Share

บทที่ 10 เดิมพัน

Author: เถิงกู่
“เธอปั่นหัวนายเหมือนตัวตลกมาทั้งคืนแล้ว ยังไม่เข็ดหรือไง?”

ชายหนุ่มคนที่เดินตามหลังเหลียงโจวเหิงเข้ามาชื่อว่าจี้ชวน พอเข้ามาก็หย่อนก้นลงกับโซฟา ในดวงตายฉายแววถากถาง

เหลียงโจวเหิงไม่โกรธทว่ายิ้มกลับไป “แล้วไง? ฉันสนุกกับความขมขื่นนะ ก็แค่เด็กสาวไร้เดียงสาคนหนึ่งเอง เชื่อไหมล่ะว่าในเวลาไม่กี่วันฉันจะทำให้เธอมานอนร้องเรียกฉันว่าพี่บนเตียง?”

จี้ชวนเยาะเย้ยใส่เหลียงโจวเหิงอย่างเย็นชา “คนที่จะจับปลาใหญ่ จะยอมเก็บแหเพื่อกุ้งตัวเล็ก ๆ ตัวเดียวหรือไง?”

เหลียงโจวเหิงหันหน้ามองอินตง แล้วหัวเราะไม่พอใจด้วยหมดคำจะพูด “จะบอกว่าหมอนี่เป็นปลาใหญ่ ส่วนฉันกุ้งตัวเล็ก ๆ งั้นสิ? ความหมายของนายก็คือ สาวน้อยนั่นเป็นมือโปร?”

“จะใช่มือโปรหรือเปล่า ก็ต้องถามเขาละ”

จี้ชวนพยักพเยิดหน้าไปทางอินตง

เหลียงโจวเหิงชะงักไปเล็กน้อย มองอินตงที่กำลังหลุบตาสูบบุหรี่ เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “เมื่อกี้นี้นายกับเธอทำอะไรที่นี่? เธอรั้นแต่จะอยู่กับนายตามลำพังให้ได้ คงไม่ได้นั่งอยู่ที่นี่เฉย ๆ ล่ะมั้ง?”

อินตงเอนหลังพิงโซฟา เลิกคิ้วพลางจ้องเหลียงโจวเหิงอยู่สองสามวินาที อยู่ ๆ ก็โพล่งออกมา “เธอเคยอยู่กับเหยียนอี้หรูครึ่งปี นายไม่กลัวติดโรคหรือไง?”

เหลียงโจวเหิงขำพรืดออกมา “ถึงกับเล่าเรื่องความรักเก่า ๆ ให้นายฟังเชียว? ฉันไม่สน ฉันออกล่าเหยื่อตลอดทั้งปี ยังจะมากลัวว่าเนื้อที่ส่งเข้าปากจะสะอาดหรือไม่สะอาดด้วย?”

เขากัดฟัน “ฉันจะคว้าแม่สาวน้อยคนนี้ให้ได้ในหนึ่งอาทิตย์ พวกนายสองคนมาพนันกันไหมล่ะ?”

...

พี่ฮุยเห็นเจียงหยวนกลับมายังห้องเช่าในคืนนั้น ทั้งยังมาพร้อมกับใบหน้าผิดหวัง ก็รู้ได้ทันทีว่าผลออกมาไม่ดี

เธอพยายามเกลี้ยกล่อม “ไม่มีอะไรให้ต้องหมดกำลังใจสักหน่อย เดี๋ยวพี่กลับไปช่วยติดต่อให้เธอเอง คนที่อยากเลี้ยงดูปูเสื่อเธอหาไม่ยากหรอก”

ระหว่างทางที่กลับมานี้ ในหัวของเจียงหยวนมีภาพเหตุการณ์ที่เธอสัมผัสกับอินตงในคืนนี้กลับไปกลับมา

ที่ห้องบิลเลียดนั่น เธอสัมผัสได้ชัดเจนแล้วว่าร่างกายของเขามีการตอบสนองขึ้นมาแล้ว ทว่าความแน่วแน่ไม่ไหวหวั่นที่เขาแสดงออกมานั้นเกิดจากการที่เขาควบคุมจิตใจของตัวเองได้อย่างแข็งแกร่ง

ผู้ชายคนนี้มีความระแวงและความระมัดระวังต่อผู้หญิงมากกว่าปกติทั่วไป

“พี่ฮุย พี่ช่วยสืบเรื่องของอินตงให้ฉันหน่อยได้ไหม? ฉันอยากเข้าใจเขาทุกซอกทุกมุม”

เจียงหยวนมองสวี่ฮุย

พี่ฮุยแก่กว่าเจียงหยวนแค่สองปี ทว่าเข้ามาอยู่ในแวดวงธุรกิจแบบนี้ได้ห้าปีแล้ว ตอนแรกพี่ฮุยเป็นสาวบาร์ในไนต์คลับที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเป่ย ต่อมาเธอถึงได้ออกมาทำธุรกิจของตัวเอง สองปีมานี้ก็สะสมคอนเนคชั่นไว้ไม่น้อย

เธอถอนหายใจอย่างหนักหน่วง “ตอนแรกเป็นเพราะเธอขอร้อง พี่ถึงได้พาเธอเข้าสู่วงการนี้ เธอเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยชื่อดัง ไม่ใช่คนไม่มีทางให้ถอยหลังเสียหน่อย พี่ขอถามเธอสักคำนะ ทำไมเธอถึงรั้นแต่จะบีบให้ตัวเองต้องหมดหนทางด้วย?”

สวี่ฮุยเห็นความโหดร้ายทารุณในวงการนี้มามากมาย บอกได้เลยว่า ผู้หญิงเป็นสินค้าที่ติดป้ายบอกราคาไว้ชัดเจน สินค้าจะถูกเปลี่ยนมือ ถูกใช้จนเก่าเกราะจนพังหมดสภาพ ทั้งยังถูกคนโยนเข้าไปจัดการในมุมมืด

เจียงหยวนไม่อยากเล่าเรื่องความแค้นที่เธอมีต่อตระกูลเซวียให้พี่ฮุยได้รู้ ตระกูลเซวียทรงอิทธิพลเกินไป เธอไม่อยากให้คนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ต้องมาติดร่างแหไปด้วย

เธอหันไปจ้องดวงตาคู่สวยของพี่ฮุย “พี่ฮุย พี่ทำธุรกิจนี้มาตั้งนานหลายปี คงไม่ได้ทำไปเพราะแค่เรื่องเงินหรอกใช่ไหม?”

เจียงหยวนรู้ว่าสวี่ฮุยคงไม่ได้ขาดแคลนเงินทอง เธอต้องล้มลุกคลุกคลานอยู่ในวงการนี้ เคยประสบสภาพยับเยินมาก่อน แต่ก็ยังไม่ยอมถอนตัว ถ้าไม่ใช่เพราะมีความลำบากที่ไม่อาจพูดออกมาได้ ก็คงจะมีความทะเยอทะยานที่บอกให้ใครรู้ไม่ได้

สวี่ฮุยหัวเราะเยาะเล็กน้อย “ไม่งั้นจะให้ทำยังไงล่ะ หรือว่าพี่ที่เป็นแบบนี้แล้วยังคิดเพ้อเจ้อแต่งงานเข้าบ้านผู้ดีได้หรือไง?”

ปีนี้สวี่ฮุยอายุสี่สิบสี่แล้ว บนใบหน้าไร้กลิ่นอายของคนหนุ่มคนสาวไปนานแล้ว ทว่ามีพื้นฐานทางหน้าตาไม่เลว แม้ว่าใบหน้านี้จะต้องเผชิญอยู่ในความยากลำบากมานานหลายปี ทว่ายามยิ้มก็ยังคงทำให้คนหวั่นไหวได้

เจียงหยวนเม้มปาก ยิ้มบาง ๆ พลางว่า “พี่อาจจะไม่เคยคิด แค่ฉันคิด”

สวี่ฮุยชะงักไปเล็กน้อย ครั้นแล้วก็หัวเราะออกมา “เธอยังมีอนาคตมากกว่าพี่นะ ได้ เธอยังอยากรู้อะไรล่ะ เดี๋ยวพี่ไปสืบมาให้”

“แค่พอถึงวันนั้นที่เธอประสบสำเร็จดังใจหวัง แค่อย่าลืมพี่คนนี้ก็พอ”

ขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น โทรศัพท์ของเจียงหยวนพลันแผดร้องเสียงดัง บนหน้าจอปรากฏเบอร์โทรศัพท์ของคนแปลกหน้า

เสียงเรียกเข้าดังอยู่สักพัก เธอถึงได้กดรับสาย

แล้วก็ได้พบกับน้ำเสียงของผู้ชายแสนคุ้นหู “น้องสาว กลับถึงบ้านปลอดภัยหรือเปล่า?”

ในหัวของเจียงหยวนพลันปรากฏดวงตาดอกท้อที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์คู่นั้น

ใจเธอกระตุกทันที เธอบีบโทรศัพท์แน่น ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “ขอบคุณพี่เหลียงที่เป็นห่วง ฉันกลับถึงบ้านแล้วค่ะ”

“พรุ่งนี้มีเรียนหรือเปล่า? อยากออกไปเล่นบิลเลียดอีกสักรอบไหม?”

เหลียงโจวเหิงยกขาขึ้นนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟา ดวงตากำลังเพ่งมองอินตงกับจี้ชวนที่กำลังเล่นบิลเลียดกันอยู่ น้ำเสียงอ่อนโยนเป็นอย่างยิ่ง

เจียงหยวนระงับอาการใจเต้น พูดออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณชายเหลียง พรุ่งนี้ฉันไม่ว่าง”

เหลียงโจวเหิงยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย กล่าวออกไปอย่างมีน้ำอดน้ำทน “หลู่ซวิ่นเคยพูดไว้ว่า เวลาก็เหมือนน้ำในฟองน้ำ เธอไม่เคยได้ยินประโยคนี้เหรอ? พรุ่งนี้เที่ยงฉันจะขับรถไปรับเธอที่หน้ามหาวิทยาลัย”

เจียงหยวนรู้ว่าเหลียงโจวเหิงคงจะตรวจสอบข้อมูลของเธอมาแล้ว หลังวางสายเธอก็คิดในใจ ที่ออกไปคืนนี้ ถือว่าไม่เสียแรงเปล่าแล้ว

เหลียงโจวเหิงสนิทกับอินตง เธอก็สามารถเข้าหาอินตงต่อไปได้โดยผ่านทางเหลียงโจวเหิง
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เธอยั่วเกินต้าน ท่านประธานคลั่งรัก   บทที่ 40 เก่งเรื่องยั่วผู้ชาย

    ตอนที่เจียงหยวนถูกผลักเข้าไปในรถอย่างแรง หัวกระแทกกับเบาะหนังด้านหลังจนรู้สึกมึนงง ยังไม่ทันได้ตั้งสติดี แต่พอสบตากับผู้หญิงคนนั้น ขนก็ลุกซู่ขึ้นมาทั้งตัวในทันทีเซวียซานมีใบหน้าที่ดูหยิ่งทะนงและทรงอำนาจ คิ้วตาคมเข้มดุดัน ช่วงกลางหน้าค่อนข้างยาว สันจมูกโด่งชัด ทุกส่วนบนใบหน้าเธอล้วนแผ่รังสีความกดดัน ทั้งหน้ามีเพียงริมฝีปากเท่านั้นที่ยังคงดูอ่อนหวานแบบผู้หญิงอยู่บ้างต่อให้ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร พอเห็นหน้าแบบนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะอยากเดินหนีให้ไกลแต่สำหรับเจียงหยวนแล้ว ใบหน้านี้มันคุ้นเคยมาก เธอหลับไปทุกคืนพร้อมกับการกัดฟันแน่น ขณะจ้องมองภาพใบหน้าของผู้หญิงคนนี้เธอจำไม่ได้แล้ว ว่าเคยฝันถึงกี่ครั้ง ที่เห็นเซวียซานถูกใส่กุญแจมือ ข้อเท่าถูกล่าม โดนลากขึ้นศาลรอฟังคำตัดสิน เหมือนกับตอนนั้นที่พ่อของเธอ คนที่ถูกทรมานจนไม่เหลือเค้าเดิมยืนอยู่ในจุดเดียวกันนั้นแต่ในตอนนี้ ผู้หญิงคนนี้กลับแต่งหน้าสวยงาม สวมเสื้อผ้าราคาแพง นั่งอยู่ในรถหรูด้วยท่าทีสูงส่ง กำลังตัดสินเธออย่างเย็นชาเหมือนอยู่กันคนละชั้น เลือดทั่วร่างของเจียงหยวนพลุ่งพล่านอย่างห้ามไม่อยู่ ราวกับมีบางอย่างคำรามอยู่ในเส้นเลือด พร้อมจ

  • เธอยั่วเกินต้าน ท่านประธานคลั่งรัก   บทที่ 39 เธอร้อนเงินนักหรือไง?

    “เหยียนอี้หรู ฉันเคยพลาดมาแล้ว ตอนนี้ฉันแค่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ถ้านายไม่อยากเห็นฉันถูกเซวียซานเล่นงานจนตาย ตั้งแต่นี้ไปออกไปจากชีวิตฉันซะ”ดวงตาเจียงหยวนแดงก่ำ “ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ”แม้เสียงของเธอจะเรียบนิ่ง แต่ทุกคำที่พูดกลับดังชัดเจนในหูของเหยียนอี้หรู ทำให้เขารู้สึกจุกแน่นที่ลำคอ เหมือนมีอะไรบางอย่างติดอยู่ตรงนั้นเขาจ้องหน้าเธอด้วยแววตาเหม่อลอยมองตั้งแต่คิ้ว ดวงตา ไล่ลงไปถึงมุมปากของเธอ นี่คือใบหน้าที่เขาคิดถึงอยู่ทุกคืน เคยมีช่วงเวลาที่เขาหลับไปพร้อมใบหน้าของเธอที่อยู่ในอ้อมแขน เขาหลงใหลท่าทางออดอ้อนของเธอเวลาซุกอยู่ในอกเขา แต่ตอนนี้ เธอมองเขาราวกับเป็นศัตรูเหยียนอี้หรูไม่รู้ว่าทำไมเรื่องทุกอย่างถึงกลายเป็นแบบนี้ เขาควรเกลียดใครกันแน่?ควรเกลียดตัวเองที่ไร้ความสามารถ เกลียดเซวียซานที่ใจดำอำมหิต หรือเกลียดเจียงหยวนที่ตัดใจจากเขาได้อย่างเลือดเย็นกันแน่?เจียงหยวนพยายามจะผลักเขาออก แต่เหยียนอี้หรูกลับคว้าเธอไว้แน่นอีกครั้งเขาโกรธจนขบฟันแน่น “เธอร้อนเงินมากเลยเหรอ? ทำไมต้องมาทำงานแบบนี้ด้วย?”“เธอไม่ใช่ทำงานในตงจิ่นแล้วเหรอ? ทำไมยังทำตัวตกต่ำแบบนี้อีก?”เจียงหยวนใจห

  • เธอยั่วเกินต้าน ท่านประธานคลั่งรัก   บทที่ 38 เลวแล้วยังบ้าอีก

    เจียงหยวนก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แต่ก็โทรออกไม่ได้เช่นกันห้องที่ปิดสนิท แสงไฟก็สลัว ๆ หน้าต่างฝั่งตรงข้ามก็ถูกขึงตาข่ายแน่นหนา ต่อให้มีปีกก็หนีไปไหนไม่ได้สวี่ฮุยด่าตัวเองว่าโง่ที่หลงกดจนได้ พลางเตะประตูเต็มแรงซ้ำ ๆ อย่างไม่ยั้งเจียงหยวนพยายามตั้งสติคิดให้ได้ ว่าวันนี้ใครกันแน่ที่วางกับดัก จะเล่นงานเธอหรือพี่ฮุยกันแน่?ชื่อแรกที่แวบขึ้นมาในหัวคือฉินเป้า แต่พอคิดอีกทีก็ไม่น่าเป็นไปได้ เขาก็แค่นักเลงข้างถนน ฉินเป้าเคยโดนเหลียงโจวเหิงเล่นงานจนสาหัส คงไม่กล้ากลับมาก่อเรื่องซ้ำอีกแต่ถ้าไม่ใช่เขา แล้วพวกเธอยังเคยไปล่วงเกินใครอีกล่ะ?ในหัวของเจียงหยวนค่อย ๆ ผุดชื่อหนึ่งขึ้นมา แค่นึกถึงชื่อผู้หญิงคนนั้น ร่างกายเธอก็เย็นชาไปหมดจู่ ๆ ก็มีเสียงไขกุญแจดังมาจากด้านนอกประตูเสียงชายคนหนึ่งถามขึ้น “เธออยู่ข้างในใช่ไหม?”“ใช่” พร้อมกันนั้นเอง ประตูก็ถูกคนเปิดออกจากข้างนอกแสงจ้าจากทางเดินสาดเข้ามาในห้องสลัวจนต้องหรี่ตาลงเจียงหยวนขมวดคิ้วแน่น พยายามฝืนลืมตา สบตากับชายร่างสูงที่เพิ่งก้าวเข้ามาที่แท้คือเหยียนอี้หรูเจียงหยวนจ้องหน้าเขาเขม็ง กำหมัดแน่น ความโกรธแล่นพล่านจากอกขึ้นถึงหัว

  • เธอยั่วเกินต้าน ท่านประธานคลั่งรัก   บทที่ 37 มีของดีไม่รู้จักใช้

    อินตงไม่สนใจคำพูดของเหลียงโจวเหิงเหลียงโจวเหิงเดินมาหยุดตรงหน้าโต๊ะทำงาน จ้องมองอินตงแล้วถามว่า “นายคิดยังไงกันแน่? ถ้านายรำคาญเธอจริง ๆ ด้วยนิสัยของนาย ป่านนี้คงไล่เธอออกไปนานแล้ว ทำไมถึงยังเก็บเธอไว้ให้เดินวุ่นวายอยู่ใกล้ ๆ แบบนี้?”“นายก็รู้ว่าเธอตั้งใจจะเข้าหานาย นายก็เก็บเธอไว้แต่ก็ไม่คิดเล่นด้วย รู้ไหม? แบบนี้มันเรียกว่าของดีอยู่ในมือแต่ไม่รู้จักใช้ชัด ๆ”อินตงเงยตามามองสบตาเขาครู่หนึ่ง “มันขัดหูขัดตานักเหรอ??”เหลียงโจวเหิงยิ้มมุมปาก “ฉันหมายถึง ถ้านายไม่คิดจะเอาจริง ก็อย่ากั๊กไว้ให้คนอื่นเสียเวลา ฉันบอกนายตั้งแต่แรกแล้ว ว่าเห็นยัยนี่ครั้งแรกก็ถูกชะตา นายเคยเห็นฉันอดทนกับผู้หญิงคนไหนได้นานขนาดนี้ไหมล่ะ? ฉันกลัวว่าสุดท้ายจะอดใจไม่ไหวจริง ๆ เว้นแต่นายจะพูดมาตามตรงว่า ผู้หญิงคนนี้ นายเองก็ชอบเธอ”อินตงก้มหน้าลงด้วยสีหน้านิ่งเรียบ “งั้นนายก็ลองดูสิ”เหลียงโจวเหิงยังไม่แน่ใจนัก ว่าคำพูดของเขาเมื่อครู่เป็นคำขู่หรือเปล่า เขาจึงจ้องมองใบหน้าของอินตงอยู่ครู่หนึ่ง จู่ ๆ ก็ยิ้มกว้างออกมา “โอเค เข้าใจแล้วล่ะ”เจียงหยวนตั้งใจหลีกเลี่ยงที่จะยุ่งเกี่ยวกับอินตงให้มากที่สุด กลางวันเธอทุ

  • เธอยั่วเกินต้าน ท่านประธานคลั่งรัก   บทที่ 36 ไม่มีผู้หญิงกินข้าวไม่ลง

    จู่ ๆ เขาก็เงยหน้าขึ้นมามองเธอแวบหนึ่งเจียงหยวนรักษาสีหน้าให้เรียบเฉย ก้มตัวเล็กน้อย แล้ววางแฟ้มรายงานลงบนโต๊ะตรงหน้าเขาอินตงหยิบรายงานขึ้นมาดูผ่าน ๆ พลางก้มหน้าถามเสียงเรียบว่า “ใครใช้ให้เธอมา?”เจียงหยวนตอบตามตรง “ผู้อำนวยการหยาง เขาบอกว่าคุณต้องการดูรายงานค่ะ”เขายังคงไม่เงยหน้าขึ้น “ฝ่ายการเงิน ไม่มีคนอื่นแล้วหรือไง?”เจียงหยวน “ฉันไม่มีสิทธิ์ขัดคำสั่งของหัวหน้า ถ้าคุณไม่พอใจขนาดนี้ หวังว่าคุณจะบอกผู้อำนวยการหยางเอง ให้เรียกคนอื่นมาแทนในครั้งหน้า”เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดต่อ “ฉันเองก็จะพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้องทำงานเกี่ยวข้องกับคุณ แต่ถ้าบังเอิญเจอกันขึ้นมา ฉันก็จนปัญญา ถ้าคุณรำคาญจนทนไม่ไหว จะไล่ฉันออกก็เชิญ แต่เงินชดเชยตามสิทธิ์ ฉันจะเอาครบทุกบาท” เธอพูดจบก็หมุนตัวจะเดินออกไปทันที“หยุดเดี๋ยวนี้”เสียงเขาดังขึ้นจากข้างหลังเจียงหยวนยืนรอฟังโดยแทบไม่กล้าหายใจเสียงของเขาดังมาแบบเรียบเฉย “เธอลาออกเองไม่ง่ายกว่าหรือไง?”แรงอัดจากปอดพุ่งขึ้นถึงลำคอ เจียงหยวนหันขวับ ถามกลับด้วยความโมโห “แล้วทำไมต้องเป็นฉันที่ต้องลาออกด้วย?”สีหน้าเขายังเรียบเฉย ไม่ทุกข์ไม่ร้อนแม

  • เธอยั่วเกินต้าน ท่านประธานคลั่งรัก   บทที่ 35 สองขาเดินไปพร้อมกัน

    หยางหมิงวางสาย แล้วจ้องหน้าจอโทรศัพท์อยู่พักหนึ่ง จากนั้นจึงโทรหาเจียงหยวนอีกครั้งเจียงหยวนรับสายด้วยความประหลาดใจ ไม่นึกว่าหยางหมิงจะโทรกลับมาอีก แต่ที่น่าตกใจกว่าคือ หยางหมิงเสนอให้เธอได้บรรจุเป็นพนักงานประจำทันที แถมยังปรับเงินเดือนเป็นสองแสนห้าหมื่นบาทต่อเดือนในความเป็นจริง ถ้าตัดปัจจัยอื่น ๆ ออกไป งานที่เธอทำตอนนี้ตรงกับสาขาที่เรียนมา แถมตงจิ่นก็เป็นบริษัทที่มีศักยภาพสูงมาก สำหรับเส้นทางอาชีพในอนาคตแล้ว จุดเริ่มต้นแบบนี้ถือว่าสูงมากเลยทีเดียวสำหรับเด็กจบใหม่จากมหาวิทยาลัยชั้นนำ เงินเดือนระดับนี้ถือว่าไม่น้อยเลย เจียงหยวนจึงตอบกลับไปในสายว่า ขอกลับไปคิดดูก่อนพอสวี่ฮุยกลับมาถึงบ้าน เจียงหยวนก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังว่า “พี่ฮุย ถ้าหนูทำงานประจำตอนกลางวัน แล้วรับงานนอกตอนกลางคืน เดือนหนึ่งจะหาเงินได้ครบหนึ่งล้านห้าแสนบาทไหมคะ?”สวี่ฮุยจ้องเธออยู่พักใหญ่ ก่อนจะพูดขึ้น “พี่เข้าใจว่าเธอรีบหาเงินใช้หนี้ แต่ในสายงานนี้น่ะ ถ้าเธอก้าวขาเข้ามาครบสองข้างเมื่อไหร่ วันข้างหน้าจะถอนตัวออก มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย เธอจบจากมหาวิทยาลัยดัง ในเมื่อมีทางเลือกดี ๆ ตั้งเยอะ ก็อย่าไปตัดทางเดินอนาคต

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status