Share

บทที่ 9

last update Last Updated: 2025-07-14 10:26:00

สัปดาห์ต่อมา

BBK Engineering

หญิงสาวแต่งกายด้วยชุดนักศึกษาถูกระเบียบตั้งแต่หัวจรดเท้า ก้าวอย่างรีบเร่งเข้ามายังอาคารสำนักงานของบริษัท สิ่งแรกคือพุ่งไปยังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์เพื่อสอบถามว่านักศึกษาฝึกงานต้องไปรายงานตัวที่ใด ใบหน้าสวยพยักหน้าหงึกๆ หลังเจ้าหน้าที่ท่าทางกระฉับกระเฉงผายมือไปทางลิฟต์ให้เธอขึ้นไปยังชั้นสาม แผนกบุคคล ใยไหมกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่แล้วรีบก้าวขายาวๆ เนื่องจากใกล้ถึงเวลาเริ่มงานเต็มแก่

หลังจากใยไหมขึ้นลิฟต์ไปได้เพียงไม่นาน รองประธานบริษัทหน้านิ่งก็เดินผ่านประตูเข้ามา ทุกคนต่างลุกขึ้นยืนค้อมศีรษะให้เป็นการทำความเคารพ

สายตาดุดันจริงจังปรายตามองผ่านๆ ด้วยใบหน้าเรียบเฉย ก่อนเขาจะคิ้วขมวดหรี่สายตาพินิจ แผ่นดินก้าวตรงไปหาพนักงานสาวที่ถือถุงของกินเต็มมือ ยืนตัวสั่นท่ามกลางเพื่อนสาวอีกสองคนเมื่อโดนรังสีพิฆาตจ้องเขม็งมา

"เธอน่ะ!..."

"ค่ะ!"

สาวโชคร้ายหลับตาปี๋ยืนหลังตรงหัวใจสั่นหวิวรับรู้ได้ถึงลางร้ายที่ย่างกรายเข้ามา หลังจากรองประธานโหดฝีปากคมมาหยุดยืนต่อหน้า ทำให้เพื่อนในกลุ่มขยับถอยห่างปล่อยให้เธอเผชิญหน้ากับชายบ้าอำนาจโดยไม่อาจให้ความช่วยเหลือได้

"นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว จะเข้างานในอีกห้านาที แต่ยังมัวมายืนคุยกันสนุกสนาน"

"..."

"แล้วดูการแต่งตัว ชายเสื้อหลุดออกมานอกกระโปรง ไปแจ้งชื่อที่แผนกบัญชี ผมจะหักเงินคุณวันนี้ ครั้งหน้าอย่าให้ผมเห็นพนักงานคนไหนแต่งกายไม่เรียบร้อยอีก!"

"แต่ว่า..." เธอพยายามจะเอ่ยแย้งด้วยใบหน้าซีดเผือด แต่เมื่อเห็นสายตาคมกริบตวัดมอง ก็ไม่มีคำใดหลุดออกมาจากปากอีก ก้มหน้าหวาดกลัวพร้อมน้ำใสเอ่อคลอรอบดวงตา

แผ่นดินตวัดสายตามองพนักงานสาวอีกสองคนด้านหลัง ทำพวกเธอขนลุกวาบรีบก้มหน้าหลบสายตา ก่อนเขาจะเบือนหน้าออกไม่ใส่ใจ แล้วมุ่งหน้าตรงไปทางลิฟต์เมื่อเห็นทั้งคู่แต่งกายเรียบร้อยดี โดยไม่สนลูกน้องสาวที่ถูกตำหนิแม้แต่น้อย

ร่างสูงเดินหลังตรงสง่าผ่าเผยราวกับราชนิกุลดูเย่อหยิ่งจองหอง ก้านนิ้วเรียวยาวจิ้มไปยังปุ่มลิฟต์ ทุกการขยับร่างกายรวมถึงใบหน้าหล่อคมเข้มสะกดทุกสายตาได้เป็นอย่างดี แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครกล้าเล่นหูเล่นตายั่วรองประธานหนุ่มสุดหล่อ ต่างทราบดีถึงอารมณ์ไม่คงเส้นคงวาเอาแน่เอานอนไม่ได้ แถมแผ่นดินยังขึ้นชื่อเรื่องคำพูดจารุนแรงทำคนถูกว่าหน้าชา น้ำตาตกกันเป็นแถบๆ

ทุกคนในบริเวณนั้นตั้งแต่ พนักงาน รปภ. เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ แม่บ้าน ไม่กล้าแม้จะหายใจดังด้วยซ้ำ รอจนกระทั่งเขาก้าวเข้าลิฟต์และประตูเหล็กงับปิดลงถึงได้พ่นลมหายใจออกมาพร้อมกันเพื่อระบายความตึงเครียด โล่งใจที่เช้าวันนี้แผ่นดินไม่ไล่ใครออก

ทันทีที่รองประธานจากไปแล้ว สาวคนเมื่อครู่ก็ปล่อยโฮออกมาอย่างสุดจะกลั้น ทำให้เพื่อนสาวต้องรีบเข้ามาปลอบ

"ใจเย็นนะแก โดนหักเงินนิดเดียวเอง ไม่เป็นไรนะ"

"ฮืออออ อะไรวะเนี่ย แค่ชายกระโปรงแลบแค่นี้เอง ถึงจะต้องหักเงินกันด้วย...อึก...มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ!"

"ชู่~ เบาๆ คุณแผ่นดินเขาเนี้ยบมาก เรารีบกลับแผนกกันเถอะ เดี๋ยวจะถูกเพ่งเล็งมากกว่านี้"

พนักงานคนอื่นได้แต่มองตามสามสาวด้วยความสงสาร แต่นี่ก็ถือเป็นเรื่องปกติที่พบเห็นได้ประจำ เป็นที่รู้กันว่าใครบังเอิญเดินเจอรองประธานหนุ่มในบริษัทถือว่าดวงตกสุดๆ ตั้งแต่ชายหนุ่มก้าวขึ้นมารับตำแหน่งรองประธาน ทุกคนในบริษัทก็ต้องแอ็กทีฟและรอบคอบกว่าเดิมขึ้นอีกสามเท่าตัว เพราะเขาขึ้นชื่อเรื่องความโหด พูดจาเถรตรงไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น เพียงแค่เดือนแรกที่เข้ารับตำแหน่ง แผ่นดินก็ไล่พนักงานออกเกือบสิบคน ทำให้กิตติศัพท์เรื่องความเข้มงวดเป็นที่เลื่องลือ

"แฮก แฮก" ใยไหมยืนหอบหายใจอยู่หน้าป้ายแผนกบุคคลหลังจากรีบเร่งขึ้นมาให้ถึงก่อนเวลาเข้างาน เธอสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่พยายามปรับลมหายใจให้สม่ำเสมอแล้วจึงผลักประตูเข้าไปรายงานตัว

สายตาหงุดหงิดของหญิงวัยกลางคนอายุอานามประมาณสี่สิบปี สวมแว่นหนาเตอะ ท่าทางจริงจังราวกับคุณครูฝ่ายปกครอง ตวัดมองเด็กฝึกงานไม่พอใจนัก พร้อมเหลือบสายตาขึ้นมองนาฬิกาบนผนัง เมื่อเหลือเวลาอีกสองนาทีก็จะถึงเวลาเข้างานแล้ว ทำให้ใยไหมได้แต่ส่งยิ้มเจื่อนกลับไปด้วยความรู้สึกผิด

เรื่องนี้คงโทษใครไม่ได้นอกจากการจราจรของกรุงเทพ ทั้งที่ใยไหมคิดว่ากะเวลาเผื่อเอาไว้แล้ว แต่ระยะทางระหว่างบริษัทและคอนโดค่อนข้างไกลกันพอสมควร แถมที่ตั้งบริษัทก็ไม่ได้อยู่ติดถนนหลักอีก หลังจากลงจากรถไฟฟ้าก็จำเป็นต้องโบกวินมอเตอร์ไซค์ต่อ ลัดเลี้ยวหนีรถติดผ่านซอกซอยต่างๆ กว่าจะมาถึงที่ได้ก็เล่นเธอเกือบจะสาย

"เกือบสายตั้งแต่วันแรกเลยนะยะ ถ้าทำตัวแบบนี้ต่อไประวังอยู่ไม่ถึงวันฝึกงานจบแน่ๆ" ปวีณาหัวหน้าแผนกบุคคลค่อนแขวะเด็กใหม่ ซึ่งใยไหมก็ไม่คิดจะตอบโต้หาเรื่องกลับ ในเมื่อครั้งนี้เธอเป็นคนผิดจริง ได้แต่ก้มหน้ารับคำตำหนิโดยดี

"จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบวันนี้อีกแน่นอนค่ะ"

"แล้วฉันจะคอยดู ชื่ออะไร"

"ธาริกา นิภารันดร์ ค่ะ"

หัวหน้าแผนกไล่มองการแต่งกายของสาวตรงหน้าอีกครั้ง พลางเปิดเอกสารรายชื่อนักศึกษาฝึกงานในเทอมนี้ ก่อนจะส่งกระดาษดังกล่าวมาให้เธอเซ็นชื่อ และแจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับกฎระเบียบข้อบังคับมากมายของบริษัท จนใยไหมอยากจะขอยกมือเบรกแล้วเอามือถือขึ้นมากดบันทึกเสียงไว้เหลือเกิน เพราะมันเยอะมาก!

กว่าปวีณาจะอธิบายจบก็กินเวลาไปหลายนาที ตอนกระทั่งเก้าโมงสิบห้า แต่หัวหน้าแผนกบุคคลก็ดูเหมือนจะไม่สนใจว่าเธอจะเข้าแผนกเลตแล้ว ปล่อยให้หญิงสาวยืนกระสับกระส่ายก้มมองตัวเลขบอกเวลาบนนาฬิกาข้อมือที่เดินไปเรื่อยๆ ขณะรออีกฝ่ายทำบัตรประจำตัวให้ด้วยความช้าระดับเต่าคลาน

"เอ่อ...อีกนานไหมคะ" ใยไหมกลั้นใจถามออกไป แล้วก็เป็นไปตามคาดเมื่อถูกสายตาพิฆาตของคุณครูฝ่ายปกครองตวัดมองฉุนเฉียวกลับ

"มาทำเองไหมล่ะ ใครใช้ให้เธอมาช้าขนาดนี้กัน!"

"ขอโทษค่ะ หนูไม่ได้อยากจะเร่ง แต่กลัวไปรายงานตัวที่แผนกช้าแล้วหัวหน้าจะตำหนิเอา"

"นั่นเรื่องของเธอจ้ะ...เอ้าเสร็จแล้ว! แผนกเธอขึ้นไปชั้นห้า ออกจากลิฟต์แล้วเลี้ยวซ้าย เดินไปสุดทางเดินเลย"

ปวีณากลอกสายตารำคาญใจพร้อมยื่นบัตรประจำตัวให้เด็กฝึกงาน ใยไหมค้อมศีรษะขอบคุณรีบคว้าบัตรแล้วหมุนกายเดินออกจากแผนกบุคคลทันที สายตาคู่สวยเหลือบมองหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่งสวมเสื้อช็อปคณะวิศวะมหาลัยดังคู่กับกางเกงยีนเพื่อความคล่องตัว เดินสวนผ่านประตูที่ใยไหมเพิ่งออกมา เธอได้แต่ภาวนาให้สาวคนดังกล่าวไม่ถูกคุณป้านั่นสวดยับเนื่องจากเลตกว่าเวลารายงานตัวพอสมควร

ในขณะที่ยืนรอลิฟต์อยู่ สายตาอยากรู้อยากเห็นก็แอบสอดส่ายมองผ่านกระจกใสเข้าไปด้านในเป็นระยะ ก่อนจะนิ่วหน้า เมื่อเห็นหัวหน้าแผนกวัยใกล้หมดประจำเดือนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ประจบเอาใจสาวคนนั้นออกนอกหน้า ทั้งที่เมื่อครู่เกือบจะกินหัวเธออยู่แล้ว

ใยไหมได้แต่ขมวดคิ้วแปลกใจ แต่ยังไม่ทันหายสงสัยประตูลิฟต์ก็เปิดออกก่อนทำให้หญิงสาวตัดสินทิ้งความอยากรู้แล้วก้าวเข้าไปด้านใน กดตัวเลขยังชั้นเป้าหมาย พร้อมสวดภาวนาในใจว่าจะไม่ถูกหัวหน้างานคนใหม่ตำหนิไปมากกว่านี้ นี่ถือเป็นการเริ่มชีวิตเด็กฝึกงานที่ย่ำแย่เหลือเกิน

ไม่รู้จะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ที่ใยไหมไม่ได้ถูกหัวหน้างานตำหนิ แต่ก็ไม่ใช่เพราะเขาใจดีหรืออะไร เพียงแต่พลพัฒน์หัวหน้าแผนกจัดการพัฒนาองค์กร ชายวัยกลางคนอายุใกล้เลขห้าสิบนั้นดูกะลิ้มกะเหลี่ยไม่น่าไว้ใจสุดๆ สายตาหื่นกระหายสำรวจเรือนร่างเด็กฝึกงานคนสวยอย่างจาบจ้วงตลอดเวลาที่อธิบายหน้าที่ให้เธอรับทราบ ทำเธอโคตรจะอึดอัด เพียงแค่คิดว่าต้องทำงานร่วมกับคนเช่นนี้ไปอีกสี่เดือน ใยไหมก็อยากจะกัดลิ้นตายเสียตรงนี้ เหมือนว่าชีวิตเธอจะหนีผู้ชายหัวงูไม่พ้นจริงๆ

หญิงสาวระบายลมหายใจขณะผลักประตูห้องทำงานของพลพัฒน์ออกมา กวาดมองทั่วแผนกเพื่อหาตัวพี่เลี้ยงของตนเอง ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่พักหนึ่งเพราะทุกคนก้มหน้าก้มตาทำงานตัวเอง จึงตัดสินใจเดินเข้าไปหารุ่นพี่ผู้ชายที่นั่งอยู่บริเวณนั้น

"ขอโทษนะคะ"

"ครับ...ว้าว~ โชคดีจัง ปีนี้มีแต่น้องๆ นักศึกษาฝึกงานน่ารัก มีอะไรให้พี่ช่วยครับคนสวย"

ชายหนุ่มตาวาวเมื่อได้เห็นใบหน้าสวยจัดไร้จุดตำหนิของเด็กใหม่ ไม่วายแอบชำเลืองมองการแต่งตัวเธอด้วยความตื่นเต้น ฉีกยิ้มกว้างเป็นมิตรสุดขีดพร้อมส่งสายตาวิบวับมาให้เด็กใหม่ ทำเส้นขนอ่อนในกายใยไหมลุกวาบ บีบกำมือแน่นแล้วพยายามปั้นหน้าเป็นมิตรสอบถามเรื่องที่ต้องการ

"ไม่ทราบว่าโต๊ะพี่แก้มใสอยู่ตรงไหนคะ"

"อ๋อ ได้แก้มเป็นพี่เลี้ยงเหรอ เสียดายจัง พี่ชื่อทัพนะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก" รุ่นพี่ยังไม่ยอมตอบคำถามแต่เลือกแนะนำตัวเองให้เธอรู้จักก่อน ทำให้ใยไหมไม่มีทางเลือก นอกจากแนะนำตัวเองกลับตามมารยาท

"ใยไหมค่ะ...คือ แล้วโต๊ะพี่แก้มใสล่ะคะ"

"ชื่อน่ารักจัง หน้าก็สวย" ทัพยิ้มหวานอารมณ์ดีเอ่ยชมไปเรื่อย เริ่มทำความอดทนหญิงสาวลดต่ำลงทีละนิด

"เอ่อคือ..."

"โต๊ะแก้มทางนั้นครับ ริมขวามือโต๊ะตัวรองสุดท้าย...แก้ม! มารับน้องฝึกงานคนสวยหน่อย"

ไม่ว่าเปล่า ทัพลุกขึ้นยืนแล้วตะโกนเรียกเพื่อนร่วมงานข้ามห้อง ทำให้ใยไหมตกเป็นเป้าสายตาในทันที สาวสวยดาวเด่นคลับหรูเหงื่อซึมได้แต่ส่งยิ้มแหยกลับไป ทั้งที่ตั้งใจจะเริ่มชีวิตนักศึกษาฝึกงานให้เงียบสงบที่สุด แต่ก็เหมือนอะไรๆ มันจะไม่เป็นตามที่คิดไว้เสมอ

พี่เลี้ยงตัวเล็กท่าทางเรียบร้อยลุกขึ้นยืน พลางชูมือบอกตำแหน่งตัวเอง ใยไหมจึงหันไปขอบคุณชายหนุ่ม แล้วเดินตัวลีบเลียบริมกำแพงเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย

แม้จะไม่ได้หันมองรอบข้างแต่คนเซนส์ดีก็พอรับรู้ได้ถึงหลายสายตาที่จ้องมองมาด้วยความสนใจบ้าง ริษยาบ้าง ซึ่งพนักงานในแผนกนี้มีเกือบสามสิบคน เป็นผู้ชายเสียเกินครึ่ง จึงไม่แปลกที่สาวหน้าตาดีระดับนี้จะเป็นที่หมายปองตั้งแต่วันแรก

"สวัสดีค่ะ ใยไหมนะคะ ขอฝากตัวด้วยค่ะ"

"อ่า นั่งเถอะๆ ไม่ต้องจริงจังขนาดนั้น พี่ชื่อแก้มใส คงรู้แล้วเนอะ" รุ่นพี่สาวตบเก้าอี้ข้างตัวให้เธอนั่งลง ซึ่งใยไหมก็ค้อมหัวขอบคุณแล้วทิ้งตัวยังเก้าอี้ของโต๊ะที่ยังว่างข้างพี่เลี้ยง พยายามทำตัวให้ดูเจี๋ยมเจี้ยมที่สุดเพื่อให้พี่เลี้ยงเอ็นดู ชีวิตตลอดการฝึกงานจะได้ราบรื่น

"งั้นเดี๋ยวพี่อธิบายงานคร่าวๆ ก่อนนะ ที่มหาลัยต้องมีทำโพรเจกต์พิเศษอะไรด้วยหรือเปล่า"

"มีค่ะ อย่างน้อยก็ต้องหนึ่งโพรเจกต์ ทำรายงานส่งเป็นตัวจบค่ะ"

"โอเคๆ ช่วงแรกก็อยากให้เรียนรู้งานไปก่อน จะได้รู้ว่าบริษัทเราทำเกี่ยวกับอะไรบ้าง แล้วพี่จะค่อยเริ่มให้ช่วยงานเสนอแผนพัฒนาองค์กร นอกเหนือจากนั้นก็ช่วยๆ งานจิปาถะในแผนก ส่วนเรื่องโพรเจกต์จบถ้าคิดเรื่องที่อยากทำออกก็ลองมาเสนอ เทอมนี้มีนักศึกษาฝึกงานในแผนกนี้สามคนนะ เดี๋ยวเราก็คงได้รู้จักเอง นั่งอยู่อีกด้าน"

"ค่ะ"

"ส่วนแผนงานแต่ละอย่างเราจะต้องเสนอแข่งกับทีมอื่นๆ แล้วพี่พลจะเป็นคนตัดสินใจอีกทีว่าจะนำแผนงานไหนขึ้นไปเสนอบอส ถ้าบอสอนุมัติทีมที่เสนอก็จะได้ดูแลงานนั้นไป ทีมอื่นก็ต้องไปหาแผนใหม่มา เพราะถ้าทีมไหนทำผลงานได้ดีก็จะมีผลกับโบนัสสิ้นปี ถือว่าการแข่งขันสูงมากเลยแหละ"

"ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ" ใยไหมพยักหน้ารับตั้งใจฟังข้อมูลทุกอย่างด้วยสีหน้าจริงจัง

แล้วรุ่นพี่สาวก็แนะนำสมาชิกทีมย่อยอีกหกคนให้ใยไหมรู้จัก ซึ่งทั้งหมดก็นั่งอยู่ถัดจากหญิงสาวไปนั่นเอง เด็กฝึกงานคนสวยยิ้มทักทายทุกคนในทีมด้วยความนอบน้อมเป็นมิตร ทั้งที่ภาพลักษณ์แรกคิดว่าจะเป็นสาวสวยเรื่องมากขี้วีนซะแล้ว แต่เห็นท่าทางขยันขันแข็งของน้องใหม่ ทำให้ทุกคนรู้สึกเอ็นดูเธอไม่ยาก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เด็กโปรดท่านรอง   บทที่ 195

    แล้วก็เป็นไปอย่างที่คาด พอเมื่อคาเตอร์และม่านฟ้ามาค้างด้วย วายุก็รีบกระโดดเกาะขาคุณน้าใจดีทั้งสองเข้าไปในห้องนอนด้วย เพราะคาเตอร์ก็ยังติดนิสัยแสบซนไม่หาย และมักจะหาเรื่องสนุกชวนน่าหวาดเสียวมาเล่นกับหลานชาย ผิดกับแผ่นดินที่ค่อนข้างจริงจังและดุกว่า ทำให้วันนี้เด็กชายทิ้งพ่อแม่ไปซะงั้นแต่นั่นก็ถือเป็น

  • เด็กโปรดท่านรอง   บทที่ 194

    "ยับบบ""รับต่างหาก" เด็กชายแก้ไขคำผิดให้และกลิ้งลูกบอลกลับไปให้น้องสาวเบาๆ เรียกสายตาเอ็นดูจากเหล่าผู้ใหญ่ในห้องได้ทันที"วายุนี่น่ารักจริงๆ" ม่านฟ้าอดชมออกมาไม่ได้"อ่อนโยน ว่าง่าย แถมยังมีความเป็นผู้นำตั้งแต่เด็กเลย เห็นแบบนี้ป๊าล่ะปลื้มจริงๆ" เดชาฉีกยิ้มกว้างสายตาอ่อนโยนมองดูหลานทั้งสองเล่นกันด้

  • เด็กโปรดท่านรอง   บทที่ 193

    "แอบมาหลบกันอยู่ที่นี่กันนี่เอง" เสียงใสของลูกสาวคนเล็กดังขึ้น พร้อมการปรากฏตัวของแขกหน้าคุ้นเคยทั้งสามใบหน้าของม่านฟ้าอิ่มเอม จูงมือมากับคาเตอร์พร้อมลูกสาววัยหนึ่งขวบอย่างน้องคาเทียร์ในอ้อมแขนบิดาด้วย"โอ้ มาพร้อมหน้าพร้อมตากันเชียว""สวัสดีค่ะป๊า หน้าตามีความสุขเชียว เล่นกับหลานชายทั้งวันเลยสิท่า

  • เด็กโปรดท่านรอง   บทที่ 192

    สามปีต่อมาเด็กชายตัวน้อยวัยสามขวบวิ่งเล่นยังสนามหญ้ากว้างโดยมีพี่เลี้ยงวัยกลางคนวิ่งไล่ตาม ใบหน้าเล็กฉายแววหล่อตั้งแต่เด็กแดงก่ำด้วยเม็ดเหงื่อ หัวเราะคิกคักเสียงใสมีความสุข"คุณวายุวิ่งช้าๆ หน่อยสิคะ หวานวิ่งตามไม่ทันแล้ว""คิกคิก พี่หวานช้า แน่จริงก็จับวายุให้ได้สิ"พี่เลี้ยงระบายยิ้ม ชะลอแรงลงเล็

  • เด็กโปรดท่านรอง   บทที่ 191

    "กลัวครับ จะพยายามยั้งแรงนะ แต่พรุ่งนี้เมียห้ามบ่ายเบี่ยงไปหาหมอเด็ดขาด"เธอคลี่ยิ้มกว้าง ดวงตาเปล่งประกายด้วยความสุขใจ แม้แผ่นดินจะกังวลถึงลูกในท้องใจจะขาด แต่แรงปรารถนาก็พลุ่งพล่านเกินกว่าจะหยุดลงเพียงแค่นี้ใยไหมหยัดกายขึ้นให้กายร้อนหลุดออกมา พลิกตัวไปเกาะขอบอ่างเอาไว้แน่น พลางเอี้ยวหน้ามาส่งยิ้ม

  • เด็กโปรดท่านรอง   บทที่ 190

    "ก็ลองเคยมีสิ! ไหมจะเจื๋อนไอ้แผ่นดินน้อยทิ้งไปซะ!""ทำลงเหรอครับ งั้นใครจะทำให้ไหมครางเสียงหลงได้ล่ะ"แผ่นดินเปลี่ยนท่าทีเป็นออดอ้อนเอาใจ จุมพิตแก้มใสของภรรยาไปอีกครั้ง ต้องใช้เวลาพูดคุยอีกหลายนาทีกว่าคุณพ่อขี้เห่อจะยอมใจเย็นแล้วจูงมือภรรยาสุดที่รักเข้าไปอาบน้ำล้างคราบเหงื่อไคลด้วยกันภายในห้องน้ำอ่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status