“ยิ้มอะไร หรืออยากให้รางวัลผม ใช่ไหมล่ะ” เขาจ้องหน้าภรรยาสาวอย่างไม่กะพริบตา แต่ดูเหมือนว่าเธอเองก็ชอบใจ ที่กวินเอาอกเอาใจและดูแลเธอกับลูก ไหนจะน้องสาว ซึ่งค่าเทอมและที่พักของใบบัวกวินเป็นคนจัดการจ่ายเองทั้งหมดอย่างไม่ลังเล
“หิวข้าวจัง... แต่ขออาบน้ำก่อนนะคะ เหนียวตัวจะแย่ ขอบคุณนะที่อุ้มฉันขึ้นมา จุ๊บ!” ใบบุญไม่พูดเปล่า ก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัว หญิงสาวได้จุมพิตลงไปที่ริมฝีปากอุ่นของสามีอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยรอยยิ้มที่เขินอายจนแก้มแดงเป็นลูกตำลึงสุก
“รีบอาบนะจ๊ะเมียจ๋า จะนอนรอไม่ไปไหน” กวินพูดออกมาเสียงดัง แน่นอนใบบุญได้ยินชัดเจน จนเผลอยิ้มให้กับคำพูดของกวิน นอกจากเขาจะดูสุขุมในลุคของผู้ใหญ่ สามีของเธอก็มักจะอ่อนโยนและเอาอกเอาใจเก่ง จนใบบุญรู้สึกว่าตัวเองโชคดี ที่ได้ผู้ชายอย่างกวินมาเป็นสามีและพ่อของลูก
เมื่อหญิงสาวอาบน้ำเสร็จ เธอถึงกับทำหน้าเอือม เพราะลืมหยิบชุดนอนเข้ามาด้วย ซึ่งในเวลานี้บนเรือนกายของเธอมีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันรอบอกเอาไว้ ซึ่งถ้าเดินออกไปในสภาพนี้คงไม้พ้นจากการถูกกวินรุกรานเป็นแน่
“คนบ้ายิ่งหื่นอยู่ด้วย เดินออกไปแบบนี้มีหวังถูกกดจมเตียงแน่ ทำไงดีนะ” หญิงสาวบ่นพึมพำในห้องน้ำคนเดียว ใช่ว่าเธอไม่อยากสานสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งตรึงใจกับสามี แต่ใบบุญกำลังกลัวว่ากวินจะเบื่อแล้วคิดว่าเธอเป็นของตาย เพราะผู้หญิงที่เข้ามาพัวพันกับเขาในแต่ละวันนั้น ล้วนมีดีกรีเป็นถึงนักธุรกิจที่สร้างประโยชน์ให้กับบริษัทกวินชูมากมาย ขณะที่เธอเป็นเพียงแค่สาวโรงงาน ไม่มีทางเทียบชั้นกับผู้หญิงพวกนั้นได้เลย
“เอาวะ! อ่อยผัวจะกลัวอะไร” หญิงสาวไมได้คิดในใจแต่พูดออกมาเสียงดัง พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ ราวกับกำลังจะออกไปรบก็ไม่ปาน
แต่ทว่าพอเดินออกมาจากห้องน้ำเธอกลับไม่เจอกวิน ก่อนจะได้ยินเสียงเขาพูดอยู่ที่ระเบียง ใครโทรมาทำไมสามีของเธอต้องออกไปรับโทรศัพท์นอกห้องแบบนั้น ด้วยความอยากรู้จึงทำให้ใบบุญยอมเสียมารยาท หญิงสาวค่อยๆ ย่องเบาๆ ไปที่ประตูทางออกระเบียง ซึ่งกวินปิดไม่สนิท จึงทำให้เธอได้ยินเสียงที่เขาเอ่ยชื่อคนที่กำลังสนทนาด้วยเต็มสองหู จนทำให้เธอถึงกับสตั้นไปชั่วขณะ
“ผมทราบเรื่องจากคุณไพลินแล้วครับ ถ้าคุณริสาต้องการฉลองการกลับมาเมืองไทย ในคืนนั้นผมก็ไม่ขัดข้องอะไร” กวินยืนพูดอยู่ที่ระเบียงด้วยใบหน้าที่ไม่ยินดีในการกลับมาของริสาสักเท่าไหร่นัก แต่ใบบุญกลับกำลังคิดไปไกล เมื่อเธอได้ยินในสิ่งที่กวินได้พูดออกมา ‘ในคืนนั้น’ หมายความว่ายังไงกัน สามีของเธอกำลังคิดจะทำอะไร
“ริสาคิดถึงคุณจัง กลับไปครั้งนี้ คุณคงไม่เลื่อนงานหมั้นของเราออกไปอีกนะคะ” ดูเหมือนว่าหล่อนกำลังรู้ทันความคิดของกวิน เมื่อเพื่อนส่งคลิปที่ร้านอาหารวันนั้นมาให้ดู ซึ่งกวินทีท่าทีเอาอกเอาใจใบบุญ เกินกว่าที่หล่อนจะเชื่อว่าหญิงสาวเป็นผู้ช่วยของท่านประธานหนุ่ม
“ผมว่าเรื่องนี้เราค่อยคุยกันดีกว่านะครับ ผมมีงานต้องทำต่อ คุณมีอะไรอีกหรือเปล่า ผมขอวางสายนะครับ”
“เดี๋ยวก่อนค่ะ!” น้ำเสียงของริสาตะคอกมาตามสายอย่างไม่ชอบใจ เมื่อกวินกำลังจะวางสายด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นเลยสักนิด
“มีอะไรอีกครับ เอาไว้คุยกันที่ภูเก็ตดีกว่า เดี๋ยวผมให้ตะวันไปรับที่สนามบิน” คำพูดที่ฟังดูธรรมดา กลับทำให้ใบบุญรู้สึกว่าเธอกำลังถูกใบมีดกรีดลงกลางใจ เมื่อผู้หญิงคนนั้นคู่ควรกับสามีของเธอทุกประการ แล้วถ้อยคำเหล่านั้นช่างมีอิทธิพลต่อหัวใจของเธอเหลือเกิน
“ไม่ค่ะ คุณต้องมารับริสา ไม่อย่างนั้นละก็...ริสาจะถือว่าคุณรังเกียจริสา ถึงได้พยายามทำตัวเหมือนคนแปลกหน้าขึ้นทุกวัน” หล่อนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อน แต่กวินกลับรู้สึกรำคาญมากกว่า เมื่อเขาไม่ได้รู้สึกพิเศษกับหล่อนมากไปกว่าเพื่อนร่วมงานหรือลูกสาวหุ้นส่วนอีกคนของเขาเท่านั้น
“คุณกำลังเข้าใจผมผิดนะริสา เอาไว้ถ้าผมว่างจะไปรับคุณด้วยตัวเองเลย แค่นี้นะครับ” ยิ่งกวินพยายามหาคำพูดมาโต้แย้งริสา ใบบุญกลับเข้าใจผิดไปใหญ่
“น่ารักจัง กู๊ดไนท์นะคะ จุ๊บ!”
เมื่อวางสายจากริสากวินได้ถอนหายใจออกมาเสียงดัง ก่อนที่เขาจะเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องนอน ซึ่งในตอนนี้ใบบุญได้นอนห่มผ้านอนตะแคงข้างหันหลังให้กับเขา ถ้ากวินเดาไม่ผิดเธอลืมใส่ชุดนอนหรือตั้งใจจะนอนแบบไม่ใส่อะไรเลยหรืออย่างไร
“นี่คุณ ไหนว่าหิวไง หลับแล้วเหรอครับ หืม” ชายหนุ่มโน้มตัวลงนอนข้างๆ หญิงสาว เสียงสะอื้นเบาๆ ทำให้กวินรู้ทันทีว่าเธอคงแอบได้ยินบทสนทนาที่เขาพูดกับริสาอย่างแน่นอน
“ร้องไห้ทำไม ผมกับริสาไม่มีทางที่จะลงเอยกันได้ เพราะผมมีภรรยาและลูกสาวที่น่ารักขนาดนี้ ต่อให้ใครจะมองว่าเราไม่เหมาะสมกัน มันไม่ใช่สิ่งสำคัญ เพราะหัวใจของผมมีไว้ให้คุณคนเดียว” น้ำเสียงทุ้มของชายหนุ่มดังขึ้น แต่ทว่าได้แฝงความอ่อนโยนเอาไว้ในทีด้วย เมื่อเขากำลังใช้ความพยายามอธิบายให้คนตัวเล็กเข้าใจ ในความรู้สึกจากก้นบึ้งของหัวใจที่เขามีให้เพียงแค่เธอ
“ถอยไปเลยนะ ฉันจะไปใส่ชุดนอน” เมื่อความรู้สึกสับสนเกิดขึ้นภายในใจดวงน้อย จึงทำให้หญิงสาวเริ่มหวั่นไหวกับสิ่งที่ได้ยินจากปากของผู้เป็นสามี แต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่ควรนอนห่มผ้า ทั้งที่เรือนกายมีแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันรอบอกเอาไว้แบบนี้
“หายงอนผมแล้วเหรอครับ หืม” ชายตัวโตรั้งหญิงสาวร่างอรชรพลิกกายหันหน้าเข้าหา พร้อมกับสบตาเธออย่างมีนัยลึกซึ้งตรึงใจ
“มีคนเคยบอกว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ คุณจ้องมาที่ดวงตาของผมแล้วจะรู้ว่า ดวงตาคู่นี้มันไม่ได้มีไว้มองผู้หญิงคนไหน นอกจากคุณเท่านั้นใบบุญ” ดวงตาคมจับจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าเป็นประกาย จนทำให้ใบบุญเบือนหน้าหน้า ฝ่ามือเล็กของเธอดันอกแกร่งให้ออกห่าง แต่ทว่าชายตัวโตยิ่งเบียดเข้าหาหญิงสาวจนแทบสิงร่างได้อยู่แล้ว
“ฉันจะไปใส่ชุดนอน ปล่อยสิค่ะ คุณกวินไม่เอาค่ะ” หญิงสาวพยายามดันเขาออกห่างอีกครั้ง แต่ทว่าจมูกคมของสามีหนุ่มของเธอกำลังไซ้ลงมาที่ซอกคอหอมกรุ่นอย่างไม่ลดละ มือของเขายังซุกซนสอดมาใต้ผ้าห่ม พร้อมกับรั้งผ้าเช็ดตัวออกจากเรือนกายขาวผ่องเพียงแค่เสี้ยววินาที เรือนกายของเธอก็เปลือยเปล่าล่อนจ้อน
“คุณหิวหรือเปล่า”
“หิวสิค่ะ ฉันทำงานมาทั้งวัน ปล่อยนะ” ใบบุญพูดออกไปด้วยน้ำเสียงห้วน แต่ทว่าคนฟังกลับยกยิ้มน้อยๆ ขึ้นที่มุมปากอย่างชอบใจ
“กินผมแทนก่อนได้ไหม แล้วผมจะลงไปหาอะไรขึ้นมาให้คุณทาน นะครับคนดี ผมอดใจไม่ไหวแล้ว”
“ฉันว่าเธอไปหาหมอดีกว่าไหม หน้าซีดเชียว” ชมพู่เอ่ยถามเพื่อออกมาด้วยความห่วงใย ขณะที่อันดาเริ่มอยากหาเรื่องใบบุญขึ้นมาอีกครั้ง “ชมพู่นี่เธอคิดจะอู้งานเหรอ” อันดาเดินตรงมาที่สองสาว ขณะที่ชมพู่พัดวีหายาให้ใบบุญทาและสูดดม “วันนี้ฉันขอลาครึ่งวันนะคะ เพราะใบบุญไม่สบาย ในฐานะเพื่อนร่วมงาน ฉันคงทิ้งให้เพื่อนเป็นลมล้มคว่ำไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้หรอกนะคะ” คำพูดของชมพู่ทำให้ใบบุญซึ้งใจไม่น้อย คงมีเพียงแค่อันดาที่กำลังใช้ตำแหน่งงานที่สูงกว่าข่มเพื่อนร่วมงานอย่างไม่มีเหตุผล “เกิดอะไรขึ้นครับ” น้ำเสียงทุ้มของเพชรภูมิดังขึ้น ซึ่งทำให้ใบบุญถึงกับถอนหายใจออกมาเสียงดัง “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่ฉันรู้สึกไม่สบายนิดหน่อย” ใบบุญรีบพูดออกไปตามความเป็นจริง เพราะเธอเริ่มรู้สึกว่าอันจะเรื่องเยอะขึ้นทุกวัน “คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่า ผมพาไปหาหมอไหมครับ” เพชรภูมิพูดพร้อมกับเดินเข้าใกล้ใบบุญ จนเธอรีบเขยิบออกแทบไม่ทัน ทั้งที่กำลังรู้สึกวิงเวียน
“ไม่จริงหรอกครับ ตอนนี้ใบโพธิ์คงยุ่ง เขากำลังสร้างตัวก็เพื่อคุณกับลูกนะริสา” กวินพยายามคิดหาถ้อยคำมาปลอบหญิงสาว ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะสรรหาคำไหนมาพูด เพื่อให้ริสาเข้าใจใบโพธิ์มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในเวลานี้ “สร้างตัวมันคนละเรื่องกับการสร้างกำลังใจ ถ้าเขาไม่มีใครทำไมไม่มาเจอกันบ้าง ผู้ชายอย่างเขาคงไม่มีหัวใจ แต่มันก็ไม่แปลกอะไร ที่เขาจะไม่แคร์ผู้หญิงอย่างริสา เพราะเรารู้จักกันแค่วันสองวันเอง ไม่ต่างจากคนแปลกหน้าเลยสักนิด” หญิงสาวจะรู้หรือเปล่าว่า แค่วันสองวันนั้นมีค่ากับใบโพธิ์แค่ไหน เขาจึงรีบตัดสินใจรับข้อเสนอของพี่เขย ยอมติดหนี้สามีของพี่สาวก้อนโต ก็เพราะว่าชายหนุ่มหวังอยากให้บิดาของริสายอมรับในตัวเขาให้เร็วที่สุด “บางทีใบโพธิ์ก็อาจจะคิดถึงคุณจนแทบทนไม่ไหว แต่ที่ยอมหายไป เพราะเขามีเหตุผลบางอย่างก็ได้ อย่าคิดมากเลยนะคุณริสา เอาไว้เดี๋ยวผมจะจัดการคุยกับใบโพธิ์ให้นะครับ” “คงไม่จำเ
“คำพูดคำจาวกมาแต่เรื่องบนเตียง เดี๋ยวก็ไม่บอกข่าวดี ปล่อยให้ง้ออีกสักสี่ห้าเดือน จะได้รู้รสชาติของการถูกเมียงอนเสียบ้าง” “อย่างอนเลยนะครับคุณภรรยา แค่นี้ผมก็ใจจะขาดรอนๆ อยู่แล้ว ขืนคุณงอนต่อไปอีกสี่ห้าเดือน ผมคงต้องตายแน่นอน” กวินพูดออกมาด้วยเสียงอ้อน พร้อมกับตีไฟเลี้ยวเข้าไปในบริษัท ขณะที่ใบบุญยิ้มน้อยๆ ให้กับความน่ารักของท่านประธานหนุ่ม เวลาที่เขาใช้เสียงสองกับเธอดูแล้วไม่ต่างจากลูกแมวดีๆ นี่เอง เมื่อรถยนต์คันหรูจอดสนิท พนักงานรักษาความปลอดภัยรีบเดินตรงมาทันที เพื่อเอารถของท่านประธานไปเก็บในโรงจอดรถของผู้บริหาร แต่ทว่าคราวนี้นอกจากพนักงานรักษาความปลอดภัยจะแสดงสีหน้าสงสัย เมื่อหญิงสาวในชุดฟอร์มโรงงานเดินลงมาจากรถของท่านประธานยังมีพนักงานออฟฟิศหลายคนเริ่มซุบซิบกัน หลังจากที่กวินเดินอ้อมมาเปิดประตูให้กับใบบุญ พร้อมกับส่งปิ่นโตอาหารให้กับเธอ เพราะนั่นหมายถึงหญิงสาวไม่ต่างจากคนสำคัญสำหรับเขา “ขอบคุณค่ะ แล้วเจอกันนะ” “กว่าจะได้กินอาหารก็เย็นหมด เอาไว
นับเวลาจากที่หญิงสาวงอนผู้เป็นสามี นี่ก็ล่วงเลยมาเดือนกว่าๆ แล้ว แต่ทว่าใบบุญก็ยังคงบึ้งตึง จนกวินเริ่มเอะใจ เมื่อภรรยาของเขาเริ่มเปลี่ยนไป ค่อยๆ ห่างเหินจนกลายเป็นความเฉยชา ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามเอาอกเอาใจเธอแค่ไหนกลับไม่เป็นผล ซึ่งใบบุญไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้ หญิงสาวเกลียดแม้กระทั่งกลิ่นน้ำหอมที่เขาเคยใช้ เธอบ่นท่านประธานหนุ่มจนหูชาแล้วบอกว่ากลิ่นเหม็นชวนให้คลื่นไส้ ซึ่งทำให้กวินต้องเลิกใช้ไปโดยปริยาย บวกกับระยะเวลาหลายวันมานี้ ริสาดูแปลกๆ หล่อนชอบแอบไปหาท่านประธานหนุ่มที่ห้องทำงานบ่อยๆ จึงทำให้หญิงสาวเริ่มงอนเขาหนักกว่าเดิม คงไม่ต้องบอกว่าใบบุญรู้ได้ยังไง เพราะข่าวคราวการเคลื่อนไหวระหว่างริสากับกวินนั้น มีคนคอยอัปเดตตลอดเวลา เมื่อเหล่าบรรดาสาวโรงงานและพนักงานออฟฟิศต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคนทั้งคู่ กำลังจะมีข่าวดีในเร็ววัน แม้เธอจะรู้ว่าริสากับใบโพธิ์มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกันมาก่อน แต่ความหึงหวงต่อสามีก็เกิดขึ้นได้โดยอัตโนมัติ “ตอนนี้ผมจัดการเรื่องอู่ให้ใบโพธิ์เ
เมื่อได้ระบายความในใจ ชายหนุ่มได้เดินออกมาที่ระเบียง เขามองไปด้านหน้าด้วยความรู้สึกไม่แน่ใจ เขาควรจัดการกับชีวิตนี้ยังไงดี วิวทิวทัศน์ของท้องทะเลสุดลูกหูลูกตา พร้อมกับพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ยิ่งทำให้เขาเกิดความคิดที่หลากหลาย เมื่อสมองกับหัวใจเริ่มตกลงกันไม่ได้ “ถ้าใช่ยังไงก็ใช่ ทำไมโลกใบนี้ถึงได้ลำเอียงกับชีวิตของกูจังวะ” ใบโพธิ์พูดพลางหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด ก่อนที่ชายหนุ่มจะกลายร่างเป็นสิงห์อมควันเขาสูบเข้าไปแล้วพ่นออกมาราวกับว่ามันคือสิ่งที่จะทำให้คิดหาทางออกกับปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น ภาพของชายหนุ่มที่กำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียงของห้อง ซึ่งมองผ่านประตูกระจกใสบานใหญ่ ทำให้ริสาแอบยกยิ้มที่มุมปาก เมื่อใบโพธิ์อยู่ในลุคของหนุ่มเซอร์ดูมีเสน่ห์ เขาดูดีแบบไม่ต้องเติมแต่งด้วยชุดราคาแพง ความเรียบง่ายสบายๆ เสื้อยืดกางเกงยีนที่ดูแมทช์กันแบบคูลดูสบายๆ แต่ทว่าเขากลับดูน่าค้นหา ซึ่งทำให้หัวใจดวงน้อยของริสาหวั่นไหวจน เธอแอบมองเขาด้วยความปลาบปลื้มใจ จนอดไม่ได้ที่จะลุกเดินออกไปที่ระเบียง
“นายเป็นเป็นช่างเหรอ” “อืม... ผมเป็นช่างซ่อมรถน่ะ” ชายหนุ่มพูดออกไปตามความเป็นจริง เพราะเขาคงไมเหมาะกับเธอ“ขอบคุณนะ ฉันเพิ่งรู้จักกับนาย แล้วทำไมนายถึงดูมีน้ำใจ คอยเอาใจใส่ผู้หญิงอย่างฉันจัง ใครเป็นแฟนนายคงโชคดีมากเลยนะ” “ไม่เป็นไรหรอกครับ บางทีผมอาจจะไม่ได้เป็นผู้ชายที่แสนดีอย่างที่คุณคิดก็ได้ อ้อ... ที่สำคัญผมยังไม่มีแฟน” พูดจบใบโพธิ์ก็เดินเอาชามไปเก็บ ปล่อยให้ริสาหัวใจเต้นแรงจนน่าแปลกใจ เมื่อชายหนุ่มบอกว่าเขายังไม่มีแฟน จากนั้นใบโพธิ์ได้เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วน้ำอีกใบและยาลดไข้ให้กับริสา “กินยาก่อนค่อยนอนพัก” “ขอบคุณนะ” ริสายอมกินยาแล้วดื่มน้ำตามอย่างว่าง่าย เมื่อเธอรู้สึกไว้วางใจใบโพธิ์ “ตัวยังรุมๆ อยู่เลย นอนพักก่อนถ้าอาการไม่ดีขึ้น ผมจะพาไปหาหมอ” ใบโพธิ์ไม่พูดเปล่า เขายังรั้งริสาให้นอนลง พร้อมกับห่มผ้าผืนบางให้กับเธอ เนื่องจากบ้านพักตากอากาศริมทะเลมีลมโกรก ชายหนุ่มจึงกลัวว่าเธออาจจะไข้ขึ้น เพราะอากาศที