ม่านฟ้าลากกระเป๋าขึ้นมาบนห้องอย่างทุลักทุเล เมื่อคเชนทร์ไม่ยอมให้ใครช่วยเหลือเธอเลย แถมยังให้คนเดินมาบอกห้องที่เธอจะนอนนั้นรกยังกับรังหนู ตายแน่ๆ แล้วเธอจะทำยังไง กวาดบ้านถูบ้านก็ไม่เคยทำ
ม่านฟ้ายืนนึกอะไรได้สักพัก เวลานี้คเชนทร์ไม่อยู่บ้าน เขาขับรถออกไปข้างนอก เธอไม่รู้หรอกว่าเขาไปไหน แล้วเธอก็ไม่สนใจ เมื่อหญิงสาวกำลังมีแผนการแก้เผ็ดคเชนทร์ เขาคิดลองดีอยากแกล้งเธอนัก จะเอาให้ชักดิ้นชักงอตายเลยคอยดู
หญิงสาวเปิดกระเป๋า แล้วหาผ้ามาปิดจมูกเอาไว้ ก่อนจะจัดการเปิดหน้าต่าง แล้วรื้อของในห้องโยนลงไปทีละชิ้น โดยไม่แยแสว่ามันจะแตกหรือไม่ ของชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ถูกโยนลงไปเกือบหมด เหลือเฉพาะชิ้นที่ใหญ่มาก ไม่พอดีกับหน้าต่าง และเธอก็ยกไม่ไหว เมื่อเสร็จเรียบร้อยม่านฟ้านั่งลงที่พื้นอย่างคนหมดแรง
“คุณคเชนทร์ คุณต้องการเปิดศึกกับฉันใช่ไหม ถึงได้แกล้งฉันสารพัดแบบนี้ ถ้าคุณต้องการ ฉันก็จะจัดให้ รู้จักม่านฟ้าน้อยไปซะแล้ว”ม่านฟ้าพูดขึ้นอย่างผู้มีชัย เธอหารู้หรือไม่ว่าภัยกำลังคืบคลานมาใกล้ตัว คเชนทร์ไม่ปล่อยเธอไว้แน่ หากรู้ว่าสิ่งที่เธอกำลังทำนั้นคือการทำลายข้าวของในบ้านของเขา
หญิงสาวก้มดูฝ่ามือตัวเอง ที่เวลานี้มีเลือดซึมออกมา เหมือนจะโดนเสี้ยนตำ ก่อนที่จะตัดสินใจลุกขึ้นไป โยนข้าวของพวกนั้นออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง
"เจ็บชะมัดเลย ทำไมโชคชะตาถึงได้เล่นตลกกับคนสวยอย่างฉันด้วยนะ"
ม่านฟ้าพูดพร้อมกับเป่าลงที่มือเบาๆ ก่อนจะเดินไปหยิบไม้กวาดมากวาดฝุ่นออกไปอย่างเก้ๆกังๆ กับท่าทางของเธอที่ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน ไม่รู้แม้กระทั่งว่าต้องกวาดออกไปตรงรวมกันไว้ตรงไหน เวลานี้ม่านฟ้ากวาดมารวมกันไว้ตรงบันไดทางเดินขึ้นพอดิบพอดี เหมือนกับว่าเธอนั้นกำลังตั้งใจ จะทำให้ใครโมโหขึ้นมา
ก่อนจะเดินลงไปหาถัง พร้อมกับไม้ถูพื้น ไม่นานห้องของเธอก็สะอาด แต่ไม่สะอ้าน มันยังมีฝุ่นเกาะอยู่บ้างเป็นบางจุด แต่ม่านฟ้าก็ไม่สนใจ แค่เธอลงมือทำก็สุดยอดแค่ไหนแล้ว
หลังจากนั้นม่านฟ้าขอร้องให้มาหยา ซึ่งเป็นคนงานในสวนยางช่วยยกที่นอนปิกนิกให้เธอ ตอนแรกมาหยาก็ปฏิเสธ แต่พอโดนม่านฟ้ารบเร้าหนักเข้าเธอก็ยอมช่วย
“ถ้ามาหยาช่วยเสร็จ ฉันอนุญาตให้เธอเลือกชุดของฉันไปใส่ได้หนึ่งชุดโอเคไหม”
"ชุดแบบที่เธอใส่นะเหรอ" เด็กสาวอายุประมาณยี่สิบกว่าผิวของเธอดูเนียนเป็นสีน้ำผึ้ง แต่มีใบหน้าที่คมปากนิดจมูกหน่อยถือว่าสวยเลยทีเดียว
"ส่วนมากก็มีแต่ชุดแบบนี้ ก็บอกแล้วไงว่าให้เลือกที่ชอบไปหนึ่งชุด" ม่านฟ้าพูดขึ้น ในขณะที่เธอกำลังจัดที่นอนอย่างไม่เป็นระเบียบและไม่เรียบร้อย ของในห้องยังคงกระจัดกระจาย เมื่อเธออนุญาตให้มาหยาเลือกชุด ในที่สุดมาหยาก็เลือกมาได้ เป็นชุดเดรสสีแดง
“แน่ใจแล้วเหรอว่าจะเอาชุดนี้”
"ทำไมล่ะ ไหนบอกว่าให้เลือกชุดไหนก็ได้ ไม่ใช่หรือไง" มาหยาทักท้วงขึ้น หลังจากที่ม่านฟ้าได้ตกลงกับเธอเอาไว้ ว่าให้เลือกเอาชุดไหนก็ได้ แต่อยู่ ๆ จะมาเปลี่ยนใจ เธอก็ไม่ยอมเหมือนกัน
"เปล่า คำไหนคำนั้นอยู่แล้ว แค่ถามว่าแน่ใจแล้วเหรอ"
“อืม...แน่ใจแล้ว” มาหยาพูดแล้วเดินจากไป พร้อมกับชุดเก่งของม่านฟ้า หญิงสาวนั่งปั้นหน้าละห้อย อาลัยอาวรณ์ชุดโปรด ที่เธอเพิ่งใส่ได้แค่ครั้งเดียว บัดนี้มันได้ตกไปเป็นของผู้อื่นไปเสียแล้ว ม่านฟ้าทรุดตัวลงนั่ง แล้วคร่ำครวญ ก่อนจะลุกไปจัดชุดเข้าตู้ที่ไม่เป็นระเบียบและระบบเหมือนอย่างเคย
ม่านฟ้ารีบอาบน้ำทันที เมื่อเข้ามาถึงห้อง เพราะเธอรู้สึกเหนียวตัวไปหมด เมื่อโดนน้ำเค็มแถมชุดที่ใส่ก็ยังเปียกโชกอยู่เลย เธอไม่รู้ว่าต่อไปนี้ชีวิตจะต้องเจอกับอะไรบ้าง เมื่อนายหัวคเชนทร์นั้นประกาศเป็นศัตรูกับเธออย่างชัดเจน ยังดีที่ผู้ชายคนนั้นเขาเป็นสุภาพบุรุษ คอยช่วยเหลือเธอ แต่นั่นก็คงจะไม่ตลอด เพราะยังไงนายหัวคเชนทร์ก็คงจะไม่ปล่อยให้ชีวิตของเธออยู่แบบเป็นสุขแน่ เมื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จม่านฟ้าจึงเดินลงมาด้านล่าง เพื่อหาอะไรรับประทาน เพราะเธอเริ่มหิวจนไส้จะกิ่วแล้ว "ป้ามีอะไรทานบ้างคะ" "มีแกงเหลือง แกงไตปลา คุณม่านฟ้าไปนั่งรอที่โต๊ะเลยค่ะ เดี๋ยวป้าจัดการให้ นายหัวคเชนทร์ก็กำลังทานอยู่พอดี" คำบอกเล่าของป้าอุ่นทำให้ม่านฟ้าอยากแกล้ง นายหัวหนุ่ม เธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก่อนจะเดินตรงไปที่โต๊ะอาหาร "ไม่มีมารยาท" คำพูดของนายหัวคเชนทร์ดังขึ้น ทำให้ม่านฟ้าอยากจะเอากำปั้นตะบันหน้าเ
ม่านฟ้าถูกนายหัวคเชนทร์ลากขึ้นเรืออย่างทุลักทุเล เขาไม่ปรานีหรือแยแสต่อร่างเล็กของเธอเลยสักนิด เวลานี้ที่หน้าแข้งของเธอมีรอยถลอกเป็นทางยาว แล้วยังมีเลือดไหลซิบออกมา เมื่อนายหัวหนุ่มนั้นลากเธอไม่พ้น แล้วหน้าขาของม่านฟ้าครูดเข้ากับขอบเรือ “โอ๊ะ!! โอ๊ย!” ม่านฟ้าร้องออกมาเสียงดัง เมื่อเขาโยนร่างเล็กของเธอนั้นทุ่มลงไปกองกับท้องเรือ“หึหึ! แค่นี้มาทำเป็นสำออย อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะม่านฟ้า มารยาของเธอใช้กับฉันไม่ได้หรอก” พูดจบคเชนทร์ก็สั่งให้คนออกเรือ ไม่นานม่านฟ้าก็เริ่มเวียนหัว อยากจะอ้วกออกมา “อ้วกกก! ขับช้าหน่อยได้ไหม ฉันจะอ้วกแล้วเนี่ย! หรือจะให้อ้วกใส่เรือ” “เธอนี่มันเรื่องมากจังเลยนะยัยหน้ามึน” นายหัวคเชนทร์จำใจต้องสั่งให้คนขับเรือหยุดก่อน เพราะไม่อย่างนั้นม่านฟ้าคงอ้วกออกมาเต็มท้องลำเรือ และเขาก็ไม่ปรารถนาที่จะให้เป็นเช่นนั้น เพราะขยะแขยงทุกอย่างที่เป็นเธอ “อ้วก! อ๊วก!” ม่านฟ้าอ้วกออกจนหมดไส้หมดพุง ไม่นานเธอ
นายหัวคเชนทร์เดินตรงดิ่งมาที่ม่านฟ้าเขาไม่รอช้ากระชากเธอลุกขึ้นทันที ผู้หญิงอย่างเธอไม่ควรได้รับความปรานีจากเขาเช่นกัน เธอมันร้ายกว่าที่เขาคิดไว้เยอะ “โอ๊ะ! โอ้ยย!” "ปล่อยฉันเจ็บ!” ม่านฟ้าพยายามใช้เท้ายันพื้นเอาไว้ เพื่อไม่ให้นายหัวคเชนทร์นั้น ลากเธอออกไปจากห้องได้ แต่มันก็ไร้ผล เมื่อแรงของเขานั้นมีมหาศาลยังกับแรงของช้างก็ไม่ปาน ไม่นานเธอก็พ่ายแพ้ให้กับแรงชายจนได้ “นายหัวคเชนทร์ปล่อยคุณม่านฟ้าเถอะค่ะ เธอไม่สบายอยู่นะคะ” มารดาของมาหยาร้องขอออกไป แต่นายหัวคเชนทร์ก็ไม่ได้สนใจ ในการการกระทำนั้นเลย ข้อมือเล็กเรียวของเธอถูกเขากำไว้แน่น จนกระดูกแทบหัก ตอนนี้มันแดงไปหมดแล้วเพราะมือแกร่งที่แข็งแรงบีบรัดข้อมือเล็กเรียวเอาไว้แน่นเกินไป เหมือนเขากำลังตั้งใจแกล้งเธอ ก่อนจะผลักร่างอรชรให้ล้มลงไปต่อหน้าต่อตาอย่างไม่แยแส ตุ๊บ!!
ในขณะที่ม่านฟ้ากำลังหลับใหลได้ที่ ด้วยความเหนื่อยและเพลียจากการเดินทาง แถมยังต้องมาจัดห้องที่รกรุงรัง ร่างกายที่บอบบางของเธอ ซึ่งไม่เคยแม้แต่จะกวาดบ้าน เวลานี้ก็เริ่มจะมีไข้ตัวของเธอเริ่มร้อนระอุเป็นไฟ ในขณะที่นายหัวคเชนทร์เตรียมตัวจะออกไปสวนยาง ในเวลาเที่ยงคืน เขาตั้งใจจะแกล้งเธอ ให้สาสมกับที่มารดาของเธอได้พรากความรักของบิดาไปจากมารดาของเขา ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! คเชนทร์เคาะประตูหลายครั้ง แต่ม่านฟ้าก็ไม่เปิดให้เขาสักที เพราะในเวลานี้เธอไม่มีแม้แต่แรงจะลุกยืน มันปวดเมื่อยไปหมด "ม่านฟ้าฉันบอกให้เธอเปิดประตู ออกมาได้เวลาแล้ว!” นายหัวคเชนทร์ตะโกนออกไป แต่ก็ไร้เสียงตอบรับกลับมา ทำให้เขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ตัดสินใจพังประตูเข้าไป ปึง!!! "ลุกขึ้นมาได้ยินไหมที่เรียก บอกใ
คเชนทร์ขับรถกลับก็มืดค่ำแล้ว แต่ไฟที่บ้านหลังนี้เปิดจ้าทุกดวง ปกติถ้าเขาออกไปไหนมาหยา และมารดาของเธอ ก็จะทำอาหารรอกลับมาก็ทานได้เลย แต่วันนี้เขาสั่งให้ทุกคนไม่ต้องมาทำอาหาร งดงานบ้านทุกอย่าง เพราะเขาจะทานข้าวมาจากในเมือง และจะมีคนทำงานบ้านแทนแล้ว คนนั้ที่เขาพูดถึงก็คือม่านฟ้าในเวลานี้ม่านฟ้าหิวจนไส้กิ่วแล้ว เธอนั่งรอคเชนทร์กลับมา รอแล้วรอเล่าเขาก็ไม่มาสักที ในครัวก็ไม่มีอะไรทานได้ ข้าวที่เหลืออยู่ก้นหม้อ มันไม่พออิ่มด้วยซ้ำไข่ในตู้เย็นมีไม่กี่ฟองมันก็ดิบเธอกินไม่ได้ ติดเตาก็ไม่เป็น ม่านฟ้าเดินไปเดินมาแล้วก็กลับมานั่งที่เดิมอีกรอบ แล้วเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้น เมื่อรถของคเชนทร์เข้ามาจอด พอเขาเดินเข้ามาในบ้านม่านฟ้าไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปถามทันที "คุณซื้ออะไรมาทานบ้าง" นั่นคือคำถามของหญิงสาวอายุสิบแปดที่เวลานี้เธอยอมเอ่ยปากพูดดีกับเขา เพียงเพื่อปากท้อง ที่มันหิวจนยอมลดอีโก้ลงมาพูดดีกับคเชนทร์ คเชนทร์หันหน้ามามองม่านฟ้า พร้อมกับแสยะยิ้มส่งไปให้เธอ นั่นแหละสิ่งที่เขาต้องการ ต่อให้เธอหิ
ม่านฟ้าลากกระเป๋าขึ้นมาบนห้องอย่างทุลักทุเล เมื่อคเชนทร์ไม่ยอมให้ใครช่วยเหลือเธอเลย แถมยังให้คนเดินมาบอกห้องที่เธอจะนอนนั้นรกยังกับรังหนู ตายแน่ๆ แล้วเธอจะทำยังไง กวาดบ้านถูบ้านก็ไม่เคยทำม่านฟ้ายืนนึกอะไรได้สักพัก เวลานี้คเชนทร์ไม่อยู่บ้าน เขาขับรถออกไปข้างนอก เธอไม่รู้หรอกว่าเขาไปไหน แล้วเธอก็ไม่สนใจ เมื่อหญิงสาวกำลังมีแผนการแก้เผ็ดคเชนทร์ เขาคิดลองดีอยากแกล้งเธอนัก จะเอาให้ชักดิ้นชักงอตายเลยคอยดู หญิงสาวเปิดกระเป๋า แล้วหาผ้ามาปิดจมูกเอาไว้ ก่อนจะจัดการเปิดหน้าต่าง แล้วรื้อของในห้องโยนลงไปทีละชิ้น โดยไม่แยแสว่ามันจะแตกหรือไม่ ของชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ถูกโยนลงไปเกือบหมด เหลือเฉพาะชิ้นที่ใหญ่มาก ไม่พอดีกับหน้าต่าง และเธอก็ยกไม่ไหว เมื่อเสร็จเรียบร้อยม่านฟ้านั่งลงที่พื้นอย่างคนหมดแรง “คุณคเชนทร์ คุณต้องการเปิดศึกกับฉันใช่ไหม ถึงได้แกล้งฉันสารพัดแบบนี้ ถ้าคุณต้องการ ฉันก็จะจัดให้ รู้จักม่านฟ้าน้อยไปซะแล้ว”ม่านฟ้าพูดขึ้นอย่างผู้มีชัย เธอหารู้หรือไม่ว่าภัยกำลังคืบคลานมาใกล้ตัว คเชนทร์ไม่ปล่อยเธอไว้แน่ หากรู้ว่าสิ่งที่เธอ