สักพักรถก็แล่นเข้ามาในซอยเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยป่าเขา และสวนยาง ที่นี่อาจจะดูเงียบสงบ แต่น่ากลัวมากสำหรับม่านฟ้า คนที่เคยอยู่แต่ในเมืองเต็มไปด้วยแสงสี มันจึงทำให้เธอรู้สึกหวาดระแวง
เวลานี้ใจของม่านฟ้าเต้น ตึกตัก ตึกตัก..เร็วแรงขึ้น เธอกำลังกลัวว่าผู้ชายที่ขับรถอยู่นั้น จะใช่คนที่นายหัวคเชนทร์ส่งมารับเธอหรือเปล่า เพราะถ้าไม่ใช่ เธอจะทำยังไงที่นี่ปกคลุมไปด้วยป่าเขาเต็มไปหมด เมื่อคิดได้ดังนั้น ม่านฟ้าจึงดึงเสื้อที่มันคอลึก จนเห็นเต้านูนได้ชัด ขึ้นมาปกปิดหน้าอกอิ่มเอาไว้ได้นิดหน่อย
"ขอถามอะไรหน่อยสิ" ม่านฟ้าตัดสินใจเอ่ยถามออกมา เพื่อกลบเกลื่อนความกลัว ที่เกิดขึ้นภายในใจของเธอ
"คุณม่านฟ้ามีอะไรจะถามผมเหรอครับ" คนขับรถพูดพร้อมกับหันหน้าไปมองม่านฟ้า ความรู้สึกหวาดกลัวยิ่งเพิ่มขึ้น แต่ถึงกลัวแค่ไหนเธอก็ต้องข่มใจเอาไว้
"ทำไมบ้านของคุณคเชนทร์ถึงอยู่ลึกจัง"
"วันนี้คุณคเชนทร์อยู่บ้านในสวนยาง ส่วนบ้านอีกหลังอยู่ที่เกาะโน่นต้องนั่งเรือไปอีกไกล" ม่านฟ้าฟังคนขับรถพูด เธอถึงรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที เขามีบ้านที่เกาะด้วย เธออยากไปอยู่ที่นั่น มากกว่าบ้านในป่าแบบนี้ ที่โน่นคงอากาศดี แต่ที่นี่มันวังเวงยังไงไม่รู้สำหรับเธอ
"แล้ววันไหนคุณคเชนทร์ถึงจะไปที่เกาะ" ม่านฟ้าถามออกไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความกลัวหายไปจนสิ้น ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว เธอเริ่มไม่แน่ใจว่าคเชนทร์จะให้ไปที่เกาะนั่นด้วยหรือไม่
"คุณคเชนทร์จะอยู่ที่สวนยางสี่วัน อยู่ที่เกาะสามวัน หรือบางทีอาจจะอยู่ที่เกาะทั้งเดือนแล้วแต่โอกาสมากกว่า”
เมื่อได้คำตอบ ม่านฟ้าก็เริ่มนับนิ้ว สี่วัน สามวัน ทำยังไงเธอถึงจะได้ไป อยากเห็นเกาะนั่น อยากรู้ว่ามันจะสวยแค่ไหน มารดาของเธอไม่เคยพาไปเที่ยวไหนเลย ให้อยู่แต่ในวัง ที่ม่านฟ้าเรียกวังก็เพราะว่าบ้านพ่อเลี้ยงของเธอ มันใหญ่โตราวกับปราสาทพระราชวัง
แต่บ้านที่กว้างใหญ่ไพศาล เธอไม่เห็นจะอยากได้มันเลยสักนิด อยู่แล้วไม่เห็นจะมีความสุข และนั่นมันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว เมื่อเวลานี้เธอไม่ต่างอะไรจากตัวคนเดียว บิดาก็ตายจากมารดาก็ตายจาก สรุปแล้วเธอไม่เหลือใครเลย
ถ้าหากไม่มาอยู่ที่นี่ พ่อเลี้ยงก็จะไม่ส่งเงินให้เธอใช้ เพราะมันเป็นเงื่อนไข ที่มารดาตกลงเอาไว้ก่อนตาย หากบิดาของคเชนทร์ไม่เลี้ยงดู ก็ให้เอาไปฝากไว้กับลูกชายของเขา ไม่รู้ว่ามารดาของเธอคิดยังไง ถึงอยากให้พ่อเลี้ยงฝากเธอไว้กับซาตาน ที่ไร้หัวใจอย่างคเชนทร์
ม่านฟ้ารีบอาบน้ำทันที เมื่อเข้ามาถึงห้อง เพราะเธอรู้สึกเหนียวตัวไปหมด เมื่อโดนน้ำเค็มแถมชุดที่ใส่ก็ยังเปียกโชกอยู่เลย เธอไม่รู้ว่าต่อไปนี้ชีวิตจะต้องเจอกับอะไรบ้าง เมื่อนายหัวคเชนทร์นั้นประกาศเป็นศัตรูกับเธออย่างชัดเจน ยังดีที่ผู้ชายคนนั้นเขาเป็นสุภาพบุรุษ คอยช่วยเหลือเธอ แต่นั่นก็คงจะไม่ตลอด เพราะยังไงนายหัวคเชนทร์ก็คงจะไม่ปล่อยให้ชีวิตของเธออยู่แบบเป็นสุขแน่ เมื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จม่านฟ้าจึงเดินลงมาด้านล่าง เพื่อหาอะไรรับประทาน เพราะเธอเริ่มหิวจนไส้จะกิ่วแล้ว "ป้ามีอะไรทานบ้างคะ" "มีแกงเหลือง แกงไตปลา คุณม่านฟ้าไปนั่งรอที่โต๊ะเลยค่ะ เดี๋ยวป้าจัดการให้ นายหัวคเชนทร์ก็กำลังทานอยู่พอดี" คำบอกเล่าของป้าอุ่นทำให้ม่านฟ้าอยากแกล้ง นายหัวหนุ่ม เธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก่อนจะเดินตรงไปที่โต๊ะอาหาร "ไม่มีมารยาท" คำพูดของนายหัวคเชนทร์ดังขึ้น ทำให้ม่านฟ้าอยากจะเอากำปั้นตะบันหน้าเ
ม่านฟ้าถูกนายหัวคเชนทร์ลากขึ้นเรืออย่างทุลักทุเล เขาไม่ปรานีหรือแยแสต่อร่างเล็กของเธอเลยสักนิด เวลานี้ที่หน้าแข้งของเธอมีรอยถลอกเป็นทางยาว แล้วยังมีเลือดไหลซิบออกมา เมื่อนายหัวหนุ่มนั้นลากเธอไม่พ้น แล้วหน้าขาของม่านฟ้าครูดเข้ากับขอบเรือ “โอ๊ะ!! โอ๊ย!” ม่านฟ้าร้องออกมาเสียงดัง เมื่อเขาโยนร่างเล็กของเธอนั้นทุ่มลงไปกองกับท้องเรือ“หึหึ! แค่นี้มาทำเป็นสำออย อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะม่านฟ้า มารยาของเธอใช้กับฉันไม่ได้หรอก” พูดจบคเชนทร์ก็สั่งให้คนออกเรือ ไม่นานม่านฟ้าก็เริ่มเวียนหัว อยากจะอ้วกออกมา “อ้วกกก! ขับช้าหน่อยได้ไหม ฉันจะอ้วกแล้วเนี่ย! หรือจะให้อ้วกใส่เรือ” “เธอนี่มันเรื่องมากจังเลยนะยัยหน้ามึน” นายหัวคเชนทร์จำใจต้องสั่งให้คนขับเรือหยุดก่อน เพราะไม่อย่างนั้นม่านฟ้าคงอ้วกออกมาเต็มท้องลำเรือ และเขาก็ไม่ปรารถนาที่จะให้เป็นเช่นนั้น เพราะขยะแขยงทุกอย่างที่เป็นเธอ “อ้วก! อ๊วก!” ม่านฟ้าอ้วกออกจนหมดไส้หมดพุง ไม่นานเธอ
นายหัวคเชนทร์เดินตรงดิ่งมาที่ม่านฟ้าเขาไม่รอช้ากระชากเธอลุกขึ้นทันที ผู้หญิงอย่างเธอไม่ควรได้รับความปรานีจากเขาเช่นกัน เธอมันร้ายกว่าที่เขาคิดไว้เยอะ “โอ๊ะ! โอ้ยย!” "ปล่อยฉันเจ็บ!” ม่านฟ้าพยายามใช้เท้ายันพื้นเอาไว้ เพื่อไม่ให้นายหัวคเชนทร์นั้น ลากเธอออกไปจากห้องได้ แต่มันก็ไร้ผล เมื่อแรงของเขานั้นมีมหาศาลยังกับแรงของช้างก็ไม่ปาน ไม่นานเธอก็พ่ายแพ้ให้กับแรงชายจนได้ “นายหัวคเชนทร์ปล่อยคุณม่านฟ้าเถอะค่ะ เธอไม่สบายอยู่นะคะ” มารดาของมาหยาร้องขอออกไป แต่นายหัวคเชนทร์ก็ไม่ได้สนใจ ในการการกระทำนั้นเลย ข้อมือเล็กเรียวของเธอถูกเขากำไว้แน่น จนกระดูกแทบหัก ตอนนี้มันแดงไปหมดแล้วเพราะมือแกร่งที่แข็งแรงบีบรัดข้อมือเล็กเรียวเอาไว้แน่นเกินไป เหมือนเขากำลังตั้งใจแกล้งเธอ ก่อนจะผลักร่างอรชรให้ล้มลงไปต่อหน้าต่อตาอย่างไม่แยแส ตุ๊บ!!
ในขณะที่ม่านฟ้ากำลังหลับใหลได้ที่ ด้วยความเหนื่อยและเพลียจากการเดินทาง แถมยังต้องมาจัดห้องที่รกรุงรัง ร่างกายที่บอบบางของเธอ ซึ่งไม่เคยแม้แต่จะกวาดบ้าน เวลานี้ก็เริ่มจะมีไข้ตัวของเธอเริ่มร้อนระอุเป็นไฟ ในขณะที่นายหัวคเชนทร์เตรียมตัวจะออกไปสวนยาง ในเวลาเที่ยงคืน เขาตั้งใจจะแกล้งเธอ ให้สาสมกับที่มารดาของเธอได้พรากความรักของบิดาไปจากมารดาของเขา ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! คเชนทร์เคาะประตูหลายครั้ง แต่ม่านฟ้าก็ไม่เปิดให้เขาสักที เพราะในเวลานี้เธอไม่มีแม้แต่แรงจะลุกยืน มันปวดเมื่อยไปหมด "ม่านฟ้าฉันบอกให้เธอเปิดประตู ออกมาได้เวลาแล้ว!” นายหัวคเชนทร์ตะโกนออกไป แต่ก็ไร้เสียงตอบรับกลับมา ทำให้เขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ตัดสินใจพังประตูเข้าไป ปึง!!! "ลุกขึ้นมาได้ยินไหมที่เรียก บอกใ
คเชนทร์ขับรถกลับก็มืดค่ำแล้ว แต่ไฟที่บ้านหลังนี้เปิดจ้าทุกดวง ปกติถ้าเขาออกไปไหนมาหยา และมารดาของเธอ ก็จะทำอาหารรอกลับมาก็ทานได้เลย แต่วันนี้เขาสั่งให้ทุกคนไม่ต้องมาทำอาหาร งดงานบ้านทุกอย่าง เพราะเขาจะทานข้าวมาจากในเมือง และจะมีคนทำงานบ้านแทนแล้ว คนนั้ที่เขาพูดถึงก็คือม่านฟ้าในเวลานี้ม่านฟ้าหิวจนไส้กิ่วแล้ว เธอนั่งรอคเชนทร์กลับมา รอแล้วรอเล่าเขาก็ไม่มาสักที ในครัวก็ไม่มีอะไรทานได้ ข้าวที่เหลืออยู่ก้นหม้อ มันไม่พออิ่มด้วยซ้ำไข่ในตู้เย็นมีไม่กี่ฟองมันก็ดิบเธอกินไม่ได้ ติดเตาก็ไม่เป็น ม่านฟ้าเดินไปเดินมาแล้วก็กลับมานั่งที่เดิมอีกรอบ แล้วเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้น เมื่อรถของคเชนทร์เข้ามาจอด พอเขาเดินเข้ามาในบ้านม่านฟ้าไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปถามทันที "คุณซื้ออะไรมาทานบ้าง" นั่นคือคำถามของหญิงสาวอายุสิบแปดที่เวลานี้เธอยอมเอ่ยปากพูดดีกับเขา เพียงเพื่อปากท้อง ที่มันหิวจนยอมลดอีโก้ลงมาพูดดีกับคเชนทร์ คเชนทร์หันหน้ามามองม่านฟ้า พร้อมกับแสยะยิ้มส่งไปให้เธอ นั่นแหละสิ่งที่เขาต้องการ ต่อให้เธอหิ
ม่านฟ้าลากกระเป๋าขึ้นมาบนห้องอย่างทุลักทุเล เมื่อคเชนทร์ไม่ยอมให้ใครช่วยเหลือเธอเลย แถมยังให้คนเดินมาบอกห้องที่เธอจะนอนนั้นรกยังกับรังหนู ตายแน่ๆ แล้วเธอจะทำยังไง กวาดบ้านถูบ้านก็ไม่เคยทำม่านฟ้ายืนนึกอะไรได้สักพัก เวลานี้คเชนทร์ไม่อยู่บ้าน เขาขับรถออกไปข้างนอก เธอไม่รู้หรอกว่าเขาไปไหน แล้วเธอก็ไม่สนใจ เมื่อหญิงสาวกำลังมีแผนการแก้เผ็ดคเชนทร์ เขาคิดลองดีอยากแกล้งเธอนัก จะเอาให้ชักดิ้นชักงอตายเลยคอยดู หญิงสาวเปิดกระเป๋า แล้วหาผ้ามาปิดจมูกเอาไว้ ก่อนจะจัดการเปิดหน้าต่าง แล้วรื้อของในห้องโยนลงไปทีละชิ้น โดยไม่แยแสว่ามันจะแตกหรือไม่ ของชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ถูกโยนลงไปเกือบหมด เหลือเฉพาะชิ้นที่ใหญ่มาก ไม่พอดีกับหน้าต่าง และเธอก็ยกไม่ไหว เมื่อเสร็จเรียบร้อยม่านฟ้านั่งลงที่พื้นอย่างคนหมดแรง “คุณคเชนทร์ คุณต้องการเปิดศึกกับฉันใช่ไหม ถึงได้แกล้งฉันสารพัดแบบนี้ ถ้าคุณต้องการ ฉันก็จะจัดให้ รู้จักม่านฟ้าน้อยไปซะแล้ว”ม่านฟ้าพูดขึ้นอย่างผู้มีชัย เธอหารู้หรือไม่ว่าภัยกำลังคืบคลานมาใกล้ตัว คเชนทร์ไม่ปล่อยเธอไว้แน่ หากรู้ว่าสิ่งที่เธอ