ตอนที่10 หวงเด็กในการปกครอง
วันต่อมาชาร์วีสั่งลูกน้องให้ยืนเฝ้าพลอยใสและรุ่นพี่ ธาราเดินเข้าไปเจอเลยต้องทักท้วง
“นายให้คนคอยประกบขนาดนั้นพลอยใสจะไม่มีสมาธิในการติวหนังสือนะครับ เด็กเขาติวหนังสือนะครับไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย”
“ในเมื่อกูให้มึงดูแลแต่มึงหละหลวมกูก็ต้องจัดการเอง แล้วการที่เจ้าของบ้านจัดคนดูแลความปลอดภัยให้เด็กในความปกครองมันก็ไม่ได้แปลกตรงไหนเพราะที่นี่บ้านกู” ชาร์วีใช้อำนาจในความเป็นเจ้าของบ้านตอกกลับมือขวาด้วยความหงุดหงิด เพราะเคืองธาราอยู่ก่อนแล้วเรื่องที่อนุญาตให้รุ่นพี่พลอยใสมาติวหนังสือโดยไม่รายงานเขาก่อน
“ครับ แล้วแต่นายเลยครับถ้าเด็กมันอึดอัดแล้วขอออกไปติวข้างนอกผมก็คงห้ามไม่ได้แล้วล่ะครับ” ธารายังไม่วายที่จะจุดชนวนให้คนเป็นเจ้านายโมโหเพิ่มเพราะค่อนข้างไม่เห็นด้วยที่ชาร์วีรุกล้ำความเป็นส่วนตัวเด็กแบบนั้น
“ถ้าถึงเวลานั้นกูคือคนที่จะบอกว่าอนุญาตหรือไม่” ร่างสูงเดินไปนั่งบนโต๊ะเพื่อทำงานต่อโดยไม่สนใจมือขวาอีกต่อไป ธาราจึงได้แต่ส่ายหัวกับการใช้อำนาจของเจ้านาย
เช้าวันหยุดที่ความจริงแล้วชาร์วีมีนัดคุยงานแต่เนื่องจากวันนี้ชายหนุ่มมีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องจัดการจึงส่งธาราให้ไปจัดการเรื่องงานแทน ส่วนตัวเองจัดการเรื่องสำคัญอยู่ที่บ้าน
“ช่วงนี้พลอยใสมาช่วยงานในครัวอยู่หรือเปล่าครับ” ชาร์วีถามแม่บ้านในขณะที่กำลังนั่งทานอาหารเช้าบนโต๊ะคนเดียวเนื่องจากธารารีบออกไปแต่เช้า
“ยังมาอยู่ค่ะ ป้าบอกว่าช่วงนี้ติวหนังสือไม่ต้องมาก็ไม่ยอม ขนาดว่าคุณธาราไปบอกแล้วนะคะว่าให้หยุดช่วยงานชั่วคราวก็ยังมาเกือบทุกวันอยู่ค่ะขยันจริง ๆ เด็กคนนี้” ป้าณีพูดชื่นชมพลอยใสจากใจด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“แล้ววันนี้รุ่นพี่ที่มาติวหนังสือให้พลอยใสล่ะครับมาหรือยัง”
“ยังไม่มานะคะ เห็นว่าวันนี้รุ่นพี่ติดธุระเลยไม่ได้มาค่ะ” ป้าณีบอกคนเป็นเจ้านายตามที่ได้ยินพลอยใสบอกกับตน
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมวานป้าณีไปบอกกับพลอยใสหน่อยนะครับว่าตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปผมจะจ้างครูพิเศษมาสอนเธอเอง ไม่ต้องให้รุ่นพี่มาสอนแล้ว ยังไงครูก็คงจะสอนได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า”
“ให้ป้าไปบอกพลอยใสเหรอคะ ป้าว่ารอคุณธารากลับมาก่อนดีไหมคะค่อยให้คุณธาราไปบอก” แม่บ้านถามย้ำเจ้านายหนุ่ม
“ครับป้าณีนั่นแหละครับผมรบกวนหน่อย ไอ้ธารามันไปทำงานแทนผมคงอีกนานกว่าจะกลับ เผื่อพลอยใสจะได้บอกรุ่นพี่เธอไว้ว่าพรุ่งนี้ไม่ต้องมา ถ้าเธออยากเรียนวิชาอะไรหรือเรื่องอะไรก็ให้แจ้งผ่านธาราได้เลย” เมื่อทราบความต้องการของชายหนุ่มอย่างแน่ชัดป้าณีจึงให้คนไปเรียกพลอยใสมาพบที่โรงครัวเรือนเล็ก
“ป้าณีเรียกพลอยเหรอคะ” พลอยใสรีบมาทันทีหลังจากที่มีบอดี้การ์ดไปบอกกับเธอว่าป้าณีต้องการพบด่วน
“ใช่จ้ะ พอดีป้ามีเรื่องจะคุยด้วย”
“เรื่องอะไรคะ” หญิงสาวเอียงคอถามด้วยความสงสัย
“เรื่องติวหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัยของเรานั่นแหละ คุณวีเขาให้ป้ามาบอกพลอยว่าตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปคุณวีจะจ้างให้ติวเตอร์มาสอนแทน เพราะคุณวีเขาคิดว่าติวเตอร์จะสอนได้ดีกว่า” ป้าณีถ่ายทอดคำพูดของเจ้าของบ้านได้ครบถ้วนสมบูรณ์ทุกคำ
“แต่ว่าพลอยไม่อยากรบกวนคุณวีค่ะป้าณี ติวเตอร์เดี๋ยวนี้ก็คิดค่าติวแพงมากเลยนะคะ พลอยถึงให้รุ่นพี่มาช่วยติวให้เพราะไม่อยากรบกวนคุณวีเรื่องนี้ค่ะ” พลอยใสที่ได้ยินในสิ่งที่แม่บ้านบอกก็รีบแย้งขึ้นมาทันทีเพราะความเกรงใจ เท่าที่ชาร์วีให้เธอและเพื่อนมาจนทุกวันนี้มันก็มากพอแล้วจนพลอยใสไม่รู้จะตอบแทนยังไง ดังนั้นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ บางอย่างเธอจึงไม่คิดที่จะรบกวนผู้อุปการะของเธอ
“ป้าก็ไม่รู้หรอกว่าอันไหนดีกว่ากัน คุณวีฝากป้าให้มาบอกป้าก็มาบอกตามที่แกสั่งนั่นแหละ เผื่อว่าพลอยจะได้โทรบอกรุ่นพี่ว่าพรุ่งนี้ไม่ต้องมาสอน แล้วสรุปจะให้ป้าไปบอกคุณวีว่าเราจะไม่เอาติวเตอร์ใช่ไหม” ป้าณีถามย้ำในความต้องการของหญิงสาว
“เอ่อ ถ้าอย่างนั้นพลอยขอโทรหาพี่ธาราก่อนได้ไหมคะ” พลอยใสไม่แน่ใจว่าหากเธอบอกป้าณีให้ไปบอกชายหนุ่มแบบนั้น เขาจะไม่พอใจและมองว่าเธอขัดคำสั่งหรือเปล่า จึงขอโทรหาธาราเพื่อขอคำปรึกษาก่อน
“ก็ดีเผื่อคุณธาราจะมีคำแนะนำที่ดี” ป้าณีสนับสนุนคำขอของหญิงสาว พลอยใสจึงเดินเลี่ยงไปทางด้านหลังห้องครัวก่อนจะต่อสายหาธารา
“ว่าไงสาวน้อย” ธาราที่แวะไปเอาเอกสารที่ทำงานและกำลังจะไปพบลูกค้าแทนชาร์วีกดรับสายทันทีที่เห็นว่าเป็นใครโทรมา
“พลอยโทรมารบกวนเวลางานพี่ธาราหรือเปล่าคะ” น้ำเสียงเกรงใจที่ส่งมาตามสายทำให้ธารามองเห็นภาพออกทันทีว่าตอนนี้พลอยใสมีท่าทางอย่างไร เพราะหญิงสาวที่เขาเห็นมาแต่เล็กคนนี้มักจะเป็นคนที่เกรงใจคนอื่นเสมอ
“คุยได้ พี่กำลังจะออกจากบริษัทเพื่อไปพบลูกค้า ตอนนี้อยู่บนรถพลอยมีอะไรว่ามาได้เลย”
“เอ่อ คือว่าคุณวีให้ป้าณีมาบอกพลอยว่าตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปคุณวีจะจ้างติวเตอร์มาสอนพลอยค่ะไม่ต้องให้รุ่นพี่มาสอนแล้ว แต่พลอยเกรงใจคุณวีค่ะพี่ธารา พลอยไม่อยากให้เขาต้องมาเสียเงินกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพลอย แค่ที่เขาอุปการะทุกวันนี้พลอยก็ไม่รู้จะตอบแทนยังไงแล้ว พี่ธาราช่วยพูดกับคุณวีให้พลอยทีได้ไหมคะ พอดีป้าณีแกรอคำตอบเพื่อไปบอกคุณวีน่ะค่ะ” พลอยใสรีบพูดในสิ่งที่ตั้งใจอย่างรวดเร็วเพราะกลัวจะรบกวนเวลาทำงานของธารา
“เผด็จการกับเด็กไม่เลิกหนักข้อขึ้นทุกวัน” ธาราพึมพำใส่โทรศัพท์ พลอยใสที่ได้ยินจึงถามขึ้น
“พี่ธาราว่าอะไรนะคะ”
“เปล่า ๆ พี่พูดคนเดียว เอาอย่างนี้นะต่อไปนี้ทุกวันหยุดพี่จะเป็นคนคอยติวหนังสือให้พลอยเองโดยไม่ต้องไปรบกวนรุ่นพี่อะไรของพลอยนั่นละ และพลอยก็ห้ามปฏิเสธพี่ด้วยถ้าไม่อยากให้คุณวีจ้างติวเตอร์มาสอนให้” ธาราถอนหายใจก่อนจะตัดปัญหาเสนอตัวเองเป็นคนติวหนังสือให้พลอยใสเพราะรู้ดีว่าถ้ามาแนวนี้ยังไงเจ้านายเขาก็ไม่ยอมหยุดถ้าไม่ได้ตามที่ต้องการ แล้วสุดท้ายคนที่อึดอัดก็คือพลอยใส ธาราที่รักพลอยใสเหมือนน้องสาวไม่อยากให้เธอต้องมาเผชิญกับสถานการณ์ที่ลำบากใจแบบตอนนี้เพราะคิดว่าพลอยใสยังไม่แข็งแรงพอที่จะรับมือกับชาร์วีได้
“สุดท้ายความลำบากก็ต้องมาตกอยู่ที่พี่ธาราอยู่ดี” แม้จะรู้สึกว่าข้อสรุปที่ธาราบอกมานั้นเป็นการเพิ่มภาระให้กับตัวของธาราเอง แต่เจ้าตัวก็ยืนยันอย่างหนักแน่นว่าเขายินดีเพราะไม่มีทางเลือกที่ดีไปกว่านี้พลอยใสจึงต้องยินยอมตามนั้น ก่อนจะวางสายและเดินไปบอกกับป้าณีเพื่อที่จะได้ส่งสารไปยังคนที่เป็นเจ้านาย
ครืด~ ครืด~ ครืด
เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูที่วางอยู่ใกล้ตัวสั่นและดังขึ้น ชาร์วีเหลือบไปมองคนที่โทรมาก่อนจะรวบช้อนและยกน้ำขึ้นดื่มแล้วกดรับสาย
“ว่าไง”
“เมื่อไหร่นายจะเลิกโวยวายเรื่องคนติวหนังสือของพลอยใสสักทีครับ”
“แกพูดเรื่องอะไร ฉันโวยวายอะไร” ชาร์วีทำเป็นไม่เข้าใจในสิ่งที่ธาราพูด
“นายอย่าทำเป็นไม่รู้สิครับ แล้วใครล่ะครับที่สั่งให้รุ่นพี่พลอยใสไม่ต้องมาติวให้เธอเพราะจะหาติวเตอร์มาแทน”
“อ่อ อย่าบอกนะว่าเด็กมันโทรไปฟ้องแก” คนที่กำลังถูกลูกน้องตำหนิทางอ้อมนั่งจิบกาแฟโดยไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำพูดนั้น
“พลอยใสไม่ได้โทรมาฟ้องผมหรอกครับ เธอแค่โทรมาปรึกษาว่าเธอไม่อยากให้นายจ้างติวเตอร์เพราะไม่อยากให้นายเสียเงินโดยไม่จำเป็นก็แค่นั้น”
“แล้วแกคิดว่าเงินแค่นี้ขนหน้าแข้งฉันจะร่วงเหรอธารา” เสียงเรียบขัดขึ้นทันทีที่ลูกน้องพูดจบ
“ครับเงินแค่นี้แค่เศษเงินของนายครับแต่เธอไม่ได้คิดแบบนั้น”
“แล้วแกจะให้ฉันทำยังไงแกเสนอมาสิ แต่บอกก่อนนะว่าไอ้ที่จะให้รุ่นพี่มาสอนฉันไม่อนุญาตให้มันเข้ามาในบ้านฉันอีก” เสียงเข้มถามและสั่งเสียงเฉียบขาดจนธาราแอบถอนหายใจเพราะคิดไว้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้
“โอเคครับนาย เอาเป็นว่าทุกวันหยุดผมจะเป็นคนติวหนังสือให้กับพลอยใสเอง เพื่อความสบายใจของทั้งนายและพลอยใส” ธาราบอกเจ้านายหนุ่มเหมือนกับที่บอกพลอยใสไปก่อนหน้านี้ ชาร์วีเมื่อได้ยินคำตอบที่พอใจก็เลิกโวยวายก่อนจะวางสายจากมือขวาแล้วนั่งทานข้าวเช้าต่ออย่างอารมณ์ดี
ตอนเย็น
“พี่ธาราทานน้ำอะไรเย็น ๆ ก่อนไหมคะพึ่งกลับมาเหนื่อย ๆ พลอยมีน้ำส้มคั้นสดอยู่ในตู้เย็นเดี๋ยวพลอยไปเอามาให้ค่ะ”
พลอยใสรู้สึกเกรงใจธาราที่ต้องมาเหนื่อยสอนเธอทั้งที่ทำงานก็เหนื่อยมากอยู่แล้วอย่างเช่นวันนี้หลังจากที่ออกไปทำงานให้คุณวีแต่เช้าพอกลับมาก็รีบมาติวหนังสือให้เธออีก
“ไม่ต้องหรอกพี่ทานเรียบร้อยมาจากบ้านใหญ่แล้ว ไหนเอาหนังสือและข้อสอบมาดูซิ ติวไปถึงไหนแล้ว” ธาราไม่ใช่เพียงแต่ทำหน้าที่มือขวาของชาร์วีได้ดีเท่านั้นแต่ยังทำหน้าที่ติวเตอร์จำเป็นได้เป็นอย่างดี จนพลอยใสอดที่จะชมไม่ได้
“พี่ธารานี่เก่งมากเลยนะคะนอกจากจะเป็นผู้ช่วยมือขวาคุณชาร์วีแล้วยังเป็นติวเตอร์ที่เก่งมาก ๆ ด้วย แต่พลอยรู้สึกเกรงใจพี่ธารามากเลยนะค่ะที่ต้องมาสอนพลอย งานพี่ธาราก็ยุ่งอยู่แล้ว”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกไม่ได้ติวทุกวันสักหน่อย อีกอย่างพี่ก็อยากให้พลอยสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ตามที่พลอยตั้งใจ แค่นี้สบายมาก” แม้ธาราจะแสดงให้เห็นว่าเขาเต็มใจที่จะมาสอนแต่พลอยใสก็ยังรู้สึกเกรงใจอยู่ดี เธอจึงอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นพยายามพึ่งพาตัวเองให้ได้มากที่สุด ยิ่งใกล้วันจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยมากเท่าไหร่พลอยใสก็ยิ่งนั่งอ่านหนังสือจนดึก ๆ ดื่น ๆ ที่ศาลาทุกคืน
ชาร์วีสั่งให้ธาราจัดเวรยามที่ไว้ใจได้คอยยืนเฝ้าแถวบริเวณศาลาช่วงเวลากลางคืนจนกว่าพลอยใสจะอ่านหนังสือเสร็จ เพราะกลัวว่าจะมีบอดี้การ์ดเข้ามาทำรุ่มร่ามกับเธอ ทั้งที่บอดี้การ์ดในบ้านฮาร์เปอร์ทุกคนธาราคัดคนมาอย่างดีและสามารถไว้ใจได้ทุกคน
“ทำแบบนี้เด็กมันก็อึดอัดตายห่าแต่ก่อนไม่เห็นเป็น พอตอนนี้ยุ่งวุ่นวายกับเด็กมันจังวะ” ธาราพูดขึ้นเมื่อตอนนี้ทั้งสองอยู่นอกเวลางานสถานะตอนนี้คือเพื่อนคุยกับเพื่อนไม่ใช่เจ้านายกับลูกน้อง
“ก็ปกติ” คนที่ถูกถามยังคงตีหน้านิ่งเหมือนไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่เพื่อนถาม
“มึงแน่ใจเหรอว่ามึงปกติ ชาร์วี”