ผมค่อยๆ เลื่อนมือลงไปสัมผัสกับเนินสามเหลี่ยมอวบนูน ที่มันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำแห่งตัณหา ทันทีที่นิ้วของผมแตะลงบนติ่งเกสร ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกเลี้ยงของผมเธอก็เปล่งเสียงครางกระเส่าออกมาอย่างยั่วยวน
นิ้วของผมค่อยๆ สอดใส่เข้าไปในร่องสวาทที่แสนจะคับแน่น มันคับแน่นซะจนผมต้องหยุดชะงัก ก่อนจะมองใบหน้าของคนที่นอนครางอย่างทรมานใต้ร่าง “ไม่เคยผ่านผู้ชาย ?” ผมมองลูกเลี้ยงของตัวเองอย่างแปลกใจ ในความคิดของผม ผมไม่คิดว่าเธอจะบริสุทธิ์ การที่เธอชอบเที่ยวออกไปดื่ม มันทำให้ผมคิดแบบนั้น แต่ความจริงแล้วเธอยังไม่เคยผ่านผู้ชายไหนมาก่อน ผมยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ ก่อนจะส่งนิ้วกระแทกเข้าไปในร่องแคบของลูกเลี้ยงแรงๆ จนเธอสะดุ้ง “อ๊า คะ...คุณป๋า คุณป๋าข๋า~” เสียงครางกระเส่าของเมเบลทำให้ผมตกอยู่ในภวังค์ ท่อนเอ็นที่มันผงาดขึ้นมาภายใต้กางเกงที่สวมใส่อยู่ ทำให้ผมรู้สึกปวดหนึบจนอยากจะควักมันออกมาทำในสิ่งที่ผมไม่ได้ทำมานาน แต่ผมต้องหักห้ามใจเอาไว้ เพราะการใช้นิ้วมันก็คงจะมากพอ เมเบลเธอเอื้อมมือมาลูบเป้ากางเกงของผมอีกครั้ง ในขณะที่ผมกำลังรัวนิ้วเข้าออกร่องแคบอย่างหนักหน่วง เธอไม่ได้แสดงอาการเหมือนว่าตัวเองเจ็บ แต่กลับแอ่นสะโพกรับการกระแทกของนิ้วผมเป็นอย่างดี “อะ เอาเข้ามาอีก อ๊า~” “ไม่กลัวเจ็บ” เมื่อผมถามแบบนั้น ลูกเลี้ยงตัวแสบของผมก็รีบส่ายหน้ารัวๆ และแอนสะโพกเชิญชวนให้ผมสอดใส่นิ้วเข้าไปเพิ่ม แล้วผมจะขัดความต้องการของลูกเลี้ยงอย่างเธอได้ยังไง... เมเบลเธอพยายามรูดซิบกางของผม ก่อนจะควักเอาท่อนเอ็นออกมา แล้วผลักให้ผมเป็นคนนอนราบไปกับเตียง และเธอเป็นคมคุมเกมส์แทน ไม่คิดว่าอารมณ์ของเธอจะรุนแรงขนาดนี้.... “ทำสิ” ผมจับท่อนเอ็นรูดขึ้นลง ก่อนที่เมเบลเธอจะโน้มใบหน้าลงมาใช้ปากจัดการมัน “อ๊า แบบนั้นเมเบล” ไม่น่าเชื่อว่าเธอไม่เคยผ่านผู้ชายคนไหนมาก่อน เพราะเธอใช้ปากได้ชำนาญยิ่งกว่าผู้หญิงที่ผ่านผู้ชายมามากมานซะอีก พรึบ!! ผมรีบดันตัวเธอออกไปให้พ้น เมื่อเห็นว่าเธอขึ้นมาคร่อมบนตัวของผม แถมยังจับท่อนเอ็นของผมไปจ่อไว้ตรงร่องของตัวเอง ผมไม่ได้ต้องการทำแบบนั้นกับเธอ “ถ้าฉันไม่ต้องการเธอก็ไม่มีสิทธิ์ทำ !!” ผมพูดกระชากเสียง “คุณป๋า อย่าทรมานหนูเลยนะคะ อ๊า ~” เมเบลเธอกำลังนอนดิ้นพล่านอยู่ข้างๆ ตัวของผมในตอนนี้ สักพักเธอก็ลุกขึ้นมาคร่อมร่างผมไว้อีกครั้ง แล้วนั่งลงทำให้ท่อนเอ็นของผมมันเสียดสีกับร่องสวาทของเธอ “ลงไปเดี๋ยวนี้ ฉันจะใช้นิ้วทำให้!!” “อ๊ะ มะ ไม่ หนูไม่ต้องการนิ้วแล้ว หนูอยาก อื้อ อ๊า~” เธอขยับสะโพกโยกไปมาเบาๆ ทำให้เกิดแรงเสียดสี ซึ่งจะบอกว่าผมไม่รู้สึกอะไรเลยก็คงไม่ใช่ แต่ตอนนี้ผมพยายามหักห้ามความต้องการของตัวเองเอาไว้ จนมันแทบจะระเบิดออกมา ผมเห็นผู้หญิงยั่วยวนเปลือยกายต่อหน้ามาแล้วกี่คน แต่ทำไมกับผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเด็กที่ผมเก็บมาเลี้ยง ผมถึงไม่สามารถคุมอารมณ์ตัวเองไม่ให้ต้องการเธอได้ “เอาเข้ามาในตัวหนูได้มั้ยคะ อื้อ~” บอกตามตรงว่าการที่เห็นเธออ้อนแบบนี้มันทำให้ผมรู้สึกสับสน เพราะที่ผ่านมาผมไม่เคยเห็นลูกเลี้ยงของตัวเองออดอ้อนเหมือนเด็กแบบนี้มาก่อน “ไม่!!” ผมสะบัดความคิดบ้าๆ ออกไป ก่อนจะดึงสติของตัวเองกลับมา “ถ้าเธอจะทำแบบนี้ ฉันจะไม่ช่วย” “อ๊า ซี๊ด ไม่กล้าหรอคะ หรือทำไม่เป็น” เธอถามผมอย่างท้าทาย แถมยังขยับสะโพกยั่วยวนเป็นจังหวะ มือเล็กจับมือของผมขึ้นไปบีบเค้นหน้าอกของตัวเอง และผมก็เผลอขยำมันอย่างลืมตัว “อ๊า ~” พรึบ!! ผมพริกตัวเองให้ขึ้นมาอยู่ด้านบนอีกครั้ง ก่อนจะโน้มใบหน้าดูดเลียหน้าอกทั้งสองเต้า ไม่คิดว่าเวลาที่ไม่ได้สวมใส่อะไร หน้าอกจะใหญ่เกินตัวขนาดนี้ “อ๊า คุณป๋า ทำแรงๆสิคะ หนูเสียวจัง อื้อ~” “เธอเป็นคนขอร้องฉันเอง พรุ่งนี้อย่าเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองต้องการก็แล้วกัน” ผมพูดทิ้งท้าย ก่อนจะค่อยๆ ปลดตะขอกางเกง แล้วถอดมันออกไปให้พ้น....ก่อนจะกลับเข้ามาหาร่างอรชรที่กำลังนอนบิดไปมาอย่างทรมานจากยาปลุกเซ็กส์ ผมจับเรียวขาเล็กทั้งสองข้างให้ชันเข่าขึ้น ก่อนจะจับท่อนเอ็นลำใหญ่จ่อตรงร่องสวาทที่เต็มไปด้วยน้ำล่อลื่นจากความเสียวซ่าน “พร้อมใช่มั้ย ?” “ยะ ยัดเข้ามาเลย เร็วๆ สิคะ” ลูกเลี้ยงของผมดูเธอจะรีบร้อน และต้องการเอามากๆ “ไม่กลัวเจ็บ ?” เธอส่ายหน้ารัวๆ ผมจึงค่อยๆ สอดใส่ท่อนเอ็นเข้าไปในร่องแคบ แต่เข้าไปได้แค่ส่วนของปลายหัว คนที่อยู่ใต้ร่างก็ขยับตัวหนี แถมยังจิกเล็บลงบนต้นขาผมแน่น มาถึงขนาดนี้คิดว่าผมจะยอมปล่อยหรือไง ไม่มีทาง ! “อื้อ ~ จะ เจ็บจัง มะ ไม่เอาแล้วค่ะ ใช้นิ้วแบบเดิมได้มั้ย” ผมกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะก้มหน้าลงไปกระซิบบอก “ไม่ได้”คุณป๋ายืนกอดอกทำหน้ายักษ์ไม่รับมุกที่ฉันส่งไปให้ ใจคอจะตีฉันด้วยไม้เรียวนี่จริงๆ หรือไง“เลือกได้หรือยัง” คุณป๋าถามเสียงเข้ม สมองของฉันคิดอะไรไม่ได้นอกจากเรื่องอย่างว่า ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงเดินมาหยุดตรงหน้าของคุณป๋า“เลือกได้แล้วค่ะ” “เลือกอันไหนก็หยิบขึ้นมา”ฉันวางมือลงบนแผงอกแกร่ง แล้วค่อยๆ เลื่อนมือลงช้าๆ ลูบไล้ซิกแพ๊คแน่นๆ กำยำของคุณป๋าลงมาคลำตรงเป้ากางเกง“หนูเลือกอันนี้ค่ะ ^_^” “เมเบล!!” คุณป๋าดุฉันอีกแล้ว คอยดูเถอะจะทำให้ครางลั่นห้องเลย “ก็เลือกแล้วนี่คะ เอามันมาฟาดหนูสิ” ฉันปล่อยมือออกจากเป้ากางเกงของคุณป๋า ก่อนจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมด แล้วเดินไปนั่งลงบนเตียงอย่างเชื้อเชิญให้คุณป๋าอดใจไม่ไหว คุณป๋ามองเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของฉันตาไม่กระพริบ พร้อมกับขบกรามแน่นเพื่อระงับอารมณ์กามของตัวเอง “นิ่งอยู่ทำไมล่ะคะ ไม่อยากตีหนูแล้วหรอ”“จะดื้อไปถึงไหนห๊ะ!!”“หนูเปล่าดื้อสักหน่อย” คุณป๋าเดินตรงมาหาฉัน ก่อนจะกดร่างของฉันให้นอนราบไปกับที่นอนแล้วขึ้นมาคร่อม “ชอบแบบนี้ ?” “ใครบ้างอยากโดนตีล่ะคะ” ฉันยกมือขึ้นคล้องคอของคุณป๋าเอาไว้ “อยากโดนคุณป๋าปู้ยี่ปู้ยำมากกว่า ^
3 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ฉันแต่งงานกับคุณป๋าแล้ว แต่งแบบงงๆ ในตอนนั้นที่คุณป๋าคุกเข่าขอฉันแต่งงาน หลังจากนั้นสองอาทิตย์เราทั้งคู่ก็จูงมือกันเข้าหอ จดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายที่ผ่านมสฉันไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าคุณป๋าดูแลฉันดีมาก และซื่อสัตย์กับฉันอย่างที่เคยสัญญาเอาไว้ว่าจะไม่ทำให้ฉันเสียใจ แต่!!! หนึ่งเรื่องที่ฉันไม่ชอบเลยคาอเรื่องห้าม ห้ามใส่สั้น ห้ามมองผู้ชาย ห้ามไปเที่ยวคลับ ในตอนนี้ฉันแทบจะเก็บกดตายอยู่แล้ว “เมเบลดื่มดิวะ แมลงวันลงไปวางไข่ในแก้วแล้วมั้งนั่น” ฟาร์นบอกพร้อมกับโยกตัวไปมาตามเสียงเพลง ในตอนนี้ฉันอยู่ที่คลับกับฟาร์นและเอวา ไม่ต้องแปลกใจว่าฉันมาโผล่ที่นี่ได้ยังไง ก็เพราะว่าคุณป๋าไปธุระที่ต่างประเทศน่ะสิ ไปหนึ่งอาทิตย์ แน่นอนว่าฉันที่เก็บกดมานานสามปีต้องไม่พลาดโอกาสทองแบบนี้แน่ ฉันออกมาดื่มกับเพื่อนทุกวันหลังจากที่คุณป๋าบินไปต่างประเทศ คิดดูสิว่าเก็บกดมากขนาดไหน แล้วฉันก็กำชับพวกลูกน้องของคุณป๋าเอาไว้แล้วทุกคนว่าห้ามปริปากฟ้องเรื่องที่ฉันมาเที่ยว ไม่อย่างนั้นจะไล่ออกให้หมด แน่นอนว่าทุกคนเชื่อฟัง เพราะในตอนนี้ฉันก็เปรียบเสหมือนคุณหญิงของบ้านฉันยกแก้วข
ในตอนนี้ฉันกำลังนั่งทำแผลให้กับคุณป๋าอยู่ คิดแล้วก็ขำ ใครจะไปคิดว่าคุณป๋าจะมีมุมที่อ่อนแอแบบนี้ ความรักมักทำให้คนอ่อนแอเสมอ “ห้ามโดนน้ำนะคะเดี๋ยวแผลจะอักเสบ” “เป็นหมอหรือไง” คุณป๋าทำหน้ามุ่ยใส่ฉัน “เป็นเมียคุณหิรัญค่ะ ^_^” พอฉันพูดแบบนั้นคุณป๋าก็หน้าแดงขึ้นมาเฉียบพลัน ก่อนที่จะคว้ามือมาดึงตัวฉันไปสวมกอด เสียงหัวใจของคุณป๋ามันกำลังเต้นรัว ทำให้ฉันอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ในตอนนี้บรรยากาศภายในห้องเงียบสนิท มีเพียงเสียงหัวใจของฉันกับคุณป๋าที่มันกำลังเต้นรัวแข่งกัน “คุณป๋าเคยคิดจะแต่งงานบ้างมั้ยคะ…” ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจให้ฉันเอ่ยถามคำนี้ออกไป “ทำไมจะไม่เคย แต่พอมาคิดๆ ดูแล้วงานแต่งงานมันก็ไม่ได้สำคัญไปมากกว่าที่วันนี้เธออยู่กับฉัน” พูดจบคุณป๋าก็ผละกอดออก มือหนาช้อนปลายคางของฉันให้เงยขึ้นมองตัวเอง “ถามแบบนี้แปลว่าเธออยากแต่งงาน ?”“มะ ไม่หรอกค่ะ หนูยังไงก็ได้ตามใจคุณป๋า เพราะสถานะของเราด้วย คงยากที่คนอื่นจะยอมรับ” ฉันยื่นริมฝีปากไปหอมแก้มคุณป๋า “แค่ตอนนี้คุณป๋ารักและซื่อสัตย์กับหนู หนูก็ดีใจมากกว่าการได้ใส่ชุดเจ้าสาวอีกค่ะ” “พรุ่งนี้จะมีงานจัดเลี้ยงของบริษัท ไปกับฉันนะ ในฐานะเ
ถึงจะคิดว่าคุณป๋าไม่ได้อยู่หน้าประตูแล้วแต่ฉันก็ยังโวยวาย เอาแต่ทุบประตูห้องอยู่แบบนั้นเผื่อคุณป๋าจะเห็นใจกลับมาเปิดให้ “อื้อ หนูทุบประตูจนมือแดงหมดแล้วนะคะ” ฉันแสร้งทำเป็นพูด ถ้าคุณป๋าแอบฟังอยู่คงจะเห็นใจ นี่ฉันเป็นเมียเชียวนะ จะใจดำขนาดนั้นหรือไง แต่!!! ไร้สัญญาณใดๆ จากด้านนอก เงียบกริบไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น “คุณป๋าหนูปวดฉี่ ฉี่จะลาดแล้ว” ปังๆๆๆๆ พูดจบฉันก็ทุบประตูห้องรัวๆ “คุณป๋าหนูพูดจริงๆ นะ เปิดประตูให้หน่อย หนูจะไม่ทำแล้ว ไม่ดื้อแล้ว” ไม่ว่าจะตะเบ็งเสียงออกไปเท่าไหร่ก็ไร้วี่แววจากนั้นด้านนอก ถ้าคุณป๋าคิดจะขังฉันไว้ในห้องนี้ถึงเช้าจริงๆ ฉันจะหักเงินจากวันละสามร้อยให้เหลือวันละร้อยห้าสิบเลยคอยดูเถอะ!!ฉันนั่งลงที่พื้นอย่างหมดแรง ทั้งแหกปากตะโกนทั้งทุบประตูห้องผ่านไปครึ่งชั่วโมงทุกอย่างยังคงเงียบ ฉันก้มหน้าลงดูมือของตัวเองทั้งสองข้างที่แดงเถือกจากกับเคาะประตูรัวๆ ติดกันเป็นเวลานาน“ไม่คิดเลยว่าคุณป๋าจะใจดำได้มากขนาดนี้” ฉันพัดพ้อออกมาเพราะความโกรธ ใช่! ฉันเองที่ผิดไปยั่วโมโหคุณป๋าทำให้ฟิวขาด แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าคุณป๋าจะมาขังไว้แบบนี้ ที่คิดไว้มันคนละแบบกันเลย ป่านนี้ไม
น้ำเสียงอำมหิตของคุณป๋าทำให้ขนทั้งตัวของฉันมันลุกซู่ คืนนี้คงจะเจอศึกหนักอีกแล้วสินะ ไหนๆ ก็จะเจอศึกหนักแล้วขอแกล้งหน่อยแล้วกัน อยากเห็นจังว่าเวลาคนแก่หึงมากๆ จะเป็นยังไง ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นหรอกเพราะปกติคุณป๋าก็ขี้หึง แต่ครั้งนี้อยากทำให้หึงสุดๆ ไปเลย แล้วก็ไปจบที่เตียง คืนนี้ฉันคงต้องร้องขอชีวิตกับคุณป๋าอีกแน่ๆ “นี่เอวาไปเข้าห้องน้ำกัน ^_^” เอวามองฉันอย่างแปลกใจที่จู่ๆ ฉันก็ชวนไปห้องน้ำ คุณป๋าที่ได้ยินฉันพูดจึงกระตุกแขนเบาๆ แล้วพูดเสียงเข้ม “ถ้าอยากไปเข้าห้องน้ำ ฉันจะพาไป” “ไม่เอาค่ะ หนูอยากไปกับเอวามากกว่า” ฉันรีบปฏิเสธ ขืนให้ไปด้วยก็ไม่สนุกสิ ฉันตั้งท่าจะลุกขึ้นอีกครั้งแต่คุณป๋าไม่ยอมปล่อยมือที่รั้งเอวของฉันอยู่ ฉันจึงหันไปทำหน้าดุใส่ “ปล่อยนะคะ” คุณป๋าพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ดูก็รู้ว่าไม่อยากให้ฉันลุกขึ้นจากตักของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมปล่อยมือออก ฉันจับมือเอวาให้ลุกขึ้น ก่อนจะจูงมือพาเดินเข้ามาในบ้าน “เดี๋ยว! ห้องน้ำอยู่ทางนั้นแกจะไปไหนเมเบล” เอวาชี้ไปทางห้องน้ำชั้นล่างของบ้าน“ใครบอกว่าฉันอยากจะมาเข้าห้องน้ำจริงๆ ล่ะ”“หื้อ อะไรของแกเนี่ยเมเบล” “ตามมาเถอะน่า ถามเยอะจริ
เลิกเรียน ฉันนัดกับเพื่อนและพี่กินให้มาที่บ้านของฉันตอนหนึ่งทุ่ม พอขึ้นมาบนรถฉันก็รีบบอกคุณป๋าไว้ก่อนว่าวันนี้เพื่อนจะมาที่บ้าน “วันนี้หนูนัดเอวากับฟาร์นให้มาปาร์ตี้ที่บ้านนะคะ” ฉันบอกแต่บอกไม่หมด เพราะไม่ได้บอกว่าพี่ดินจะมาที่บ้านด้วยเหมือนกัน“ปาร์ตี้ ?” คุณป๋ามองหน้าฉันแล้วขมวดคิ้วเป็นปม “ก็ใช่ไงคะ ขอไปคลับคุณป๋าก็ไม่อนุญาต หนูเลยชวนเพื่อนมาดื่มที่บ้าน”“ทำไมถึงไม่ถามฉันก่อน ?” “ทำไมล่ะคะ หนูไม่มีสิทธิ์จะทำอะไรตามใจตัวเองเลยหรือไง ต้องขออนุญาตทุกครั้งเลยใช่มั้ยคะ” คุณป๋าถอนหายใจออกมาเบาๆ “มันไม่ใช่แบบนั้น ฉันก็แค่อยากให้เธอบอกก่อน”“นี่ไง หนูก็บอกคุณป๋าอยู่นี่ไงล่ะคะ” ทั้งฉันและคุณป๋าต่างก็ทำเงียบใส่กัน อยากจะงอนก็งอนไปเถอะวันนี้ฉันไม่ง้อหรอก ไม่ยอมให้ฉันไปเที่ยวดีนัก อีกอย่างฉันก็แค่ชวนเพื่อนมาดื่มที่บ้านเอง นี่แหละ ฉันกับคุณป๋ามักจะงอนกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องประจำ พอมาถึงบ้านคุณป๋าก็เหมือนจะอารมณ์ดีขึ้น เดินมาเปิดประตูรถให้ แต่ยังฟอร์มอยู่ “ฝากบอกให้พี่กล้าจัดเตรียมของที่สระว่ายน้ำด้วยนะคะ เดี๋ยวหนูจะขึ้นไปอาบน้ำ” ฉันออกคำสั่ง “ห้ามใส่บิกินี่” คุณป๋าชี้หน้าฉันออกคำสั