หน้าหลัก / วัยรุ่น / เด็กเฮียเต / บทที่ 2 เรื่องระหว่างเรา

แชร์

บทที่ 2 เรื่องระหว่างเรา

ผู้เขียน: สกายควีน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-22 13:59:56

มะปรางถูกจับตัวแยกออกมาเพื่อไปยังห้องห้องหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องทำงานส่วนตัวของผู้กองเตชิน

“นั่งก่อนสิ”

ทันทีที่ได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง เตชินก็ผ่ายมือข้างหนึ่งพร้อมกล่าวให้เธอนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามของโต๊ะทำงาน เด็กสาวมองคนตรงหน้านิ่ง ๆ ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในหัว ซึ่งเตชินก็รับรู้ถึงความคิดของเธอผ่านดวงตาคู่​สวยคู่นั้น

“มานั่งนี่” เขาพูดอีกครั้งพร้อมตบหน้าตักของตัวเอง

“ชิ!” เด็กสาวยืนกอดอกแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่น เธอแสดงท่าทีกะบึงกะบอนใส่ชายหนุ่มอย่างตั้งใจ เรื่องราวในอดีตทำให้เธอแสดงท่าทีออกมาอย่างนั้น

“มานั่งนี่เร็ว​ เด็กดีของเฮีย” มะปรางมองซ้ายมองขวาก่อนจะเผยรอยยิ้มบาง ๆ อออมาที่มุมปาก​ เธอเดินตรงไปนั่งบนตักของชายหนุ่มอย่างอารมณ์ดี​ เมื่อเขาแทนตัวเองว่าเฮียกับเธอเหมือนเมื่อหลายปีก่อน มะปรางสวมกอดเตชินด้วยความคิดถึง​ ทั้งที่ในใจยังโกรธเคืองเขาอยู่

“ไม่เคยรู้มาก่อนว่าคุณเป็นตำรวจ” จากคนที่ดูเหมือนจะร่าเริงเมื่อครู่ตอนนี้สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยคำถาม มะปรางกอดอกพร้อมหรี่ตามองเตชินอย่างจับผิด

“หึ” เตชินเค้นเสียงหัวเราะในลำคอหนาพร้อมรั้งศีรษะของเด็กสาวมาแนบอก ซึ่งเธอก็ไม่ได้ขัดขืนเพียงแต่ทุบที่ท่อนแขนแกร่งด้วยความรู้สึกที่ยังเคืองโกรธ​เขาไม่หาย

“คุณจะมาอยู่ที่นี่กี่เดือน แล้วจะหายไปอีกกี่ปี” มะปรางถามประชดประชันพร้อมผละตัวออกจากตำรวจหนุ่มเล็กน้อย เธอกอดอกและจ้องมองใบหน้าคมคายนิ่ง ๆ ที่มะปรางต้องเอ่ยออกมาอย่างนั้น เพราะเมื่อหลายปีก่อน

ตอนนั้นเตชินอายุยี่สิบปีย่างเข้าสู่ยี่สิบเอ็ดปี เขาได้รับภารกิจให้มาเป็นเด็กฝึกงานอยู่ในองค์การบริหารส่วนตำบลท้องถิ่นที่มะปรางอาศัยอยู่ ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นเพียงตัวตนจอมปลอมที่เขาสร้างขึ้นมาบังหน้า เพื่อเป็นเหตุผลในการมาอยู่ที่นี่ และสามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างสะดวก

ในตอนนั้นมะปรางอายุเพียงสิบห้าปี เธอทำงานในบ่อนใต้ดินเป็นอาชีพเสริม เธอจึงมักโดดเรียนเพื่อไปทำงานบ่อยครั้งและทุกครั้งที่ถูกเรียกตัวไปใช้งาน

มะปรางเป็นเด็กผู้หญิงที่ดูก้าวร้าวเกเร และดูจะไม่มีอนาคตในสายตาของคนในชุมชน เธอจึงมีความคิดที่จะเลิกทำอาชีพผิดกฎหมายนี้เพราะมีเงินมากพอตามที่ต้องการแล้ว

แต่วงการมืดนี้เข้าแล้วมันดันออกไม่ได้

ออกเท่ากับตายหรือไม่ก็พิการ

ขณะที่เธอกำลังคิดหาทางออกให้กับตัวเอง ผู้ชายที่ไร้ตัวตนในสายตาของมะปรางและคนในชุมชนอย่างเตชินก็ปรากฏตัวขึ้น เขายื่นข้อเสนอบางอย่างให้กับเธอ เพราะภารกิจของเตชินคือทลายบ่อนใต้ดินนั้นทิ้งซะ หาหลักฐานและจัดการกับทุกคนที่อยู่เบื้องหลังของธุรกิจผิดกฎหมายนี้

ในสายตาคนอื่นมะปรางอาจจะดูเป็นเด็กไม่เอาไหนและไม่มีอนาคต แต่สำหรับเตชินเธอเป็นเด็กฉลาดและเอาตัวรอดเก่งมาก ๆ เตชินต้องการให้มะปรางมาเป็นคู่หูของเขา คนที่ไม่มีทางเลือกอย่างมะปรางจึงต้องยอมตอบตกลงแต่โดยดี

ในช่วงเวลาที่ทำงานร่วมกันความรู้สึกดี ๆ มันก็เริ่มก่อตัวไปด้วย มะปรางเคยพยายามถามหาตัวตนที่แท้จริงของเตชิน แต่ชายหนุ่มก็บอกเพียงว่าเขาคือคนที่มีชะตากรรมแบบเดียวกับเธอ

แต่แล้ววันหนึ่ง​มะปรางก็รู้ความ​จริง​ว่าเตชินคือคนที่สามารถสร้างตัวตนให้ตัวเองเป็นใครก็ได้ เขาถูกส่งตัวมาจากองค์กรหนึ่ง ซึ่งมะปรางก็ไม่รู้ว่าเป็นองค์กรอะไร แต่ที่แน่ ๆ องค์กรนั้นใช้สัญลักษณ์เพชรดำสำหรับแทนตัวตน เธอทำงานกับเตชินและตามสืบเรื่องของเขาเวลาเดียวกัน

และแล้วเวลาผ่านไปไม่ถึงหกเดือนทุกอย่างคลี่คลายและจบลงด้วยดี มะปรางได้รับอิสระอีกครั้ง เธอมีความคิดว่าจะไม่เรียนต่อแล้ว เพราะที่โรงเรียนดูเหมือนจะไม่ใช่ที่สำหรับเธอ ส่วนเตชินเมื่อภารกิจจบลงเขาก็ต้องกลับไปยังที่ของเขา ก่อนจะจากไปเตชินขอให้มะปรางเรียนต่อให้จบในชั้นมัธยมปลาย ซึ่งเธอก็ยอมทำตามที่ชายหนุ่มขอ​ เพราะคิดว่าเขาจะกลับมาหาเธอในวันที่เธอเรียนจบ แต่รอจนแล้วจนเล่า เธอก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาเลย

มันน่าน้อยใจและผิดหวังชะมัด

มะปรางไม่ได้เรียนต่อในระดับอุดมศึกษา เพราะฐานะทางการเงินที่ร่อยหรอลงเรื่อย ๆ อีกทั้งเธอไม่อยากจากบ้านจากแม่มะลิไปไหน เธอจึงวนลูปกลับมาทำธุรกิจที่ผิดกฎหมายเช่นเดิม แต่ครั้งนี้เธอไม่ได้เป็นลูกจ้างของใคร เธอเป็นนายของตัวเองและมีลูกสมุนอย่างเติร์ด ซึ่งเธอก็เป็นที่หมายหัวของตำรวจทั้งโรงพัก

“ว่าไงคะ คุณจะมาอยู่กี่เดือน แล้วจะหายไปอีกกี่ปี” มะปรางเอ่ยถามชายหนุ่มอีกครั้งเมื่อไม่ได้รับคำตอบที่ต้องการ ก่อนจะทุบไปที่ท่อนแขนของชายหนุ่มอย่างเอาแต่ใจ ซึ่งเธอจะแสดงอาการ​งอแงแบบนี้ก็ต่อเมื่ออยู่กับเตชินตามลำพังเท่านั้น เตชินถอนหายใจพร้อมลูบศีรษะเด็กสาวเบา ๆ

“จนกว่าจะทำภารกิจเสร็จ​สิ้นอีกล่ะมั้ง”

“แล้วคุณเป็นตำรวจ...อ๊ะส์”

พรึ่บ!

“บอกมาว่าซ่อนเหล้าสาโทไว้ที่ไหน!” มะปรางยังไม่ทันได้พูดจบประโยคเตชินก็จับล็อกแขนของเธอไพล่หลัง​ พร้อมดันใบหน้าสวยลงแนบกับโต๊ะทำงานของเขา ก่อนจะเค้นถามหาเหล้าสาโทจากเด็กสาวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและดุดัน มะปรางงุนงงกับการกระทำของเขา แต่เพียง​เสี้ยววินาที​เธอก็เข้าใจ​ เนื่องจาก​ว่ามีผู้หมวดคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานของเตชินอย่างถือวิสาสะ มะปรางจึงแสร้งเล่นไปตามน้ำ

“ไม่มีโว้ย! อย่ามากล่าวหากันลอย ๆ​ นะ”

“เชื่อก็โง่แล้ว จะยอมสารภาพดี ๆ ไหม”

“ช่วยด้วยค่าาา​ ตำรวจรังแกประชาชน” มะปรางตะโกนออกไปเสียงดังลั่น ทำให้ผู้หมวดรีบปิดประตูแล้วเดินมาห้ามปรามผู้กองเตชินที่ปฏิบัติกับมะปรางเกินเหตุ

“ผมว่าเค้นมันไปก็ไม่ได้ความอะไรหรอกครับ ไอ้ปรางมันปากแข็ง ทางที่ดีจับมันขังไว้ที่นี่หนึ่งคืนแล้วไปเค้นหาความจริงจากลูกสมุนมันดีกว่า”

เตชินยอมปล่อยมะปรางออกจากพันธนาการ แต่ในจังหวะเดียวกัน​เขาก็แอบสอดกระดาษเล็ก ๆ ไว้ในมือของเธอ ผู้หมวดที่พูดเมื่อครู่ให้คนมาคุมตัวมะปรางไปเข้าห้องขัง ก่อนจะหันมาพูดกับผู้กองคนใหม่อย่างประหม่า

“โหดเหมือนกันนะครับเนี่ย”

“หมวดบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าคนอย่างมะปรางใช้ไม้อ่อนไม่ได้ผล”

“ครับ​ ว่าแต่ไอ้ปรางมันมีเหล้าสาโทไว้ในครอบครองจริง ๆ เหรอครับ คืนนี้ได้หาของกลางกันครึกครื้นแน่”

“หมายความว่าไง”

“จะจับไอ้ปรางแต่ละทีไม่มีคำว่าราบรื่น ว่าแต่เราลุยงานกันเลยไหมครับ” คำพูดของผู้หมวดทำให้เตชินแทบหลุดขำ เด็กดีของเขาทำเรื่องแสบเอาไว้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ?

“จริง ๆ ฉันก็ไม่รู้หรอกว่ามะปรางมีเหล้าสาโทไว้ในครอบครองหรือ​เปล่า ฉันก็แค่ลองเค้นถามดูเผื่อเธอจะเผลอหลุดปากออกมา วันนี้ไม่มีอะไรแล้วฉันขอกลับก่อนนะ อ้อ​ แล้วก็คราวหลังหากจะเข้ามาห้องนี้อีกก็เคาะประตูด้วยล่ะ”

เตชินพูดพร้อมเก็บสัมภาระแล้วเดินออกไปจากห้องทำงาน โดยมีผู้หมวดยืนทำความเคารพก่อนจะแสดงสีหน้าออกมาอย่างงุนงง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เด็กเฮียเต   ตอนพิเศษ 3 มิตรภาพและครอบครัว

    สองปีต่อมา...“วันนี้พ่อกับแม่เธอไม่อยู่บ้าน​ พวกเราก็เลยมาอยู่​เล่นเป็นเพื่อน”คามินเอ่ยพูด​ขณะที่​ปรินทร์ทำหน้าบูดบึ้ง​ เนื่องจาก​ถูกคนเป็นแม่บังคับ​ให้มาเป็นเพื่อนเล่นของเชอรีน​ แทนที่​เขาจะได้ไปเล่นยิงปืนที่ชอบกับพี่ชาย​ ต้องจำใจมาอยู่กับเชอรีน​เป็นเพื่อนคามินคามิน วงศ์วริศ หรือ คามิน​ ลูกชายคนโตของคาริสากับแดเนียล​ปรินทร์ เอกอัครกุล หรือ ปรินทร์​ ลูกชายคนเล็กของเรติกากับปีแสง“อ่ะนี่ขนมช่อม่วง​ ย่าทวดฉันเป็นคนทำเอง​ แม่เคสให้เอามาฝากเธอ”คามินยื่นขนมที่ถือติดมือมาด้วยให้กับเชอรีน​ ก่อนป้าเพ็ญ​จะมารับช่วงต่ออยากรู้งาน“มาค่ะ​ เดี๋ยวป้าเอาขนมไปจัดจานมาเสิร์ฟนะคะ”เชอรีนกอดอกพลางมองคามินกับปรินทร์สลับกันไปมา​ พูดกี่ครั้ง​ก็ไม่เคยจำเลย“ก่อนอื่นนะ​ พวกนายต้องเรียกฉันว่าพี่เชอ เพราะว่า​ฉันเกิดก่อนพวกนาย”“เกิดก่อนอะไรก็เกิดปีเดียว​กัน”ปรินทร์รีบโต้แย้ง​ ถ้าให้เขาเรียกเธอว่าพี่เชอคงจะกระดากปากที่สุด“แต่ฉันเกิดก่อนพวกนายตั้งหลายเดือนเลยนะ​ โดยเฉพาะนายปรินทร์​ ฉันเกิดก่อนนายตั้งสามเดือนกว่า​ ร

  • เด็กเฮียเต   ตอนพิเศษ 2 ความสำเร็จ

    หกปีต่อมา...“ยินดี​กับบัณฑิต​คนใหม่ด้วยนะครับ”เตชินกล่าวพร้อมยื่นดอกไม้ช่อใหญ่​ให้กับภรรยาคนเก่ง​ ที่บัดนี้​เป็นบัญฑิตจบใหม่​ป้ายแดงไปเรียบร้อย​แล้วหลังจากที่คลอดเชอรีนได้ปีกว่า ๆ​ มะปรางก็ตัดสินใจ​เรียนต่อในระดับอุดมศึกษา​ คณะครุศาสตร์​ สาขาคณิตศาสตร์ โดยมีเตชินให้การสนับสนุนเต็มที่​เรื่องลูกเธอก็​ไม่เป็นกังวล​หรือเป็นห่วง​มากนัก เพราะ​มีคุณย่ากับคุณยายของน้องเชอรีนอย่างแม่นารินกับแม่มะลิ​คอยประคบประหงม​ดูแล​อย่างใกล้ชิด​มะปรางตั้งใจเรียน​ ตั้งใจสอบ​ ตั้งใจทำเกรด​ จนได้เกียรตินิยม​อันอับหนึ่งคณะครุศาสตร์​ ต่อจากนี้ไป​ เธอก็จะนำความรู้ที่เรียนมา ไปสอนเด็ก ๆ​ ในโรงเรียน​ นอกจากหลักสูตรในรายวิชาคณิตศาสตร์แล้ว​ ประสบการณ์​ชีวิตของเธอก็นับเป็นอีกหลักสูตร​หนึ่งที่สามารถสอดแทรก​เข้าไปในการเรียนการสอนได้​ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะเรียนรู้​​“คุณแม่ของน้องเชอเก่งที่สุด​” เชอรีนวัยห้าขวบย่างเข้าหกขวบเดินเตาะแตะเข้ามาแสดงความยินดี​ เธอยื่นพวงมาลัยพวงเล็ก ๆ​ ที่ไม่ได้สวยงามอะไรมากนักให้​กับคนเป็นแม่​พร้อมฉีกยิ้มจนตาหยี“น้องเชอหัดทำเองเ

  • เด็กเฮียเต   ตอนพิเศษ 1 รอยยิ้มแห่งความสุข

    หลายเดือนต่อมา...“อึบ!​ อื้ออออ!!!”มะปรางพรั่งพรู​ลมหายใจ​ออกมาจากทาง​ปาก​ มือเรียวเล็กกำมือเตชินสามีของเธอ​ไว้แน่น​ ขณะที่​หมอกับพยาบาลต่างส่งเสียง​เชียร์ให้เบ่งอีก เบ่งอีก!“อีกนิดเดียวนะ​คะคุณแม่​ ใกล้​แล้วค่ะ”“อีกนิดเดียว​นะครับเด็กดี”เตชิน​พูด​ให้กำลังใจ​อย่างใกล้ชิด​ มะปรางพยักหน้า​พร้อมสูดหายใจเข้าออกลึก ๆ ก่อนจะออกแรงเบ่งอีกครั้ง​ โดยก้มหน้าคางชิดอกและ​กลั้นหายใจเบ่งยาว ๆ ท่ามกลางแรงเชียร์​ที่ล้นหลาม​อุ๊แว~ อุ๊แว~เสียงร้องของทารกแรกเกิดดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงดีอกดีใจ​ของหมอและเหล่าพยาบาลที่ช่วยกันทำคลอดนานเกือบชั่วโมง​น้ำตาของมะปรางไหลออกมาทันทีที่ได้ยินลูกน้อยร้อง มันคือความเจ็บปวด​ที่มีความสุข​ที่สุด​ฉับ!เลือดกระเซ็นอาบคมกรรไกรหลังจาก​ที่ตัดสายสะดือ​ บ่งบอก​ว่าสองชีวิตได้แยกจากแล้ว​ รอยยิ้มแห่งความสุข​ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเตชินและมะปราง​ ในที่สุด​วันที่เขาและเธอรอคอยมาตลอดก็มาถึง​เที่ยงคืนสิบห้านาที​ เด็กหญิงชลธิมา สกุลเกียรติ​ ได้ออกมาลืมตาดูโลกเป็นวินาทีแรก​สองวันต่อมา...

  • เด็กเฮียเต   ตอนจบ พยานรัก

    สองเดือนต่อมา...หลังจากที่มีการต่อสู้ในชั้นศาลเป็นเวลาเกือบสองเดือน ทุกอย่างก็คลี่คลายและจบลงด้วยดี หากว่าจำเลยทั้งห้าคนยอมจำนนต่อหลักฐานทั้งหมดที่มี ไม่ว่าจะเป็นคลิปเสียงที่ถกเถียงกันในกลุ่มผู้ร่วมกระบวนการ เอกสารสัญญาทำธุรกิจผิดกฎหมายของนายเจษฎา หลักฐานฉ้อโกงของคุณรัศมี คลิปจากกล้องวงจรปิดตอนที่ผู้อำนวยการชูวิทย์ค้ายาให้กับนักเรียนชายในโรงเรียน การติดสินบนของกำนันดำรง การปลอมแปลงเอกสารวิชาชีพของหมอยอดศักดิ์ จำเลยทั้งห้าคน​ มีส่วนหนุนหลังไมเคิลมาโดยตลอดนอกจากนี้ยังมีพยานปากสำคัญที่ยืนยันว่าจำเลยทั้งห้าคนรู้เห็นเป็นใจในการหายตัวไปของชาวบ้านและตำรวจหลายนาย ซึ่งก็คือคุณตาของเติร์ดที่เป็นหูเป็นตาให้กับทางการ“เซน!!” เติร์ดตะโกนเรียกเซนเสียงดัง เมื่อเห็นว่าเซนกำลังจะเดินออกจากรั้วโรงเรียน หากว่าเซนเพียงแค่มายื่นเอกสารย้ายโรงเรียนกลางคัน เพื่อไม่ให้คนอื่นในโรงเรียนสงสัยในตัวเขา ชายหนุ่มหันไปมองหน้าเพื่อนนิ่ง ๆ ก่อนจะเมินเฉยด้วยการเปลี่ยนทิศทางการเดิน“เซน เซนกูขอโทษ กูขอโทษนะที่ด่ามึงวันนั้น” เติร์ดรีบวิ่งไปคุกเข่าตรงหน้าของเซนด้วยสีหน้าสำนึกผิด เขาอยากขอบคุ

  • เด็กเฮียเต   บทที่ 22 เพราะรัก

    “เฮีย!!” มะปรางตะโกนเรียกเตชิน หากว่าลงมาจากบนบ้านแล้วไม่เจอเขา ก่อนจะเห็นกระดาษโน้ตติดไว้บนฝาชี‘เฮียไปทำธุระแป๊บหนึ่งนะครับ เดี๋ยวช่วงเที่ยง ๆ เฮียมารับ’“ไปไหนของเขาอีกนะ” มะปรางส่ายหน้าไปมาน้อย ๆ ก่อนเสียงมือถือที่วางอยู่ข้าง ๆ ฝาชีจะดังขึ้น หากว่ามันคือโทรศัพท์มือถือของเธอเองครื๊ด...ครื๊ด!“แล้วเมื่อวานก็ไม่ยอมคืนมือถือให้เรา” มะปรางจิ๊ปากพูดอย่างเอือมระอาก่อนจะกดรับสายอย่างไม่รอช้า เมื่อเห็นว่าปลายสายคือเจ๊แก้ว“ว่าไงเจ๊”‘เจ๊มีเรื่องสำคัญมากจะบอก มาหาเจ๊ที่ผับได้ไหม’“เรื่องอะไรเจ๊พูดตอนนี้เลยไม่ได้เหรอ”‘เรื่องนี้สำคัญมาก เจ๊จะรอนะ’พูดจบปลายสายก็ตัดทิ้งทันที โดยที่มะปรางก็ได้แต่อ้ำอึ้ง ปกติเจ๊แก้วจะไม่ค่อยให้เธอยุ่งเรื่องส่วนตัวเท่าไหร่ และถ้าไม่มีธุระเร่งด่วนอะไรเจ๊แก้วจะไม่มีทางโทรมาหาเด็ดขาด“เจ๊แก้วเรียกให้ปรางมาหา” มะปรางพูดกับคนที่ดูแลร้าน หากว่าช่วงกลางวันร้านเจ้แก้วจะไม่มีคนเลย นอกจากคนดูแลร้าน“เจ๊แก้วน่าจะอยู่ชั้นสองในห้องทำงานชั้นในสุด น่าจะเข้าไปได้เลยนะครับถ้าหากว่านัดไว้แล้ว”

  • เด็กเฮียเต   บทที่ 21 กลัวการจากลา

    หลังจากเคลียร์ทุกอย่างที่โรงพักเสร็จเรียบร้อย เตชินก็รีบมาหามะปรางโดยเร็ว เขาซื้ออาหารมื้อเย็นและของกินเล่นติดไม้ติดมือมาด้วย หวังว่าคืนนี้คงเป็นคืนสุดท้ายที่เขาและเธอจะได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง“มะปราง!” เตชินอุทานเรียกชื่อเด็กสาวด้วยความตกใจ หากว่าข้าวของภายในบ้านถูกรื้อจนกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น เขารีบเอาของกินที่ถือพะรุงพะรังอยู่ในมือไปวางบนโต๊ะอาหาร ก่อนจะตามหาเธอจนทั่วบ้าน ซึ่งก็ไม่มีวี่แววของเธอเลยชายหนุ่มยืนครุ่นคิดอยู่สักพัก หากว่าตอนที่เขาเข้ามา ประตูบ้านก็ยังถูกล็อกไว้อย่างหนาแน่น ถ้าโดนบุกรุกมันก็ต้องมีรอยงัดแงะให้เห็น เตชินหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดดูภาพในกล้องที่เขาแอบติดไว้ตามจุดต่าง ๆ ภายในบ้านก่อนที่เขาจะออกไปปฏิบัติหน้าที่เมื่อช่วงสายของวันนี้ จึงเห็นว่ามะปรางเป็นคนทำลายข้าวของทั้งหมด แถมยังเอาตัวเองไปซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าอีก“ตัวแสบ!” เตชินกัดฟันพูดชายหนุ่มเดินไปยังในทิศทางของตู้เสื้อผ้า แล้วเปิดมันออก จึงเห็นว่ามีเด็กตัวแสบแอบไปหลบอยู่ในนั้นจริง ๆ“เฮีย!!”มะปรางตกใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าเขาจะหาทางเธอเจอได้รวดเร็วขนาดนี้ ก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status