#คอนโดอลัน
พอขับรถมาถึงที่คอนโดก็เห็นอลันยืนทำหน้าบึ้งหรออยู่ เมื่อเขาเห็นรถฉันขับมาจอดก็เดินมาเปิดประตูเข้ามานั่งด้านใน สายตาคมกริบของอลันร่ายมองเรือนร่างของฉันอย่างพิจารณา ก่อนจะพูด “ตั้งใจแต่งตัวมาอ่อย ?” เหอะ! เด็กนี่คงคิดว่าฉันอยากจะอ่อยตัวเองมากมั้ง “ฉันไปคลับมาเมื่อคืนยังไม่ได้อาบน้ำ ไม่ได้ตั้งใจจะใส่มาอ่อยนายหรอก!!” อลันไม่ตอบอะไร เขานั่งนิ่งๆ พลางยกโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น ส่วนฉันก็ขับรถออกมาจากคอนโด เขาบอกไว้ก่อนแล้วว่าเรียนที่มหาวิทยาลัยไหน ฉันเองก็รู้จักมหาวิทยาลัยนั้นดีเพราะมีรุ่นน้องที่รู้จักกันเรียนที่นั่นเหมือนกัน#มหาวิทยาลัย
“เดี๋ยวจะเอารถไปซ่อมที่อู่เพื่อน ฝากบอกอู่นั้นให้ย้ายรถไปให้ด้วย ตอนเย็นเดี๋ยวส่งโลเคชั่นให้” “เพื่อนนายมีอู่ด้วยหรอ ?” “อืม” “อื้อๆ ยังไงก็ส่งโลเคชั่นมาแล้วกัน เดี๋ยวฉันจัดการย้ายให้” ฉันไม่ค้านอะไรเพราะคิดว่าอลันคงอยากเอารถไปซ่อมที่อู่เพื่อนเพราะมันสบายใจมากกว่า หลังจากที่อลันลงจากรถไปแล้วฉันก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ไม่รู้ว่านี่เป็นโชคชะตาหรือเวรกรรมที่ทำให้ชีวิตของฉันต้องมาพัวพันกับเขา ฉันขับรถกลับมาที่คอนโดหวังจะนอนต่อ แต่ทำยังไงก็นอนไม่หลับจึงอาบน้ำแต่งตัวออกมาที่ร้านต้องแวะไปคุมงานสักหน่อย ช่วงนี้พนักงานชอบอู้งานเพราะฉันไม่ค่อยได้เข้าร้านเลย#ช่วงบ่าย
อลันส่งโลเคชั่นอู่ซ่อมรถของเพื่อนเขามาให้ ฉันจึงรีบจัดการสั่งให้คนงานย้ายรถไปไว้ที่อู่เพื่อนของอลันตามที่เขาต้องการ ส่วนตัวฉันเองก็ต้องไปด้วยเพราะต้องไปรับอลันกลับไปที่คอนโด ชีวิตฉันดูยุ่งยากขึ้นทุกวันจริงๆ เมื่อไหร่จะหลุดพ้นจากเด็กคนนี้สักทีนะ#อู่ซ่อมรถ
ฉันกวาดสายตามองไปรอบๆ ที่นี่เป็นอู่ขนาดกลาง บอกตามตรงว่าไม่ได้ดูดีเท่าอู่ที่ฉันส่งรถไปซ่อมเลยด้วยซ้ำ “ฉันว่าซ่อมอู่เดิมน่าจะเสร็จเร็วกว่านะ” ฉันกระซิบบอกอลัน “สะดวกที่นี่” เขาตอบสั้นๆ ก่อนจะเดินไปหาเพื่อน “นี่! ไหนบอกว่าจะให้ไปส่งที่คอนโดไง นายไม่กลับตอนนี้หรอ” ฉันตะโกนถามเขา คิดว่าฉันมีเวลามาเฝ้าเขาตลอดหรือไงกัน แค่คอยไปรับไปส่งเวลาอยากไปไหนก็จะบ้าตายอยู่แล้ว อลันหยุดเดินก่อนจะหันหน้ามาบอกเสียงเย็น “รอแค่นี้คงไม่ตาย” ไอ้เด็กปากร้าย!!! ฉันกร่นด่าเขาในใจพร้อมกับกำมือแน่นอย่างโกรธเคือง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินกลับมานั่งรอในรถเงียบๆ ส่วนอลันเขาไปคุยอะไรกับเพื่อนไม่รู้นานสองนานก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะกลับกริ้ง~ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ฉันละสายตาจากแผ่นหลังของอลันแล้วมองดูเบอร์ที่โทรเข้ามา
หัวใจดวงน้อยมันเต้นแรงเป็นจังหวะที่เจ็บปวดเมื่อเห็นว่าเบอร์ที่โชว์อยู่หน้าจอคือเบอร์ของพี่เพิร์ท ฉันกำโทรศัพท์ในมือแน่นภายในใจมันกำลังประท้วงกันอยู่ว่าจะรับสายหรือจะปล่อยให้มันดังแบบนั้นดี“คืนนี้สามทุ่มมาไปส่งที่คลับด้วย” เสียงของอลันทำให้ฉันหลุดจากภวังค์ ไม่รู้ว่าเขาขึ้นมานั่งในรถตั้งแต่เมื่อไหร่
“อื้อ” ฉันพยักหน้าตอบรับคำสั่งของเขา “ถ้าไม่รับก็ตัดสายทิ้งไป หนวกหูฉิบ!” อลันมองที่โทรศัพท์ของฉันแล้วแสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์ออกมา “นายว่าฉันควรจะรับสายหรือเปล่า ?” ไม่รู้ว่าฉันเป็นบ้าอะไรถึงถามอลันแบบนั้น รู้ตัวอีกทีก็ถามออกไปแล้ว “ผัวเก่าโทรมาหรอ ?” พอได้ยินคำถามกวนประสาทของอลันฉันก็รู้แล้วแหละว่าไม่ควรจะไปถามเขาตั้งแต่แรก “แฟนเก่าไม่ใช่ผัว หยาบคายที่สุด!!” ฉันมองค้อนอลันก่อนจะกดปิดเสียงโทรศัพท์แล้วขับรถไปส่งเขาที่คอนโด5 เดือนผ่านไป ชีวิตหลังแต่งงาน “ทำให้มันดีๆ หน่อยสิอลัน” “ก็ทำดีๆ อยู่นี่ไง” “แล้วนายเอาหมูไปผัดแบบนั้นได้ยังไง ทำไมไม่ผัดหมูก่อน”“แล้วทำไมไม่บอกก่อนก็รู้ว่าทำอาหารไม่เป็น”“ทำไม่เป็นก็ถอยไปฉันจะทำเอง”“ไม่ต้องยุ่งออกไปนั่งรอเลยไป” ฉันมองสามีของตัวเองทำอาหารด้วยความเหนื่อยใจ ทำไม่เป็นยังจะเสนอตัวอวดเก่งอยากจะโชว์ฝีมือ ชีวิตคู่ของเราไม่ได้โปรยด้วยกลีบกุหลาบ ไม่ได้รักกันจนหวานชื่น เรามีปากเสียงกันในบางครั้งไม่เข้าใจกันบ้าง แต่ความรักที่มีให้กันมันก็ยังคงอยู่และเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ฉันว่ามันคงเป็นธรรมดาของชีวิตคู่ จะให้รักกันปานจะกลืนกินคงไม่ใช่ คนที่อยู่ด้วยกันการทะเลาะและปรับความเข้าใจเป็นเรื่องปกติ “เสร็จแล้วครับคุณเมีย ^_^” อลันถือจานอาหารที่ตัวเองทำมาวางไว้ที่โต๊ะด้วยสีหน้าที่ปลื้มอกปลื้มใจกับฝีมือตัวเอง “ผัดผักยังไงให้ผักไม่สุก แบบนี้จะกินยังไง” “ผักต้องสุก ?” เขาถามอย่างกับไม่เคยกินผัดผักมาก่อนในชีวิตถึงไม่รู้ว่ามันต้องสุกประมาณไหน “ถ้าลูกคลอดออกมาฉันคงไม่ไว้ใจให้นายทำอาหารให้ลูกกินแน่ๆ” “ของแบบนี้มันพัฒนากันได้ ตอนนี้ทำไม่เป็นอีกสิบปีข้างหน้าอาจจะได้เป็นเชฟกระทะเหล็กก็ไ
#บ้านของฉันฉันกับอลันมาที่บ้านด้วยกันเพื่อจะมาบอกพ่อว่าเรากำลังจะมีลูก ก่อนมาเขาได้โทรบอกพ่อกำนันแล้วเห็นว่าดีใจยกใหญ่เลย พรุ่งนี้คงจะขึ้นมากรุงเทพมาคุยเรื่องงานแต่ง “จะมาทำไมไม่บอกก่อนจะได้ให้คนจัดเตรียมอาหารเพิ่ม” พอพ่อเห็นอลันเดินมาพร้อมกับฉันก็รีบท้วงทันที ถึงก่อนหน้านี้จะใจร้ายไปบ้างแต่ตอนนี้พ่อตากับลูกเขยเริ่มเข้ากันได้แล้วนะ “หนูมีเรื่องสำคัญจะบอกพ่อค่ะ ^_^” ฉันยิ้มให้พ่อแล้วก็หันมายิ้มให้อลัน จากนั้นเราสามคนก็พากันเดินมาที่ห้องขับแขก“มีอะไรทำไมถึงต้องคุยเป็นทางการขนาดนี้ ?” พ่อถาม “พ่ออยากมีหลานคือเปล่าคะ” “อยากสิ พ่อแก่แล้วอยากจะรีบอุ้มหลานเร็วๆ” “งั้นคุณลุงก็สมหวังแล้วครับ” อลันพูดแทรก “หมายความว่ายังไง ?” พ่อขมวดคิ้วมองเราทั้งคู่สลับกัน ฉันคลี่ยิ้มก่อนจะตอบ “หนูท้องค่ะ ^_^” พอบอกว่าท้องพ่อก็เงียบไปเหมือนตกใจ ทำเอาฉันใจหาย ไหนบอกว่าอยากอุ้มหลานเร็วๆ ไง ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น“คุณลุงไม่ดีใจหรอครับ” อลันรีบถามเพราะเห็นพ่อเงียบไป “ลง ลุงอะไรกัน เรียกพ่อได้แล้วไอ้ลูกเขย” พ่อพูดออกมาพร้อใกับรอยยิ้มบนใบหน้า ทำเอาฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกนึกว่าพ่อจะเสียใจซะอีก อีกหนึ่งเรื่องร
โรงพยาบาลตอนนี้ฉันกับอลันอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนอลิชเธอกลับไปที่บ้านแล้วเพราะต้องไปดูลูก ทั้งฉันและอลันได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดทั้งคู่ แต่ที่ต่างออกไปคือหมอให้ฉันตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะ ตอนนี้เรากำลังนั่งรอผลตรวจอยู่อาการของอลันดีขึ้น ตอนนี้เขานั่งจนแทบจะสิงร่างฉันอยู่แล้ว “ขยับไปหน่อยได้ไหม ดูสิคนมองเยอะเลยนะ” ฉันกระซิบบอกอลัน “ขยับออกก็อ้วก จะเอาแบบนั้นไหมล่ะ” “แล้วอยู่ใกล้ฉันไม่อยากอ้วกหรือไง” เขาส่ายหน้าแทนคำตอบ ถึงอาการของเขาจะดีขึ้นแต่ร่างกายยังอิดโรย ไม่นานเท่าไหร่คุณหมอก็เรียกให้เราสองคนไปฟังผลตรวจ “ผลตรวจของคุณผู้ชายเป็นปกติดีนะคะ” “แต่เขาทั้งเวียนหัวทั้งอ้วกเลยนะคะคุณหมอ” ฉันรีบพูดแย้งขึ้นทันที “คงจะเป็นอาการแพ้ท้องแทนภรรยาค่ะ ยินดีด้วยนะคะตอนนี้คุณกำลังตั้งครรภ์ ^_^” หมอพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่คำพูดนั้นยังวนอยู่ในหัวของฉัน ยินดีด้วยนะคะคุณกำลังตั้งครรภ์ มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเราไม่เคยพลาด อลันปล่อยนอกหรือไม่ก็ใส่ถุงยางอนามัยตลอด ตอนนั้นที่ปล่อยในฉันก็กินนาคุมฉุกเฉินแล้ว คิดไม่ออกเลยว่าจะท้องได้ยังไง “จริงหรอครับคุณหมอ ผมกำลังจะมีลูกหรอคร
อลันเดินออกมาจากห้องน้ำทั้งที่ยังเอามือปิดจมูกอยู่ เขาทำท่าเหมือนขยะแขยงอาหารที่ฉันเตรียมให้มากๆ มันรู้สึกเฟลนิดๆ นะ อุตส่าห์ตั้งใจเตรียมให้แท้ๆ “ไปหาหมอไหม”“ไม่เป็นไรแค่เวียนหัวนิดหน่อย” ฉันเดินมาหาอลันแล้วยกมือขึ้นทาบบนหน้าผากของเขาเพื่อเช็คว่าตัวร้อนหรือเปล่า “ตัวก็ไม่ร้อนนี่ ทำไมจู่ๆ ถึงเป็นแบบนี้ล่ะ ฉันว่าไปหาหมอดีกว่านะอลัน”อลันสวมกอดฉันเอาไว้แน่นแล้วบอกด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “แค่กอดเมียแป๊บเดียวเดี๋ยวก็หาย” แปะ! ฉันฟาดมือลงบนแขนของอลันเบาๆ แล้วพูดค้อน “ฉันเป็นห่วงนะยังจะมาพูดเล่นอีก”“ไม่ได้พูดเล่นมันดีขึ้นจริงๆ นะ” พูดจับอลันก็เอาใบหน้ามาซุกลงบนซอกคอของฉัน “หอมจัง” “…นายคงกินไม่ได้แล้วใช่ไหมฉันจะได้เก็บ” ฉันถามเสียงเศร้า “มันเหม็น” อลันพูดกระซิบบอกที่หูเสียงเบา “อยากกินเมียแทนข้าว” ฝ่ามือสากเริ่มเลื้อยไปมาเป็นปลาหมึก ริมฝีปากหนาพรมจูบไปจนทั่วซอกคอของฉันก่อนจะขยับขึ้นมาที่พวงแก้มและประกบจูบที่ริมฝีปาก “อืม~” เสียงครางในลำคออย่างพึงพอใจของอลันทำให้ฉันรู้สึกวาบหวิว แควก! เสียงนี้คือเสียงชุดซีทรูตัวบางของฉันถูกฉีกอย่างไร้ความปรานี “อลัน!!” ฉันดันตัวออกแล้วจ้องอลันเขม็ง เข
วันต่อมา หลังจากที่อลันเลิกเรียนเราก็มาเจอเฮียเฟย นัดเจอกันที่ร้านอาหารในห้าง ฉันโทรนัดเฮียเอาไว้แล้ว #ภายในร้านอาหาร “เฮียสั่งจะกินอะไรไหมคะเดี๋ยวแพรสั่งให้” ฉันรีบถามเมื่อเฮียเฟยมาถึง มันรู้สึกเกร็งเอามากๆ สาเหตุก็เพราะอลันที่เอาแต่จ้องมองตลอดเวลา “ไม่เป็นไรเดี๋ยวเฮียต้องเข้าบริษัทไปกินที่บริษัทก็ได้”“งานยุ่งหรอคะช่วงนี้”“ก็….”“มีอะไรจะพูดก็รีบๆ พูด เอาแต่เนื้อ น้ำไม่ต้อง” อลันพูดแทรกขึ้นมาอย่างเสียมารยาท ฉันจึงหันมามองค้อนเขาด้วยสายตาที่ตำหนิ แต่เขาก็ทำท่าเหมือนทองไม่รู้ร้อน“ทีหลังถ้าจะนัดคุยมาคนเดียวดีกว่านะ แฟนแพรคงไม่สะดวก” เฮียเฟยบอก “ถ้าคุยสองต่อสองคงไม่ปล่อยให้มา” อบันตอบกลับทันควัน “นายช่วยอยู่เงียบๆ ได้ไหมอลัน” ฉันบอกเขาเสียงดุ ใจคอจะหาเรื่องให้ได้เลยหรือไง “แพรขอโทษแทนอลันด้วยนะคะ”“ไม่เป็นไรเฮียเข้าใจ แฟนแพรยังเด็ก….”“เด็กแล้วยังไง ?” เป็นอีกครั้งที่อลันถามอย่างไม่สบอารมณ์ “อลัน!!” ฉันจ้องเขาเขม็งจึงยอมปิดปากเงียบ มันน่าดีดหน้าผากแรงๆ สักทีให้เข็ดหลาบ “ที่นัดมาวันนี้แพรอยากจะมาขอโทษที่เคยพูดให้ความหวังเฮีย อยากขอโทษที่เคยดึงเฮียเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งที่แพรไม่ไ
ทางผู้ใหญ่พูดคุยกันครั้งนี้พ่อฉันยินยอมไม่ได้ขัดอย่างที่เคยลั่นวาจาเอาไว้ คุณคานส์สามีของอลิชเสนอตัวจะออกค่าใช้จ่าย ส่วนค่าสินสอดวันแต่งพ่อของอลันจะเป็นคนออกเอง โดยงานหมั้นจะจัดหลังจากที่มหาวิทยาลัยของอลันปิดเทอม ซึ่งก็คืออีกไม่นานนี้แล้ว หลังจากคุยธุระเสร็จเรียบร้อยเราก็นั่งกินข้าวด้วยกัน ฉันเองก็ยังเกร็งไม่หาย แต่ก็ดีใจที่พ่อของอลันเอ็นดูฉันมากขนาดนี้ ตอนนี้ฉันกำลังเดินเล่นกับอลิชอยู่ที่สนามหน้าบ้าน ส่วนพ่อฉันกับพ่อของอลันคุยกันเรื่องธุรกิจ พ่อของอลันสนใจอยากจะเปิดธุรกิจเล็กๆ ที่บ้านต่างจังหวัดเลยขอคำปรึกษากับพ่อ ดีใจที่ทั้งสองคุยกันถูกคอ “แกไม่กลับบ้านพร้อมสามีหรออลิช” ที่ถามแบบนี้ก็เพราะว่าฉันเห็นคุณคานส์กลับไปก่อนแล้ว “ฉันกลับพร้อมพ่อน่ะ คุณคานส์รีบไปดูลูก” “สามีดีเด่นนะเนี่ย” “แกก็เถอะ ดีใจด้วยนะ รู้ไหมฉันแทบจะกรี๊ดลั่นบ้านตอนที่รู้ว่าอลันจะจอแกหมั้น” อลิชดีใจจนออกนอกหน้า “แกไม่ห้ามน้องหน่อยหรอ หมั้นทั้งๆ ที่ยังเรียนไม่จบ” “แพร อลันเป็นผู้ชายไม่มีอะไรเสียหายหรอกนะ ดีซะอีกน้องฉันตั้งใจทำงานมากๆ แถมยังไปเรียนทุกวัน ฉันละนับถือแกจริงๆ เลยที่เอาอลันอยู่หมัดขนาดนี้” “พี่อลิช