หลายเดือนต่อมา
เวลาผ่านไปจนกระทั่งสิ้นสุดเทอมแรกมาได้ ใยไหม แตงโม และธีร์ แวะมาดื่มฉลองยังผับใหม่ใจกลางเมือง เนื่องจากอีกไม่กี่วันทั้งสามต้องแยกย้ายไปฝึกงานในภาคเรียนสุดท้ายของชั้นปีสี่แล้ว
ทั้งสามเลือกฝึกงานกันคนละที่ ครอบครัวธีร์มีธุรกิจส่วนตัวจึงใช้ช่วงฝึกงานเข้าไปศึกษาดูแลบริษัทผลิตกล่องขนาดกลางของตัวเอง ส่วนแตงโมก็ได้เข้าไปฝึกงานในบริษัทผลิตภัณฑ์อาหารเสริมชื่อดัง และตัวใยไหมเองก็ยื่นขอฝึกงานที่บริษัท BBK Engineering เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เกี่ยวกับการผลิตเครื่องจักรตามความต้องการของลูกค้า แม้จะไม่มีความรู้เรื่องเครื่องจักรกลมากนัก แต่ที่นี่ถือว่าให้ค่าตอบแทนเด็กฝึกงานสูงใช้ได้ และเปิดรับเด็กฝึกงานจากหลากคณะหลายสถาบันเข้ามาร่วมงาน และหากโชคดีก็อาจจะได้รับการทาบทามให้เข้าทำงานต่อด้วย ทั้งสวัสดิการ และโอกาสเติบโตในสายอาชีพทำให้หญิงสาวตัดสินใจเลือกที่นี่
ส่วนข้อพิพาทระหว่างแผ่นดินเมื่อตอนนั้น ใยไหมก็ถูกเจ๊เปาเรียกมาอบรมไปชุดใหญ่ ว่าจะไปทำร้ายลูกค้าเช่นนั้นไม่ได้ แม้เธอจะอธิบายเหตุผลว่าถูกแผ่นดินพูดจาดูถูกใส่แค่ไหนก็ไม่ทำให้ความผิดเบาลงได้ เจ้าของร้านหนุ่มใหญ่จึงต้องจำใจทำการพักงานเธอชั่วคราวเป็นเวลาหนึ่งเดือน เพื่อถือเป็นการลงโทษ
ลึกๆ แล้วเธอเชื่อว่าเรื่องนี้เจ้าของร้านที่เมตตาเอ็นดูเธอมากต้องถูกผู้ชายบ้าอำนาจนั่นกดดันมาอีกทีแน่ แต่ในเมื่อเธอทำผิดจริงก็ยอมรับโทษแต่โดยดี ยอมหยุดงานไป แล้วไปรับงานพริตตี้ เอ็มซี หารายได้มาเสริมในส่วนที่ขาดหายแทน แม้มันจะเหนื่อยกว่ากันมากก็ตาม
แม้หลังสิ้นสุดบทลงโทษและได้กลับไปทำงานตามปกติ แต่ก็ยังไม่เคยมีโอกาสเจอหน้าคู่กรณีเป็นครั้งที่สอง ถือว่าโชคดีของแผ่นดินไป เพราะเธอเองก็แค้นไม่น้อยที่ผู้ชายปากหมาทำเธอเสียรายได้!
แสงไฟวิบวับในร้านและเพลงจังหวะมันๆ กระตุ้นให้สองสาวกระดี๊กระด๊าเป็นพิเศษ กระดกเครื่องดื่มตรงหน้าแก้วแล้วแก้วเล่า ปลดปล่อยอารมณ์ ความเคร่งเครียดจากการเรียนไปกับเสียงเพลงและแอลกอฮอล์
วันนี้ใยไหมแต่งกายด้วยสายเดี่ยวสีดำปักเลื่อมวิบวับทั้งชุด เรียกได้ว่าเพียงแค่ก้าวย่างเข้ามาในร้าน ก็สะกดทุกสายตาของชายหนุ่มให้หันมองเธอเป็นตาเดียว แตงโมเองก็ไม่น้อยหน้า แม้จะไม่ได้มีสัดส่วนเซ็กซี่เท่าเพื่อนสาว แต่ใบหน้าน่ารักขาวหมวยในชุดเสื้อครอปตัวสั้นอวดหน้าท้องแบนราบคู่กับกางเกงยีนเอวสูงก็ทำหนุ่มๆ ในร้านใจสั่นไม่น้อย
ธีร์ชายหนุ่มเพียงคนเดียวในโต๊ะดื่มเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น เขาไม่อยากปล่อยตัวมากเนื่องจากมีเพื่อนสาวอีกสองคนที่กำลังสนุกสุดเหวี่ยงให้ดูแล
"เอ้า! ชงจ้าาาา~ อีกหน่อยคงไม่ได้เจอหน้ากันเกือบทุกวันแล้ว"
แตงโมชูแก้วเครื่องดื่มในมือขึ้น ทำให้เพื่อนอีกสองคนหยิบแก้วของตัวเองขึ้นมาชน
"ขอให้ทุกคนฝึกงานราบรื่น เจอเพื่อนร่วมงานและหัวหน้าที่ดีนะ"
"สาธุ 99 เลยจ้า" ใยไหมแซวคำอวยพรของธีร์กลับยิ้มๆ แล้วยกเครื่องดื่มขึ้นมากระดกจนหมดแก้ว ธีร์จึงออกปากเตือนเบาๆ ด้วยความเป็นห่วงตามประสา
"เบาๆ สิไหม เดี๋ยวก็เมาหรอก"
"โอ๊ย! มาดื่มฉลองทั้งที จะไปห้ามมันทำไม เต็มที่ไปเลยเพื่อน! อาทิตย์หน้าเราก็เข้าใกล้ชีวิตวัยทำงานอีกหนึ่งก้าวแล้ว"
"เออ! ไม่เมาไม่เลิกจ้า!"
สองสาวพากันกอดคอหัวเราะร่ามีความสุข เปลี่ยนมาวาดลวดลาย แข่งประชันท่าเต้นแสนเซ็กซี่ให้ชายหนุ่มโต๊ะใกล้เคียงน้ำลายไหลเล่น ส่วนธีร์ก็ทำได้เพียงพ่นลมหายใจ แม้จะมีความหึงหวงขุ่นเคืองใจที่เห็นเพื่อนสาวที่ตนแอบมีใจให้ส่งสายตาหาชายอื่น แต่กลับไม่อาจพูดหรือแสดงความรู้สึกออกไปได้ ทำได้เพียงสะกดกลั้นอารมณ์ที่พลุ่งพล่านไปทั่วร่างเงียบๆ
"ขอชนแก้วด้วยได้ไหมครับสาวๆ"
เสียงทุ้มของชายคนหนึ่งที่ด้านหลังเอ่ยขึ้นมา ทำให้ทั้งใยไหมและแตงโมหยุดเต้นแล้วหันกลับไปมอง ดวงตาเซ็กซี่เร้าอารมณ์ช้อนสายตามองใบหน้าและการแต่งตัวของอีกฝ่ายอย่างประเมิน ก่อนจะคลี่ยิ้มหวานละลายใจ พร้อมคว้าแก้วของตัวเองขึ้นชน แตงโมเองก็ยิ้มกว้างทำอย่างเดียวกัน พลางใช้ศอกสะกิดเพื่อนสาวเบาๆ เป็นสัญญาณ พร้อมสื่อสารกันผ่านสายตา
"ขอโทษนะครับ ไม่รู้ว่ามีแฟนแล้วหรือยังเอ่ย" หนุ่มแปลกหน้าชำเลืองมองชายหนุ่มเพียงคนเดียวในโต๊ะอย่างระมัดระวัง เมื่อถูกธีร์จ้องเขม็งมองกลับด้วยสายตาไม่เป็นมิตรนัก
"ไม่ค่ะ เรายังโสด ยัยนี่ก็ด้วย นั่นเพื่อนในกลุ่ม" เพื่อนสาวอธิบายเสร็จสรรพปูทางให้ใยไหมเต็มที่ พร้อมส่งสายตาล้อเลียนให้สาวสวยที่ค้อนมองกลับด้วยความหมั่นไส้
"โล่งเลยที่ได้ยินแบบนี้ ผมเต้นะครับ"
"ใยไหมค่ะ"
"แตงโมค่า~"
"จะรังเกียจไหมถ้าผมอยากจะขอมาจอยด้วย พอดีเพื่อนในโต๊ะชิ่งกลับหมดแล้ว"
"ได้เลยค่ะ สำหรับคนหล่อๆ แบบนี้โมอนุญาตแน่นอน" สาวหมวยหัวเราะคิกคักพร้อมขยับกายให้คนมาใหม่ยืนระหว่างกลาง ทำระดับความอดทนของธีร์ลดต่ำลงไปอีกขั้น ฝ่ามือหยาบกำขอบโต๊ะแน่น แต่ก็ไม่อาจจะเอ่ยทักท้วงอะไรได้
"ขอบคุณมากเลยครับ นี่มาเที่ยวที่นี่บ่อยไหมครับ ผมไม่เคยเจอเลย" เต้ชวนคุย พยายามโน้มเข้าไปใกล้ใบหูสองสาวตะเบ็งเสียงแข่งกับเสียงเพลงดังกระหึ่มในร้านไปด้วย
"เพิ่งเคยมาค่ะ"
"ถึงว่าผมไม่คุ้นหน้าทั้งคู่เลย"
"แหม~ พูดเหมือนถ้าเคยมาเต้จะจำหน้าเราได้งั้นแหละ" ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มเย้ายวน ทำให้ใจชายหนุ่มสั่นสะท้าน ไม่อาจละสายตาจากใบหน้าสวยจัดนั้นได้เลย
"ก็ถ้าเคยเจอคนสวยๆ แบบใยไหมและแตงโม ยังไงก็ไม่มีทางลืมอยู่แล้วครับ"
"อร๊ายยยย~"
แตงโมบิดตัวเขินอายเมื่อถูกหนุ่มหล่อชมซึ่งหน้า ผิดกับสาวแซ่บที่ผ่านการถูกจีบมานับร้อยวิธี ทำเพียงแค่ส่งสายตาท้าทายซุกซนกลับ มุมปากได้รูปบิดขึ้นจางๆ แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการตื่นเต้นดีใจออกนอกหน้า นั่นยิ่งทำให้เธอดูเข้าถึงยากและน่าค้นหายิ่งขึ้น
เมื่อมีหนุ่มแปลกหน้ามาร่วมโต๊ะด้วยบรรยากาศก็ยิ่งสนุกสนาน สองสาวผลัดกันเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกแสนเซ็กซี่ยั่วเย้าหนุ่มหล่อข้างกาย ระดับแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปมากทำให้สองสาวซวนเซเล็กน้อย สาวมั่นจึงใช้โอกาสนี้อ่อยเหยื่อบริหารเสน่ห์เสียหน่อย โดยการใช้ศีรษะเอนพิงไหล่ชายหนุ่มเอาไว้ ซึ่งเต้ก็โอบประคองเอวบางเอาไว้หลวมๆ
ความใกล้ชิดเกินเหตุเช่นนี้ทำธีร์ควันออกหู จ้องเขม็งไปทางสองหนุ่มสาวที่อิงแอบแนบชิดเอ่ยหยอกล้อกันด้วยความโมโห
"ไหม! แตงโม! ธีร์ว่าเรากลับกันเถอะ นี่มันเริ่มดึกแล้ว!" หนุ่มแสนสุภาพเอ่ยขัดความสนุกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวบ่งบอกถึงระดับความหงุดหงิดในใจ
"โธ่~ อะไรของแกเนี่ยธีร์ เพิ่งตีหนึ่งเอง" แตงโมมุ่ยหน้าโอดครวญ นานๆ ทีทั้งกลุ่มจะได้มาสังสรรค์กัน แถมใยไหมก็กำลังมีหนุ่มหล่อดูภูมิฐานดีมาขายขนมจีบซะด้วย
"นั่นสิ รอผับปิดก็ได้ รีบไปไหนเนี่ย" ใยไหมตอบกลับเสียงอ้อแอ้ ใบหน้าสวยจัดแดงซ่านด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ขับเน้นให้เสน่ห์ที่มีมากอยู่แล้วทวีขึ้นเป็นเท่าตัว
"ถ้าคุณธีร์อยากกลับก่อนเดี๋ยวผมไปส่งทั้งคู่ให้เองก็ได้นะครับ"
"ไม่ต้องครับ! เพื่อนผม ผมไปส่งเอง"
เขาตอบกลับเสียงแข็ง ถือวิสาสะดึงข้อมือบางเข้าหาตัวให้เพื่อนสาวที่ตนแอบคิดไม่ซื่อหลุดออกจากอ้อมแขนชายแปลกหน้า แล้วไปดึงข้อมือของแตงโมก่อนจะลากสองสาวที่งอแงโวยวายไม่หยุดให้ออกจากร้านซะ ไม่สนใจท่าทางตกตะลึงของเต้ที่ถูกปล่อยทิ้งเอาไว้ตามลำพังแม้แต่น้อย จะเดินเข้าไปขอเบอร์ติดต่อสาวที่ตนหมายตาเอาไว้ แต่ก็ไม่ทันแล้ว เมื่อถูกสายตาดุๆ ของหนุ่มที่ทุกคนแนะนำว่าเป็นแค่เพื่อนตวัดมองกลับเย็นเฉียบ
"อะไรของแกเนี่ยธีร์ ฉันกำลังสนุกเลย"
"มันดึกแล้ว แถมเธอทั้งคู่ก็เมามาก กลับไปนอนพักผ่อนจะดีกว่า"
"โห่ อะไรเนี่ย เซ็งฉิบ" ใยไหมบ่นออกมาเบาๆ เมื่อถูกผู้ปกครองในคราบเพื่อนสนิทลากกลับบ้าน
ปกติธีร์เป็นคนใจเย็น สุภาพเรียบร้อย แต่ครั้งนี้เขาทนไม่ไหวจริงๆ ที่ต้องมาเห็นภาพบาดตาต่อหน้าเช่นนี้ ถึงกับหลุดแสดงออกมากกว่าที่ควร แล้วบังคับกดดันสองสาวให้ขึ้นรถญี่ปุ่นของตัวเอง โดยเปิดประตูให้แตงโมไปนั่งเบาะหลังและให้ใยไหมนั่งคู่ตนเองที่ด้านหน้า
สองสาวบ่นกระปอดกระแปดกันอยู่สักพักตามประสาคนเมา ซึ่งธีร์ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพียงแค่สตาร์ตรถแล้วขับออกจากลานด้วยความรวดเร็วตามระดับความคุกรุ่นในจิตใจ พอโดนแอร์เย็นๆ สองสาวที่อยู่ในอาการกรึ่มๆ ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็เงียบไป ทำท่าสะลึมสะลือหนังตาใกล้ปิด
ใช้เวลาสักพักใหญ่ รถก็มาจอดยังหน้าประตูรั้วบ้านสองชั้นขนาดไม่ใหญ่มากของแตงโมเป็นคนแรก คนขับรถหันไปเรียกสติหญิงสาวด้านหลังเล็กน้อย ไม่นานแตงโมก็รู้สึกตัว กะพริบตาปริบๆ มองไปรอบข้างด้วยความมึนงง
"โม ถึงบ้านแล้ว ลงไหวไหม"
"อ่าๆ เออ ไหวๆ แต่หนักหัวฉิบ ขอบใจมากที่มาส่ง"
"โอเคเข้าบ้านดีๆ นะ แล้วค่อยนัดกันใหม่วันหลัง"
"อื้ออออ~ แตงกิว"
สาวหมวยผลักประตูด้านหลังออก แข้งขาพันกันเล็กน้อยขณะเดินไปทางประตูรั้วบ้านของตัวเอง เธอหันมาส่งยิ้มกว้างดวงตาคู่เล็กฉ่ำปรือหยาดเยิ้ม เขย่งโบกไม้โบกมือท่าทางตลกๆ ให้รถเพื่อนอีกครั้ง หลังจากเห็นเพื่อนสาวเข้าบ้านไปอย่างปลอดภัย ดวงตาของเจ้าของรถก็หลุบมองอีกหนึ่งสาวที่หลับไม่ได้สติบนเบาะข้างกายด้วยแววตายากจะเข้าใจความหมาย
ใบหน้าสวยจัดที่ทำให้เขาไม่เคยห้ามหัวใจไม่ให้เต้นแรงได้บัดนี้แดงระเรื่อยั่วอารมณ์ ดวงตาเป็นประกายเฉี่ยวคมดุจนางพญาเพียงแค่ได้กวาดมองไปทางใด เหล่าผู้ชายก็พร้อมใจกันควักหัวใจมอบให้เธอกำลังปิดสนิท ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอทำให้หน้าอกอิ่มใส่เดรสระยิบระยับกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะ
ใยไหมเปรียบเสมือนของล้ำค่าราคาแพงที่ชายทุกคนหมายปอง และไม่ว่าธีร์จะพยายามเท่าไรก็ไม่อาจเอื้อมถึงหัวใจเธอได้เลย ทั้งที่เป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่ได้ใกล้ชิดเธอที่สุด แต่ก็เหมือนมีกำแพงหนาที่เขาไม่อาจก้าวข้ามมันไปได้ ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ ระบายความรู้สึกอัดอั้นในใจที่มันพร้อมจะระเบิดออกมาตลอดเวลา เก็บสายตาไม่รักดีให้พ้นร่างเพื่อนสาวสุดเซ็กซี่ แล้วเข้าเกียร์เหยียบเร่งเพื่อไปส่งใยไหมยังจุดหมายต่อไป
ท้องถนนยามค่ำคืนค่อนข้างโล่ง รถญี่ปุ่นสีเงินแล่นทะยานไปเบื้องหน้าพร้อมความรู้สึกร้อนรุ่มในอกมากมายที่ต้องการระบายไป นี่อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาจะได้ใกล้กับใยไหมอีก ยังไงคืนนี้ก็ต้องสารภาพความรู้สึกกับเธอให้รู้เรื่องกันไปเลย