"ไอ้..อมร ตื่นเดี๋ยวนี้"
เข้มไปโวยวายที่หน้าบ้านของอมรในตอนสายของวันต่อมา ส่งผลให้อมรที่กำลังนอนกอดลูกกอดเมียอยู่ถึงกับสะดุ้งตื่น เขาคว้ามือถือมาดูเวลา เพิ่งจะแปดโมงเช้า เมื่อคืนกว่าเขาจะได้นอนเพราะต้องเคลียส์บัญชี และดูแลความเรียบร้อยของผับก็ปาเข้าไปตีห้าแล้ว เมียของเขาก็เหมือนกัน "อะไรหรือคะพี่ ?" ดาราภรรยาสาวสวยของอมรงัวเงียกำลังจะลุกขึ้นมา "ไม่มีอะไรหรอกที่รัก เจ้าเข้มน่ะ เดี๋ยวพี่ไปดูมันซะหน่อย นอนต่อเถอะ" ดาราจึงหันไปคว้าตัวลูกชายวัยสามขวบเข้ามาไว้ในอ้อมกอดและนอนต่อ อมรก้มลงจูบหน้าผากเมียหอมแก้มลูกเสร็จก็เดินออกไปดูเจ้าเพื่อนตัวดีที่มาโวยวายที่หน้าบ้านของเขา บ้านพักของมันเขาก็จัดไว้ให้ต่างหากแล้ว บ้านหลังนั้นอมรซื้อไว้เพื่อเอาไว้สำหรับรับแขก และเอาไว้ให้ญาติพี่น้องรวมทั้งเพื่อนฝูงพักโดยเฉพาะ ห่างกันไม่กี่หลังคาเรือน อยู่ในหมู่บ้านจัดสรรโครงการหรูที่สุดในตัวจังหวัดอุดรธานี "อะไรวะ?" พูดพร้อมกับเปิดประตูรั้วเพื่อให้เจ้าเพื่อนตัวดีเข้ามาในบ้าน "ข้าโดนเด็กในร้านเอ็งตบ" เข้มเมื่อเข้ามาในบ้านได้แล้วก็ไม่รอช้าเปิดประเด็นทันที "อะไรนะ?" อมรได้แต่งงเขายังไม่ทันจับใจความได้ด้วยซ้ำ เข้มชี้ที่แก้มของตัวเอง ซึ่งมันขึ้นริ้วเป็นแนวตามรอยนิ้วมือของผู้ตบ "เอ็งต้องรับผิดชอบ" อมรรวบรวมสติอีกครั้งและมองตามนิ้วชี้ของเพื่อน ก่อนจะหัวเราะก๊ากออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ "ฝีมือผู้หญิง ?" มันเดาถูกได้ไงวะ เข้มได้แต่อุทานในใจ "ใช่แล้ว.." เข้มก็ยอมรับไปตามความจริง "จะให้ข้ารับผิดชอบยังไง ไล่ออกงั้นเหรอ ว่าแต่ว่าเด็กเสิร์ฟ เด็กดริ๊งค์ หรือว่านักร้องวะ แล้วแกไปทำอีท่าใหนถึงได้โดนตบซะเต็มแรงแบบนี้ ไม่อยากเชื่อ คนระดับอย่างคุณเข้ม หน้าตาแบบคุณเข้ม ผู้หญิงเห็นผู้หญิงน่าจะกรี๊ดนะ ไม่น่าจะตอบสนองด้วยการตบหน้าแกแบบนี้" อมรพูดออกมาซะยืดยาว เข้มได้แต่ลูบแก้มตัวเองข้างที่โดนตบ สายตาดุคู่นั้นเป็นประกายวาว "เอ็งต้องไปหาตัว..คน ๆ นั้นมาให้ข้า" บอกย้ำกับเพื่อนอีกครั้ง อมรจึงเริ่มจริงจังขึ้นมา "ว่าแต่แน่ใจได้ยังไงว่าเป็นเด็กในร้าน ไม่ใช่ลูกค้าที่มาเที่ยว" อมรถามเพื่อนอย่างจริงจัง "แน่ใจสิวะ เป็นเด็กในร้านเอ็งนั่นแหละ ก็แม่สาวเอวเด้งคนนั้นนั่นไง" "ดะ..เดี๋ยว ใครแม่สาวเอวเด้ง ?" อมรมึนกับคำพูดของเพื่อน "ก็คนที่ตบข้าไง" แล้วเข้มก็เล่าให้เพื่อนฟังว่าคนที่เขาเรียกว่าแม่สาวเอวเด้งคนนั้นก็คือแดนเซอร์ที่ขึ้นเต้นโชว์เมื่อคืนนี้ คนที่ยืนอยู่แถวหลังสุดคนนั้น "อ๋อ,,ถ้างั้นต้องถามพี่นก เพราะว่าในเรื่องนักร้อง นักเต้น นักดนตรี พี่นกเป็นคนรับผิดชอบ แต่ว่าข้าก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับน้องเขาด้วยนะเว้ย เอ็งไม่ได้ลวนลามน้องเขาแน่นะ" เจ๊นกหรือพี่นกเป็นลูกพี่ลูกน้องกับอมร เป็นผู้จัดการร้าน รับผิดชอบทางด้านเอ็นเตอร์เทนทั้งหมด ทั้งนักร้อง แดนเซอร์ นักดนตรี หรือแม้กระทั่งเด็กนั่งดริ๊งค์ ต่างก็อยู่ในความดูแลของเจ๊แกทั้งหมด เข้มพยักหน้าเป็นการยืนยันว่าเขายังไม่ได้ลวนลามเธอแม้แต่น้อยได้แค่คิดเท่านั้นเอง อมรจึงโทรหาเจ๊นกเพื่อสอบถามว่าแม่สาวเอวเด้งของไอ้เข้มน่ะเป็นใคร เมื่อได้รู้คร่าว ๆ แล้วว่าเป็นเด็กในร้านจริง ๆ เขาจึงได้รายงานเพื่อนที่หน้ายังเป็นปื้นยาวจากฤทธิ์แม่สาวเอวเด้งคนนั้น "แล้วจะให้จัดการยังไง" อมรถามเพื่อน เข้มเมื่อได้รู้เรื่องของฝนจากเจ๊นกผ่านอมรอีกทีก็เกิดสนใจ เด็ก..บ้านนอกคนนี้ขึ้นมาทันที "ไม่เป็นไรข้าจัดการเอง ข้าจะไปหาเจ๊นกได้ที่ไหน" "บ้านพักพนักงาน" เมื่อได้คำตอบเข้มก็เดินดุ่ม ๆ ไปขับมอร์เตอร์ไซค์ ฮาร์เล่ย์คันใหญ่ที่จอดอยู่หน้าบ้านของอมรตรงไปยังผับ จุดประสงค์คือไปหาเจ๊นก อมรได้แต่เกาท้ายทอยตัวเองอย่างงง ๆ อะไรกันวะตอนแรกบอกว่าเขาจะต้องจัดการให้ พอตอนหลังบอกจะจัดการเอง เฮ้อ ! ช่างเถอะเรื่องของมัน ไปนอนกอดลูกกอดเมียต่อดีกว่า อมรบอกกับตัวเองแล้วจึงเดินขึ้นบ้านไปเพื่อนอนพักผ่อนเอาแรงต่อ เสียงเครื่องยนต์ 2 สูบวี-ทวิน คำรามอยู่หน้าหอพักพนักงานในผับของอมร เจ๊นกที่รออยู่แล้วเพราะอมรโทรบอกว่า เข้มเพื่อนของเขาจะมาหา เธอจึงนั่งรอเขาที่โต๊ะม้าหินอ่อนใต้ต้นจามจุรี เมื่อเข้มเห็นเจ๊นกนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เขาก็ดับเครื่องยนต์และก้าวลงจากรถมอร์เตอร์ไซค์คันเท่ห์ที่ราคาแพงกว่ารถยนต์บางคันเสียอีก เดินตรงมาหาเจ๊นกและนั่งลงที่เก้าอี้ม้าหินอ่อนฝั่งตรงข้าม "เรียกเธอออกมาหาผม" ทันทีที่ตูดแตะเก้าอี้ม้าหินอ่อนเข้มก็บอกความต้องการของตัวเองกับเจ๊นกทันที เจ๊นกได้แต่เอามือทาบอกระงับความโมโหไว้ในใจ มิน่าล่ะเมื่อเช้ามันถึงได้ลุกลี้ลุกลนอยากจะกลับบ้านเร็ว ๆ จนเธอต้องแหกขี้ตาตื่นไปส่งมันตั้งแต่หกโมงเช้า ที่ใหนได้มันสร้างเรื่องไว้นี่เอง "ฝนกลับบ้านไปแล้วค่ะ พี่เพิ่งไปส่งมันตอนหกโมงเช้านี่เอง แต่ว่าเย็นนี้มันจะมาทำงานอยู่ เอาไว้เข้มรอเจอมันตอนเย็นนี้ได้ไหม ?" "บ้านฝนอยู่ไหน" เป็นอันว่าเจ๊นกรู้แล้วว่าเข้มไม่ต้องการรอ เธอจึงบอกรายละเอียดที่อยู่บ้านของฝนให้กับเข้มไป จากที่ฟังเรื่องราวจากอมรเจ๊นกรู้แค่ว่านังฝนไปตบหน้าผู้ชายคนนี้เข้าและเขาก็ไม่พอใจเป็นอย่างมากจนถึงกับต้องออกตามหาตัวกันเลยทีเดียว เข้มเมื่อออกมาจากหอพักแห่งนั้นแล้ว เขาก็ขับมอร์เตอร์ไซค์ฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน มุ่งหน้าเข้าไปสู่อำเภอหนองวัวซอ ดินแดนที่โอบล้อมไปด้วยภูเขา ตอนนี้น่าจะประมาณสิบโมงเช้า แสงแดดอันร้อนระอุนั้นไม่ระคายผิวเขาแม้แต่น้อย เพราะแจ๊กเก็ตหนังอย่างดีสีดำ หมวกกันน็อคครึ่งใบยี่ห้อเดียวกันกับรถมอร์เตอร์ไซค์ แว่นกันแดดยี่ห้อเรแบน อีกอย่างวิวทิวทัศน์สองข้างทางทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก ถ้าระยะทางตามที่เจ๊นกบอกน่าจะไม่เกินหนึ่งชั่วโมงเขาก็คงถึงบ้านของฝนอย่างแน่นอน เมื่อเข้าสู่ตัวอำเภอหนองวัวซอแล้วเขาก็แวะปั๊มเพื่อเติมน้ำมัน และหาอะไรรองท้องไปด้วย เขาเลือกกินข้าวผัดกระเพราที่ร้านในปั๊มนั่นแหละ อีกประมาณ 25 กม.ก็จะถึงหมู่บ้านของฝนแล้ว เข้มดูจากจีพีเอสในโทรศัพท์ กินข้าวกินกาแฟเรียบร้อยเขาก็พร้อมในการออกเดินทางเพื่อไปตามหาคนที่บังอาจ..กล้าตบหน้าเขา เข้มเป็นคนกรุงเทพ ฯ โดยกำเนิด เกิดมาบนกองเงินกองทองเลยก็ว่าได้ แต่ว่าชีวิตของเขาผ่านมาแล้วเกือบทุกรูปแบบ เพราะเกเรกว่าพี่น้องทุกคนในครอบครัว ทะเลาะกับพ่อและพี่ชายบ่อย เขาจึงออกมาใช้ชีวิตเองตอนเรียนปริญญาตรีที่อุเทนถวาย ล้มลุกคลุกคลานอยู่ห้าปีและได้รู้จักกับอมรตอนที่เรียนจบใหม่ ๆ เพราะอมรมาเป็นร้อยเวรพอดี โดนจับคดีชกต่อยบ่อยมากบางครั้งเป็นอมรเองนั่นแหละที่เป็นคนช่วยประกันตัวเขาออกมา เจอกันบ่อยจึงถูกชะตา อายุอานามก็ไล่เลี่ยกันจึงคบกันเป็นเพื่อน จนกระทั่งพ่อกับแม่มาตามตัวกลับบ้านเพราะพี่ชายของเขาสองคนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ไม่มีคนช่วยบริหารกิจการที่บ้าน เขาจึงยอมละทิ้งชีวิตที่โลดโผนและท้าทายแบบนั้นกลับไปช่วยพ่อกับแม่บริหารกิจการจนอยู่ตัวและขยายออกไปจนมั่นคง เริ่มคิดถึงชีวิตแบบที่เคยใช้ช่วงวัยรุ่นเขาจึงได้มาหาอมรที่นี่ 'จังหวัดอุดรธานี' บ้านเกิดของอมรเพื่อนรัก อมรลาออกจากข้าราชการตำรวจเพื่อมาเปิดผับเพราะเขารักในเสียงเพลงและการสังสรรค์ ออกจากตัวอำเภอหนองวัวซอมุ่งเข้าสู่ตำบลอูบมุงผ่านเข้าไปยังหมู่บ้านเล็ก ๆ ในตำบลแห่งนี้ จีพีเอสในโทรศัพท์ก็แจ้งว่าได้มาถึงจุดหมายแล้ว เข้มจึงได้สอบถามป้าคนหนึ่งที่ปั่นจักรยานผ่านมาพอดี "ป้าครับ รู้จักคนชื่อฝน ที่ทำงานร้านอาหารไหมครับ" ป้าคนนั้นทำท่าคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฝนที่ทำงานร้านอาหารก็น่าจะมีคนเดียวนั่นแหละ "โน่นบ้านมัน" ชี้ไปที่บ้านไม้สองชั้นหลังเก่า ๆ ข้างบนเป็นไม้ที่สภาพน่าจะสร้างมาแล้วหลายสิบปี ข้างล่างเป็นปูนที่สภาพก็เก่าไม่ต่างกัน แต่ดูสะอาดสะอ้านเรียบร้อย มีกุหลาบและไม้ดอกหลายชนิดปลูกไว้ที่หน้าบ้านหลายกอ "แต่ตอนนี้มันไม่อยู่หรอก มันไปขายของที่ปั๊มน้ำมันที่ใหญ่ ๆ ที่พ่อหนุ่มผ่านมานั่นแหละ น่าจะสังเกตเห็นนะ หมู่บ้านที่ผ่านมานั่นน่ะ" เข้มคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผ่านตาเขาแว้บ ๆ เหมือนกัน เขาก้มหัวลงเป็นเชิงขอบคุณป้าคนนั้น และขับรถมอร์เตอร์ไซค์กลับออกมายังหมู่บ้านแรกที่เขาผ่านมา "ชิ..ตามหาตัวยากจังนะแม่สาวเอวเด้ง"เมื่อเข้มขับรถมอร์เตอร์ไซค์วนกลับมาที่หมู่บ้านแรกที่เขาผ่านมา ไม่นานก็เจอปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่มากทางฝั่งขวามือ เขาต้องวนรถเพื่อขับเข้าไปในปั๊มแห่งนั้น ถ้ามาจากตัวอำเภอปั๊มแห่งนี้จะอยู่ทางฝั่งซ้าย เข้มวนรถเข้ามาและหาที่จอดได้ตรงหน้าร้านกาแฟพอดี เขาจึงเดินไปถามแม่ค้าที่ร้านกาแฟ "ขอโทษครับ ผมมาหาแม่ค้าขายน้ำแข็งใสที่ชื่อฝน ไม่ทราบว่าร้านเธออยู่ตรงใหน"ฟองจันทร์ละมือจากการชงกาแฟชั่วคราว เงยหน้าขึ้นก็เจอกับชายหนุ่มคนหนึ่งอายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับเพชรสามีของเธอ บวกลบก็ไม่น่าจะเกินหนึ่งปี ผู้ชายอายุ 35 ปีนี่หล่อกันทุกคนเลยหรือไงนะ ฟองจันทร์คิดในใจ (ติดตามเรื่องเพชรกับฟองจันทร์ได้ในเรื่อง 'กลับบ้านเรารักรออยู่' นะคะ เรื่องนี้จบแล้ว)"ทางโน้นค่ะ"เข้มมองตามมือแม่ค้ากาแฟที่ชี้ไปทางร้านค้าหลาย ๆ ร้านในเพิงสังกะสี เขาผงกหัวเล็กน้อยเป็นเชิงขอบคุณ และเดินไปทางนั้นทันทีเพชรที่เดินมาหาเมียพอดีทันเห็นหลังเข้มไว ๆ จึงถามขึ้น"ลูกค้าประจำเหรอ ?"เสียงไม่พอใจนิด ๆ ฟองจันทร์ยิ้มแล้วเดินมาหาสามีทันที ดึงแขนเขาเข้าไปในกระท่อมที่ตกแต่งให้เป็นร้านกาแฟ มองซ้ายมองขวา เมื่อไม่มีใคร เธอก็จุ๊บแก้มสากเขาไปทีหน
เมื่อเข้มกลับมาถึงบ้านพักเขาก็โทรหาพี่ดำเพื่อที่จะให้ช่วยสืบประวัติของฝน พี่ดำรับปากภายในสามวันรู้เรื่อง "เดี๋ยวเย็นนี้ผมจะเดินทางไปอุดรเลยครับ"แค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แต่เข้มใช้ให้เขาซึ่งเป็นมือขวาสืบให้ แสดงว่าจะต้องเป็นคนที่ไม่ธรรมดา"ให้เจ้าขาวไปด้วยไหมครับ""ไม่ต้อง ให้พี่ขาวอยู่ดูแลงานทางโน้นนั่นแหละครับ เพราะอีกนานกว่าผมจะกลับ คุณพ่อคุณแม่เป็นอย่างไรบ้าง""ท่านสบายดี แต่บ่นว่าคิดถึงคุณเข้ม""ครับ เดี๋ยวผมจะโทรหาท่านเอง"เมื่อวางสายจากพี่ดำแล้ว เข้มก็เปิดโน้ตบุ๊ค เพื่อเช็คงานและอีเมล์ งานไม่มีปัญหาอะไร พี่ดำกับพี่ขาวสุดยอดมาก สามารถทำงานแทนเขาได้แทบจะทุกอย่าง เข้มเจอสองคนนี้ตอนที่ยังเรียนอยู่ เป็นรุ่นพี่ของสถาบันคู่อริ เคยไล่ตีไล่ฟันกันหลายครั้ง จนกระทั่งเขาเรียนจบและกลับไปบริหารงานที่บริษัท สองคนนี้ไปสมัครงาน เขาจึงรับไว้ ตั้งแต่นั้นมาพี่ดำกับพี่ขาวก็เป็นกำลังสำคัญในการช่วยเขาบริหารบริษัทจนเติบโตมั่นคงมาจนถึงทุกวันนี้เข้มเหลือบมองนาฬิกา บ่ายสามกว่าแล้วเขาจึงได้ไปหาอมรที่บ้าน เขาอยากได้บ้านแบบนี้สักหลัง คงต้องให้อมรจัดการให้ ซื้อไว้เลยดีกว่าเพราะเขากะว่าจะอยู่อีกนานไม่อยากรบกวนเพ
คืนนี้ผับของอมรก็ยังคึกคักไปด้วยผู้คนเช่นเคย โดยเฉพาะคืนนี้เขาจ้างนักร้องลูกทุ่งหญิงชื่อดังมาสร้างสีสันให้กับนักเที่ยวด้วย ผับของเขาก็แทบจะไม่มีที่ให้ยืน ส่วนโชว์ของฝนนั้นเล่นคั่นเวลาระหว่างรอให้นักร้องดังมาขึ้นเวที "เอ้าทุกคนเตรียมตัวขึ้นเวทีได้"เจ๊นกตะโกนบอกเด็ก ๆ ให้เตรียมพร้อมเพื่อขึ้นโชว์บนเวที และหันไปกำชับกับนักร้องเพราะนักร้องคนนี้เป็นตัวสำรองที่มาแทนนักร้องตัวจริงที่โดนผัวซ้อม ส่วนคนอื่น ๆ นั้นก็มืออาชีพกันอยู่แล้ว ทุกคนจึงเดินเรียงแถวกันขึ้นเวที นักร้องก็แสดงเต็มที่ ส่วนแดนเซอร์ก็ลีลาสุดยอด "ไงวะเข้ม เคลียส์เสร็จแล้วเหรอเรื่องเอ็งกับแม่สาวเอวเด้งคนนั้นน่ะ"อมรพยักเพยิดไปทางฝนที่กำลังออกลีลาส่ายสะโพกอยู่บนเวทีเป็นเชิงถามเพื่อนรัก เข้มส่ายหน้า แล้วก็ยกแก้วเหล้ากระดกรวดเดียวหมดแก้ว "เฮ้ยใจเย็น ๆ ก่อนจะรีบไปใหน"อมรร้องเสียงหลง ขืนกินดุแบบนี้เขากลัวว่าเพื่อนจะน็อคไปซะก่อน "ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่นี้จิ๊บ ๆ "เข้มก็ยังยกแก้วไม่มีแผ่วเลย หวังให้ความเย็นของน้ำแข็งและรสชาดของเหล้าช่วยดับความร้อนรุ่มในใจของเขาให้มันลดลงบ้าง ซึ่งอาการร้อนรุ่มนี้เข้มเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่
เธอพูดขอบคุณเขายืดยาวก่อนจะเดินออกไป เข้มคว้าข้อมือของฝนไว้และดึงเธอเข้ามาปะทะกับอกแกร่งของเขาทันที เนื่องจากที่นี่เป็นโรงพยาบาลผู้คนพลุกพล่านเข้มจึงไม่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้ เมื่อฝนทำท่าจะร้องเขาจึงรีบปล่อยตัวเธอออกจากอ้อมกอดแต่ยังไม่ยอมปล่อยข้อมือของเธอ "อย่าเพิ่งไปสิ คุยกันก่อน"ฝนจึงนิ่งและยอมคุยกับเขาต่อ "มีอะไรคะ ?" ถามเขาพร้อมกับสอดส่ายสายตามองหาที่นั่งไปด้วย เข้มเมื่อเห็นดังนั้นก็รีบจูงมือเธอไปยังรถมอร์เตอร์ไซค์จุดประสงค์เพื่อให้เธอได้นั่งพักบนเบาะรถของเขา เพราะที่นี่ไม่มีที่พอจะให้นั่งพักได้เลย เมื่อมาถึงรถมอร์เตอร์ไซค์เข้มก็ยกฝนขึ้นนั่งบนรถของเขาเหมือนกับยกเด็กเล็ก ๆ คนหนึ่ง ส่วนตัวเขาก็ยืนอยู่ไม่ห่างจากเธอเลย ฝนได้กลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่บวกกับน้ำหอมผู้ชายกลิ่นมันรัญจวนใจเธอไม่น้อย"กว่าจะเช้า ไม่รู้เหรอว่ามันอันตราย ?" เมื่อจัดแจงท่านั่งให้เธอเรียบร้อยแล้วเข้มก็เอ่ยปากถามเธอ ฝนเม้มริมฝีปาก เพราะเป็นห้องผู้ป่วยรวมพยาบาลจึงให้ญาติเฝ้าคนป่วยได้แค่คนเดียว เมื่อคุยกับแม่เสร็จแล้วเธอจึงให้แม่ขึ้นไปหาพ่อ ส่วนเธอนั้นตั้งใจว่าจะนั่งเตร่แถว ๆ หน้าตึกที่พ่อนอนรักษาตัวอยู่นั่นแหล
หกโมงเช้าพอดีดำก็มาถึงจุดหมายปลายทาง เขาโทรหาเจ้านายเพื่อจะบอกว่าเขามาถึงหน้าบ้านแล้วช่วยมาเปิดประตูบ้านให้เขาด้วย แต่เข้มไม่ยอมรับโทรศัพท์ ด้วยความเป็นห่วงเจ้านาย ดำจึงปีนรั้วบ้านเข้าไปสำรวจรอบ ๆ ตัวบ้านทันที รถมอร์เตอร์ไซค์ก็จอดอยู่ในที่จอด แสดงว่าเจ้านายเขาอยู่บ้าน ประตูหน้าต่างปิดเรียบร้อยไม่มีร่องรอยของการถูกงัด เมื่อดูรอบ ๆ บ้านถี่ถ้วนแล้วเขาก็กลับมาที่ประตูบานใหญ่หน้าบ้าน ดำลองเขย่าประตูดูมันก็ล๊อคปกติ เขาจึงสะเดาะกุญแจเองด้วยความสามารถเฉพาะตัว แค่นี้ไม่คณามือไอ้ดำหรอก และเมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไปได้ ดำก็คลำวัตถุสีดำมะเมื่อมข้างเอว นำมันขึ้นมาไว้ในอุ้งมือในท่าเตรียมพร้อม แสงแดดในตอนหกโมงเช้าของหน้าร้อนแบบนี้มันสว่างมากพอที่สายตาของดำจะมองเห็นอะไร ๆ ได้ชัดเจนมากพอ เขาสอดส่ายสายตาสำรวจไปทั่วห้องรับแขกและสะดุดตากับอะไรบางอย่างที่นอนคุดคู้อยู่บนโซฟา เท้าที่เบาแทบไม่มีเสียงนั้นค่อย ๆ ย่างเข้าไป ในมือที่ถือ .22 แม็กนั่มนั้นเตรียมพร้อมเต็มที่ หากเกิดอะไรขึ้นเขาแน่ใจว่าไม่พลาดแน่นอน และในขณะที่เขากำลังจะก้าวเข้าไปถึงเป้าหมายที่นอนอยู่บนโซฟานั้น สันหลังเขาก็เย็นวาบรู้สึกได้ถึงวัตถุเยืน
เมื่อแม่มาตามแล้วฝนก็รีบวิ่งมาหานางฉวีทันที และเดินตามแม่เข้าไปในห้องพักผู้ป่วย เมื่อเข้าไปแล้วก็เจอกับอาจารย์หมอยืนอยู่ข้างเตียงที่พ่อของเธอนอนอยู่ กำลังอ่านชาร์ตผู้ป่วยด้วยสีหน้าเรียบเฉย เธอจึงเดาไม่ออกเลยว่าอาการพ่อของเธอหนักหรือเบา หรือเป็นโรคร้ายแรงอะไรหรือเปล่าเมื่อคุณหมอเหลือบเห็นเธอกับแม่จึงส่งชาร์ตผู้ป่วยให้นางพยาบาล และเดินไปตรวจคนไข้เตียงต่อไป นางพยาบาลคนนั้นจึงเข้ามาพูดคุยกับสองแม่ลูก "จากอาการของคนไข้อาจารย์หมอบอกว่ามีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นมะเร็งลำไส้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราขอเช็คอย่างละเอียดอีกทีค่ะ"พูดจบนางพยาบาลก็เข็นรถเข็นที่ใส่อุปกรณ์ทางการแพทย์ตามอาจารย์หมอไป ปล่อยให้สองแม่ลูกมองหน้ากันด้วยความตกใจ นางฉวีมองสามีที่นอนหลับอยู่บนเตียงด้วยความสงสาร"โธ่ตาสอน"เอามือลูบผมให้สามีคู่ทุกข์คู่ยากเบา ๆ อยู่กินกันมาตั้งแต่อายุสิบแปด จนตอนนี้อายุสี่สิบปีพอดี ไม่เคยมีคำว่าสบายเลยสำหรับทั้งคู่ เห็นกิริยาอาการของแม่แล้วฝนก็น้ำตาตก "แม่ให้พ่อนอนพักก่อนเถอะจ้ะ แม่ไปกินข้าวเอาแรงก่อนดีกว่า"นางฉวีพยักหน้าให้ลูกสาวและเดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วย เข้มที่ยืนรออยู่ข้างนอกรีบเดินมาหาฝ
ช่วงที่ฝนกับแม่เข้าไปเยี่ยมพ่อและคุยกับนางพยาบาลอยู่นั้น พี่ดำก็ติดต่อมาเพราะประวัติของฝนดำสืบมาได้หมดแล้ว เข้มจึงให้ดำเข้ามาหาที่โรงพยาบาลเพื่อเอาข้อมูลของฝนที่ดำสืบได้มาให้เขา พร้อมทั้งขอยืมรถพี่ดำมาใช้ด้วย ส่วนมอร์เตอร์ไซค์ของเขานั้นให้ดำเอากลับไปจอดไว้ที่บ้านพัก"พี่ดำ ให้คนส่งรถยนต์ของผมมาให้ด้วย ส่วนรถของพี่ผมขอยื้มก่อน"ดำจึงส่งกุญแจ BMW ให้กับเจ้านายไป จะยื้มทำไมเพราะคนที่ซื้อรถคันนี้ก็คือเจ้านายอยู่แล้ว เมื่อคุยกันอีกสองสามคำดำก็ขอตัวออกมาและโทรหาคนที่อยู่กรุงเทพ ฯ เพื่อจัดการเรื่องรถของเจ้านาย ถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาดไม่น่าจะเกินเที่ยงคืนรถคันโปรดของเจ้านายก็น่าจะมาถึง เกือบชั่วโมงทั้งคู่จึงได้มาถึงหมู่บ้านของฝน ระหว่างที่ขับรถมาฝนกับเข้มไม่ได้คุยอะไรกันเลยเพราะฝนหลับมาตลอดทาง เมื่อเขาจอดรถที่หน้าบ้านของเธอเรียบร้อยแล้วเข้มจึงปลุกเธอ โชคดีที่เข้มจำบ้านของฝนได้ถึงแม้ว่าเขาจะเคยมาแค่ครั้งเดียวก็ตาม "ตื่นได้แล้ว"ฝนงัวเงียตื่นขึ้นมา"ถึงแล้วเหรอ ?"เข้มจึงพยักหน้าพร้อมกับโน้มตัวมาปลดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ เมื่อทั้งคู่ลงมาจากรถ น้องสาวทั้งสองของฝนก็วิ่งมาหา "พี่ฝน พ่อเป็นยังไงบ้าง
เข้มนอนอ่านเอกสารประวัติของฝนอยู่ด้วยความรู้สึกหลากหลาย นัยน์ตาเป็นประกายเข้มขึ้น ยิ่งได้รู้เรื่องราวของเธอแล้วเขายิ่งอยากปกป้องและครอบครองเธอนางสาวฝน การเวก อายุ ยี่สิบปี เกิดวันที่ 13 เมษายน พศ.25...เป็นบุตรของนายสอนและนางฉวี การเวก เป็นพี่สาวคนโตของบ้านมีน้องสาวสองคน ครอบครัวมีฐานะยากจน จบการศึกษาแค่ ม.ปลายเท่านั้น หนี้สินของทางบ้านรวมแล้วประมาณสองแสนบาท เป็นหนี้ของ ธกส.ทั้งหมดโดยเอาโฉนดที่ดินเข้าไปจำนองไว้ และขาดส่งดอกเบี้ยมาหลายปีแล้ว เมื่ออ่านจบเขาจึงเอากระดาษแผ่นนั้นไปเก็บไว้ในรถและมานอนรอเธอที่เปลไม้ไผ่ต่อ"คุณเข้มไปกันเถอะค่ะ"ฝนอาบน้ำแต่งตัวใหม่ เตรียมไปทำงานที่ผับต่อเลยหลังจากที่แวะเอาสิ่งของจำเป็นไปให้แม่ที่โรงพยาบาลแล้ว เข้มจึงลุกขึ้นและขอไปล้างหน้าล้างตาเพื่อความสดชื่นและเขาอยากจะเข้าห้องน้ำด้วย ฝนจึงพาเขาไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ในบ้าน"ห้องน้ำอยู่ทางนี้ค่ะ เป็นแบบคอห่านนะคะไม่ใช่ชักโครก คุณเข้มเข้าได้ไหม ?"เขาพยักหน้าและเดินเข้าไปในห้องน้ำปิดประตู "ฝนไปรอข้างนอกนะคะ"บอกเขาเสร็จแล้วก็ชวนน้อง ๆ ออกไปนั่งรอเขาที่แคร่หน้าบ้าน เข้มสังเกตบ้านของเธอทุกซอกทุกมุม บ้านเก่ามากแล้
เช้าวันนี้อากาศสดใสมากเนื่องจากฝนตกเมื่อคืน ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ เข้มตื่นแต่เช้าทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วเขาก็มุ่งตรงไปหาฝนเลย ซึ่งเธอก็ทำกับข้าวไว้รอเขา ฝนบอกเรื่องระหว่างเธอกับเข้มให้พ่อกับแม่รับรู้แล้ว นางฉวีกับตาสอนก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่เตือนลูกสาวว่าให้ทำในสิ่งที่เหมาะที่ควร เมื่อทั้งคู่ทานข้าวเช้าเสร็จแล้วก็เข้าไปหาเพชรกับฟองจันทร์ เพราะเข้มต้องการปรึกษาเรื่องตัดอ้อย และอยากจะสร้างบ้านใหม่ลงบนที่ผืนนั้นด้วย เพชรรับจัดการให้ทั้งหมด เริ่มตั้งแต่การปรับที่ ถมที่และการก่อสร้างบ้าน ส่วนแปลนบ้านเข้มจะเขียนเอง การตัดอ้อยจะเริ่มดำเนินการพรุ่งนี้เพชรก็จัดหาให้ทั้งรถตัดอ้อย รถขน และคนงาน เพราะที่บ้านของเพชรนั้นทำสวนอ้อยด้วย มีรถตัดอ้อย รถขนอ้อย รถตักดิน และรถขนดินพร้อมสรรพ เข้มก็ตกลง เขาไม่เกี่ยงราคาเลยแม้แต่น้อย แต่อยากให้ทุกอย่างดำเนินการให้เร็วที่สุด ระหว่างที่เพชรกับเข้มคุยกันอยู่นั้น ฟองจันทร์ก็คุยกับฝนด้วยเช่นกัน"ตกลงว่า ?"ฟองจันทร์ถามฝน"เราตกลงเป็นแฟนกันแล้วจ้ะพี่ฟอง"ฟองจันทร์ยินดีกับฝน แต่ก็ยังมีความเป็นห่วงน้องสาวคนนี้อยู่"พี่ดีใจด้วย แต่ยังไงก็ยังห่วงอยู่ดี เพราะเค้าไม่ใช่คนบ้
เมื่อกินข้าวอิ่มและเก็บสำรับเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็แยกย้าย น้องสาวทั้งสองคนของฝนแยกไปทำการบ้านในห้องนอน ส่วนตาสอนกับนางฉวีก็พากันนั่งดูทีวีที่โถงกลางบ้าน เข้มไปนั่งรอเธอที่แคร่หน้าบ้าน ฝนเอายากันยุงไปจุดให้เขาเพราะเริ่มมืดแล้วยุงจะเยอะ จุดยากันยุงให้เขาแล้วฝนก็ขอตัวไปอาบน้ำเข้มนั่งมองบรรยากาศโดยรอบ ผู้คนในหมู่บ้านเริ่มเปิดไฟแล้ว ยังมีบ้างที่จูงฝูงวัวและฝูงควายพามันไปเข้าคอก เสียงหรีดหริ่งเรไรร้องระงม อากาศเริ่มอบอ้าวเสียงฟ้าคำรามครืน ๆ มาจากขอบฟ้า ดูท่าคืนนี้ฝนน่าจะตก"คุณเข้ม"ฝนตะโกนเบา ๆ ที่ข้างหูเขา เพราะเรียกหลายครั้งแล้วเข้มก็ไม่ตอบสนองเธอเลย จากเสียงของเธอทำให้เขาออกจากภวังค์หันหน้าไปตามเสียงเรียกโอยอัตโนมัติจมูกแทบจะชนกับจมูกของเธอ กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำและแชมพูลอยอ้อยอิ่งมาปะทะจมูกของเขา เข้มสูดดมกลิ่นเข้าไป ความสดชื่นแผ่ซ่านเข้าไปสู่ร่างกาย ฝนผละออกห่างเขาเล็กน้อย หน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที"พร้อมแล้วค่ะ"เธอยกสมุดและปากกาให้เขาดู เพราะเรื่องที่จะคุยกับเข้มคืนนี้ก็คือวางแผนการใช้เงินหนึ่งล้านห้าแสนที่เธอได้มาให้เกิดประโยชน์สูงสุด เข้มมองการแต่งตัวของเธอแล้วแอบถอนหายใจ เสื้อยืดสีข
"คุณเข้มแน่ใจนะว่าจะไปไหว้พระจริง ๆ ?"ฝนถามเข้มทันทีที่เขาก้าวขายาว ๆ ลงมาจากมอร์เตอร์ไซค์คันเก่ง เพราะดูสีหน้าของเขาแล้วมันไม่สดใสเอาซะเลย"แน่ใจสิ อยากอาบน้ำมนต์ด้วยเลยถ้าเป็นไปได้"เพราะข่าวจากพี่ขาวเมื่อคืนทำเอาเขาแทบนอนไม่หลับ ถ้าพ่อกับแม่มาหาเขาที่นี่จริง ๆ เรื่องของเธอกับเขาก็อาจจะมีปัญหานิดหน่อย เพราะพ่อกับแม่คงไม่ยอมรับฝนง่าย ๆ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเข้มก็ยังยืนยันว่าเขาจะยืนเคียงข้างเธอตลอดไป "ได้ ๆ ถ้าจะอาบน้ำมนต์แนะนำวัดนี้เลย วัดโนนสว่าง ตำบลหมากหญ้าอำเภอหนองวัวซอไปให้หลวงพ่อเจริญท่านอาบน้ำมนต์ให้"ตกลงกันได้ก็ซ้อนมอร์เตอร์ไซค์กันออกไป จัดยาให้พ่อและทำกับข้าวไว้ให้พ่อกับแม่เรียบร้อยแล้วก็ไม่มีอะไรน่าห่วง ฝนแวะหาฟองจันทร์ที่ร้านกาแฟก่อนเพื่อแจ้งว่าเธออาจจะไม่ได้มาขายน้ำแข็งใสหลายวันเพราะยังไม่เสร็จธุระ ส่วนเรื่องค่าเช่าเธอจะจ่ายเต็มเดือนเหมือนเดิม ฟองจันทร์กับเพชรก็ไม่มีปัญหา ผ่านธนาคาร ธกส. สาขาอำเภอหนองวัวซอเข้มก็แวะพาเธอไปเปิดบัญชีและทำบัตร ATM ด้วย ฝนจึงนึกขึ้นได้ว่าเธอมีเรื่องจะปรึกษาเขาแต่เดี๋ยวพาเขาไปอาบน้ำมนต์ก่อน เธอแวะร้านค้าซื้อเสื้อผ้าให้เขาหนึ่งชุดพื่อเอาไว
เมื่อมาถึงรีสอร์ทที่พักแล้ว เข้มก็จัดการอาบน้ำอาบท่าพร้อมกับโทรหาพี่ดำซึ่งก็มาเปิดห้องพักที่รีสอร์ทแห่งนี้ด้วยเหมือนกัน เขาต้องการปรึกษาหารือเรื่องที่จะซื้อบ้านที่อยู่ในตัวจังหวัดว่าจะเอายังไงกันแน่ ระหว่างสร้างบ้านใหม่ลงบนที่ผืนที่เพิ่งซื้อ หรือว่าจะซื้อบ้านในตัวจังหวัดดี ออกมาจากห้องน้ำด้วยกางเกงบ๊อกเซอร์ตัวเดียวไม่สวมเสื้อ เผยให้เห็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ กล้ามเนื้อตรงหน้าอกแข็งแกร่ง หน้าท้องที่อุดมด้วยซิกแพ็คน่าลูบไล้ แผ่นหลังที่ปกคลุมด้วยรอยสักแลดูดิบเถื่อนแต่แฝงด้วยเสน่ห์ของบุรุษเพศ พี่ดำที่นั่งรออยู่บนเก้าอี้ที่มีเพียงสองตัวอยู่ในห้องนั้น เข้มจึงเดินไปนั่งเก้าอี้ตัวที่เหลือ"เรื่องบ้านพี่ดำคิดว่าผมควรทำยังไง ?""สร้างใหม่ดีกว่าครับ เอาให้หลังใหญ่ ๆ หน่อย ถ้าจะให้ดีผมว่าให้คุณฝนช่วยออกแบบเลยดีกว่า ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่"เข้มดีดนิ้วเปาะ อยากกระโดดกอดพี่ดำมาก ๆ ทำไมเรื่องแค่นี้เขาถึงคิดไม่ได้นะ "ผมว่าสร้างสองหลังเลยดีกว่าเอาไว้ให้คุณพ่อกับคุณแม่ด้วย"เข้มเสนอความคิดเห็น เมื่อคุยกันรู้เรื่องแล้วพี่ดำก็ขอตัวไปพักผ่อน จากเมียมาหลายวันชักจะคิดถึง โทรหาเมียดีกว่าถ้าเกิดว่าเจ้านายยังไม่ส
ฝนนั่งกอดกระเป๋าไว้แนบอก ไม่พูดไม่จาจนมาถึงบ้านของตัวเอง พี่ดำเอากล่องใส่อาหารไปให้นางฉวีและนายสอนพ่อกับแม่ของฝนเสร็จแล้วเขาก็ขับรถเลยไปส่งอรที่บ้าน แม้ว่าอรจะไม่พอใจอย่างแรงแต่ก็ได้แค่เก็บอาการไว้เข้มเดินไปยังรถมอร์เตอร์ไซค์และเปิดผ้าห่มที่ฝนใช้คลุมรถเขาออกและส่งให้เธอฝนจึงพับและนำไปเก็บในบ้าน"อยากไปไหว้พระขอพร มีวัดใหนแนะนำบ้าง ?"เข้มเริ่มโปรแกรมเที่ยวแล้ว ฝนนึกอยู่สักพักและมองเวลาในมือถือตอนนี้เกือบบ่ายสองแล้ววัดในอำเภอเราก็เยอะซะด้วยสิไปวัดนี้ก่อนละกัน 'วัดเขาช่องชาด' ใกล้ ๆ นี่แหละ วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาสูงข้ามเขาไปจะเป็นอำเภอโนนสังข์จังหวัดหนองบัวลำภู ไฮไลท์ของวัดคือมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ตั้งอยู่บนเขาสูงให้เราไปกราบไหว้ขอพรและจะมีหมูป่าตัวอ้วน ๆ ให้เราไปถ่ายรูปและซื้อขนมไปให้มันด้วย เข้มเดินไปจูงมอร์เตอร์ไซค์ของเขาออกมาจากใต้ถุนบ้านโยนหมวกกันน็อคให้เธอและก็สวมให้ตัวเองด้วย เมื่อเธอใส่หมวกกันน็อคเรียบร้อยแล้วก็เดินไปหาเขา เข้มก้าวขาขึ้นคร่อมมอร์เตอร์ไซค์ ฝนก็ขึ้นซ้อนท้ายเขา แต่ก่อนที่เข้มจะขับรถออกไปฝนก็ถามเขาขึ้นมา"ค่านายหน้าในกระเป๋านี่เท่าไหร่คะ ?"ก้มมองกระเป๋าใบสีน้ำตาล
ตอนเช้าฝนตื่นขึ้นมาทำกิจวัตรประจำวัน นึ่งข้าวเหนียวให้ตัวเองกับน้อง ส่วนพ่อกับแม่นั้นเธอหุงข้าวสวยให้ เสร็จสรรพหมดทุกอย่างแล้วเธอจึงได้อาบน้ำทำธุระส่วนตัวรอเข้มมารับไปสำนักงานที่ดินด้วยกัน ประมาณเก้าโมงเช้าเข้มกับพี่ดำก็มาถึง ทั้งสามคนตรงไปยังบ้านของอรเจ้าของที่ จะได้เดินทางไปที่สำนักงานที่ดินพร้อมกัน ส่วนเงินค่าที่นั้นไม่มีปัญหาเพราะพี่ดำจัดการเบิกมาเรียบร้อยแล้วบรรจุในกระเป๋าเจมส์บอนด์สีดำ เข้มโยนกระเป๋าใบนั้นให้ฝนถือไว้ เธอก็รับมาถืออย่างงง ๆ เพราะไม่รู้ว่ามีเงินห้าสิบล้านอยู่ในนั้น "คุณอรสวัสดีครับ"พี่ดำกล่าวทักทายอรแต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สนใจพี่ดำเลย เดินตรงมาหาเข้มและคล้องแขนเขาอย่างออดอ้อน"คุณเข้มมมม"ลากเสียงยาวราวเสาไฟฟ้า เข้มแกะมือเธอออกและระงับอารมณ์สุด ๆ"อรขอไปกับรถคุณเข้มด้วยนะคะ รถอรไม่ได้ล้างค่ะ"ฝนกับพี่ดำได้แต่หัวเราะเหตุผลของอรในการขอติดรถไปกับผู้ชาย "เอกสารเตรียมมาครบแล้วใช่ไหมครับ ?"พี่ดำยังมีความพยายามชวนเธอคุยเพราะอยากลดอุณหภูมิอารมณ์ของเจ้านายลง เธอสะบัดหน้ามา"ครบแล้ว"เมื่อพูดจบเธอก็ก้าวขึ้นรถไปนั่งเบาะหลังทันที เข้มไม่ได้ว่าอะไรแต่สบตากับพี่ดำแล้วก็เข้า
เมื่อเห็นเข้มเดินออกมาจากบ้านของเจ้าของที่ดินแล้วฝนก็รีบลุกขึ้น"เรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ ?"เข้มพยักหน้าให้เธอด้วยใบหน้าอ่อนโยน ส่งกุญแจ BMW ให้พี่ดำไป รับกุญแจฮาเล่ย์เดวิดสันมา"พี่ดำเอากระเป๋าเสื้อผ้าของผมไปเก็บไว้ที่รีสอร์ท...นะ"บอกชื่อรีสอร์ท พี่ดำพยักหน้ารับ"คุณพี่ดำเย็นนี้มากินหมูกะทะที่บ้านฝนนะคะ""ไม่พลาดแน่นอนครับ"ตอนแรกกะว่าจะมากินต้มไก่ใส่ใบกัญชาแต่เปลี่ยนเป็นหมูกะทะก็คงจะอร่อยไปอีกแบบ พี่ดำยิ้มให้ฝนก่อนจะเดินไปขึ้นรถและขับออกไป ฝนหันไปมองหน้าเข้ม เธอมีเรื่องสงสัยในตัวเขาอยู่มากมายแต่ก็ไม่กล้าถาม เขาเป็นใครกันแน่นะ และเข้ามาวนเวียนใกล้ชิดเธอแบบนี้เขามีจุดประสงค์อะไรกันแน่ เฮ้อ..แต่ก็ช่างเถอะ ถ้าคิดจะมาหลอกเธอเธอก็ไม่มีอะไรจะให้หลอกหรอกนะ"มีอะไรเหรอ ?"เห็นใบหน้าของเธอเป็นเครื่องหมายปรัศนี ( คำถาม )จึงเอ่ยถามออกไป"ไม่มีอะไรค่ะ คุณเข้มจะไปไหนต่ออีกไหม"ถามเขาพลางมองนาฬิกาในมือถือซึ่งตอนนี้เพิ่งจะสี่โมงครึ่งเอง เข้มเดินนำหน้าเธอตรงไปที่รถมอร์เตอร์ไซค์"ไม่ไปไหนแล้ว เธอล่ะอยากไปไหนมั้ย ?"ฝนส่ายหน้า พร้อมกับรับหมวกกันน็อคมาจากเขา ทุกกิริยามันเป็นไปโดยอัตโนมัติ เขาก้าวขึ้นคร่
"ช่วยพาเที่ยวหน่อยได้ไหม ? เดี๋ยวจ่ายค่าจ้าง"ฝนนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยออกมา"ถ้าคุณเข้มอยากเที่ยว ได้เลยค่ะเดี๋ยวฝนพาไป แต่ที่เที่ยวแถวนี้ก็มีแค่น้ำตก ภูเขาแล้วก็วัดวาอารามนะคะ ส่วนค่าจ้างนั้นไม่ต้องหรอก ถือซะว่าตอบแทนทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณเข้มเคยช่วยฝนมา"เข้มทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงพยักหน้า"โอเค ก่อนอื่นไปหาที่พักกันก่อน ขี้เกียจเทียวมาเทียวไป ระหว่างตัวจังหวัดกับบ้านของเธอ""เดี๋ยวฝนพาไปหาที่พััก ในตำบลเรามีรีสอร์ทอยู่หลายที่เลยค่ะ"เมื่อตกลงกันได้ฝนก็เดินไปบอกพ่อกับแม่ว่าจะพาเจ้านายไปหาที่พักแถวนี้เพราะเจ้านายมีธุระที่จะอยู่ที่นี่อีกหลายวันอีกอย่างเจ้านายอยากเที่ยวด้วย นางฉวีมองลูกสาวอย่างเป็นห่วง แต่ก็เชื่อมั่นในตัวลูกสาวว่าคงจะไม่ทำอะไรที่ไม่เหมาะไม่ควร ไอ้คำนินทาว่าร้ายต่าง ๆ นั้นนางได้ยินมาจนชินแต่ก็ไม่เคยเห็นว่าลูกสาวจะทำอย่างข่าวลือจริง ๆ ตรงกันข้ามฝนกลับตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน ดีกว่าลูกสาวบางบ้านที่นินทาว่าร้ายลูกสาวของนางเสียอีกขึ้นรถมาได้ฝนก็พาเข้มไปยังหมู่บ้านที่เธอไปขายน้ำแข็งใสเพื่อไปหาฟองจันทร์ เพราะว่าเพชรสามีของฟองจันทร์นั้นรู้จักกับเจ้าของรีสอร์ท
"ขึ้นรถก่อนค่อยคุยกัน"เมื่อขึ้นรถเรียบร้อยฝนกำลังจะอ้าปากถามเขาอีกครั้ง แต่เข้มใช้นิ้วชี้แตะที่ริมฝีปากของเธอไว้ เธอจึงเงียบไม่กล้าพูดอะไรต่อ เพราะมันทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์ในวันที่เธอตื่นขึ้นมาบนเตียงพร้อมเขาในวันนั้น แล้วเธอก็หน้าแดง เพราะนั่นมันคือจูบแรกของเธอ เข้มเห็นเธอเงียบเขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อไป จนเมื่อมาถึงตลาดหนองวัวซอฝนจึงบอกให้เขาจอดรถเพื่อลงไปซื้อกับข้าว เธอซื้อหมูกะทะไปด้วยห้ากิโลฉลองที่พ่อได้ออกจากโรงพยาบาล อีกอย่างน้อง ๆ ทั้งสองก็บ่นอยากกินด้วย"หมูกะทะค่ะ คุณเข้มน่าจะชอบ"เข้มพยักหน้า เมื่อเธอวางของไว้ที่เบาะหลังและนั่งประจำที่เรียบร้อยแล้ว เข้มก็ออกรถ เขาไม่ได้ลงไปซื้อของกับเธอด้วยเพราะฝนบอกว่าไปแค่แป๊บเดียวอากาศร้อนให้เขารออยู่ในรถดีกว่า ไม่นานก็มาถึงบ้านของเธอ มีคนอยู่ด้วยหลายคนเพราะชาวบ้านมาเยี่ยมและถามไถ่อาการของตาสอน เมื่อฝนกับเข้มเดินลงจากรถมาจึงตกเป็นเป้าสายตาของบรรดามนุษย์ป้าข้างบ้าน ฝนยกมือไหว้ทุกคนที่นั่งอยู่ที่นั่น เข้มจึงทำตามเธออย่างไม่เคอะเขิน"พุบ่าวตี้อิหล่า คือหล่อแท้ ?"ป้าคนนึงถามตรง ๆ แบบไม่เกรงใจ ฝนทำหน้าไม่ถูก "ใช่ครับ"