คเชนทร์ นายหัวหนุ่มรูปหล่อ รูปร่างของเขาสมชายชาตรี อายุสามสิบปี เขาไม่เคยคิดที่จะมีความรักอีกครั้งหลังจากที่แฟนสาวเสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อห้าปีที่แล้ว นายหัวหนุ่มยังคงนำดอกไม้ไปวางไว้ที่หลุมฝังศพเธอทุกวันไม่มีวันไหนที่เขาลืมไข่มุกไปได้เลย ถ้าวันไหนเขาไม่อยู่ก็จะมีคนนำดอกไม้ไปให้เธอแทน ฉะนั้นเธอจึงไม่โดดเดี่ยว เมื่อเธอนั้นได้รับดอกไม้จากเขาในทุกๆ วัน เขาต่างหากที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวทั้งๆ ที่มีหญิงสาวพยายามเดินเข้ามาพัวพัน แต่เขากลับรู้สึกว่าเขาไม่มีวันที่จะลืมรักครั้งเก่าไปได้ จึงไม่นำใครเข้ามาภายในใจเขาจะปล่อยให้ใจดวงนี้ตายไปพร้อมกับไข่มุกคนรักเก่าของเขา แต่ทว่าเรื่องวุ่นๆ กำลังจะเกิดขึ้น เมื่อผู้เป็นบิดาส่งม่านฟ้ามาให้เขาปกครอง ซึ่งเขานั้นไม่เคยคิดจะญาติดีกับเธอเลยแม้แต่น้อย
もっと見るRrrrrr!! เสียงโทรศัพท์ของคเชนทร์ดังขึ้น ขณะที่เขากำลังเดินสำรวจต้นยางพารา และเตรียมที่จะตัดหญ้า ซึ่งมันสูงขึ้นหนามากแล้ว
"ฮัลโหลสวัสดีครับพ่อ พ่อสบายดีนะครับ ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรกับผมหรือเปล่า" คเชนทร์แปลกใจ เมื่อผู้เป็นบิดาโทรมา เพราะถ้าไม่มีธุระอะไรที่จำเป็นทั้งสองจะไม่ค่อยคุยกัน หลังจากที่บิดาตัดสินใจแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น เขาก็ไม่อยากเข้าไปพัวพันยุ่งกับชีวิตของบิดาอีกเลย
"คเชนทร์ช่วยไปรับม่านฟ้าที่สนามบินที ป่านนี้เธอก็คงไปถึงแล้วฉันขอมอบให้แกดูแล เป็นผู้ปกครองเธอแทนฉันด้วย"
“ฮ๋า! พ่อว่าอะไรนะครับ”
คเชนทร์ถึงกับอุทานออกมาด้วยความตกใจ ในเรื่องที่บิดาบอกเล่าผ่านสมาร์ต์โฟน นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมเขาต้องรับผิดชอบเธอแทนบิดาด้วย ไม่มีเหตุผลอะไร ที่เขาจะต้องดูแลลูกสาวของแม่เลี้ยง ซึ่งคอยสูบเงินตระกูลของเขา หล่อนกับลูกใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย เห็นเงินพวกนั้นเป็นเพียงแค่เศษกระดาษ ไม่เคยทำประโยชน์อันใด ให้กับบิดาของเขานอกจากเรื่องบนเตียง
"แม่ของม่านฟ้าเสียชีวิต ฉันไม่สามารถที่จะดูแลเธอได้ เธอเพิ่งอายุสิบแปดย่างสิบเก้า การที่อาศัยอยู่บ้านหลังนี้กับฉันแม้ผู้คนจะมากมาย แต่มันก็ไม่เหมาะสมอยู่ดี ที่พ่อเลี้ยงอย่างฉันจะอยู่กับลูกเลี้ยงสาวอย่างเธอ" คำพูดของผู้เป็นบิดาไม่เข้าหูเขาเลยสักนิด แล้วมันเกี่ยวอะไรกับชีวิตของเขา ที่จะต้องรับผิดชอบเด็กคนนั้น
"เถอะน่าคเชนทร์แค่ผู้หญิงคนเดียวแกดูแลไปเถอะ ส่งเธอเรียนมหาวิทยาลัยแถวนั้น พอจบแล้วมีงานทำ เดี๋ยวม่านฟ้าก็เดินออกไปจากชีวิตแกเอง"
คำพูดของบิดาแต่ละประโยคมันช่างง่ายดาย แต่เขาคงทนไม่ได้หากเธอมานอนร่วมชายคาเดียวกัน กว่าเธอจะเรียนจบอีกตั้งสี่ห้าปี มีหวังที่นี่วุ่นวายตายแน่
“ผมจะส่งเธอกลับไปให้พ่อ!” คเชนทร์ยังคงพูดยืนกรานคำเดิม เขาไม่มีทางที่จะรับเธอมาดูแล ไม่มีทางเลยจริงๆ
“ถือว่าพ่อขอแกเป็นครั้งสุดท้าย ในชีวิตได้ไหมคเชนทร์”
คำขอร้องของบิดามันช่างทิ่มแทงใจ ครั้งสุดท้ายของชีวิตอย่างนั้นเหรอ ทำไมบิดาถึงเลือกที่จะให้เขาเป็นผู้ปกครองดูแลเด็กคนนั้นด้วย ไม่เข้าใจเลยจริงๆ คเชนทร์ต้องทนหวานอมขมกลืน ในสิ่งที่บิดาได้มอบหมายให้เขาต้องรับผิดชอบเธอ
ม่านฟ้ารีบอาบน้ำทันที เมื่อเข้ามาถึงห้อง เพราะเธอรู้สึกเหนียวตัวไปหมด เมื่อโดนน้ำเค็มแถมชุดที่ใส่ก็ยังเปียกโชกอยู่เลย เธอไม่รู้ว่าต่อไปนี้ชีวิตจะต้องเจอกับอะไรบ้าง เมื่อนายหัวคเชนทร์นั้นประกาศเป็นศัตรูกับเธออย่างชัดเจน ยังดีที่ผู้ชายคนนั้นเขาเป็นสุภาพบุรุษ คอยช่วยเหลือเธอ แต่นั่นก็คงจะไม่ตลอด เพราะยังไงนายหัวคเชนทร์ก็คงจะไม่ปล่อยให้ชีวิตของเธออยู่แบบเป็นสุขแน่ เมื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จม่านฟ้าจึงเดินลงมาด้านล่าง เพื่อหาอะไรรับประทาน เพราะเธอเริ่มหิวจนไส้จะกิ่วแล้ว "ป้ามีอะไรทานบ้างคะ" "มีแกงเหลือง แกงไตปลา คุณม่านฟ้าไปนั่งรอที่โต๊ะเลยค่ะ เดี๋ยวป้าจัดการให้ นายหัวคเชนทร์ก็กำลังทานอยู่พอดี" คำบอกเล่าของป้าอุ่นทำให้ม่านฟ้าอยากแกล้ง นายหัวหนุ่ม เธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก่อนจะเดินตรงไปที่โต๊ะอาหาร "ไม่มีมารยาท" คำพูดของนายหัวคเชนทร์ดังขึ้น ทำให้ม่านฟ้าอยากจะเอากำปั้นตะบันหน้าเ
ม่านฟ้าถูกนายหัวคเชนทร์ลากขึ้นเรืออย่างทุลักทุเล เขาไม่ปรานีหรือแยแสต่อร่างเล็กของเธอเลยสักนิด เวลานี้ที่หน้าแข้งของเธอมีรอยถลอกเป็นทางยาว แล้วยังมีเลือดไหลซิบออกมา เมื่อนายหัวหนุ่มนั้นลากเธอไม่พ้น แล้วหน้าขาของม่านฟ้าครูดเข้ากับขอบเรือ “โอ๊ะ!! โอ๊ย!” ม่านฟ้าร้องออกมาเสียงดัง เมื่อเขาโยนร่างเล็กของเธอนั้นทุ่มลงไปกองกับท้องเรือ“หึหึ! แค่นี้มาทำเป็นสำออย อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะม่านฟ้า มารยาของเธอใช้กับฉันไม่ได้หรอก” พูดจบคเชนทร์ก็สั่งให้คนออกเรือ ไม่นานม่านฟ้าก็เริ่มเวียนหัว อยากจะอ้วกออกมา “อ้วกกก! ขับช้าหน่อยได้ไหม ฉันจะอ้วกแล้วเนี่ย! หรือจะให้อ้วกใส่เรือ” “เธอนี่มันเรื่องมากจังเลยนะยัยหน้ามึน” นายหัวคเชนทร์จำใจต้องสั่งให้คนขับเรือหยุดก่อน เพราะไม่อย่างนั้นม่านฟ้าคงอ้วกออกมาเต็มท้องลำเรือ และเขาก็ไม่ปรารถนาที่จะให้เป็นเช่นนั้น เพราะขยะแขยงทุกอย่างที่เป็นเธอ “อ้วก! อ๊วก!” ม่านฟ้าอ้วกออกจนหมดไส้หมดพุง ไม่นานเธอ
นายหัวคเชนทร์เดินตรงดิ่งมาที่ม่านฟ้าเขาไม่รอช้ากระชากเธอลุกขึ้นทันที ผู้หญิงอย่างเธอไม่ควรได้รับความปรานีจากเขาเช่นกัน เธอมันร้ายกว่าที่เขาคิดไว้เยอะ “โอ๊ะ! โอ้ยย!” "ปล่อยฉันเจ็บ!” ม่านฟ้าพยายามใช้เท้ายันพื้นเอาไว้ เพื่อไม่ให้นายหัวคเชนทร์นั้น ลากเธอออกไปจากห้องได้ แต่มันก็ไร้ผล เมื่อแรงของเขานั้นมีมหาศาลยังกับแรงของช้างก็ไม่ปาน ไม่นานเธอก็พ่ายแพ้ให้กับแรงชายจนได้ “นายหัวคเชนทร์ปล่อยคุณม่านฟ้าเถอะค่ะ เธอไม่สบายอยู่นะคะ” มารดาของมาหยาร้องขอออกไป แต่นายหัวคเชนทร์ก็ไม่ได้สนใจ ในการการกระทำนั้นเลย ข้อมือเล็กเรียวของเธอถูกเขากำไว้แน่น จนกระดูกแทบหัก ตอนนี้มันแดงไปหมดแล้วเพราะมือแกร่งที่แข็งแรงบีบรัดข้อมือเล็กเรียวเอาไว้แน่นเกินไป เหมือนเขากำลังตั้งใจแกล้งเธอ ก่อนจะผลักร่างอรชรให้ล้มลงไปต่อหน้าต่อตาอย่างไม่แยแส ตุ๊บ!!
ในขณะที่ม่านฟ้ากำลังหลับใหลได้ที่ ด้วยความเหนื่อยและเพลียจากการเดินทาง แถมยังต้องมาจัดห้องที่รกรุงรัง ร่างกายที่บอบบางของเธอ ซึ่งไม่เคยแม้แต่จะกวาดบ้าน เวลานี้ก็เริ่มจะมีไข้ตัวของเธอเริ่มร้อนระอุเป็นไฟ ในขณะที่นายหัวคเชนทร์เตรียมตัวจะออกไปสวนยาง ในเวลาเที่ยงคืน เขาตั้งใจจะแกล้งเธอ ให้สาสมกับที่มารดาของเธอได้พรากความรักของบิดาไปจากมารดาของเขา ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! คเชนทร์เคาะประตูหลายครั้ง แต่ม่านฟ้าก็ไม่เปิดให้เขาสักที เพราะในเวลานี้เธอไม่มีแม้แต่แรงจะลุกยืน มันปวดเมื่อยไปหมด "ม่านฟ้าฉันบอกให้เธอเปิดประตู ออกมาได้เวลาแล้ว!” นายหัวคเชนทร์ตะโกนออกไป แต่ก็ไร้เสียงตอบรับกลับมา ทำให้เขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ตัดสินใจพังประตูเข้าไป ปึง!!! "ลุกขึ้นมาได้ยินไหมที่เรียก บอกใ
คเชนทร์ขับรถกลับก็มืดค่ำแล้ว แต่ไฟที่บ้านหลังนี้เปิดจ้าทุกดวง ปกติถ้าเขาออกไปไหนมาหยา และมารดาของเธอ ก็จะทำอาหารรอกลับมาก็ทานได้เลย แต่วันนี้เขาสั่งให้ทุกคนไม่ต้องมาทำอาหาร งดงานบ้านทุกอย่าง เพราะเขาจะทานข้าวมาจากในเมือง และจะมีคนทำงานบ้านแทนแล้ว คนนั้ที่เขาพูดถึงก็คือม่านฟ้าในเวลานี้ม่านฟ้าหิวจนไส้กิ่วแล้ว เธอนั่งรอคเชนทร์กลับมา รอแล้วรอเล่าเขาก็ไม่มาสักที ในครัวก็ไม่มีอะไรทานได้ ข้าวที่เหลืออยู่ก้นหม้อ มันไม่พออิ่มด้วยซ้ำไข่ในตู้เย็นมีไม่กี่ฟองมันก็ดิบเธอกินไม่ได้ ติดเตาก็ไม่เป็น ม่านฟ้าเดินไปเดินมาแล้วก็กลับมานั่งที่เดิมอีกรอบ แล้วเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้น เมื่อรถของคเชนทร์เข้ามาจอด พอเขาเดินเข้ามาในบ้านม่านฟ้าไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปถามทันที "คุณซื้ออะไรมาทานบ้าง" นั่นคือคำถามของหญิงสาวอายุสิบแปดที่เวลานี้เธอยอมเอ่ยปากพูดดีกับเขา เพียงเพื่อปากท้อง ที่มันหิวจนยอมลดอีโก้ลงมาพูดดีกับคเชนทร์ คเชนทร์หันหน้ามามองม่านฟ้า พร้อมกับแสยะยิ้มส่งไปให้เธอ นั่นแหละสิ่งที่เขาต้องการ ต่อให้เธอหิ
ม่านฟ้าลากกระเป๋าขึ้นมาบนห้องอย่างทุลักทุเล เมื่อคเชนทร์ไม่ยอมให้ใครช่วยเหลือเธอเลย แถมยังให้คนเดินมาบอกห้องที่เธอจะนอนนั้นรกยังกับรังหนู ตายแน่ๆ แล้วเธอจะทำยังไง กวาดบ้านถูบ้านก็ไม่เคยทำม่านฟ้ายืนนึกอะไรได้สักพัก เวลานี้คเชนทร์ไม่อยู่บ้าน เขาขับรถออกไปข้างนอก เธอไม่รู้หรอกว่าเขาไปไหน แล้วเธอก็ไม่สนใจ เมื่อหญิงสาวกำลังมีแผนการแก้เผ็ดคเชนทร์ เขาคิดลองดีอยากแกล้งเธอนัก จะเอาให้ชักดิ้นชักงอตายเลยคอยดู หญิงสาวเปิดกระเป๋า แล้วหาผ้ามาปิดจมูกเอาไว้ ก่อนจะจัดการเปิดหน้าต่าง แล้วรื้อของในห้องโยนลงไปทีละชิ้น โดยไม่แยแสว่ามันจะแตกหรือไม่ ของชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ถูกโยนลงไปเกือบหมด เหลือเฉพาะชิ้นที่ใหญ่มาก ไม่พอดีกับหน้าต่าง และเธอก็ยกไม่ไหว เมื่อเสร็จเรียบร้อยม่านฟ้านั่งลงที่พื้นอย่างคนหมดแรง “คุณคเชนทร์ คุณต้องการเปิดศึกกับฉันใช่ไหม ถึงได้แกล้งฉันสารพัดแบบนี้ ถ้าคุณต้องการ ฉันก็จะจัดให้ รู้จักม่านฟ้าน้อยไปซะแล้ว”ม่านฟ้าพูดขึ้นอย่างผู้มีชัย เธอหารู้หรือไม่ว่าภัยกำลังคืบคลานมาใกล้ตัว คเชนทร์ไม่ปล่อยเธอไว้แน่ หากรู้ว่าสิ่งที่เธอ
コメント