อุปสรรคและแรงกดดันที่แพรไหมสร้างขึ้น ไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ของอลิสาและคีรินทร์แตกหักลงอย่างที่เธอหวัง แต่กลับยิ่งหล่อหลอมให้พวกเขากลายเป็นคู่ที่แข็งแกร่งและเข้าใจกันมากขึ้น วิกฤตการณ์เหล่านี้ได้สอนบทเรียนอันล้ำค่าและพิสูจน์ให้เห็นถึงพลังแห่งความรักที่แท้จริง
เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาที่ซับซ้อนและภัยคุกคามที่มองไม่เห็น ทั้งการโจมตีทางไซเบอร์และการส่งมอบวัสดุที่ผิดพลาด อลิสาและคีรินทร์เรียนรู้ที่จะเป็นทีมเดียวกันอย่างแท้จริง พวกเขาตระหนักว่าการเผชิญหน้ากับความท้าทายเหล่านี้เพียงลำพังไม่ใช่ทางออก พวกเขาไม่ใช่แค่คู่รักที่ใช้ชีวิตร่วมกัน แต่เป็นคู่คิดและเป็นกำลังใจให้กันในทุกย่างก้าว ทั้งในเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว
คีรินทร์ไม่เพียงแค่เป็นผู้บริหารที่ต้องรับผิดชอบโปรเจกต์ใหญ่ แต่ยังเป็นผู้รับฟังปัญหาของอลิสาอย่างตั้งใจ และคอยให้คำแนะนำเมื่อเธอต้องการ ในยามที่อลิสารู้สึกท้อแท้หรือหมดกำลังใจ คีรินทร์จะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ เขาจะจับมือเธอไว้แน่น ให้กำลังใจด้วยคำพูดที่เปี่ยมด้วยความหวัง และช่วยเธอหาวิธีแก้ปัญหาจากมุมมองที่แตกต่างออกไป ในขณะที่อลิสาก็เป็นแรงใจสำคัญที่ทำให้คีรินทร์ไม่ท้อถอย เธอคอยดูแลเขาเมื่อเขามีความเครียด และเป็นผู้ที่ทำให้เขายังคงเชื่อมั่นในเส้นทางที่พวกเขาเลือกเดินร่วมกัน
เมื่อเกิดปัญหาขึ้น แทนที่จะโทษกันหรือเก็บงำความไม่พอใจไว้ภายใน พวกเขากลับหันหน้าเข้าหากันเพื่อหาสาเหตุและทางแก้ไข พวกเขาใช้เวลาหลายชั่วโมงในการปรึกษาหารือ วางแผน และคิดกลยุทธ์ในการรับมือกับแผนการอันแยบยลของแพรไหมและภูริชที่ดูเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุด พวกเขาเรียนรู้ที่จะแบ่งเบาความเครียดซึ่งกันและกัน และปลอบประโลมอีกฝ่ายในยามที่อีกฝ่ายอ่อนล้า
"เราต้องแข็งแกร่งกว่าพวกเขานะคะพี่คีรินทร์" อลิสาพูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นในคืนหนึ่ง หลังจากที่พวกเขาต้องทำงานหนักเพื่อแก้ไขปัญหาในระบบ "เราจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามทำลายเรามากแค่ไหนก็ตาม" แววตาของเธอเต็มไปด้วยความตั้งใจและไม่ย่อท้อ
คีรินทร์ยิ้มอย่างอ่อนโยน เขาดึงอลิสาเข้ามากอดแน่น สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและความแข็งแกร่งของเธอ "แน่นอนครับลิซ ตราบใดที่เรายังอยู่ด้วยกัน เราจะไม่มีวันยอมแพ้ พี่เชื่อว่าเราจะผ่านทุกอย่างไปได้เสมอ" คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจและความรักที่ลึกซึ้ง
หลังจากผ่านพ้นช่วงเวลาที่หนักหน่วงจากการแก้ไขปัญหาต่างๆ คีรินทร์และอลิสาตัดสินใจที่จะพาตัวเองไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัด เพื่อฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ และใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างเต็มที่ การเดินทางครั้งนี้เป็นมากกว่าแค่การพักผ่อน แต่เป็นการกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และช่วยให้พวกเขาได้มองเห็นภาพรวมของปัญหาที่ผ่านมาได้อย่างชัดเจน
พวกเขาเลือกไปพักที่รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่งในเขาใหญ่ ซึ่งเงียบสงบและโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี อากาศบริสุทธิ์และทิวทัศน์ที่สวยงามช่วยให้จิตใจของทั้งคู่ผ่อนคลายลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ทันทีที่มาถึงรีสอร์ต คีรินทร์และอลิสาก็สัมผัสได้ถึงความสงบ พวกเขาเดินเล่นในสวนของรีสอร์ต สูดอากาศบริสุทธิ์ และปล่อยให้ความกังวลต่างๆ ค่อยๆ เลือนหายไปจากความคิด
"รู้สึกดีจังเลยนะคะพี่คีรินทร์" อลิสาเอนตัวซบไหล่ของคีรินทร์ขณะเดินเล่นอยู่ริมทะเลสาบเล็กๆ ในรีสอร์ต "เหมือนได้ชาร์จพลังงานเลยค่ะ"
คีรินทร์โอบกอดอลิสาแน่น "ใช่ครับลิซ พี่เองก็รู้สึกดีขึ้นมาก การได้มาอยู่กับลิซแบบนี้มันดีที่สุดเลย"
ช่วงค่ำ พวกเขานั่งรับประทานอาหารค่ำใต้แสงดาว บรรยากาศโรแมนติกทำให้ทั้งคู่รู้สึกเหมือนได้กลับมาเป็นคู่รักที่เพิ่งเริ่มต้นความสัมพันธ์อีกครั้ง พวกเขาคุยกันถึงเรื่องราวต่างๆ หัวเราะด้วยกัน และเล่าความฝันที่อยากจะทำให้เป็นจริงในอนาคต
"ลิซว่าเราน่าจะมีบ้านเล็กๆ ที่นี่นะคะ" อลิสาพูดขึ้นมาด้วยแววตาเป็นประกาย "จะได้มาพักผ่อนแบบนี้บ่อยๆ"
คีรินทร์ยิ้ม "ถ้าลิซชอบ พี่ก็จะซื้อให้ลิซครับ เราจะสร้างครอบครัวของเราที่นี่ด้วยกันนะ"
วันรุ่งขึ้น พวกเขาตื่นเช้าเพื่อไปขี่จักรยานชมวิวรอบๆ รีสอร์ต อลิสาที่ปกติเป็นคนคล่องแคล่ว ก็ยังคงแสดงความสนุกสนานกับการปั่นจักรยานไปตามทางเล็กๆ ที่โอบล้อมด้วยต้นไม้สูงใหญ่ คีรินทร์คอยปั่นตามหลังและดูแลเธอไม่ห่างสายตา เสียงหัวเราะของทั้งคู่ดังก้องไปทั่วบริเวณ สร้างความสุขให้กับบรรยากาศรอบข้าง
หลังจากนั้น พวกเขาไปนวดสปาด้วยกัน เพื่อคลายความเมื่อยล้าจากความเครียดที่สะสมมานาน การนวดแผนไทยที่ผ่อนคลายช่วยให้กล้ามเนื้อของพวกเขาคลายตัวลง และทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาก
ในช่วงบ่าย พวกเขานั่งจิบกาแฟกันที่ระเบียงห้องพัก มองออกไปเห็นวิวภูเขาที่สวยงาม ในช่วงเวลาที่เงียบสงบนี้เอง พวกเขาก็ได้พูดคุยถึงเรื่องงานอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นไปในมุมมองที่แตกต่างออกไป
"พี่คีรินทร์คะ ลิซว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันทำให้เราได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างเลยนะคะ" อลิสาเริ่มขึ้น "มันทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น และทำให้เรารู้ว่าเราจะไม่มีวันทิ้งกัน"
คีรินทร์พยักหน้าเห็นด้วย "ใช่ครับลิซ พี่เองก็คิดแบบนั้น วิกฤตครั้งนี้ทำให้เราเห็นว่าใครคือศัตรูที่แท้จริง และใครที่แสร้งทำเป็นหวังดี"
การพักผ่อนครั้งนี้ช่วยให้อลิสาและคีรินทร์มีเวลาคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดมากขึ้น และมองเห็นเจตนาที่แท้จริงของภูริชได้ชัดเจนขึ้น
คีรินทร์เริ่มทำการตรวจสอบประวัติการติดต่อและเส้นสายของภูริชอย่างลับๆ เขาสังเกตเห็นว่าการช่วยเหลือของภูริชมักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญและส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของเขากับอลิสาเสมอ ทำให้เกิดข้อสงสัยมากขึ้น
"ลิซครับ พี่รู้สึกว่าภูริชอาจจะไม่ได้หวังดีกับเราอย่างที่เขาแสดงออกนะ" คีรินทร์ค่อยๆ พูดกับอลิสาอย่างระมัดระวังในคืนหนึ่งขณะที่พวกเขากำลังนอนอยู่บนเตียง "การที่เขาเข้ามาช่วยเหลือเราในทุกวิกฤตมันดูแปลกๆ นะครับ มันเหมือนเขารอคอยที่จะเข้ามาช่วยในจังหวะที่เรากำลังแย่ที่สุด"
อลิสาเองก็เริ่มคิดตาม เธอจำได้ว่าภูริชมักจะเข้ามาในจังหวะที่พอดีเกินไป และข้อความของเขาบางครั้งก็แฝงด้วยความพยายามที่จะสร้างระยะห่างระหว่างเธอกับคีรินทร์ เหมือนพยายามทำให้เธอรู้สึกว่าคีรินทร์ไม่สามารถดูแลเธอได้ดีพอ การสื่อสารที่เปิดเผยกับคีรินทร์ทำให้เธอเริ่มมองเห็นภาพรวมที่ชัดเจนขึ้น และเริ่มตั้งคำถามถึงเจตนาของภูริชอย่างจริงจัง เธอเริ่มสังเกตเห็นถึงความไม่ชอบมาพากลในพฤติกรรมของเขา และเริ่มระแวงในความหวังดีที่เขาแสดงออกมา
ทั้งคู่เริ่มที่จะมองเห็นว่าภูริชกำลังใช้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับตัวเอง และพยายามที่จะแทรกแซงความสัมพันธ์ของพวกเขาอย่างเงียบๆ การรับรู้ถึงเจตนาที่แท้จริงของภูริชทำให้พวกเขายิ่งต้องระมัดระวังและวางแผนการรับมืออย่างรอบคอบมากยิ่งขึ้น
แรงกดดันที่แพรไหมและภูริชสร้างขึ้น ไม่ได้ทำลายความสัมพันธ์ของอลิสาและคีรินทร์อย่างที่คาดหวัง แต่กลับเป็นบททดสอบที่สำคัญที่ทำให้ความรักของพวกเขายิ่งแข็งแกร่งขึ้น พวกเขาเรียนรู้ที่จะเชื่อใจกันมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น และเป็นกำลังใจให้กันในทุกสถานการณ์ ความผูกพันของพวกเขาแน่นแฟ้นยิ่งกว่าเดิม เพราะพวกเขาได้ผ่านพ้นพายุฝนอันหนักหน่วงมาด้วยกัน
โปรเจกต์อาคารสำนักงานใหญ่ยังคงเป็นความท้าทายที่ใหญ่หลวง และยังคงมีอุปสรรคอีกมากมายรออยู่ข้างหน้า แต่ทั้งอลิสาและคีรินทร์ก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมันด้วยกัน ไม่ว่าจะมีอุปสรรคใดๆ เข้ามาอีก พวกเขาก็เชื่อมั่นว่าความรักและความมุ่งมั่นของพวกเขาจะช่วยให้ผ่านพ้นทุกสิ่งไปได้ พวกเขาได้พิสูจน์แล้วว่าความรักที่แท้จริงสามารถเอาชนะได้ทุกอย่าง ตราบใดที่พวกเขายังคงจับมือกันและเป็นทีมเดียวกัน ความหวังและกำลังใจที่พวกเขามีให้กัน จะเป็นแรงผลักดันให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคงและมีความสุขร่วมกัน
ตอนพิเศษ งานวิวาห์ของธาราและอิงดาวเสียงดนตรีไทยบรรเลงอย่างไพเราะเสนาะหู กลิ่นหอมของดอกมะลิและดอกกล้วยไม้ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณเรือนไทยโบราณที่ถูกประดับประดาอย่างงดงามด้วยผ้าไหมสีทองและดอกไม้นานาพันธุ์ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมากระทบกับเครื่องประดับทองคำที่เจ้าสาวสวมใส่ ส่องประกายเป็นประกายระยิบระยับวันนี้เป็นวันสำคัญ วันที่หัวใจสองดวงจะผูกพันกันชั่วนิรันดร์ วันวิวาห์ของธาราและอิงดาวหลังจากที่ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อกัน เรื่องราวความรักของพวกเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความกังวลของครอบครัว ความไม่เข้าใจของคนรอบข้าง และแรงกดดันจากขนบธรรมเนียมประเพณีคีรินทร์และอลิสาพ่อแม่ของธารา รู้สึกประหลาดใจและกังวลใจอย่างมากเมื่อลูกชายสารภาพว่าเขารักอิงดาวเกินกว่าคำว่าน้องสาว“ธาราลูก ลูกแน่ใจหรือ” อลิสาถามด้วยน้ำเสียงกังวลใจในวันนั้น “อิงดาวเป็นลูกพี่ลูกน้องของเรานะลูก”คีรินทร์เองก็เสริม “เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนนะลูก มันอาจจะทำให้เกิดเรื่องไม่สบายใจกับครอบครัวเราได้”ทางด้านมิ้นท์และปกรณ์ พ่อแม่ของอิงดาว ก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก โดยเฉพาะมิ้นท์ที่เป็น
ตอนที่ 131 ธาราสารภาพรักอิงดาว (ตอนจบ)สายลมยามค่ำคืนในกรุงเทพฯ พัดเอื่อยๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบของธารา แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงสลัวๆ ส่องกระทบกับใบหน้าของธาราและอิงดาวที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามกัน บรรยากาศเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่ได้ยินหลังจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจเริ่มคลี่คลาย และอิงดาวได้ยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ไปแล้ว ความใกล้ชิดระหว่างธาราและอิงดาวก็เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น สัญญาณจากใจที่ทั้งคู่ส่งออกมาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่กำแพงที่มองไม่เห็นของความเป็นลูกพี่ลูกน้องก็ยังคงกั้นขวางอยู่วันนี้หลังจากที่พวกเขาเพิ่งกลับจากการทานอาหารค่ำด้วยกัน ธารารู้สึกว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะพูดความในใจออกไป เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถเก็บงำความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้าธาราสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เขามี“อิงดาวครับ พี่มีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับอิงดาว” ธารากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังจนอิงดาวรู้สึกได้อิงดาวหันมามองธารา ใบหน้าข
ตอนที่ 130 สัญญาณจากใจหลังจากอิงดาวยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ก็ยังคงใช้เวลาอยู่กับธารามากขึ้น พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น ความรู้สึกระหว่างธาราและอิงดาวเริ่มเปลี่ยนไปอย่างละเอียดอ่อน มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นการมองตาที่ยาวนานกว่าปกติ การสัมผัสกันโดยบังเอิญที่ทำให้ใจเต้นแรง หรือบทสนทนาที่ลึกซึ้งเกินกว่าความเป็นพี่น้อง ธารายังคงไม่กล้าสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงออกไป แต่อิงดาวเองก็เริ่มรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง บทสรุปของตอนนี้จะทิ้งท้ายไว้ให้ผู้อ่านลุ้นว่าความสัมพันธ์ของธาราและอิงดาวจะก้าวไปในทิศทางใดต่อไปในอนาคตสายลมยามเย็นพัดโชยอ่อนเข้ามาในระเบียงคอนโดมิเนียมของธารา แสงไฟจากตึกสูงระยิบระยับราวกับดวงดาวบนผืนฟ้า อิงดาวนั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้หวายตัวโปรดของธารา ส่วนธารากำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ หลังจากการทำงานร่วมกันอย่างหนักหน่วงเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ทางธุรกิจของ ‘มั่งคั่งแลนด์’ บรรยากาศเงียบสงบและผ่อนคลาย
ตอนที่ 129 ความรักที่ต้องเลือกอิงดาวเริ่มทบทวนความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอตระหนักว่าพฤกษ์อาจไม่ใช่คนที่เธอต้องการจริงๆ ในยามยาก และความรู้สึกที่เธอมีต่อพฤกษ์อาจเป็นเพียงความประทับใจชั่วคราว เธอตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ ทำให้ธารารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้ เพราะยังคงสับสนกับกำแพงของความเป็นพี่น้องที่คอยกั้นขวางพวกเขาอยู่ค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก เสียงฟ้าคำรามก้องสะท้อนความรู้สึกภายในใจของอิงดาวที่กำลังปั่นป่วน เธอทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวโปรดในห้องนั่งเล่นของเธอ ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด มือถือวางคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ เธอไม่ได้แตะต้องมันเลยตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะเธอกำลังจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเองวิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาได้กลายเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับชีวิตของอิงดาว และรวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพฤกษ์ด้วย ในช่วงที่เธอต้องเผชิญกับความยากลำบากที่สุด พฤกษ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดหวังเธอจำได้ว่าเธอเคยรู้สึกประทับใจในตัวพฤกษ์มากแค่ไหน เขาเป็นคนฉลาด มีเสน่ห์ มีความมั่นใจ และดูเหมือนจะเข้าใจเธอในหลายๆ เรื่อง แต่เมื่อวิก
ตอนที่ 128 เมื่ออิงดาวต้องการที่พึ่งจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจ อิงดาวรู้สึกท้อแท้และเปราะบางมาก เธอเริ่มรู้สึกว่าพฤกษ์ไม่ได้ให้กำลังใจเธอเท่าที่ควร หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังเผชิญหน้า อิงดาวหันมาพึ่งพาธารามากขึ้นเธอระบายความในใจและความกังวลให้กับธาราฟัง ธารารับฟังด้วยความเข้าใจและให้กำลังใจน้องสาวอย่างเต็มที่ เขากอดอิงดาวแน่นเพื่อปลอบประโลม เมื่ออิงดาวได้อยู่ในอ้อมกอดของธารา เธอกลับรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ธาราเองก็รู้สึกเจ็บปวดที่เห็นอิงดาวเสียใจ แต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเธอเสียงฝนพรำนอกหน้าต่างห้องทำงานของอิงดาวในค่ำคืนที่เงียบสงัด สะท้อนกับหยาดน้ำตาที่คลออยู่เต็มดวงตาของเธอ รายงานตัวเลขผลประกอบการที่แสดงถึงการขาดทุนอย่างต่อเนื่องวางแผ่บนโต๊ะ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกท้อแท้และเปราะบางในใจของเธอ วิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้อิงดาวรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของความสิ้นหวังเธอพยายามที่จะเข้มแข็ง พยายามที่จะยิ้มและให้กำลังใจทีมงาน แต่ลึกๆ แล้ว เธอกำลังรู้สึกโดดเดี่ยวและเหนื่อยล้าเกินกว่าจะรับไหว เธอพยายามโทรหาพฤกษ์
ตอนที่ 127 โอกาสที่ใกล้ชิดเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ธุรกิจของอิงดาวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ธาราในฐานะพี่ชายและผู้บริหารที่มีประสบการณ์ตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลืออิงดาวอย่างเต็มที่ พวกเขาต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหา วิกฤตการณ์นี้กลายเป็นโอกาสที่ทำให้ธาราและอิงดาวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และได้เห็นความสามารถและความมุ่งมั่นของกันและกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ธารารู้สึกดีใจที่ได้อยู่เคียงข้างอิงดาวในยามยาก แต่ก็เจ็บปวดที่ต้องเห็นอิงดาวเสียใจจากปัญหาที่เกิดขึ้นเช้าวันหนึ่ง ท้องฟ้ากรุงเทพฯ ดูจะมืดครึ้มกว่าปกติ คล้ายกับเมฆหมอกที่ปกคลุมบรรยากาศในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่ ข่าวใหญ่พาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวธุรกิจ: “เศรษฐกิจโลกชะลอตัวหนัก ส่งผลกระทบตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์” “ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจ”มาตรการที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม และแน่นอนว่า ‘มั่งคั่งแลนด์’ ของอิงดาวก็ได้รับผลกระทบอย่างจัง โครงการที่กำลังพัฒนาหลายแห่