“ฉันเล่นเกมกับเพื่อน ตอนนี้ไม่มีเวลาอธิบายไปกับฉันก่อน”
“ไม่ไป” เขาตอบแบบไม่ทันได้คิดเลยด้วยซ้ำ แถมยังพูดต่ออีกด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก “ยืนอยู่ทำไมเกะกะ” เป็นการไล่ที่ไม่มีคำหยาบแต่พอมันออกมาจากปากของอลัน ทำเอาฉันสะอึกแทบพูดไม่ออก “ถ้านายไม่ไปฉันจะบอกอลิชว่านายมาดื่ม แล้ววันนี้ก็มีผู้หญิงไปหานายที่ห้องด้วย” ฉันหาข้ออ้างเพื่อให้ตัวเองถือไพ่เหนือกว่า “เชิญ” คำตอบสั้นๆ ไม่สนใจในสิ่งที่ฉันยกมาเป็นข้ออ้างทำให้ฉันหมดหนทาง “ใครวะอลัน ?” เพื่อนอลันคงจะสงสัยว่าฉันเป็นใครถึงได้ถามเขา แต่คนถูกถามไม่ยอมตอบเอาแต่นั่งดื่ม ฉันจึงตอบแทน “ฉันเป็นเพื่อนพี่สาวเขาน่ะ” พอฉันบอกแบบนั้นผู้ชายที่โต๊ะก็พยักหน้าเข้าใจ มีแค่อลันที่ยังเงียบ หรือฉันควรจะยอมแพ้แล้วเดินกลับไปที่โต๊ะคนเดียวดีนะ ไม่สิ! เลี้ยงเหล้าหนึ่งเดือนหมดเงินเยอะเหมือนกันนะ ยิ่งดื่มเก่งกันด้วย ถึงบ้านฉันจะมีฐานะแต่ฉันก็ไม่อยากเสียเงินมากมายแบบนั้นไปกับค่าเหล้า ฉันเปิดกระเป๋าแล้วหยิบเงินออกมาสองพันยื่นให้อลัน “ฉันจ้างนายก็ได้ไปกับฉันแค่สองสามนาทีได้ไปสองพันคุ้มเกินคุ้มอีกนะ” “ไม่ได้เห็นแก่เงิน” อลันตอบโดยไม่สนใจหันมามองเงินที่ฉันยื่นให้ “แล้วฉันต้องทำยังไงนายถึงจะยอมไปด้วย” ปัก! อลันวางแก้วเหล้าลงกระแทกโต๊ะ เขาเอื้อมมือไปหยิบแก้วใบที่ยังไม่ได้ใส่เหล้ามาแล้วเทเหล้าลงจนเกือบจะเต็มแก้ว จากนั้นก็ยื่นมาให้ฉัน “กล้าดื่มหมดแก้วไหมล่ะ ?” ฉัากลืนน้ำลายหนืดลงคอ แบบนี้มันฆ่ากันชัดๆ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ลังเล “ถ้าฉันดื่มหมดนายจะยอมไปด้วยใช่ไหม ?” “อืม” “เชี้ย! มึงโหดไปเปล่าวะขนาดกูเป็นผู้ชายยังไม่กล้าแดกเหล้าเพียวขนาดนั้นเลย แล้วนั่นเป็นผู้หญิง….” หมับ! ขณะที่เพื่อนของอลันพูดอยู่ฉันตัดสินใจคว้ามือไปเอาแก้วเหล้ามายกกระดก มันแทบจะสำลักออกมาแต่ฉันก็ฝืนดื่มจนหมดแก้ว ปัก! ฉันวางแก้วเหล้ากระแทกโต๊ะแล้วยกมือขึ้นมาเช็ดปากตัวเอง แล้วเก็บเงินสองพันไว้ในกระเป๋าเหมือนเดิม “ไอดอลเลยว่ะ กินหมดได้ไงเห็นแล้วจะอ้วกแทนสัส” “หมดแก้วแล้ว ไปกับฉัน” ฉันพูด ตอนนี้ยังโอเคอยู่แต่ฉันรู้ว่าอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงข้างหน้าต้องเมามากแน่ๆ เพราะดื่มไปเยอะขนาดนั้น อลันมองฉันอยู่อย่างนั้นโดยไม่ได้พูดอะไรก่อนที่เขาจะลุกขึ้น แล้วบอก “เดินนำไป” “อะ อื้อ” คงไม่ต้องรอให้ถึงครึ่งชั่วโมงหรอก ตอนนี้ฉันก็เริ่มรู้สึกมึนหัวแล้ว พอมาที่โต๊ะทั้งมินนี่และขวัญก็ต่างแววตาเป็นประกายที่เห็นใบหน้าของอลันใกล้ๆ ฉันเองก็ไม่เถียงว่าเด็กคนนี้หน้าตาดีมากๆ ยิ่งมองใกล้ๆ ยิ่งมีเสน่ห์ แต่เป็นเสน่ห์ที่น่าขนลุก! “ชื่ออะไรหรอคะ” มินนี่ถามเสียงหวาน “อลัน” อลันตอบสั้นๆ ส่วนฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรค่อยๆ ประคองตัวเองนั่งที่เก้าอี้ “ชื่อเพราะจัง ^_^” “ไปได้ยัง ?” อลันถามฉันด้วยสีหน้าปนรำคาญ มันคงจะฝืนเขามากๆ เลยมั้ง ดูท่าก็ไม่อยากจะพูดคุยกับฉันเท่าไหร่ ต่างจากวันนั้นที่อลันพูดกวนประสาทฉันที่คลับ “อื้อ” ฉันพยักหน้าตอบ จากนั้นอลันก็หันหลังเดินกลับไปที่โต๊ะ “อะไรกัน! มาแป๊บเดียวเองฉันยังไม่ได้เลยชมความหล่อให้หนำใจเลย” ขวัญเอ่ยขึ้นมาอย่างนึกเสียดาย “ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ฉันบอกพร้อมกับค่อยๆ พยุงตัวเองยืนขึ้น “แกเมาหรอ เมาได้ไงดื่มไปนิดเดียวเอง” “เดี๋ยวฉันมา” ฉันตอบปัดๆ “เดี๋ยวฉันพาไปดูท่าแกจะไม่ไหวนะแพร” “ไม่เป็นไรฉันโอเค” จากนั้นก็รีบเดินไปห้องน้ำเพราะรู้สึกอยากจะอ้วก ด้วยความที่คนเยอะทำให้มันยากกว่าจะเดินแหวกทางมาที่ห้องน้ำได้ อ้วกแทบจะพุ่ง เมื่อมาถึงที่ห้องน้ำฉันก็รีบพุ่งตรงไปอ้วกที่โถโดยไม่สนใจใครที่มอง “อึก อ้วก~” ฉันนั่งอ้วกอยู่อย่างนั้นนานเกือบสิบนาที สมองมันหนักอึ้งรู้ตัวเองว่าเมามากๆ ตอนนี้อยากกลับห้องแล้ว ฉันไม่น่าไปบ้าดื่มเหล้าขนาดนั้นเลย อ้วกเสร็จฉันก็ล้างปากแล้วเดินเซออกมาจากห้องน้ำ ตาเริ่มพร่ามัว พรึบ! ขณะที่เดินอยู่จู่ๆ ฉันก็ชนเข้ากับใครก็ไม่รู้ ตรงนี้มันค่อนข้างจะมืดด้วยบวกกับความเมาทำให้มองเห็นไม่ชัด “ขะ ขอโทษค่ะ” “ถ้ารู้ว่าจะเมาขนาดนี้ก็ไม่ควรดื่มแต่แรก” น้ำเสียงนี้มันคุ้นๆ เหมือนฉันเพิ่งจะได้ยินมันเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว ฉันตั้งสติแล้วเพ่งสายตามองผ่านความมืด “…อลัน” พอรู้ว่าเป็นอลันฉันจึงถอยห่าง ไม่ถูกชะตากับเด็กคนนี้เอาซะเลย แต่ด้วยความเมาถอยไปนิดเดียวมันก็เซจนเกือบจะล้ม ได้อลันที่ช่วยคว้ามารับตัวฉันไว้ “ให้ไปส่งที่โต๊ะไหม ?” “มะ ไม่ต้องฉันเดินไปเองได้” “อวดเก่ง” สิ้นสุดเสียงเข้มอลันก็ปล่อยมือที่ประคองฉันออก และด้วยความที่เสียหลักจะล้มในตอนแรกพอถูกปล่อยมือออกทำให้ร่างของฉันล้มฟุบลงกระแทกพื้นเข้าอย่างจัง “ไอ้เด็กบ้า!!” ด้วยความโมโหฉันเลยพลั้งปากไป และดูเหมือนอลันจะโกรธที่ถูกพ่นคำนั้นใส่ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรแถมยังไม่ยอมช่วยฉัน เอาแต่ยืนมอง “แพร” เสียงที่คุ้นเคยเรียกชื่อฉันดังขึ้น ไม่นานพี่เพิร์ทก็เดินมาช่วยพยุงให้ลุกขึ้นยืน แล้วทำไมต้องเป็นผู้ชายคนนี้ด้วย คนอื่นไม่ได้หรือไง “ปะ ปล่อยแพร แพรจะเดินเอง” ฉันดันพี่เพิร์ทออกแต่เขาไม่ยอมปล่อย แถมยังเอามามือจับที่พวงแก้มของฉัน “เมาหรอ ?” “อื้อ อย่ามายุ่งกับแพร” “เดี๋ยวพี่ไปส่งที่ห้องนะครับ” “ไม่” ฉันพยายามดันพี่เพิร์ทแต่ก็ไม่ค่อยมีแรงเท่าไหร่ แค่แรงจะพยุงตัวเองให้ยืนตรงๆ ฉันยังทำไม่ได้เลยตอนนี้ “พี่แค่จะไปส่งที่ห้องเฉยๆ นะครับ” “จะมายุ่งกับแพรอีกทำไม ทิ้งแพรไปเองไม่ใช่หรือไง อึก~” คงเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ทำให้ฉันร้องไห้ออกมาต่อหน้าพี่เพิร์ทแบบนี้ ความรู้สึกแย่ๆ มันกลับมาให้รู้สึกเจ็บปวดอีกครั้ง หมับ! จู่ๆ ร่างของฉันก็ถูกกระชากไปกระแทกกับแผงอกแกร่งของอลัน “ผู้หญิงไม่อยากไปด้วยจะบังคับเพื่อ” “แล้วมึงมายุ่งอะไรด้วย ผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนกู” อลันก้มหน้าลงมาถามฉันที่ยืนตัวแข็งแนบอยู่ตรงแผงอกของเขา “ไอ้นี่มันเป็นผัวหรอ ?” “มะ ไม่ใช่ ฉันเลิกกับเขาแล้ว นายพาฉันกลับห้องหน่อยได้ไหม ฉันไม่อยากอยู่ตรงนี้ไม่อยากเห็นหน้าเขา…” ฉันเอ่ยบอกน้ำเสียงสั่นเครือ ตอนนี้นอกจากเพื่อนก็คงเป็นอลันที่ฉันรู้สึกว่าอยู่ด้วยแล้วปลอดภัย ถึงฉันจะไม่ชอบนิสัยของเด็กคนนี้ แต่ยังไงเขาก็ไม่ทำอะไรไม่ดีกับฉันแน่ๆ เพราะฉันคือเพื่อนของพี่สาวเขา5 เดือนผ่านไป ชีวิตหลังแต่งงาน “ทำให้มันดีๆ หน่อยสิอลัน” “ก็ทำดีๆ อยู่นี่ไง” “แล้วนายเอาหมูไปผัดแบบนั้นได้ยังไง ทำไมไม่ผัดหมูก่อน”“แล้วทำไมไม่บอกก่อนก็รู้ว่าทำอาหารไม่เป็น”“ทำไม่เป็นก็ถอยไปฉันจะทำเอง”“ไม่ต้องยุ่งออกไปนั่งรอเลยไป” ฉันมองสามีของตัวเองทำอาหารด้วยความเหนื่อยใจ ทำไม่เป็นยังจะเสนอตัวอวดเก่งอยากจะโชว์ฝีมือ ชีวิตคู่ของเราไม่ได้โปรยด้วยกลีบกุหลาบ ไม่ได้รักกันจนหวานชื่น เรามีปากเสียงกันในบางครั้งไม่เข้าใจกันบ้าง แต่ความรักที่มีให้กันมันก็ยังคงอยู่และเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ฉันว่ามันคงเป็นธรรมดาของชีวิตคู่ จะให้รักกันปานจะกลืนกินคงไม่ใช่ คนที่อยู่ด้วยกันการทะเลาะและปรับความเข้าใจเป็นเรื่องปกติ “เสร็จแล้วครับคุณเมีย ^_^” อลันถือจานอาหารที่ตัวเองทำมาวางไว้ที่โต๊ะด้วยสีหน้าที่ปลื้มอกปลื้มใจกับฝีมือตัวเอง “ผัดผักยังไงให้ผักไม่สุก แบบนี้จะกินยังไง” “ผักต้องสุก ?” เขาถามอย่างกับไม่เคยกินผัดผักมาก่อนในชีวิตถึงไม่รู้ว่ามันต้องสุกประมาณไหน “ถ้าลูกคลอดออกมาฉันคงไม่ไว้ใจให้นายทำอาหารให้ลูกกินแน่ๆ” “ของแบบนี้มันพัฒนากันได้ ตอนนี้ทำไม่เป็นอีกสิบปีข้างหน้าอาจจะได้เป็นเชฟกระทะเหล็กก็ไ
#บ้านของฉันฉันกับอลันมาที่บ้านด้วยกันเพื่อจะมาบอกพ่อว่าเรากำลังจะมีลูก ก่อนมาเขาได้โทรบอกพ่อกำนันแล้วเห็นว่าดีใจยกใหญ่เลย พรุ่งนี้คงจะขึ้นมากรุงเทพมาคุยเรื่องงานแต่ง “จะมาทำไมไม่บอกก่อนจะได้ให้คนจัดเตรียมอาหารเพิ่ม” พอพ่อเห็นอลันเดินมาพร้อมกับฉันก็รีบท้วงทันที ถึงก่อนหน้านี้จะใจร้ายไปบ้างแต่ตอนนี้พ่อตากับลูกเขยเริ่มเข้ากันได้แล้วนะ “หนูมีเรื่องสำคัญจะบอกพ่อค่ะ ^_^” ฉันยิ้มให้พ่อแล้วก็หันมายิ้มให้อลัน จากนั้นเราสามคนก็พากันเดินมาที่ห้องขับแขก“มีอะไรทำไมถึงต้องคุยเป็นทางการขนาดนี้ ?” พ่อถาม “พ่ออยากมีหลานคือเปล่าคะ” “อยากสิ พ่อแก่แล้วอยากจะรีบอุ้มหลานเร็วๆ” “งั้นคุณลุงก็สมหวังแล้วครับ” อลันพูดแทรก “หมายความว่ายังไง ?” พ่อขมวดคิ้วมองเราทั้งคู่สลับกัน ฉันคลี่ยิ้มก่อนจะตอบ “หนูท้องค่ะ ^_^” พอบอกว่าท้องพ่อก็เงียบไปเหมือนตกใจ ทำเอาฉันใจหาย ไหนบอกว่าอยากอุ้มหลานเร็วๆ ไง ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น“คุณลุงไม่ดีใจหรอครับ” อลันรีบถามเพราะเห็นพ่อเงียบไป “ลง ลุงอะไรกัน เรียกพ่อได้แล้วไอ้ลูกเขย” พ่อพูดออกมาพร้อใกับรอยยิ้มบนใบหน้า ทำเอาฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกนึกว่าพ่อจะเสียใจซะอีก อีกหนึ่งเรื่องร
โรงพยาบาลตอนนี้ฉันกับอลันอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนอลิชเธอกลับไปที่บ้านแล้วเพราะต้องไปดูลูก ทั้งฉันและอลันได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดทั้งคู่ แต่ที่ต่างออกไปคือหมอให้ฉันตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะ ตอนนี้เรากำลังนั่งรอผลตรวจอยู่อาการของอลันดีขึ้น ตอนนี้เขานั่งจนแทบจะสิงร่างฉันอยู่แล้ว “ขยับไปหน่อยได้ไหม ดูสิคนมองเยอะเลยนะ” ฉันกระซิบบอกอลัน “ขยับออกก็อ้วก จะเอาแบบนั้นไหมล่ะ” “แล้วอยู่ใกล้ฉันไม่อยากอ้วกหรือไง” เขาส่ายหน้าแทนคำตอบ ถึงอาการของเขาจะดีขึ้นแต่ร่างกายยังอิดโรย ไม่นานเท่าไหร่คุณหมอก็เรียกให้เราสองคนไปฟังผลตรวจ “ผลตรวจของคุณผู้ชายเป็นปกติดีนะคะ” “แต่เขาทั้งเวียนหัวทั้งอ้วกเลยนะคะคุณหมอ” ฉันรีบพูดแย้งขึ้นทันที “คงจะเป็นอาการแพ้ท้องแทนภรรยาค่ะ ยินดีด้วยนะคะตอนนี้คุณกำลังตั้งครรภ์ ^_^” หมอพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่คำพูดนั้นยังวนอยู่ในหัวของฉัน ยินดีด้วยนะคะคุณกำลังตั้งครรภ์ มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเราไม่เคยพลาด อลันปล่อยนอกหรือไม่ก็ใส่ถุงยางอนามัยตลอด ตอนนั้นที่ปล่อยในฉันก็กินนาคุมฉุกเฉินแล้ว คิดไม่ออกเลยว่าจะท้องได้ยังไง “จริงหรอครับคุณหมอ ผมกำลังจะมีลูกหรอคร
อลันเดินออกมาจากห้องน้ำทั้งที่ยังเอามือปิดจมูกอยู่ เขาทำท่าเหมือนขยะแขยงอาหารที่ฉันเตรียมให้มากๆ มันรู้สึกเฟลนิดๆ นะ อุตส่าห์ตั้งใจเตรียมให้แท้ๆ “ไปหาหมอไหม”“ไม่เป็นไรแค่เวียนหัวนิดหน่อย” ฉันเดินมาหาอลันแล้วยกมือขึ้นทาบบนหน้าผากของเขาเพื่อเช็คว่าตัวร้อนหรือเปล่า “ตัวก็ไม่ร้อนนี่ ทำไมจู่ๆ ถึงเป็นแบบนี้ล่ะ ฉันว่าไปหาหมอดีกว่านะอลัน”อลันสวมกอดฉันเอาไว้แน่นแล้วบอกด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “แค่กอดเมียแป๊บเดียวเดี๋ยวก็หาย” แปะ! ฉันฟาดมือลงบนแขนของอลันเบาๆ แล้วพูดค้อน “ฉันเป็นห่วงนะยังจะมาพูดเล่นอีก”“ไม่ได้พูดเล่นมันดีขึ้นจริงๆ นะ” พูดจับอลันก็เอาใบหน้ามาซุกลงบนซอกคอของฉัน “หอมจัง” “…นายคงกินไม่ได้แล้วใช่ไหมฉันจะได้เก็บ” ฉันถามเสียงเศร้า “มันเหม็น” อลันพูดกระซิบบอกที่หูเสียงเบา “อยากกินเมียแทนข้าว” ฝ่ามือสากเริ่มเลื้อยไปมาเป็นปลาหมึก ริมฝีปากหนาพรมจูบไปจนทั่วซอกคอของฉันก่อนจะขยับขึ้นมาที่พวงแก้มและประกบจูบที่ริมฝีปาก “อืม~” เสียงครางในลำคออย่างพึงพอใจของอลันทำให้ฉันรู้สึกวาบหวิว แควก! เสียงนี้คือเสียงชุดซีทรูตัวบางของฉันถูกฉีกอย่างไร้ความปรานี “อลัน!!” ฉันดันตัวออกแล้วจ้องอลันเขม็ง เข
วันต่อมา หลังจากที่อลันเลิกเรียนเราก็มาเจอเฮียเฟย นัดเจอกันที่ร้านอาหารในห้าง ฉันโทรนัดเฮียเอาไว้แล้ว #ภายในร้านอาหาร “เฮียสั่งจะกินอะไรไหมคะเดี๋ยวแพรสั่งให้” ฉันรีบถามเมื่อเฮียเฟยมาถึง มันรู้สึกเกร็งเอามากๆ สาเหตุก็เพราะอลันที่เอาแต่จ้องมองตลอดเวลา “ไม่เป็นไรเดี๋ยวเฮียต้องเข้าบริษัทไปกินที่บริษัทก็ได้”“งานยุ่งหรอคะช่วงนี้”“ก็….”“มีอะไรจะพูดก็รีบๆ พูด เอาแต่เนื้อ น้ำไม่ต้อง” อลันพูดแทรกขึ้นมาอย่างเสียมารยาท ฉันจึงหันมามองค้อนเขาด้วยสายตาที่ตำหนิ แต่เขาก็ทำท่าเหมือนทองไม่รู้ร้อน“ทีหลังถ้าจะนัดคุยมาคนเดียวดีกว่านะ แฟนแพรคงไม่สะดวก” เฮียเฟยบอก “ถ้าคุยสองต่อสองคงไม่ปล่อยให้มา” อบันตอบกลับทันควัน “นายช่วยอยู่เงียบๆ ได้ไหมอลัน” ฉันบอกเขาเสียงดุ ใจคอจะหาเรื่องให้ได้เลยหรือไง “แพรขอโทษแทนอลันด้วยนะคะ”“ไม่เป็นไรเฮียเข้าใจ แฟนแพรยังเด็ก….”“เด็กแล้วยังไง ?” เป็นอีกครั้งที่อลันถามอย่างไม่สบอารมณ์ “อลัน!!” ฉันจ้องเขาเขม็งจึงยอมปิดปากเงียบ มันน่าดีดหน้าผากแรงๆ สักทีให้เข็ดหลาบ “ที่นัดมาวันนี้แพรอยากจะมาขอโทษที่เคยพูดให้ความหวังเฮีย อยากขอโทษที่เคยดึงเฮียเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งที่แพรไม่ไ
ทางผู้ใหญ่พูดคุยกันครั้งนี้พ่อฉันยินยอมไม่ได้ขัดอย่างที่เคยลั่นวาจาเอาไว้ คุณคานส์สามีของอลิชเสนอตัวจะออกค่าใช้จ่าย ส่วนค่าสินสอดวันแต่งพ่อของอลันจะเป็นคนออกเอง โดยงานหมั้นจะจัดหลังจากที่มหาวิทยาลัยของอลันปิดเทอม ซึ่งก็คืออีกไม่นานนี้แล้ว หลังจากคุยธุระเสร็จเรียบร้อยเราก็นั่งกินข้าวด้วยกัน ฉันเองก็ยังเกร็งไม่หาย แต่ก็ดีใจที่พ่อของอลันเอ็นดูฉันมากขนาดนี้ ตอนนี้ฉันกำลังเดินเล่นกับอลิชอยู่ที่สนามหน้าบ้าน ส่วนพ่อฉันกับพ่อของอลันคุยกันเรื่องธุรกิจ พ่อของอลันสนใจอยากจะเปิดธุรกิจเล็กๆ ที่บ้านต่างจังหวัดเลยขอคำปรึกษากับพ่อ ดีใจที่ทั้งสองคุยกันถูกคอ “แกไม่กลับบ้านพร้อมสามีหรออลิช” ที่ถามแบบนี้ก็เพราะว่าฉันเห็นคุณคานส์กลับไปก่อนแล้ว “ฉันกลับพร้อมพ่อน่ะ คุณคานส์รีบไปดูลูก” “สามีดีเด่นนะเนี่ย” “แกก็เถอะ ดีใจด้วยนะ รู้ไหมฉันแทบจะกรี๊ดลั่นบ้านตอนที่รู้ว่าอลันจะจอแกหมั้น” อลิชดีใจจนออกนอกหน้า “แกไม่ห้ามน้องหน่อยหรอ หมั้นทั้งๆ ที่ยังเรียนไม่จบ” “แพร อลันเป็นผู้ชายไม่มีอะไรเสียหายหรอกนะ ดีซะอีกน้องฉันตั้งใจทำงานมากๆ แถมยังไปเรียนทุกวัน ฉันละนับถือแกจริงๆ เลยที่เอาอลันอยู่หมัดขนาดนี้” “พี่อลิช