การตัดสินใจยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับอิงดาว แต่มันเป็นการตัดสินใจที่เธอรู้สึกว่าถูกต้องที่สุดสำหรับตัวเธอเองในตอนนี้ เธอรู้ว่าเธอต้องซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเอง
ข่าวการยุติความสัมพันธ์ระหว่างอิงดาวกับพฤกษ์แพร่สะพัดในวงการอย่างรวดเร็ว และแน่นอนว่าธาราย่อมเป็นคนแรกๆ ที่ได้รับรู้เรื่องนี้
ในวันที่อิงดาวกลับมาที่บริษัทหลังจากที่เธอได้คุยกับพฤกษ์เรียบร้อยแล้ว เธอเดินตรงไปยังห้องทำงานของธารา
“พี่ธาราคะ อิงดาวมีเรื่องจะบอกค่ะ” อิงดาวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเหนื่อยอ่อน แต่แววตาของเธอดูกระจ่างใสขึ้นเล็กน้อย
ธารามองหน้าอิงดาวอย่างตั้งใจ เขารู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป
“อิงดาวเลิกกับคุณพฤกษ์แล้วค่ะ” อิงดาวกล่าวตรงๆ
คำพูดของอิงดาวเหมือนมีคลื่นลูกใหญ่ซัดเข้ามาในใจของธารา เขารู้สึกถึง ความโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกหนักอึ้งที่เคยกดทับอยู่ในใจมานานพลันมลายหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่จริง มุมปากของเขาแย้มยิ้มขึ้นเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว
แต่เขาก็พยายามเก็บอาการไว้ “อ้อ…งั้นเหรอครับ” น้ำเสียงของเขาพยายามทำให้ดูเป็นปกติที่สุด
อิงดาวเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ธาราฟังอย่างละเอียด เธอเล่าถึงความรู้สึกที่ไม่เข้าใจกันระหว่างเธอกับพฤกษ์ และความตระหนักว่าพฤกษ์อาจไม่ใช่คนที่เธอต้องการจริงๆ
ธารารับฟังอย่างตั้งใจ แม้ในใจจะรู้สึกดีใจที่พฤกษ์ได้พ้นไปจากชีวิตของอิงดาว แต่เขาก็ยังคงรู้สึก สุขปนเศร้า
ความสุขนั้นมาจากความโล่งใจที่อิงดาวไม่ได้อยู่กับพฤกษ์อีกต่อไป และนั่นหมายความว่าเขายังคงมีโอกาสที่จะได้อยู่เคียงข้างเธอต่อไป
แต่ความเศร้าและสับสนนั้นก็ยังคงอยู่ เพราะเขาก็ยังคงต้องเผชิญหน้ากับ กำแพงของความเป็นพี่น้อง ที่คอยกั้นขวางพวกเขาอยู่ ความรู้สึกรักที่เขามีต่ออิงดาวยังคงเป็นสิ่งต้องห้าม และเขาก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับความรู้สึกนี้ต่อไป
แม้ว่าอิงดาวจะยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์แล้ว แต่ธาราก็ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้ เขายังคง สับสนกับกำแพงของความเป็นพี่น้อง ที่คอยกั้นขวางพวกเขาอยู่
เขาอยากจะสารภาพความในใจ อยากจะบอกอิงดาวว่าเขารักเธอมากแค่ไหน และอยากจะอยู่เคียงข้างเธอในฐานะคนรัก แต่ความกลัวว่าความรู้สึกนี้จะทำลายความสัมพันธ์ที่ดีงามระหว่างเขากับอิงดาว และจะสร้างปัญหาให้กับครอบครัวก็ยังคงเกาะกุมจิตใจของเขา
เขาใช้เวลาอยู่คนเดียวมากขึ้น เพื่อคิดทบทวนถึงสิ่งที่ควรจะทำต่อไป เขาเดินไปที่ระเบียงห้องทำงานในคอนโดมิเนียมของเขา มองเห็นแสงไฟของเมืองที่ระยิบระยับ แต่ในใจกลับมืดมิด
“เราควรจะทำยังไงดี” ธาราพึมพำกับตัวเอง “จะเก็บความรู้สึกนี้ไว้ตลอดไป หรือจะบอกเธอออกไป”
เขาจินตนาการถึงปฏิกิริยาของอิงดาวหากเขาสารภาพความรู้สึกออกไป เธอจะตกใจ เธอจะรับไม่ได้? หรือเธอจะโกรธเขา? ความคิดเหล่านี้ทำให้เขารู้สึกกลัวจนไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไร
กำแพงที่มองไม่เห็นที่เกิดจากความเป็นลูกพี่ลูกน้องยังคงแข็งแกร่ง และดูเหมือนจะไม่มีทางที่จะข้ามผ่านมันไปได้เลย ธารารู้สึกว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ตรงทางแยกที่ยากจะตัดสินใจ เขาไม่รู้ว่าควรจะเดินไปในทิศทางไหน
การตัดสินใจของอิงดาวที่จะยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์เป็น จุดเปลี่ยนสำคัญ สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างธารากับอิงดาว มันเปิดโอกาสให้ธาราได้ก้าวเข้ามาใกล้เธอมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็น บททดสอบที่สำคัญ สำหรับธาราเอง ที่จะต้องเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่ซับซ้อนภายในใจ และตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับความรักที่ต้องห้ามนี้ต่อไป
อนาคตของธาราและอิงดาวยังคงคลุมเครือ และการตัดสินใจที่ยากลำบากกำลังรอพวกเขาอยู่ข้างหน้า
ตอนพิเศษ งานวิวาห์ของธาราและอิงดาวเสียงดนตรีไทยบรรเลงอย่างไพเราะเสนาะหู กลิ่นหอมของดอกมะลิและดอกกล้วยไม้ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณเรือนไทยโบราณที่ถูกประดับประดาอย่างงดงามด้วยผ้าไหมสีทองและดอกไม้นานาพันธุ์ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมากระทบกับเครื่องประดับทองคำที่เจ้าสาวสวมใส่ ส่องประกายเป็นประกายระยิบระยับวันนี้เป็นวันสำคัญ วันที่หัวใจสองดวงจะผูกพันกันชั่วนิรันดร์ วันวิวาห์ของธาราและอิงดาวหลังจากที่ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อกัน เรื่องราวความรักของพวกเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความกังวลของครอบครัว ความไม่เข้าใจของคนรอบข้าง และแรงกดดันจากขนบธรรมเนียมประเพณีคีรินทร์และอลิสาพ่อแม่ของธารา รู้สึกประหลาดใจและกังวลใจอย่างมากเมื่อลูกชายสารภาพว่าเขารักอิงดาวเกินกว่าคำว่าน้องสาว“ธาราลูก ลูกแน่ใจหรือ” อลิสาถามด้วยน้ำเสียงกังวลใจในวันนั้น “อิงดาวเป็นลูกพี่ลูกน้องของเรานะลูก”คีรินทร์เองก็เสริม “เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนนะลูก มันอาจจะทำให้เกิดเรื่องไม่สบายใจกับครอบครัวเราได้”ทางด้านมิ้นท์และปกรณ์ พ่อแม่ของอิงดาว ก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก โดยเฉพาะมิ้นท์ที่เป็น
ตอนที่ 131 ธาราสารภาพรักอิงดาว (ตอนจบ)สายลมยามค่ำคืนในกรุงเทพฯ พัดเอื่อยๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบของธารา แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงสลัวๆ ส่องกระทบกับใบหน้าของธาราและอิงดาวที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามกัน บรรยากาศเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่ได้ยินหลังจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจเริ่มคลี่คลาย และอิงดาวได้ยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ไปแล้ว ความใกล้ชิดระหว่างธาราและอิงดาวก็เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น สัญญาณจากใจที่ทั้งคู่ส่งออกมาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่กำแพงที่มองไม่เห็นของความเป็นลูกพี่ลูกน้องก็ยังคงกั้นขวางอยู่วันนี้หลังจากที่พวกเขาเพิ่งกลับจากการทานอาหารค่ำด้วยกัน ธารารู้สึกว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะพูดความในใจออกไป เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถเก็บงำความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้าธาราสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เขามี“อิงดาวครับ พี่มีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับอิงดาว” ธารากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังจนอิงดาวรู้สึกได้อิงดาวหันมามองธารา ใบหน้าข
ตอนที่ 130 สัญญาณจากใจหลังจากอิงดาวยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ก็ยังคงใช้เวลาอยู่กับธารามากขึ้น พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น ความรู้สึกระหว่างธาราและอิงดาวเริ่มเปลี่ยนไปอย่างละเอียดอ่อน มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นการมองตาที่ยาวนานกว่าปกติ การสัมผัสกันโดยบังเอิญที่ทำให้ใจเต้นแรง หรือบทสนทนาที่ลึกซึ้งเกินกว่าความเป็นพี่น้อง ธารายังคงไม่กล้าสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงออกไป แต่อิงดาวเองก็เริ่มรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง บทสรุปของตอนนี้จะทิ้งท้ายไว้ให้ผู้อ่านลุ้นว่าความสัมพันธ์ของธาราและอิงดาวจะก้าวไปในทิศทางใดต่อไปในอนาคตสายลมยามเย็นพัดโชยอ่อนเข้ามาในระเบียงคอนโดมิเนียมของธารา แสงไฟจากตึกสูงระยิบระยับราวกับดวงดาวบนผืนฟ้า อิงดาวนั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้หวายตัวโปรดของธารา ส่วนธารากำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ หลังจากการทำงานร่วมกันอย่างหนักหน่วงเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ทางธุรกิจของ ‘มั่งคั่งแลนด์’ บรรยากาศเงียบสงบและผ่อนคลาย
ตอนที่ 129 ความรักที่ต้องเลือกอิงดาวเริ่มทบทวนความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอตระหนักว่าพฤกษ์อาจไม่ใช่คนที่เธอต้องการจริงๆ ในยามยาก และความรู้สึกที่เธอมีต่อพฤกษ์อาจเป็นเพียงความประทับใจชั่วคราว เธอตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ ทำให้ธารารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้ เพราะยังคงสับสนกับกำแพงของความเป็นพี่น้องที่คอยกั้นขวางพวกเขาอยู่ค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก เสียงฟ้าคำรามก้องสะท้อนความรู้สึกภายในใจของอิงดาวที่กำลังปั่นป่วน เธอทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวโปรดในห้องนั่งเล่นของเธอ ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด มือถือวางคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ เธอไม่ได้แตะต้องมันเลยตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะเธอกำลังจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเองวิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาได้กลายเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับชีวิตของอิงดาว และรวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพฤกษ์ด้วย ในช่วงที่เธอต้องเผชิญกับความยากลำบากที่สุด พฤกษ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดหวังเธอจำได้ว่าเธอเคยรู้สึกประทับใจในตัวพฤกษ์มากแค่ไหน เขาเป็นคนฉลาด มีเสน่ห์ มีความมั่นใจ และดูเหมือนจะเข้าใจเธอในหลายๆ เรื่อง แต่เมื่อวิก
ตอนที่ 128 เมื่ออิงดาวต้องการที่พึ่งจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจ อิงดาวรู้สึกท้อแท้และเปราะบางมาก เธอเริ่มรู้สึกว่าพฤกษ์ไม่ได้ให้กำลังใจเธอเท่าที่ควร หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังเผชิญหน้า อิงดาวหันมาพึ่งพาธารามากขึ้นเธอระบายความในใจและความกังวลให้กับธาราฟัง ธารารับฟังด้วยความเข้าใจและให้กำลังใจน้องสาวอย่างเต็มที่ เขากอดอิงดาวแน่นเพื่อปลอบประโลม เมื่ออิงดาวได้อยู่ในอ้อมกอดของธารา เธอกลับรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ธาราเองก็รู้สึกเจ็บปวดที่เห็นอิงดาวเสียใจ แต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเธอเสียงฝนพรำนอกหน้าต่างห้องทำงานของอิงดาวในค่ำคืนที่เงียบสงัด สะท้อนกับหยาดน้ำตาที่คลออยู่เต็มดวงตาของเธอ รายงานตัวเลขผลประกอบการที่แสดงถึงการขาดทุนอย่างต่อเนื่องวางแผ่บนโต๊ะ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกท้อแท้และเปราะบางในใจของเธอ วิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้อิงดาวรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของความสิ้นหวังเธอพยายามที่จะเข้มแข็ง พยายามที่จะยิ้มและให้กำลังใจทีมงาน แต่ลึกๆ แล้ว เธอกำลังรู้สึกโดดเดี่ยวและเหนื่อยล้าเกินกว่าจะรับไหว เธอพยายามโทรหาพฤกษ์
ตอนที่ 127 โอกาสที่ใกล้ชิดเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ธุรกิจของอิงดาวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ธาราในฐานะพี่ชายและผู้บริหารที่มีประสบการณ์ตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลืออิงดาวอย่างเต็มที่ พวกเขาต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหา วิกฤตการณ์นี้กลายเป็นโอกาสที่ทำให้ธาราและอิงดาวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และได้เห็นความสามารถและความมุ่งมั่นของกันและกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ธารารู้สึกดีใจที่ได้อยู่เคียงข้างอิงดาวในยามยาก แต่ก็เจ็บปวดที่ต้องเห็นอิงดาวเสียใจจากปัญหาที่เกิดขึ้นเช้าวันหนึ่ง ท้องฟ้ากรุงเทพฯ ดูจะมืดครึ้มกว่าปกติ คล้ายกับเมฆหมอกที่ปกคลุมบรรยากาศในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่ ข่าวใหญ่พาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวธุรกิจ: “เศรษฐกิจโลกชะลอตัวหนัก ส่งผลกระทบตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์” “ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจ”มาตรการที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม และแน่นอนว่า ‘มั่งคั่งแลนด์’ ของอิงดาวก็ได้รับผลกระทบอย่างจัง โครงการที่กำลังพัฒนาหลายแห่