LOGINหลังจากที่วินทัพรู้แล้วว่าดารินทร์เป้นอะไรเขาก็คิดไม่ตกว่าควรจะพูดเรื่องนี้อย่างไรดี ที่รู้แน่ ๆ คือเขาคงปล่อยให้เธอไปไหนมาไหนตามใจตัวเองอีกต่อไปไม่ได้แล้ว เพราะทางฝั่งน้องชายต่างแม่เขาคงระเเคะระคายใจมากอยู่พอสมควรก๊อก ก๊อก“เข้ามา” เขาพูดคำนี้ไม่รู้กี่ครั้งแล้วจริง ๆ ยิ่งเวลาที่ต้องใช้ความคิดแบบนี
บ่ายวันต่อมา ขณะนี้วินทัพกำลังนั่งคุยกับผู้เป็นแม่ด้วยควมเคร่งเครียดเพราะสิ่งที่แม่ของเขามาคุยด้วยนั้นเป็นเรื่องที่เขาไม่อยากได้ยินมากที่สุด“วินทำเพื่อแม่ได้ไหม?” น้ำเสียงของหญิงสูงวัยเอ่ยถามอีกครั้งเมื่อลูกชายเร่ิมมีท่าทีกระอักกระอ่วน“ผมเคยบอกแม่ไปหลายรอบแล้วไง ว่าไม่” เสียงทุ้มหนักตอบกลับผู้เป็น
วันนี้ทั้งวันดารินทร์กับนกทำอะไรด้วยกันหลายอย่างมาก แต่ละอย่างก็ล้วนเป็นเลือกที่เกี่ยวกับเด็กที่เป็นเพียงก้อนเลือดเท่านั้นเอง“วันนี้ไปไหนมาทั้งวัน” วินทัพเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าดารินทร์กลับมาเสียค่ำมืด“ซื้อของกับนกน่ะค่ะ รินแวะกลับคอนโดมาด้วยเอาของไปเก็บน่ะค่ะ…” เรียกว่าซ่อนน่าจะเหมาะกว่า เพราะกลัวเข
มืออันสั่นเทาของดารินทร์สั่นอย่างควบคุมไม่อยู่ เหงื่อเริ่มผุดขึ้นตามไรผม ตอนนี้ร่างบางไม่รู้เลยว่าต้องทำอะไรยังไงต่อไป เพราะมันเป็นสิ่งที่เธอไม่อาจจะควบคุมได้ และไม่ทันคิดว่ามันจะเกิดขึ้น“ถ้าพี่วินรู้…เขาจะทำยังไงนะ” ดารินทร์คิดไม่ตกกับเรื่องนี้ ยอมรับวว่าคิดไว้หลายอย่าง แต่เป็นอย่างเดียวที่ดารินทร
เมื่อรสาถูกพาตัวออกไปวินทัพก็หันกลับมาหาดารินทร์แล้วพาเธอเดินเข้าห้องไป ทิ้งให้ลูกน้องอีกสองคนยืนเฝ้าธามเอาไว้ ธามที่เห็นแบบนั้นก็เค่นหัวเราะออกมา“น่าสนใจดีนี่”เมื่อลากดารินทร์กลับเข้ามาภายในห้อง เขาก็จับข้อมือของเธอขึ้นมาดู ก็พบว่าช้ำจนขึ้นเป็นสีม่วง ๆ รอบข้อมือเลย“เจ็บหรือเปล่า” เขาถามด้วยน้ำเส
หลังจากที่ได้นอนพักไปหลายชั่วโมงดารินทร์ก็ตื่นขึ้นมา พบว่าเป็นช่วงเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว ภายในห้องนอนของเธอถูกปิดมืดสนิท มีเพียงแสงไฟจากด้านนอกของเมืองเท่านั้นที่ส่องเข้ามาภายในความมืดของห้องที่มีเพียงเธออยู่ร่างบางลุกจากเตียงนอนช้า ๆ ก่อนจะเดินออกไปโซนห้องทำงานด้านนอก ก็พบว่าไร้เงาของเจ้าของห้องทำงาน







