พอสองสาวสลับกันชวนดื่มและพูดคุยจนพอใจ ก็ถึงช่วงที่สองหนุ่มหันไปคุยเรื่องธุรกิจกันต่อ ทำให้ทั้งคู่เลือกที่จะเงียบจะฟังไม่เอ่ยแทรกอะไรเป็นการรบกวนการเจรจา ระดับแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปทำให้สติสัมปชัญญะรับรู้ของกิตน้อยลงกว่าปกติเล็กน้อย มือหนาเอื้อมคว้ากระดาษเอกสารสัญญาขึ้นมาอ่านด้วยท่าทางเบิกบาน อารมณ์ดี มืออีกข้างที่ว่างก็ลูบไล้เรียวขาของจอยไปด้วย
สายตาพร่าเลือนเล็กน้อยหรี่เพ่งมองตัวหนังสือท่ามกลางแสงไฟสลัว แต่ก็ยังสามารถจับใจความสำคัญบนเอกสารได้ ทุกอย่างเป็นไปตามที่แผ่นดินเคยพูดคุยไว้ก่อนหน้า ชายหนุ่มคลี่ยิ้มกว้างพร้อมควานหาปากกาด้ามแพงในกระเป๋าเสื้อสูทออกมาเซ็นชื่อด้วยความเต็มใจ การรับรองที่ได้รับวันนี้ถูกอกถูกใจเขาเหลือเกิน จึงไม่ต้องใคร่ครวญใดๆ อีกที่จะได้ร่วมงานกับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่กำลังก้าวขึ้นมารับตำแหน่งประธานบริษัทในอนาคต
เมื่อลงนามลายเซ็นบนเอกสารแผ่นนั้นเสร็จก็เลื่อนมันให้อีกหนึ่งหนุ่มรับไปเซ็นต่อ ก่อนที่ทั้งคู่จะจับมือกันเป็นการปิดดีลในครั้งนี้
"ยินดีที่เราได้ร่วมงานกันนะครับ" หนุ่มมาดเข้มเอ่ยเสียงทุ้ม
"ฮ่าๆๆๆ เช่นกันครับๆ คุณอุตส่าห์พาผมมาเปิดหูเปิดตา ต้อนรับดีขนาดนี้ ผมไม่ทำให้คุณแผ่นดินเสียเวลาฟรีแน่นอน"
กิตหัวเราะร่าโอบไหล่สองสาวเข้าประชิดร่าง กอดแนบแน่นให้ชุ่มปอด ความสุขแผ่ซ่านไปทั่วร่าง สาวตัวเล็กหัวเราะคิกคักอารมณ์ดีเช่นกัน พร้อมใช้ใบหน้าหวานซุกไซ้คลอเคลียเป็นการออดอ้อน ซึ่งใยไหมก็ไม่ได้ผละออก แต่ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆ เป็นการบอกว่าเธอเล่นด้วย เพียงแค่เอ่ยแสดงความยินดีเท่านั้น
หลังจากนั่งดื่มพูดคุยกันไปลูกค้ากระเป๋าหนักต่ออีกสักพักใหญ่ มือไม้ชายหนุ่มก็เริ่มซุกซน จงใจบีบขยำก้นงอนงามของสองสาว ทำระดับความขุ่นเคืองในใจสาวหัวรั้นก่อตัวจางๆ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกจนเสียมารยาท เพียงแค่เอื้อมไปจับมือปลาหมึกนั่นไว้แล้วย้ายมาวางบนหน้าขาเธอแทน พร้อมส่งแก้วแอลกอฮอล์ให้เขาไปอีก หวังมอมหนุ่มมือไวให้หมอบราบคาบ
"อีกแก้วไหวไหมคะเนี่ยคุณกิต" ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มยั่วท้าทาย
"ไหวสิครับ แต่น้องไหมต้องป้อนนะครับ"
เสียงชายหนุ่มฉายแววอ้อแอ้ ระดับแอลกอฮอล์มากกว่าปกติทำให้ศีรษะเวียนตื้อจนทิ้งน้ำหนักตัวไปหาสาวอีกคนที่โอบไหล่อยู่ ซึ่งสีหน้าจอยก็ดูเบิกบานใจ พลางลูบไล้มือเล็กผ่านแผงอกกว้างปลุกเร้าอารมณ์ให้ชายหนุ่มไปด้วย
ใยไหมเพียงอมยิ้มอย่างมีจริตจะก้านขยับเข้าใกล้เขาอีกเล็กน้อยแล้วยกแก้วในมือจ่อริมฝีปาก มือสากตวัดรวบรัดเอวบางแนบชิดไม่ได้ให้ตั้งตัว จนใยไหมเกือบเผลอทำแก้วหลุดมือ ต้องใช้มืออีกข้างยันหน้าอกเขาเพื่อรักษาระยะห่าง
"มาค่ะไหมป้อน" เธอฝืนแค่นยิ้มหวาน ทั้งที่ในใจเริ่มคุกรุ่นหน่อยๆ เมื่อถูกลวนลาม
"น่ารักจังเลยครับ"
ดวงตาของกิตฉ่ำปรือหยาดเยิ้ม ก่อนจะยอมดื่มเหล้าดีกรีแรงลงคอด้วยความเต็มใจจนหมดแก้ว สองสาวต่างปรบมือเอาใจสร้างความฮึกเหิมให้ชายหนุ่ม
คนเมาคว้าตัวสองสาวเข้ามาใกล้ เกือบทำหน้าผากเธอชนจมูกโด่งของจอยอยู่แล้ว ทั้งคู่มองกันเลิ่กลั่กเมื่อหนุ่มสุภาพในทีแรกเมาเปลี้ยเกือบจะไร้สติ เขาโน้มใบหน้าเข้าใกล้ ทำให้ใยไหมสัมผัสได้ถึงกลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนกึกลอยปะทะปลายจมูก ลมหายใจร้อนจ่อรดใบหูสองสาว แต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอวูบวาบแต่อย่างใด ออกจะอึดอัดรำคาญด้วยซ้ำ
"น้องไหมกับน้องจอยครับ มีใครสนใจไปต่อกับผมไหม คืนนี้ผมอยากจะออกกำลังกายหนักๆ สักรอบสองรอบจังเลย" เสียงแหบพร่าสื่อความหมายชัดเจนเอ่ยถามทั้งคู่
จอยตาวาวเมื่อมีโอกาสจะได้ใกล้ชิดกับหนุ่มหน้าตาดีกระเป๋าหนัก แสร้งทำท่าทางเขินอายเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าตกลง ซึ่งก็ได้รับจุมพิตที่พวงแก้มฟอดใหญ่เป็นรางวัล
"แล้วน้องไหมล่ะครับ สนใจไปร่วมวงด้วยกันไหม" ดวงตาฉ่ำวาวหันมาถามสาวสวยที่สะดุดตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น เผลอแลบลิ้นเลียริมฝีปากแห้งผากของตนเองอย่างหื่นกระหายเมื่อหลุบมองก้อนเนื้อนุ่มนิ่มขนาดเกินตัวที่เบียดชิดหน้าอกเขาอยู่
"แหม คุณกิตมีจอยไปดูแลแล้ว ไหมขอตัวดีกว่าค่ะ" เธอปฏิเสธอย่างสุภาพทำให้จอยยิ้มกว้าง รีบหันเหความสนใจกิตต่อทันที
"ไม่อยากอยู่กับจอยสองต่อสองเหรอคะ เห็นแบบนี้แต่รับรองคุณกิตได้หมดแรงแน่ๆ เลยค่ะ"
"ฮ่าๆๆๆ ผมแข็งแรงมากนะ ไปด้วยกันสองคนเลยก็ไม่ติด"
เขาหัวเราะเสียงดังอวดสรรพคุณตัวเองเสร็จสรรพ นั่นยิ่งทำให้ใยไหมขนลุกขยะแขยงมากกว่าเดิม แต่ก็เพียงคลี่ยิ้มประจบเอาใจแล้วเลี่ยงคำชวนสุดลามกอย่างแนบเนียน ซึ่งกิตก็ไม่ได้ว่าอะไร หันไปหยอกล้อกับอีกสาวต่อ ปลุกเร้ากระตุ้นให้เธอมีอารมณ์ร่วมก่อนเริ่มบทรักสุดร้อนแรงในค่ำคืนนี้อีกเล็กน้อย
ผ่านไปสักพักทั้งคู่ก็เริ่มนัวเนียราวกับทั้งห้องมีเพียงพวกเขาสองคน ทำให้ใยไหมขยับตัวออกห่างเล็กน้อยด้วยความอึดอัดใจ แม้ภาพเช่นนั้นจะเห็นจนชินตาแล้วก็ตาม และสิ่งที่ทำให้เธอไม่เป็นตัวของตัวเองคงหนีไม่พ้นสายตาดุดันของหนุ่มฝั่งตรงข้าม
คิ้วได้รูปขมวดเข้าหากันเล็กน้อยวางตัวไม่ถูกหลังจากครั้งก่อนมีปากเสียงกับชายคนนั้น พอต้องมาเผชิญหน้ากันอีกครั้งจึงไม่รู้ว่าควรจะเสแสร้งเอาใจยังไงดี ทั้งที่เคยตะโกนด่ากราดอีกฝ่ายไปยกใหญ่ นัยน์ตาทั้งคู่สบประสานมองกัน แค่นั้นก็ทำท้องน้อยเธอบิดมวนปั่นป่วนแปลกประหลาด ไม่อาจคาดเดาความคิดอีกฝ่ายได้
ในที่สุดบรรยากาศในห้องก็ชวนกระอักกระอ่วนมากกว่าเดิม ตอนที่กิตและจอยขอแยกตัวกลับไปก่อน ทำให้ในห้องเหลือเพียงใยไหมและแผ่นดินเพียงสองคนเท่านั้น ร่างเล็กหายใจเข้าปอดหลายครั้ง พยายามผ่อนคลายไม่ให้รู้สึกเครียดมากเกินไปเมื่อชายหนุ่มหน้าดุยังเอาแต่จ้องเธอนิ่งๆ พลางกระดกดื่มแก้วแอลกอฮอล์ไปด้วย
"เอ่อ..." หญิงสาวเอ่ยขึ้นมาทำลายความเงียบ ซึ่งเขาก็พูดขัดขึ้นมาก่อน
"มานั่งนี่สิ เธอจะอยู่ตรงนั้นอีกนานไหม นี่น่ะเหรอดาวเบอร์หนึ่งของร้าน"
คำพูดจาค่อนแคะดูถูกบวกกับสายตาเย้ยหยันทำเธอหน้าตึงควันออกหู มือบางบีบเข้าหากันแน่นข่มอารมณ์ที่เดือดพล่านด้วยความโมโห แต่สุดท้ายเธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด สลัดความหมั่นไส้ทิ้งแล้วสวมวิญญาณดาวเด่นเบอร์หนึ่งของร้าน คลี่รอยยิ้มหวานล้ำ ก้าวเยื้องไปหาชายหนุ่มด้วยท่าทางยั่วยวน พร้อมทิ้งสะโพกกลมกลึงลงข้างเขา
"หึ รินสิ"
มุมปากหนาเหยียดยิ้มพลางส่งแก้วในมือให้ ทำคนมองคันฝ่ามือยิบๆ รู้สึกได้ถึงความท้าทายในแววตาคู่นั้น เธอเชื่อหมดใจว่าเขาจำเธอได้ เพียงแค่ไม่ได้หยิบยกเรื่องเก่าขึ้นมาพูดถึงเท่านั้น
สันกรามถูกขบเข้าหากันจนแน่นขณะฝืนส่งยิ้มจนตาหยี แล้วรับแก้วเปล่ามาเติมน้ำแข็งแล้วรินเครื่องดื่มราคาแพงพร้อมโซดาส่งคืนให้อีกฝ่าย
แผ่นดินไม่เกรงใจสาวตรงหน้าสักนิดที่ใช้สายตาสำรวจเรือนร่างเธอตรงๆ อย่างไม่ปิดบังราวกับกำลังประเมินราคาของชิ้นหนึ่ง การกระทำหยาบโลนจาบจ้วงเช่นนี้ทำเธอหน้าชา แต่ในเมื่อลูกค้ายังไม่กลับเธอก็ยังออกไปจากห้องนี้ไม่ได้ ไม่งั้นก็เดือดร้อนไปถึงเจ๊เปาเจ้าของร้าน
"ทำไมไม่ไปกับคุณกิตล่ะ"
"คะ?" เธอขมวดคิ้วมึนงง เอียงคอถามกลับอย่างไม่ค่อยแน่ใจในคำถาม
"เธอน่ะ ทำไมไม่ตอบรับคำชวนคุณกิต หรือว่าเขาให้ราคาน้อยไป?" ร่างสูงเอ่ยย้ำ
คำถามเถรตรงดูถูกทำไฟโทสะในกายใยไหมแล่นพล่านเดือดดาลสุดขีด ไล่สายตามองเขากลับตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไม่เชื่อสายตา ว่าผู้ชายที่หน้าตาหล่อเหลาคมเข้ม การศึกษาดี ดูภูมิฐานจะกล่าวคำพูดจาร้ายกาจไม่ให้เกียรติคนอื่นได้ถึงขนาดนี้
"ฉันไม่รับงานแบบนั้น" ใยไหมกัดฟันตอบกลับเสียงแข็ง รู้สึกไม่ถูกชะตากับผู้ชายคนนี้ตั้งแต่ครั้งก่อนแล้ว ยิ่งมาได้เจอกันอีก ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกเธอให้แจ่มชัด
"ใช่เหรอ ทำไมล่ะ"
"ก็ไม่ทำไม แค่ไม่อยากรับ ของบางอย่างก็ไม่ได้มีไว้ขาย รวมถึงศักดิ์ศรีฉันด้วย"
หญิงสาวเชิดหน้าตอบกลับเสียงห้วนท่าทางหยิ่งผยอง แต่นั่นทำร่างสูงแค่นหัวเราะในลำคอขบขันกับความย้อนแย้งในสิ่งที่เห็น
"ขำอะไร" เธอแว้ดกลับเสียงสูงตามระดับโทสะพุ่งปรี๊ดติดเพดาน ขยับตัวออกห่างหนุ่มข้างกายด้วยสายตารังเกียจ
"หึ ไม่ขายศักดิ์ศรีแต่มาทำงานให้ผู้ชายนั่งลูบคลำแบบนี้เนี่ยนะ"
"..."
นัยน์ตาสีดำสนิทมองรูปร่างการแต่งกายเธออีกครั้ง มุมปากยกสูงเหมือนว่าเพิ่งได้ยินเรื่องตลกมา หญิงสาวนิ่งไป แต่ไม่ใช่เพราะหาคำมาโต้เถียงไม่ได้ แต่เธอกำลังโมโหมาก ไม่เคยเจอใครกล้าดูถูกเหยียดหยามซึ่งหน้าขนาดนี้มาก่อน มือไม้บางสั่นระริก ดวงตายั่วยวนจ้องเขม็งเกลียดชัง กำลังคิดหาคำพูดรุนแรงมาตอกกลับให้อีกฝ่ายหน้าชาคืนบ้าง แต่เขาก็ยักไหล่แล้วเอ่ยต่อด้วยท่าทางสบายๆ ไม่ได้รู้สึกผิดแม้แต่น้อยกับถ้อยคำหยาบคายที่เพิ่งพ่นออกมา
"หนึ่งหมื่น"
"อะไร?" หญิงถามกลับเสียงห้วนดูเอาเรื่อง ไม่คิดจะเอาใจลูกค้ามารยาททรามคนนี้ต่ออีกแล้ว
"ถ้าเธอสามารถทำให้ไอ้นี่มันสงบลงได้ ฉันให้หนึ่งหมื่น...ว่าไงสนไหม"
แผ่นดินแสยะรอยยิ้มที่เธอมองว่าน่าหมั่นไส้ที่สุดในโลก และเมื่อมองตามสายตาสื่อความหมายลงไป ใยไหมก็แทบคุมความโกรธเกรี้ยวไว้ไม่ไหว เมื่อเห็นของบางสิ่งกลางกายดุนดันเป้ากางเกงขึ้นเป็นลำบ่งบอกถึงความปรารถนาพลุ่งพล่านในตัวชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี
เขาใช้ช่วงเวลาที่สาวสวยกำลังตกตะลึงล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า พร้อมหยิบแบงก์พันออกมาปึกหนึ่งวางบนโต๊ะ ยั่วกิเลสความโลภในใจอีกฝ่าย และก็เป็นเหมือนอย่างที่คิดเมื่อใยไหมจ้องแบงก์สีเทาบนโต๊ะท่าทางครุ่นคิด
"ไง...งานง่ายๆ เงินดี ไม่สนใจหน่อยเหรอ จะใช้มือ ใช้ปาก หรืออะไรก็แล้วแต่ แค่ทำให้มันยอมสงบ เงินจำนวนนี้จะเป็นของเธอทันที"
ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากันแน่น ก่อนที่เธอจะหันกลับมามองเขาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป หัวใจแกร่งเต้นแรงขึ้นเล็กน้อยเมื่อสาวสวยคลี่ยิ้มเย้ายวนพร้อมปรับเปลี่ยนท่าทีเป็นอ่อนลงทำเขาพึงพอใจไม่น้อย
เธอเคลื่อนกายเข้าใกล้ พร้อมปลายจมูกโด่งเรียวเล็กคลอเคลียบริเวณสันกรามที่มีตอหนวดสากระคาย มือน้อยลูบไล้ไปตามแผงอกแน่นหนั่น ก่อนจะลากลงต่ำลงเรื่อยๆ จนถึงกล้ามหน้าท้องเป็นลอนสวยใต้เสื้อเชิ้ตดำขนาดพอดีตัว ความใกล้ชิดนั้นทำให้แผ่นดินได้สัมผัสถึงกลิ่นกายหอมนุ่มลึกเจือกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ ลอยมาสัมผัสจมูก
เขาเอียงคอให้หญิงสาวได้ออดอ้อนโดยสะดวก พร้อมส่งมือไปคว้าเอวบางคอดกิ่วกระชับเข้าหาตัว เนินอกสวยใต้ชุดเดรสเซ็กซี่บดเบียดร่างกำยำ เขาหลุบสายตามองการกระทำวาบหวามด้วยความสนใจ แล้วก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เธอช้อนนัยน์ตาระยิบระยับขึ้นมอง เพียงแค่นั้นก็ปลุกกระตุ้นความต้องการให้เขาได้ไม่ยาก
ริมฝีปากอวบอิ่มไล่ลงไปตามลำคอแกร่ง กดแนบแผ่วเบาบนลูกกระเดือกเซ็กซี่ จนเจ้าของร่างต้องลอบกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก ลุ้นระทึกว่าเมื่อไหร่มือน้อยจะลงไปถึงจุดที่ต้องการเสียที
"แค่ทำให้มันสงบใช่ไหมคะ" เธอกระซิบถามเสียงกระเส่าเร้าอารมณ์ ซึ่งชายหนุ่มก็ส่งเสียงอื้ออ้าในลำคอกลับไป เพลิดเพลินไปกับการบีบขยำสะโพกผายงอนได้รูป
สาวตัวแสบมองปฏิกิริยาตอบสนองนั้นด้วยความพอใจ เมื่อเห็นเขาหลับตาเชิดหน้ายามเธอเคลื่อนมือและริมฝีปากลงต่ำ แววตาหยาดเยิ้มเร้าอารมณ์ในตอนแรกก็สลับเปลี่ยนเป็นร้ายกาจภายในเสี้ยววินาที หลุบมองอาวุธร้ายแข็งผงาดใต้กางเกงอีกครั้ง ก่อนจะรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดทุบเข้าไปที่ส่วนไวความรู้สึกเต็มแรงไม่มียั้ง
ตุ้บ!
"โอ๊ยยยย! ยัยบ้า! Shit!"
รองประธานหนุ่มโก้งโค้งตัวงอกุมน้องชายสุดที่รัก จุกหน้าเขียวแทบพูดไม่ออก ตวัดสายตามองหญิงสาวตัวดีอย่างคาดโทษ ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอกล้าลงมือทำร้ายร่างกายเขาได้!
ร่างเล็กแสยะยิ้มร้ายไหวไหล่น้อยๆ ไม่สนใจดวงตาเคียดแค้นคู่นั้น
"ก็คุณบอกเองว่าทำยังไงก็ได้ให้มันสงบ ฉันก็ช่วยแล้ว ดังนั้นเงินนี่ขอรับเอาไว้แล้วกัน" สาวเจ้าเล่ห์กรีดยิ้มกว้าง กวาดกองแบงก์บนโต๊ะขึ้นมานับสบายอารมณ์ ในขณะที่แผ่นดินต้องล้มตัวลงไปนอนขดตัวงอบนโซฟาไม่อาจตอบโต้กลับได้ ความจุกเสียดแล่นขึ้นมาถึงหน้าท้อง คิ้วหนาขมวดเข้าหากันแน่น แถมความทรมานดังกล่าวกลับไม่หายไปง่ายๆ ทำเขาพูดอะไรไม่ออก
"เธอตายแน่!"
"เอาละ ดูเหมือนจะหมดหน้าที่ฉันแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ ถ้ารอบหน้าสนใจใช้บริการใหม่เรียกได้เสมอ อย่างที่คุณบอก เงินง่ายๆ ใครจะไม่อยากได้ล่ะเนอะ"
ร่างเล็กหันมาส่งยิ้มน่ารัก แต่กลับทำให้แผ่นดินหัวเสียหนักมากที่พลาดท่าให้ยัยจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ แต่ตอนนี้เขาไม่อาจลุกไปจัดการลงโทษใดๆ ได้เลย ได้แต่จ้องใบหน้าสวยตาแข็ง แทบเผาร่างเธอให้ลุกไหม้ ในขณะที่สาวสวยลอยหน้าลอยตา เดินผิวปากอารมณ์ดีออกไปจากห้องรับรองพิเศษสบายอารมณ์
สิ่งที่เธอทำวันนี้มันจะถูกสลักลึกในความทรงจำเขาแน่นอน!
ใยไหมคงยังไม่รู้ว่าผู้ชายแบบเขาต้องฆ่าให้ตายเท่านั้น ไม่เช่นนั้นเขาตามราวีกลับจนกว่าอีกฝ่ายจะย่อยยับไปข้าง!