แชร์

บทที่ 11 ยอมเป็นชู้ทั้งที่รู้

ผู้เขียน: เถิงกู่
วันต่อมาเจียงหยวนกลับไปเข้าคาบเรียนที่มหาวิทยาลัย

นับตั้งแต่สามเดือนก่อนที่เซวียซานบุกเข้ามาถึงในมหาวิทยาลัย หลังจากโพล่งคำผรุสวาทด่าทอเธอต่อหน้าฝูงชนว่าเธอรู้ตัวดีอยู่แล้วว่าต้องไปเป็นมือที่สามในความสัมพันธ์ของคนอื่นแต่ก็ยังคิดจะเป็นชู้ ซ้ำยังลงมือทุบตีสั่งสอนเธออีกนั้น ทำให้เธอที่ไร้ซึ่งตัวตนในมหาวิทยาลัย ก็กลับกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในแพลตฟอร์มของมหาวิทยาลัยอย่างรวดเร็ว

ไม่ว่าเธอจะเดินไปยังจุดไหนในมหาวิทยาลัยก็จะโดนคนอื่นนินทาลับหลังเสมอ เพื่อนร่วมหอที่เคยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ถึงกับเอ่ยกระแนะกระแหนตีวัวกระทบคราดต่อหน้าเธอเลยด้วยซ้ำ หลังจากที่เจียงหยวนไปพบพี่ฮุยจึงย้ายออกจากมหาวิทยาลัยไป

วันนี้ขณะที่เธอเดินเข้าไปในห้องเรียนก็พลันรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าบรรยากาศในห้องเรียนที่เดิมทีนั้นเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาก็แปรเปลี่ยนเป็นความแปลกพิกลขึ้นมาในทันที

หลังเลิกคาบเรียน ทันทีที่ฝ่าเท้าของอาจารย์ก้าวออกไปจากห้องเรียน จู่ ๆ เสียงเหน็บแนมของหญิงสาวก็ดังขึ้นภายในห้องเรียนที่เงียบสงบ “เวลาออกไปข้างนอกฉันอายเกินว่าจะพูดเลยด้วยซ้ำว่าฉันเรียนสาขาไหน คราวที่แล้วที่ฉันไปงานรับสมัครว่าจ้างนักศึกษาในมหาวิทยาลัย แม้แต่รุ่นพี่ที่ร่วมจ้างรับสมัครงานยังรู้ว่าสาขาเรามีคนที่ไม่รู้จักละอายแบบนี้อยู่ โชคร้ายฉิบหายที่ได้เป็นเพื่อนร่วมชั้นกับคนแบบนี้”

เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นต่างยังไม่ได้ลุกออกไป สายตาของทุกคนล้วนจับจ้องมายังเจียงหยวน

เจียงหยวนเก็บกระเป๋าเรียนของเธอโดยไม่ปริปากพูดอะไรเลยสักคำ เธอไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นเลยด้วยซ้ำ

“คนบางคนหน้าหนายิ่งกว่ากำแพงเมืองเสียอีก ไม่รู้ว่าพ่อแม่คลอดมาอีท่าไหน ถึงได้ไม่สนใจความเป็นอยู่ของคนอื่นมากขนาดนี้ จริง ๆ นะ ตอนที่เธอเข้ามานั่งเรียนในคาบ แค่หายใจฉันยังรู้สึกสกปรกเลย”

ผู้หญิงที่กำลังเอ่ยปากพูดชื่อว่าเฉียวมั่วหาน เธอมาจากครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย หน้าตาเองก็นับว่าดูดี ใกล้ชิดสนิทสนมกับบรรดาคณาจารย์ในวิชาต่าง ๆ ทั้งยังทำได้ดีในสภานักศึกษาของสาขาอีกด้วย ปกติแล้วเธอก็ทำตัวหยิ่งผยองอยู่ไม่น้อย

เธอชื่นชอบหลินหาว เดือนสาขาพลศึกษา แต่เมื่อเธอสารภาพรักกับหลินหาวในสนามแข่งขันบาสเกตบอลก็ถูกเอ่ยปฏิเสธต่อหน้าสาธารณชน และยังโดนบอกมาอีกด้วยว่าเขามีคนที่ชอบพออยู่แล้ว เรื่องนี้จึงถูกแพร่กระจายออกไปและกลายเป็นประเด็นร้อนแรง

และที่บังเอิญยิ่งกว่านั้นคือ สมัยปีหนึ่งหลินหาวเคยตามจีบเจียงหยวน ดังนั้นเฉียวมั่วหานจึงไม่ถูกกับเจียงหยวนมาตั้งแต่แรก

“เจียงหยวน ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะยังมีหน้ามานั่งเรียนอีกได้อย่างไร? เธอจีบคนในมหาวิทยาลัยไปพลาง ทั้งยังยั่วยวนคู่หมั้นของคนอื่นไปด้วย ทักษะแบบนี้เธอไปเรียนมาจากไหนกัน?”

เฉียวมั่วหานเริ่มเปลี่ยนเป็นด่าทอโดยใช้ชื่อชัดเจน บรรยากาศภายในห้องเรียนพลันร้อนระอุขึ้นทันทีทันใด นัยน์ตาหลายสิบคู่ราวกับหนามแหลมคมที่ทิ่มแทงลงมายังใบหน้าของเจียงหยวน

เสียงของเฉียวมั่วหานทวีความดังมากยิ่งขึ้น “แม่ของเธอสอนมาตั้งแต่เด็กเลยหรืออย่างไร?”

เนื้อตัวของเจียงหยวนสั่นสะท้าน ข้อกระดูกนิ้วมือทั้งสองข้างพลันเกร็งขึ้นในทันที

หลังจากที่เกิดเรื่องเลวร้ายกับคุณแม่ของเธอ ข่าวลือก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งหมู่บ้าน มีคนมากมายที่แอบนินทาแม่ของเธอลับหลัง “เปิดแค่ร้านขายของชำเล็ก ๆ วัน ๆ ก็เอาแต่แต่งตัวเสียฉูดฉาดเพริศพริ้ง ไม่ใช่เพราะคิดจะล่อลวงผู้ชายหรือ ไม่เช่นนั้นจะตกเป็นเป้าหมายของตาเฒ่าไร้เมียได้อย่างไร แค่พริบตาเดียวก็ทำผู้ชายตายตกไปถึงสองคน ช่างเป็นหญิงงามที่นำหายนะมาให้จริงเชียว”

คุณแม่ของเธอไม่อาจรับสิ่งที่ถาโถมเข้ามาได้ จึงดื่มยาฆ่าแมลงที่บ้านในวันที่คุณพ่อของเธอโดนประหารชีวิต เธอเห็นทันเวลาถึงช่วยแม่ของเธอเอาไว้ได้ หากเธอช้ากว่านี้ไปเพียงหนึ่งก้าว เจียงหยวนคงเสียบุพการีทั้งสองไปในวันเดียวกัน

ในวินาทีที่คุณแม่ของเธอลืมตาขึ้นบนเตียง เธอพลันโถมตัวเข้าไปแล้วร้องไห้ออกมาเสียงดังด้วยความเสียใจ วันนั้นแม่และลูกสาวโอบกอดกันร้องไห้ตั้งแต่พลบค่ำจวบจนกระทั่งรุ่งสาง ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาไหลออกมาอีก

คำพูดประโยคสุดท้ายของเฉียวมั่วหานเปรียบเสมือนใบมีดที่แทงทะลุเลือดเนื้อของเจียงหยวนเข้ามาอย่างแม่นยำ

เจียงหยวนหันศีรษะกลับไปด้วยดวงตาแดงก่ำ จ้องเขม็งไปยังเฉียวมั่วหานราวกับกำลังมองเซวียซานในเวอร์ชันที่อ่อนเยาว์กว่า

“เฉียวมั่วหาน เป็นแม่ของเธอหรือที่สอนให้พูดจาหยาบคายสกปรกราวกับขี้แบบนี้? หรือว่าแม่เธอสอนให้ยั่วยุคนอื่นกันล่ะถึงได้ดูถูกแม่คนอื่นแบบนี้! นี่หรือคือสิ่งที่บ้านเธอพร่ำสั่งสอนมาตั้งแต่ยังเด็ก! ฉันเคยไปทำอะไรบาดหมางใจเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? หลินหาวปฏิเสธเธอก็เป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับฉันสักนิดเลยด้วยซ้ำ! เขาทำให้เธอคับข้องใจแต่เอามาลงที่ฉันแทน เธอมีสิทธิ์อะไร? เพราะครอบครัวเธอร่ำรวยมีอำนาจหรือถึงได้สูงส่งกว่าคนอื่น? ฉันถึงสมควรแล้วที่จะโดนเธอเหยียบย่ำอยู่ใต้ฝ่าเท้างั้นสิ? คงต้องให้หลินหาวตาบอดก่อนล่ะมั้งถึงชอบเธอได้ลง”

เจียงหยวนมาจากชนบท เมื่อก่อนก็เป็นคนขี้อายและซื่อ ๆ ในชั้นเรียนเฉียวมั่วหานไม่อาจเชื่อได้เลยว่าตอนนี้เธอจะเปลี่ยนไปพูดจาปากคอเราะร้ายเช่นนี้ได้ เฉียวมั่วหานโกรธมากจนหยิบหนังสือบนโต๊ะขึ้นมา แล้วขว้างไปยังศีรษะของเจียงหยวนจากระยะไกล

“ระวัง!”

ผู้หญิงที่อยู่ด้านหลังผลักเจียงหยวนออกไป ทำให้เจียงหยวนสามารถหลบเลี่ยงหนังสือเล่มนั้นไปได้ ผู้หญิงคนนี้ชื่อว่าซ่งฉุน เป็นเพื่อนร่วมหอพักเพียงคนเดียวที่ยังใกล้ชิดสนิทสนมกับเจียงหยวนอยู่ เพราะพวกเธอทั้งคู่ต่างมาจากชนบท จึงสนิทสนมกันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง

ทว่าเฉียวมั่วหานได้เดินมาด้วยความโกรธเกรี้ยวแล้วคว้าเส้นผมของเจียงหยวนเอาไว้

เนื่องด้วยอิทธิพลของเฉียวมั่วหานในมหาวิทยาลัย ทำให้เพื่อนร่วมห้องต่างกลัวว่าจะทำให้เธอขุ่นเคือง ในเวลานี้มีผู้คนมากมายที่เข้ามาล้อมดู แต่มีเพียงซ่งฉุนคนเดียวเท่านั้นที่กล้าก้าวเข้ามาห้ามปราม

ซ่งฉุนช่วยให้เจียงหยวนหลุดออกมาเงื้อมมือของเฉียวมั่วหาน ก่อนที่เจียงหยวนจะหันกลับมาลงมือผลักเฉียวมั่วหานที่สวมรองเท้าส้นสูงอยู่ให้ล้มลงกับพื้น

ลำคอของเฉียวมั่วหานถูกเจียงหยวนบีบเอาไว้ พร้อมตะโกนกรีดร้องออกมา “มองบ้าอะไรกันอยู่! รีบเข้ามาช่วยฉันสิ!”

เพื่อนร่มหอพักของเธอที่ยืนนิ่งด้วยความตกตะลึงพลันตั้งสติไว้ได้ และรีบร้อนเข้ามาช่วยทันที

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เธอยั่วเกินต้าน ท่านประธานคลั่งรัก   บทที่ 40 เก่งเรื่องยั่วผู้ชาย

    ตอนที่เจียงหยวนถูกผลักเข้าไปในรถอย่างแรง หัวกระแทกกับเบาะหนังด้านหลังจนรู้สึกมึนงง ยังไม่ทันได้ตั้งสติดี แต่พอสบตากับผู้หญิงคนนั้น ขนก็ลุกซู่ขึ้นมาทั้งตัวในทันทีเซวียซานมีใบหน้าที่ดูหยิ่งทะนงและทรงอำนาจ คิ้วตาคมเข้มดุดัน ช่วงกลางหน้าค่อนข้างยาว สันจมูกโด่งชัด ทุกส่วนบนใบหน้าเธอล้วนแผ่รังสีความกดดัน ทั้งหน้ามีเพียงริมฝีปากเท่านั้นที่ยังคงดูอ่อนหวานแบบผู้หญิงอยู่บ้างต่อให้ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร พอเห็นหน้าแบบนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะอยากเดินหนีให้ไกลแต่สำหรับเจียงหยวนแล้ว ใบหน้านี้มันคุ้นเคยมาก เธอหลับไปทุกคืนพร้อมกับการกัดฟันแน่น ขณะจ้องมองภาพใบหน้าของผู้หญิงคนนี้เธอจำไม่ได้แล้ว ว่าเคยฝันถึงกี่ครั้ง ที่เห็นเซวียซานถูกใส่กุญแจมือ ข้อเท่าถูกล่าม โดนลากขึ้นศาลรอฟังคำตัดสิน เหมือนกับตอนนั้นที่พ่อของเธอ คนที่ถูกทรมานจนไม่เหลือเค้าเดิมยืนอยู่ในจุดเดียวกันนั้นแต่ในตอนนี้ ผู้หญิงคนนี้กลับแต่งหน้าสวยงาม สวมเสื้อผ้าราคาแพง นั่งอยู่ในรถหรูด้วยท่าทีสูงส่ง กำลังตัดสินเธออย่างเย็นชาเหมือนอยู่กันคนละชั้น เลือดทั่วร่างของเจียงหยวนพลุ่งพล่านอย่างห้ามไม่อยู่ ราวกับมีบางอย่างคำรามอยู่ในเส้นเลือด พร้อมจ

  • เธอยั่วเกินต้าน ท่านประธานคลั่งรัก   บทที่ 39 เธอร้อนเงินนักหรือไง?

    “เหยียนอี้หรู ฉันเคยพลาดมาแล้ว ตอนนี้ฉันแค่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ถ้านายไม่อยากเห็นฉันถูกเซวียซานเล่นงานจนตาย ตั้งแต่นี้ไปออกไปจากชีวิตฉันซะ”ดวงตาเจียงหยวนแดงก่ำ “ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ”แม้เสียงของเธอจะเรียบนิ่ง แต่ทุกคำที่พูดกลับดังชัดเจนในหูของเหยียนอี้หรู ทำให้เขารู้สึกจุกแน่นที่ลำคอ เหมือนมีอะไรบางอย่างติดอยู่ตรงนั้นเขาจ้องหน้าเธอด้วยแววตาเหม่อลอยมองตั้งแต่คิ้ว ดวงตา ไล่ลงไปถึงมุมปากของเธอ นี่คือใบหน้าที่เขาคิดถึงอยู่ทุกคืน เคยมีช่วงเวลาที่เขาหลับไปพร้อมใบหน้าของเธอที่อยู่ในอ้อมแขน เขาหลงใหลท่าทางออดอ้อนของเธอเวลาซุกอยู่ในอกเขา แต่ตอนนี้ เธอมองเขาราวกับเป็นศัตรูเหยียนอี้หรูไม่รู้ว่าทำไมเรื่องทุกอย่างถึงกลายเป็นแบบนี้ เขาควรเกลียดใครกันแน่?ควรเกลียดตัวเองที่ไร้ความสามารถ เกลียดเซวียซานที่ใจดำอำมหิต หรือเกลียดเจียงหยวนที่ตัดใจจากเขาได้อย่างเลือดเย็นกันแน่?เจียงหยวนพยายามจะผลักเขาออก แต่เหยียนอี้หรูกลับคว้าเธอไว้แน่นอีกครั้งเขาโกรธจนขบฟันแน่น “เธอร้อนเงินมากเลยเหรอ? ทำไมต้องมาทำงานแบบนี้ด้วย?”“เธอไม่ใช่ทำงานในตงจิ่นแล้วเหรอ? ทำไมยังทำตัวตกต่ำแบบนี้อีก?”เจียงหยวนใจห

  • เธอยั่วเกินต้าน ท่านประธานคลั่งรัก   บทที่ 38 เลวแล้วยังบ้าอีก

    เจียงหยวนก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แต่ก็โทรออกไม่ได้เช่นกันห้องที่ปิดสนิท แสงไฟก็สลัว ๆ หน้าต่างฝั่งตรงข้ามก็ถูกขึงตาข่ายแน่นหนา ต่อให้มีปีกก็หนีไปไหนไม่ได้สวี่ฮุยด่าตัวเองว่าโง่ที่หลงกดจนได้ พลางเตะประตูเต็มแรงซ้ำ ๆ อย่างไม่ยั้งเจียงหยวนพยายามตั้งสติคิดให้ได้ ว่าวันนี้ใครกันแน่ที่วางกับดัก จะเล่นงานเธอหรือพี่ฮุยกันแน่?ชื่อแรกที่แวบขึ้นมาในหัวคือฉินเป้า แต่พอคิดอีกทีก็ไม่น่าเป็นไปได้ เขาก็แค่นักเลงข้างถนน ฉินเป้าเคยโดนเหลียงโจวเหิงเล่นงานจนสาหัส คงไม่กล้ากลับมาก่อเรื่องซ้ำอีกแต่ถ้าไม่ใช่เขา แล้วพวกเธอยังเคยไปล่วงเกินใครอีกล่ะ?ในหัวของเจียงหยวนค่อย ๆ ผุดชื่อหนึ่งขึ้นมา แค่นึกถึงชื่อผู้หญิงคนนั้น ร่างกายเธอก็เย็นชาไปหมดจู่ ๆ ก็มีเสียงไขกุญแจดังมาจากด้านนอกประตูเสียงชายคนหนึ่งถามขึ้น “เธออยู่ข้างในใช่ไหม?”“ใช่” พร้อมกันนั้นเอง ประตูก็ถูกคนเปิดออกจากข้างนอกแสงจ้าจากทางเดินสาดเข้ามาในห้องสลัวจนต้องหรี่ตาลงเจียงหยวนขมวดคิ้วแน่น พยายามฝืนลืมตา สบตากับชายร่างสูงที่เพิ่งก้าวเข้ามาที่แท้คือเหยียนอี้หรูเจียงหยวนจ้องหน้าเขาเขม็ง กำหมัดแน่น ความโกรธแล่นพล่านจากอกขึ้นถึงหัว

  • เธอยั่วเกินต้าน ท่านประธานคลั่งรัก   บทที่ 37 มีของดีไม่รู้จักใช้

    อินตงไม่สนใจคำพูดของเหลียงโจวเหิงเหลียงโจวเหิงเดินมาหยุดตรงหน้าโต๊ะทำงาน จ้องมองอินตงแล้วถามว่า “นายคิดยังไงกันแน่? ถ้านายรำคาญเธอจริง ๆ ด้วยนิสัยของนาย ป่านนี้คงไล่เธอออกไปนานแล้ว ทำไมถึงยังเก็บเธอไว้ให้เดินวุ่นวายอยู่ใกล้ ๆ แบบนี้?”“นายก็รู้ว่าเธอตั้งใจจะเข้าหานาย นายก็เก็บเธอไว้แต่ก็ไม่คิดเล่นด้วย รู้ไหม? แบบนี้มันเรียกว่าของดีอยู่ในมือแต่ไม่รู้จักใช้ชัด ๆ”อินตงเงยตามามองสบตาเขาครู่หนึ่ง “มันขัดหูขัดตานักเหรอ??”เหลียงโจวเหิงยิ้มมุมปาก “ฉันหมายถึง ถ้านายไม่คิดจะเอาจริง ก็อย่ากั๊กไว้ให้คนอื่นเสียเวลา ฉันบอกนายตั้งแต่แรกแล้ว ว่าเห็นยัยนี่ครั้งแรกก็ถูกชะตา นายเคยเห็นฉันอดทนกับผู้หญิงคนไหนได้นานขนาดนี้ไหมล่ะ? ฉันกลัวว่าสุดท้ายจะอดใจไม่ไหวจริง ๆ เว้นแต่นายจะพูดมาตามตรงว่า ผู้หญิงคนนี้ นายเองก็ชอบเธอ”อินตงก้มหน้าลงด้วยสีหน้านิ่งเรียบ “งั้นนายก็ลองดูสิ”เหลียงโจวเหิงยังไม่แน่ใจนัก ว่าคำพูดของเขาเมื่อครู่เป็นคำขู่หรือเปล่า เขาจึงจ้องมองใบหน้าของอินตงอยู่ครู่หนึ่ง จู่ ๆ ก็ยิ้มกว้างออกมา “โอเค เข้าใจแล้วล่ะ”เจียงหยวนตั้งใจหลีกเลี่ยงที่จะยุ่งเกี่ยวกับอินตงให้มากที่สุด กลางวันเธอทุ

  • เธอยั่วเกินต้าน ท่านประธานคลั่งรัก   บทที่ 36 ไม่มีผู้หญิงกินข้าวไม่ลง

    จู่ ๆ เขาก็เงยหน้าขึ้นมามองเธอแวบหนึ่งเจียงหยวนรักษาสีหน้าให้เรียบเฉย ก้มตัวเล็กน้อย แล้ววางแฟ้มรายงานลงบนโต๊ะตรงหน้าเขาอินตงหยิบรายงานขึ้นมาดูผ่าน ๆ พลางก้มหน้าถามเสียงเรียบว่า “ใครใช้ให้เธอมา?”เจียงหยวนตอบตามตรง “ผู้อำนวยการหยาง เขาบอกว่าคุณต้องการดูรายงานค่ะ”เขายังคงไม่เงยหน้าขึ้น “ฝ่ายการเงิน ไม่มีคนอื่นแล้วหรือไง?”เจียงหยวน “ฉันไม่มีสิทธิ์ขัดคำสั่งของหัวหน้า ถ้าคุณไม่พอใจขนาดนี้ หวังว่าคุณจะบอกผู้อำนวยการหยางเอง ให้เรียกคนอื่นมาแทนในครั้งหน้า”เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดต่อ “ฉันเองก็จะพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้องทำงานเกี่ยวข้องกับคุณ แต่ถ้าบังเอิญเจอกันขึ้นมา ฉันก็จนปัญญา ถ้าคุณรำคาญจนทนไม่ไหว จะไล่ฉันออกก็เชิญ แต่เงินชดเชยตามสิทธิ์ ฉันจะเอาครบทุกบาท” เธอพูดจบก็หมุนตัวจะเดินออกไปทันที“หยุดเดี๋ยวนี้”เสียงเขาดังขึ้นจากข้างหลังเจียงหยวนยืนรอฟังโดยแทบไม่กล้าหายใจเสียงของเขาดังมาแบบเรียบเฉย “เธอลาออกเองไม่ง่ายกว่าหรือไง?”แรงอัดจากปอดพุ่งขึ้นถึงลำคอ เจียงหยวนหันขวับ ถามกลับด้วยความโมโห “แล้วทำไมต้องเป็นฉันที่ต้องลาออกด้วย?”สีหน้าเขายังเรียบเฉย ไม่ทุกข์ไม่ร้อนแม

  • เธอยั่วเกินต้าน ท่านประธานคลั่งรัก   บทที่ 35 สองขาเดินไปพร้อมกัน

    หยางหมิงวางสาย แล้วจ้องหน้าจอโทรศัพท์อยู่พักหนึ่ง จากนั้นจึงโทรหาเจียงหยวนอีกครั้งเจียงหยวนรับสายด้วยความประหลาดใจ ไม่นึกว่าหยางหมิงจะโทรกลับมาอีก แต่ที่น่าตกใจกว่าคือ หยางหมิงเสนอให้เธอได้บรรจุเป็นพนักงานประจำทันที แถมยังปรับเงินเดือนเป็นสองแสนห้าหมื่นบาทต่อเดือนในความเป็นจริง ถ้าตัดปัจจัยอื่น ๆ ออกไป งานที่เธอทำตอนนี้ตรงกับสาขาที่เรียนมา แถมตงจิ่นก็เป็นบริษัทที่มีศักยภาพสูงมาก สำหรับเส้นทางอาชีพในอนาคตแล้ว จุดเริ่มต้นแบบนี้ถือว่าสูงมากเลยทีเดียวสำหรับเด็กจบใหม่จากมหาวิทยาลัยชั้นนำ เงินเดือนระดับนี้ถือว่าไม่น้อยเลย เจียงหยวนจึงตอบกลับไปในสายว่า ขอกลับไปคิดดูก่อนพอสวี่ฮุยกลับมาถึงบ้าน เจียงหยวนก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังว่า “พี่ฮุย ถ้าหนูทำงานประจำตอนกลางวัน แล้วรับงานนอกตอนกลางคืน เดือนหนึ่งจะหาเงินได้ครบหนึ่งล้านห้าแสนบาทไหมคะ?”สวี่ฮุยจ้องเธออยู่พักใหญ่ ก่อนจะพูดขึ้น “พี่เข้าใจว่าเธอรีบหาเงินใช้หนี้ แต่ในสายงานนี้น่ะ ถ้าเธอก้าวขาเข้ามาครบสองข้างเมื่อไหร่ วันข้างหน้าจะถอนตัวออก มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย เธอจบจากมหาวิทยาลัยดัง ในเมื่อมีทางเลือกดี ๆ ตั้งเยอะ ก็อย่าไปตัดทางเดินอนาคต

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status