เกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ธุรกิจของอิงดาวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ธาราในฐานะพี่ชายและผู้บริหารที่มีประสบการณ์ตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลืออิงดาวอย่างเต็มที่ พวกเขาต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหา
วิกฤตการณ์นี้กลายเป็นโอกาสที่ทำให้ธาราและอิงดาวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และได้เห็นความสามารถและความมุ่งมั่นของกันและกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ธารารู้สึกดีใจที่ได้อยู่เคียงข้างอิงดาวในยามยาก แต่ก็เจ็บปวดที่ต้องเห็นอิงดาวเสียใจจากปัญหาที่เกิดขึ้น
เช้าวันหนึ่ง ท้องฟ้ากรุงเทพฯ ดูจะมืดครึ้มกว่าปกติ คล้ายกับเมฆหมอกที่ปกคลุมบรรยากาศในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่ ข่าวใหญ่พาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวธุรกิจ: “เศรษฐกิจโลกชะลอตัวหนัก ส่งผลกระทบตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์” “ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจ”
มาตรการที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม และแน่นอนว่า ‘มั่งคั่งแลนด์’ ของอิงดาวก็ได้รับผลกระทบอย่างจัง โครงการที่กำลังพัฒนาหลายแห่งมียอดจองลดลงอย่างน่าใจหาย ลูกค้าที่เคยสนใจก็ชะลอการตัดสินใจออกไปอย่างไม่มีกำหนด
ห้องทำงานของอิงดาวเต็มไปด้วยความตึงเครียด โทรศัพท์ดังขึ้นไม่หยุดนิ่ง มีทั้งสายจากลูกค้าที่ขอเลื่อนการโอนกรรมสิทธิ์ จากธนาคารที่เริ่มส่งสัญญาณเรื่องสินเชื่อ และจากทีมงานที่เข้ามาปรึกษาด้วยสีหน้ากังวล อิงดาวพยายามรับมือกับทุกปัญหาอย่างสุดความสามารถ ใบหน้าสวยคมของเธอตอนนี้ดูหมองคล้ำและเต็มไปด้วยความเครียด แววตาที่เคยสดใสฉายแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“ยอดจองลดลงไปกว่า 50% ค่ะคุณอิงดาว” ผู้จัดการฝ่ายขายรายงานด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ลูกค้าหลายรายขอคืนเงินจอง หรือไม่ก็เลื่อนการโอนออกไปอย่างไม่มีกำหนดเลยค่ะ”
อิงดาวกุมขมับ เธอรู้ว่าสถานการณ์นี้รุนแรงกว่าที่คิดมาก เธอทำงานหนักมาตลอด แต่ไม่เคยเจอวิกฤตที่ใหญ่หลวงขนาดนี้มาก่อน
ในขณะที่อิงดาวกำลังจมดิ่งกับปัญหา ธาราก็ได้รับรู้ถึงสถานการณ์วิกฤตที่เกิดขึ้นกับธุรกิจของอิงดาวอย่างรวดเร็ว แม้เขาจะพยายามรักษาระยะห่างจากเธอในช่วงที่ผ่านมา แต่เมื่อเห็นน้องสาวกำลังเผชิญปัญหาใหญ่ เขาในฐานะพี่ชายและผู้บริหารที่มีประสบการณ์ก็ไม่สามารถนิ่งเฉยได้อีกต่อไป ความรู้สึกหวงและห่วงใยน้องสาวที่เขามีต่อเธอมันเหนือกว่าความรู้สึกขัดแย้งภายในใจทั้งหมด
ธาราโทรศัพท์ไปหาอิงดาวทันที
“อิงดาวครับ พี่ได้ข่าวเรื่องวิกฤตการณ์อสังหาริมทรัพย์ และสถานการณ์ของบริษัทอิงดาว” ธารากล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “พี่อยากให้อิงดาวส่งข้อมูลทั้งหมดมาให้พี่ดูนะ เดี๋ยวพี่จะเข้าไปช่วยดูให้”
อิงดาวรู้สึกประหลาดใจที่ธาราโทรมา เพราะช่วงนี้เขามักจะดูห่างเหินกับเธอ แต่เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใยและจริงจังของธารา เธอก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย เหมือนมีแสงสว่างส่องเข้ามาในความมืดมิด
“ขอบคุณมากนะคะพี่ธารา อิงดาวกำลังแย่เลยค่ะ” น้ำเสียงของอิงดาวสั่นเครือเล็กน้อย เธอกำลังรู้สึกเปราะบางอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ไม่ต้องห่วงนะครับ อิงดาว เราจะผ่านมันไปด้วยกัน” ธารากล่าวให้กำลังใจ “พี่จะไปที่บริษัทอิงดาวตอนนี้เลยนะครับ”
หลังจากวางสาย ธาราก็เก็บเอกสารสำคัญแล้วตรงไปยังบริษัทของอิงดาวทันที เขาเข้ามาในห้องทำงานของอิงดาวด้วยสีหน้าจริงจัง แต่แววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะช่วยแก้ไขปัญหา
“ไหนอิงดาว เอาข้อมูลทั้งหมดมาให้พี่ดูครับ” ธารากล่าวพลางดึงเก้าอี้มานั่งข้างๆ อิงดาว
ตลอดหลายชั่วโมง ธาราและอิงดาวทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ธาราใช้ประสบการณ์ในการบริหารจัดการวิกฤตขององค์กรขนาดใหญ่มาวิเคราะห์สถานการณ์ของ ‘มั่งคั่งแลนด์’ อย่างละเอียด เขาพิจารณางบการเงิน ยอดขาย โครงการที่ค้างอยู่ และหนี้สินที่บริษัทกำลังเผชิญ
“ดูจากสถานการณ์แล้ว เราต้องหยุดการลงทุนในโครงการใหม่ที่ไม่จำเป็น และเร่งระบายสต็อกโครงการที่สร้างเสร็จแล้วให้เร็วที่สุด” ธาราสรุปอย่างรวดเร็ว “เราต้องปรับแผนการตลาดใหม่ทั้งหมด และอาจจะต้องเจรจากับธนาคารเพื่อขอพักชำระหนี้บางส่วน”
อิงดาวนั่งฟังธาราอย่างตั้งใจ เธอรู้สึกทึ่งในความสามารถของธาราที่สามารถวิเคราะห์ปัญหาได้อย่างรวดเร็วและเสนอแนวทางแก้ไขที่เป็นรูปธรรมได้ในเวลาอันสั้น
นับตั้งแต่วันนั้น ธาราก็ได้เข้ามาเป็นกำลังสำคัญในการแก้ไขวิกฤตของ ‘มั่งคั่งแลนด์’ เขายังคงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารของบริษัทตัวเอง แต่ก็แบ่งเวลาส่วนใหญ่มาช่วยอิงดาวอย่างเต็มที่
ห้องทำงานของอิงดาวกลายเป็นศูนย์บัญชาการชั่วคราวของทั้งสอง พวกเขาต้อง ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการประชุมกับทีมผู้บริหาร การเจรจากับธนาคารและผู้ร่วมลงทุน การวางแผนการตลาดใหม่ หรือแม้แต่การลงพื้นที่ไปเยี่ยมลูกค้าด้วยตัวเอง
มีหลายครั้งที่พวกเขาต้องทำงานจนดึกดื่น แสงไฟจากห้องทำงานของอิงดาวยังคงสว่างไสวแม้จะเลยเที่ยงคืนไปแล้ว พวกเขาต่างนั่งอยู่ตรงข้ามกัน เอกสารกองพะเนินอยู่ตรงกลาง โต๊ะกาแฟเต็มไปด้วยแก้วกาแฟเปล่าที่ดื่มหมดแล้ว
“พี่ธาราคะ อิงดาวรู้สึกท้อแท้จังเลยค่ะ” คืนหนึ่ง อิงดาวกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า ใบหน้าซีดเซียวของเธอสะท้อนความเหนื่อยล้าอย่างถึงที่สุด “เราจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้จริงๆ เหรอคะ”
ธาราหยุดมือจากการตรวจสอบเอกสาร เขามองหน้าอิงดาวด้วยความเห็นใจ “อิงดาวต้องเข้มแข็งไว้นะครับ พี่เชื่อมั่นในตัวอิงดาว เราจะผ่านมันไปได้แน่นอน” เขายื่นมือไปวางบนมือของอิงดาวที่วางอยู่บนโต๊ะเบาๆ เป็นการให้กำลังใจ ความอบอุ่นจากมือของธาราทำให้อิงดาวรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง
ในความยากลำบากนี้ ธาราได้เห็น ความสามารถ และ ความมุ่งมั่น ของอิงดาวอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น แม้เธอจะดูเปราะบางในบางครั้ง แต่เธอก็เป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เธอเรียนรู้และปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว และกล้าที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาโดยไม่ย่อท้อ
และอิงดาวก็ได้เห็นความสามารถของธาราในอีกด้านหนึ่ง เขาไม่ใช่แค่พี่ชายที่อ่อนโยนและใจดี แต่เขาเป็นผู้บริหารที่เด็ดขาด เฉียบคม และมีวิสัยทัศน์กว้างไกล เขาสามารถตัดสินใจเรื่องยากๆ ได้อย่างรวดเร็ว และมีภาวะผู้นำที่ทำให้ทุกคนยอมรับ
วิกฤตการณ์ครั้งนี้กลายเป็น โอกาสสำคัญ ที่ทำให้ธาราและอิงดาวได้ ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ความใกล้ชิดในการทำงานทำให้พวกเขาได้เรียนรู้และเข้าใจซึ่งกันและกันในมิติที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ในแต่ละวันที่ผ่านไป ธารารู้สึกดีใจที่ได้อยู่เคียงข้างอิงดาวในยามยากลำบากนี้ การได้เห็นเธอพยายามต่อสู้กับปัญหาอย่างไม่ย่อท้อ ทำให้เขารู้สึกชื่นชมเธอมากยิ่งขึ้น ความรู้สึกรักที่เขามีต่อเธอก็ยิ่งหยั่งรากลึกเข้าไปในใจ
แต่ในขณะเดียวกัน ธาราก็ เจ็บปวดที่ต้องเห็นอิงดาวเสียใจ จากปัญหาที่เกิดขึ้น ทุกครั้งที่เห็นแววตาที่หม่นหมองของเธอ เห็นเธอกังวลจนทานอาหารไม่ลง หรือเห็นเธอร้องไห้เงียบๆ ในห้องทำงานหลังม่านบังตา ความรู้สึกเจ็บปวดก็จะแล่นขึ้นมาในใจของธาราอย่างรุนแรง เขาทรมานที่เห็นคนที่เขารักต้องเผชิญกับความทุกข์ และเขาก็ไม่สามารถช่วยเธอได้ทั้งหมด
มีอยู่คืนหนึ่ง หลังจากที่อิงดาวร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายต่อหน้าธารา เธอรู้สึกหมดแรงและท้อแท้กับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ธาราเดินเข้าไปหาเธออย่างช้าๆ เขายืนอยู่ข้างๆ เธอเงียบๆ ก่อนจะยื่นมือไปลูบผมเธอเบาๆ
“อิงดาวครับ ไม่เป็นไรนะ” ธารากระซิบเสียงแผ่ว “พี่อยู่ตรงนี้เสมอ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะผ่านมันไปด้วยกันนะครับ”
อิงดาวเงยหน้าขึ้นมองธารา น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอโผเข้ากอดธาราแน่นราวกับจะหาที่พึ่งพิง ธารากอดตอบน้องสาวอย่างอ่อนโยน เขากอดเธอแน่นขึ้น พยายามส่งผ่านความเข้มแข็งและกำลังใจไปให้เธอ
ในวินาทีนั้น ธารารู้สึกถึงความอบอุ่นและความผูกพันที่แน่นแฟ้นระหว่างเขากับอิงดาว เขาได้อยู่ใกล้เธอ ได้โอบกอดเธอในยามที่เธออ่อนแอที่สุด และนั่นทำให้เขารู้สึกดีใจอย่างประหลาดใจ แต่ในขณะเดียวกัน ความรู้สึกเจ็บปวดก็แล่นเข้ามาในใจ เขารู้สึกเจ็บปวดที่ต้องเห็นเธอต้องเผชิญกับความทุกข์ และเขาก็ยังคงไม่สามารถบอกความรู้สึกที่แท้จริงของเขาออกไปได้
ในขณะที่ธาราเข้ามาช่วยเหลืออิงดาวอย่างเต็มที่ พฤกษ์ผู้เป็นแฟนของอิงดาวกลับแสดงออกถึงความห่างเหินและไม่เข้าใจในวิกฤตที่อิงดาวกำลังเผชิญ
พฤกษ์มักจะปลอบใจอิงดาวด้วยคำพูดที่สวยหรู แต่เขาก็ไม่ได้ลงมาช่วยเหลือในรายละเอียดของปัญหาเหมือนธารา เขายังคงใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้เข้ามาทำงานจนดึกดื่นเหมือนธารา และไม่ได้แสดงความเข้าใจในความกดดันที่อิงดาวกำลังเผชิญอย่างแท้จริง
มีอยู่ครั้งหนึ่ง อิงดาวโทรศัพท์ไปหาพฤกษ์เพื่อระบายความในใจเรื่องปัญหาในบริษัท
“คุณพฤกษ์คะ อิงดาวรู้สึกแย่มากเลยค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี” อิงดาวกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า
“ใจเย็นๆ นะครับคุณอิงดาว ทุกปัญหามีทางออกเสมอ” พฤกษ์ตอบ “คุณพักผ่อนเยอะๆ นะครับ อย่าเครียดมาก”
คำพูดของพฤกษ์แม้จะฟังดูให้กำลังใจ แต่กลับไม่ได้ช่วยให้อิงดาวรู้สึกดีขึ้นเลย เธอรู้สึกว่าพฤกษ์ไม่ได้เข้าใจในความยากลำบากที่เธอกำลังเผชิญอย่างแท้จริง และไม่ได้ลงมาช่วยแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมเหมือนที่ธาราทำ
ธาราสังเกตเห็นถึงความห่างเหินของพฤกษ์ที่เริ่มชัดเจนขึ้น เขาเห็นว่าอิงดาวมักจะเล่าเรื่องงานและปัญหาต่างๆ ให้เขาฟังมากกว่าที่จะไปเล่าให้พฤกษ์ฟัง และเขาก็รู้สึกได้ว่าอิงดาวเริ่มพึ่งพาเขามากขึ้นเรื่อยๆ ในยามยากลำบากนี้
วิกฤตการณ์ในวงการอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้เป็นเพียงบททดสอบความสามารถในการบริหารธุรกิจของอิงดาวเท่านั้น แต่มันยังเป็น บททดสอบที่สำคัญ สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างธาราและอิงดาวด้วย
การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด การได้เห็นความสามารถและความมุ่งมั่นของกันและกันในยามยากลำบาก ทำให้ความผูกพันของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นยิ่งกว่าเดิม ความรู้สึกรักที่ธารามีต่ออิงดาวยิ่งหยั่งรากลึกเข้าไปในใจ และอิงดาวเองก็เริ่มรู้สึกได้ถึงความสำคัญของธาราในชีวิตของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ
ในขณะที่ความสัมพันธ์ของอิงดาวกับพฤกษ์เริ่มดูห่างเหินและไม่เข้าใจกันเท่าที่ควร ความสัมพันธ์ระหว่างธารากับอิงดาวกลับดูใกล้ชิดและแน่นแฟ้นขึ้นอย่างน่าประหลาด
แม้จะมีความเจ็บปวดที่ต้องเห็นอิงดาวเสียใจ แต่ธาราก็รู้สึกดีใจที่ได้อยู่เคียงข้างเธอในยามยากลำบากนี้ วิกฤตการณ์นี้จึงกลายเป็น โอกาสทอง ที่ทำให้ความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจของธาราได้เติบโตและชัดเจนยิ่งขึ้น และมันกำลังจะนำพาความสัมพันธ์ของเขากับอิงดาวไปสู่จุดที่คาดไม่ถึง ในบทต่อไป
ตอนพิเศษ งานวิวาห์ของธาราและอิงดาวเสียงดนตรีไทยบรรเลงอย่างไพเราะเสนาะหู กลิ่นหอมของดอกมะลิและดอกกล้วยไม้ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณเรือนไทยโบราณที่ถูกประดับประดาอย่างงดงามด้วยผ้าไหมสีทองและดอกไม้นานาพันธุ์ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมากระทบกับเครื่องประดับทองคำที่เจ้าสาวสวมใส่ ส่องประกายเป็นประกายระยิบระยับวันนี้เป็นวันสำคัญ วันที่หัวใจสองดวงจะผูกพันกันชั่วนิรันดร์ วันวิวาห์ของธาราและอิงดาวหลังจากที่ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อกัน เรื่องราวความรักของพวกเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความกังวลของครอบครัว ความไม่เข้าใจของคนรอบข้าง และแรงกดดันจากขนบธรรมเนียมประเพณีคีรินทร์และอลิสาพ่อแม่ของธารา รู้สึกประหลาดใจและกังวลใจอย่างมากเมื่อลูกชายสารภาพว่าเขารักอิงดาวเกินกว่าคำว่าน้องสาว“ธาราลูก ลูกแน่ใจหรือ” อลิสาถามด้วยน้ำเสียงกังวลใจในวันนั้น “อิงดาวเป็นลูกพี่ลูกน้องของเรานะลูก”คีรินทร์เองก็เสริม “เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนนะลูก มันอาจจะทำให้เกิดเรื่องไม่สบายใจกับครอบครัวเราได้”ทางด้านมิ้นท์และปกรณ์ พ่อแม่ของอิงดาว ก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก โดยเฉพาะมิ้นท์ที่เป็น
ตอนที่ 131 ธาราสารภาพรักอิงดาว (ตอนจบ)สายลมยามค่ำคืนในกรุงเทพฯ พัดเอื่อยๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบของธารา แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงสลัวๆ ส่องกระทบกับใบหน้าของธาราและอิงดาวที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามกัน บรรยากาศเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่ได้ยินหลังจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจเริ่มคลี่คลาย และอิงดาวได้ยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ไปแล้ว ความใกล้ชิดระหว่างธาราและอิงดาวก็เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น สัญญาณจากใจที่ทั้งคู่ส่งออกมาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่กำแพงที่มองไม่เห็นของความเป็นลูกพี่ลูกน้องก็ยังคงกั้นขวางอยู่วันนี้หลังจากที่พวกเขาเพิ่งกลับจากการทานอาหารค่ำด้วยกัน ธารารู้สึกว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะพูดความในใจออกไป เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถเก็บงำความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้าธาราสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เขามี“อิงดาวครับ พี่มีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับอิงดาว” ธารากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังจนอิงดาวรู้สึกได้อิงดาวหันมามองธารา ใบหน้าข
ตอนที่ 130 สัญญาณจากใจหลังจากอิงดาวยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ก็ยังคงใช้เวลาอยู่กับธารามากขึ้น พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น ความรู้สึกระหว่างธาราและอิงดาวเริ่มเปลี่ยนไปอย่างละเอียดอ่อน มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นการมองตาที่ยาวนานกว่าปกติ การสัมผัสกันโดยบังเอิญที่ทำให้ใจเต้นแรง หรือบทสนทนาที่ลึกซึ้งเกินกว่าความเป็นพี่น้อง ธารายังคงไม่กล้าสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงออกไป แต่อิงดาวเองก็เริ่มรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง บทสรุปของตอนนี้จะทิ้งท้ายไว้ให้ผู้อ่านลุ้นว่าความสัมพันธ์ของธาราและอิงดาวจะก้าวไปในทิศทางใดต่อไปในอนาคตสายลมยามเย็นพัดโชยอ่อนเข้ามาในระเบียงคอนโดมิเนียมของธารา แสงไฟจากตึกสูงระยิบระยับราวกับดวงดาวบนผืนฟ้า อิงดาวนั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้หวายตัวโปรดของธารา ส่วนธารากำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ หลังจากการทำงานร่วมกันอย่างหนักหน่วงเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ทางธุรกิจของ ‘มั่งคั่งแลนด์’ บรรยากาศเงียบสงบและผ่อนคลาย
ตอนที่ 129 ความรักที่ต้องเลือกอิงดาวเริ่มทบทวนความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอตระหนักว่าพฤกษ์อาจไม่ใช่คนที่เธอต้องการจริงๆ ในยามยาก และความรู้สึกที่เธอมีต่อพฤกษ์อาจเป็นเพียงความประทับใจชั่วคราว เธอตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ ทำให้ธารารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้ เพราะยังคงสับสนกับกำแพงของความเป็นพี่น้องที่คอยกั้นขวางพวกเขาอยู่ค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก เสียงฟ้าคำรามก้องสะท้อนความรู้สึกภายในใจของอิงดาวที่กำลังปั่นป่วน เธอทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวโปรดในห้องนั่งเล่นของเธอ ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด มือถือวางคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ เธอไม่ได้แตะต้องมันเลยตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะเธอกำลังจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเองวิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาได้กลายเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับชีวิตของอิงดาว และรวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพฤกษ์ด้วย ในช่วงที่เธอต้องเผชิญกับความยากลำบากที่สุด พฤกษ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดหวังเธอจำได้ว่าเธอเคยรู้สึกประทับใจในตัวพฤกษ์มากแค่ไหน เขาเป็นคนฉลาด มีเสน่ห์ มีความมั่นใจ และดูเหมือนจะเข้าใจเธอในหลายๆ เรื่อง แต่เมื่อวิก
ตอนที่ 128 เมื่ออิงดาวต้องการที่พึ่งจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจ อิงดาวรู้สึกท้อแท้และเปราะบางมาก เธอเริ่มรู้สึกว่าพฤกษ์ไม่ได้ให้กำลังใจเธอเท่าที่ควร หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังเผชิญหน้า อิงดาวหันมาพึ่งพาธารามากขึ้นเธอระบายความในใจและความกังวลให้กับธาราฟัง ธารารับฟังด้วยความเข้าใจและให้กำลังใจน้องสาวอย่างเต็มที่ เขากอดอิงดาวแน่นเพื่อปลอบประโลม เมื่ออิงดาวได้อยู่ในอ้อมกอดของธารา เธอกลับรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ธาราเองก็รู้สึกเจ็บปวดที่เห็นอิงดาวเสียใจ แต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเธอเสียงฝนพรำนอกหน้าต่างห้องทำงานของอิงดาวในค่ำคืนที่เงียบสงัด สะท้อนกับหยาดน้ำตาที่คลออยู่เต็มดวงตาของเธอ รายงานตัวเลขผลประกอบการที่แสดงถึงการขาดทุนอย่างต่อเนื่องวางแผ่บนโต๊ะ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกท้อแท้และเปราะบางในใจของเธอ วิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้อิงดาวรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของความสิ้นหวังเธอพยายามที่จะเข้มแข็ง พยายามที่จะยิ้มและให้กำลังใจทีมงาน แต่ลึกๆ แล้ว เธอกำลังรู้สึกโดดเดี่ยวและเหนื่อยล้าเกินกว่าจะรับไหว เธอพยายามโทรหาพฤกษ์
ตอนที่ 127 โอกาสที่ใกล้ชิดเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ธุรกิจของอิงดาวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ธาราในฐานะพี่ชายและผู้บริหารที่มีประสบการณ์ตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลืออิงดาวอย่างเต็มที่ พวกเขาต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหา วิกฤตการณ์นี้กลายเป็นโอกาสที่ทำให้ธาราและอิงดาวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และได้เห็นความสามารถและความมุ่งมั่นของกันและกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ธารารู้สึกดีใจที่ได้อยู่เคียงข้างอิงดาวในยามยาก แต่ก็เจ็บปวดที่ต้องเห็นอิงดาวเสียใจจากปัญหาที่เกิดขึ้นเช้าวันหนึ่ง ท้องฟ้ากรุงเทพฯ ดูจะมืดครึ้มกว่าปกติ คล้ายกับเมฆหมอกที่ปกคลุมบรรยากาศในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่ ข่าวใหญ่พาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวธุรกิจ: “เศรษฐกิจโลกชะลอตัวหนัก ส่งผลกระทบตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์” “ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจ”มาตรการที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม และแน่นอนว่า ‘มั่งคั่งแลนด์’ ของอิงดาวก็ได้รับผลกระทบอย่างจัง โครงการที่กำลังพัฒนาหลายแห่